ญี่ปุ่น วันที่ 4-5 Raumen Museum
เราออกจากสถานี Kannai โดยรถไฟสาย Yokohama Line มุ่งตรงไปยังสถานี Shin-Yokohama เพื่อไป Food Theme Park อีกที่ นั่นคือ Raumen Museum (ปกติผมจะใช้คำว่า Ramen เรียกบะหมี่แบบ Ramen แต่ที่ Museum เค้าจะใช้คำว่า Raumen แทน)
เริ่มเดินจากที่นี่ไป
นั่งรถไฟชมทัศนียภาพเมือง Yokohama ไม่ไกลเพียง 6 สถานีก็ถึงที่หมายแล้ว ทางเดินไป Raumen Museum อยู่ไม่ไกลจากสถานี Shin-Yokohama เท่าไรนัก พอให้เดินเล่นๆ ไป 3 ช่วงตึก ระหว่างทางจะมีป้ายแผนที่ของเมืองให้เห็นเป็นระยะๆ ไม่ต้องกลัวหลง
รถตำรวจหน้าสถานี
ไป Raumen Museum เลี้ยวตรงนี้แหละ
ตึก Raumen Museum เป็นตึกสีชมพูมีถ้วย Raumen ประดับอยู่หน้าตึกสังเกตได้ง่าย และอาจมีรถบัสคันใหญ่จอดข้างหน้าคล้ายกับมีทัวร์มาลง รายได้ค่าบัตรผ่านประตูจากลูกทัวร์คงจะทำให้ Museum อยู่ไปได้อีกนานไม่หนีหายไปไหนแบบ Curry Museum แน่ๆ เราไม่รอช้ารีบชำระค่าบัตรผ่านประตูคนละ 300 เยนแล้วยื่นให้พนักงานฉีกตั๋วซึ่งแต่งตัวเรียบร้อย พร้อมรอยยิ้มต้อนรับทักทายเหมือนเรากำลังจะเข้าไปดูหนังในโรงหนังชั้นหนึ่งอย่างนั้นแหละ
บรรยากาศชั้นใต้ดินแต่ไม่เหมือนอยู่ใต้ดิน
มีหมอดูแม่นๆ ด้วยนะ
บรรยากาศใน Museum เราเข้าใจว่าเขาตั้งใจพาเราย้อนกลับไปยังญี่ปุ่นยุคที่ Ramen เฟื่องฟูและได้รับความนิยมไปทั่วญี่ปุ่นราวปี ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501) อันเป็นปีที่คิดค้นบะหมีกึ่งสำเร็จรูปสำเร็จด้วย ฉากบนท้องฟ้าและร้านรวงต่างๆ จึงตกแต่งออกแนวหม่นๆ ดูเก่าๆ หน่อย บางทีช่วงนั้นญี่ปุ่นอาจกำลังฟื้นตัวจากการตกเป็นผู้พ่ายแพ้จากสงครามโลกครั้งที่สอง แสงสีหรือความหรูหราต่างๆ จึงยังไม่มีให้เห็นสำหรับที่นี่
ตอนที่เราเข้าไปใน Museum นั้น เวลาประมาณ 4 โมงเย็นกว่าๆ แล้ว ผู้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ซึ่งโดยปกติแล้วทัวร์มักจะพาลูกทัวร์มาลงที่นี่ตอนเที่ยงๆ บ่ายๆ เพื่อเป็นมื้อกลางวัน คนจึงเยอะมากๆ ต้องเข้าคิวกันแถวยาวเหยียดทุกร้านเลย
ทาง Museum ให้ข้อมูลว่าช่วงวันธรรมดาหลังเวลา 15.00 น. จะไม่ค่อยมีคนแล้ว ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะเป็นราวๆ 17.00 น. แทน ถ้า Curry Museum ยังไม่ปิดกิจการเราคงไม่รีบมาที่นี่เร็วขนาดนี้หรอก เพราะเขาปิดถึง 23.00 น.
ตู้กด Ramen
มีร้านรวง และฉากอื่นๆ เสริมบรรยากาศความเก๋าอีกด้วย
เดินชมรอบๆ ก่อนลุยกิน
ร้านขายขนมและของเล่น คล้ายบ้านพิพิธภัณฑ์ของไทย
Model รถต่อ @600Y
ท้องฟ้าชั้นใต้ดิน
Ramen ที่คัดสรรมาแล้วจากทุกภูมิภาคทั่วญี่ปุ่นเปิดขายกันทั้งหมด 8 ร้าน แต่ละร้านมีจุดเด่นจุดขายแตกต่างกันไป หากตัดสินใจไม่ถูกว่าจะกินร้านไหน เมนูอะไรดี เพราะดูน่ากินไปเสียหมด แนะนำให้เลือกเมนูยอดนิยมแบบชามเล็กเพื่อจะได้เก็บท้องไว้ชิมร้านอื่นๆ ต่อ สำหรับเราตัดสินใจเลือกร้านที่ 4 ชื่อร้าน Ryushanhai ที่เลือกร้านนี้เพราะดูจากรูปในโบชัวร์ เห็นว่าน่ากินที่สุด
Karamiso Ramen เมนูเด็ดของร้าน
กับ Raumen ขนาดเล็ก ราคาชามละ 550 เยน รสชาติราเม็งทั้ง 2 เมนูก็ถือว่าสอบผ่าน
เดินออกจากร้าน Ramen มาทางลานโล่งตรงกลางจะมีร้านขายขนม และน้ำต่างๆให้เลือก แต่ดูๆ แล้ว Homerun Bakery ที่ได้รับการแนะนำจาก Museum น่าจะดีเหมือนกัน
น่ากินทั้งนั้น
เราสั่งขนมปัง Fried-dough หน้าน้ำตาล ราคา 150 เยน และนมของ Morinaka ในขวดแก้วน่ารักน่าเก็บมากินคนละขวด ราคาขวดละ 100 เยน
กิน Ramen ต่อไม่ไหวแล้ว เลยหาเรื่องย่อยเข้าร้านเกมส์ (คล้ายๆงานวัด)
คนเฝ้าครับ
เกมส์ยิงปืนชิงของจำพวกตุ๊กตา ขนมต่างๆ ราคา 100 เยน สามารถยิงได้ 3 ลูก
หลังจากเดินสำรวจทุกซอกทุกมุม ก็ได้เวลามาเดินชั้นบนเพื่อดูส่วนที่เป็น Mesuem (ดูก่อนลงไปแล้วนิดหน่อย) และส่วนที่เป็นของฝากกันต่อ ก่อนออกเดินทางต่อไป
ลาก่อน Raumen Museum Food Theme Park สวรรค์ของผู้นิยม Ramen
Create Date : 22 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 22 มิถุนายน 2551 13:59:40 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1183 Pageviews. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:14:51:20 น. |
|
|
|
โดย: fahtsuki วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:21:53:34 น. |
|
|
|
โดย: honeynut วันที่: 26 มิถุนายน 2551 เวลา:18:28:08 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Yokohama
ถิ่นเราเลย อิ ๆ