Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
25 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 

Yoosu Fiction[Suonare L'amore] Part 3



Suonare L'amore




Titile: Suonare L'amore Part 3
Author: Angel Midori
Genre: Romantic Drama
Rating: PG-13 - NC-17
Pairing: YooSu
Note : ฟิค TVXQ และ Y ค่ะเผื่อใครหลงเข้ามา..


************************************
ปาร์คยูชอนค่อยๆ ขับรถและหันมองข้างทางซ้ายที ขวาทีอย่างช้า ๆ ที่ต้องทำแบบนี้เพราะว่าเมื่อวานหลังจากเจ้าตัวขับรถมาส่งเจ้าตัวเล็กคิมจุนซูแล้ว เค้าก็ดันลืมไปเสียว่าบ้านอีกฝ่ายเป็นหลังไหนกันแน่ๆ ก็เพราะหลังไหนๆ แถวนี้เหมือนกันไปเสียหมด

จนยูชอนขับรถเลยสี่แยกเล็ก ๆ มาได้สักหน่อยก็เริ่มนึกได้ว่า บ้านของจุนซูอยู่หลังถัดจากสี่แยกนี่แหละ แล้วพอเค้าชะลอรถช้า ๆ ก็เห็นบ้านหลังหนึ่งมีประตูมาสีฟ้าถลอก ๆ และป้ายชื่อที่เมื่อวานเค้าไม่ได้สังเกตเขียนว่า “คิมจงมิน” คงจะเป็นหลังนี้แน่นอน เพราะจุนซูบอกเอาไว้ว่าคุณปู่ของตัวเองชื่อ คิมจงมิน และที่ต้องติดป้ายเอาไว้ คงเผื่อสำหรับลูกค้าที่จะนำไวโอลินมาซ่อมจะได้หาเจอ

ยูชอนจอดรถลงใกล้ๆ หน้าบ้านหลังนั้น แต่เมื่อยามที่จะพาตัวเองออกไปข้างนอก เค้าก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

มันน่าแปลกที่คนที่ถูกฝึกให้อยู่บนเวทีมาตั้งแต่จำความได้อย่างเค้า จะรู้สึกประหม่า แต่ก็คงเป็นเพราะสิ่งที่กำลังจะทำมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่เค้าเคยทำมาทั้งชีวิต และเค้าเองก็ไม่ถนัดเสียเลยกับการเกลี่ยกล่อมคน โดยเฉพาะคนที่มีฐิถิอยู่เต็มหัวใจแบบนี้ด้วย

ยูชอนรู้สึกว่าหัวใจของตนเต้นจังหวะหนักขึ้นคงเพราะประหม่า จึงค่อยๆ พยายามสูดลมหายใจและผ่อนออกมาเบาๆ เพื่อควบคุมจังหวะของหัวใจ จนรู้สึกปรกติ เค้าจึงตัดใจลงจากรถ แต่ก่อนจะปิดประตูเค้าเหลือบเห็นถุงยา ที่เพิ่งได้มาจากการไปพบ หมอชเว ซีวอน เพื่อนรักของเค้าเมื่อช่วงสาย ๆ บริเวณที่วางของข้างประตูรถ ยูชอนคว้าหยิบขึ้นมาดูก่อนจะจับโยนลงไปที่เบาะด้านผู้โดยสาร

“คงไม่ต้องใช้ตอนนี้มั่ง”ชายหนุ่มบ่นเบาๆ ก่อนจะก้าวออกไปยืนที่หน้าประตูบ้านของคิมจงมิน
.
.
.

ชายหนุ่มกดกริ่งเรียกไม่นาน ก็เห็นชายชราคนหนึ่งเดินออกมา เป็นชายร่างท้วม ดู ๆ แล้วอายุน่าจะราวๆ หกสิบปีได้

“คุณมาพบใครครับ”ชายชราตั้งคำถามลอดผ่านช่องประตูออกมา

“ผมมาพบคุณจงมินครับ”

“คุณจะมาซ่อมไวโอลินหรือครับ”

“เปล่าครับ”พอชายหนุ่มให้คำตอบไป คิมจงมินก็ทำสีหน้าสงสัย ปาร์คยูชอนเลยถอดแว่นกันแดดสีดำของเค้าออก และนั่นทำให้ชายชราตกใจอยู่ไม่น้อย

“ผมมาธุระเรื่องคิมจุนซูครับ ผมคิดว่าเค้าคงบอกคุณไว้บ้างแล้ว เรื่องทุนการศึกษาที่โรงเรียนของผม”

“ครับ”ชายชราตอบรับสั้น ๆ อย่างอ้ำอึ้งเค้าไม่คิดมาก่อนว่า ปาร์คยูชอน จะมาด้วยตัวเอง ถึงเค้าจะพอรู้จักความสามารถของหลานชายตัวเองดีว่าจุนซูเก่งแค่ไหน แต่ก็ไม่คาดคิดว่า คนอย่างปาร์คยูชอนจะเอาจริงเอาจังมากขนาดนี้

“ผมขอเข้าไปคุยกับคุณหน่อยได้ไหมครับ”เมื่อขอกันเช่นนี้ คงยากที่คิมจงมินจะปฏิเสธได้ เค้าเปิดประตูตอนรับนักเปียโนหนุ่มให้เข้ามา และพามานั่งที่โต๊ะรับแขกเล็ก ๆ กลางบ้าน

คิมจงมินมองสำรวจดูชายตรงหน้า ปาร์คยูชอน เป็นคนมีชื่อเสียงมาตั้งแต่วัยรุ่น จนตอนนี้อายุอานามคงยี่สิบปลายๆ แล้ว เค้าพอจะเคยเห็นปาร์คยูชอนบ้างตามโทรทัศน์ หรือหนังสือ แต่ก็เพิ่งเคยพบตัวจริงครั้งนี้ครั้งแรก

ปาร์คยูชอนดูจะต่างจากที่ คิมจงมิน คาดคิดอยู่ไม่น้อย เค้าเคยเห็นแต่อีกฝ่ายใส่สูท นั่งดีดเปียโนอย่างสง่างาม แต่ภาพตรงหน้าชายหนุ่มกลับดูเป็นผู้ชายทันสมัย เค้าสวมยีนส์สีเข้ม ใส่เสื้อยืดทับด้วยสูทสีเทาทำให้ดูลำลอง และไว้ผมยาวหยักศกเล็กน้อย

“จุนซูบอกผมว่าคุณไม่อนุญาตให้เค้าไปเรียน เพราะไม่อยากให้เค้าเป็นนักดนตรี ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะครับ ในเมื่อจุนซูเป็นเด็กมีพรสวรรค์มาก”ปาร์ค ยูชอน เป็นฝ่ายที่เริ่มเอ่ยปากก่อน เค้ารู้สึกอึดอัด และอยากจะให้เรื่องนี้จบไปเสียเร็วๆ เค้าไม่คุ้นเคยจริงๆ กับการต้องไปขอร้องอ้อนวอนใคร

“พรสวรรค์อาจไม่ทำให้ปากท้องอิ่ม ครอบครัวเราเป็นนักดนตรีมาตั้งแต่รุ่นพ่อฉัน แต่อาชีพนี้คุณน่าจะรู้ดีว่ามันไม่มั่นคงเลย พอบาดเจ็บขึ้นมาเราก็ต้องเลิกไปโดยปริยายเหมือนฉัน อย่างพ่อแม่จุนซูเค้าตายตั้งแต่เจ้านั่นยังเล็ก ดีที่ยังได้เงินประกันบ้าง แต่เงินเก็บสวัสดิการอะไรสำหรับคนอาชีพอย่างเรามันไม่มี ฉันเลยอยากให้เค้าทำงานมั่นคง จะได้ไม่ต้องมาลำบากเหมือนพวกฉัน”นี่เป็นครั้งแรกที่ยูชอนรับรู้เรื่องของจุนซู เค้าพอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กกำพร้า แต่เรื่องที่คิมจงมินบาดเจ็บจนเล่นดนตรีไม่ได้นั้นมันทำให้เค้าสะเทือนใจไม่น้อย เค้ารู้ดีว่าการที่ไม่สามารถที่จะเล่นดนตรีได้เหมือนอย่างที่เคยเล่น มันทรมานแค่ไหน แต่ถึงเค้าเข้าใจอีกฝ่าย เค้าเองก็ยังคงเสียดายความสามารถของจุนซูมากจริงๆ

“ผมเข้าใจเรื่องนี้ดีครับ แต่ผมมองเห็นว่าจุนซูเป็นเด็กที่เก่งจริงๆ เค้ามีพรสวรรค์สูงมาก ถ้าเค้าได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังเค้าต้องไปได้ไกลและประสบความสำเร็จ คุณปู่เองก็เป็นนักดนตรีก็คงพอมองจุนซูออกว่าเค้าเก่งแค่ไหน แล้วถ้าเรามีโอกาสที่จะให้การสนับสนุนเค้า ผลักดันเค้า เราจะไม่ทำเลยเหรอครับ”

ชายชราถอนหายใจเบาๆ หลังจากฟังคำพูดของยูชอน จริงๆ เค้าเองก็เสียดายที่จุนซูไม่มีโอกาสแสดงความสามารถให้คนอื่นรับรู้ แต่คนเป็นปู่เองก็ต้องห่วงชีวิตของหลานเพียงคนเดียวมากกว่า

“มันมีอะไรจะรับรองได้ว่าชีวิตของจุนซูจะไม่ลำบากตลอดไป”

“ถ้าถามถึงตลอดไป ผมอาจไม่สามารถรับรองได้ขนาดนั้น ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ถ้าถามผมว่าผมจะให้การสนับสนุนเค้าได้แค่ไหน ผมขอตอบว่าสุดแรงที่ผมจะทำได้ครับ”

“ฉันจะฝากอนาคตของหลานเพียงคนเดียวของฉันไว้ที่คุณได้ยังไงกัน เราเองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน”

“อย่าใช้คำว่าฝากอนาคตจุนซูไว้กับผม เพราะอนาคตของเค้าๆ ต้องกำหนดเอง ผมทำได้เพียงแค่สนับสนุนช่วยเหลือเค้า เค้าจำเป็นต้องโตขึ้นทุกวันนะครับ อย่าบังคับให้เค้าต้องรู้สึกเสียดายไปตลอดชีวิตว่าทำไมเค้าไม่ลอง เค้าไม่ทำในสิ่งที่อยากทำ ถ้าเค้าจะไม่สำเร็จเค้าก็เคยมีความสุขที่ได้ทำมันแล้ว อย่างคุณปู่เองก็เคยมีวันที่มีความสุขในฐานะนักดนตรีใช่ไหมครับ ถ้าผมถามว่า ถ้าเลือกย้อนเวลากลับไปได้คุณปู่จะยังอยากจะเล่นดนตรีอยู่ไหมคุณปู่จะตอบว่ายังไงล่ะครับ”

คิมจงมินไม่ได้ตอบคำถามนั้นเพราะเค้ารู้อยู่แก่ใจตัวเองดีว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เค้าก็จะเลือกเป็นนักไวโอลิน เพราะเค้ารักมันมาก ตอนนี้ถึงเล่นไม่ได้เค้าก็ยังคงทำงานเกี่ยวกับไวโอลินอยู่ดี เพราะเค้าไม่สามารถทิ้งมันไปได้

“คุณปู่ให้โอกาสจุนซูเถิดนะครับ”ปาร์คยูชอนกล่าวก่อนจะก้มหน้าเป็นเชิงขอร้องให้อีกฝ่าย

คิมจงมินนั่งเงียบเพราะเลือกที่จะใช้ความคิดช้าๆ เค้าอคติและวางชีวิตจุนซูไว้เนิ่นนานจนยากที่จะเปลี่ยนใจง่ายๆ แต่หากลองมองไปยังหลานรักของเค้า ทำไมเค้าจะไม่รู้ว่าจุนซูมีความสุขแค่ไหนเวลาได้จับคันชักและบรรเลงเพลง จุนซูไม่ชอบเรียนเลข หรือภาษาเท่ากับที่เค้าชอบอ่านโน้ต และค้นหาเสียงแปลกใหม่มาแต่งเพลง

“ฉันหวังว่าอย่างน้อยจุนซูจะประสบความสำเร็จให้เท่าคุณ”

ปาร์คยูชอนหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินคำนั้นจากปากของคนเป็นปู่ “นั่นมันไม่ได้อย่างน้อยแล้วล่ะครับ”

เค้าไม่ได้โอ้อวดหรือหยิ่งผยอง แต่เค้าเองก็ย่อมรู้ดีว่า เค้าเองมาไกลแค่ไหน และสิ่งที่เค้ามีอยู่ตอนนี้นั้นมากแค่ไหน ถ้าจุนซูมาถึงจุดเดียวกับเค้าได้ นั่นก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว

“ถ้าฉันให้เจ้านั่นไปเรียนกับคุณ เค้าจะได้เริ่มเรียนเมื่อไหร่ ในเมื่อตอนนี้เค้าเปิดเทอมแล้ว”นี่คงเป็นนิมิตรหมายอันดีสำหรับปาร์ค ยูชอน ที่ได้ยินคำถามนี้

“เรียนได้เลยครับ เราโอนหนวยกิจวิชาหลักมาได้เลย ส่วนวิชาดนตรีจุนซูอาจจะต้องเรียนเสริมเพื่อให้ทันเพื่อนอีกหน่อย”

ชายชราจ้องมองแววตามุ่งมั่นของชายหนุ่มก่อนจะค่อยๆ ยิ้มบางๆ ให้

“คุณบอกเจ้านั่นเองแล้วกัน ว่าฉันอนุญาต”

********************************


แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง ทำให้เจ้าของห้องรู้ว่าคงสายมากแล้ว จุนซูพยายามเร่งแต่งตัวอย่างรีบร้อน เพราะเมื่อคืนมัวแต่ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ และมาเผลองีบตอนใกล้รุ่งสาง พอรู้ตัวอีกทีก็ตื่นเสียสายโด่ง

ทั้งๆ ที่วันนี้ตัวเองมีนัดสำคัญ

เมื่อวานนี้ปาร์ค ยูชอนโทรมาหา และบอกเค้าว่าได้มาคุยกับคุณปู่และคุณปู่ก็ยอมอนุญาตให้จุนซูไปเรียนที่โรงเรียน YPJ ได้แล้ว ตอนได้ยินจุนซูดีใจเสียจนพูดไม่ออก ทั้งๆ ที่เคยตัดใจจากการเรียนดนตรี และเป็นนักไวโอลินไปแล้ว ตอนนี้เค้ากลับมีโอกาสนั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ และโรงเรียนที่ตัวเองจะไปเรียนนั้น ยังเป็นโรงเรียนระดับแนวหน้า ที่หากไปทดสอบเอง จะมีโอกาสได้เรียนหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ยังไงเค้าก็ยังต้องไปทดสอบอยู่ดี เค้าได้แต่ภาวนาให้ข้อสอบมันจะไม่ยากเกินไปสำหรับเค้า


จุนซูคว้าเสื้อวอร์มสีฟ้าตัวเก่งขึ้นมาสวมและหยิบกล่องไวโอลินตัวเก่งที่เคยเป็นของคุณปู่ขึ้นมากอดไว้และรีบลงบันได อย่างน้อยก่อนจะออกไปเค้าก็อยากจะกินข้าวเช้ากับปู่ และพูดคุยกับท่าน

เมื่อวานพอหลังจากได้รับข่าวดี พอจุนซูกลับมาถึงบ้านก็รีบวิ่งเข้าไปกอด และคำนับขอบคุณคุณปู่เสียยกใหญ่ และนั่นก็ทำให้คิมจงมินถึงกับหลั่งน้ำตา พร้อมเอ่ยขอโทษหลานชายที่เคยห้ามในสิ่งที่รักและอยากจะเป็น ทั้งๆ ที่หลานชายนั้นรักการเล่นไวโอลินมากขนาดนี้ และเค้าก็ควรภาคภูมิใจในเมื่อเด็กในวัยเดียวกันกับจุนซูนั้นส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักตัวเองด้วยซ้ำว่าต้องการหรืออยากที่จะเป็นอะไรในอนาคต

“เค้าจะมารับแกกี่โมงจุนซู”เสียงแหบห้าวตามวัยเอ่ยถามหลานชายตัวเล็กที่เพิ่งลงมานั่งที่โต๊ะกินข้าว เด็กชายส่ายหัวเป็นคำตอบ

“เค้าบอกว่าจะมารับผมสายๆ ฮะ แต่ไม่ได้บอกเวลา แค่บอกให้เตรียมตัวไว้ และก่อนจะมาถึงเค้าจะโทรมาบอก”

“อืม แล้วก็ตั้งใจเรียนล่ะ ถ้าจะมุ่งไปทางนี้แล้วแกก็ต้องตั้งใจมากๆ”

“ครับปู่”

“เมื่อวานเค้าบอกกับฉันว่า ถ้าแกสอบผ่านแกต้องไปอยู่หอของโรงเรียน เพราะบ้านเราไกลจากโรงเรียนเค้ามาก และเด็กส่วนใหญ่ที่เรียนที่นั่นก็อยู่หอกันทั้งนั้น”คิมจงมินเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ จุนซูเงยหน้ามองปู่ของตัวเองก็พอจะรู้ว่าคุณปู่คงไม่อยากให้เค้าไปอยู่ และตัวเค้าเองก็ไม่ได้อยากเช่นกัน ในเมื่อครอบครัวของเค้ามีกันอยู่แค่สองคน ปู่กับหลานแค่นั้น

“ผมจะคุยกับคุณปาร์คฮะว่าผมไปกลับได้ไหม ผมแค่ตื่นเช้าหน่อยก็คงไปทัน เย็น ๆ ก็คงกลับค่ำกว่าเดิมนิดหน่อย”

“อย่าเลย ลำบากเปล่า ๆ นอกจากเรียนแล้วแกยังต้องมีซ้อม ที่โน้นคงเหมาะกับการฝึกซ้อมของแกมากกว่าบ้าน แล้วแกไปกลับไกลๆ ฉันก็เป็นห่วงแกอยู่ดี”

“แต่ผมไม่อยากให้คุณปู่อยู่คนเดียวนิฮะ”

“ฉันอยู่ได้ วันหยุดแกก็กลับมาแล้วกัน ฉันจะได้ไม่เป็นห่วง”

“เอาอย่างนั้นเหรอฮะ ผมไม่อยากไปอยู่หอเลย”

“ไปอยู่เถอะ ฉันอนุญาตแกขนาดนี้แล้ว แกควรจะดีใจนะจุนซู”จุนซูได้แต่กัดริมฝีปากเบาๆ อย่างชั่งใจ ถึงเค้าจะอยากเรียนที่นั่นแค่ไหน แต่เค้าก็ไม่อยากห่างจากคุณปู่

“อย่ามาเรื่องมากน่า ฉันไม่ได้แก่จนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เสียหน่อย”

จุนซูพยักหน้ารับเบาๆ แต่ก็ยังคิดว่าจะลองคุยกับปาร์คยูชอนดู เรื่องที่เค้าจะไม่อยู่หอของโรงเรียน หากแต่ความคิดก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงริงโทนดังมาจากโทรศัพท์เครื่องเล็ก ๆ ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ดังขึ้น

“สวัสดีครับ คุณปาร์ค”


“อ๋อครับ ผมเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วครับ แต่รอผมสักครู่นะครับ” เด็กหนุ่มรีบร้อนเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋าหลังจากวางสายแล้ว เค้ารีบเก็บจานชามที่เพิ่งทานอาหารเสร็จไปที่ซิงค์ แต่คนเป็นปู่ก็สั่งห้ามให้เค้าไม่ต้องล้างจาน เมื่อเป็นดังนั้นจุนซูจึงรีบสวมเสื้อวอร์ม และคว้ากระเป๋าเป้กับไวโอลินวิ่งออกไปหน้าบ้านทันที

ปาร์คยูชอนยังคงมาด้วยรถคันเดิม ปอร์เช่ 911 สีดำมันขลับที่จุนซูเห็นทีไรก็รู้สึกตื่นเต้น ชายหนุ่มเจ้าของรถนั่งอยู่หลังพวงมาลัย และท้าวแขนมองเด็กหนุ่มที่รีบวิ่งมาหาเขา

“ขึ้นมาซิ จะเปิดประตูหรือจะปีนเข้ามาก็ได้”เค้าเอยแซวเด็กหนุ่มที่ยืนละล้าละลังอยู่ข้างรถอย่างไม่รู้จะทำตัวยังไง จุนซูรีบเปิดประตูรถและลงนั่งพร้อมหอบข้าวของของตัวเองวางบนตัก

“รอฉันนานไหม พอดีฉันไปธุระมาก่อน”ปาร์คยูชอนเอ่ยทัก เด็กหนุ่มสั่นศีรษะเบาๆ เป็นคำตอบ

“ผมเพิ่งตื่นฮะ”เด็กหนุ่มอ้อมแอ้มตอบ และนั่นก็เรียกรอยยิ้มบาง ๆ จากชายหนุ่มข้างๆ ตัวได้

“เธอตื่นสายเป็นประจำหรือยังไง”

“ไม่นะฮะ เมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับเลยนอนเกือบเช้า”

“ตื่นเต้นหรือไง”เด็กหนุ่มพยักหน้ารับอย่างซื่อตรง ยูชอนจึงหัวเราะเบาๆ

หลังจากที่เค้าพบเจอจุนซูมาสามครั้ง สิ่งที่เค้าค้นพบจากเด็กคนนี้คือ คิมจุนซูเป็นเด็กที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ผิดกับวัยมาก เค้าเองเคยเจอเด็กหนุ่มในวัยประมาณนี้มาเยอะ เด็กวัยนี้กำลังเป็นวัยที่เริ่มเป็นหนุ่ม มักจะคึกคะนอง ดื้อรั้น ถามคำตอบคำ และมักแสดงท่าทางต่อต้านสังคม แต่กับจุนซูไม่ใช่ จุนซูเป็นเด็กตรงๆ ซื่อ ๆถามอะไรตอบแบบนั้น ชอบที่จะพูดคุย และแสดงความสนใจซักถามเมื่อสงสัย เมื่อสิ่งใดที่ตัวเองรู้ก็บอกก็เล่า แววตาก็เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ จนเค้านึกแปลกใจว่าคิมจงมินเลี้ยงมาอย่างไร

“วันนี้ผมจะต้องไปทำอะไรบ้างฮะ”เด็กหนุ่มตัวเล็กเอียงคอถาม นั่นเป็นท่าที่ยามชายหนุ่มมองทีไรก็อดยิ้มไม่ได้

“วันนี้ฉันจะทดสอบเธอเล็กน้อย และพาไปแนะนำกับอาจารณ์ที่จะสอนวิชาพื้นฐานดนตรีให้กับเธอ”

“เออ ผมพออ่านโน๊ตเป็นอยู่บ้างนะฮะ”

“ก็ดี แต่วิชาทักษะการฟัง ประวัติศาสตร์ดนตรีที่เค้าเรียนกันไปแล้วเธอต้องติวมัน และถ้าเธอเข้าเรียนได้แล้ว ฉันก็จะให้เค้าสอนพิเศษเธอเพื่อให้ไล่ทันเพื่อน เธออาจจะลำบากสักหน่อยเรื่องวิชารวมวง แต่ฉันว่าไม่ยากนักสำหรับเธอ”

“ผมขอบคุณ คุณปาร์คจริงๆ นะครับ ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงช่วยเหลือผมขนาดนี้ และผมก็ไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไง”

“เธอไม่ต้องตอบแทนฉัน เธอแค่ตั้งใจเรียนและมุ่งมั่นก็พอแล้ว ส่วนทำไมฉันถึงช่วยเธอ นั่นฉันไม่ได้ช่วยเธอ แต่ฉันทำเพราะเป็นสิ่งที่ฉันต้องการ และควรจะทำแค่นั้นเอง”คำตอบของปาร์คยูชอน ทำให้เด็กหนุ่มมองเค้าตาปริบๆ จุนซูไม่เข้าใจในคำตอบและการกระทำของปาร์คยูชอน หากแต่เด็กหนุ่มกลับรับรู้จากใบหน้าอ่อนโยนของอีกฝ่ายได้ว่า ถึงเค้าจะไม่เข้าใจแต่เค้าคงไว้วางใจคนตรงหน้านี้ได้


รถคันงามพาจุนซูออกมานอกเมืองสักพักใหญ่ จนมาถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยหมู่อาคารสไตล์ยุโรปสีขาว มีตัวหนังสือบนป้ายหินอ่อนขนาดใหญ่เขียนว่า YPJ Music Academy ในชีวิตของจุนซูไม่เคยเห็นโรงเรียนที่ไหนที่จะสวยงามเท่านี้มาก่อน รถคันหรูวิ่งผ่านเข้าประตูสีขาวสลับทองขนาดใหญ่ ลัดเลาะหมู่อาคารสีขาวหน้าตาสวยงามเหมือนในหนังฝรั่งที่เคยดูในจอภาพยนต์ จนมาจอดที่หน้าอาคารหลังหนึ่งที่มีขนาดย่อมกว่าหลังอื่น และมีโดมโค้งอยู่ด้านบนของอาคาร

“ลงมาได้แล้วตัวเล็ก”

“ฮึ่ยยย คุณปาร์คเรียกผมว่าตัวเล็กอีกแล้ว”ปาร์คยูชอนไม่ได้ต่อคำกับเด็กหนุ่ม เค้าเดินนำเจ้าตัวเล็กของเค้าที่วุ่นวายกับกระเป๋าเป้ และกล่องไวโอลิน เสียจนต้องวิ่งตามเค้ามา

ชายหนุ่มเดินพาเข้าไปในอาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นที่ทำงานของเค้า เค้าผลักประตูกระจกบานใหญ่เดินเข้ามาให้อาคารสไตล์นีโอคลาสสิค ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกันกับอาคารเรียนทั้งหมดของ YPJ

YPJ Music Academy ไม่ได้เด่นดังเฉพาะในเรื่องวิชาความรู้ แต่ในแง่ของความเลิศหรู ที่นี่ก็มีชื่อเสียงอย่างมาก ค่าเทอมของที่นี้แพงชนิดที่ว่านักเรียนส่วนใหญ่มักมาจากครอบครัวผู้มีอันจะกินเท่านั้น นักเรียนหลายๆ คนไม่ใช่เก่ง หากแต่ฐานะทางบ้านดีพอที่จะส่งลูกหลานให้มาเรียนเพื่อจะสร้างเครดิตตัวเองในวงสังคม แต่ก็ไม่ใช่ว่าที่นี้จะปฏิเสธคนที่ฐานะไม่ดี เพราะหากถ้าคุณเก่งพอ ที่นี่ก็มีทุนการศึกษาทั้งจากทางโรงเรียนเอง หรือจากบริษัทยักษ์ใหญ่หลายๆ รายที่ให้ทุน รวมถึงสถาบันการศึกษาต่างประเทศด้วย แทบทุกปี YPJ Music Academy มักจะสร้างนักดนตรีเก่งกาจ และได้ไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัยดนตรีทั้งในยุโรปและอเมริกาได้ปีละหลายคน รวมถึงมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศด้วย

คิมจุนซูเงยหน้ามองโดมของอาคารที่ห้อยโคมระย้าอันใหญ่จนคอตั้งบ่า แถมยังครางในลำคอเป็นเชิงตื่นเต้นด้วยอีกต่างหาก ท่าทางตื่นๆ นั่น ทำให้ยูชอนอดจะรู้สึกเอ็นดูไม่ได้

“สวยไหม”

“สวยฮะ ที่นี่เหมือนโรงแรม มากกว่าโรงเรียนอีกฮะ”

“เธอเคยไปโรงแรมหรือไง”

“เคยซิฮะ คุณปู่เคยพาผมไปดูเพื่อนๆ คุณปู่เล่นดนตรี”

“เหรอ”

“ผมอยากจะได้เล่นแบบนั้นบ้าง ใส่สูทแล้วเล่นในที่ ๆ สวยงามแบบนั้น”

“อืมม”ชายหนุ่มครางรับเบาๆ ในลำคอ และพาเจ้าตัวเล็กของเค้าขึ้นลิฟท์ขึ้นมายังชั้น 4 ของอาคาร

“ที่นี่เป็นสตูดิโอ และห้องซ้อมของฉัน ส่วนห้องทำงานของฉันอยู่ชั้น 3 ส่วนชั้น 5 เป็นที่พักของฉัน”ปาร์คยูชอนแนะนำเรียบเรื่อยในขณะที่เดินนำเด็กหนุ่ม

“คุณปาร์คพักที่นี่เหรอครับ”

“ใช่ที่นี่เป็นบ้านของฉัน”

“คุณปาร์คอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”

“ก็นานแล้วจะรู้ไปทำไมล่ะ”ชายหนุ่มตอบโดยไม่หันไปมองคนถาม คำตอบแบบนั้นทำให้จุนซูรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่อยากจะตอบเรื่องส่วนตัวของตัวเองสักเท่าไหร่

พอทั้งคู่เดินเข้าไปในห้องที่ยูชอนบอกว่าเป็นห้องซ้อมของเค้า จุนซูก็เห็นแกรนด์เปียโนสีดำตั้งอยู่กลางห้องด้านข้างมีตู้ใหญ่ติดฝาผนังอยู่ ในนั้นเต็มไปด้วยถ้วยกรอบรูป และประกาศนียบัตรมากมาย มีตู้อีกใบแขวนไวโอลินไว้สองสามตัว และอีกด้านของมุมห้องก็มีเชลโล่ตั้งอยู่

“คุณปาร์คเล่นไวโอลินกับเชลโล่ด้วยเหรอครับ”

“ฉันเล่นได้บ้างแต่ไม่เก่ง ฉันเคยหัดตอนเล็ก ๆ ฉันเคยหัดไวโอลิน วิโอล่า เชลโล่ แม้กระทั่งฟลุต แต่ก็ไม่ชอบเท่าเปียโน”จุนซูทำตาโตเท่าที่ตาเล็ก ๆ นั่นจะทำได้ใส่ยูชอน คนตรงหน้านี่มีอะไรที่ทำให้เค้าประหลาดใจได้เสมอ และนอกเหนือจากความเก่งแล้ว ที่จุนซูมักประหลาดใจอยู่บ่อยๆ คือความร่ำรวยของยูชอน

เด็กอย่างจุนซูไม่เข้าใจว่าการมีอาชีพนักดนตรีนั้นจะทำให้ใครสักคนร่ำรวยได้ขนาดนี้ได้ยังไง ถ้าเค้าดังเท่ายูชอนเค้าจะมีฐานะเท่านี้ไหม แล้วยูชอนเองมาจากครอบครัวแบบไหนเค้าไม่เคยรู้เลย เค้าเคยอ่านประวัติอีกฝ่ายมาบ้างแต่ก็ไม่เคยเล่าว่าครอบครัวยูชอนเป็นแบบไหน แต่การที่ยูชอนได้ฝึกดนตรีสารพัดรูปแบบ แบบนี้ถ้าไม่ได้มาจากครอบครัวนักดนตรี ก็คงมีฐานะร่ำรวย แถมยูชอนเองไปร่ำเรียนต่างประเทศตั้งแต่อายุน้อยกว่าเค้าด้วยซ้ำ

“เธอเล่นเปียโนเป็นไหมจุนซู”ชายหนุ่มนั่งไขว้ห้างบนเก้าอี้หน้าเปียโนหลังใหญ่ เด็กหนุ่มก็ส่ายศีรษะตอบ

“ไม่เป็นเลยฮะ”

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะสอนเธอเอง เพราะมันจำเป็น และมันเป็นวิชาหลักที่เพื่อนร่วมชั้นเธอเรียนกันไปแล้ว”ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มเบาๆ ก่อนจะหันหลังไปเปิดฝาคีย์บอร์ดและกดนิ้วเบาๆ ลงที่คีย์

“เมื่อวานฉันเพิ่งแต่งเพลงเสร็จ เธอจะฟังไหม”ชายหนุ่มผินหน้ามาถามจุนซูที่อยู่ด้านหลัง เด็กหนุ่มได้แต่พยักหน้ารับเบาๆ

และหลังจากนั้นปาร์คยูชอนก็ค่อย ๆ วางนิ้วลงบนคีย์

ถ้าจะถามว่าตอนนี้จุนซูรู้สึกอย่างไร คงจะตอบไม่ได้ทุกความรู้สึกนัก เพราะเค้าทั้งตื่นเต้น อิ่มเอม และยังมีความรู้สึกมากมายที่ลอยวนอยู่รอบตัว ปาร์คยูชอนที่นั่งบรรเลงเปียโนตอนนี้ เหมือนดั่งกำลังร่ายรำอยู่ นิ้วที่พรมลงทุกคีย์รวดเร็ว คล่องแคล่ว แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความอ่อนหวาน เพลงที่ดังมากจาการบรรเลงของนิ้วอันสวยงามนั้น ก็ไพเราะอ่อนหวาน และให้ความรู้สึกถึงความสดใส

จุนซูรู้สึกตื่นเต้นเมื่อนึกได้ว่าตอนนี้เค้าได้เป็นผู้ฟังเพียงคนเดียวในห้องนี้ เค้ากำลังฟังนักเปียโนที่มือชื่อเสียงระดับปาร์คยูชอน เพียงลำพังเป็นการส่วนตัว มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ ที่จะมีโอกาสแบบนี้ แถมเพลงนี้ยังเป็นเพลงที่เจ้าตัวเพิ่งแต่งเสร็จ

ปาร์คยูชอนที่จุนซูเคยมองแล้วรู้สึกวาเค้าเป็นคนหน้าตาดี และมีบุคลิกที่มีเสน่ห์ แต่เมื่อยามที่อยู่หน้าเปียโนชายคนนี้กลับบิ่งส่องประกายแห่งเสน่ห์มากขึ้น ขนาดเค้าที่เป็นผู้ชายยังรู้สึกได้ว่าคนตรงหน้าหล่อเหลาสวยงามราวกับเป็นเจ้าชาย หรือเทพบุตร

เสียงบรรเลงเพลงค่อยๆ เบาลงจนสิ้นสุด คิมจุนซูค่อยๆ ดึงตัวเองออกจากภวังค์ของเสียงเปียโน เด็กหนุ่มตบมือเบาๆ และนักเปียโนหนุ่มก็หันมาโค้งให้กับผู้ชมเพียงเล็กน้อย

“มันเพราะมากเลยฮะ”

“ขอบคุณ”

“คุณยูชอนฮะ”เด็กหนุ่มเรียก หากแต่กลับทำท่าอ้ำอึ้ง จนคนถูกเรียกมองกลับด้วยแววตาเป็นคำถาม

“ผมจะถามได้ไหมครับ ว่าทำไมคุณยูชอนถึงหยุดแสดงเปียโน ทั้งๆ ที่คุณยังเล่นมันอยู่”

เมื่อสิ้นคำถามนั้น คนที่ต้องตอบก็มองหน้าอีกฝ่ายนิ่งงัน..............


*********************************
Talk:เหมือนเป็น คอนเซ็ปเลยแหะต้องจบแบบค้างๆ คา ๆ 5555
เรื่องมันดูมีปมมากมายไปเสียหมดเน้อ กร๊ากกก

เริ่มสนุกกับการเขียนคาเรคเตอร์ทั้งจุนซูและยูชอนเรื่องนี้แล้วตอนนี้
มันต่างจากเรื่องที่แล้วดี ทำให้สับสนได้ในระหว่างที่ยังจัดการกับเรื่อง Good Morning ไม่เสร็จ 5555

อ่านๆ ไปทำไมชอบแ่ต่งนิยายฉากเวอร์ ๆ ไม่รู้ ทีนี้บอกเพื่อนไปว่าอยากแต่งนิยาย แนวความรักระหว่างครูอนุบาลกับยามหน้าโรงเรียนบ้างเพื่อนถึงกับค้อน 555

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ และคนที่แวะเข้ามาเสพนะคะ




>





 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2553
15 comments
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2553 18:22:09 น.
Counter : 451 Pageviews.

 

อ่านแล้วอบอุ่นดีจังคะ
ทั้งจากความสดใสของ จุนซู
และเอาใจใส่ของยูชอน
ไม่รู้ว่าข้างหน้า อุปสรรคของจุนซูจะมีมากแค่ไหน
กับคิดว่า ถ้า คุณเจ้าของดูแลใกล้ชิดแบบนี้
ทุกอย่างคงผ่านไปได้

ปล.ยูชอนก็มีวาทะศิลป์ไ่ม่ใช่ธรรมดานะเนี่ย
ตอนกล่อมคุณปู่ นี่เจ๋งจริง ๆ

 

โดย: ~babyxiah~ IP: 125.27.185.45 26 กุมภาพันธ์ 2553 0:24:19 น.  

 

ขอบอกสั้นๆนะคะ
ชอบมากคะ

 

โดย: unoony IP: 203.144.144.165 26 กุมภาพันธ์ 2553 1:09:47 น.  

 

สวัสดีคะไรเตอร์(ไม่ได้หายไปไหนน้า)
กว่าจะได้เข้ามาอ่านก็3ตอนไปแล้วแย่จริงๆเรา

จุนจังน่ารักสดใส
ปาร์คคอยดูแล น่ารักจัง
รออ่านต่อนะ

ปล. ช่วงนี้มีแต่เรื่องปวดกะโหลก(เพราะคนอื่น)จนขั้นอยากทึ้งหัวกันเลยทีเดียว 555 ก็เลยแก้โดยการสร้างปัญหาให้ตัวเอง อิ อิ(แล้วมันจะดีขึ้นหรือแย่ลงละเนี้ย)
^___________^

 

โดย: patongko IP: 203.144.144.164 26 กุมภาพันธ์ 2553 10:15:40 น.  

 

โรแมนติกจังอ่านแล้วรู้สึกอบอุ่น อยากรู้จังว่าจะมีโอกาสเจอผู้ชายใจดีแบบนี้มั้ย

 

โดย: กิ่งไผ่ IP: 203.144.144.164 26 กุมภาพันธ์ 2553 17:44:25 น.  

 

ค้างมากๆๆเลยคะ ไรเตอร์
พี่ปาร์คนี่คงรวยน่าดูเลยย
จุนซูใสซื่อดีเนอะ
น่ารักมากๆๆๆ

 

โดย: lamoneko IP: 125.27.1.30 26 กุมภาพันธ์ 2553 21:19:10 น.  

 

โรแมนติกมากมายเลยค่ะ

ให้ความรู้สึกอบอุ่นจังเลยยยย

รอคำตอบของหนุ่มปาร์คนะคะ

..........^^.......

 

โดย: ooopimmyooo IP: 118.174.114.163 26 กุมภาพันธ์ 2553 21:54:40 น.  

 

อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมปาร์คถึงหยุดแสดงเปียนโน

รออ่านตอนต่อไปค่า มาต่อเร็วๆนะคะ

 

โดย: micky.com IP: 58.10.128.19 26 กุมภาพันธ์ 2553 21:59:38 น.  

 

และแล้วปาร์คก็บุกกก 5555
คุณปู่ยอมให้จุนจังไปเรียนเเล้ว
เเถมให้ไปอยู่หออีกตะหากก ต่อไปปาร์คคงต้องดูแล
อย่างใกล้ชิด เป็นพิเศษ อิอิ
ว่าเเต่ ยูชอนเป็นอะไรอ่า งุงิ

รอตอนต่อไปนะคะ

 

โดย: ehaln IP: 203.144.144.164 26 กุมภาพันธ์ 2553 22:37:50 น.  

 

ปาร์ค เหมือนคุณพ่อขายาวเลย หุหุ

จุนจัง หนูน่ารักมากมาย

 

โดย: rui IP: 203.144.144.164 27 กุมภาพันธ์ 2553 15:20:23 น.  

 

ชอบ....."เจ้าตัวเล็กของเขา" อ๊ายยย ปร๊าก...ไม่ค่อยแสดงความเป็นเจ้าของเลยน้า...
ชอบคาร์แรกเตอร์ของทั้งปาร์คและจุนจังในเรื่องเหมือนกันค่ะ...จุนจังผู้ใสซื่อบริสุทธิ์...กับปร๊ากผู้ดูลึกลับมีโลกส่วนตัว แต่อ่อนโยน(กับจุนจัง only ^//^)

ตอนที่บอกว่าได้แรงบรรดาลใจมาจากเรื่องคานนแอบกังวลว่าปร๊ากจะเย็นชาเหมือนพระเอกตอนแรก ส่วนจุนจังจะพยศเหมือนนางเอกอ่ะป่าวน้า...แอบโล่งใจค่ะว่าคาร์แรกเตอร์ตัวเอกไม่เหมือนอิอิ..ขอบคุณนะคะ

ยังคงเป็นฟิคที่อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจทำให้อมยิ้มได้เช่นเคยค่ะ^^

 

โดย: chocojunk IP: 203.144.144.164 27 กุมภาพันธ์ 2553 15:51:18 น.  

 

ว้าว...แอบแวะเข้ามาดูแล้วก็เจอตอนใหม่เลย
ดีใจมากมาย....
และเเล้วตาปาร์คเค้าก็กล่อมคุณปู่สำเร็จ
ก็ที่ตาปาร์คพูดมามันจริงทุกอย่างเลยนี่หน่า
คุณปู่ทั้งๆที่ต้องบาดเจ็บจนเลิกเล่น
แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงอยากเล่นอยู่ดีนั่นแหละ
แล้วแบบนี้จะปิดกั้นโอกาสของจุนซูไปเพื่ออะไร

ตาปาร์คท่าทางเอ็นดูจุนซูมากมายอย่างเห็นได้ชัดเลย
ชอบบรรยากาศเวลาทั้งคู่อยู่ด้วยกัน

อยากให้มีกันสองคนอย่างนี้ตลอดไป
แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอกเดี๋ยวจุนวูก็ต้องไปพบเจอสังคมในโรงเรียนอีก
หวังว่าเพื่อนๆในโรงเรียนคงไม่โหดร้ายกับจุนซูนะ
ก็สถานที่ที่มีแต่หัวกะทิแบนี้
มันก็ต้องมีการแข่งขันสูงตามมาด้วยใช่มั้ยหละ
หวังว่าจุนซูจะมีเพื่อนที่ดีที่นี่นะ

ตาปาร์คดูแลจุนซูดีๆนะ

มาอัพต่อเร็วๆนะคะ
เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์นะคะ

ปล.1จบแบบค้างๆอีกแล้วนะคะไรท์เตอร์
ท่าทางจะกลายเป็น Signature สำหรับเรื่องนี้ไปแล้ว
ดีเหมือนกันนะคะชวนให้ติดตามดี

ปล.2 นิยาย แนวความรักระหว่างครูอนุบาลกับยามหน้าโรงเรียน...เราว่าน่าอ่านออก จุนซูเป็นคุณครูอนุบาล
ท่าทางจะน่ารัก แต่ตาปาร์คเป็ยามนี่ อืม...ไม่ค่อยชิน
แต่ก็คงจะน่ารักนั่นแหละ ถ้าคนแต่งคือไรท์เตอร์หละก็นะ

 

โดย: azure_^^ IP: 125.24.30.112 27 กุมภาพันธ์ 2553 16:14:11 น.  

 

เมื่อก่อนอ่าน good morning sweet แล้วรู้สึกชอบมากเลย แต่เรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องนั้นเลย แต่ก็สนุกไปอีกแบบ
พอดีเพิ่งเริ่มได้ 3ตอน เลยต้องติดตามอ่านต่อไปเรื่อย ว่าจะเป็นยังงัยต่อ จะsweet เหมือน good morning มั้ย
เอาเป็นว่า จะติดตามอ่านเรื่อยๆๆนะคะ

 

โดย: aoyjaa IP: 125.25.41.160 28 กุมภาพันธ์ 2553 1:20:14 น.  

 

อ่านเรื่องนี้เหมือนอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นไงไม่รู้
จำได้ว่าน้องปุ้มเคยบอกว่าได้แรงบันดาลใจจากเรื่องคานน
ใช่ไม๊คะ แต่พี่ไม่เคยอ่านหรอกเรื่องนั้น เลิกอ่านการ์ตูนมานานมากแล้ว

เรื่องนี้ดูมีความเครียดมากกว่าเรื่อง good เนอะ แต่ก็น่าติดตามเหมือนกัน

ในที่สุดคุณปาร์คก็สามารถกล่อมให้คุณปู่ยอมปล่อยจุนซูไปเรียนจนได้เนอะ เรื่องราวเหมือนกำลังพึ่งเริ่มต้น จุนซูต้องเจอเพื่อนใหม่ เรื่องในโรงเรียนอีกเยอะ มันจะเป็นฟิคยาวมากๆ หรือเปล่าเนี่ย แล้วกว่าคุณปาร์คกับตัวเล็กจะรักกันได้จะอีกนานไม๊

ถามทำไม ไปอ่านตอนต่อไปดีกว่า 5555

 

โดย: montiannaja IP: 192.168.10.11, 118.172.16.10 10 มีนาคม 2553 2:41:03 น.  

 

กลับมาอ่านต่อยามดึก .. ๕๕๕

นั่นสิ .. ตกลงว่าปาร์คยังเล่นเปียโนอยู่
แล้วถุงยาที่ซีวอนให้มา .. มันเป็นยาอะไรล่ะเนี่ย
มันต้องเกี่ยวกับเรื่องที่ปาร์คไม่เล่นเปียโนต่อไปแน่ ๆ เลย
แต่ยังคงนึกสาเหตุไม่ออก .. เอาไว้ไปอ่านตอนต่อไป อิยะฮ่าฮ่า

อ้อ .. แอบเห็นว่าอยากเขียนแนวยามหน้าโรงเรียนกับครูอนุบาล ..

ถึงกับอึ้ง .. ฮ่า ๆๆ

แต่พูดถึง จริง ๆ เคยอ่านแนวครูอนุบาล กับพ่อหม้ายหนุ่ม(จริง ๆ ก็ไม่หนุ่มเท่าไหร่ แค่สามสิบต้น ๆ) แนว yaoi นี่แหละค่ะ .. อ่านสมัยเด็ก ๆ (?) ที่เว็บเด็กดี .. ชื่อเรื่องอะไรจำไม่ได้แล้ว แต่คนแต่งชื่อ ฌา .. แต่ตอนนี้หาเรื่องไม่เจอ เหมือนเค้าจะลบไปแล้ว .. ไม่รู้ว่าพี่เคยอ่านรึเปล่า (แต่เรื่องนี้ไม่ค่อยดังเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยมีคนรู้จักกันอ่ะ)

เห็นเขียนน่ารักแบบ Good Morning Sweet แล้วสนุกมากเลย ถ้าได้เขียนแบบครูโรงเรียนอนุบาลคงจะเจ๋งน่าดู ๕๕๕

 

โดย: measama IP: 203.144.144.165 12 มีนาคม 2553 23:11:45 น.  

 

มิคเป็นไรอ่ะถึงต้องกินยา
ทั้งๆที่ก็ยังเล่นเปียโนได้
แต่ทำไมถึงเลิกโชว์ไป
อยากรู้จริงๆเลย
ดีใจที่น้องได้ทำตามความฝันแล้ว
แถมมิคยังจะสอนเปียโนน้องอีก

 

โดย: chebi IP: 124.120.117.219 14 สิงหาคม 2553 10:44:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Angels Midori
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Angels Midori's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.