Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
2 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 

Yoosu Fiction[Suonare L'amore] Part 4



Suonare L'amore




Titile: Suonare L'amore Part 4
Author: Angel Midori
Genre: Romantic Drama
Rating: PG-13 - NC-17
Pairing: YooSu
Note : ฟิค TVXQ และ Y ค่ะเผื่อใครหลงเข้ามา..


************************************


“คุณยูชอนฮะ”เด็กหนุ่มเรียกหากแต่กลับทำท่าอ้ำอึ้ง จนเจ้าของมองกลับด้วยแววตาเป็นคำถาม

“ผมจะถามได้ไหมครับ ว่าทำไมคุณยูชอนถึงหยุดแสดงเปียโน ทั้งๆ ที่คุณยังเล่นมันอยู่”

เมื่อสิ้นคำถามนั้น คนที่ต้องตอบก็มองหน้าอีกฝ่ายนิ่งงัน..............


“เธอจะอยากรู้ไปทำไม”นั่นเป็นคำตอบหลังจากผ่านความเงียบของทั้งคู่ได้สักพัก

“เออ ผมแค่สงสัยน่ะครับ แต่ใคร ๆ ก็สงสัยเรื่องนี้กันนิครับ”

“นั่นเป็นเรื่องส่วนตัวของฉันตัวเล็ก”

“เออ....แต่ว่า”

“ขอโทษนะคะ ที่ดิฉันเข้ามาช้า”เสียงจากหญิงวัยกลางคน ๆ นึง ที่เดินรีบเร่งเปิดประตูเข้ามาในห้องซ้อม ทำให้คิมจุซูไม่สามารถเอ่ยคำพูดที่ติดค้างต่อได้จนจบประโยค

ปาร์คยูชอนหันไปมองผู้เข้ามาใหม่เล็กน้อยก่อนจะค้อมศีรษะให้เบา ๆ

“เชิญครับอาจารย์ฮวัง”ชายหนุ่มเอ่ยทักหญิงวัยกลางคนที่เดินเข้า เธอโค้งรับ และหันมายิ้มกว้างให้กับเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่มุมห้อง

“หนุ่มน้อยคนนี้ซินะที่ คุณยูชอนจะให้ฉันมาสอน”

“ใช่ครับ”ปาร์คยูชอนตอบ และเค้าก็หันมาหาจุนซูที่ยังคงงงกันสถานะการณ์อยู่

“นี่คุณฮวังจีซู เธอจะมาสอนวิชาพื้นฐานดนตรี และทักษะโน้ตให้กับเธอ เพราะนี่เป็นวิชาบังคับที่ทางสถาบันจะทดสอบ แล้วช่วงเย็นๆ ฉันจะกลับมาสอนไวโอลินกับเปียโนเธอเพิ่มเติมเอง”

“อ๋อ...ครับ สวัสดีครับอาจารย์ฮวัง”เด็กหนุ่มรีบเร่งกล่าวทักคนที่จะมาเป็นอาจารย์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว

“ถ้าอย่างนั้นผมฝากดูแลเค้าเด้วยนะครับอาจารย์”

“ได้เลยค่ะคุณยูชอน”หญิงวัยกลางคนยิ้มกว้างอย่างใจดี และปาร์คยูชอนก็รีบเดินออกจากห้องไป ทิ้งไว้แต่ความรู้สึกไม่สบายใจ และค้างคาใจให้แก่หนุ่มน้อย

จุนซูกลัวว่าปาร์คยูชอนจะไม่พอใจตัวเองจากคำถามที่เค้าเผลอถามเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่ายไป หากแต่จะอธิบายหรือขอโทษก็ไม่สามารถทำได้ตอนนี้ คงต้องรอให้อีกฝ่ายกลับเข้ามาสอนตัวเองอีกทีในช่วงเย็นตามที่บอก


.
.
.
.
.
การรอคอยเป็นเรื่องทรมาน และถ้าการรอคอยนั้นเป็นการรอคอยเพื่อการตัดสินโทษของตัวเองก็ยิ่งทรมานมากขึ้นไปเสียอีก

ตอนนี้คิมจุนซูรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักโทษประหาร เด็กหนุ่มนั่งจมอยู่บนเก้าอี้หลุยส์มุมห้องพร้อมทั้งกอดไวโอลินไว้แน่น เค้านั่งรอปาร์คยูชอนมาร่วมเกือบสิบนาทีแล้ว หลังจากอาจารย์ฮวังจีซูกลับไป ในระหว่างเรียนเค้าพยายามตั้งใจจำบทเรียนที่อาจารย์ฮวังสอน หากแต่ภายในใจก็ยังคงกังวลอยู่กับเรื่องตัวเองกับปาร์คยูชอน และยิ่งใกล้เวลาเค้าก็ยิ่งตื่นเต้น เมื่อคิดว่าถ้าอีกฝ่ายดุว่าเค้า ๆ เองจะทำเช่นไร หรือถ้าปาร์คยูชอนรำคาญและไม่พอใจเค้า อีกฝ่ายอาจจะเลิกสนใจ และเลิกให้การช่วยเหลือตัวเองก็ได้

คลิ๊ก..................

เสียงหมุนลูกบิดเบาๆ ทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้ง และจับจ้องไปที่บานประตูไม้อันใหญ่ ชายหนุ่มที่ตอนนี้สวมเพียงเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์สีซีดเดินเข้ามาและหันมามองเค้าเพียงเล็กน้อยก่อนจะพาตัวเองไปนั่งที่เก้าอี้หน้าแกรนด์เปียโน

“อาจารย์ฮวังบอกฉันว่า เธอมีปัญหาเรื่องการอ่านโน้ตอยู่บ้าง”

“เอออ...ฮะ”เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินคำพูดโผล่งมาจากชายสูงวัยกว่า และเมื่อเรียบเรียงคำพูดได้แล้วเด็กหนุ่มตัวเล็กก็ก้มหน้าและพยักหน้าเบาๆ

“ฮะ ผมอ่านโน้ตได้ช้า ปรกติเวลาเล่นผมใช้จำเอาฮะไม่ค่อยได้อ่านโน้ต”

ปาร์คยูชอนเลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วก็จ้องไปที่ว่าที่ลูกศิษย์ที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่

“นี่ตัวเล็ก จะก้มหน้าคุยกับฉันทำไม ฉันไม่ได้ว่าอะไรเธอ แล้วปรกติถ้าเธอไม่อ่านโน้ตเธอใช้วิธีจำเอาเหรอไง”

“ใช่ฮะ”คิมจุนซูเงยหน้าขึ้นมาทันทีที่ถูกทัก แล้วก็พยักหน้าหงึกหงักตอบรับอีกฝ่าย

“ผมใช้ฟังเสียงแล้วจำเสียงเอาครับ และก็เอามาเล่นหาเสียงดู แล้วพอเล่นได้ทั้งเพลงผมก็พยายามเล่นมันซ้ำ ๆ ให้จำวิธีจับสายให้ได้อะครับ”

คำตอบของเด็กหนุ่มไม่ได้แปลกเกินกว่าที่ปาร์คยูชอนจะคาดคิด เค้าคิดมาบ้างเหมือนกันว่าอีกฝ่ายคงฝึกการเล่นมาแบบมวยวัดแบบนี้ หากแต่เมื่อคิดว่าเด็กคนนี้ใช้วิธีนี้ในการเล่น และจำเพลงคลาสสิคยาก ๆ ได้ เด็กคนนี้ยิ่งไม่ธรรมดาใหญ่สำหรับเค้า

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะลองดีดเปียโนให้เธอฟัง แล้วให้เธอลองสีไวโอลินให้ตรงกับที่ฉันเล่น เธอคิดว่าเธอจะทำได้ไหมตัวเล็ก”

“เออ ผมคิดว่าผมทำได้ครับ”

“ถ้าอย่างนั้นลองดู” ปาร์คยูชอนกล่าว พร้อมกับหันหน้าเข้าหาเปียโน และเริ่มไล่สเกลเปียโนง่ายๆ ก่อน และนั่นก็ไม่ยากเกินไปสำหรับคิมจุนซู

ปาร์คยูชอนเปลี่ยนไปเล่นในระดับเสียงที่ยากขึ้น และไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งเด็กหนุ่มก็ใช้การฟังเพียงครั้งเดียวและสามารถเล่นได้ตรงทุกครั้ง นั่นทำให้ปาร์คยูชอนถึงกับทึ้งในพรสวรรค์ในการฟังของเด็กหนุ่มมาก ๆ

“เธอมี Perfect pitch นะตัวเล็ก”ชายหนุ่มหันมายิ้มบางๆ ให้กับลูกศิษย์ และนั่นก็ทำให้อีกฝ่ายทำสีหน้างง ๆ ใส่

“เธอเข้าใจเรื่อง Perfect pitch ไหม?”

“ผมเคยได้ยินมาบ้าง แต่ผมไม่คิดว่าผมจะสามารถทำได้”

“เธอมีพรสวรรค์มากทีเดียวนะตัวเล็ก และสำหรับเรื่องไวโอลินฉันไม่หวงเธอนักในการทดสอบ จะห่วงก็คงเรื่องอ่านโน้ตที่เธอต้องรีบทำความเข้าใจ เผื่อคณะกรรมการจะให้เธออ่านโน้ตแล้วเล่นเลย ถ้าอย่างนั้นไวโอลินเอาไว้ก่อน วันนี้ฉันจะเริ่มสอนเปียโนเธอเลยดีกว่า”ชายหนุ่มกล่าวเนิบๆ ใบหน้าที่ดูดีมีรอยยิ้มจางๆ เจืออยู่ ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกโล่งใจ

“คุณปาร์คไม่โกรธผมแล้วใช่ไหมครับ”คนถูกถามหันมามองพร้อมกับเลิกคิ้ว ด้วยความข้องใจ

“ฉันจะไปโกรธเธอทำไม”

“เออ....ก็เรื่องที่ผมถามเมื่อเช้านี้ไงฮะ ผมกลัวว่าคุณปาร์คจะโกรธผม”ชายหนุ่มทำหน้านิ่งก่อนจะกัดริมฝีปากเบาๆ เมื่อได้ยินคำกล่าวของลูกศิษย์ของเค้า

“ฉันไม่ได้โกรธ เพียงแต่เรื่องที่เธอถามฉัน ๆ ไม่คิดว่าจะต้องมาอธิบาย หรือเล่าให้ใครฟัง เธอสบายใจเหอะ ฉันลืมมันไปเสียแล้วด้วยซ้ำ”

“เออ แต่ยังไงผมก็ต้องขอโทษคุณ ที่ผมไปยุ่งเรื่องส่วนตัวคุณ”

“ฉันบอกแล้วไงว่าช่างมันเหอะ”เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก แต่ในใจก็ยังคงเต็มไปด้วยความสงสัยอยู่ดี อย่างที่ว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ยิ่งอีกฝ่ายไม่บอก จุนซูก็ยิ่งสงสัยเสียยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่คราวนี้เค้าเข็ดแล้วล่ะที่จะถาม เค้าจะลองๆ ค่อยๆ สืบหาความจริงเอาเองดีกว่า


“ลงมานั่งข้างๆ ฉันนิ ฉันจะสอนเปียโนให้เธอ”เด็กหนุ่มสะดุ้งเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงเรียกในขณะที่ตกภวังค์อยู่ และเมื่อหันไปมองก็เห็นคนเรียกตบที่เบาะนั่งตัวยาวเบาๆ ให้เค้าลงมานั่ง

“เธอเคยแตะมันบ้างไหม”เด็กหนุ่มสั่นหัวตอบโดยทันที

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะเริ่มสอนเธอตั้งแต่เริ่มแล้วกัน ชายหนุ่มพูดพร้อมทั้งกดนิ้วลงไปที่คีย์ ๆ นึง”



“นี่คือเสียง C ให้เธอจำเอาไว้ว่าเมื่อเรานั่ง คีย์ที่อยู่ตรงกลางคือเสียง C หรือไม่ก็ให้สังเกตตัวดำ เธอเห็นใช่ไหมว่า ตัวดำจะมีสอง และสาม ตัวดำ และในกลุ่มสองตัวดำจะมีด้วยกันสามตัวโน้ตคือ C D E และกลุ่มสามตัวดำจะมีสี่ตัวโน้ตคือ F G A B เธอจำได้ไหม”ปาร์คยูชอนหันหน้ามาถามลูกศิษย์ตัวเล็ก ซึ่งกำลังนั่งจ้องอย่างตั้งอกตั้งใจอยู่ เมื่อเด็กหนุ่มพยักหน้า ปาร์คยูชอนจึงลุกขึ้นมายืน

“ถ้าอย่างนั้นเธอลองมากดดูตัวเล็ก”พอได้รับคำสั่งเด็กหนุ่มก็รีบเลื่อนตัวเองไปนั่งตรงกลางคีย์แล้วทดลองทำตามบทเรียนแรกทันที

จุนซูไม่ได้ทำให้เค้าผิดหวัง เพียงแค่เริ่มหัดเล่นลูกศิษย์ของเค้าไล่สแกลได้อย่างดี รอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าทั้งศิษย์ทั้งอาจารย์ตลอดการเรียนการสอน และนั่นก็ให้ปาร์คยูชอนได้รับรู้บางสิ่ง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เค้าอคติมาตลอด นั่นคือ....การได้สอนใครสักคน มันไม่ได้แย่ และน่าเบื่อ อย่างที่เค้าเคยคิดเลย







จุนซูโยนกระเป๋าเป้ลงบนที่นอน และวางกล่องไวโอลินไว้บนโต๊ะเมื่อที่เปิดประตูห้องเข้ามา เค้ารีบพาตัวเองกระโดดลงไปนอนแผกลางที่นอนตามกระเป๋าเป้ทันที

การเดินทางจากสถาบัน YPJ ที่อยู่นอกเมืองไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่ตัวเค้าเองเคยคิดเอาไว้ จากเมื่ออาทิตย์ก่อน ผอ.สถาบันเป็นคนมารับและมาส่งเค้า แต่มาอาทิตย์นี้เค้าขอที่จะไปเอง จึงได้ลิ่มรสความเหนื่อยยากในการเดินทาง เรื่องที่เคยคิดว่าจะขออยู่บ้านแทนอยู่หอนั้นเค้าคิดจะพับความคิดนี้ลงกล่องเก็บของไปเลยทันที

พอมานึกถึงเรื่องการเรียน รอยยิ้มกว้างก็เปิดเผยขึ้นบนหน้าเด็กหนุ่ม หลังจากที่เรียนหลักสูตรเร่งรัดมาสี่วันรวมสองอาทิตย์ เมื่อตอนเย็นวันนี้ก็ถึงเวลาทดสอบของเค้า และนั่นก็เป็นโชคดีของเค้าที่การสอบไม่ได้จริงจังมากอย่างที่เค้าหวาดกลัว มีข้อสอบการอ่านเขียนโน้ตเล็กน้อยที่เค้ารู้สึกว่าไม่ถนัด แต่สำหรับการทดสอบไวโอลินนั้นเค้ารู้สึกสบายใจมาก คณะกรรมการให้เค้าเลือกเพลงที่จะแสดงเอง และเค้าก็เลือก Air on the G String เพลงที่ปาร์คยูชอนเคยขอให้เค้าเล่นในครั้งแรกที่เจอกัน และเป็นเพลงที่เค้าบังเอิญถนัดและซ้อมหนักอยู่แล้วด้วย

และเมื่อสิ้นสุดการทดสอบเค้าก็ได้รับการตอบรับเข้าเป็นนักเรียนของ YPJ Music Academy ทันที

จุนซูคิดว่าในช่วงชีวิตของคนเรามักจะมีจังหวะชีวิตที่เป็นทางแยกให้ตัดสินใจอยู่ทุกคนและครั้งนี้สำหรับเค้าก็เป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่และควรแก่การจดจำมากเหลือเกิน แต่ถึงแม้เค้าจะยินดีกับการตัดสินใจนี้เพียงไหน หากแต่เค้าก็ยังคงมีความรู้สึกเศร้าปะปนอยู่ ต่อไปเค้าจะต้องจากเพื่อนที่ร่วมเรียนด้วยกัน ซึ่งบางคนเรียนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยประถมเสียด้วยซ้ำ ต้องจากบ้านที่เค้าอยู่มาตั้งแต่เกิด และต้องทิ้งให้ปู่อยู่คนเดียวในบ้านหลังนี้อีก.......แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อเค้าเลือกที่จะฝากอนาคตของเค้าไว้ในการศึกษาที่นี่แล้ว

พรุ่งนี้ทางสถาบันจะส่งคนมาจัดการเรื่องย้ายโรงเรียนให้กับเค้า และเค้าจะต้องเข้าเรียนที่สถาบันทันทีในวันอังคาร นั่นเท่ากับว่า เค้ามีเวลาร่ำลาเพื่อน และอยู่ที่บ้านนี้อีกเพียงวันเดียว ถึงแม้จะได้บอกเพื่อนหลาย ๆ คนเอาไว้แล้วเรื่องย้ายโรงเรียน แต่มันอดใจหายไม่ได้

จุนซูค่อยๆ หลับตาลงช้า ๆ ปล่อยให้หยดน้ำตาหยดเล็ก ๆ ที่เอ่อคลอขึ้นมาที่หน่วยตาค่อยๆ ซึมไหลผ่านที่ข้างแก้ม....

“ฉันสัญญาทุกวันหยุดฉันจะกลับมาเตะบอลกับพวกนายอีกครั้งนะเพื่อน ๆ”





เสียงพูดคุยอื้ออึงดังลั่นห้องเรียนในชั่วโมงโฮมรูมยามเช้า นักเรียนส่วนใหญ่นั่งจับกลุ่มพูดคุยเรื่องทั่วไปตามปรกติเหมือนกับไม่ได้เจอกันมาแสนนาน ทั้งๆ ที่เมื่อวานก็เพิ่งจะพบหน้ากัน

“ทำไมวันนี้อาจารย์ดาวอนยังไม่เข้าว่ะ”เด็กหนุ่มร่างผอมหันไปถามเพื่อนตัวเล็กที่นั่งข้าง ๆ เค้า แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าเป็นคำตอบให้

“นั่งอยู่ด้วยกันใครจะรู้”พอได้รับคำตอบแบบนั้นคนถามจึงหยักไหล่ แล้วก้มหน้าก้มตาไปนั่งลอกการบ้านต่อ

“เค้าจะให้เราเรียนคณิตศาสตร์ทำไมอีกว่ะ ใครจะไปใช้กัน”

“ที่เค้าให้นายเรียนก็เพื่อที่จะให้นายไม่โง่ จะได้นับเลขถูกเวลาแม่ค้าทอนทอนเงินนายไง”เสียงทุ้มห้าวดังมาจากอีกด้าน ทำให้เด็กหนุ่มต้องหันไปมองต้นเสียง ก็เห็นว่าเพื่อนรักอีกคนถึงปากจะพูดแต่ก็ยังคงนั่งก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์ในมืออยู่

“ไม่ให้ลอกการบ้าน ยังจะแอบด่าอีก”

เสียงเลื่อนบานประตูอย่างรวดเร็วทำให้นักเรียนทั้งห้องพาตัวเองกลับมานั่งที่กันแทบจะไม่ทัน คิมดาวอนได้แต่ส่ายหัวเบาๆ กับความไม่เป็นระเบียงที่ไม่สามารถจะทำใจให้คุ้นชินได้เสียที

“เฮ้ย! อาจารย์มาแล้วเลิกเล่นได้แล้วเกมส์น่ะ”เสียงโทนสูงเรียกเพื่อนที่นั่งห่างตัวไปให้รู้สึกตัว ส่วนไอ้เพื่อนใกล้ตัวก็รีบกวาดการบ้านบนโต๊ะลงเก็บทันที และเมื่อเงยหน้าขึ้นมาจากภารกิจเก็บสมุดการบ้านแล้ว เด็กหนุ่มก็ต้องพบกับความประหลาดใจ

“อาจารย์ดาวอนพาใครมาด้วยว่ะ”

“จะไปรู้ได้ไง ไม่เคยเห็นหน้า แต่เค้าใส่สูทสีครีมแบบนี้ ก็อยู่ปีเดียวกับเราน่ะซิ”

“เออแล้วทำไมไม่เคยเจอว่ะ แล้วอาจารย์พามาทำไม”

ยังไม่ทันให้สองหนุ่มท้ายห้องถกเถียงกันจบ คิมดาวอนอาจารย์ที่ปรึกษาของปี 2 ห้อง B ก็สั่งให้ทุกคนเงียบ

“วันนี้ครูมาช้า เพราะมีเรื่องสำคัญมาบอกพวกเธอ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เราจะมีเพื่อนใหม่มาเรียนด้วย”คิมดาวอนพูดพร้อมกับค่อยๆ ดันหลังเด็กหนุ่มที่ยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ให้ออกมาหน้าชั้น

“แนะนำตัวให้เพื่อนรู้จักซิจ๊ะจุนซู”

เด็กหนุ่มค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา เค้าไม่คุ้นกับการต้องมาอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ตัวคนเดียวแบบนี้มาก่อน เค้าหันซ้ายหันขวาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแหบเครือเบา ๆ

“เราชื่อคิมจุนซู ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อน ๆ ฮะ”ไม่มีเสียงตอบรับ ไม่มีเสียงตบมือใดๆ จากเพื่อนร่วมห้อง ทุกคนดูนิ่งงัน และรีบหันไปซุบซิบพูดคุยกันเอง

“ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าสถาบันรับนักเรียนกลางเทอม”

“นี่กลางเทอมปีสองด้วยซ้ำ นายนี่มาเรียนได้ยังไงกัน”

“ถ้าไม่เก่งมากก็ต้องเส้นใหญ่มาก”สองหนุ่มท้ายห้องกระซิบนินทากันอย่างออกรส ส่วนคนหน้าห้องได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ กับการตอบรับของเพื่อนร่วมห้องในอนาคต

“คิมจุนซู จะมาเรียนกับเราตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากจุนซูเรียนเอกไวโอลิน ครูจึงอยากให้เด็กเอกไวโอลินดูแลเค้าด้วย”พออาจารย์ดาวอนพูดจบ เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นทันที

“เฮ้ย คยูฮยอนไอ้ตัวเล็กนั่นมันเรียนเอกเดียวกับนายด้วยว่ะ”เด็กหนุ่มร่างผอมหันไปพูดกับเพื่อนข้างตัวที่ตอนนี้เงยหน้ามาจากจอเกมส์ขึ้นมามองคนหน้าห้องแล้ว

“ถ้าเค้าเก่งจริง นายแย่แน่คยูฮยอน เพราะถ้าเข้ามาเรียนตอนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ”เด็กหนุ่มที่ชื่อคยูฮยอนไม่ได้ตอบอะไร เค้ามองนิ่งไปยังคนที่เป็นประเด็นพูดคุยตอนนี้ที่กำลังค่อยๆ หันไปหยิบกระเป๋า และยืนมองเพื่อจะหาที่นั่ง

“จุนซูเธอนั่งข้างเรียววุคแล้วกันนะจ๊ะ”อาจารย์ดาวอนสั่งพร้อมชี้มายังที่นั่งว่างหลังห้อง

“ไอ้ตัวเปี๊ยกนั่นมานั่งข้างนายด้วยว่ะเรียววุค”

“นายจะตื่นเต้นทำไมฮยอกแจ ก็ในห้องมันเหลือที่นั่งว่างข้างฉันที่เดียวนิหว่า”คิมเรียววุคหันไปบ่นเพื่อน ก่อนจะค่อยๆ หันมามองเพื่อนใหม่ที่เพิ่งลงมานั่งเก้าอี้ข้างๆ กัน โดยมีที่ว่างกั้นเพียงเล็กน้อย

พอถูกจ้องมองคนโดนมองก็รู้สึกหวั่น ๆ จุนซูโค้งศีรษะให้กับเด็กหนุ่มสองคนที่กำลังจ้องมองเค้าตาไม่กระพริบอยู่ จริงๆ ต้องบอกว่าคนแทบทั้งห้องต่างหากที่กำลังจ้องมองเค้า

“สวัสดีเราชื่อคิมจุนซู”

“พวกฉันรู้แล้วน่า”เด็กหนุ่มผิวขาว ร่างผอมเป็นคนตอบ และนั่นทำให้จุนซูต้องกลืนน้ำลายลงคอ

“นายเรียนเอกไวโอลินใช่ไหม”เด็กหนุ่มตัวเล็ก ที่จุนซูมองแล้วแอบดีใจว่ามีคนตัวเล็กกว่าเค้าด้วยเอ่ยถาม จุนซูจึงพยักหน้ารับเบาๆ

“คยูฮยอนก็เรียนเอกไวโอลิน ในชั้นปีนี้คยูฮยอนเป็นคนที่เก่งที่สุดด้วย”เด็กหนุ่มตัวขาวซีดนั่นชี้ไปที่ข้างๆ ตัว และหนุ่มหล่อเจ้าของชื่อ คยูฮยอนก็โค้งเบา ๆ เป็นการทักทาย

“นายทำไมถึงมาเข้าเรียนได้ตอนนี้ล่ะ พวกเราไม่เคยได้ยินว่ามีใครมาเข้าเรียนกลางเทอมได้มาก่อน เพราะที่นี่ต้องสอบเข้า”

“ฉันก็สอบเข้าเหมือนกัน”จุนซูรีบตอบเด็กหนุ่มตัวเล็ก เด็กหนุ่มคนนั้นก็พยักหน้าเบาๆ

“เค้าจัดสอบพิเศษให้กับนายเหรอ”จุนซูก็พยักหน้ารับ และนั่นก็ทำให้เด็กหนุ่มสองคนที่สัมภาษณ์เค้าอยู่ และเพื่อนคนอื่นๆ ที่แอบฟังส่งเสียงครางอย่างประหลาดใจขึ้น

“นายต้องพิเศษมากจริงๆ”

“ไม่หรอก ๆ”จุนซูได้แต่โบกมือโบกไม้ปฏิเสธ เพราะไม่รู้จะตอบว่ายังไง

“เออแล้วนายสองคนไม่ได้เรียนไวโอลินใช่ไหม”จุนซูพยายามใจกล้าที่จะสานสัมพันธ์บ้าง สองหนุ่มนั่นก็พยักหน้างึกหงักตอบ

“ฉันลีฮยอกแจ เอกโอโบ ส่วนไอ้เตี้ยนี่คิมเรียววุคเอกเปียโน”

“ใครเตี้ยกันฮยอกแจ ทำเป็นนายสูงนักนิ”คิมเรียววุคหันไปตวาดแล้วก็คว้าสมุดโน้ตบนโต๊ะตีหัวเพื่อนทันที

“นี่ข้างหลังน่ะ ถ้ายังเสียงดังอยู่ ครูจะให้เธอออกไปคุยกันข้างนอกนะ”พอสิ้นเสียงทั้งสองหนุ่มและคนอื่นๆ ที่แอบฟังอยู่ก็รีบทำตัวสงบเงียบกันทันที

คิมดาวอนกล่าวพูดคุยไม่นานเธอก็จากไป ทิ้งไว้แต่นักเรียนในห้องที่รีบเก็บข้าวของ เพื่อจะเตรียมตัวย้ายห้องไปเรียนตามเอกของตัวเองซึ่งเป็นคาบแรกของวันนี้

“เออแล้วฉันจะต้องไปยังไงต่อ”จุนซูรีบหันไปถามเรียววุคที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด หากแต่คนตอบกลับไม่ใช่คนที่ถูกถาม

“ตามฉันมาแล้วกันคิมจุนซู”นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มตัวสูงเอ่ยปากกับจุนซู
เมื่อได้รับอนุญาตดังนั้นจุนซูจึงรีบคว้ากระเป๋าไวโอลินเดินตามไปทันที โดยยังคงมีฮยอกแจ และเรียววุคเดินตามมาด้วย
.
.
.
“ฉันได้ยินมาว่านายเล่น Air on the G String เก่งมากนิ”โจคยูฮยอน เอ่ยขึ้นมาในระหว่างที่ทุกคนเดินกันอยู่บริเวณระเบียงหินอ่อนที่เชื่อมไปยังตึกที่ไว้เรียนปฏิบัติเครื่องดนตรีโดยเฉพาะ และนั่นก็ทำให้จุนซูต้องชี้ที่ตัวเองเพื่อถามอีกที

“นายนั่นแหละ อาจารย์มัตซึอุระบอกว่านายเก่งมาก และ Air on the G String ของนายก็เพราะมาก แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมแพ้นายง่าย ๆ หรอก”เด็กหนุ่มกล่าวก่อนจะเดินนำจุนซูไป โดยมีเพื่อนอีกสองคนวิ่งตามขนาบข้าง




*********************************

Talk:สวัสดีฮับป๋ม หยุดสามวันเค้านอนกลิ้งไปกลิ้งมาเสียเพลิน 555
ขอบคุณทุก ๆ คอมเม้นท์จากตอนที่แล้วนะคับ และดีใจที่ชอบคาเรคเตอร์ของตัวละครของปุ้มด้วย

ปล.ถึงคุณ patongko ว่าขอให้เรื่องเครียด ๆ หายไปเร็วๆ นะคับ

ทีนี้ช่วงท้ายฟิคเค้าจะไว้สำหรับแนะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับดนตรีคลาสสิคในฟิคนิดหน่อยเผื่อสำหรับคนสนใจ
และเพื่ออ่านแล้วเข้าใจมากขึ้น

จริงๆ นี่เป็นสิ่งที่ควรจะทำมาตั้งแต่ตอนแรก ๆ แต่ยัยนี่เพิ่งนึกออกจนตอนสี่ พอดีว่าหลังจากนี้อาจจะมีชื่อเพลงกับพวกศัพท์
ทางด้านดนตรีโผล่มาเรื่อยๆ ซึ่งควรแนะนำให้ผู้อ่านเข้าใจ เลยจะย้อนกลับไปแนะนำเพลงตั้งแต่ตอนแรก

พอดีว่าในตอนแรกที่ทั้งคู่เจอกัน จุนซูบรรเลงเพลงอยู่สามเพลง ก็เลยจะหามาให้ฟังนะคะ

เพลงแรกคือ My Memory จากละครเรื่อง Winter Sonata หรือที่บ้านเราคือ Winter Love Song อะคะ

เวอร์ชั่นนี้ เป็น Piano & Violin Instrumental นะคะ
ถ้าใครเคยดูเรื่องนี้เดาว่าเพลงนี้ต้องติดหูแน่ๆ แต่ปุ้มดูเรื่องนี้แบบไม่ประติดประต่อกัน แต่ชอบเพลงนี้มาก

https://www.youtube.com/watch?v=skGEHuejc-s

เพลงต่อมาคือ Minuet in G Beethoven ซึ่งเรื่อง Good Morning ก็ใช้เพลงชื่อคล้ายๆ กันนี้แต่เป็นของ Bach

เอาเวอร์ชั่นของ Mischa Elman เล่นมาให้ฟังก่อน Mischa Elman เป็นนักไวโอลินเชื้อสายรัสเซียซึ่งมีความสามารถมากค่ะ



https://www.youtube.com/watch?v=iwE_40PrJ0c

แอบให้ดูเวอร์ชั่นเด็กน้อยน่ารักสี น้องหนูเก่งโคด ๆ

https://www.youtube.com/watch?v=VFEg_-uywjo

เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ Minuet มาจากภาษาฝรั่งเศษ แปลว่า การเต้นรำ ซึ่งเพลง Minuet เราๆ รู้จักกันว่าเป็นเพลงจังหวะวอลซ์นั่นแหละค่ะ




ส่วนเพลงต่อไป คือเพลงที่ยูชอนรีเควสให้จุนซูเล่นและเจ้าตัวเลือกไปทดสอบคือ Air on the G String ของ Bach ค่ะ เพลงนี้ถือได้ว่าเป็นบทเพลงยอดนิยมอมตะนิรันด์กาลของ J.S.Bach เลยแหละค่ะ ซึ่งเป็นเพลงที่ว่ากันว่า ฟังแล้วท่านจะรื่นรมณ์นัก โดยมีโพลจัดออกมาเลยนะคะว่าเพลงนี้ ฟังแล้วจะมีความสุข รื่นรมณ์เป็นอันดับสองของเพลงคลาสสิคทั่งโลกานี้ 555 โดยแพลงนี้แพ้แค่ Canon in D แค่เพลงเดียว (เพลงนี้ถ้าใครเคยดู My sassy girl กับ The Classic น่าจะคุ้นหูอยู่)

เวอร์ชั่นในแผ่นเสียงมาก่อน
https://www.youtube.com/watch?v=0MYzkBiJn5Y

ส่วนนี่เป็นเวอร์ชั่นโปรดของเค้าเลย เวอร์ชั่นที่บรรเลงโดย Sarah Chang เธอเป็นนักไวโอลิน เชื้อสาย Korean American อายุอานามน้อยกว่ามิโดรินิดหน่อย แต่เก่งเทพโคดตั้งแต่ตัวนิดเดียว



https://www.youtube.com/watch?v=qOVwokQnV4M



จริงๆ พักหลังๆ เนี่ยนักไวโอลินคลาสสิคที่ได้รางวัลใหญ่ ๆ ทั้ง ไชคอฟกี้และปากานินี่ เนี่ยเป็นคนเอเชียเยอะมากขึ้นมากเลยนะคะ นี่เลยเป็นส่วนหนึ่งที่อยากเขียนเรื่องนี้ด้วย

ส่วนเกร็ดเล็ก ๆ ของ Air on the G String เนี่ยเพลงนี้ถือได้ว่าเป็นเพลงโชว์เลยแหละค่ะ เพราะเพลงนี้เล่นอยู่บนสาย ๆ เดียวคือสาย 4 หรือสาย G นี่แหละค่ะที่ยากแถมเพลงนี้ยังต้องเล่นโดยให้มี Vibrato ทุกตัวโน๊ตให้ต่อเนื่องด้วย

ทีนี้เป็นเกร็ดเล็กน้อยของตอนนี้


ตอนที่ยูชอนสอนเปียโนจุนซูและพูดถึงโน้ต C D E บางคนอาจเข้าใจเลยทันที บางคนที่ห่าง ๆ จากเรื่องดนตรีอาจงง C D E อะไรเนี่ย


ก็มาจาก โด เร มี ที่เราคุ้นเคยกันนั่นแหละคะ แต่ที่มาที่ไปไม่ขอเล่าแล้วกัน แต่จะลงตารางเทียบให้จะได้เข้าใจ



โน้ต C D E F G A B = Do Re Mi Fa Sol La Si (ก็คือ C=Do, D=Re แบบนี้อะคะ)



เจอกันตอนหน้านะคับ











>






 

Create Date : 02 มีนาคม 2553
11 comments
Last Update : 2 มีนาคม 2553 13:08:37 น.
Counter : 414 Pageviews.

 

สงสัยหนูจุนต้องเจอศึกหนักแน่ๆเลย
ใครจะมาช่วยนะ
รออ่านต่ออยู่คะ

 

โดย: unoony IP: 203.144.144.165 2 มีนาคม 2553 3:29:20 น.  

 

จุนซูจะเจออะไรบ้างล่ะเนิ้ย
รอลุ้นน้า


ปล. ขอบคุณมากมายสำหรับกำลังใจที่ให้มาจ้า
^__________^

 

โดย: patongko IP: 203.144.144.165 2 มีนาคม 2553 9:14:58 น.  

 

เอ้า‼

ตากี้มาได้ไงนี่

อย่ามาเบ่งกะหนูจุนนะเฟ้ย///

 

โดย: ooopimmyooo IP: 125.27.237.31 2 มีนาคม 2553 9:24:04 น.  

 

เหมือนบรรยากาศกับเพื่ือนใหม่จะดี
มองอีกทีก็เหมือนจะอึมครึม
รู้แต่ว่า เอาใจช่วยจุนซูตลอด
ความจริงใจใสซื้อ คงจะเอาชนะใจเพื่อนใหม่ได้เนาะ
วุคกับฮยอกน่ะไม่เท่าไหร่
แต่กับคยูนี่ลุ้นหน่อย

ปล.คลิกเข้าบลอคทุกวันเพื่อฟิคใหม่เรื่องนี้ทีเดียว

รอพาร์ทต่อไปนะคะ

 

โดย: ~babyxiah~ IP: 125.27.186.220 2 มีนาคม 2553 9:26:06 น.  

 

ย้ายโรงเรียนมาเเล้วววว
ถึงจะเจอเพื่อนใหม่เเบบงงๆเเต่ก็ไม่ได้ดูเลวร้ายเกินไปเนอะ
อย่างน้อยๆเพื่อนๆคงไม่ใจร้าย
เเต่ก็คงจะหนักเอาการเพราะเเต่ละคนคงจะเก่งๆ
จุนจังสู้ๆ มีปาร์คอยู่ทั้งคน
ได้เพื่อนเป็นลูกลิงหมดเลยหรอเนี่ย 55

รอตอนต่อไปนะคะ

 

โดย: ehaln IP: 203.144.144.164 2 มีนาคม 2553 9:46:19 น.  

 

ชอบตอนยูซูอยู่ด้วยกัน มันน่ารัก อบอุ่น อมยิ้มแก้มแตก 55

คยู อย่าแกล้งจุนจังน้า

 

โดย: rui IP: 158.108.233.107 2 มีนาคม 2553 16:22:03 น.  

 

ชอบอ่านฟิคของคุณจัง น่ารักและอบอุ่นดี

 

โดย: กิ่งไผ่ IP: 203.144.144.165 3 มีนาคม 2553 17:18:58 น.  

 

แอบหวั่นใจเรื่องเพื่อนใหม่แทนจุนจัง

จุนจังสู้ๆ...ปร๊ากดูแลตัวเล็กด้วยน้า...

ขอบคุณสำหรับฟิคสนุกๆ และลิ้งเพลงเพราะๆค่ะ

 

โดย: chocojunk IP: 203.144.144.165 3 มีนาคม 2553 22:14:41 น.  

 

ว้า...อุตส่าห์แอบลุ้น
ว่าตาปาร์คจะแง้มๆเล่าออกมาสักเล็กน้อย
แต่นี่...นิ่งสนิทปิดเงียบเลย T__T

แต่บรรยากาศเวลาตาปาร์คอยู่กับจุนซูดีมากๆเลย
เป็นการเรียนการสอนที่บรรยากาศอบอุ่นใจมากมาย
อยากให้ทั้งคู่เข้าใกล้กันให้มากกว่านี้เร็วๆจัง

และแล้วก็ย่ายมาเรียนแบบเต้มตัวแล้วเนอะ
อ่านไปก็แอบลุ้นแทนจุนซู
แอบตื่นเต้นแทนด้วย
ก็แหม...ย้ายเข้าไปเรียนโรงเรียนใหม่ก็ว่าน่าตื่นเต้นแล้วนะ
แต่นี่ดันย้ายไปแบบเค้าเรียนกันไปแล้ว
แถมไม่ใช่ปีหนึ่งแต่เป็นปีสองอีก
คนก็ลือ...สงสัยกันไปต่างๆนานา

เพื่อนใหม่ก็ดูไม่มีคนที่น่าจะทำให้อุ่นใจได้เลย
ไรท์เตอร์อย่าให้จุนซูต้องเหงานะคะ
สงสารจุนซูจัง...
คยูฮยอนท่าทางเห็นจุนซูเป็นคู่แข่งเต็มๆเลย
แล้วแบบนี้จะหาเพื่อนได้มั้ยเนี่ย

อยากอ่านต่อมากมาย
มาอัพต่อเร็วๆนะคะไรท์เตอร์

เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์นะคะ

 

โดย: azure_^^ IP: 125.24.58.1 4 มีนาคม 2553 19:51:50 น.  

 

อ๊า..กำลังหนุกเลยจบตอนซะแล้ว...หุหุ

แต่ก็เชื่อว่าน้องจะต้องเอาชนะใจเพื่อนๆในห้องได้แน่นอน เพราะความจริงใจและใสซื่อนี่แหละที่จะทำให้น้องได้ใจเพื่อนๆ

ส่วนสำหรับปาร์คยูชอนยังเหมือนมีกำแพงบางๆที่ขวางกั้นคนทั้งสองเอาไว้ แต่ก็คงอีกไม่นานหรอกใช่มั้ยปาร์ค เพราะนายรู้ตัวมั้ยว่า...เวลาที่อยู่กับน้องนายจะยิ้มและหัวเราะบ่อยมากๆเลย

รอตอนต่อไปนะคะ^^

 

โดย: loveyoosu IP: 113.53.197.126 6 มีนาคม 2553 23:13:44 น.  

 

หือ .. คยูเอกเดียวกับน้องหรอเนี่ย ?

แต่ดูท่า .. ก็ไม่ได้ใจร้ายกับจุนจังมากนี่นา ?

ยังไม่กล้าเดามาก ไปอ่านตอนต่อไป ๕๕๕

 

โดย: measama IP: 203.144.144.165 12 มีนาคม 2553 23:20:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Angels Midori
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Angels Midori's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.