|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Yoosu Fiction[Good Morning Sweet] Part 13
แอบมาลงซะเช้ามืด หึหึ ตอนแรกว่าจะลงตั้งแต่ก่อนเที่ยงคืน แต่มัวดู we got married แอนดี้ กับ โซลบิอยู่ จนเกือบเช้า 5555
ตอนนี้เป็นตอนที่ยาวมากค่ะ คิดว่าจะตัดแบ่งออกเป็นสองตอน แต่ก็คิดว่าช่างเหอะ ลงไปยาวๆ แบบนี้ถือว่าฉลองปีใหม่ เพราะไม่แน่ใจว่าตอนหน้าจะได้ลงอีกก่อนหรือหลังปีใหม่....
แล้วอ่านตอนนี้แล้วก็อยากถามว่า "หวานพอไหมคะ?"
Titile: ~~Good Morning Sweet~~ Part 13
จุนซูช่วยผมจับตรงนั้นหน่อยคุณยูชอนชี้นิ้วไปตรงมุมแผงรั่วไม้ไผ่ที่เราจะเอามาสร้างฉากให้กับสวน พอผมจับมุมแผงไม้ได้ คุณยูชอนก็ลงมือตอกยึดรั่วไม้นั่น
ผมพยายามบอกคุณยูชอนแล้วว่างานพวกนี้ผมทำเองได้ จ้างผมมาแล้วผมก็ต้องทำ แต่คุณ ยูชอนก็ไม่ยอมตั้งแต่เช้าหน้าที่ออกแรงไม่ว่าอะไรคุณยูชอนก็แย่งผมไปทำจนหมด เข้าใจครับว่ากำลังอยากจะโชว์แมน แต่กับผมเนี่ยไม่ต้องก็ได้ มันเขิน ๆ ยังไงไม่รู้
เหลืออะไรที่ต้องทำอีกจุนซูคุณยูชอนยืนเอาแขนเสื้อปาดเช็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่ไรผม หลังจากที่ตอกแผ่นไม้เสร็จแล้ว ทั้งๆ ที่อากาศเย็นขนาดนี้งานที่ทำก็ยังเรียกเอาเหงื่อออกมาได้
วันนี้เราสองคนช่วยกันจัดวางปูพื้นด้วยหินกระเบื้อง และทำฉาก ทำมาตั้งแต่ช่วงบ่าย ๆ จนตอนนี้พระอาทิตย์กำลังโบกมือลาเราแล้ว ผมมองสำรวจพลางนึกว่ายังเหลืออะไรที่เราจะต้องสะสางอีก แต่ก็คิดแล้วว่าคงไม่มี ผมเลยส่ายหน้าตอบคุณยูชอนไป
ไว้อาทิตย์หน้าเราค่อยมาลงต้นไม้แล้วกันฮะคุณยูชอนก็พยักหน้าตอบรับ ก่อนจะหันไปเก็บเครื่องมือต่างๆ ที่เอามาทำฉาก ส่วนผมก็ไปจัดการเก็บกวาดทำความสะอาดพวกเศษหินที่เลอะ ๆ อยู่ ระหว่างที่ผมเดินกลับเข้ามาเพื่อเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดก็เหลือบมองไปที่ตู้ใส ๆ ที่วางไว้ไม่ไกลจากประตูกระจกใสที่กั้นระหว่างระเบียงกับตัวห้องรับแขก
ตู้ใส ๆ ตอนนี้มีปลาตัวน้อยสี่ตัวว่ายอยู่ ปลาการ์ตูนสีส้มสลับขาวกำลังว่ายวนกันอยู่ดูน่ารักมาก ๆ เลยครับ ผมกับคุณยูชอนไปซื้อเจ้าสี่ตัวกันมาเมื่อเช้าพร้อมทั้งตู้ปลาและอุปกรณ์ ช่วยจัดช่วยทำกันก่อนจะเริ่มงานจัดสวน วันนี้เล่นเอาหมดแรงกันเลยทีเดียว แต่พอได้มองแบบนี้มันก็เรียกความสดชื่นได้มากโข
เบียร์ไหมจุนซูคุณยูชอนตะโกนข้ามมาจากมุมเคาท์เตอร์ผมพยักหน้ารับ แล้วก็เอานิ้วของผมจิ้มล่อให้เจ้าปลาตัวน้อยสนใจ แล้วมันก็ได้ผม เจ้าปลาตัวน้อยพวกนั้นว่ายหลบเวลาผมเอานิ้วเคาะผ่านกระจกใส ๆ นั่น ผมหัวเราะสนุกทุกครั้งที่เห็นพวกมันทำหน้าตาตื่นและว่ายหลบเวลาผมเคาะกระจกตู้ปลา
แกล้งปลาทำไมจุนซู
อุ๋ยคุณยูชอนเอากระป๋องเบียร์เย็นๆ นาบแก้มผม เล่นเอาผมสะดุ้ง อากาศมันเย็นอยู่แล้วยังเล่นแบบนี้อีก
ไม่ได้แกล้งสักหน่อย ผมแค่เล่นกับมัน
ทำเป็นเด็กไปได้ ไปล้างมือก่อนไป แล้วค่อยกลับมาดื่มเจ้านี่คุณยูชอนยกกระป๋องเบียร์ ขึ้นเหนือหัวก่อนแกล้งทำสีหน้าดุ ๆ เห็นแล้วหมั่นไส้ผมเลยแกล้งเอามือเปื้อนๆ ของผมทำเป็นจะลูบที่แก้มคุณยูชอน คุณยูชอนหลบแทบไม่ทันเลยครับ ผมหัวเราะลั่นแล้วก็รีบชิ่งหนีไปล้างมือที่ห้องน้ำ
เด็กจริงๆคุณยูชอนตะโกนไล่หลังผมมา ผมก็ยิ่งหัวเราะเข้าไปใหญ่
เด็กก็ดีกว่าแก่ตั้งแต่อายุไม่สามสิบแบบคุณยูชอนนะฮะคุณยูชอนส่ายหัวดิกเลย เมื่อผมโต้ตอบไป ผมก็แซวไปอย่างนั้นแหละครับ คุณยูชอนยังดูดีจะตายไม่ได้แก่เกินวัยสักนิด โดยเฉพาะถ้าเทียบกับพี่ยุนโฮ ที่พักนี้ชอบทำหน้าหมีหงุดหงิดกลับบ้านเกือบทุกวัน
พอผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นคุณยูชอนนั่งยืดขาสบายๆ อยู่ที่พื้นห้องใกล้ ๆระเบียงหน้าตู้ปลาใบใหม่ ผมเดินลงไปนั่งข้างๆ คุณยูชอนก็ยื่นกระป๋องเบียร์มาให้ผม
เหนื่อยไหม
นิดหน่อยฮะ แต่คุณยูชอนน่าจะเหนื่อยกว่า แย่งงานผมไปทำซะเกือบหมด
ไม่หรอก ได้ออกกำลัง เหงื่อออก สดชื่นดี
คุณยูชอนว่ามันดีไหมฮะผมพยักเพยิดออกไปที่ระเบียง ที่ตอนนี้มีหน้าตาดูเป็นสวนไปแล้วกว่า 40 เปอร์เซ็นต์
ดีซิ มันเป็นฝีมือจุนซูกับผมนิ ยังไงมันก็ต้องดูดี
ไม่เอาซิฮะ ผมอยากรู้จริงๆ ว่า มันโอเคหรือเปล่าผมหันทำหน้าดุใส่คุณยูชอนที่ยังยิ้มกว้างเหมือนล้อผมอยู่
โอเคมากๆ ถ้ามันไม่โอเคผมไม่ให้คุณผ่านตั้งแต่แบบแล้วน่าจุนซูพอได้ยินคำตอบผมก็ยิ้มกว้าง ก็ผมอยากได้คำติชมจริงๆ จัง ๆ มากกว่าคำชมเพื่อเอาใจกัน เวลาได้คำชมที่จริงใจ มันรู้สึกเหมือนได้รับของขวัญกล่องใหญ่ๆ เลยนิครับ
เออจุนซู อาทิตย์หน้าผมต้องไปญี่ปุ่นนะ
ไปเมื่อไหร่ฮะ
วันอังคารนี้ผมไม่รู้ว่าตอนนี้สีหน้าที่ผมมองคุณยูชอนมันเป็นยังไง แต่มองจากสีหน้าคุณยูชอนแล้วดูคุณยูชอนยิ้มแบบหน้าเสีย ๆ ก่อนจะยื่นมือขึ้นมาลูบข้างแก้มผมเบาๆ
งอนหรือเปล่าเนี่ย ที่ผมเพิ่งบอกใครจะไปงอนกันเล่า คุณยูชอนคิดมากไปหรือเปล่า ผมแค่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยแค่นั้นเอง ว่าทำไม เพิ่งบอกนี่มันวันอาทิตย์แล้วนะครับ
จะไปงอนทำไมกัน แล้วนี่จะกลับเมื่อไหร่ครับ
วันอาทิตย์หน้า
ห๊า วันอาทิตย์เลยเหรอครับคราวนี้ไม่ต้องสังเกตจากสีหน้าคุณยูชอน ผมก็รู้ครับว่าผมทำสีหน้ายังไง จะไม่ให้ผมประหลาดใจได้ยังไงกันครับ ก็ถ้าคุณยูชอนไม่อยู่ร่วมอาทิตย์แบบนี้ เจ้าปลาน้อยสี่ตัวนั่น แล้วแถมต้นไม้ที่ผมจะต้องลงในอาทิตย์หน้าจะทำยังไง
อืมอาทิตย์หน้า ไฟลท์ค่ำ ๆ
คุณยูชอนน่าจะบอกผมก่อน ผมจะได้ไม่รีบชวนคุณยูชอนไปซื้อเจ้าสี่ตัวนั่น แล้วยังงี้จะทำยังไงล่ะครับ
ผมเพิ่งรู้ว่าจะต้องไปเมื่อคืนนี้เอง บอสโทรมาบอกให้ผมไปแทนท่าน ส่วนเจ้าสี่ตัวนั่นผมคงต้องพึ่งจุนซูล่ะพอคุณยูชอนพูดจบ ก็หยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาแล้วหยิบเจ้าการ์ดหน้าตาแปลก ๆ ยื่นมาให้ผม
คีย์การ์ดที่ห้องนี้ ผมให้จุนซูเก็บไว้ จะเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ รหัสมันคือ 1512ผมมองเจ้าคีย์การ์ดใบนั้นสลับกับมองหน้าคุณยูชอน ผมรู้สึกหวิวแปลก ๆ พอได้ยินคุณยูชอนอนุญาตให้ผมเข้ามาที่นี้เมื่อไหร่ก็ได้ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกครับ แต่ผมรู้สึกดีใจมากๆ ไอ้การที่เราจะให้ใครสักคนเข้ามาวุ่นวายกับสถานที่พิเศษของเรา แปลว่าเค้าคนนั้นเป็นคนสำคัญมากๆ ใช่ไหมครับ
มัวแต่ยิ้มอยู่นั่นแหละ จำได้ไหมรหัสอะไรคราวนี้ผมเอ๋อเลยครับ พูดตามตรง ผมมัวแต่ดีใจ ปนเขินตอนที่คุณยูชอนยื่นเจ้านี่ให้จนลืมฟังว่ามันมีรหัสด้วย ผมเลยส่ายหัวเป็นคำตอบให้ไป
1512 น่ะทำไมเลขคุ้นจังครับ
รหัสของมันคือวันเกิดจุนซูน่านว่าแล้วไหมครับว่าทำไมมันคุ้นๆ แต่เอ๊ะทำไมคุณยูชอนตั้งรหัสคีย์การ์ดด้วยเลขนี้กันล่ะ
โอ้ย!!!!! นี่ผมเขินจะบ้าอยู่แล้วนะครับเนี่ย
เลขนี่เพิ่งเปลี่ยนก่อนที่จะเอาคีย์การ์ดมาให้ผมใช่ไหมล่ะ คิดว่าผมขี้ลืมหรือยังไง
เปล่าสักหน่อย ผมใช้รหัสนี้มาตั้งนานแล้วผมยู่ปากใส่คนปากหวานด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปแอบยิ้มคนเดียว จะทำเพราะเอาใจหรืออะไรก็ช่างมันเหอะครับ แค่ตอนนี้ผมรับรู้แล้วมีความสุขก็พอแล้ว
ผมไปญี่ปุ่นอยากได้อะไรเป็นของฝากไหมคุณยูชอนถามผม แล้วก็หยิบเบียร์ขึ้นมาจิบ ผมพยายามนึกว่าผมอยากได้อะไร แต่ก็นึกไม่ออกครับ
ไม่เอาดีกว่า ตอนนี้ไม่อยากได้อะไร
ถ้าผมเจออะไรน่าสนใจผมจะซื้อมาฝากแล้วกันผมพยักหน้าหงึกหงักรับแล้วก็หยิบเบียร์ขึ้นมาจิบบ้าง ดีนะครับที่อากาศตอนนี้เย็น ขนาดนั่งคุยกันตั้งนานเบียร์ยังเย็นฉ่ำอยู่เลย
อยากกลับบ้านหรือยังคุณยูชอนหันมาถามผมเบา ๆ ผมส่ายศีรษะตอบ ถึงตอนนี้จะมืดมากแล้ว อาหารก็ยังไม่ตกถึงท้องเราสองคน แต่ผมไม่อยากลุกออกไปจากตรงนี้จริงๆ ครับ แค่ได้นั่งข้างๆ กัน พูดคุยกันเรื่องทั่วๆ ไป มันก็ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมากแล้ว
งั้นอยู่เป็นเพื่อนผมก่อนนะคุณยูชอนเอียงหน้ามากระซิบข้างหูผม ก่อนจะดึงหัวกลมๆ ของผมไปวางที่บ่าคุณยูชอน กลิ่นหอมๆ ของน้ำหอมแบบผู้ชายของคุณยูชอนมันทำให้ผมอดสูดลมหายใจเพื่อสัมผัสกลิ่นไม่ได้ แล้วคุณยูชอนเอื้อมมือมาวางบนไหล่ผมแล้วบีบเบา ๆ
............อยู่อย่างนี้ก็อุ่นดีนะครับ
.......................................................................................
วันอาทิตย์ที่แสนวุ่นวายของผมเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้า ผมต้องวิ่งวุ่นไปจัดการเรื่องต้นไม้ ทั้งๆ ที่คิดว่าจะจัดการตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะติดสัญญาที่ให้ไว้กับคุณแม่ที่จะพาท่านไปซื้อของ กว่าจะจัดการให้คนขนต้นไม้และอุปกรณ์ส่วนที่เหลือทั้งหมดขึ้นมาได้ ก็เรียกเหงื่อไม่น้อย พอผมให้อาหารเจ้าตัวเล็กสี่ตัวนั่นแล้ว ผมก็มานั่งจัดการจัดสวนที่ยังค้างๆ ต่อ ดีนะเนี่ยที่ต้นไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้กระถางถ้าต้องลงดินด้วยผมคงตายแน่ๆ
จัดโน่นยกนี่เปลี่ยนนั้น สารพัดอย่างมารู้สึกตัวอีกทีก็รู้สึกว่าอากาศที่หนาวอยู่แล้วมันยิ่งหนาวเข้าไปอีก ผมโกรธคุณยูชอนนิด ๆ ที่คิดริจะมาจัดสวนในหน้าหนาวที่อากาศหนาวเหน็บขนาดนี้ การนั่งที่ริมระเบียงหลายๆ ชั่วโมงแบบนี้ มันทรมานไม่ใช่เล่นเลยนะครับ ผมลุกขึ้นมายืนมองไปรอบ ๆ ไซท์งานขนาดเล็ก ๆ ของผม ก็อดยิ้มปลื้มใจกับตัวเองไม่ได้ ก็นี่มันจะเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วนิหน่า คุณยูชอนกลับมาคงตกใจแน่ๆ
ผมเหลือบมองนาฬิกาโลหะเรือนใหญ่รูปร่างแปลกตาที่แขวนอยู่ในห้องรับแขกมันก็บอกเวลาว่า 5 โมงเย็นเข้าไปแล้ว คุณยูชอนจะกลับไฟลท์ ราว ๆ 3 ทุ่มซินะ ผมควรจะรอหรือจะกลับเลยดีนะ
โอ้ย!!!ระหว่างที่ผมกำลังคิดเพลินๆ อยู่นะซิไอ้เท้าเจ้ากรรมดันเดินไปสะดุดกองถุงใส่อุปกรณ์ปลูกต้นไม้ สะดุดไม่สะดุดเปล่าเพราะตอนนี้ผมลงไปคว่ำอยู่กับเศษกองหินกองดินเสียแล้ว
เลอะหมดเลยอะผมปัดเศษดินที่ติดตามขากางเกงยีนส์สีเข้มของผม และไล่ปัดมาที่บริเวณอกเสื้อกันหนาวลูกฟูกสีน้ำเงินที่ตอนนี้เลอะไม่แพ้กับกางเกง จากเดิมที่เลอะอยู่แล้วจากตอนทำงาน ตอนนี้เลอะเป็นรอยซะยังกับผมลงไปนอนเล่นดินเล่นทรายยังไงยังงั้น
สงสัยต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วล่ะ กลับแบบนี้ไม่ได้แน่ว่าแล้วผมก็รีบเก็บกวาดทำความสะอาดบริเวณไซท์งานส่วนตัวผมให้เรียบร้อย แล้วหมายมั่นจะอาบน้ำอุ่นๆ ให้สบายตัว
เฮ้ยแล้วเราจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนใส่เล่าผมบ่นอุบเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่า ผมไม่ได้หิ้วเสื้อผ้าติดมาด้วย ซึ่งปรกติผมก็ไม่คิดจะหิ้วมาอยู่แล้วล่ะ
เอาไงดีว๊า
เออ ยืมของคุณยูชอนก่อนก็ได้มั่งผมมานึกได้ว่าคราวที่มีเรื่องกัน ตอนนั้นผมก็ใส่ชุดคุณยูชอนกลับ จนป่านนี้ยังไม่คืนเลย คราวนี้จะยืมอีกทีคงไม่เป็นไรมั่ง เจอกันคราวหน้าได้คืนไปทั้งสองชุดเลย เหอะ ๆ คิดแล้วก็เขินครับ
คุณยูชอนไม่ได้ปิดล็อกห้องนอนส่วนตัว ผมจึงเปิดเข้าไปได้ทันที พอเหยียบเข้าไปแล้ว ผมก็มองไปรอบๆ เห็นเตียงนอนใหญ่วางอยู่กลางห้องปูด้วยผ้าปูที่นอนสีน้ำตาลเนื้อเรียบตัดกับหมอนสีขาว ที่หัวเตียงติดรูปวาดกราฟฟิคเท่ห์ๆรูปใหญ่ไว้ มุมห้องด้านติดกับประตูกระจกบ้านใหญ่ที่ตอนนี้มีม่านพับสีน้ำตาลเข้มปิดอยู่ วางโต๊ะเขียนแบบ โต๊ะคอมพิวเตอร์เอาไว้ ด้านข้างฝั่งเดียวกับเตียงนอนมีตู้เก็บเอกสารใบโตฝังติดผนัง ฝั่งตรงข้ามกับเตียงนอน ที่ฝาพนังมีจอ LCD ขนาดใหญ่แขวนอยู่ พร้อมกับตู้อุปกรณ์โฮมเธียร์เตอร์และเครื่องเสียง ผมสำรวจไปเรื่อยๆ ก็ไม่พบกับสิ่งที่ผมต้องการ ตู้เสื้อผ้าไปไหนกันนะ
ผมเดินมานั่งบนเตียงนอนเนื้อนิ่มนั่น แล้วมองไปรอบ ๆ ห้องอีกที น่าแปลกใจ ที่ตอนนั้นผมจำอะไรในห้องนี้ไม่ได้เลย อ๊ะ!! นอกจากฝาพนังด้านที่มี LCD แขวนอยู่นั่น ผมมานั่งตรงนี้ถ้าให้บอกตามตรงผมรู้สึกประหม่านิด ๆ นะครับ มันให้บรรยากาศที่บอกไม่ถูก ผมเอามือลูบไปที่ผ้าคลุมเตียงเนื้อเรียบลื่นนั่นเบาๆ ความทรงจำในคืนนั้นก็เหมือนย้อนกลับมาหาผม
น่าเสียดายนะครับ ผมน่าจะจำอะไรได้มากกว่านี้ ตอนนี้ผมจำได้แค่ลางๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคน ความรู้สึกอาย ตื่นเต้น ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทิ้งร่องรอยจางๆ ไว้ ๆ มันทำให้ผมอยากจำได้ว่าตอนนั้นผมรู้สึกแบบไหน ทำอะไรลงไปบ้าง ผมอยากจำได้ว่าอ้อมกอดของคุณยูชอนคืนนั้นอบอุ่นแค่ไหน คุณยูชอนทำสีหน้ายังไงในคืนนั้น แล้วผมล่ะมีความสุขแค่ไหน อ๊ะ! นี่ผมมานั่งคิดอะไรกันเนี่ย ทะลึ่งชะมัด!!
ผมยกมือมากุมแก้มกลมๆ ของผมพร้อมสะบัดศีรษะเบาๆ เพื่อสลัดคิดพิลึกๆ นั่นทิ้งไปซะ ผมรีบเดินไปสำรวจที่ห้องน้ำ ทั้งๆ ที่จำได้ว่าในนั่นไม่มีทางมีตู้เสื้อผ้าหรอก แต่ก็เพื่อความแน่ใจ พอเช็คแล้วว่าไม่มี ผมก็เดินออกมา ผมคิดว่าตู้เสื้อผ้าที่ผมหาคงอยู่ในห้องเล็กๆ ที่ผมไม่เคยรู้ว่านั่นห้องอะไรแน่ๆ ผมรีบสาวเท้าไปเปิดประตู้ห้องนั่นทันที ที่คิดออก
ว๊าววว ผมอุทานลั่นเมื่อเปิดเจอว่าห้องนั่นเป็นสิ่งที่ผมตามหาจริงๆ ครับ แต่มันไม่ใช่แค่ตู้เสื้อผ้า หากเป็นห้องทั้งห้องเลยต่างหากที่ไว้เก็บเสื้อผ้า นอกจากนั้นยังรวมถึงรองเท้าและสารพัด accessories ของคุณยูชอน ถึงผมจะรู้ว่าคุณยูชอนน่ะเจ้าสำอางค์ แต่ก็ไม่นึกว่าจะขนาดนี้ นี่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอครับเนี่ย เล่นเอาผมอายไปเลย
ผมเดินไล่หาเสื้อผ้าที่ผมพอจะใส่ได้ ที่นี่ยังกะแดนมหัศจรรย์เลยครับผมหยิบเสื้อตัวนู้นกางเกงตัวนี้มาดู จนเกือบลืมจุดมุ่งหมาย จนผมได้เสื้อคอเต่าสีขาวเนื้อหนามาตัว กับกางเกงยีนส์ที่ผมคาดว่าผมน่าจะใส่ได้ แล้วก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวสักทีอยู่ในชุดเลอะ ๆ นี่มานานแล้ว
พออาบน้ำเสร็จผมก็รื้อเอาเบอร์เกอร์ที่ซื้อติดมือมาตั้งแต่เช้ามานั่งกิน สลับกับดูโทรทัศน์ไป เหลือบมองนาฬิกาตอนนี้ก็จะ 1 ทุ่มแล้ว ผมไม่ได้ตั้งใจรอคุณยูชอนหรอกนะครับ ก็แค่ดูรายการโทรทัศน์ติดพันอยู่ พอรายการนี่จบผมก็จะกลับแล้วล่ะ
จุนซู ๆงืมมมมม ใครกันครับเนี่ย ผมกำลังนอนสบายๆ อยู่เลย คนเหนื่อยมาทั้งวันนะ ผมยังไม่อยากกินอะไรตอนนี้หรอก
มานอนอะไรตรงนี้ล่ะ แล้วทำไมใส่เสื้อแค่นี้เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอกเสียงคุ้นจังครับ ....
อือออออออผมลุกขึ้นมานั่งขยี้ตา หน้ามึน กว่าจะปรับสายตาให้เข้าที่ได้ก็เล่นเอาสักพักเลยครับ
ตื่นได้แล้ว มานอนตรงนี้ได้ยังไงประสาทสัมผัสของผมบอกว่าตอนนี้คนที่มาปลุกผม กำลังเอาผ้าพันคอมากระชับพันที่คอผมให้แน่นขึ้น พอผมเพ่งมองถึงได้รู้ว่า
คุณยูชอน
จะใครล่ะ ง่วงเหรอ แล้วนี่กินอะไรหรือยังคุณยูชอนยิ้มกว้าง ก่อนจะมองสำรวจไปที่โต๊ะกระจกด้านหน้าผม
กินเบอร์เกอร์เหรอ ยังไม่กินข้าวซินะ ดีนะผมซื้อต๊อกติดมือมาด้วย กินรองท้องก่อนแล้วกันคุณยูชอนยังบ่นงึมงำ ก่อนจะลุกขึ้นไป ผมมองตามหลังกว้างๆ นั่นไปเรื่อย ๆ อยู่ดีๆ ความรู้สึกหนึ่งมันก็วิ่งเข้ามาปะทะที่หัวใจผมอย่างจัง
คิดถึง คงเป็นความรู้สึกนี้แหละครับที่มันวิ่งเข้ามา ผมคิดถึงเสียงนุ่มๆ นั่น คิดถึงสัมผัสอบอุ่นที่คอยเอาใจผม คิดถึงกลิ่นน้ำหอมที่ผมคุ้นชิน คิดถึงหลังกว้างๆ นั่น ผมคิดถึงมากจริงๆครับ
เป็นอะไร ยังไม่ตื่นดีหรือไงคุณยูชอนทักยิ้มๆ ก่อนจะเอามือมาปัดผมที่ยุ่งไม่เป็นทรงของผม
คุณยูชอนกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะ
เพิ่งกลับมานี่แหละ เข้ามาก็เห็นใครไม่รู้มานอนอยู่
ก็คนมันเหนื่อยนิฮะ ขอพักหน่อยเอง
วันนี้ทำอะไรบ้างคุณยูชอนถามผมด้วยน้ำเสียงนุ่ม ๆ อบอุ่น รู้สึกดีจังเลยครับ
ตั้งหลายอย่างเลย ผมน่ะเหนื่อยมาก ๆ รู้ไหม ผมต้องวิ่งไปจัดการเรื่องของ กลับมาจัดการเรื่องเจ้าพวกปลานั่น นั่งทำงานตั้งนานแหนะ แต่ผมทำเสร็จหมดแล้วด้วยนะผมบอกเล่าด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ ตามนิสัยผม ถ้าเป็นกับพี่น้องผม ผมคงจะเอาหัวไปถูๆ กับไหล่ด้วยแล้วล่ะ แต่นี่กับคุณยูชอนผมยังไม่กล้าพอ
ไหนไปดูหน่อยผมอยากเห็นคุณยูชอนลุกขึ้นแล้วยื่นมือมาให้ผมจับก่อนจะดึงผมให้ลุก จากโซฟาที่ผมนอนจมอยู่
คุณยูชอนเปิดประตูกระจกออกกว้างก่อนดึงมือผมให้ตามออกไปข้างนอก ลมหนาวพัดมาเล่นเอาผมหนาวแทบไปถึงกระดูก จนต้องรีบยกมือขึ้นมากอดอกตัวเอง
สวยมาก ผมไว้ใจคนไม่ผิดจริงๆคุณยูชอนกล่าวชมหน้าบาน ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม
ชอบใช่ไหมฮะ
อืม...ชอบมาก แล้วนี่เป็นอะไรหนาวเหรอ ผมรีบพยักหน้าหงึกหงักตอบทันที จะไม่ให้หนาวได้ยังไงไหวครับผมอยู่ในชุดเสื้อคอเต่ากับผ้าพันคอ ตอนอยู่ในห้องยังมีฮีทเตอร์ช่วย นี่ออกมาที่ระเบียงชั้น 12 นะครับ
ป่ะเข้าห้องกัน ขอโทษทีผมลืมหยิบเสื้อโค้ทให้คุณคุณยูชอนกุมมือผมทั้งสองข้าง แล้วดึงให้ผมเข้ามาให้ห้อง แล้วก็จับผมกลับลงมานั่งที่โซฟาตัวเดิม
ต้องให้รางวัลคนเก่งเป็นอะไรดีล่ะคุณยูชอนถามผม แล้วก็หัวเราะเบาๆ
รางวัลต้องใหญ่สมกับที่ผมเหนื่อยด้วยล่ะ
งั้นเดี๋ยวมารอแป๊บนึงคุณยูชอนบอกก่อนจะเดินไปคุ้ยหาอะไรสักอย่างในถุงที่วางใกล้ๆ กับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
ผมรู้ว่าจุนซูชอบช๊อกโกแลต แต่ไม่รู้ว่าจะชอบแบบไหนบ้าง ผมเลยซื้อมาซะหมดเลยคุณยูชอนพูดด้วยน้ำเสียงเขินๆ ก่อนจะวางกองช๊อกโกแลตเจ็ดแปดกล่องลงบนโต๊ะ
แบบไหนผมก็กินได้หมดแหละฮะผมตอบกลับไปก่อนจะเริ่มรื้ออ่านว่าคุณยูชอนซื้อรสไหนมาบ้าง
นี่อะไรฮะผมหยิบกล่องช็อกโกแลตสีน้ำเงินเข้มขึ้นมาเปิด กลิ่นหอม ๆ ก็ลอยมาทันทีที่เปิด กลิ่นช็อกโกแลตเข้มๆ ผสมกับกลิ่นหอมของแอลกอฮออล์ เล่นเอาน้ำลายผมแทบหก คุณยูชอนหยิบฝากล่องขึ้นมาพลิกไปพลิกมา
เค้าว่าเป็น Dark chocolate ผสม บรั่นดี
กลิ่นน่ากินจังครับ
อันนี่ก็น่ากินนะ เป็น White Chocolate ผสม Grand Marnierคุณยูชอนเปิดกล่องสีฟ้า ยื่นมาให้ผมรับกลิ่น อันนี้ก็น่ากินดีครับ แต่กลิ่นมันไม่เข้มเท่าเจ้ากล่องเมื่อกี้ ทั้งกลิ่นช็อกโกแลต และ บรั่นดีมันหอมยั่วชะมัด
อันนั้นน่ากินกว่าผมหยิบเจ้ากล่องน้ำเงินเข้มมาวางตรงหน้า แล้วมุ่งหมายจะหยิบกิน แต่คุณยูชอนก็คว้ามือผมไว้ได้ก่อน
ไม่กินต๊อกก่อนเหรอ จะกินขนมเลยเหรอผมรีบสั่นหัวดิกเลยครับ ช๊อกโกแลตน่ากินกว่าต๊อกตั้งเยอะ
ไม่หิวเหรอไง
ไม่อะ ผมกินเบอร์เกอร์รองท้องไปแล้วพอพูดจบผมก็หยิบช๊อกโกแลตเข้าปากทันที อืมมม มันนุ่มลิ้นจริงๆ ครับ รสออกขมๆ แต่ก็มัน และหอมดี
กินไหมฮะผมหยิบช๊อกโกแลตขึ้นมาจ่อที่ปากคุณยูชอน คุณยูชอนก็รีบกัดทันที ทำยังกับกลัวจะอดกินไปได้
นี่ผมซื้ออย่างอื่นมาฝากคุณอีกนะ
ซื้ออะไรมาอีกฮะ
ก็กระเป๋า ผมเห็นมันเหมาะกับคุณดี แล้วก็พวกขนม
ซื้ออะไรมามากมาย ผมเกรงใจแย่
เกรงใจทำไม ผมอยากซื้อให้ เวลาเห็นของอะไรผมก็นึกถึงคุณตอนอยู่ที่นู้นมาอีกแล้วครับ ไอ้โรคชอบหยอดเนี่ย ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยแกล้งทำเป็นนั่งก้มหน้าก้มตาเขี่ยช็อกโกแลตเล่นดีกว่า
อยู่ที่นี่คิดถึงผมหรือเปล่ามาถามอะไรกันแบบนี้ห่ะ ปาร์คยูชอน
อ้าวเงียบ เสียใจแย่เลย ผมอยู่ที่นู้นอุตสาห์คิดถึงคุณผมยังก้มหน้าก้มตาหยิบช็อกโกแลต มากินแก้เขินต่อไปฮะ ใครจะไปตอบกันเล่า!!
คุณยูชอนเงียบไป แต่พอมารู้ตัวอีกทีคุณยูชอนก็เอาหน้าผากเหม่งๆ นั่นมาชนกับหน้าผากของผมที่ก้มอยู่เสียแล้ว
เงยหน้ามาคุยกันหน่อยซิ จุนซูไม่คิดถึงผมเลยเหรอมาอ้อนเอาอะไรกันล่ะเนี่ยครับ ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ผมเขินจนหน้าแทบระเบิดแล้วนะครับ
อือ
อือ คืออะไรไม่คิดถึงจริงๆ เหรอคุณยูชอนเอามือมาดันปลายคางผมให้เงยหน้าขึ้น ส่งสายตาน่าสงสารมาใส่ผมอีก ผีอะไรเข้าเค้าครับเนี่ย
ก็นิดนึง
อะไรนิดนึง
ก็ที่คุณถามนั่นแหละ ก็นิดนึงไง
ไม่เอาตอบดี ๆ คิดถึงก็บอกคิดถึงซิ
จะถามทำไมเนี่ย
ก็อยากรู้นิหน่า ว่าคิดถึงกันบ้างไหม ผมอยากได้กำลังใจบ้าง บอกหน่อยซิครับอย่ามาทำอย่างนี้ซิครับ ผมยิ่งแพ้ทางเวลาคุณยูชอนพูดเพราะ ๆ ด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ แบบนี้อยู่
ก็คิดถึงพอผมตอบปุ๊บคุณยูชอนก็ยิ้มกว้างปั๊บราวกับเป็นระบบอัตโนมัติเลยครับ คุณยูชอนยังจับปลายคางผมแล้วก็เขย่าเบาๆ
น่ารักจังอ๊า.... พูดยังงี้ได้ยังไงกันเนี่ย หน้าผมร้อนวาบไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ครับว่าหน้าผมคงแทบไหม้ ผมรีบหยิบไอ้เจ้าช็อกโกแลตในมือจับยัดใส่ปากคุณยูชอนทันที จะได้ไม่ต้องพูดอะไรให้ผมต้องเขินอีก
คุณยูชอนดูตกใจตอนที่รับเจ้าช็อกโกแลตชิ้นนั้นเข้าปาก พอคุณยูชอนกลืนมันไปได้ก็หัวเราะลงคอเบา ๆ
เขินเหรอทำไมชอบถามจัง ผมก็รีบส่ายหัวตอบ เพื่อเป็นการักษามาด(ที่ไม่ค่อยจะมี)ของผม
ตอนอยู่ญี่ปุ่นผมคิดถึงคุณนะ คิดถึงมาก ๆ ด้วยคุณยูชอนพูดเบา ๆ แววตาที่เป็นประกายของคุณยูชอน แววตาที่ผมชอบ มองสบตาผมเหมือนจะใช้แทนคำพูด ผมยิ้มคืนกลับไปให้กับเจ้าของแววตาทรงเสน่ห์นั่น
อยู่ที่นี่ผมก็คิดถึงคุณฮะ ผมมาที่ห้องนี่ทุกวันเลย ตอนคุณไม่อยู่
พอผมพูดจบ คุณยูชอนค่อยๆ ดึงผมให้เข้ามาใกล้ สอดแขนเข้าที่เอวของผมก่อนจะก้มลงมากระซิบเบาๆ
ขอบคุณครับ ..ที่คิดถึงกัน
อาจจะเป็นเพราะผมต้องมนต์ดวงตาที่ทอประกายนั่น อาจะเป็นเพราะผมต้องมนต์เสียงทุ้มๆ ที่กระซิบอยู่ข้างหูของผม หรืออาจจะเป็นเพราะผมต้องมนต์อ้อมแขนที่อบอุ่นที่โอบล้อมผมอยู่ตอนนี้
ผมไม่รู้หรอกฮะว่าเพราะอะไร ที่ทำให้ผมถึงกล้าที่จะวาดแขนของผมกอดตอบคุณยูชอน ผมวางศีรษะของผมซบลงที่อกกว้างๆ กอดกระชับให้แน่นยิ่งขึ้น คุณยูชอนกดปลายจมูก ลงมาที่ผมของผม ไล่เรื่อยมาเรื่อยๆ จนถึงใบหู แล้วกระซิบเบาๆ
ไม่ได้เจอจุนซู ไม่ได้ยินเสียงจุนซู ผมเหงามากเลยรู้ไหม
ไปไม่กี่วันเอง แล้วคุณก็โทรหาผมทุกวัน
มันไม่เหมือนกันคุณยูชอนตอบ แล้วก็เปลี่ยนจากปลายจมูก มาเป็นริมฝีปากนิ่มที่กดมาที่แก้มของผม ผมจะเอ่ยปากห้ามแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว คุณยูชอนค่อยๆ กดริมฝีปากอิ่ม ๆ นั่นลงมาอีกทีที่ริมฝีปากผม
จูบที่เริ่มจากสัมผัสเบาๆ ที่ริมฝีปาก แล้วค่อยๆ ละเลียดให้ผมเคลิบเคลิ้ม จูบหวาบหวามที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของความคำนึง จูบรสหวานจากช็อกโกแลตที่ติดริมฝีปากของเราทั้งคู่ จูบที่ชวนหลงไหลด้วยกลิ่นของบรั่นดีที่ยังหอมอวลอยู่
ผมตอบรับสัมผัสวาบหวามที่ริมฝีปากนั้นอย่างไม่ประสีประสา ผมทำไปตามที่คุณยูชอนจะชักพาไป จากจูบที่ไล่เล็มอยู่ที่ริมฝีปาก ก็ชักนำให้ถลำลึกมากขึ้น ปลายลิ้นที่แลกสัมผัสกัน ทำให้ผมยิ่งยากที่จะถอนตัว คุณยูชอนค่อยกดจูบผมดูดดื่มยิ่งขึ้น ผมยิ่งรู้สึกเหมือนตัวผมลอยคว้าง จนคุมตัวเองไม่ได้ จนเหมือนลมหายใจสุดท้ายของผมกำลังจะหมด ผมขยุ้มผมสีน้ำตาลเข้มของคุณยูชอนแน่นขึ้น และนั่นเหมือนเป็นสัญญาณเตือนให้คุณยูชอนค่อยๆ ถอนจูบลึกล้ำนั่นจากริมฝีปากผม
ผมรีบควบคุมลมหายใจของผมให้ปรกติ หากแต่คุณยูชอนยังคงละเลียดจูบเบาๆ อยู่ที่ริมฝีปากของผม ผมจูบตอบกลับเบาๆ แล้วค่อยๆ ถอนตัวเองออกมา
คุณยูชอนยิ้มให้กับผม แล้วกอดกระชับผมแน่นขึ้นไปอีก ผมเองก็กอดตอบรับเช่นกัน
..
เมื่อครู่ถึงแม้จะไม่ใช่จูบแรกของเราสองคน แต่กลับเป็นจูบที่น่าจดจำ เราสองคนถ่ายทอดความรู้สึกผ่านสัมผัสนั้น แม้ไม่ต้องเอ่ยอะไรหากแต่ก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของกันและกัน
และจูบคราวนี้ก็ไม่เหมือนคราวก่อน....จูบรสช็อกโกแลต บรั่นดี มันน่าลุ่มหลงกว่าจูบรสไก่ทอดนิดนึงนะผมว่า
วันนี้จะหนีกลับบ้านอีกไหมอยู่ดีๆ คุณยูชอนก็ก้มลงมาถามผมกลั้วเสียงหัวเราะเบาๆ ผมนิ่งอึ้งกับคำถาม กว่าจะนึกออกว่าอีกฝ่ายเย้าเรื่องคราวจูบรสไก่ทอดแล้วผมหนีกลับบ้าน ก็เล่นเอานิ่งอึ้งไปสักพัก
ถ้าหนีกลับล่ะฮะ
ก็จะไม่ให้กลับผมหัวเราะเบาๆ กับคำตอบคนที่กอดผมอยู่ ช่างตอบได้เอาแต่ใจตัวเอง เอาเปรียบผมขนาดนี้แล้วยังจะเอาแต่ใจอีก
ผมอยู่ไม่ได้หรอก นี่ดึกมากแล้ว ยังไงก็ต้องกลับผมพูดพลางเอานิ้วเล็กๆ ของผมจิ้มที่อกกว้างๆ ของคุณยูชอน
ถ้าอย่างนั้นอยู่อย่างนี้อีกสักพักได้ไหม เดี๋ยวผมขับรถไปส่งคุณยูชอนตอบก่อนจะคว้ามือซนๆ ของผมขึ้นไปกุม แล้วจูบเบาๆ ผมพงักหน้าหงึกหงักตอบรับ ก่อนจะซบลงไปที่อกกว้างนั่นอีกที
นี่ผมคงปฏิเสธไม่ได้แล้วซินะครับว่าตอนนี้ผมตกหลุมรักคน ๆ นี้ จนแทบถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว
|
|
Create Date : 27 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 28 ธันวาคม 2552 0:47:15 น. |
|
18 comments
|
Counter : 626 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Killer Queen IP: 124.121.157.36 วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:8:41:47 น. |
|
|
|
โดย: chocojunk IP: 124.121.189.226 วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:15:18:14 น. |
|
|
|
โดย: UnZo IP: 58.181.129.244 วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:17:48:09 น. |
|
|
|
โดย: unoony IP: 58.9.143.165 วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:18:25:41 น. |
|
|
|
โดย: chabori วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:20:54:57 น. |
|
|
|
โดย: poonim IP: 124.122.77.169 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:0:19:52 น. |
|
|
|
โดย: Park-KY IP: 10.9.31.59, 58.97.32.112 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:11:40:44 น. |
|
|
|
โดย: patongko IP: 58.8.26.77 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:14:06:46 น. |
|
|
|
โดย: measama IP: 58.8.142.153 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:14:48:34 น. |
|
|
|
โดย: PM IP: 203.144.130.176 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:16:18:02 น. |
|
|
|
โดย: micky.com IP: 58.10.128.61 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:22:24:03 น. |
|
|
|
โดย: yoosulism IP: 202.28.77.141 วันที่: 29 ธันวาคม 2552 เวลา:15:28:38 น. |
|
|
|
โดย: pimmy IP: 125.27.156.15 วันที่: 29 ธันวาคม 2552 เวลา:20:25:59 น. |
|
|
|
โดย: always IP: 124.121.5.159 วันที่: 29 ธันวาคม 2552 เวลา:23:00:49 น. |
|
|
|
โดย: nidnoi IP: 117.47.85.144 วันที่: 8 มกราคม 2553 เวลา:3:06:03 น. |
|
|
|
โดย: ปร้าyuri IP: 118.172.205.128 วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:13:21:37 น. |
|
|
|
โดย: chebi IP: 124.122.178.244 วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:09:07 น. |
|
|
|
โดย: Araceze IP: 27.130.64.168 วันที่: 28 กรกฎาคม 2555 เวลา:1:14:42 น. |
|
|
|
|
|
|
|
จะคอยติดตามนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ