ญี่ปุ่น วันที่ 6-1 Nikko
ตอนอยู่เมืองไทยเราไม่ค่อยสนใจพยากรณ์อากาศเท่าไร ด้วยความที่สภาพภูมิอากาศบ้านเรานั้น รู้ๆ กันอยู่ว่ามีร้อน ร้อนมาก และร้อนที่สุด จะมีหนาวบ้างก็นิดหน่อย หรือจะฝนตกก็ตกไม่นานเป็นวันๆ และก็ตกไม่ทั่วฟ้าด้วย แต่ที่ญี่ปุ่นนี่ผิดกันเลย การท่องที่ยวในเมืองหรือชานเมืองมีความจำเป็นที่จะต้องรู้สภาพอากาศก่อนออกไปข้างนอกเสมอ เรื่องนี้เราได้ผ่านการพิสูจน์ด้วยตนเองแล้วในวันนี้ วันที่เราจะต้องอยู่กับสายฝนไปอีกนาน
โปรแกรมที่วางไว้ว่าวันนี้จะไป Nikko ยังคงต้องเดินหน้าต่อไปแม้ว่าฝนจะตกแค่ไหนก็ตาม
การเดินทางไป Nikko ของเรา เริ่มจากขึ้นรถไฟ Shinkansen สาย Tohoku ขบวน Yamabiko โดยใช้บัตร JR Pass เหมือนเดิม ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ลงที่สถานี Utsunomiya
รถไฟ JR Nikko ประตูต้องใช้มือเลื่อนเปิดเอง แต่ตอนปิดไม่ต้องห่วงจะปิดเองก่อนออกรถ
เราต่อรถไฟของ JR อีกสาย คือสาย JR Nikko เป็น Local Train ที่จะพาเราไปใกล้ Nikko มากที่สุด ด้วยระยะเวลาประมาณ 40 -50 นาที
ข้างใน JR Nikko
หน้าสถานี Nikko
ออกจากสถานี Nikko เราจัดการกับอาหารเช้า ซึ่งมีกาแฟร้อนจากตู้ขายสินค้า และ Sandwich ที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อในสถานี Ueno
ฝนยังคงตกไม่หยุด ไม่เหมือนบ้านเราที่ฝนตกแต่ละครั้งใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็ เราจึงตัดสินใจซื้อร่มจากร้านใกล้ๆ สถานี ในราคา 400 เยน แล้วออกเดินไปตามถนนที่มุ่งหน้าสู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือผ่านสถานีรถไฟ Tobu-Nikko ผู้ให้บริการรถไฟที่มา Nikko อีกราย เดินไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวตัดเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 119 เพื่อไปยังจุดหมายในวันนี้
ท่ารถเมล์ด้านหน้าสถานี Tobu Nikko
การเดินทางใน Nikko มี Tobu Bus เป็นรถเมล์คอยบริการ จากด้านหน้าสถานี Tobu-Nikko ป้ายรถเมล์หมายเลข 1 กับ 2 สามารถโดยสารไปลงที่สะพาน Shinkyo ได้ในราคา 190 เยน
ที่นั่งรอ
ร้านรวงและบ้านเรือนสองข้างทาง
บ้านเรือนทรงกะทัดรัด
ร้าน Ramen พร้อมที่จอดรถด้านหน้า
ศาลานั่งพักริมทาง สำหรับนักเดินทางผู้ชื่นชอบการเดิน
ที่ศาลามีบริการน้ำสะอาดจากธรรมชาติ สามารถดื่มได้ หากจะตุนใส่ขวดเก็บไว้ดื่มก็ดี
ใช้เวลา 20 นาที เดินท่ามกลางสายฝน (หาเรื่องรึเปล่าน้า  )
ชมวิวไปเรื่อยๆ ครับ
กระเช้าโบราณ เอามาทำตู้โทรศัพท์
สะพานไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อว่าสะพาน Shinkyo จากจุดนี้เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเรากำลังจะเข้าสู่เขตสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของ Nikko ที่เป็น World Heritage ข้างหน้า
เดินข้ามได้นะครับ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหน่อย
ตอนหน้าเข้าสู่ส่วนหลัก World Heritage แล้วครับ จริงๆ การเดินทางจากสถานีรถไฟมาที่นี่ หนังสือที่เคยอ่านท่านก็แนะนำให้นั่งรถเมล์จากสถานี Tobu-Nikko มาแล้วนะด้วยความที่เป็นการเดินขึ้นทางลาดด้วย แต่ก็ไม่วายอยากไปสัมผัสอะไรใกล้ๆ ริมทาง ทั้งๆ ที่เปียก อ้อ ถ้ามีท่านใดพอที่จะทราบว่าเราขึ้นรถ Tobu Bus จากสถานี Nikko ไปยัง Nikko เลยได้หรือเปล่า แล้วขึ้นยังไงขอความกรุณา Post ทิ้งไว้หน่อยนะครับ จะเป็นพระคุณและประโยชน์ต่อท่านอื่นที่สนใจมาก ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ พอดีขากลับผมก็เดินลงเขากลับอีกทางซะงั้น
| Create Date : 13 กรกฎาคม 2551 |
| Last Update : 13 กรกฎาคม 2551 11:38:11 น. |
|
3 comments
|
| Counter : 1034 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: t_karnya (t_karnya  ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:28:34 น. |
|
|
|
| โดย: benopenair วันที่: 16 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:03:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
| 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
| 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
| 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
| 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
)
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
ที่เคยปฏิบัติ ดิฉันจะรอรถบัสที่หน้าสถานีJR Nikkoเสมอ เคยไปรอที่หน้าสถานีTobuแค่ครั้งเดียวตอนนั้นอยู่หลายวันจึงไปซื้อตั๋วที่ใช้ได้2วัน
ถ้าจะขึ้นไปเที่ยวน้ำตกและทะเลสาบจะขึ้นรถที่เขียนด้านหน้าว่าYumoto onsen
หากจะไปแค่Toshogu Shrine หรือ กลุ่มWorld heritageไปคันไหนก็ได้ ลงที่ป้าย NishiSando 230เยน