Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
28 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Yoosu Fiction[Suonare L'amore] Part 25



Suonare L'amore




Titile: Suonare L'amore Part 25
Author: Angel Midori
Genre: Romantic Drama
Rating: PG
Pairing: YooSu
Note : ฟิค TVXQ และ Y ค่ะเผื่อใครหลงเข้ามา..


************************************

“ผมมาพบคุณหมอชเวครับ” เสียงทุ้มนุ่มกล่าวพร้อมแจกรอยยิ้มให้กับพยาบาลสาวของแผนกโรคหัวใจ พญาบาลสาวยิ้มรับพร้อมเปิดแฟ้มรายชื่อคนไข้ที่คุณหมอซีวอนนัดไว้พลางนึกว่า วันนี้คุณนักเปียโนรูปหล่อดูผิดปรกติกว่าทุกครั้งที่เคยเจอ

ก็ทุกทีคุณปาร์คยูชอนจะมาพบคุณหมอด้วยท่าทางเหมือนโดนบังคับให้มาทุกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับดูสดใสขึ้น แถมยังมีรอยยิ้มบางๆ มอบให้กับเธอด้วยอีกต่างหาก

“เชิญคุณปาร์คที่ห้องตรวจเลยคะ คุณหมอรออยู่แล้ว” พยาบาลที่ทำหน้าที่ต้อนรับบอกยูชอนหลังจากที่เธอวางโทรศัพท์ไปแจ้งคุณหมอหนุ่มถึงคนไข้พิเศษนอกใบนัดของหมอชเวซีวอน
“ครับ”
.
.
“มาสักที” นั่นเป็นคำทักทายแรกจากคุณหมอหนุ่ม หลังจากที่ยูชอนเปิดประตูเข้ามา คนถูกทักเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะวางตัวเองลงบนเก้าอี้ตรงข้ามซีวอน

“นั่นคำทักทายคนไข้หรือว่ะ” ซีวอนหัวเราะน้อย ๆ กับคำพูดของเพื่อน

“คนไข้อย่างนาย ฉันไม่ด่าให้ก็บุญแล้ว บอกจะมา ๆ อยู่ดีๆ ก็หายหัวไป แล้วบทจะมาหาก็มาแบบฉุกละหุกเชียว ดีนะที่วันนี้ฉันยังว่างไม่มีเคสต้องรักษาใคร”

คนถูกด่ายิ้มบางๆ ให้กับท่าทางหงุดหงิดของคุณหมอชเว

“อย่าบ่นน่าซีวอน ตกลงนี่ฉันต้องทำอะไรบ้าง”

“ฉันต้องขอตรวจสภาพหัวใจนายอีกที แต่ที่เราตรวจอัลตราซาวน์หัวใจกันไปเมื่อคราวก่อน รอยรั่วของนายอยู่ในเกณฑ์ที่น่าจะใช้การสวนหัวใจได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดซึ่งจะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้น้อยกว่าการผ่าตัดทั่วไป แต่ตกลงว่านี่แกจะรักษาจริงๆ ใช่ไหมยูชอน ไม่ใช่มาถามให้ฉันดีใจเล่นๆ อีกนะ”

นักเปียโนหนุ่มยิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ

“ดีใจที่นายตัดสินใจได้สักที นายทำร้ายตัวเองมานานแล้วนะยูชอน แล้ววันนี้ฉันว่านายอารมณ์ดีผิดปรกตินะ ทุกทีที่ฉันเจอหน้านาย มีแต่ทำหน้าหงิกหน้างอใส่ฉัน”

ยูชอนหัวเราะเบาๆ ก่อนจะตอบเพื่อนรักคุณหมอหนุ่ม “ก็ฉันจะหายแล้วนิหว่า ทำไมจะอารมณ์ดีไม่ได้”

“แล้วอะไร ที่ทำให้นายตัดสินใจได้แบบนี้สักที”

“ความหวังไง ความหวังทำให้ฉันอยากจะสู้กับชีวิตข้างหน้าอีกสักครั้ง”

“แล้วไม่คิดจะเล่าให้เพื่อนฟังหน่อยเหรอว่ะ ว่าอะไรที่ทำให้นายมีความหวังขึ้น”

คนตอบยังคงยิ้มบางๆ และส่ายศีรษะเบาๆ “เอาไว้ถึงเวลาแล้วฉันจะเล่าให้แกฟังซีวอน วันนี้จะทำอะไรก็ทำเหอะไอ้หมอ ฉันต้องรีบกลับโรงเรียน”

“ความลับเยอะจริงๆ ให้ตายเหอะ แล้วนายจะหวงเป็นยามฝ้าโรงเรียนอะไรกันนักกันหนาเข้าเมืองมาทั้งทีไม่คิดจะนั่งคุยกับเพื่อนกับฝูงหน่อยเหรอ” คุณหมอหนุ่มแซวเสียงนุ่ม โดยที่คนถูกแซวอดหัวเราะตอบไม่ได้

“ฉันมีธุระว่ะ เอาไว้วันหลังแล้วกัน”

“อืม...ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันขออัลตราซาวด์หัวใจนายดูอีกทีก่อน เพื่อเอาไปวินิจฉัย แล้วฉันจะนัดตรวจใหญ่นายอีกทีเพื่อนำไปตัดสินใจอีกรอบว่านายควรจะใช้การสวนปิดรูรั่ว หรือผ่าตัด เพราะรอยรั่วนายค่อนข้างใหญ่”

“ไหนตอนแรกแกบอกว่าฉันสวนปิดหัวใจได้เลยไงว่ะหมอ”

“บอกว่าอยู่นในเกณฑ์เฉย ๆ แต่มันควรจะต้องตรวจละเอียดกว่านี้ แต่ฉันคิดว่ามีโอกาสสูงที่เราจะใช้การสวนหัวใจได้”

“แล้วสองอย่างนี้มันต่างกันยังไง”

“สวนก็เจ็บตัวน้อยกว่า อาการแทรกซ้อนน้อยกว่า แต่ไม่ได้ทำได้กับทุกราย วิธีที่ดีที่สุดของการรักษาโรคหัวใจคือการผ่าตัดเปลี่ยน แต่นั่นมันจะทำให้นายรอนานไปกว่านี้เพราะเราต้องรอบริจาคหัวใจ ซึ่งนายไม่ได้ทำเรื่องไว้ ตอนนี้ใช้วิธีแก้ไขส่วนที่บกพร่องแล้วดูแลรักษาตัวเองไปก่อนดีกว่า”

“อืม”

“นายอย่าห่วงอะไรเลยยูชอน ฉันจะรักษานายสุดฝีมือเพื่อน” ซีวอนมองสบตาเพื่อนรักด้วยแววตามุ่งมั่นเสียจนคนป่วยรู้สึกได้ถึงกำลังใจที่ส่งมา

“ขอบคุณว่ะซีวอน”

“ไม่เป็นไร นายเป็นทั้งเพื่อน ทั้งคนไข้ฉันนะ ตอนนี้นายไปเตรียมตัวให้ฉันตรวจก่อนดีกว่า”

“อืม” นักเปียโนหนุ่มลุกจากเก้าอี้ และเดินไปยังห้องแต่งตัวด้านข้างเพื่อเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อที่จะสะดวกในการอัลตราซาวด์ หากแต่อยู่ดี ๆ เขาก็ได้ยินเสียงประตูห้องตรวจของคุณหมอซีวอนเปิดพร้อมกับเสียงดังคุ้นหูตามมาด้วย

“คุณพยาบาลคิมบอกฉันว่ายูชอนอยู่กับนาย แล้วนี่เขาไปไหนแล้ว” คนถามส่งเสียงสูง จนยูชอนต้องถอนหายใจ ให้ตายเหอะทำไมคุณฮีถึงโผล่มาที่นี้ได้

“ยูชอนเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ครับ คุณฮีจะทำให้มันหัวใจวายไปเสียก่อนเพราะโผล่เข้ามาแบบนี้นะ”

“ก็เกินไป นี่ยูชอนนายได้ยินฉันไหม”

“เฮ้อ!! ได้ยินแล้ว และคุณฮีเข้ามาทำไมเนี่ย” ยูชอนรีบดึงสายเชือกของเสื้อคลุมโรงพยาบาลแล้วก้าวออกมาจากห้องแต่งตัว ภาพที่เขาเห็นเบื้องหน้าตอนนี้เป็นภาพของพี่ชายหน้าสวยของเขายืนอยู่ตรงเก้าอี้ที่เขาเคยนั่งอยู่

“ซีวอนบอกฉันว่านายจะมาตรวจเพื่อผ่าตัด ตกลงคราวนี้เอาจริงใช่ไหม”
คนเป็นน้องพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะพาตัวเองไปนั่งที่เตียงเพื่อนจะเตรียมตัวอัลตราซาวด์

“เฮ้อ คิดได้เสียที แล้วนี้กำลังทำอะไรกันอยู่”

“ผมกำลังจะตรวจอัลตราซาวด์มันครับ คุณฮีออกไปข้างนอกก่อนได้ไหมครับ ผมจะได้ทำงานสะดวก”

“ทำไมฉันจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้ล่ะ อัลตราซาวด์ก็แค่เอาไอ้เครื่องนั่นมาวนๆ ตรงหัวใจเจ้ายูชอนมันไม่ใช่เหรอ ฉันเคยเห็นตอนพี่สะใภ้ฉันมาอัลตราซาวด์หลานในท้อง เขาก็มาวนๆ ที่หน้าท้องพี่สะใภ้ ฉันยังลองเอามาวน ๆ ดูหลานฉันอยู่เลย”

เจอคนช่างเถียงพูดไปแบบนี้ปาร์คยูชอน และคุณหมอซีวอนถึงกับส่ายหัว

“มันเหมือนกันไหมล่ะคุณฮี ผมเป็นโรคหัวใจนะ การตรวจมันต้องละเอียดกว่านั้น ผมไม่ได้กำลังจะมีลูก”

“ฉันนั่งดูเงียบ ๆ ก็ได้”

“ออกไปรอข้างนอกเหอะครับ” คิมฮีชอลหันไปค้อนวงใหญ่ให้กับคุณหมอหนุ่มก่อนเดินเข้าไปเกาะแขนน้องชายที่นั่งทำหน้าหน่ายใจอยู่

“นะยูชอนนะ ฉันเป็นห่วงนายมากให้ฉันนั่งดูนายตรวจเหอะนะ นายก็น่าจะรู้ว่าฉันจะรู้สึกตื่นเต้นแค่ไหนที่นายจะรักษามันจริงจังเสียที”

เถียงไปก็เท่านั้น ห้ามยังไงก็ใช่จะฟังอยู่แล้ว สำหรับคนอย่างคิมฮีชอล

“ไอ้หมอว่าไง พี่ฉันจะมานั่งเกะกะอยู่ได้ไหม”

“ก็พอได้อยู่ คุณฮีนั่งดูตรงเก้าอี้ผมแล้วกัน แล้วอย่าซนนะครับ”

“ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะซีวอน” คนเจ้าอารมณ์ตวาดแว๊ดก่อนจะพาตัวเองไปนั่งที่เก้าอี้ตัวโตของคุณหมอหนุ่ม

“ชอบพี่ฉันไปได้ยังไงว่ะ”ยูชอนอดไม่ได้ที่จะกระซิบถามเพื่อนรัก

“ก็ไม่รู้ แต่ชอบไปแล้ว”

“แกต้องเป็นคนชอบความตื่นเต้นมากแน่ๆ ถึงชอบพี่ฉันได้ลง” ชเวซีวอนหัวเราะดังลั่น เสียจนคนถูกนินทาหันขวับมามองด้วยความประหลาดใจ

“หัวเราะอะไรกัน”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณฮีนั่งรอตรงนี้ก่อนแล้วกันผมขอไปเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยผมก่อน” คุณหมอหนุ่มเดินเข้าไปบีบที่ไหล่ของฮีชอลเบา ๆ ก่อนส่งยิ้มหวานให้เสียจนคนได้รับอดยิ้มเขินๆ ตอบไม่ได้

พอคุณหมอหนุ่มเดินออกจากห้องไปแล้ว ปาร์คยูชอนที่นอนมองพี่และเพื่อนทำกริยาหวานๆ ใส่กันก็อดถามไม่ได้

“คุณฮีกับมันไปถึงไหนกันแล้ว”

“อะไรคือถึงไหนยูชอนห๊ะ”

“ผมถามจริงจังนะคุณฮี วันก่อนผมเจอแจจุง เขาบอกผมว่าดูเหมือนคุณฮี กับซีวอนคบกันแล้ว แต่คุณฮีไม่ได้บอกตรง ๆ ผมเลยอยากรู้”

คนมั่นใจอย่างคิมฮีชอลอดถอดหายใจเฮือกใหญ่ไม่ได้ เมื่อเจอคำถามตรงๆ แบบนี้

“อืม ก็คบ ๆ กันอยู่ ฉันไม่ได้คิดจะปิด แต่มันแค่อยู่ในระหว่างการเริ่มตกลงคบกัน มันไม่ใช่การตัดสินใจของฉันคนเดียวหรอก นายคงตลกแย่ถ้าจะบอกว่าแม่ฉันต่างหากที่สนับสนุนให้เราคบกัน”

“คุณป้านะเหรอ?”

“ใช่ คุณป้านายนั่นแหละ คนที่กีดกันฉันเวลาฉันจะคบใครตลอดเวลานั่นแหละ ไม่รู้ซีวอนไปทำเสน่ห์อะไร ทั้งแม่ทั้งพ่อฉันถึงสนับสนุนเขานัก ขนาดพ่อที่ทำท่าทางจะเป็นจะตายตอนแรกที่รู้ว่าฉันชอบผู้ชาย ยังเห็นดีเห็นงามด้วยเลย”

“มันไม่ต้องไปทำเสน่ห์หรอกคุณฮี ที่มันเป็นอยู่นี่ก็มากพอที่ใครๆ จะยอมรับมันอยู่แล้ว เป็นหมอ นิสัยดี สุภาพ ฉลาด รวย หล่อ ถ้ามีลูกสาวก็แทบจะรีบประเคนให้ แล้วต่อให้มีลูกชายคงทำใจที่จะปฏิเสธมันได้ยาก ถ้าจะให้คุณฮีคบใครสักคน ผมก็ว่ากับซีวอนนี่แหละเหมาะกับคุณฮีที่สุดแล้ว”

“นายก็พวกเดียวกันนิ” คิมฮีชอลค้อนให้กับน้องชาย ทั้งๆ ที่ใบหน้ายังเจือสีแดงที่แก้มขาวอยู่

“แล้วถามจริงๆ คุณฮีรู้สึกยังไงกับมัน ถ้าไม่ชอบผมก็ไม่คิดว่าจะต้องฝืน”

“เพื่อนนายน่ารักมากยูชอน ฉันโอเคดี” เป็นคำตอบที่ไม่ได้ตรงคำถามนัก แต่สำหรับคนปากหนักในเรื่องแบบนี้อย่างคิมฮีชอล ยูชอนรู้ว่านี่เป็นการตอบรับ เขารู้สึกดีใจที่ในที่สุดพี่ชายที่เขาทั้งรักและห่วงได้เจอกับคนดีๆ ที่น่าจะดูแลคุณฮีได้ ไม่เหมือนกับความรักครั้งก่อนๆ ที่ทำให้ฮีชอลเคยผิดหวัง จนทั้งครอบครัว และตัวคุณฮีเองไม่เปิดรับใครเข้ามาง่าย ๆ

“ผมดีใจถ้าทั้งคู่จะไปกันด้วยดี”

“ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น” เสียงหัวเราะที่ประสานกันของพี่น้องทำให้ห้องดูสดใสขึ้น ฮีชอลที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามาหาน้องชาย แล้วเอื้อมกอดเบาๆ ยูชอนรับสัมผัสนั้นด้วยท่าทางเก้ ๆ กังๆ

“ฉันกอดนายครั้งสุดท้ายเมื่อตอนนายได้รับรางวัลที่อังกฤษฉันจำได้ ฉันรู้ว่านายต้องการความรักความอบอุ่นมากกว่าคนอื่น ๆ แต่ขอโทษที่ฉันไม่ได้ใส่ใจมัน ทั้งๆ ที่ฉันมีโอกาสมากกว่าคนอื่นที่จะมอบให้ แต่ฉันกลัวนายจะอาย หรือรังเกียจ เพราะฉันไม่ได้เหมือนพี่ชายทั่วๆ ไปนัก”

ยูชอนค่อยๆ สวมกอดร่างบางของพี่ชายหน้าสวยเบาๆ คุณฮีตัวเล็กกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ สัมผัสที่ได้รับก็อ่อนโยนเหมือนพี่สาวใจดี และอ้อมกอดรัดแน่นที่ส่งผ่านมามันทำให้ยูชอนรับรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายรักเขามากแค่ไหน

“ผมจะไปรังเกียจคุณฮีได้ยังไง ผมไม่เคยคิดเลย คุณฮีเป็นพี่ที่ดีทุกสุดของผมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน”

“พี่รักเรามากรู้ไหมน้องชาย” คิมฮีชอลลูบแผ่วๆ ที่เรือนผมสีเข้มของน้องชายตัวโต

“อยู่เป็นพี่เป็นน้องกันไปนานๆ นะยูชอน พอนายหายดีแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ฉันสัญญาว่ามันจะดีขึ้น เราจะเปิดใจกันมากขึ้น แล้วเราจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างไปด้วยกัน”

“ขอบคุณครับพี่ฮีชอล” นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่านะสำหรับปาร์คยูชอน ที่ได้เรียกชื่อลูกพี่ลูกน้องที่เขานับถือเป็นพี่ได้เต็มปากเต็มคำ และเต็มตื้นในหัวใจขนาดนี้

“ขอบคุณทำไมกัน นี่มันหน้าที่ของพี่ที่ดีที่ควรทำต่างหาก แต่ถ้ายังไงพอหายดีแล้ว ช่วยเล่าให้ฉันฟังทีเหอะว่าอะไรทำให้นายมีกำลังใจมากขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ฉันขอร้องนายจนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด ฉันกับซีวอนสงสัยเรื่องนี้มากที่อยู่ดีๆ นายก็ตกลงที่จะรักษาเลย”

“ผมเล่าให้ฟังแน่ๆ แต่ผมขอเวลาก่อน”

“เกี่ยวกับเด็กหนุ่ม ดวงตะวันดวงน้อยของนายหรือเปล่ายูชอน” ปาร์คยูชอนได้ยินสรรพนามที่พี่ชายคนสวยตั้งให้ เขาก็เลิกคิ้วด้วยความสงสัย หากแต่พอนึกได้สักพักเขาก็เดาได้ว่าคุณฮีหมายถึงใคร

“เอาไว้ผมเล่าให้คุณฮีกับไอ้หมอฟังทีเดียวแล้วกัน”

“แจจุงกับยุนโฮด้วย” คนเป็นน้องตวัดคิ้วฉับทันทีเมื่อได้ยินชื่อสุดท้าย

“มาถึงขึ้นนี้แล้วอย่าทำตัวเหมือนเดิมน่ายูชอน เอาไว้นายหายฉันเองก็มีอะไรที่จะต้องเคลียร์กับนายอีกเยอะเรื่องยุนโฮ ขอให้นายเปิดใจรับฟังก็พอ ทำได้ไหม” ปาร์คยูชอนมองหน้าคุณฮีที่จ้องมาด้วยแววตาอ่อนโยน แล้วเขาก็ตัดสินใจพยักหน้ารับเบา ๆ

ในเมื่อคิดจะสู้ คิดจะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น บางทีเขาอาจจะต้องปรับปรุงความคิด และทัศนคติของตัวเองเสียงบ้างซินะ แต่เขาก็ไม่ได้สัญญาว่าเมื่อเปิดรับแล้วอะไรมันจะดีขึ้นโดยทันทีได้

เสียงประตูห้องตรวจเปิดขึ้นอีกครั้ง คุณหมอซีวอนและทีมผู้ช่วยเดินเข้ามา หากแต่คุณหมอเห็นคนรักของตัวเองยังถูกน้องชายกอดหลวมๆ ที่เอวก็อดยิ้มไม่ได้ คิดว่าช่วงเวลาที่เขาหายไป พี่น้องคงได้มีโอกาสพูดคุยให้กำลังใจกัน เพราะดูจากสีหน้าท่าทางแล้วทั้งคู่ดูเจือไปด้วยความสุข

“ซีวอนมาแล้ว ฉันไปนั่งรอนายตรวจที่โต๊ะดีกว่า” ฮีชอลเดินผละออกจากอ้อมกอดของยูชอนด้วยความเขิน

ทีมงานและคุณหมอเริ่มเตรียมอุปกรณ์ตรวจให้คนไข้หนุ่ม โดยที่ฮีชอลนั่งมองอยู่ห่างๆ เขาภาวนาให้การรักษาครั้งผ่านไปด้วยดี เพราะน้องชายของเขาผ่านอะไรที่เจ็บปวดมากมายจนไม่ควรที่จะผิดหวังอีกแล้ว

***************************************

“คยูฉันขอดูใบสมัครทุนที่นายไปเอามาหน่อยซิ” ฮยอกแจตะโกนผ่านข้ามหัวจุนซู ที่นั่งติดอยู่กับคยูฮยอน แถมยังเอื้อมมือไปดึงเอกสารสมัครนักเรียนทุนของคยูฮยอนที่วางอยู่บนโต๊ะทันทีแม้จะยังไม่ได้รับอนุญาตก็ตาม

“นายจะสมัครหรือไงฮยอกแจ”

“เปล่าแค่ดูเฉยๆ หน้าอย่างฉันนายคิดว่าจะผ่านเหรอคยู”

“ก็ไม่แน่” คยูฮยอนตอบพร้อมหยักไหล่ ซึ่งเป็นท่าที่เพื่อนฝูงพร้อมใจกันลงความเห็นว่ามันน่าหมั่นไส้ที่สุด

“จริงอย่างคยูว่า ไม่แน่เสมอไปหรอก ฮยอกแจไม่ลองสอบดูเหรอเผื่อฟลุคได้”

“แล้วนายล่ะจุนซูทำเป็นพูด นายน่าจะลองมากกว่าฉันอีกนะ นายเก่งจะตาย”

“ไม่หรอก” จุนซูส่ายหัวดิกทันที สำหรับเขาแล้วแค่ได้เรียนที่นี่ก็มากเกินพอแล้วด้วยซ้ำ เขาไม่เคยคาดหวังไกลที่จะได้โอกาสมากขนาดนั้นหรอก

“นายน่าจะลองนะจุนซู ฉันอยากให้นายลองดู มันคงน่าสนุกดีถ้านายมาแข่งด้วย”

“แล้วคยูไม่กลัวจุนซูได้ทุนนี้ไปหรือไง” ฮยอกแจชะเง้อมองหน้าเพื่อนหน้าหล่อที่อยู่ดีๆ ก็มายุให้คู่แข่งคนสำคัญลงแข่งทั้ง ๆที่ถ้าจุนซูสละสิทธิ์โอกาสได้ทุนนี้ของคยูฮยอนก็มีสิทธิ์สูงมากขึ้น

“บางทีการที่มีคู่แข่งน่าสนใจมันก็ทำให้เกมส์สนุกขึ้นนะ”

“ฉันไม่ได้อยากเป็นคู่แข่งของคยูซะหน่อย คยูไปสอบเหอะฉันไม่สนใจเรื่องทุนนี่หรอก ฉันไม่อยากห่างจากคุณปู่ไปมากกว่านี้”

“ทำไมนายไม่คิดบ้างล่ะว่าถ้านายมีโอกาสที่ดีปู่นายอาจจะพอใจก็ได้”

“ถึงปู่จะพอใจ แต่ฉันก็เป็นห่วงท่านมากนะ แล้วคนอย่างฉันไปอยู่เมืองนอกไม่ได้หรอก”

“นายนี่น๊า เก่งขนาดนี้แท้ ๆ แต่ขาดความทะเยอทะยานเสียจนน่าเสียดาย”คยูฮยอนอดไม่ได้ที่จะแกล้งผลักหัวกลมๆ ของเพื่อนคนน่ารัก จุนซูช่างดูบริสุทธิ์ คิดอะไรง่ายๆ ไม่ใช่คนที่อยากได้ใคร่ดีอะไร พึ่งพอใจกับอะไรง่ายๆ ซึ่งจริงๆ มันก็ดี แต่มันก็น่าเสียดายเกินไปทั้ง ๆ ที่จุนซูมีดีอยู่กับตัวเองมากเกินพอที่จะเก็บมันเอาไว้เพียงแค่นี้

“แค่ได้เล่นดนตรี ทำมันเป็นอาชีพหาเลี้ยงฉันกับปู่ได้ แค่นี้ฉันก็มีความสุขแล้ว”

“แต่ฉันอยากให้นายไปไกลกว่านั้นเหมือนกันนะ”คราวนี้เป็นเรียววุคที่นั่งเงียบมานานสอดขึ้นมา โดยมีฮยอกแจพยักหน้าสนับสนุนอยู่ด้วย

“แต่ฉันยังไม่พร้อมนิหน่า” เด็กหนุ่มก้มหน้าพลางเอานิ้วเขี่ยปากกาที่วางบนโต๊ะเล่น ไม่ใช่แค่คุณปู่ที่จุนซูห่วง ไหนจะคุณยูชอนคนรักหมาด ๆที่ยังป่วยอยู่อีกที่จุนซูก็ห่วงมาก เขาสัญญากับคุณยูชอนแล้วว่าจะอยู่ข้างๆ กัน จุนซูจึงทำไม่ได้ถ้าจะต้องไปไหนไกลๆ แม้มันจะเป็นอนาคตที่ดีกว่า

“อย่างนั้นเอาไว้ปีหน้านายทำตัวให้พร้อมแล้วค่อยมาสอบแล้วกัน บางทีเราอาจได้เจอกันที่อังกฤษ” คยูฮยอนหัวเราะลงคอเบาๆ อย่างน่าหมั่นไส้

“บางทีคยูก็ทะเยอทะยานมากเกินไปนะ ฉันว่าถ้าเอาคยูกับจุนซูมาเขย่ารวมกันมันคงจะพอดีกว่านี้”ฮยอกแจพูดพลางส่ายหัวแล้วก็โยนใบสมัครนั้นคืนให้กับเพื่อนตัวสูง คยูฮยอนตวัดสายตาเป็นเชิงดุกับคำพูดนั้น

“ฉันมีดีให้ทะเยอทะยานนิหว่า” คนหล่ออดแก้ตัวที่ฟังดูอวดตัวไม่ได้ก่อนจะกลับไปนั่งอ่านเอกสารที่เพิ่งได้คืนมา
.
.
“คยูฮยอน”จุนซูเรียกชายหนุ่มเสียงเบาๆ พร้อมเอานิ้วสะกิดที่แขนของเจ้าของชื่อ

“หืมมม”

“ถ้านายไปเรียนต่ออังกฤษแล้วซองมินล่ะ”

“ถ้าเขาหรือฉันสอบทุนไม่ได้ ก็คงเรียนที่นี่ต่อจนจบ หรือไม่ก็สอบทุนใหม่อีกทีปีหน้า”

“แล้วคยูฮยอนไม่ห่วงซองมินเหรอ”

“ห่วงเรื่องอะไรล่ะ” คยูฮยอนเลิกคิ้วสูงกับคำถาม

“ก็คยูต้องห่างกันกับซองมินน่ะซิ”

“ฉันไม่ปล่อยให้ความรักมารั้งอนาคตของทั้งฉันและซองมินหรอก ถ้าซองมินสอบได้ฉันก็ดีใจกับเขาและจะปล่อยให้เขาไป ซองมินเองก็คิดเหมือนฉัน เราไม่ได้จากกันตลอดไปนี่ ถ้าในเราสองคนถ้าใครสอบได้เราสัญญากันไว้อยู่แล้วว่าจะตามไปเรียนด้วยกันให้ได้ หรือถ้าไม่ได้ ยังไงเราก็ต้องกลับมาเจอกันที่นี่อยู่แล้ว มันไม่ใช่สัญญาแต่เป็นสิ่งที่ฉันและซองมินตั้งใจด้วยกันแบบนั้น”

“แล้วคยูไม่กลัวว่าตอนห่างกันจะทำให้ความรักมันไม่เหมือนเดิมเหรอ”

“กลัวซิ แต่เราจะยอมทิ้งอนาคตเพียงแค่เพราะความกลัวเหรอ บางทีเรื่องแบบนี้มันก็เป็นบททดสอบความรักเหมือนกัน แล้วมันไม่ใช่แค่ความรักแบบฉันกับซองมินหรอก แม้แต่กับความรักแบบครอบครัวฉันก็คิดว่ามันก็ไม่ต่างกัน ฉันเข้าใจว่านายห่วงปู่มากเพราะท่านอายุมากแล้ว เป็นฉันๆ ก็ห่วง แต่ฉันเชื่อว่าถ้าเพื่ออนาคตที่ดีกว่า ปู่นายคงไม่อยากให้นายมาคอยห่วงเขาเสียจนเสียโอกาสดีๆ ในชีวิต บางทีฉันอยากให้นายรู้จักโลภมากกว่านี้นะจุนซู” คยูฮยอนยิ้มบางๆ ให้กับจุนซู ซึ่งทั้งรอยยิ้มและคำพูดนั้น จุนซูรู้สึกเหมือนว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเขานั้นช่างเป็นผู้ใหญ่เสียเหลือเกิน

“อะนี่ ลองเอากลับไปคิดดู เท่าที่ฉันรู้ทุนนี้ไม่ได้จำกัดคน ถ้าทางคณะกรรมการเห็นว่ามีคนที่สมควรได้เกินกว่าหนึ่งคนเขาก็เคยรับเพิ่ม” คยูฮยอนดึงใบสมัครที่เขาหยิบเผื่อมากันเสียส่งให้จุนซูไป

“แต่...”

“อย่ามาแต่ นายเอาเรื่องนี้ไปปรึกษา ผอ. ดูก็ได้ฉันว่าเขาน่าจะให้คำปรึกษาอะไรที่ดีกับนายได้”

จุนซูอยากจะบอกกับคยูฮยอนเหลือเกินว่าคนที่คยูฮยอนให้ไปปรึกษานั่นแหละคือคนที่จุนซูไม่อยากพูดเรื่องนี้ด้วยมากที่สุด หากแต่ในระหว่างที่เขากำลังก้มมองใบสมัครเขาก็รู้สึกเหมือนใครเอาอะไรบางอย่างตีที่หัวเขาเบาๆ
.
.
“นี่เปี๊ยกเมื่อคืนนายไปไหนมา”

จุนซูเงยหน้ามองเจ้าของเสียงจึงเห็นว่าเป็นชางมินที่บุกเข้ามายืนในห้อง B เสียแล้ว จุนซูเอานิ้วชี้ ที่ตัวเองพลางทำสีหน้าข้องใจว่าสรรพนามพิลึกนั่น ชางมินใช้เรียกเขาหรือ

“เออนายนั่นแหละเปี๊ยก”

“น่าเกลียดกว่าตัวเล็กที่คุณยูชอนใช้เรียกฉันอีก” จุนซูส่งเสียงอแงขึ้นมาทันที โดยได้ยินเสียงหัวเราะของฮยอกแจ กับคยูฮยอนเป็นแบล็คกราวน์

“หรือนายจะอยากได้เตี้ยล่ะ แต่นั่นไม่ได้หรอกฉันเอาไว้เรียกทงเฮแล้ว แล้วถ้าเด็กแคระฉันเอาไว้เรียกเรียววุค นายก็ต้องเอาเปี๊ยกไป”

“ไม่เอาสักชื่อได้ไหม”

“ไม่ได้ แล้วอย่ามาเลี่ยงคำถาม เมื่อคืนนายไปไหนมา ฉันไปเคาะห้องนายจะยืมหนังสือตอนเที่ยงคืนนายไม่เปิดประตูให้ฉัน นายคงไม่หลับเป็นตายจนไม่ได้ยินหรอกใช่ไหม” ชางมินกดเสียงดุถาม ก็เมื่อคืนเขาพยายามเคาะประตูห้องจุนซูอยู่นานแต่เจ้าของห้องก็ไม่ตอบรับ แถมพอกดมือถือไปหาเสียงมือถือยังดังอยู่ในห้องเสียอีก นี่ยังไม่รวมกับคดีที่บอกจะนัดซ้อมกับเขาแล้วหายตัวไปโทรหาก็ไม่ติด เพราะมือถืออยู่ในห้องแต่เจ้าของหายตัวลึกลับเสียจนเขาเกือบจะไปแจ้งให้ฝ่ายปกครองตามหาแล้ว

“เออ...” ถ้าไม่ตอบชางมินคงเอาเขาตายแน่ๆ ดูจากหน้าดุ ๆ ของเพื่อนตัวโย่งแล้ว และตอนนี้ยังมีสายตาอยากรู้อยากเห็นจากเพื่อนๆ อีกสามคนมากดดันเพิ่มขึ้นอีก

“เมื่อคืนฉันไปอยู่บ้านคุณยูชอน”

“บ้าน ผอ. ไอ้ชั้น 4 ตึกอ๊อฟฟิตอะนะ แล้วนายไปทำอะไรที่นั่นดึกดื่นขนาดนั้น”คราวนี้เป็นลีฮยอกแจที่แทรกมาถาม

จุนซูคิดว่าถ้าขืนตอบตรง ๆ ว่าคุณ ผอ.ของเพื่อนๆ ไม่ยอมให้เขากลับห้อง หลังจากที่นั่งคุยเล่น แต่งเพลงกันจนดึกแล้ว คงแย่แน่ๆ เพราะเรื่องระหว่างเขา และคุณยูชอนมันไม่สมควรให้ใครรับรู้ตอนนี้

“ฉันซ้อมดึกไปหน่อย คุณยูชอนเลยให้ค้างที่นั่น”

“ตึกอ๊อฟฟิต กับหอห่างกันแค่นี้อ่ะนะ” ชางมินถามเหมือนประชดเล็ก ๆ

“อภิสิทธิ์ชนไง” คยูฮยอนยักคิ้วและหัวเราะลงคอเบาๆ ถึงแม้จุนซูจะเริ่มชินแล้วกับการประชดทีเล่นทีจริงของคยูฮยอนแต่คราวนี้เด็กหนุ่มกลับรู้สึกสะดุ้งตอนได้ยิน

ถ้าคยูฮยอนรู้ว่าตอนนี้สถานะระหว่างเขาและคุณยูชอนเป็นอย่างไร คยูฮยอนยังจะหัวเราะออกได้แบบนี้ไหม

“แค่นี้แหละที่ฉันอยากรู้ นายควรจะขอโทษฉันนะเพราะเมื่อวานนายผิดนัดฉัน แถมหายไปไหนก็ไม่บอกใครด้วย มันทำให้ฉันเป็นห่วง”

“ฉันขอโทษ” จุนซูก้มหน้าขอโทษเสียอ่อยด้วยความรู้สึกผิดจริงจัง เมื่อวานเขามัวแต่มีความสุขเสียจนลืมไปหมดว่าเขาจะทำให้คนอื่นๆ เป็นห่วง

“อืมม แล้วเดี๋ยวตอนเที่ยงฉันจะไปกินข้าวกับพวกนายนะ” ชางมินหันไปบอกเพื่อนๆ อีกสามคนก่อนจะเดินฝ่าสายตาของเพื่อนห้อง B กลับออกไป

“ชางมินมันเห็นนายเป็นเด็กในปกครองไปแล้วนะ” คยูฮยอนเอ่ยแซวแล้วหัวเราะเบาๆ

จุนซูมองตามแผ่นหลังของชางมินไปจนออกจากห้อง จุนซูคิดไม่ตกว่า เขาควรจะบอกเรื่องระหว่างเขากับคุณยูชอนให้ชางมินได้รู้ดีไหม ในฐานะที่ชางมินเป็นที่ปรึกษาให้กับจุนซูมาตลอด

************************************
ปาร์คยูชอนก้าวเท้าเข้ามายังห้องพักส่วนตัวพร้อมวางมือถือตัวเองลงบนโต๊ะรับแขกกลางห้อง เขาวางตัวเองลงกับโซฟาตัวใหญ่ เนื่องจากความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง

ไม่รู้ว่าเพราะอาการป่วย หรือเพราะเขาเริ่มไม่คุ้นชินกับการไปเจอคนเยอะๆ หรือเปล่าทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกจึงรู้สึกเหนื่อยขึ้นเรื่อยๆ และระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังจะหลับตา เขาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเบาๆ ตอนนี้นอกจากตัวเขาเอง แม่บ้าน คุณฮี คงมีอีกคนที่เปิดห้องนี้ได้ และเขาก็มั่นใจว่าคุณฮีคงไม่ตามมาอีกแน่นอน ส่วนแม่บ้านนั้นคงกลับไปแล้ว ดังนั้นยูชอนจึงแกล้งหลับ และดูว่าคนเข้ามาใหม่จะทำอะไร

“หลับอีกแล้ว” เสียงพูดเบา ๆ นั้นเจือความกังวลอยู่ในน้ำเสียง หลังจากที่เจ้าของเสียงก้มหน้าลงมามองคนแกล้งหลับอยู่

“ป่วยอีกแล้วหรือเปล่าน๊า” เด็กหนุ่มวางกล่องไวโอลินและแฟ้มโน้ตเพลงลงบนโต๊ะเบาๆ ก่อนที่จะลงนั่งกับพื้นพรมหน้าโซฟาแล้วท้าวแขนกับเบาะนุ่มพร้อมกับวางคางของตัวเองลงบนสองมือ จุนซูจ้องมองใบหน้าขาวของคนรักมาด ๆ ด้วยความกังวลใจ

วันนี้คุณยูชอนโทรมาบอกว่าจะออกไปพบคุณหมอ ตอนเด็กหนุ่มได้ยินเขาดีใจมาก และอยากให้ถึงเวลาเลิกเรียนเร็วๆ เพื่อจะได้มาพบคุณยูชอนแล้วถามถึงเรื่องผ่าตัด แต่พอมาเห็นอีกฝ่ายหลับแบบนี้จุนซูก็ยังไม่อยากกวน เพราะคิดว่าคุณยูชอนคงอยากพักมากกว่าคนปรกติทั่วไป

“ต่อไปถ้าผ่าตัดแล้ว คุณยูชอนก็จะไม่ต้องเหนื่อยง่ายๆ แบบนี้อีกแล้วใช่ไหมฮะ” เด็กหนุ่มถามกับคนหลับเบาๆ แล้วเอานิ้วเล็ก ๆ เขี่ยปอยผมยาวที่มาละแก้ม หากแต่ระหว่างที่กำลังเขี่ยอยู่ คนที่เด็กหนุ่มเข้าใจว่านอนหลับอยู่ก็ยกมือขึ้นมาคว้ามือนิ่มนั้นไว้

“อ่ะ” ไม่ใช่แค่จับไว้แต่ตอนนี้ยูชอนดึงมือของเจ้าตัวเล็กของเขาขึ้นมาประทับจูบเบาๆ และนั่นยิ่งทำให้จุนซูทั้งตกใจ และอาย

“ไม่ได้หลับอยู่หรอกหรือฮะ”

“กำลังจะหลับ แต่ได้ยินเสียงใครมาบ่นข้างหูก็ไม่รู้” ยูชอนลุกขึ้นนั่งก่อนรวบเอาตัวเจ้าตัวเล็กขึ้นมานั่งข้างๆ บนโซฟา จุนซูยู่ปากเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองโดนแกล้ง เมื่อก่อนคุณยูชอนไม่เคยเป็นแบบนี้นิหน่า

“โกรธหรือไง แค่ฉันอยากรู้เองว่าถ้าฉันหลับอยู่เธอจะปลุกยังไง” ยูชอนเอื้อมมาลูบผมนิ่ม เขารู้ว่าจุนซูชอบให้เขาลูบผมเบาๆ จุนซูจะรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่เขาทำแบบนี้

“เปล่าฮะ แค่ตกใจเอง แล้วตกลงวันนี้คุณหมอว่ายังไงบ้างฮะ”

“ฉันอาจไม่ต้องผ่าตัด อาจรักษาด้วยการสวนหัวใจได้ซึ่งมันจะอันตรายน้อยกว่าผ่าตัด แต่ซีวอนจะสรุปอีกทีตอนตรวจใหญ่ก่อนทำการสวนหัวใจเดือนหน้า”

“ดีจังเลยฮะ” จุนซูยิ้มร่าเริงก่อนจะเขยิบกายเข้ามาใกล้ ๆ แล้วกุมมือที่ยูชอนวางไว้บนตักเบา ๆ

“อืม มันทำให้ฉันกังวลน้อยลงพอได้ยินแบบนี้”

“แล้วต้องใช้เวลารักษานานไหมฮะ”

“เห็นซีวอนว่าวิธีนี้ฉันพักฟื้นที่โรงพยาบาล 2-3 วันก็ได้แล้ว ฉันก็ภาวนานะให้ทุกอย่างมันออกมาดี ซีวอนบอกฉันว่าถ้าฉันทิ้งไว้อีกสักพักวิธีนี้คงใช้กับฉันไม่ได้แล้ว ต้องขอบคุณเธอซินะที่ทำให้ฉันคิดกลับตัวได้ทันเวลา” คุณ ผอ. หันมายิ้มหวานให้กับจุนซู ก่อนดึงมือเล็ก ๆ นั่นขึ้นมาจรดจมูกโด่งอีกครั้ง จุนซูที่ยังไม่คุ้นชิ้นกับสัมผัสใกล้ชิดแบบนี้ก็ยิ่งหน้าแดงหนักขึ้นไปอีก และพยายามดึงมือตัวเองคืนกลับมาด้วยท่าทางเขินๆ

“ผมจะช่วยภาวนา และสวดมนต์ให้คุณยูชอนทุกวันนะฮะ”

“แค่อยู่ด้วยกันแบบนี้เธอก็เป็นกำลังใจให้ฉันมากแล้ว” คุณยูชอนกลายเป็นคนปากหวานแบบนี้ไปได้ยังไงนะจุนซูมองอีกฝ่ายและอมยิ้มจนแก้มกลม

“วันนี้อยู่กินข้าวเย็นกับฉันนะตัวเล็ก แล้วหลังกินเสร็จเรามาช่วยแต่งเพลงที่เมื่อวานเราแต่งค้างไว้กันต่อ”

“กินข้าวน่ะได้ฮะ แต่แต่งเพลงคงไม่ได้ ผมอยากรีบกลับไปหาเพื่อนๆ วันนี้เรานัดติวกัน” ปาร์คยูชอนทำสีหน้าผิดหวัง แต่ชายหนุ่มก็พยายามปรับสีหน้าตัวเองให้กลับมาปรกติอย่างรวดเร็ว เขาควรจะเข้าใจธรรมชาติของเด็กวัยรุ่นอย่างจุนซู ที่ไม่สามารถอยู่กับเขาได้ตลอดเวลาอย่างที่คนโหยหาความอบอุ่นอย่างเขาต้องการได้เสมอไป

“ไปกินข้าวกันดีกว่าฮะ ป้าจินจูคงทำอาหารไว้แล้ว” จุนซูลุกขึ้นพร้อมกันดึงแขนยูชอนให้ลุกตามขึ้นมา ยูชอนลุกขึ้นนั่ง แต่เด็กหนุ่มหลังจากที่ดึงยูชอนขึ้นมาได้แล้ว ก็รีบพาตัวเองไปจัดการอาหารที่โต๊ะอาหารทันที

“เมื่อวานที่ผมหายมาอยู่ที่นี้ ชางมินบ่นผมแทบแย่ แถมพอชางมินเอาไปบ่นให้ซองมินฟัง ซองมินก็ช่วยกันดุผมกันใหญ่เลย บอกไม่ควรหายไหนโดยไม่บอกพวกเขา” จุนซูบ่นงุ๊งงิ๊งในระหว่างที่จัดถ้วยอาหารไปด้วย

“เพื่อนๆ เธอคงเป็นห่วงนั่นแหละ เธอโชคดีนะที่มีเพื่อนที่น่ารัก”

“ฮะ พวกเขาน่ารักมาก ๆ เลย ผมไม่คิดมาก่อนว่าเราจะเข้ากันได้ดีขนาดนี้”

“เพราะเธอเองก็น่ารักมากกับพวกเขาด้วยแหละ” ยูชอนไม่ได้ปอปั้น แต่เขารู้สึกจริงๆ ว่าใครที่ได้รู้จักกับจุนซู จะต้องอดชอบเด็กคนนี้ไม่ได้
จุนซูหันมายิ้มเขินกับคำชมจนดวงตาที่เหมือนเม็ดอัลมอลล์นั้นหยีเป็นขีด แล้วเจ้าตัวเล็กก็หัวเราะด้วยน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์เบาๆ จนยูชอนอดหัวเราะกับท่าทางน่ารักนั้นไม่ได้

หากแต่ระหว่างที่เขากำลังจะลุกขึ้นไปหาคนที่หัวเราะอย่างน่ารักที่โต๊ะอาหาร สายตาก็เหลือบไปเห็นเอกสารที่เหน็บมากับแฟ้มใสใส่โน้ตของจุนซู

‘เอกสารสมัครสอบทุนของรอยัลอคาเดมี่’

ไม่แปลกหรอกที่นักเรียนของสถาบันจะถือเอกสารใบนี้กันว่อน แต่หากเมื่อยามมันอยู่ในมือจุนซู ปาร์คยูชอนกลับรู้สึกเจ็บร้าวในอกขึ้นมาทันที


...............................................................



สวัสดีคะ เหมือนหายไปนานมากกกเน้อคะ ช่วงนี้ปุ้มงานเยอะมากอะคะ งานรับจ๊อบปุ้มขึ้นอยู่กับปริมาณศิลปินนานาอารยะประเทศจะทำอีเว้นท์ หรือมาเยี่ยมเยียน เลยงานเยอะมากเดือนที่ผ่านมาปุ้มเจอไปถ่ายรูปทั้งหมด 9 งาน พอไมได้พักไอ้ที่ป่วยอยู่เลยไม่หาย เลยนานกว่าปรกติ ตอนหน้าคงสัญญาไม่ได้ว่าจะเร็วอีก เพราะตามคิวเนี่ยปุ้มเจองานหนักตั้งแต่ Mnet กินยาวต่อทงเฮ JYJ และอีมินโฮต่อเลยควบสองวีค เลยอาจต้องรอหน่อยตอนหน้า

อีกอย่างสารภาพผิดเลยว่าเริ่มแต่งอีกเรืองอยุ่เลยต้องเจียดเวลาให้เรื่องใหม่ไป

อยากถามรีดเดอร์คะว่าตอนนี้อ่านแล้วรสชาติอะไรที่ได้รับมากที่สุด..







Create Date : 28 กันยายน 2553
Last Update : 28 กันยายน 2553 2:03:20 น. 14 comments
Counter : 546 Pageviews.

 
ว้าว มาต่อแล้ว
งานเยอะเหมือนกันเลย

กำลังจะหวานแต่แอบเกือบขมใช่มั้ยคะตอนนี้
อยากอ่านทั้ง สองเรื่องนะคะ แต่เรื่องนี้มากกว่าเพราะใจให้ยูซูไปแล้ว


โดย: unoony IP: 58.9.143.155 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:3:18:30 น.  

 
ดีใจจังคุณปุ้มมาต่อแล้ว ^^
ชอบคุณฮี กับคุณหมอชีวอนจังเลยค่ะ คู่นี้เหมาะดีค่ะ
รู้สึกว่าตอนนี้คุณผ.อ ของเราจะทั้งรักแล้วก็หลงเจ้าตัวเล็กเอามากๆเลยนะค่ะเนี่ย แต่พอน้องปฏิเสิธที่จะอยู่ต่อ ท่านผ.อก็จะเริ่มเกิดอาการซะแล้ว สงสัยท่านผ.อ ของเราจะป่วยอีกโรคแล้วล่ะมางงง โรคขาดเจ้าตัวเล็กไม่ได้ อิยะฮ่าฮ่า ตอนหน้าจะเป็นยังไง ท่านผ.อ ของเราจะให้เจ้าตัวเล็กไปสอบชิงทุนหรือไม่คอยติดตามคุณปุ้มต่อไป หุหุหุหุ ^^
**จะคอยติดตามคุณปุ้มนะค่ะ งานเยอะก็อย่าลืมพักผ่อนให้เยอะๆเหมือนงานด้วยนะค่ะ เป็นห่วงค่ะ รักคุณปุ้มและรักดงบังชินกิค่ะ อ้อรักยูซูด้วยค่ะ ไฟว์ติ้งจ้า ^_^


โดย: -Killer Queen- IP: 124.121.157.69 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:8:04:18 น.  

 
ดีใจที่มาต่อแล้ว
แต่พอพี่บอกว่าตอนหน้าต้องรอนานเลยรู้สึกเศร้า
แต่ว่า สู้ๆนะคร้า รอรวมเล่มอยู่ด้วยค่ะพี่..


โดย: NaTTy IP: 124.122.227.119 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:12:49:01 น.  

 
อิจฉางานพี่ปุ้มจังเลยค่ะ ๕๕๕

ปาร์คเอ๊ย หาเรื่องดราม่าให้ตัวเองอีกแล้ว
ถึงน้องจะสอบทุนหรือไม่สอบก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นา
เชื่อว่าระดับปาร์ค ต่อให้น้องไปอยู่ที่อังกฤษ
พี่ท่านก็คงจะดิ้นรนหาทางตามไปได้แหละน่า

อ่านตอนนี้แล้วสารภาพว่าปลื้มชางมินมาก
ชอบมากกกกกกกก
จริง ๆ ก็เพื่อน ๆ ของน้องทุกคนเลย แม้แต่คยูฮยอน (รายนี้ขี้เก๊กไปหน่อย แต่จริง ๆ แล้วใช้ได้เลยนะ) ทุกคนเป็นห่วงน้องมากเลยอ่ะ
หรือเพราะว่าน้องให้ความรู้สึกเหมือนเด็กเล็ก ๆ ที่ยังไม่โตก็ไม่รู้สินะ

รสชาติที่ได้รับจากตอนนี้ บอกไม่ถูกอ่ะค่ะ
จะว่าหวานมันก็หวานนะ แต่ไม่มากเท่าไหร่ พอเริ่มจะมีท้าย ๆ ความคิดพี่ปาร์คก็ทำเอาดราม่าซะแล้ว ๕๕๕

รอตอนต่อไปนะคะ


โดย: measama IP: 58.8.141.4 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:17:04:38 น.  

 
ไชโยยยย ขอบคุณมากค่าที่มาต่อ
อยากจะกรี๊ดดังๆให้โลกรู้ว่า วันนี้เรามีความสุขมากกกก

ตอนแรกก็หวานมาเชียว อมเปรี้ยวนิดหน่อยตอนเจอคุณฮี จากนั้นก็กลมกล่อมเรื่อยมา จนมาหวานสุดๆก็ตอนปาร์คอ้อนน้องนี่ล่ะ
แต่ตอนท้าย aftertaste ดันติดรสขมไปเสียนี่

ช่วงนี้ฝนตกน่ากลัวมาก คุณปุ้มไม่สบายอยู่ รักษาสุขภาพให้มากๆนะคะ

ปล. เข้าใจว่าตอนนี้ไรเตอร์คงกำลังตื่นเต้นกับเรื่องใหม่อยู่ แต่ยังไงก็อย่าลืมยูซูเรื่องนี้น้า


โดย: เย้ IP: 58.11.84.226 วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:0:06:04 น.  

 
ตอนนี้มีทุกรสเลย แต่ติดรสขมตอนจบอ่า

ง่าาาาาา...


โดย: ooopimmyooo IP: 125.27.242.120 วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:12:06:00 น.  

 
หุหุ คุณปุ้มสู่ๆค่ะ และรักษาสุขภาพด้วยนะคะ เห็นว่ากำลังเขียนเรื่องใหม่อยู่ด้วย แปลว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะได้อ่านเรื่องใหม่อย่างต่อเนื่อง เมื่อเรื่องนี้จบ
ถามว่าอ่านตอนนี้จบแล้วรู้สึกยังไง...รู้สึกหวั่นใจอะคะ ความรักมักถูกขวางกั้นด้วยอนาคต ได้แต่ภาวนาให้ปร๊ากเข้มแข็ง ขอบคุณคุณปุ้มนะคะ ยุ่ง แถมยังไม่ค่อยสบายยังอุตส่าห์เขียนฟิคมาให้อ่าน ขอให้สุขภาพแข็งแรงค่ะ ถ้าแย่งชิงบัตรมาได้ หวังว่าจะได้เจอกันที่งาน JYJ นะคะ ^^


โดย: chocojunk IP: 124.122.226.19 วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:21:15:13 น.  

 
มาต่อแล้วดีใจจังเลยยยย
งานเยอะเหรอคะ สู้ๆๆน้าๆ
ตอนนี้น่ารักสุดๆๆเลย
หวานมากๆๆๆๆๆๆ
ปล.อยากไปงานJYJจังเลย
แต่วันขายบัตรสอบนี่สิ
อดเลยยยยย

ปล.รักษาสุขภาพด้วยนะคะ^^


โดย: lamoneko IP: 183.89.55.175 วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:18:25:15 น.  

 
ไรท์เตอร์กลับมาต่อแล้ว

ขอให้อาการป่วยขอยูชอนหายดีด้วยเถอะ
อย่าให้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเลย

ชอบเวลายูชอนอยู่กับจุนซูจัง
ปากหวาน แล้วก็ขี้อ้อนมากๆเลยน่ารักดีคะ

จุนซูเวลาเขินก็น่ารักเหมือนกันคะ

แล้วนี่ยูชอนมาเห็นเอกสารแบบนี้
ไม่คิดมากไปใหญ่เหรอคะ
หวังว่าคงไม่ตีความอะไรผิดๆจนกลายเป็นเรื่องใหญ่นะคะ

ยังไงไรท์เตอร์รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ

ปล.ส่วนรสชาติที่ได้รับมากที่สุด
ก็คงเป็นรสหวานหละมั้งคะ
ก็พาร์ทนี้ความรักลอยอยู่เต็มไปหมด
ทั้งความรักระหว่างพี่น้อง ระหว่างเพื่อน
รวมถึงยูซูของเราด้วย


โดย: azure_^^ IP: 125.25.182.213 วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:23:09:13 น.  

 
ตอนนี้น่ารักมากมาย
มีความรักระหว่างเพื่อน
และความหวานระหว่างยูซู
แต่แอบขมตอนท้ายแบบนี้คุณผอ. จะทำงัยล่ะที่นี้!!
ตัวเล็กดูแลหัวใจด่วนจ้า

ปล.มาช้าไปนิ๊ด(?)แต่ตั้งใจมาน้า~ มิโดริงานเยอะมากๆเลย แล้วอย่าลืมพักผ่อนเยอะด้วยนะจ๊ะ

^___________^~



โดย: patongko IP: 58.8.26.223 วันที่: 5 ตุลาคม 2553 เวลา:10:25:22 น.  

 
อ๊า~
คิดถึงฟิคเรื่องนี้จังเลย หลังจากงานเข้าทำให้ไม่ได้ตามอ่านฟิคนานชาติเศษ...555 และสำหรับคำตอบของตอนนี้คงต้องบอกว่าหวานอมขมกลืนรึปล่าว..แหมก็นะคนกำลังอินเลิฟ อยากได้กำลังใจ แต่จะให้ตัดอนาคตคนที่รักจะทำได้ลงคอหรอ...ยิ่งเป็นผอ.ปาร์คด้วยแล้ว กำลังอยู่ในช่วงแบบนี้จะทำยังไงเนี่ย ตัวเล็กเอ้ยยย...งานเข้าแล้วเรา และที่อยากบอกอีกอย่างคือตอนที่แล้วเนี่ยยย...หวานมากกก

สุดท้ายก็ฝากบอกเจ้าของฟิคว่ารักษาสุขภาพนะคะ...เพราะยังมีคนรออ่านฟิคเรื่องนี้อยู่...อิอิ^^


โดย: loveyoosu IP: 110.164.179.2 วันที่: 5 ตุลาคม 2553 เวลา:14:28:51 น.  

 
เรื่องนี้ลงในเด็กดีนิ
ตามอ่านอยุ่ๆ
ทำไมเราไม่รู้เลยอะ
ลงลิงค์ไว้ในเด็กดีด้วยก้อได้นะคะ


โดย: dek-d IP: 125.24.176.165 วันที่: 7 ตุลาคม 2553 เวลา:22:53:18 น.  

 
คิดถึงค่ะ แต่ก็จะรอต่อไป
ตอนนี้หวานนิดๆ ขมหน่อยๆค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: micky.com IP: 58.10.128.217 วันที่: 7 ตุลาคม 2553 เวลา:23:39:20 น.  

 
ไรเตอร์ ช่อนคงไม่เจ็บปวดกว่านี้ใช่ไหม

ขอให้รักทั้งสองมั่นคง


โดย: Pa IP: 171.7.204.1 วันที่: 14 มิถุนายน 2555 เวลา:3:25:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Angels Midori
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Angels Midori's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.