Group Blog
 
 
มกราคม 2555
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
1 มกราคม 2555
 
All Blogs
 

[KyuMin SF]Follower….Love



Titile: Follower….Love
Author: Angel Midori
Genre: Romantic
Rating: PG
Pairing: KYUMIN
Note : ฟิค SJ และ Y ค่ะเผื่อใครหลงเข้ามา..


************************************

(พลาด)


ผมพิมพ์ข้อความส่งลงในโปรแกรมแชทชื่อดังในไอโฟนของผม และเพียงสักพักเดียวผมก็ได้รับข้อความตอบกลับมาชนิดทันใจ


(อ่อน!)


(เชี่ย ชางมิน อย่าย้ำกรู)


(ก็จริงไหมล่ะเมิง เมิงพยายามมากี่ครั้งแล้ว)


(ก็กรูไม่กล้า)


(อ่อน อ่อน อ่อน)


(เชี่ย!)


ผมปิดหน้าจอไอโฟนลงทันที และจับมันยัดลงกระเป๋ากางเกงลวก ๆ ด้วยความหงุดหงิด ที่เพื่อนมันไม่เข้าใจผม


มันพูดหน่ะง่าย แต่ไอ้ผมคนปฏิบัติหน่ะมันยาก ...............
ผมลากเท้ามานั่งที่ริมสระว่ายน้ำบริเวณฟิตเนทของคอนโดมีเนี่ยมของผม และกดเข้าโปรแกรมทวิตเตอร์เพื่อนั่งไล่อ่านไทม์ไลน์ที่วิ่งอยู่แก้เซ็ง

หากแต่เมื่อผมเริ่มไล่สายตาข้อความใหม่ที่เข้ามานั้นมันทำให้ผมใจเต้นโครมคราม

Myblacksmile : @AllRiseSilver อึนฮยอกอ่า นายลองไอศครีมรสแตงโมตัวใหม่หรือยัง ฉันเพิ่งไปซื้อมากินอร่อยมากอ่ะ


ข้อความนั้นสว่างวาบโดดเด่นขึ้นมาเหนือกว่าข้อความอื่นในไทม์ไลน์ของผม ผมจินตนาการถึงคนที่ทวิตข้อความนี้เขาพูดประโยคเดียวกับที่ทวิตมามันคงน่ารักเอามาก ๆ


ผมก็ได้แต่คิดนั่นแหละ เมื่อกี้ตอนเจอกันที่คอนวิเนี่ยนสโตร์ใต้คอนโดผมยังไม่กล้าทักเขาเลย


ไม่กล้าทักทั้งๆ ที่พยายามมาหลายหน


และก็โดนเพื่อนสนิทอย่าง ชิมชางมิน ด่าแล้วด่าอีก และบ่นผมว่าลุ้นจนเหนื่อย

คน ๆ นั้น เขาชื่อ “ลีซองมิน” ผมเจอเขาครั้งแรกที่บริษัทของผม เขาเป็นเพื่อน กับเพื่อนร่วมงานที่ไม่ค่อยสนิทกันสักเท่าไหร่ ของผม เจ้าของทวิตเตอร์ @AllRiseSilver ที่คนน่ารักเขาทวิตหานั่นแหละครับ


เจอกันครั้งแรกก็โดนใจผมเข้าจัง ๆ ซองมินเขาน่ารัก ยิ่งน่ารักมากเวลายิ้ม หรือหัวเราะ ผมแอบมองเขาผ่านพาร์ทติชั่นที่กั้นระหว่างผมกับอึนฮยอกที่อยู่อีกแถว ตอนนั้นผมคิดว่าผมก็คงได้แต่แอบมอง หากแต่พระเจ้าก็เหมือนเป็นใจให้กับผม เพราะในระหว่างที่ผมเจออึนฮยอกในห้องกาแฟ แล้วเราคุยเรื่อยเปื่อย เขาก็บอกว่าเพื่อนสนิทของเขาอยู่คอนโดเดียวกับผม เพื่อนสนิทที่มาหาเขาเมื่อสองวันก่อน เพื่อนที่ชื่อ “ลีซองมิน”


ไม่บังเอิญ ก็ฟ้าเป็นใจล่ะวะ


พอรู้ชื่อเสียงเรียงนามแล้ว ผมก็แอบเข้าไปเช็ค follower ใน twitter ของอึนฮยอก แล้วก็เจอเขา


ภาพดิสเพลย์ที่เจ้าตัวยิ้มหวาน และดูเหมือนถ่ายในรถ มันทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้


ผมกด follow เขาทันที เพราะซองมินไม่ได้ล็อคเอาไว้ ผมคอยตามอ่านชีวิตประจำวันของซองมิน และเมื่อไหร่ที่ผมเห็นซองมินทวิตคุยกับคนอื่นว่าเขาจะลงมาฟิตเนตบ้าง ซื้อของบ้าง ผมก็จะรีบลงตามมาทันที


ดูโรคจิตใช่ไหมครับ แต่ที่ผมตั้งใจตามซองมินลงมา ก็เพื่อจะหาโอกาสได้ทำความรู้จัก พูดคุยกับเขา หากแต่จนป่านนี้ผมก็ยังไม่กล้า


เมื่อไหร่พระเจ้าจะบันดาลความกล้ามาให้ผมเสียที........
ผมกดปิดหน้าจอไอโฟน และก้าวเท้าเดินขึ้นลิฟท์ไปด้วยใจหดหู่


เอาไว้คราวหน้าคงยังไม่สายไปใช่ไหมครับ


>>>Follower….Love<<<


“เออ ๆ รู้แล้ว” ผมกรอกเสียงส่งไปยังปลายสายที่เป็นเพื่อนสนิทของผม ซึ่งมันมาย้ำถึงสถานที่นัดดื่มตามประสาชายโสดของพวกเรา


และในระหว่างที่คุยอยู่ ผมก็กรอกสายตาไปยังชั้นวางสินค้า พลางนึกว่ามีอะไรที่ผมจำเป็นต้องซื้อบ้าง และเมื่อผมเดินพ้นมุมชั้นวางขนบขบเคี้ยว ผมก็เห็นเขา.........

ผมเห็นลีซองมินยืนก้มๆ เงยๆ อยู่แถวชั้นวางอาหารแห้ง ใจผมเต้นแทบกระเด็นจากอก



‘เอายังไง เอายังไงดี ผมจะทำยังไงถึงจะคุยกับซองมินได้’


ซองมินมองสำรวจไปทั่วชั้นวางของ เขาโคลงศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป ผมรีบเร่งฝีเท้าตามเขาไปจนถึงที่เคาท์เตอร์จ่ายเงินทันที


“ไม่มีไข่ไก่เลยเหรอฮะ”


“หมดพอดีครับ พรุ่งนี้ถึงจะเข้ามาใหม่” ซองมินทำสีหน้าผิดหวังก่อนเขาจะเลื่อนถุงน้ำตาล กับนมไปให้พนักงานคิดเงิน


“ว่าจะทำขนมสักหน่อย แต่ไม่มีไข่คงต้องเก็บไว้ทำพรุ่งนี้” เขาคุยกับพนักงานดูท่าทางสนิทสนมกันดี และผมก็เห็นว่าสีหน้าของซองมินดูผิดหวังมาก


เห็นแล้วสงสารแทบจะขาดใจ จะว่าผมเวอร์ก็ได้เอ้า!


“เออ คุณใช้เยอะไหมครับ” ไม่รู้อะไรดลใจผมให้เอ่ยปากโพล่งขึ้นมา พอนึกได้ผมก็อุดปากตัวเองไม่ทันเสียแล้ว


คนน่ารักทำสีหน้างง ๆ แล้วก็ยิ้มหวานให้ผม “ไม่เยอะครับ สักสองสามฟองก็พอแล้ว”


ยิ้มแบบนี้มันทำให้ผมช็อคเอาง่ายๆ เลยนะครับ


ผมพอจะจำได้ว่าผมมีไข่เหลืออยู่ในตู้เย็นหลายใบอยู่ เพราะผมเพิ่งซื้อเอาไว้ใส่เวลาต้มรามยอนกิน ผมเลยรีบกระตือรือล้นตอบคนน่ารักไปทันที


“ผมมีอยู่หลายใบ ถ้าคุณต้องการ เอาที่ผมก็ได้นะครับ”


“ไม่ดีกว่าฮะ เกรงใจคุณ”


“ไม่เป็นไรครับผมซื้อไว้เยอะ เหลือกินอยู่แล้ว”


ซองมินยืนขมวดคิ้วมุ่น จนน่าเอานิ้วไปกดที่หัวคิ้วนั่น และผมเองก็พยายามส่งสายตาไปตื้อเขาให้เขารับความช่วยเหลือของผม



“ผมมีเยอะครับ ถือว่าช่วยเอาไปกินก่อนมันจะเน่าคาตู้ของผม ก็แล้วกันครับ”


“เออ ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ” ซองมินตอบตะกุกตะกัก แล้วค่อยๆ โค้งขอบคุณผมด้วยท่าทางน่ารัก (จริงๆ มันก็ท่าทางธรรมดา แต่ผมว่าน่ารักของผม)


“ไม่เป็นไรครับห้องของคุณอยู่ชั้นไหนครับ ผมจะได้เอาไปให้”


“ไม่เป็นไรฮะ เดี๋ยวผมไปเอาที่ห้องของคุณดีกว่า”


“ผมเอาไปให้ดีแล้วครับ” ผมพยายามโชว์แมนต่อ


“เกรงใจคุณมากครับให้ผมไปที่ห้องคุณดีกว่า” เราสองคนเกี่ยงกันอยู่พักใหญ่ไม่รู้ว่าซองมินกลัวผมหรือเปล่า ทำยังไงก็ไม่ยอมให้ผมไปที่ห้องของเขา ผมเลยต้องยอมพาคนน่ารักไปที่ห้องของผมแทน


เสียแผนไปเล็กน้อย เพราะผมวางแผนที่จะได้รู้ว่าเขาพักอยู่ห้องไหน



ในลิฟท์แคบๆ ที่มีผมกับซองมินยืนอยู่สองคน มันดูอึดอัดขัดเขินแปลก ๆ ผมอยากจะเอ่ยปากคุยกับเขา แต่ก็ไม่รู้จะคุยอะไร ผมทำได้แต่แอบมองเสี้ยวหน้าของซองมินที่ยืนมองเลขชั้นที่


เปลี่ยนไปเรื่อยๆ อยู่


“เออคุณ?”


“ครับ”


“เออ คุณชื่ออะไรฮะ”


“อ๋อ ผมโจวคยูฮยอนครับ”


“ผมลีซองมินฮะ” กลายเป็นซองมินเสียอีกที่ชิงแนะนำตัวตัดหน้าผม ผมทำได้แต่เกาหัวแก้เก้อ ตอนที่มองหน้าเขาที่ยิ้มให้ผมอยู่


เสียงประตูลิฟท์เปิดขึ้นมา เหมือนช่วยให้ผมลดความอึดอัด ที่ทำอะไรไม่ถูก และผมก็เดินนำเขาออกมาจากลิฟท์


“คุณลีอยู่ชั้น 7 ใช่ไหมครับ”


ซองมินกดหัวคิ้วเหมือนสงสัยว่าทำไมผมรู้ ผมเลยต้องรีบตอบแก้ความสงสัย กลัวเขารู้ครับว่าผมแอบตามเขาอยู่


“เออผมเหมือนเคยเจอคุณในลิฟท์หน่ะครับ”


“อ๋อ ใช่ฮะผมอยู่ชั้น 7 เออเรียกผมว่าซองมินก็ได้นะฮะ”


“ครับ” ผมรับคำและส่งยิ้มให้ ผมดีใจที่ได้เรียกชื่อเขาเสียที หากแต่ผมก็โลภที่อยากเรียนขานเขาด้วยสรรพนามหวานๆ กว่านี้ เช่นที่รัก อะไรแบบนี้



ผมเดินนำคนน่ารักมาถึงห้องที่ชั้น 13 ของผม ผมเชิญชวนซองมินให้เข้าไปในห้องของผม แต่เขาก็ปฏิเสธ ช่างน่ารักนักที่รู้จักระวังเนิ้อระวังตัวแบบนี้
ผมเดินเข้าไปในห้องและกวาดไข่เกือบหมดตู้มาให้ซองมิน
และเมื่อเขาเห็นเขาก็แทบจะคืนผม ซองมินบ่นว่ามันเยอะเกินไป แต่ผมก็ตื้อจนในที่สุดเขาก็ยอมรับมัน



ผมเดินมาส่งซองมินถึงหน้าลิฟท์ เขายิ้มกว้างจนเห็นฟันกระต่าย และมองผมด้วยแววตาเป็นประกาย ยิ้มแบบที่ผมเห็นเขาครั้งแรก ยิ้มแบบที่ทำให้ผมตกหลุมรัก


ประตูลิฟท์ปิดไปแล้วผมก็ยังยิ้มค้างให้ประตูลิฟท์อยู่



@PrinceShim ชางมินกรูได้คุยกับเขาแล้วนะโว้ย


>>> The Follower<<<


เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้นในระหว่างที่ผมกำลังดูละครหลังจากปฏิเสธปาร์ตี้หนุ่มโสดคืนนี้ไป



คืนนี้ผมไม่อยากไปไหนเพราะผมยังดื่มด่ำกับความสำเร็จเล็กๆ เมื่อเย็นอยู่ ความสำเร็จที่มาแบบไม่ทันตั้งตัวอีกด้วย


ชีวิตประจำวันของโปรแกรมเมอร์อย่างผม นอกจากทำงานก็มีเล่นเกมส์บ้าง และก็ดูละครหลังข่าวแก้เหงาบ้างนิด ๆ หน่อยๆ ไอ้เพื่อนผมมันหาว่าผมติดละครเหมือนพวกแม่บ้าน ผมไม่ได้ติดนะครับ ผมกล้าบอก ผมแค่ดูแก้เหงาก็แค่นั้น



ผมเดินไปที่หน้าห้องหลังจากได้ยินเสียงกริ่ง และกดอินเตอร์คอมดูหน้าคนที่มารบกวนเวลาดูละครของผม ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าใครจะมาหาผมเวลานี้ได้ แล้วถ้าเป็นไอ้พวกเพื่อนของผมมันจะขึ้นมาบนตึกได้อย่างไร


“ใครครับ” ผมเอ่ยปากถามกับจออินเตอร์คอม ก่อนที่จะเห็นภาพผู้มาเยี่ยมยามวิกาลของผม

ใบหน้าแฉล่มของคนน่ารักชั้น 7 ที่ผมเพิ่งไปยืนส่งเขาที่หน้าลิฟท์โผล่มาบนจอนั้น เขากำลังส่งยิ้มให้กับผม


“มีอะไรหรือเปล่าครับซองมิน” ผมถามเขาตะกุกตะกัก


“ผมเอาขนมมาฝากฮะ” คนน่ารักพูดพร้อมชูห่อขนมในมือ ผมรีบเสยผมลวก ๆ ให้พอเป็นทรง และรีบวิ่งไปเปิดประตูให้กับคนน่ารัก


“ขนมฮะ ถือว่าใช้หนี้ค่าไข่ด้วยขนมแล้วกันนะฮะ” ซองมินยิ้มหวานและยื่นถุงคุกกี้ให้กับผม


ผมพยายามทำตัวเองให้นิ่งสะกดความลิงโลดในใจ และยื่นมือไปรับของจากซองมิน “ขอบคุณนะครับ ไม่เห็นต้องยุ่งยากเลย”


“เล็กน้อยฮะ ผมรบกวนคุณมากกว่าเสียอีก”


ผมยิ้มกว้างกับคำพูดน่ารักพวกนั้น ก่อนจะก้มไปมองถุงใสที่บรรจุคุกกี้เรียงกันจนเต็มถุง

“นี่ซองมินทำเองหรือครับ”


“ฮะ”


ดูซิครับนอกจากหน้าตาหวานน่ารักแล้ว ยังเป็นแม่ศรีเรือนอีกต่างหาก


“คุกกี้หน้าตาน่าทานมากนะครับ”


“ขอบคุณฮะ เออผมขอตัวก่อนแล้วกันนะฮะ”คนน่ารักยิ้มทั้งตาทั้งปากก่อนจะโบกมือลาผม ใจนึงก็อยากจะรั้งเขาไว้ แต่อีกใจก็บอกผมว่าให้ใจเย็นๆ ไว้ก่อน รุกมากเดี๋ยวเขาจะไหวตัวทัน



ผมมองส่งซองมินไปจนสุดสายตา ก่อนจะยกถุงคุกกี้ขึ้นมาดู



คุกกี้ถุงนี้ผมจะเก็บเอาไว้บูชาเลยล่ะครับ

>>>Follower….Love<<<


ถึงแม้ตอนนี้ผมจะได้มีโอกาสทำความรู้จักกับซองมินแล้ว แต่ผมก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ผมยังคอยเช็คทวิตเตอร์ของเขา บ่อยครั้งที่ผมยังแอบลงไปดักเจอซองมินถ้ารู้ว่าเขาลงไปซื้อของ หรือไปฟิตเนต



เราคุยกันบ่อยขึ้น และนิสัยของเขาก็น่ารักอย่างที่ผมคิดเอาไว้ไม่ผิด แต่ผมไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำยังไงให้ซองมินรู้ว่าผมชอบเขา



“อ้าวคยูฮยอน” ซองมินทักผมเสียงดังในระหว่างที่ผมกำลังนั่งเพลินๆ อยู่ในฟิตเนต ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้หรอกว่าเขาจะมา เพราะรู้นั่นแหละครับถึงได้มา คนอย่างผมไม่ได้ขยันสักเท่าไหร่ที่จะมาออกกำลังกาย


“สวัสดีครับ”

“มาออกกำลังกายเหรอฮะ” คนน่ารักเดินมานั่งข้างๆ ผม เขาใส่เสื้อกล้ามตัวหลวมกับกางเกงวอร์มที่พร้อมจะออกกำลังกายแล้ว


ซองมินกับเสื้อกล้าม ใจสั่นเลยซิเฮ้ย!


“ครับ”


“ดีจัง ผมจะได้มีเพื่อน ไปขี่จักรยานกันดีไหมฮะ” ซองมินยิ้มน่ารักให้กับผม และก็พยักหน้าเป็นเด็ก ๆ ชวนผมไปขี่จักรยาน

เอาก็เอาว่ะ เหนื่อยก็ยอมแล้ว


ครึ่งชัวโมงกับความพยายามของผม เหนื่อยสาหัสทั้งผมและก็ซองมิน คนน่ารักเหงื่อโทรมกายไม่ต่างจากผม ขนาดหัวเปียก ๆ เขายังดูน่ารักเลย ซองมินยืนปากแดง สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ อยู่


จิตใจด้านเลวของผม บอกกับผมว่าตอนนี้เขาน่าจับปล้ำจูบแรง ๆ นัก


แต่จิตใจด้านสุภาพบุรุษของผม ทำให้ผมดึงผ้าขนหนูจากคอออกมาซับเหงื่อให้กับซองมิน เขาทำสีหน้าตกใจ ตอนสัมผัสนิ่มของเนื้อผ้าซับที่หน้าผากของเขา


แต่ผมก็พยายามยิ้มเรียบ และปฏิบัติให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด


“เออไม่เป็นไรฮะ” ซองมินจับข้อมือผมยั้งไว้ ผมเลยดึงมือของตัวเองออก


“เหงื่อออกเยอะเลยนะครับ”


“คยูฮยอนก็เหมือนกันฮะ คยูฮยอนเช็ดตัวเองก่อนดีกว่า”ซองมินพูดพร้อมกับเอาผ้าขนหนูของเขาซับเหงื่อที่หน้าผากเล็ก ๆ ของตัวเอง


ผ้าขนหนูสีฟ้าอ่อนเนื้อนิ่ม เวลาซองมินเอามาประกบที่แก้มกลม มันยิ่งทำให้เขาเหมือนกับเด็กมากเหลือเกิน


“คยูฮยอนไปซาวด์น่ากันไหมครับ”


“ห๊ะ”


“ไปซาวด์น่ากันไงฮะ จะได้สบายตัว” ซองมินยืนยิ้มสวย แต่ใจผมหน่ะมันเต้นจนแทบหลุดจากอก



ผมกับซองมินในห้องซาวด์น่าสองคน





ผมนั่งเกร็งอยู่ในซาวด์น่า นั่งรอคนตัวเล็ก และพยายามทำสีหน้าให้นิ่งที่สุด สงบที่สุด และหล่อ


ซองมินก้าวเข้ามาในห้องด้วยผ้าขนหนูที่คาดเอวเอาไว้ เขายิ้มน่ารักก่อนจะพาตัวเองมานั่งตรงข้ามผม เขาตักน้ำราดถ่านที่ให้ความร้อนเบาๆ


ผมนั่งมองสิ่งที่ซองมินทำด้วยความรู้สึกวูบไหว เวลาตกหลุมรักใครสักคน หัวใจช่างทำงานหนักเหลือเกินนะครับ



“จริงๆ ผมไม่ค่อยชอบออกกำลังกายเท่าไหร่ ผมเลยชอบนั่งในซาวด์น่าให้เหงื่อออกมากกว่า”ซองมินหันมาคุยกับผม


“ผมเองก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายครับ”


“เหรอฮะ แต่ถ้าพอจะมีเพื่อนมาออกกำลังกายก็ดีหน่อยนะฮะไม่เหงาดี”


“ครับ”


ซองมินพยายามนั่งติดชิดพนังห้องเพื่อให้เท้าของเขาลอยจากพื้น แล้วก็แกว่งเท้าเล่น เขายิ้มกว้างราวกับเรื่องที่เขาทำอยู่เป็นเรื่องสนุกเหลือเกิน



ผมเองก็ลอบมองและยิ้มไปด้วย ลีซองมินตัวขาวๆ แต่เมื่อยามโดนความร้อนของไอน้ำ ทำให้เขาตัวแดงแก้มแดงไปหมด จนผมอดเขินไม่ได้ยามที่มองเขา ผมลุกจากฝั่งตรงข้ามไปนั่งเคียงกับซองมิน และเจ้าตัวก็หันมามองผมตาปริบ ๆ



เอาไงดีว่ะผม จะพูดกับเขายังไงดี


“เออ......ซองมินครับ”


“........” คนตัวเล็กเขาหันหน้ามาทำตาแป๋วใส่


“เออ..........ถ้าวันหลังซองมินจะมาฟิตเนตชวนผมมาเป็นเพื่อนก็ได้นะครับ”


ให้ตายเหอะผมพูดได้แค่นี้จริง ๆ ทั้งๆ ที่ในใจมันเรียกร้อง อยากให้บอกเขาว่าผมชอบเขา อยากจะคบหากันในฐานะที่เกินกว่าเพื่อน


ซองมินส่งยิ้มให้ผม ยิ้มในแบบของเขา


“ขอบคุณฮะ”

เอาเหอะครับแค่นี้ก็แค่นี้ อย่างน้อยมันก็พัฒนาความสัมพันธ์ของเราเพิ่มขึ้นมาอีกนิดนึงมั่ง


>>>Follower….Love<<<


“ไปถึงไหนแล้วว่ะมึง” ไอ้ชางมินอยู่ดีๆ มันก็ถามผมขึ้นมาในระหว่างที่เรายืนซื้อกาแฟกันอยู่


“อะไรของมึง”


“ก็มึงกับเพื่อนของอึนฮยอกไง ถึงไหนกันแล้ว”


ผมคว้าแก้วกาแฟที่บาลิสต้าเพิ่งวางให้ผม ก่อนจะเดินนำไอ้เพื่อนร่างโย่งออกไปจากร้าน


“ก็เหมือนเดิม ส่วนใหญ่ก็เจอกันที่ฟิตเนต”


“เขารู้หรือยังว่ามึงจีบเขา”


ผมส่ายศีรษะเบาๆ ผมเดาเอาว่าซองมินคงไม่คิดว่าผมจีบเขาอยู่แน่ๆ เพราะสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อผมมันก็เหมือนเพื่อนทั่วๆ ไป ผมเองก็พยายามจะดูแล เทคแคร์เขา แต่ก็ดูเหมือนซองมินจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมปฏิบัติอยู่


“มึงไม่ชัดเจนหรือเปล่า”


“ชัดเจน? แค่ไหนว่ะถึงจะชัดเจน”


“มึงก็ต้องรุกกว่านี้ไง”


“มึงพูดก็ง่ายซิ”


ไอ้รุกกว่านี้อย่างกับทำได้ง่ายๆ ผมไม่รู้เลยว่าเขาจะคิดยังไงถ้ารู้ว่าผมกำลังจีบเขา ผมเดาซองมินไม่ออกเลย


“มึงก็หัดชวนเขาไปเที่ยวบ้าง ดูแลเทคแคร์ เดี๋ยวเขาก็คงรู้ตัว เพราะอยู่ดีๆ จะมีเพื่อนผู้ชายที่ไหนที่ปฏิบัติแบบนี้ให้กัน ถ้าไม่คิดอะไร”


“กูไม่แน่ใจว่าเขาจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่ากูชอบเขา”


“ปรกติมึงไม่ป๊อดนะคยู”


“ใครอยากป๊อดว่ะ”


“อย่าไปกลัวเพื่อน ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว มึงไม่ลุยมึงก็ไม่ได้นะ”


ไอ้โย่งหน้าหล่อมันตบไหล่ผม ป๊าบ ๆ แบบไม่กลัวผมเจ็บ แต่ที่มันพูดมันก็จริงอย่างที่สุด



>>>Follower….Love<<<


“นี่ครับซองมิน” ผมคีบบูลโกกิลงไปในจานของคนน่ารัก เจ้าตัวทำหน้างง ๆ ตอนที่เห็นหมูชิ้นนั้น แต่ผมก็พยายามหน้าด้านยิ้มส่งไปให้แบบชิล ๆ



วันนี้ผมชวนซองมินออกมากินข้าวเย็นด้วย นี่เป็นหนึ่งในความพยายามของผมในการจีบเขาตามคำแนะนำของชางมิน เมื่อเย็นผมพยายามที่ทำเหมือนบังเอิญเจอซองมินที่ใต้ตึกแล้วชวนเขาออกมา เพราะรู้มาว่าเขานัดกับอึนฮยอกจะไปหาอะไรกินกัน แต่ว่าเพื่อนร่วมงานของผมมันเบี้ยวนัดคนน่ารัก ผมเลยถือโอกาสนี้สวมรอยเสียเลย


“อิ่มแล้วเราไปเดินเล่นกันดีไหมครับ”


“เดินเล่น?”


“ครับแถวๆ นี้แหละ”


“ก็ได้ฮะ” ซองมินอมยิ้มจนแก้มป่อง แล้วเขาก็คีบเนื้อหมูกินต่อ ส่วนผมก็คิดแผนต่อไปว่าเดทแรกของเรา (ที่ซองมินไม่รู้ด้วย) ผมจะทำยังไงให้เขาประทับใจ



หลังทานอาหารกันจนอิ่มท้อง ผมก็เรียกรถพาเราไปบริเวณริมแม่น้ำ ผมพาเขาเดินลัดเลาะไปจนถึงสะพานบันโป อยู่โซลมาทั้งชีวิตเพิ่งได้มีโอกาสมาดูสะพานสายรุ้งนี่กับตา


ซองมินยิ้มกว้างระหว่างที่เห็นสะพานสายรุ้งปล่อยสายน้ำปะทะกับแสงสีที่สวยงาม เขาเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูป ผมเลยถือโอกาสชวนเขามาถ่ายรูปกับผมด้วย รูปคู่รูปแรกของเราสองคน



เราสองคนนั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยหลังจากนั้น ซองมินคุยเก่งกว่าที่ผมคิด เมื่อก่อนผมต้องพยายามชวนเขาคุย ทั้งๆ ที่ผมเองก็ไม่ใช่คนช่างคุยเหมือนกัน



ซองมินคุยเรื่องงานของเขา ซึ่งเป็นเลขาของผู้บริหารบริษัทญี่ปุ่น เขาแอบนินทาเจ้านายชาวญี่ปุ่นของตัวเองและหัวเราะคิกคัก ผมนั่งฟังเขาคุยแล้วยิ้มตาม



ความสุขแบบที่ผมใฝ่หาเป็นแบบนี้นี่เอง



“กลับกันเหอะคยู ดึกแล้ว”


“ครับ” ผมตอบรับแม้จะเสียดายช่วงเวลาดี ๆ แบบนี้ เราสองคนเดินคุยกันมาเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน หากแต่สักพักก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาหาซองมิน



คนน่ารักคุยหัวเราะสดใสกับปลายสาย ผมไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครแต่ก็อดอิจฉาถึงความสนิทสนมนั้นไม่ได้



“อืม กำลังเดินกลับคอนโด อยู่กับคยูฮยอน”


หูผมกระดิกเลยล่ะครับเมื่อบทสนทนามีชื่อของผมขึ้นมา ใครกันที่ซองมินคุยด้วยแล้วรู้จักผม



“โอเค ๆ แค่นี้แล้วกันนะ”



“ซองมินคุยกับใครครับ” พอซองมินกดวางหู ผมก็รีบแทรกถามทันที


“อึนฮยอกไง อุ๊บ” พอซองมินตอบผมเขาทำตาโตและเอามือปิดปาก ท่าทางแปลก ๆ นั่นทำให้ผมประหลาดใจ พอๆ กับคำตอบของซองมิน



ซองมินรู้เหรอครับว่าผมกับอึนฮยอกรู้จักกัน แล้วรู้มานานแค่ไหนแล้ว


“อึนฮยอก?”



ซองมินพยักหน้า แล้วเขาก็เลี่ยงเดินนำผมไป


“ซองมินรู้ว่าผมกับอึนฮยอกรู้จักกันเหรอครับ”


คนน่ารักชะงักเท้าก่อนจะหันมามองผมแล้วกรอกตาไปมา “อือ”


“ซองมินรู้แต่แรกแล้วหรือครับ”


“ก็พอจำได้ว่าคยูฮยอนทำงานที่เดียวกับอึนฮยอก”


“ไม่เห็นซองมินบอกผมเลย”



“คยูก็ไม่บอกเหมือนกันนี่หน่า ตอนแรกคยูไม่เห็นพูดถึง เราก็เลยคิดว่าคยูอาจจะไม่รู้จักอึนฮยอก แต่ตอนหลังก็รู้ว่ารู้จักกัน”



“.......” ผมสงสายตาเป็นคำถามให้กับซองมิน ว่ารู้ได้ยังไง เขาแกล้งเดินนำผมไป แต่ก็ยังพูดอยู่



“ก็เห็นคยูทวิตคุยกับอึนฮยอก”


“อ๋อ”



“แล้วก็ถึงเห็นว่าคยูฟอล์โล่เราด้วย ฟอล์โล่มาก่อนที่เราคุยกันด้วย”


คราวนี้เป็นผมซิครับที่อึ้งไป ในหัวของผมเริ่มประมวณผลว่าจะตอบซองมินยังไงดี


“ตอนแรกเราก็สงสัยว่าทำไมคยูทำเหมือนไม่รู้จักเรา ทั้งๆ ที่ฟอล์โล่ทวิตเรา แต่ตอนหลังก็เริ่มเดาได้แล้วล่ะ”



ผมคว้ามือคนหน้ารัก พอเจ้าตัวหันมาซองมินก็ยิ้มหวานให้กับผม
ยิ้มเอาเสียผมเขินกว่าเดิม จากที่ ทั้งเขิน ทั้งอาย ทั้งทำอะไรไม่ถูกอยู่



คำพูดของซองมินมันกดดันเสียจนผมหาทางออกไม่เจอเอาเสียเลยตอนนี้



“ก็ทุกครั้งที่เราเจอกันโดยบังเอิญ มักเป็นทุกครั้งที่เราทวิตคุยกับคนอื่นว่าเราจะไปไหน”



“เอออ” ผมพูดอะไรไม่ออกได้แต่กุมมือซองมินไว้ แล้วก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมา คนตัวเล็กยังยิ้มแบบที่รู้ทันผม



“ไม่รู้มันบังเอิญไปไหม”


“ซองมิน”


คนตัวเล็กค่อยๆ ดึงมือตัวเองออกแล้วก็เงยหน้ามองผม


“คยูฮยอน จะจีบเราใช่ไหมล่ะ ถ้าจะจีบเราก็แสดงออกมากว่านี้หน่อยซิ” คนตัวเล็กหัวเราะเสียงใส ก่อนจะเดินออกไป



ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูกเอาเลย ซองมินร้ายนัก เห็นท่าทางน่ารักแบบนี้ แต่ทำเอาผมไปไม่เป็นเลยล่ะ



“แต่ถ้าไม่คิดจะจีบ ก็ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ” ซองมินป้องปากตะโกนบอกผม แต่เท้าผมก็ไปเร็วพอ ๆ กับใจ


ผมดึงรั้งคนน่ารักเข้าไปในซอกของรั่วบ้านข้างทาง
และตอนนั้นผมก็กดจูบไปที่ริมฝีปากสีแดงช่างยั่วนั้น


ซองมินทำหน้าตกใจ แต่สักพักเขาก็หลับตา เราจูบกันเบาๆ

เฟริท์คิสแบบไม่ทันตั้งตัวของเราสองคน


“นี่แสดงออกมากพอไหมครับ ถ้าผมจะจีบซองมิน” ผมกระซิบในระหว่างที่ยังแนบริมฝีปากไว้ที่มุมปากเล็ก ๆ น่ารักนั้น


คนหน้ารักทุบไหล่ผม และหัวเราะ “แสดงออกมากไป ใครอนุญาติให้ทำแบบนี้กัน”


“ก็ผมกลัวซองมินเห็นว่าผมยังแสดงออกไม่พอ”


“คนเอาแต่ใจ เจ้าวางแผน” ซองมินดันตัวผมออกจากกายเล็ก ๆ ของเขา


ผมยืนมองดวงตากลมใส ที่เป็นประกายนั่น และกดจูบเบาๆ ลงที่หว่างคิ้ว ของคนฉลาด


“ไม่ใช่ช่างวางแผน แต่ผมมันไม่กล้า”


“แล้วถ้าเราไม่เผลอพูดออกมา คยูจะบอกเมื่อไหร่ว่าจีบเรา” ผมส่ายศีรษะให้คนน่ารัก


“ไม่รู้ แต่ผมรู้ว่าอาจจะเหนื่อยวางแผนไปสักหน่อย อาจจะอ้อมค้อมไปสักนิด แต่ผมจะทำให้ซองมินรักผมจนได้”



คนน่ารักหัวเราะเสียงใส ก่อนจะดึงแก้มผม


“มั่นใจไปนะ ทีตอนแรกไม่เห็นมั่นใจแบบนี้เลย”


“แต่ตอนนี้มั่นใจมากเลยล่ะครับ”


พอพูดเสร็จผมก็รีบฟัดจูบคนน่ารักไปอีกหลายที............จนเจ้าตัวเอนซบกับอกผม จนผมต้องลูบไหล่หลังปลอบเบา ๆ


เอาเหอะครับถึงซองมินจะบอกให้ผมกล้าๆ แต่ผมก็คิดว่าวิธีของผมถึงจะวางแผนมากไปสักนิด แต่ที่ซองมินเขาใจอ่อน ยอมซบอยู่กับอกของผมแบบนี้ ก็คงเพราะวิธีอ้อมๆ แบบของผมนี่แหละครับ


ผมดึงซองมินออกจากที่ตรงนั้นเราจูงมือกันเดินกลับคอนโด เราไม่ได้คุยอะไรกัน มีแต่มองตากันแล้วยิ้ม มาถึงตอนนี้ผมคงมองเขาได้เต็มตา ไม่ต้องแอบมองแล้วใช่ไหมครับ

“ซองมินครับ”

“ฮะ”

“คุณอย่าลืมฟอลโล่ทวิตผมกลับนะครับ” ซองมินเลิกคิ้วมองผม เพราะคงสงสัยกับคำพูดนั้น

“ผมอยากให้เราทั้งคู่ฟอลโล่กันและกัน เหมือนที่ผมอยากรับรู้ทุกเรื่องของคุณ และผมก็อยากให้คุณรับรู้ทุกเรื่องของผม”

ซองมินยิ้มและพยักหน้ารับกับคำพูดนั้น


“และซองมินครับ คุณคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าผมจะจีบคุณ”


คนน่ารักหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะจับมือของผม และดึงให้มองมาที่เขา


“ถ้าจะว่า คงว่าไปนานแล้วล่ะ”


ผมยิ้มกว้างและน่าจะกว้างมากด้วยกับคำพูดนั้น ผมจับมือซองมินขึ้นมาและจุมพิตเบาๆ


ตั้งแต่คืนนี้ไป ผมคงไม่ต้องเหนื่อยที่จะวิ่งออกจากห้องมาดักรอเขา หรือวางแผนให้มันเหมือนเรื่องบังเอิญเวลาเจอกันอีกแล้ว

และต่อไปมันจะมีแต่ความตั้งใจที่ผมอยากให้เขารับรู้ว่าผมอยากพบหน้าเขา หรือทำอะไรเพื่อเขา


>>END<<



...............................................................



ถือว่าเป็น SF ฉลองวันเกิดซองมินแล้วกันนะคะ ทั้งๆ ที่เรื่องดำเนินด้วยตัวคูยอน กร๊ากกกกกกก

ขอให้มุ้งมิ้งของพี่มีความสุขมากๆ นะคะคนเก่ง ตลอดเวลาที่รู้จักกันมิ้งของพี่ไม่ทำให้พี่ผิดหวังเลย มีแต่ทำให้รักขึ้นทุก ๆ วัน








 

Create Date : 01 มกราคม 2555
2 comments
Last Update : 1 มกราคม 2555 14:35:15 น.
Counter : 2326 Pageviews.

 

 

โดย: thebe01 1 มกราคม 2555 15:39:40 น.  

 

ก็ว่าจะแอบย่องหนีออกไปแล้วนะ...
แต่ไปไงมาไงไม่รู้มา...ติดกับ...น้องมินเสียได้!!


มินมินเอ๋ย...น่ารักอย่างร้ายกาจทีเดียว
ส่วนตากี้ก็นับว่าโชคดีที่มินมินเขาหลุดปากออกมา
ไม่งั้นละก็ได้มะงุมมะงาหราไปอีกนานเลยเชียว


แต่อันที่จริงไรเตอร์น่าจะให้มินแกล้งต่ออีกนิดนะ
(เพราะเราจะได้อ่านต่ออีกยาวๆ เลยไง!!)


ขอบคุณนะ!!

 

โดย: PrinZ IP: 125.24.225.70 18 กุมภาพันธ์ 2555 22:28:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Angels Midori
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Angels Midori's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.