ญี่ปุ่น วันที่ 2-4 Fushimi Inari
เมื่อกินเสร็จเรียบร้อยเราก็พากันออกมาด้านบนสถานีเพื่อหาทางไปศาลเจ้า Fushimi Inari กันต่อ การเดินทางไปยังศาลเจ้าสามารถไปได้โดยรถไฟ JR และรถบัส Kyoto City Bus สาย 5 ใต้พิเศษ (มีตัวคันจิเขียนติดกับเลข 5) รถเมล์สายนี้แหละที่เราวางแผนจะนั่งไปยังที่หมายกัน เพราะติดใจการนั่งรถเมล์มากกว่ารถไฟ
ด้านหน้า Kyoto Station เราเห็นวิว Kyoto Tower เป็นวิวธรรมดาไปหน่อย หาวิวสวยๆ ถ่ายกันให้ได้นะครับ จริงๆ มันต้องมีวิวที่ดีกว่าอยู่อีกเยอะแน่ๆ
และเจ้าหนู Atom มาเป็น Presenter ให้กับ Kyoto International Manga Museum ซึ่งเป็นที่เที่ยวปิดท้ายในวันนี้ของเราด้วย
เราพากันไปยืนรอรถสาย 5 กันนานมากประมาณครึ่งชั่วโมงเกือบบ่ายสามแล้วก็ยังไม่มีวี่แวว สุดท้ายจึงตัดสินใจไปขึ้นรถไฟ JR แทนดีกว่า แต่การหารถไฟ JR ไปศาลเจ้าโดยที่ไม่เตรียมตัวมาก่อนในเวลาที่เร่งรีบแบบนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนักสำหรับเราแน่นอน
หาไปหามาสุดท้ายเราก็พบรถไฟสายที่จะไปถึงศาลเจ้า Fushimi Inari คือสาย Nara จึงรีบ Speed ไปขึ้นให้ทันเพราะกลัวว่ารถจะไปซะก่อน ไปถึงเห็นรถขบวนนึงกำลังจะออกคิดว่าใช่ขบวนนี้แน่จึงรีบกระโดดขึ้นทันที
เจ้าขบวนนี้พาเราผ่านสถานี Tofukuji ตามที่ปรากฏในแผนที่จริงๆ สถานีหน้าก็คือสถานี Inari ที่จะลงแล้ว แต่เอ... เหมือนกับมันวิ่งผ่านสถานี Inari ของเราไปแล้วหยั่งงั้นแหละ หรือว่ามีสถานีอื่นที่ไม่มีในแผนที่อีกถ้างั้นเมื่อไรจะถึงซักทีน้าแบบนี้มีหวังขึ้นผิดขบวนแน่นอน จนรถมาหยุดที่สถานีอะไรก็ไม่รู้พอคิดว่าผิดแน่ๆ เราจึงกระโดดลงไปก่อนเพื่อตั้งตัวกันใหม่อีกที คราวนี้กลายเป็นการหารถไฟย้อนกลับไปทางเดิมแทน
เอ... หากท่านใดทราบว่าทำไมเรารถสาย 5 ใต้พิเศษจึงหาไม่เจอโปรดชี้แนะด้วยนะครับ
เมื่อกี๊เกือบจะนั่งรถไฟหลุดไปถึง Nara แล้ว คราวนี้เราตั้งหลักกันใหม่จึงต้องดูตาม้าตาเรือกันดีๆ หน่อย ประสบการณ์การขึ้นรถไฟแบบไม่วางแผนและไม่เตรียมตัวมาในครั้งนี้ คงได้แต่บอกตัวเองว่าจะทำให้เราจดจำประเภทของรถไฟที่วิ่งและมีความเข้าใจต่อการขึ้นรถให้ถูกขบวนถูกชานชลามากยิ่งขึ้น ส่วนเจ้าขบวนที่เราขึ้นมานั้นเป็นแบบ Rapid Train คือรถด่วนที่จะจอดบางสถานีเท่านั้นสังเกตจากที่นั่งส่วนใหญ่จะเรียงเป็นแถวเหมือนรถบัสบ้านเรา คือจะเน้นให้คนนั่งมากกว่ายืน ส่วนรถไฟที่เราต้องการในตอนนี้จริงๆ ต้องเป็นรถไฟแบบ Local Train หรือแบบหวานเย็นแวะทุกป้าย ส่วนใหญ่จะมีที่นั่งแบบหันหน้าเข้าหากันเหมือนรถสองแถวหรือรถไฟฟ้าบ้านเรา เพราะเน้นให้ผู้โดยสารยืนมากกว่านั่งในระยะทางใกล้ๆ จะได้บรรทุกได้หลายๆ คน
เจ้าหวานเย็นที่เรารอหน้าตาแบบนี้
เมื่อเดินออกมาจากสถานี Inari ก็พบกับทางเข้าศาลเจ้าอยู่ฝั่งตรงข้ามเลยทันที โอ้... รู้อย่างนี้นั่งรถไฟมานานแล้วล่ะ
การเข้าชมศาลเจ้า Fushimi Inari ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ ข้างในเราพบคนที่มาเที่ยวไม่ค่อยจะมีเหลือแล้วคงเพราะความมืดเป็นเหตุ
ศาลเจ้า Fushimi Inari เป็นศาลเจ้าของลัทธิชินโต สร้างขึ้นเพื่อบูชาท่าน Inari เทพเจ้าแห่งข้าว จุดเด่นของที่นี่คือเสา Torii เรียงรายกันเป็นแนวยาวแถมยังมีหลายเส้นทางด้วย จำนวนของ Torii นั้นรวมกันไม่น้อยกว่า 40,000 ต้นเลยทีเดียว นอกจาก Torii ที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่แล้ว ยังมีรูปปั้นของสุนัขจิ้งจอกที่เค้าเปรียบเสมือนผู้นำสารของท่าน Inari ซึ่งจะคอยเฝ้าอยู่ทุกทางเข้า Torii ด้วย
Torii และสุนัขจิ้งจอกตรงทางเข้า
Torii มากกว่า 40,000 ต้น รอให้เราวิ่งไปสุดปลายทาง เพื่อขอพรให้สมหวัง แบบใน The Memory of Geisha
เจ้าตัวนี้คงเป็นลูกหลานของสุนัขจิ้งจอก
เดินตาม Torii ไปเรื่อยๆ จะมีจุดให้เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นระยะ
เริ่มจะมืดมากแล้ว
แวะถ่ายรูปป้ายรถไฟที่สถานี JR Kyoto หน่อย ถ้าเราดูป้ายดีๆ ว่าขบวนที่จะไปคืออะไร และอยู่ราง/ชานชลา ไหนก็คงขึ้นไม่ผิดแล้ว
นี่ Local Train (เห็นหันหน้าเข้าหากันเป็นข้อสังเกตที่หนึ่ง)
เดี๋ยวไปเที่ยว Kyoto Internation Manga Museum กันต่อครับ
Create Date : 24 พฤษภาคม 2551 |
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 21:26:56 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1107 Pageviews. |
|
|
|
โดย: hiroko วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:59:05 น. |
|
|
|
โดย: mook (haiti ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:2:52:28 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|