ญี่ปุ่น วันที่ 4-2 Daibutsu Great Buddha

จากสถานี Hase เดินตามถนนสายเล็กๆ ขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 500 เมตร ก็ถึงทางเข้าไปนมัสการหลวงพ่อ Daibutsu


หลวงพ่อประดิษฐานอยู่ภายในวัด Kotoku-in แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เรียกวัดนี้ว่าวัดหลวงพ่อ Daibutsu หรือ Big Buddha จนจำชื่อวัดจริงๆ ไม่ได้แล้ว ตรงประตูทางเข้ามี Ticket Box ให้เราชำระค่าธรรมเนียมคนละ 200 เยน


เดินพ้นทิวไม้มานิดเดียวเราก็ถึงลานโล่ง มีทางเดินที่มองไปเบื้องหน้าก็พบกับหลวงพ่อ Daibutsu องค์โตประดิษฐานอยู่บนแท่นหิน มีฉากหลังเป็นทิวเขาสีเขียวและท้องฟ้าสีฟ้าครามสดใส มองแล้วให้เกิดความเลื่อมใสและศรัทธายิ่งนัก


หลวงพ่อสร้างจากโลหะสัมฤทธิ์ (ทองแดงผสมดีบุก) ทั้งองค์ เมื่อปี ค.ศ. 1252 (พ.ศ. 1795) มีความสูงประมาณ 11.3 เมตร เป็นพระพุทธรูปกลางแจ้งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น แต่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากองค์พระที่วัด Todaiji เมือง Nara


เดิมทีนั้นท่านประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถเหมือนกับองค์พระที่วัด Todaiji แต่เมื่อราวศตวรรษที่ 15 พระอุโบสถก็ถูก Tsunami กวาดไปจนหมด ท่านจึงประดิษฐานอยู่กลางแจ้งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


เดินวนรอบหลวงพ่อจะพบทางเข้าไปข้างในตัวท่านอยู่ทางด้านขวา เนื่องจากหลวงพ่อมีขนาดใหญ่จึงสามารถเข้าไปข้างในได้ แต่ก่อนเข้าให้ทำบุญคนละ 20 เยน


อากาศข้างในค่อนข้างเย็นกว่าข้างนอก เมื่อสำรวจพื้นผิวของท่านด้านในจะเห็นเป็นแผ่นโลหะที่นำมาต่อกันอย่างชัดเจนเลยทีเดียว เราใช้เวลาต่ออีกนิดในการลองทำสมาธิให้จิตใจสงบ ยุบหนอ...พองหนอ...


เด็กนักเรียนพากันมาเป็นทีม


เราเดินอ้อมไปทางด้านหลังหลวงพ่อ เจอ Kangetsudo Hall หรือศาลาชมจันทร์ที่ได้รับอิทธิพลการก่อสร้างมาจากเกาหลี ส่วนทางด้านซ้ายมีร้านขายของฝากและของที่ระลึกเป็นร้านเดียวที่ขายอยู่ในวัด


ทางด้านหน้านั้นจะมีหินก่อนใหญ่ๆ ตัดด้านบนเป็นแผ่นเรียบ ช่างเป็นที่ที่เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อนและกินอาหารว่างของเราจริงๆ


ขากลับเราแวะไปชมด้านหน้าวัด Hase (Hasedera Temple) ก่อนถึงวัดมีโรงแรมโบราณตั้งอยู่ทางซ้ายมือชื่อTaisenkaku Inn สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1927 (พ.ศ. 2470) ปลายยุค Meiji รูปทรงสวยงามและน่าถ่ายภาพเป็นที่ระลึก


ด้านหน้าวัด Hase มีประตูประดับด้วยโคมสีแดงขนาดค่อนข้างใหญ่เห็นเด่นชัดเลยทีเดียว


วัด Hase เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระโพธิสัตว์กวนอิม (Kannon Goddess) มีรูปแกะสลักพระโพธิสัตว์กวนอิม 11 เศรียรอยู่ภายในด้วย เป็นที่น่าสังเกตว่าวัดที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระโพธิสัตว์กวนอิมที่เราเห็น ทุกวัดจะมีโคมสีแดงประดับที่ประตูทางเข้าเสมอ ค่าธรรมเนียมการเข้าชมก็คนละ 300 เยน


เราเพียงแต่เก็บบรรยากาศเฉพาะด้านหน้าเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปข้างใน เพื่อประหยัดเวลาและทุนทรัพย์ตามแผนที่วางไว้


ก่อนออกจากสถานี Hase โดย Enoden เหมือนกับขามา เราไม่ลืมที่จะแวะเข้าไปดูของฝากกันที่ร้าน 100 เยน โดยเลือกเฉพาะของที่หน้าตาดีและ Made in Japan เอาไว้ก่อน ได้พวกลูกอมและขนมจุกจิกน่ารักมาเพียบ รวมทั้งพริกญี่ปุ่นยี่ห้อ SB ที่เป็นเครื่องเคียงในร้าน Fuji มาหลายขวด ถ้าเป็นบ้านเราก็ขวดละประมาณ 60-70 บาท แต่ที่นี่ราคาแค่ 100 เยน บวก Vat อีก 5% ไม่เกิน 32 บาทเอง


หากมีเวลามากกว่านี้อีกสักหน่อยเราคงไม่พลาดที่จะเดินไปจนถึงทะเลญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเส้นทางรถไฟ Enoden เป็นหาดที่ชื่อว่า Yuigahama เดินจากสถานี Hase ลงไปทางใต้ระยะทางประมาณ 300 เมตร หรือถ้าไม่อยากเดินและมี One Day Pass ก็นั่ง Enoden ต่อไปเรื่อยๆ โดยรถไฟจะพาเลียบทะเลจนถึงสถานี Enoshima ก็ได้เหมือนกัน




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2551
1 comments
Last Update : 16 มิถุนายน 2551 20:10:10 น.
Counter : 1558 Pageviews.

 

ชอบการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ

 

โดย: fahtsuki 19 มิถุนายน 2551 10:16:42 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


benopenair
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดี ยินดีต้อนรับ ทักทายและติดต่อผมได้ที่ e-Mail นะครับ
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
16 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add benopenair's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.