"I hope we're all ready to leave the phenomenal world, and enter into the sublime?" - The Secret History
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
9 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
The Strain: ปฐมบทไตรภาคสงครามแวมไพร์จากผู้สร้าง Pan’s Labyrinth




The Strain by Guillermo Del Toro and Chuck Hogan (2009)



นี่ก็เป็นหนังสืออีกเล่มที่ชื่อผู้แต่งขึ้นหน้าปกหราตัวใหญ่บิ๊กเบิ้มกว่าไตเติ้ลเรื่อง ดิชั้นตาซ้ายกระตุกยิบๆว่าคนที่นั่งหน้าจอพิมพ์เรื่องออกมาน่าจะเป็นคุณคนเขียนอีกคนมากกว่าเพราะคุณ Guillermo Del Toro ผู้กำกับ Pan’s Labyrinth ที่กำลังฮ็อทอยู่อย่างนี้คงไม่มีเวลามานั่งเขียนหนังสือให้จบเรื่อง (เลือดสาดจันทร์สยองเป็นพรายกระซิบมาว่าตอนนี้กำลังทำโปรเจ็ค the Hobbitอยู่ อป.ว่าจะไปออดิชั่น หน้าตาไม่รู้ แต่ส่วนสูงชั้นได้)







รูปคุณปลาโทโร่



ขอสารภาพว่านี่เป็น Fetish ของอิชั้นเค่อะ ไม่ได้ชอบเอาแส้ฟาดใคร แต่ชอบอ่านหนังสือแนวโลกแตกเป็นที่สุด หุๆ เลยถือโอกาสปล่อยของ (เดี๋ยวจะทยอยมาเรื่อยๆ ที่ปล่อยไปแล้วก็มี The Road)


เรียกน้ำย่อยด้วยการเอาคำวิจารณ์ (ไม่รู้แต่ละท่านฮั้วกันรึเปล่า)มาแปะ


“The first in a trilogy that soars with spellbinding intrigue. Truly an unforgettable tale you can’t put down once you read the first page. I can’t wait until the next one” Clive Cussler


“Blood and apocalypse mix in a terrifying story that feels like it was ripped from today’s headlines. Vividly wrought and relentlessly paced” James Rollins


“The Strain is Bram Stoker meets Stephen King meets Michael Crichton. It just doesn’t get much better than this” Nelson DeMille ... หง่ะ จัดมาเป็นค็อกเทลสยองขวัญเลยเหรอคะ








แต่แค่อ่านบทเริ่มเรื่องก็ได้กลิ่นอายบรรยากาศแบบ Pan’s Labyrinth โชยมาแต่ไกล อารมณ์สยองขวัญแบบ surreal ย้อนอดีต



“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว” ยายของ Abraham Setrakian เล่าเรื่อง “มียักษ์อยู่ตนหนึ่ง”

หนูน้อยอับบราฮัมนั่งฟังตาโตพร้อมกับกินซุปผักที่อยู่ตรงหน้า เขาเป็นเด็กชายผอมซูบและหญิงชราก็พยายามจะทำให้เขาเจริญอาหารด้วยการเล่านิทาน


“ยักษ์ตนนี้เป็นลูกชายของคหบดีชาวโปแลนด์ เขาชื่อว่ายูเซฟ ซาร์ดู ท่านซาร์ดูมีร่างกายสูงใหญ่กว่าทุกคน สูงกว่าหลังคากระท่อมในหมู่บ้าน เขาต้องค้อมตัวลงเมื่อจะเดินผ่านประตู... แต่ความสูงของซาร์ดูก็เป็นคำสาป เขาเป็นโรคนี้มาตั้งแต่เกิด กล้ามเนื้อของเขาไม่สามารถรับน้ำหนักของกระดูกบนร่างสูงใหญ่นั้นได้ ซาร์ดูต้องใช้ไม้เท้าช่วยในการเดิน ไม้เท้าของเขาสูงกว่าเจ้าเสียอีก...เป็นไม้เท้าที่มีหัวจับด้ามเงินรูปหัวหมาป่าซึ่งเป็นตราประจำตระกูล”


“พ่อของซาร์ดูเชี่อว่าการได้กินเนื้อหมาป่าจะทำให้ซาร์ดูแข็งแรงขึ้นและหายจากโรค วันหนึ่งเมื่อเขาอายุสิบห้าปีพ่อและบรรดาญาติของเขาก็พาซาร์ดูออกไปล่าหมาป่า... แต่เมื่อคณะของเขาอยู่ในป่าลึก พ่อของท่านซาร์ดูก็พลัดหลงไปคนเดียวในตอนค่ำ ทุกคนรอเขาทั้งคืนแต่ก็เขาก็ไม่กลับมา วันรุ่งขึ้นคณะนายพรานจึงออกตามหา...ในคืนต่อมานั้นเอง ญาติอีกคนของซาร์ดูก็หายตัวไป”

“ในที่สุดคนสุดท้ายในคณะที่เหลืออยู่ก็คือยูเซฟ ซาร์ดู เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นเขาก็เริ่มออกเดินทางตามหาครอบครัว และในกลางป่านั้นซาร์ดูก็พบซากศพของพ่อ ลุง และญาติอยู่หน้าปากถ้ำมืดที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน... ทุกศพถูกทุบกะโหลกแต่ยังไม่มีร่องรอยถูกสัตว์ป่ากัดกิน ซาร์ดูฟังศพครอบครัวของเขาและในตอนกลางคืนเขาก็ตัดสินใจเข้าไปในถ้ำ...”


หนูน้อยอับบราฮัมอ้าปากค้าง “แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นครับยาย”


“ไม่มีใครรู้ เขาหายตัวไป ผู้คนในหมู่บ้านออกตามหาแต่ก็ไม่มีใครพบท่านซาร์ดู... แต่อีกสิบเอ็ดสัปดาห์หลังจากนั้น รถม้าคันใหญ่ที่ปิดม่านทึบก็แล่นเข้ามาในหมู่บ้าน ซาร์ดูกลับมาแล้ว และขังตัวเองอยู่ในปราสาท ไม่มีใครเห็นเขาออกมาอีกเลย”


“...มีข่าวลือว่าเขาหายจากโรคร้ายแล้ว และยังได้พลังลึกลับกลับมาอีกด้วย... ซาร์ดูไล่คนรับใช้ออกเกือบหมด ปราสาทของเขาทรุดโทรมลงเรื่อยๆ... แต่ในตอนกลางคืนชาวบ้าน โดยเฉพาะเด็กๆจะเล่าถึงเสียงประหลาดดัง ตุบ..ตุบ..ตุบ.. ของไม้เท้าผ่านหน้าต่างบ้าน และแล้วเด็กๆในหมู่บ้านก็เริ่มหายตัวไปทีละคน ทีละคน...”


หญิงชราเห็นว่าเด็กชายกินซุปหมดถ้วยแล้ว

“กินข้าวเยอะๆจะได้แข็งแรงนะ...ไม่งั้นซาร์ดูจะมาเอาตัวเจ้าไป”

ไม่นานหลังจากนั้นครอบครัวของอับบราฮัมก็ต้องหนีออกจากหมู่บ้านให้พ้นจากกองทัพนาซี








เรื่องย่อจากปกหลัง


เครื่องบินโบอิ้ง 777 ลงจอดที่สนามบินเจเอฟเคและกำลังตรงไปยังที่จอดแต่แล้วเครื่องบินทั้งลำก็หยุดนิ่งอยู่กลางรันเวย์ หน้าต่างทุกบานปิดอยู่และไฟก็ดับทั้งเครื่อง ไม่มีสัญญาณการติดต่อใดๆออกมาสู่หอบังคับการภายนอก


Dr.Eph Goodweather หัวหน้าทีมต่อต้านก่อการร้ายทางชีวภาพได้ถูกเรียกตัวมายังสนามบินและสิ่งที่เขาพบบนเครื่องลำนั้นก็น่ากลัวเกินคำบรรยาย


ในร้านรับจำนำเล็กๆในสแปนิชฮาร์เล็ม นิวยอร์ก อดีตศาสตราจารย์และผู้รอดชีวิตจากค่ายนาซี Abraham Setrakian รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น...เขารู้ว่าเวลานั้นได้มาถึงแล้ว และสงครามกำลังจะเริ่ม









ขอแนะนำเรื่องนี้สำหรับคอหนังสือแอ็คชั่นไซไฟค่ะ ตอนแรกๆอ่านไปอาจจะรู้สึกช้าบ้างด้วยการปูพื้นเรื่อง (ก็มีตั้งสามภาคเนอะ) แต่ช่วงหลังๆนี่บู๊ล้างผลาญ ตอนสยองก็แทบจะอ่านข้ามหน้าไปซะเหมือนกดฟอร์เวิร์ดแผ่นหนัง


ที่ชอบมากๆคือการที่ผู้เขียนเอาแนวแวมไพร์มาทำใหม่ ปู้ยี่ปู้ยำเอ็ดเวิร์ดคัลเลนซะจนออกมาเป็นแบบนี้...ไม่สปอยล์ค่ะ ใครอยากรู้ว่ามอนสเตอร์ในเรื่องนี้เป็นยังไงต้องอ่านเอง ติดต่อหยิบยืมจากอป.ได้ ผ่านไม้หนึ่งมาแล้วจากมิ้กกี้น้องชายที่พึ่งคืนมาด้วยสภาพตาโหลอดนอน


จะว่าไปแล้วคุณ Nelson Demille (ไม่เคยอ่านหนังสือเค้าอ่ะ แต่เคยดูหนัง The general’s daughter) บรรยายได้ใจมากเพราะเรื่องนี้เหมือนเอาสามนักเขียนที่ว่ามารวมกันจริงๆ แอบกระซิบว่าจะหนักไปทางคนหลังสุดหน่อย แต่ถ้าจะให้มีข้อติก็อาจจะเป็นตรงที่มีตัวละครเยอะแยะยุ่บยั่บไปหน่อยอาจจะมีการงงบ้างและเนื้อเรื่องไม่ปะติดปะต่อกัน ส่วนคนที่ชอบฮาร์ดคอร์ไซไฟแบบต้องมีวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนทุกพล็อตก็...แหะๆ ข้ามเรื่องนี้ไปเถอะค่ะ


ต้องรออีกหนึ่งปีจะได้อ่านเล่มต่อ อป.ก็นับวันรอไป


ปล. หลายวันมาแล้วโทรคุยกับมิ้กกี้ตอนเครียดๆ ก่อนวางสายมิ้กกี้บอกว่า “กินข้าวเยอะๆนะ เดี๋ยวซาร์ดูมาหา” <3 เป็นพี่น้องที่รักกันแบบจิตจริงๆ



อปอช.แคสติ้ง (ฮู้ยย ไม่ต้องแคสต์ก็ได้ คิดว่าเดี๋ยวก็คงทำหนังหรือมินิซีรี่ยส์ออกมาแหงมๆ)





Dr. Eph Goodweather – Gerald Butler สปาร์ตัน vs. แวมไพร์





Abraham Setrakian - Ian McKellen อ่านไปก็นึกหน้าคนนี้ขึ้นมาตลอด




Create Date : 09 กันยายน 2552
Last Update : 9 กันยายน 2552 15:32:27 น. 23 comments
Counter : 3871 Pageviews.

 
กรี๊ดดดดด อป อัพ
แก้วก็ชอบอ่านแนวนี้ล่ะค่ะ อป
จริงๆเป็นคนจิตหลุดง่ายมากเลยนะ แต่นั่นแหละคือความสะใจของเราฮะฮ่า
เล่มนี้น่าอ่านอีกล่ะ โฮย หาเวลาเดินซื้อหนังสือจะไม่มีแหล่ว
รอกลับไทยก่อนนะ จะกว้านให้หมดแผง
(ว่าไปนั่นเว่อตลอด)
ว่าแล้วก็น่าเอา Pan มาดูอีกรอบ ฮุฮุ


โดย: เด็กชายหัวตะปู วันที่: 9 กันยายน 2552 เวลา:15:55:52 น.  

 
กรี๊ดดดดดดดดด

Ian McKellen ลุคนี้ ละลายหัวใจโอจิ๊คอนมากๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 121.4.64.220 วันที่: 9 กันยายน 2552 เวลา:15:57:45 น.  

 
แก้ว- เดี๋ยวเขินเลยเรียกชื่อเฉยๆค่ะ (แต่เดาว่าต้องเป็น"น้องแก้ว"แน่เลย ก็เราอายุปูนนี้แล้ว อิๆ) มันมีตอนต้องหนี ต้องซ่อนด้วยนะคะเรื่องนี้ แบบว่าลุ้นระทึกมากก
เขาวงกตแพน...เราขอดูรอบเดียวพอ อะฮึกๆๆ สะอื้น

หมีหมี - อ๊ายย เค้าเป็นโชตะค่อนอ่ะ ไม่เอาโอจิ แต่จิกตาได้ละลายใจจริงนะรูปนี้


โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 9 กันยายน 2552 เวลา:17:01:40 น.  

 
ว้าวว รีวิว The Strain ถ้าขอพรแล้วสมหวังแบบนี้ก็ดีสิ

"Bram Stoker meets Stephen King meets Michael Crichton" อืมม จริงๆแล้วเราไม่เคยอ่านหนังสือของทั้งสามท่านเลย *slap slap* (เสียงโดนอป.ตบ 55+) แต่ถ้าให้พูดในแง่มุมหนังแล้ว ถือว่ามันเป็นส่วนผสมของ genre หนังที่เท่มากเลยนะ

อ่านที่อป.แปลมาแล้วรู้สึกแปลกดีแฮ่ะ เรื่องเล่าดูเป็นนิทานแฟนตาซี แต่พอมาถึง "หนีออกจากหมู่บ้านให้พ้นจากกองทัพนาซี" อ้าว นี้มันนิยาย holocaust รึเปล่า พอมาถึงเรื่องย่อปกหลัง เอ๊ะ หรือว่าเป็นนิยาย apocalypse กันหว่า... สรุปแล้วเราต้องลองพิสูจน์เองใช่ไหมเนี่ยย ><

ส่วนเรื่องแคสติ้ง ของอป.นี้เหมาะเหม็งที่สุดแล้วนะ โดยเฉพาะลุง McKellen แต่อยากให้ Dr. Eph รับบทโดย โรเบิร์ต แพททินสัน โทษฐานที่อป.พาดพิงให้ร้ายถึง เอ็ดเวิร์ด 555+


RPattz & his glorious hairdo


โดย: BloodyMonday วันที่: 9 กันยายน 2552 เวลา:17:05:44 น.  

 
^
^ กร๊าก ทำร้ายจิตใจสาวๆ สงสัยหนุ่มข้างบนอิจฉา 55

ได้ข่าวแว่วๆ จากสำนักข่าวทวิตเตอร์ว่าอู้งานมาอัพบล็อกแล้ว เลยวิ่งมาดู

อัพยาวจุใจจริงๆ

พออ่านแล้วก็คิดตาม เรามี Fetish ประจำตัวบ้างหรือเปล่าหว่า ??????


โดย: grappa IP: 58.9.200.227 วันที่: 9 กันยายน 2552 เวลา:17:18:31 น.  

 
โอ๊สท์! Pan’s Labyrinth ทำเอาเราบ้าคุณปลาโทโร่ไปเลยง่ะ (คิดชื่อได้ไงฟระ )

ตอนนี้กำลังนับนิ้วถอยหลังรอดู The Hobbit ฝีมือคุณปลาต่อด้วยใจระทึกตึ้กๆ อิอิ

=)


โดย: hunjang วันที่: 9 กันยายน 2552 เวลา:20:58:18 น.  

 
เราว่าฉากดำโถส้วมใน trainspotting ดูเท่ดีออก 55+ ส่วนของ dreamcatcher นี้ขอแปะมือนะ คือแบบว่า.... หยึ๋ย นึกแล้วไม่อยากนั่งห้องน้ำนานๆเลย

พูดถึงฉากส้วมแล้ว อป.คงไม่ลืมฉากจากหนังเรื่องนี้... ทั้งเหม็น ทั้งฮา ทั้งซึ้ง ทั้งน่ารัก ทั้งประทับใจ



โดย: BloodyMonday วันที่: 9 กันยายน 2552 เวลา:22:47:17 น.  

 
พี่แป๊ด- อัพยาวจะได้ดองอีกค่ะ อิๆ

hunhun- อาจจะได้เห็นอป.เป็นตัวประกอบฮอบบิทเดินผ่านกล้องก็ได้น้า

บดมด.- เป็น action/apocalypseล่ะมั้ง ยังไม่แน่ ต้องรออ่านภาคต่อ


โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 10 กันยายน 2552 เวลา:8:50:41 น.  

 
คงมีหลายคนในแก๊งค์ที่สามารถไปแคสบทฮอบบิทได้...ถ้าเขาเอาแต่ความสูงอะนะ


อ่านที่ยกมาแล้วน่าอ่านฟร่ะ เอาไว้ไปบอกใครๆ บ้างดีกว่า "กินข้าวเยอะๆ ไม่งั้นเดี๋ยวซาดูร์มาหา"


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 กันยายน 2552 เวลา:8:59:28 น.  

 
++ “The Strain is Bram Stoker meets Stephen King meets Michael Crichton. It just doesn’t get much better than this” Nelson DeMille

^
^
เป็นส่วนผสมที่ดึงดูดใจมาก กระตุ้นต่อยอยากอ่านขึ้นมาติดหมัด

++ “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว” ยายของ Abraham Setrakian เล่าเรื่อง “มียักษ์อยู่ตนหนึ่ง”

หนูน้อยอับบราฮัมนั่งฟังตาโตพร้อมกับกินซุปผักที่อยู่ตรงหน้า เขาเป็นเด็กชายผอมซูบและหญิงชราก็พยายามจะทำให้เขาเจริญอาหารด้วยการเล่านิทาน

^
^
นิทานเรื่องนี้ช่วยให้เด็กน้อยเจริญอาหารได้ด้วยเหรอเนี่ย?

++ ในร้านรับจำนำเล็กๆในสแปนิชฮาร์เล็ม นิวยอร์ก อดีตศาสตราจารย์และผู้รอดชีวิตจากค่ายนาซี Abraham Setrakian รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น...เขารู้ว่าเวลานั้นได้มาถึงแล้ว และสงครามกำลังจะเริ่ม

^
^
อ่านถึงตอนนี้แล้ว หน้า Ian McKellen ลอยขึ้นมาในทันใด ถ้าให้ชาวหนอนโหวต คาดว่าท่านเซอร์คงชนะขาดลอย

ปล. พี่อยากไปเพ่นพ่านที่ญี่ปุ่นสักอาทิตย์นึงอ่ะ อป. ไปด้วยกันนะ


โดย: ThE BooK@HoLiC วันที่: 10 กันยายน 2552 เวลา:9:53:23 น.  

 
พี่อยากกินอาหารเช้าได้เยอะๆ เหมือนกันง่ะแอ๊ปเปิ้ล

แต่ตั้งแต่แก่ตัวลงนี่ กินได้น้อยลงเยอะเลย


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 กันยายน 2552 เวลา:10:16:17 น.  

 
เออ อ่านแล้วได้กลิ่น Pan จริงๆด้วยแฮะ แต่เรื่องย่อหลังปกนี่วางปมได้น่าสนใจดีนะครับ

อยากยืมอ่านต่อเหมือนกัน แต่ แหะๆ กว่าจะแปลได้จนจบ มีหวังคิวต่อไปรอเหงือกบาน


โดย: แฟนผมฯ IP: 142.103.23.32, 202.134.119.218 วันที่: 10 กันยายน 2552 เวลา:12:41:20 น.  

 
+ กี๊ซซซซซ พี่ชอบ Pan's สุดๆ ไปเลยอ่ะจ้า มันช่างหม่นเศร้า ทะมึนได้ใจมั๊กมากกกก

+ โอววว อ่านเรื่องย่อที่ให้มาแล้วก็น่าติดตามต่อเหลือหลาย อยากหามาอ่านโดยพลันเลยอ่ะจ้า


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 10 กันยายน 2552 เวลา:16:30:39 น.  

 
เราดูไอ้แมลงวันแล้วเศร้าอ่ะ สงสารด๊อกเตอร์ โดยเฉพาะฉากหยิบปืนลูกซองนางเอกมาจ่อหัวตัวเอง โอ้... T-T

ปล. ตอนนี้อยากดู 5 แพร่งจัง (อป.ดูยัง ^^) แต่ก็อยากดู Gamer แอนด์ District 9 ด้วย (เลือกไม่ถูก -,.-)


โดย: เลือดสาดจันทร์สยิว เอ้ย สยอง IP: 124.120.87.90 วันที่: 10 กันยายน 2552 เวลา:17:05:54 น.  

 
แค่รีวิวเล็กๆ ก็ทำให้รุ้เลยว่าเล่มนี้เป็นส่วนผสม
หลากเรื่องหลายสไตล์จริงๆค่ะ มีหมดเลยทั้งแฟนตาซี
ไซไฟ .. แถมยังมีขำขันตลกอีกด้วย
แต่เอ มันเป็นสำนวนเขียนของ อปอช.หนินา ...


โดย: JewNid วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:7:03:35 น.  

 

น่าอ่านอย่างแรง แต่มันยังไม่มีไซส์เล็กนี่ ไม่เป็นไร รอให้ออกมาครบชุดก็ได้ ตอนนี้อะไรๆ ก็รอได้ทั้งนั้นแหละ เพราะติดลี้คิมฮวงอย่างหนัก

ซาร์ดู .. คือซีอุยกินตับเด็กรึป่าว ตอนเด็กๆ เวลาซนมาก จะโดนขู่ว่าซีอุยจะมาจับไป -*-


โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:15:57:13 น.  

 
"Michael Jackson's This Is It" will not only feature incredible music, stunning dancing and all types of pyro and special effects, it will also take a look behind the curtain at what drove Michael and get to the center of what drove him to put these concerts together. The film's release is bittersweet, as it serves as a reminder that one of the world's greatest talents is no longer with us.

Michael Jackson's This Is It


only a month + away, can't wait for it ! (hope u'll be around @ that time )


โดย: BloodyMonday วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:15:10:34 น.  

 
ชวนไปเข้า dark mode เวอร์ชั่นเฮียทิม เบอร์ตัน


โดย: ThE BooK@HoLiC วันที่: 15 กันยายน 2552 เวลา:10:57:16 น.  

 
คนสวยเริ่มดองบล็อกอีกแย้ววววว


โดย: grappa วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:8:28:22 น.  

 
ขอก๊อปปี้พี่ grappa


โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:22:02:52 น.  

 
อัพบล็อกๆๆๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:19:16:00 น.  

 
taksin เอ้ย apple, where are you?

The latest Zomcom (new genre!) flick "Zombieland" has gain a lot of buzz this week, so i think it might be actually good (please let it as awesome as Shuan of the Dead...)




โดย: BloodyMonday วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:19:21:30 น.  

 

รีเควส อัพบลอกคราวหน้า ขอรูปของกินต่างแดน (ไม่ค่อยตะกละเลย)

เมื่อคืนวาน จะดู Let the right on in แต่วินาทีสุดท้ายหยิบ Flashdance มาเปิดดู หนังไม่มีไรเลยอ่ะ ทำไมตะก่อนชอบจังหว่า ขอดอง Letฯ ต่อไปนะจ๊ะ ^^"


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:10:19:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

apple_cinnamon
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




forbidden fruit...




สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539
ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด


my love...
PhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucket


LATEST BLOG
Quarter Share: กะลาสีอวกาศ






is reading:
Photobucket
Friends' blogs
[Add apple_cinnamon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.