|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
Yoosu Fiction[Good Morning Sweet] Part 3
Titile: ~~Good Morning Sweet~~ Part 3 Author: Angel Midori Genre: Romantic Comedy Rating: PG-13 Pairing: YooSu Note : แน่นอนค่ะ ว่านี่เป็น TVXQ Fiction และแน่นอนค่ะว่ามันเป็นแนว Yaio เผื่อใครเผลอกดมาเจอได้ ตั้งรับทันค่ะ
******************
นายนั่นลากผมมายังรถเล็กซัสสีดำคันโต ที่เคยเป็นพาหนะไปส่งผมเมื่อวาน ผมไม่นึกว่าแค่วันเดียวผมต้องกลับมานั่งไอ้รถบ้าคันนี้อีกแล้ว ทั้งๆที่ ปฎิญาณไว้ว่าจะไม่มีทางมาข้องเกี่ยวกันอีก
ตอนนี้ใจผมสั่นมากๆ ทั้งความโมโห และความกลัวมันผสมรวมกันอย่างกับใครจับโยนลงใส่เครื่องปั่น พอเจ้านั่นจับผมยัดลงไปที่นั่งข้างคนขับได้ เค้าก็รีบพาตัวเองมานั่งที่นั่งด้านคนขับทันที
“เราจะไปกินอะไรดี”เจ้านั่นหันมาถามผมหน้าเป็น อย่างไม่ดูสถานการณ์
“เอาคลิปนั่นมา”ผมตวาดดังลั่น อยากจะกระโดดไปขย่ำให้อีกฝ่ายตายไปต่อหน้าต่อตา
“คลิปอะไร”
“ก็คลิปที่นายบอกเมื่อกี้ไง ทำไมนายถึงได้เลวแบบนี้ ฉันไปทำอะไรให้นาย นายถึงได้ทำแบบนี้กับฉัน นายถ่ายคลิปนั่นไว้ทำไม นายจะแบล็คเมล์ฉันเหรอ”ผมดึงคอเสื้อเจ้านั่นอย่างแรง พร้อมตวาดสุดเสียง เจ้านั่นรีบเอามือตัวเองมาจับมือผมออกจากคอเสื้อ แต่ผมก็ไม่ยอมง่าย ๆ ทั้งดึงทั้งเขย่าจนหัวเจ้านั่นคลอนไปมา จนดูน่าปวดหัวแทน
“จุนซู ฟังผมก่อน”
“ไม่ฟัง เอาคลิปนั่นมาเดี๋ยวนี้”
“อ๊อกกก ผมหายใจไม่ออก แล้วถ้าคุณไม่ปล่อยผม ผมจะเอาคลิปให้คุณได้ยังไง”นายนั่นพูดจาตะกุกตะกัก หน้าแดงแปร๊ด พอผมนึกได้ว่าเดี๋ยวมันตาย แล้วผมจะลำบาก ผมเลยปล่อยเจ้านั่น
“คลิป???”ผมแบมือไปข้างหน้า ระหว่างที่เจ้านั่นกำลังนั่งไออยู่
“ไม่มีคลิปอะไรทั้งนั้น”
“แล้วเมื่อกี้ที่นายขู่ฉัน”
“ผมแค่ล้อคุณเล่น ก็ถ้าไม่ขู่แบบนี้คุณก็ไม่ออกมากับผมนะซิ”ผมฟังแล้วจ้องมองเจ้านั่นตาแทบถล่น ให้ตายเหอะ มันคิดได้ไงกันครับ ที่เอาวิธีนี้มาขู่ผมเพียงเพื่อจะให้ได้ไปกินข้าวด้วย มันไม่รู้หรือไงว่านี่มันเรื่องใหญ่ เมื่อกี้ผมเครียดจนแทบบ้า ถ้าคลิปนั่นหลุดมาจริงๆ ผมจะทำยังไง ทั้งที่บ้านและที่อ๊อฟฟิตก็รู้หมดซิว่าผมมีอะไรกับเจ้านี่แล้ว และก็ต้องรู้ว่าผมเป็นเกย์ ผมอุตสาห์ปิดมาตลอด ทั้งที่บ้านแล้วอ๊อฟฟิต มีแค่เพื่อนสนิทไม่กี่คนที่รู้ ที่อ๊อฟฟิตก็มีแค่สองสาวนั่น แม้กระทั่งพี่ยุนโฮกับชางมินก็ยังไม่รู้
“ทำไมนายถึงทำแบบนี้”ผมอยากจะง้างหมัดชกปากสักที แต่ด้วยสภาพที่ไม่อำนวย ด้วยสถานที่แคบ แล้วเจ้านั่นมันลูบหลังลูบไหล่ผมอยู่ ผมจึงทำได้แต่ง้างหมัดทุบลงบนไหล่เจ้านั่นซะเต็มแรง
“โอ้ย!!! ขอโทษ ๆ ๆ ผมไม่ตั้งใจแกล้งคุณ แล้วอย่าร้องไห้ซิ”เจ้านั่นพยายามรวบมือผม แล้วเอามืออีกข้างมาเช็ดน้ำตาให้ อ้าว..นี่ผมร้องไห้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คงตั้งแต่ได้ยินว่าเป็นเรื่องล้อเล่นนั่นล่ะมั่ง
“ไม่ต้องมายุ่งเลย นายมันใจร้าย ฮึก ... นายไม่รู้หรอกเมื่อกี้ฉันเครียดแค่ไหน เมื่อกี้ฉันแทบบ้าเลยด้วยซ้ำ” ปาร์คยูชอนทำหน้าเหมือนสำนึกผิด แล้วเค้าก็เอื้อมไปหยิบกล่องกระดาษทิชชู่จากเบาะด้านหลังมายื่นให้ผม ผมจึงดึงกระดาษนั่นมาเช็ดน้ำตา เจ้านั่นมันคงทนมองผมที่ทั้งขยี้ตา ขยี้จมูก พูดไปร้องไห้ไปไม่ไหว
“ผมขอโทษจริงๆ จุนซู ผมแค่จะขู่คุณเล่นๆ แค่นั้นเอง ผมไม่รู้มันจะทำให้คุณไม่สบายใจขนาดนี้”
“เลว นิสัยไม่ดี ใจร้าย”ผมตะโกนด่าเท่าที่ผมจะนึกจะด่าได้ แล้วหันไปนั่งกอดเข่าร้องไห้เอาหัวซบหน้าต่างไว้ คิมจุนซูโหมดอ่อนแอ เข้าสิงร่างผมอีกแล้วซิเนี่ย
“ไม่เอาน่าอย่าร้องไห้ มันไม่มีอะไรแล้ว เดี๋ยวผมแก้ตัวโดยพาไปเลี้ยงข้าวนะ”เจ้านั่นโน้มตัวเองมาดึงผมให้นั่งตรง ๆ แล้วก็จับเซฟตี้เบลท์มาคาดตัวผมไว้ ก่อนจะหันไปสตารท์รถ
และกว่าผมจะนึกได้ว่านี่มันก็เข้าแผนของปาร์คยูชอน ที่พยายามลากผมไปทานอาหารกลางวันด้วย รถนั่นก็พาผมออกมาจากบริษัทแล้ว
‘พระเจ้า นี่ผมหลงกลเจ้าบ้านี่อีกแล้วซิเนี่ย’
“จะพาฉันไปไหนเนี่ย”ผมถามปาร์คยูชอนเสียงดัง หลังจากที่นั่งเงียบประท้วงอยู่นาน ก็จะไม่ให้ผมถามได้ไง เจ้านี่เล่นขับรถออกมาร่วมครึ่งชั่วโมงยังไม่ถึงร้านอาหารเลย นี่จะพาผมไปปู้ยี่ปู้ยำที่ไหนอีกหรือเปล่าเนี่ย
“มีร้านอาหารอร่อยอยากพาคุณไปทาน อีกไม่ไกลหรอก”
“แล้วจะพามากินทำไมไกลๆ กินใกล้ๆ ก็ได้”หงุดหงิดครับหงุดหงิด นายนี่ทำอะไรผมก็หงุดหงิดไปหมด
“ไกลๆ แหละดีแล้ว ก็คุณดูจะไม่อยากให้ใครที่บริษัทรู้เรื่องของเราสองคนนิ ผมเลยคิดว่าพาคุณมาทานไกลๆ หน่อยดีกว่า คุณจะได้สบายใจ”เจ้านั่นทอดน้ำเสียงอ่อนโยน แล้วหันมายิ้มอบอุ่นใส่ผม ก่อนจะหันกลับไปมองทาง
‘อย่ามาทำเป็นอ่อนโยนเข้าอกเข้าใจฉันหน่อยเลย ฉันไม่หลงกลนายหรอก’ผมบ่นในใจแล้วรีบหันหน้าหนีสายตาเจ้านั่น ตอนนี้ผมรู้สึกหน้าร้อนๆ ยังไงไม่รู้ซิ
นายนั่นเลี้ยวรถเข้าไปในร้านอาหารเล็ก ๆ ร้านนึง พอจอดรถปุ๊บ ผมก็รีบกระวีกระวาดออกมาจากรถทันที ก็ผมทั้งหิว ทั้งรำคาญนายนั่นนิน่า พอลงรถมา แล้วมองไปรอบๆ ร้าน ก็เห็นว่าร้านนี้บรรยากาศดีชะมัด เป็นร้านเล็ก ๆ ที่เน้นตกแต่งด้วยกระจกใส ทำให้ดูสบายตา มีโต๊ะอาหารสีขาวอยู่ไม่ถึงสิบโต๊ะ ด้านนอกร้านจัดเป็นสวนเล็ก ๆ มีโต๊ะอาหารตั้งอยู่สองสามโต๊ะด้านนอก ผมจึงเลือกจะรีบพาตัวเองไปนั่งเก้าอี้ข้างๆ ต้นสนเล็กๆ ต้นหนึ่ง ผมชอบบรรยากาศธรรมชาติ ๆ มากกว่าไปนั่งในห้องแอร์ แล้วอากาศในช่วงต้น มิ.ย.ก็ไม่ได้ร้อนเกินไปที่จะออกไปนั่งชมบรรยากาศด้านนอก ผมหยิบเมนูที่บริกรหญิงยื่นมาให้ผมออกอ่าน จึงรู้ว่าร้านอาหารนี่เป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยน
“จุนซู คุณจะทานอะไร”ปาร์คยูชอน ส่งเสียงทุ้มๆ ของเค้ามาถามผม ผมเงยหน้ามองนิดนึง นิดเดียวจริงๆ แล้วก็ก้มไปอ่านเมนูต่อ
“เฟตตูชินี่ คาร์โบนาร่าครับ”ผมหันไปสั่งรายการอาหารกับบริกรสาว เจ้านั่นก็เซ้าซี้ถามผมว่าจะเอาอะไรเพิ่มอีกไหม แต่ผมต้องใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ทำให้เหมือนเจ้านั่นเป็นอากาศธาตุไปซะ พอไม่ได้ปฏิกริยาโต้ตอบอะไรจากผม เจ้านั่นก็หันไปสั่งอาหารอีกสองสามอย่าง หนึ่งในนั้นเป็นเมนูที่ผมโปรดซะด้วย อ๊า...ดีใจจังนึกว่าจะไม่ได้กินซะแล้ว ก็ผมไม่อยากสั่งเองนิน่า เดี๋ยวเจ้านั่นจะได้ใจคิดว่าผมถูกใจที่พามาทานอาหารร้านนี้
“นี่คุณไม่คิดจะคุยอะไรกับผมหน่อยเหรอ”
เงียบเป็นคำตอบเดียวที่ผมให้คืนกลับไป........
“โอเคๆ นี่คุณคงยังไม่หายโกรธผม จะให้ผมทำยังไงคุณถึงจะหายโกรธครับ”
“ไม่ต้องมายุ่งกับผมอีกแล้วไง ง่ายจะตาย”
“ใครว่าง่ายนั่นยากเลยต่างหากล่ะ คิมจุนซู”เจ้านั่นยิ้มมุมปาก ท่าทางชวนให้ต่อยแรง ๆ สักที มันจะยากตรงไหนที่เค้าจะไม่ยุ่งกับผม ในเมื่อ ๆ ก่อนเค้าไม่เคยเห็นจะมาสนใจผมเลย ชริ อืม...ผมไม่ได้น้อยอกน้อยใจหรอกนะที่เมื่อก่อนผมไม่ถูกสนใจน่ะ ผมแค่อ้างถึงเฉยๆ จริงๆ นะ
“มันจะยากตรงไหนกัน เมื่อก่อนเราไม่รู้จักกัน ต่อไปก็ไม่รู้จักกันเหมือนเดิมแค่นั้น”
“ต่อไปเราไม่รู้จักกันไม่ได้หรอก เพราะต่อไปเราต้องทำงานด้วยกัน”
“ห๊า......งานอะไรที่นายต้องทำกับฉัน”ผมล่ะงงเลยล่ะ ก็เราทำงานกันคนล่ะส่วน คนล่ะหน้าที่มันจะไปเกี่ยวกันได้ยังไง
“ก็งานล็อบบี้ โรงแรมชอนกุกที่คุณรับผิดชอบอยู่ตอนนี้ไง”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายล่ะ งานที่ฉันทำอยู่น่ะ”
“นาย ๆ ๆ คุณทำไมเรียกผมแบบนี้ล่ะจุนซู คุณควรเรียกผมให้สุภาพกว่านี้นะ” เอาอีกแล้วครับเริ่มบ้าอำนาจ เจ้ายศเจ้าอย่างอีกแล้วนายนี่ นี่จะให้ผมเรียกว่าว่าท่านเลยไหมล่ะ
“โอเค ๆ ตกลงแล้วงานผมไปเกี่ยวอะไรกับคุณครับ ท่านรองปาร์คยูชอน”
“คุณรับผิดชอบดูแลเรื่องออกแบบสวน ในส่วนเอาท์ดอร์ของล็อบบี้โรงแรมอยู่ใช่ไหม”
“อือ”จะถามทำไมทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วกันฟระ
“ส่วนด้านในล็อบบี้ผมจะรับผิดชอบตกแต่งเอง ฉะนั้นต่อไปงานคุณกับผมเราจะต้องประสานงานกัน รูปแบบการตกแต่งจะได้สอดคล้องกัน”
“เฮ้ย!!! แล้วคุณคิมชอนฮีล่ะ”
“ผมให้คุณชอนฮีไปดูแลห้องจัดเลี้ยงและห้องดีลุกซ์แล้ว”
“แล้วภัตตาคารที่นายรับผิดชอบอยู่ล่ะ ใครทำแทน”ผมตาลีตาเหลือกถามนายนั่น เพราะนอกจากที่ต้องผจญกรรมทำงานด้วย ผมยังกลัวว่างานเดิมของผมมีหวังอาจต้องรื้อใหม่ได้ง่ายๆ เลย
“ผมก็ทำด้วย แล้วก็ออกแบบล็อบบี้ด้วย”นายนั่นนั่งไขว้ห้าง ยิ้มตอบผมสบายๆ ในขณะที่ผมน่ะร้อนเป็นไฟแล้ว
“ผมกับคุณชอนฮีตกลงกันไว้แล้วว่าผมจะออกแบบสวนของล็อบบี้ เป็นแบบสวนสเปน เพราะคุณชอนฮีจะตกแต่งด้านในเป็นแบบ นีโอคลาสสิค ผมคิดว่ามันพอจะเข้ากันได้”ผมรีบอธิบายงานของผมให้เจ้านั่นเข้าใจ เพราะผมไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไรอยู่ ผมอยากให้เค้ารู้ว่างานของผมตอนนี้มันไปถึงไหนแล้ว และเค้าไม่ควรจะเปลี่ยนแปลงงานของผม
“อืมม แต่ผมคิดว่าคุณอาจต้องแก้งานใหม่ เพราะผมคิดว่าผมจะเปลี่ยนแบบด้านในให้เป็นสไตล์บาโรค”
โอ้แม่เจ้าช็อกครับช็อกจาก นีโอคลาสสิค เรียบหรู กลายมาเป็นบาโรคอลังการงานสร้างมันก็ไม่เข้ากับสวนของผมนะซิ แต่เดิมผมอยากให้สวนของผมออกแนว สงบ เรียบง่าย มีต้นไม้ครื้มหน่อยๆ ถ้าเปลี่ยนเป็นบาโรคผมก็ต้องแก้ใหม่แน่นอน นายนี่แกล้งผมชัด ๆ
“ทำไมนายคิดจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนแบบนี้ ทำไมไม่ถามความคิดเห็นคนอื่น แล้วนายถามทางเจ้าของโรงแรมแล้วเหรอว่าเค้าพอใจไหม”ผมเสียงดัง และตอนนี้ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะพุ่งข้ามโต๊ะไปบีบคอขาวๆ ของเจ้านั่นให้ตายคามือผมไปเลย
“คิมจุนซู งานนี้ผมมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงนะ คุณลืมไปหรือเปล่าว่าโปรเจคนี้ผมเป็นคนควบคุมงานตกแต่งทั้งหมด”เจ้านั่นพูดนิ่งๆ แล้วนั่นก็ทำให้ผมแทบทรุด ผมลืมไปซะสนิทว่างานนี้นายนี่เค้าร่างโปรเจคเสนองานจนชนะการประมูลมาได้ แล้วเค้าก็เลยเป็นหัวหน้าทีมตกแต่งทั้งหมด ชนิดเรียกได้ว่า เค้ามีอำจาจตัดสินใจทุกอย่างแทนหัวหน้าเค้าแล้วหัวหน้าผมเลยล่ะ เฮ้อ...เศร้าเลยครับผม แล้วผมจะทำอะไรได้ล่ะ ผมได้แต่นั่งทำหน้าหงิกดูดน้ำกีวีรับชะตาชีวิต จนอาหารมาเสริฟ ผมก็ก้มหน้าก้มตากินไป ในใจก็สาบแช่งคนที่นั่งตรงข้าม และโชคชะตาไป นาน ๆ ผมจะได้งานใหญ่ งานลุยเดี่ยว ดันมาเจอตอซะนี่
“ช่วงนี้ผมอยากให้คุณลองหา reference งานมาศึกษาก่อน แล้วค่อยร่างแบบมาเสนอผมสักอาทิตย์หน้า”นายนั่นเอาเรื่องงานมาคุยเวลากินข้าวอีกแล้วเสียมารยาทจริงๆ ให้ตายเหอะ
“ผมออกแบบน้ำพุเอาไว้แล้ว”ผมยังเสียดายบ่อน้ำพุสเปนิชของผมอยู่นิหน่า กว่าผมจะนั่งออกแบบจนเสร็จมันใช้เวลานะ
“มันใช้ไม่ได้แล้ว บ่อน้ำพุของคุณน่ะ คุณต้องออกแบบใหม่ ผมอยากได้นำพุเดี่ยวๆ อันใหญ่ ๆ กลางสวน ถ้าเป็นสวนเล็ก ๆ เพื่อใช้เป็นที่นั่งพักผ่อนคงจะออกแบบให้เป็นสวนสไตล์บาโรคเลยไม่ได้ คุณต้องดัดแปลงเอง แต่ผมอยากได้น้ำพุที่ดูมีสถาปัตยกรรมบาโรคผสมอยู่”ครับเจ้านั่นพูดยังกับผมเป็นแบร์นินี่กลับชาติมาเกิดไปได้ นี่คิมจุนซูนะครับ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า
“ผมทำไม่ได้หรอก”งอนครับงอน ผมคิดว่าเวลานี้ผมมีสิทธิงอนได้นะ เจ้านั้นหยุดตัดเส้นสปาเก็ตตี้มามองหน้าผมเลยล่ะ
“ทำไมทำไม่ได้”
“คุณ ผมเรียนจัดสวนมาก็จริง แต่ออกแบบปั้นน้ำพุเป็นช่างสมัยเรเนซองเองไม่ได้หรอกนะ ไอ้น้ำพุแบบเดิมของผมมันแค่เป็นบ่อน้ำพุธรรมดา ๆ”
“ผมไม่ได้ให้คุณมานั่งปั้นน้ำพุนิครับคุณคิมจุนซู คุณแค่ไปหาแบบมา แล้วก็หาช่างทำเอาซิ ถ้าคุณหาไม่ได้ผมมีแบบอยู่เยอะแยะคุณจะเอาไปดูก็ได้นะ”เจ้านั่นส่ายหัวเซ็ง ๆ กับผม นี่คิดว่าผมโง่หรือเปล่าเนี่ย ผมไม่ได้โง่นะ ผมแค่อยากกวนประสาทกลับแค่นั้นเอง
“ผมก็มีไม่ต้องยืมคุณหรอก”ไม่ง้อ แล้วเชิดหน้าใส่ครับ
“ถ้าอย่างนั้นผมของานวันศุกร์นี้”เฮ้ย!! เมื่อกี้ยังอาทิตย์หน้าอยู่เลย นี่ชั่วแล้วไหมล่ะครับไอ้คุณทั่นรองจะเอางานวันศุกร์นี้
“เมื่อกี้บอกอาทิตย์หน้า”
“ดูคุณเก่ง สี่วันก็คงเสร็จ”เจ้านั่นพูดไม่พูดเปล่ายังทำหน้ายั่วยวนกวนประสาทผมอีกตะหาก
นี่ที่เค้าย้ายมานี่เพื่อจะมากวนประสาทผมชัดๆ เลยนิ แล้วนายนี่ลืมไปหรือเปล่าว่าเค้าพยายามจีบผมอยู่น่ะ…..
|
|
Create Date : 27 ตุลาคม 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 19 มกราคม 2553 15:01:31 น. |
Counter : 658 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Love_Xiah_N IP: 118.173.102.150 20 ธันวาคม 2552 21:00:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: chebi IP: 124.120.122.239 22 กรกฎาคม 2553 9:40:11 น. |
|
|
|
|
|
|
|
น้องจุนก็กวน ปาร์คก็กวน แต่ได้ร่วมงานกันแล้ว
คงหาโอกาสทำสวีทกันได้น๊า