Group Blog
 
 
กันยายน 2555
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
30 กันยายน 2555
 
All Blogs
 

[ChanBaek SF] Mug & Saucers [Part 2]

Mug & Saucers

Author: Angel Midori
Rating: PG
Pairing:ChanBaek




“กูว่านะ แบทแมนของคริสโตเฟอร์ โนแลนเนี่ย สนุกที่สุดแล้ว ดูแบบนี้แล้วอยากจะกลับไปดูภาคแรกใหม่เลย” คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นพูดกับเพื่อนร่างสูงเรื่องภาพยนต์ที่ตัวเองและคนที่พูดด้วยเพิ่งจะดูจบ ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นโดยที่ในมือยังคงล้วงป๊อบคอร์นที่ยังเหลืออยู่ไปด้วย ปาร์คชานยอลได้แต่พยักหน้ารับและเกี่ยวเอวของเพื่อนสนิทเอาไว้เพราะกลัวว่าเจ้าตัวจะตกบันไดเลื่อน โดยที่มือยังคงถือแก้วน้ำอัดลมที่ แบคฮยอนสั่งให้ถือติดมาด้วยเพราะยังกินไม่หมด






พอทั้งคู่เดินลงมาจากบันไดเลื่อนได้ ชานยอลก็ส่งแก้วน้ำให้เพื่อนตัวเล็กดูด และตัวเองก็ดูดต่อจนหมดแก้วก่อนที่จะเอามันไปทิ้ง พวกเขาชินเสียแล้วกับการกินน้ำแก้วเดียวกันหรือแม้กระทั่งข้าวจานเดียวกัน หรือเคยซื้ออาหารมาเทรวมกันลงชามใบเดียวเพราะที่หอของชานยอลไม่มีจานกินข้าวก็ทำมาแล้ว



ปาร์คชานยอลสนิทใจกับการใช้ชีวิตอยู่กับแบคฮยอน คนตัวเล็กช่างพูด ขี้เล่น ซน และเขาก็ชอบสิ่งเหล่านี้ของเพื่อนตัวเล็ก ในขณะเดียวกันแบคฮยอนก็ยินดีรับฟังกับเรื่องบ้าๆ บอ ๆ ที่เขาชอบเล่า ทนได้กับนิสัยขี้โวยวายของเขา และก็สนุกไปด้วยกับความเป็นเด็กที่ยังติดตัวเขาอยู่ ทั้งๆ ที่เพื่อนส่วนใหญ่ชอบบ่น ซึ่งบยอนแบคฮยอน ทำให้ชีวิตมหาวิทยาลัยของเขาสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ



“แล้วนี่เราจะไปไหนกันต่อ” แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นถามคนที่สูงกว่าเกือบสิบเซ็นต์



“หิว ไปหาอะไรกินแล้วกัน”



“เออดีกินจิมดักดีกว่า เยอะดียัดได้เต็มกะเพาะ” คนตัวเล็กพูดก่อนจะเดินก้าวเท้าข้ามถนนเล็กๆ หน้าห้างหากแต่ยังไม่ทันออกตัววงแขนหนาของเพื่อนสนิทก็เข้ามาเกี่ยวเอวเอาไว้ทันที



“ทำไมข้ามถนนถึงไม่ชอบดูรถ” เสียงห้าวเอ่ยดุไม่จริงจังนัก



“จะดูทำไมยังไงนายก็ต้องดูให้ฉันอยู่แล้ว” คนตอบยิ้มทะเล้นก่อนจะปล่อยให้คนตัวโตกว่ากอดเอวเดินพาข้ามถนน และเปลี่ยนเป็นโอบไหล่ไปตลอดทางไปด้วยกัน



ทุกครั้งที่ไปไหนด้วยกัน ชานยอลคนจู้จี้จะคอยดูแลแบคฮยอนเสมอจนอีกฝ่ายติดเป็นนิสัยที่ไม่ต้องคอยใส่ใจกับเรื่องอะไร แรก ๆ แบคฮยอนก็รำคาญที่อีกฝ่ายชอบสั่งโน่นสั่งนี่ คอยเดินเกาะเขาบ้าง กอดเอวเขาบ้าง คล้องไหล่บ้าง เพราะกลัวรถจะชน กลัวจะไปชนกับคนอื่น กลัวจะหลง กลัวโน่นกลัวนี่ แต่พอนานๆ ไปคนตัวเล็กก็ชิน และคิดว่าดีเสียอีกที่เขามีคนคอยเป็นหูเป็นตาคอยดูแลให้ ดูแลเสียอย่างกับเขาเป็นเด็กประถมก็ไม่ปาน



แบคฮยอนเคยถามชานยอลเหมือนกันว่าทำไมคอยจู้จี้ เป็นห่วงโน่นนี่ทกับเขาหนักหนา ชานยอลก็ตอบว่าเพราะแพคฮยอนตัวเล็ก พอถามว่าแล้วกับคนอื่นล่ะ อย่างคยองซูที่ไม่ได้ตัวใหญ่ไปกว่าเขาทำไมไม่ไปคอยเกาะเป็นเหาฉลามแบบนี้ ชานยอลก็อ้างว่า คยองซูดูแลตัวเองได้ ซึ่งแบคฮยอนก็ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะดูแลตัวเองได้จริงเลย คยองซูเดินหกล้มชนโน่นนี่ และหลงทางแม้แต่ในมหาลัยเป็นประจำ แต่หลังๆ ด้วยความเคยชินเขาจึงเลิกหาคำตอบเรื่องนี้ไปเอง



“เดี๋ยวแป๊บแวะร้านนั้นก่อน” คนตัวเล็กเอ่ยเสียงดังก่อนจะสลัดแขนใหญ่ๆ ที่พาดไหล่เขาทิ้งแล้วบ่ายหน้าไปยังร้านกาแฟข้างหน้าทันที



คนตัวใหญ่เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ตามคนตัวเล็กที่เดินซอยเท้าเข้าไปในร้านทัน แบคฮยอนมุ่งหน้าไปยังชั้นวางแก้วแล้วกวาดสายตาไปมาก่อนจะเบ้หน้าเหมือนไม่พอใจ



“ไม่เห็นมีแบบใหม่ๆ เลย”



“นี่มึงยังซื้อแก้วกาแฟยังไม่ได้อีกเหรอ”



“เออซิ กูยังหาถูกใจไม่ได้” แบคฮยองบ่นงุ๊งงิ๊ง โดยที่เอานิ้วสวย ไปลูบแก้วเซรามิคใบที่ตัวเองเคยเล็งเอาไว้ด้วยความเสียดาย



“ซื้อๆ ไปเหอะมึง อย่าเรื่องเยอะ มึงก็เอาจานรองแก้วจากแก้วใบเดิมมึงใช้ไปก่อน”



“มันไม่เข้ากัน มึงอะมันพวกไม่มีรสนิยมทางสุทรียภาพ” แบคฮยอนเถียงและยู่ปาก จนตาเล็กๆ นั่นแทบจะปิดไปด้วย และเจ้าตัวก็เดินกระทืบเท้าไปคว้าแก้วกาแฟสีน้ำตาลแดงที่ตนเองเล็งไว้ร่วมอาทิตย์ แต่อิดออดไม่ซื้อเพราะไม่มีจานรองแก้ว เดินเอาไปยื่นที่เคาท์เตอร์คิดเงิน



ปาร์คชานยอลส่ายศีรษะมองเพื่อนตัวเล็กด้วยความรู้สึกทั้งระอา ทั้งเอ็นดู....




กริ่ง~~

เสียงโมบายที่หน้าประตูดังรับเมื่อมีกระแสลมลอดผ่านประตูที่เพิ่งมีคนเปิดเข้ามากระทบกับตัวโมบาย



คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะตัวใกล้ประตูที่สุดเงยหน้าขึ้นมองเพียงเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้ากลับไปสนใจกับหนังสือพิมพ์ในมืออีกครั้ง



คนตัวเล็กที่เพิ่งก้าวเท้าเข้ามาในร้านกาแฟ หันไปมองชายหนุ่มร่างสูงคนนั้นก่อนจะรีบก้มหน้าก้มตาจับมือเพื่อนตัวโตให้เดินตามเจ้าตัวไปที่หน้าเคาท์เตอร์เพื่อสั่งกาแฟทันที



ปาร์คชานยอลไม่อยากที่จะคิดเองเออเองว่าที่ไอ้ตัวเล็กแบคฮยอนมันเรียกร้องอยากจะกินกาแฟมาร่วมอาทิตย์ จะไม่เกี่ยวกับไอ้รุ่นพี่หน้าหล่อนี่



แต่จะไม่คิดก็ไม่ได้ก็ในเมื่อพวกเขาเรียนคณะศิลปกรรม แต่ไอ้ร้านกาแฟนี่มันอยู่ระหว่างคณะบริหาร กับเศรษฐศาสตร์ ซึ่งห่างจากตึกคณะเขามาตั้งสามสี่ตึก ร้านกาแฟใกล้ๆ คณะก็ใช่ว่าจะไม่มีแต่ไอ้ตัวเล็กก็อ้างตลอดว่าคีชผักโขมร้านนี้อร่อย แล้วเขาควรจะเชื่อไหม



“กูสั่งมอคค่าแล้วมึงจะกินอะไรโย่ง”



เสียงเล็ก ๆ นั่นทำให้ปาร์คชานยอลต้องหยุดความคิดลง “ใครบอกว่ากูอยากกินกาแฟ”



“อ้าวมึงนี่ไม่มาร้านกาแฟแล้วมึงจะกินอะไร เหล้าหรือไง”



“ปากดี”ชานยอลบ่นงึมงำ ก่อนจะตีที่ศีรษะกลมของคนตัวเล็กเบาๆ จนอีกฝ่ายต้องย่นคอหนี แล้วคนร่างสูงก็เอื้อมไปหยิบน้ำกีวีที่วางไว้หน้าเคาท์เตอร์ยื่นส่งให้แคชเชียร์ไป



“พี่ฮะ เอาคีชผักโขมด้วย” แพคฮยอนเอ่ยบอกแคชเชียร์น้ำเสียงกระตือรือล้น ก่อนเจ้าตัวจะหันไปมองคนที่นั่งเป็นจุดสนใจที่โต๊ะหน้าประตูอีกที



พอเห็นท่าทางไอ้ตัวเล็กแบบนั้น ปาร์คชานยอลก็รีบเดินออกจากเคาท์เตอร์ และพุ่งไปนั่งที่โต๊ะประจำที่พวกเขามานั่งในช่วงอาทิตย์นี้ และยังไม่ทันที่เขาจะหย่อนก้นลง บยอนแบคฮยอนก็รีบดันเขาให้นั่งเก้าอี้ตัวที่หันหลังให้กับโต๊ะของรุ่นพี่หน้าหล่อนั่น แล้วตัวเองไปนั่งที่เก้าอี้ตัวชิดกับเสาแทน ถึงจะบอกว่าชอบนั่งเพราะอยากมองโน่นนี่ อยากนั่งเพราะติดเสาอะไรก็เหอะ แต่จริงๆ แล้วแบคฮยอนอยากนั่งมองไอ้รุ่นพี่โต๊ะตรงข้ามนั่นแหละ!!!



ไม่รู้ทำไมเมื่อก่อนเขาเฉยๆ กับปฏิกริยาที่แบคฮยอนปลาบปลื้มไอ้รุ่นพี่ที่ชื่อคริสคนนี้ แต่นี้เขากลับรู้สึกหงุดหงิด และรู้สึกว่าไอ้ความปลื้มของแบคฮยอนมันมากขึ้นเรื่อย ๆ



เขาไม่เคยบ่นหรือเล่าให้ใครฟัง และแน่นอนเขาไม่เคยแสดงออกถึงความไม่พอใจนี้ให้แบคฮยอนรู้ด้วย เขาไม่อยากให้เพื่อนลำบากใจ และมันก็เป็นความสุขของเพื่อน ถึงเขาจะไม่เข้าใจเหอะว่าไอ้การนั่งเฝ้ามองใครสักคนได้ทุกวี่ทุกวันนี่มันมีความสุขตรงไหน



“คีชมาแล้ว” แบคฮยอนปรบมือเป็นเด็กเมื่อพี่สาวพนักงานเสิร์ฟวางจากคีชผักโขมกับกาแฟลงตรงหน้า ไอ้ท่าทางน่ารักแบบนี้มันอดทำให้คนที่มองอยู่อดยิ้มไม่ได้



แบคฮยอนเหมือนเด็กเวลาดีใจ และมันก็เหมาะกับเวลาที่ใครๆ เรียกแบคฮยอนว่าแพคกี้ ซึ่งเป็นชื่อที่ชานยอลชอบ เขาอยากเรียกแบบนั้นบ้างแต่แบคฮยอนไม่ยอม และบอกว่ามันน่าขนลุกที่เพื่อนสนิทอย่างเขามาเรียกด้วยชื่อน่ารักแบบนั้น (แต่แบคฮยอนยอมให้คยองซู หรือจุนมยอนเรียก ส่วนไอ้กัมจง เจ้านั่นไม่เรียกเอง ซึ่งชานยอลไม่เข้าใจตรรกะความคิดของแบคฮยอนเหมือนกัน)



“กินไหม” คนตัวเล็กยื่นคีชที่เจ้าตัวใช้ส้อมจิ้มยืนมาตรงหน้าชานยอล คนตัวโตไม่ตอบแต่ยื่นหน้าไปกินเจ้าคีชนั่นจนหมดคำ



“พอแค่นี้แหละที่เหลือกูจะกินให้หมดเอง” แบคฮยอนยิ้มร้ายก่อนจะจิ้มคีชและกินเหมือนยั่วคนตรงหน้า



มันทั้งร้ายและน่ารักปนๆ กัน และเขาก็ชอบอีกนั่นแหละเวลาแบคฮยอนทำตัวร้ายๆ ซนๆ เจ้าเล่ห์แบบนี้



ปาร์คชานยอลเริ่มรู้สึกว่าการที่เขานั่งตรงนี้มันก็มีข้อดีเหมือนกัน เขาจะนั่งบังไม่ให้ไอ้รุ่นพี่หน้าหล่อนั่นเห็นความน่ารักของบยอนแบคฮยอนหรอก





“เก่อยังไม่มีแฟน” เสียงพูดสำเนียงเกาหลีปนจีนดังขึ้นมาในระหว่างที่แบคฮยอนยังเถียงหน้าแดงจนเกือบดำเท่ากับคนที่ตัวเองเถียงด้วย เรื่องที่ตัวเองไม่ได้แอบชอบรุ่นพี่สุดหล่อคณะบริหารอินเตอร์



ซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนบนโต๊ะเงียบลง และหันไปตั้งใจฟังไอ้หนุ่มหล่อเข้มจากชิงเต่าทันที



“คริสเก่อไม่ได้คบใคร ถ้าแบคฮยอนฮยองชอบเก่อ ไม่ลองคุยกับเก่อล่ะ”



“นายจะช่วยเชียร์ฮยองให้เก่อนายเหรอ” โอเซฮุนหันไปถามด้วยแววตาวิบวับ และคนข้างๆ ก็พยักหน้ารับ แถมยิ้มกว้างตอบให้อีก



ไม่ต้องบอกใครๆ ก็รู้ได้ว่าไอ้หนุ่มกังฟูแพนด้านี่มันทำเพื่อเอาใจน้องชายคนเล็กของกลุ่มอยู่



“เอาไง” คิมจงอินกระแซะไหล่ใส่เพื่อนตัวเล็กที่ตอนนี้กัดปาก และก้มหน้าหลบตาอยู่ และนี่ก็ไม่ต้องบอกเหมือนกันว่าไอ้ตัวแสบอย่างบยอนแบคฮยอนน่ะกำลังเขินอยู่



“เอาไงของมึง” คนตัวเล็กตอบกลับเสียงงุงิ



“ก็จะให้น้องเขาช่วยหรือเปล่าล่ะ คนเราละเว้ยถ้าไม่ลองก็ไม่รู้”



“จริง อย่างที่จงอินฮยองพูดนะ ฮยอง” ไอ้คนเล็ก แต่ตัวไม่เล็กของกลุ่มสำทับอีกที และมันก็ทำให้แบคฮยอนต้องเงยหน้าขึ้นมา เจ้าตัวมองไปรอบโต๊ะ ที่ตอนนี้มีสมาชิกในกลุ่มนั่งกันอยู่ครบ ข้างตัวเขามีจงอิน อีกด้านเป็นชานยอล ถัดจากชานยอลเป็นคยองซู แล้วไอ้ประธานรุ่น ที่นานๆ จะว่างมานั่งเล่นแบบนี้อย่างคิมจุนมยอน หรือซูโฮนั่งถัดไปอีกที (ซึ่งแบคฮยอนไม่ได้อยากให้มานั่งกันครบแบบนี้ในสถาณการณ์แบบนี้เลยให้ตายเหอะ) ส่วนตรงข้ามก็มีสองน้องเล็ก เซฮุน กับหวงจื่อเถายึดพื้นที่อยู่



ทุกคนกำลังมองเขา จงอินยิ้มตาวิบวับเป็นประกาย ส่วนชานยอลจ้องมองเขาหน้านิ่งๆ พอสบตาเจ้านั้นก็หลบตาไป กับคยองซูบางทีไอ้ตาโตๆ ตื่นๆ นั่นมันก็ยากจะเดาว่าเจ้านั่นคิดอะไรเหมือนกัน แต่ซูโฮกำลังยิ้ม และกลั้นขำอยู่แน่ๆ



“เอาไง” ไอ้กัมจงที่ปรกตินิ่งแอ๊บคูลตลอดเวลา แต่ทีเรื่องนี้กลับทำไมวุ่นวานนัก ถามแบคฮยอนอีกหน



“ลองก็ได้ จริงๆ ฉันก็ปลื้มเขาอยู่” บยอนแบคฮยอน ก้มหน้าก้มตาตอบไอ้รุ่นน้องสองคนนั้นไป เขาไม่เงยหน้าไปมองหรอกว่าเกิดอะไรขึ้น เขาได้ยินแต่เสียงเฮจากไอ้พี่น้อง จงอินกับเซฮุน เสียงหัวเราะที่หลุดมาจากจุนมยอน



คนตัวเล็กยอมรับว่าเขาปลื้มรุ่นพี่คนนี้มาก ยิ่งช่วงหลังๆ ที่แอบเฝ้ามองก็ยิ่งปลื้ม ไอ้ที่ชอบเถียงชอบปฏิเสธมันก็เพราะความอาย แต่ถามว่าถึงขั้นชอบพอแบบแอบรักไหมเขาตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่อะนะเรื่องแบบนี้ เมื่อมีโอกาสเขาก็ไม่อยากเสียโอกาสดีๆ ไป



ก็โอกาสมันมีไว้เอาไว้เพื่อคว้านี่





ตอนนี้บยอนแบคฮยอน รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในบรรยากาศของการเดทคู่ หรือไม่ก็เกือบคล้ายการเดทนั่นแหละ ตรงหน้าเขาตอนนี้มี โอเซฮุนนั่งหัวเราะคิกคักอยู่ หลังจากแกล้งจื่อเถาอ่านเมนูภาษาเกาหลี แล้วจื่อเถาก็อ่านมันผิดๆ ถูก ๆ ส่วนข้างๆ เขาตอนนี้ มีชายหนุ่มสุดหล่อ ผมทอง กำลังหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ให้กับน้องชายของตัวเองที่โดนแกล้งอยู่





มันห่างไกลความจริงมาก แต่ตอนนี้มันก็กลายเป็นเรื่องจริงไปแล้ว ที่เขากำลังนั่งร่วมโต๊ะกับคริสฮยองดาวบริหารอินเตอร์!!



“เก่อมันไม่ขำสักหน่อย” จื่อเถาแยกเขี้ยวใส่พี่ชาย ก่อนจะพ่นภาษาจีนต่อจากภาษาเกาหลี ซึ่งพี่ชายสุดหล่อยิ่งหัวเราะหนักขึ้นไปอีก



“ไม่เอาน่าไม่มีมารยาทเลย นายพูดจีน เซฮุน กับแบคฮยอนก็ฟังไม่ออกซิ”



“เมื่อกี้เถาเขาว่าอะไรฮะ” เซฮุนยื่นหน้าไปถามรุ่นพี่สุดหล่อ แต่จื่อเถาทำหน้าตกใจ ก่อนจะทำโบกไม้โบกมือไม่ให้คริสพูด



“บอกไม่ได้หรอก จื่อเถาไม่ให้บอกว่า เจ้านั่นอายนายน่ะเซฮุน เวลาฉันหัวเราะใส่เจ้านั่น” อู๋อี้ฟ่านหัวเราะเบาๆ ก่อนจะก้มลงไปอ่านเมนู และมันก็ตามด้วยเสียงโวยวายของจื่อเถา และเสียงหัวเราะปนหน้าแดงๆ ของเซฮุน




ช่วงเวลาไม่นานแพคฮยอนก็พอมองออกว่า อู๋อี้ฟ่าน หรือคริสฮยองไม่ได้เป็นคนเงียบอย่างที่คิด ออกจะร้ายๆ กวนๆ นิด ๆ ด้วยซ้ำ




“แบคฮยอนอยากกินอะไร สั่งเลยนะไม่ต้องเกรงใจ” คริสยื่นเมนูให้เด็กหนุ่มตัวเล็ก พร้อมรอยยิ้มซึ่งมันทำให้ แบคฮยอนแทบจะทำอะไรไม่ถูก ตอนสมัยแอบมองก็เขินจะแย่ พอยิ่งมาได้คุยได้อยู่ใกล้ คนตัวเล็กก็รู้สึกเหมือนมือไม้ คำพูด มันไร้สมรรถภาพในการควบคุมเสียอย่างนั้น





“เออ...ฮะ”




แบคฮยอนก้มอ่านเมนูแล้วจิ้มเลือกอาหารส่งๆ ไปเนื่องจากตัวเองไม่คุ้นชินกับอาหารอิตาเลี่ยนสักเท่าไหร่ เคยได้กินบ้าง แต่เจ้าตัวไม่ได้ชอบทาน




และเมื่ออาหารมาเสริฟต่างคนก็ต่างกิน มีเสียงพูดคุยมาบ้างจากเซฮุนที่มักเป็นคนเริ่มบทสนทนาก่อน เซฮุนดูสนิทจื่อเถา และอี้ฟ่านอย่างที่แบคฮยอนไม่เคยคิดมาก่อน แต่จริงๆ เซฮุนเป็นเด็กช่างคุย และน่ารัก ใครๆ ก็เอ็นดูโดยง่ายดายอยู่แล้ว ส่วนเขานั่น ได้แต่นั่งฟังและยิ้มไปมา เพราะเขินเกินกว่าจะพูดอะไรได้ ถึงแม้เซฮุนจะชวนคุยหรือพูดหลายครั้งว่าวันนี้เขาพูดน้อยผิดปรกติไปมาก (แบคฮยอนรู้สึกเหมือนเซฮุนบอกว่าปรกติเขาพูดมากยังไงยังงั้นเลย) แต่เขาก็ยังคงได้แต่ยิ้ม



ก็การเดท (หรือเกือบเดทนั่นแหละ) กับคนที่แอบมองมานาน แถมดูดีขนาดนี้ใครจะทำตัวปรกติได้กันล่ะ




“ของหวานมาแล้ว” เซฮุนเอ่ยในระหว่างที่บริกรสาววางขนมลงบนโต๊ะ ชิ้นแรกเป็น ตอร์ตต้า หรือทาร์ก มะนาว แพนนาคอตต้า และปิดท้ายด้วยทีรามิซู ทีรามิซูชิ้นโตสีน้ำตาลเข้มดูน่าอร่อย มันทำให้แบคฮยอนนึกถึงเพื่อนตัวโตของเขา ปาร์คชานยอลชอบกินของหวาน โดยเฉพาะเค้กรสกาแฟ เจ้านั่นก็น่าจะชอบทีรามิซู




แบคฮยอนไม่ต้องรอให้ใครสั่งเขาก็จิ้มส้อมลงไปที่เจ้าเค้กทีรามิซูชิ้นนั้น แล้วเมื่อได้ทานเขาก็พบว่ามันอร่อยจริงๆ




“ผมอยากสั่งทีรามิซูกลับ ที่นี่เราสั่งได้ไหมฮะ” แพคฮยอนหันไปถามคริส ชายหนุ่มยิ้มกลับพร้อมพยักหน้า



“ท่าทางจะอร่อยมากซินะ ถึงจะสั่งกลับบ้านด้วยเนี่ย”



“อยากเอาไปฝากเพื่อนฮะ เขาชอบกินเค้ก”



“ชานยอลฮยองเหรอฮะ” เซฮุนถามแทรกขึ้นมาด้วยความสนใจ แพคฮยอนก็พยักหน้าตอบ



“พี่ชานยอลเป็นเพื่อนสนิทพี่แพคกี้ฮะ” เซฮุนหันไปเล่าให้คริสฟังบ้าง ชายหนุ่มร่างสูงพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันมาถามแพคฮยอน



“คนสูง ๆ ที่เดินด้วยกันบ่อยๆ น่ะเหรอ” แบคฮยอนทำตาโตเท่าที่ตาเล็ก ๆ จะโตได้เพราะเขาไม่คิดมาก่อนว่าคริสจะเคยสังเกตเห็นเขา



“เออ ฮะ”



“ฮยองเห็นนาย กับเพื่อนที่ร้านกาแฟบ่อยๆ” แบคฮยอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อได้ฟัง พลางคิดว่าไอ้แผนที่อุตสาห์ไปส่องคริสฮยองที่ร้านกาแฟทุกเช้ามันได้ผล อย่างน้อยถึงไม่เคยคุยกันตอนนั้น คริสฮยองก็จำเขาได้



“แบคฮยอนกับเพื่อนดูสนิทกันดีนะ ตอนแรกฮยองยังนึกว่าเป็นแฟนกัน”



เคร้ง!!! ส้อมเล็กในมือของแพคฮยองร่วงจากมือทันทีที่ได้ยิน คนทั้งโต๊ะหันมามองเขา แพคฮยอนได้แต่ทำหน้าเหรอหราขอโทษขอโพยไป



นี่เขากับเจ้าโย่งนั้นดูคล้ายแฟนกันจริง ๆ เหรอ แล้วตกลงไอ้แผนไปส่องที่ร้านกาแฟนี่มันได้ผลไหมเนี่ย ถ้าเซฮุนไม่ช่วยแนะนำเขากับคริสฮยอง คริสฮยองก็คงคิดว่าเขาเป็นแฟนไอ้โย่งชานยอลต่อไปน่ะซิ




“ตอนแรกผมก็คิดว่าแพคกี้ฮยองกับชานยอลฮยองเป็นแฟนกัน แต่ไม่ใช่หรอกเน้อ ตอนนี้แพคกี้ฮยองชอบเก่อนี่หนา” หวงจื่อเถาที่เงียบมาตลอดแทรกมา ซึ่งนั่นก็ทำให้บยอนแบคฮยอนแทบแทรกแผ่นดินหนีเข้าไปใหญ่ ใครสั่งใครสอนให้ไอ้หนุ่มนี่มันพูดตรงขนาดนี้




“จื่อเถา~~” แบคฮยอนเอ่ยเรียกเบาๆ เหมือนจะห้าม แก้มของเจ้าตัวร้อนจนแทบสุก หากแต่คนที่ถูกพาดพิงว่าอีกฝ่ายชอบกลับนั่งนิ่ง และยิ้มบางๆ เท่านั้น



แบคฮยอนหันไปเหลือบมอง เขาไม่รู้ว่าเขาอยากได้ปฏิกริยาแบบไหนจากคริสฮยอง แต่ไม่ใช่การนั่งนิ่งๆ แบบนี้แน่ เพราะมันทำให้เขาชักเดาใจอีกฝ่ายไม่ถูก

TBC.










 

Create Date : 30 กันยายน 2555
0 comments
Last Update : 30 กันยายน 2555 23:03:31 น.
Counter : 2503 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Angels Midori
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Angels Midori's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.