Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
Yoosu Fiction[Suonare L'amore] Part 22



Suonare L'amore




Suonare L'amore


Titile: Suonare L'amore Part 22
Author: Angel Midori
Genre: Romantic Drama
Rating: PG
Pairing: YooSu
Note : ฟิค TVXQ และ Y ค่ะเผื่อใครหลงเข้ามา..


************************************

ทำไปเสียแล้ว ไม่อาจทัดทานความต้องการของหัวใจได้อีกแล้ว ทำไมนะนายไม่ใช่เด็กแล้วยูชอน แต่ทำไมถึงไม่รู้จักยับยั้งการกระทำของตัวเองแบบนี้

ยูชอนได้แต่พร่ำด่าตัวเองในใจ เมื่อยามที่เค้ายังคงปล่อยให้เด็กหนุ่มซอนซบอยู่บนอกของเขา หลังจากที่เพิ่งมีสติว่าตัวเองทำอะไรลงไปกับคนที่เป็นลูกศิษย์

ผิด...
ไม่ควร....

คำพวกนี้หลอกหลอนเขาเสียจนไม่กล้าที่สบตาหนุ่มน้อยในอ้อมกอด จุนซูจะคิดยังไงกับเขาในตอนนี้ จะโกรธ จะรังเกียจไหมที่เผลอเอาเปรียบกัน จะคิดไหมว่าเขาช่างเลวร้ายที่ทำเรื่องน่าเกลียดกับลูกศิษย์ที่อยู่ในปกครอง

แล้วถ้าจุนซูคิดแบบนั้นจริงๆ ยูชอนนึกไม่ออกว่าเขาจะทำเช่นไรเพื่อกู้ความรู้สึกดีๆ ให้กลับมา
.
.
อาจเป็นเพราะระยะเวลาที่เงียบงันนั้นยาวนานเสียจนคนที่อยู่นิ่งๆ ไม่ได้นาน ทนไม่ได้ เด็กหนุ่มจึงค่อยๆ แย้มหน้าออกจากอกอุ่น แต่เจ้าตัวก็ยังไม่กล้าสบตากับยูชอน จุนซูก้มหน้าและพลิกตัวเองออกจากอ้อมกอด

จุนซูอยากมองหน้าคุณยูชอน อยากถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคุณยูชอนทำไปทำไม แต่จุนซูก็ไม่กล้าพอ

พอเด็กหนุ่มพลิกตัวเองออกมา และกำลังจะหันหลังให้กับคนที่เพิ่งกระทำเรื่องผิดปรกติแต่หวานซ่านนั้น เด็กหนุ่มก็รู้สึกถึงสัมผัสเบา ๆ ที่รั้งไว้ที่ไหล่บาง

ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดจากกลีบปากอิ่มของคนที่รั้งไว้ ทั้งคู่ได้แต่มองหน้ากันนิ่ง ด้วยความรู้สึกที่ต่างก็ไม่สามารถเอ่ยบอกกันตรงๆ ได้

“เออ........” เป็นเด็กหนุ่มที่ทนความรู้สึกอึดอัดไม่ได้อ้าปากหมายจะพูดอะไรบางอย่างให้สถานการณ์มันดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ แต่....

“ดึกแล้ว รีบเข้านอนแล้วกันนะจุนซู ฉันคงต้องไปพักผ่อนก่อน เดินทางมาไกลมันคงทำให้ฉันเหนื่อย” อยู่ดีๆ คนที่เป็นชนวนเหตุการณ์อึดอัดนี้กลับแย่งตัดบทไปเสียก่อน

พอสิ้นคำพูด ปาร์คยูชอนก็รีบลุกพลุนพลันเข้าห้องนอนของตัวเองทันที ทิ้งไว้ก็เพียงเด็กหนุ่มที่ยังนั่งนิ่งอยู่บนพื้นพรม จุนซูมองตามแผ่นหลังกว้างไปด้วยความไม่เข้าใจใด ๆ ทั้งสิ้น รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้หัวใจของตัวเองหลบตุ๊บลงกับพื้นพรม มันทั้งเจ็บและใจหาย

จุนซูไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจในการกระทำใด ๆ ทั้งสิ้นของคุณยูชอน

ปาร์คยูชอนไม่ได้ปิดประตูหากแต่เขายังคงแง้มบานประตูไว้และลอบมองออกมายังห้องรับแขก เจ้าตัวเล็กยังนั่งอยู่ตรงนั้น นั่งอยู่ที่เดิมมาหลายนาทีแล้ว ชายหนุ่มโกรธตัวเองที่ไม่สามารถจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ดีกว่านี้ และเขาก็ไม่รู้จะจัดการมันยังไง อยากถามเจ้าตัวเล็กว่าโกรธเขา รังเกียจเขาไหม ก็ไม่กล้าที่จะรับฟังคำตอบ หากพอคิดจะเอ่ยบอกเหตุผลว่าทำไมถึงทำอะไรแบบนั้นลงไป เขาเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำไปทำไม

หรือที่ไม่รู้เพราะแกล้งที่จะไม่รับรู้กันแน่ว่าหัวใจมันสั่งให้ทำไปทำไม....

จุนซูนั่งนิ่ง ๆ ตรงนั้นได้สักพักใหญ่ เจ้าตัวเล็กก็เดินเก็บข้าวของในห้องรับแขกจนเป็นระเบียบ แล้วค่อยๆ เดินเข้าห้องนอนไป คนแอบมองถอนหายใจเบา ๆ เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวเล็กดูปรกติขึ้นบ้างแล้ว

ยูชอนรู้ว่าวิธีแก้ปัญหามันไม่ดีเอาเสียเลย แต่มันคงจะดีกว่าที่จะพูดอะไรขึ้นมาตอนนี้..

*********************************

“ทำไมวันนี้ทำหน้าแปลก ๆ” แจจุงเดินมาท้าวแขนกับหลังคารถและก้มมอง คนรักที่ยังนั่งอ้อยอิ่งอยู่ที่เบาะคนขับไม่ยอมออกมาเสียที

ตั้งแต่แจจุงบอกว่าวันนี้อยากมาค้างที่บ้านของยุนโฮ ชายหนุ่มก็ทำสีหน้าอึดอัดใจ แถมยังถามคำถามที่แสนประหลาดอีกว่าจะมาค้างทำไม ร้อยวันพันปียุนโฮไม่เคยคิดถาม เมื่อก่อนมีแต่คะยั้นคะยอให้แจจุงมา ถึงขนาดเคยคิดจะประกาศขายคอนโดของเขา แต่ขืนทำอย่างนั้น ใครรู้ต้องตั้งคำถามมากมายแน่ๆ ว่าแจจุงเข้ามาอยู่บ้านตระกูลชองด้วยฐานะอะไร

“คิดมากไปหรือเปล่า”

“คบกันมาตั้งนานทำไมจะดูไม่ออก วันนี้นายดูผิดปรกตินะยุนโฮ”

“ฉันอาจเหนื่อยก็ได้ เข้าบ้านกันเหอะ”
แค่นี้ก็ดูออกชัดว่าถูกคนรักตัดบท ยุนโฮก็เป็นเสียแบบนี้ ชอบคิดว่าตัวเองแก้ปัญหาทุกอย่างได้เอง ไม่อยากปรึกษาใคร คบกันมารวมสิบปี ทุกครั้งที่มีปัญหาใหญ่มีแต่แจจุงต้องเค้นคอถามเอาทั้งนั้น และยังมีอีกหลายเรื่องที่กว่าเขาจะรู้ยุนโฮก็จัดการแก้ปัญหาไปหมดเสียแล้ว แจจุงไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องดีเลย ที่เป็นคนรักกันแต่กลับคอยถูกปกป้องให้อยู่แต่ในครอบแก้ว รับรู้แต่มุมสว่างในแบบที่ยุนโฮอยากให้เขาอยู่

แจจุงคว้าเอามือใหญ่เข้ามากุมไว้ และเดินตามเข้าไปในบ้าน ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แม่บ้านหันมายิ้มกว้างให้แจจุง เด็กรับใช้กุลีกุจอมาต้อนรับทั้งคู่ คุณแม่ กับคุณน้ากล่าวทักทายเมื่อพวกเขาเดินผ่านห้องนั่งเล่น ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป แต่ในใจยุนโฮรู้ดีว่ามันไม่เหมือนเดิม

ยุนโฮกระชับมือพาคนรักเดินขึ้นมาบนชั้นสอง และตรงนั้น คุณพ่อกำลังมองพวกเขาทั้งคู่อยู่

“สวัสดีฮะคุณพ่อ” คนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร กล่าวทักผู้ใหญ่ก่อน คนถูกทักชะงักเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับคำทักทายนั้น

ชองโฮจินหันมาปรายสายตามองมาที่บุตรชาย ถ้ายุนโฮเดาถูกท่านคงถามเขาด้วยสายตาว่านี่คือสิ่งที่เขาตัดสินใจหรือ

“ผมขอตัวก่อนนะครับ” ยุนโฮกระตุกมือแจจุงให้เดินตามขึ้นมา หากแต่เสียงห้าวแหบของชองโฮจินก็รั้งทั้งคู่ไว้

“กินอะไรมาหรือยัง”

“ทานแล้วฮะ” แจจุงเป็นคนตอบคำถามนั่นเอง เพราะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลก ๆ ระหว่างพ่อลูก

“อืม นั้นก็ไปเหอะ” ชายสูงวัยเดินสวนกับทั้งคู่ลงบันไดไป โดยที่ยุนโฮก็หันมองตามแผ่นหลังของบิดาไปจนสุดสายตา

“แปลกจริงด้วย”

“หือ”

“นายไงที่แปลก วันนี้ทำท่าอึกอัก ๆ ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อกี้ต่อหน้าคุณพ่อ แล้วไหนจะท่าทีเหมือนไม่อยากให้ฉันมาที่บ้าน วันนี้นายเป็นอะไรของนายยุนโฮ”

“คิดมาก”

“อย่ามาตลกนะ พักนี้เวลานายเจอฉัน นายทำท่าทีแปลก ๆ ทุกครั้ง” ยุนโฮถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็ดึงรั้งคนรักให้ตามเข้ามาในห้อง
ยังไม่ทันที่จะปิดประตูดี แจจุงก็ดึงข้อมือตัวเองออกจากการเกาะกุมแล้วหันไปบอกคนรักโดยกดน้ำเสียงต่ำลง เพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน

“บอกมา อย่าปิดบังยุนโฮ ตอนนี้นายมีเรื่องอะไรไม่สบายใจใช่ไหม แล้วบางทีฉันก็รู้สึกด้วยว่ามันเกี่ยวกับฉันโดยตรง พักนี้เวลาเราอยู่ด้วยกันนายชอบเหม่อ ทำเหมือนคิดอะไรในใจตลอดเวลา เราเป็นคนรักกันนะยุนโฮมีอะไรทำไมไม่พูดไม่บอก”

“แจจุงมันไม่มีอะไรจริงๆ” ยุนโฮประคองใบหน้าสวยของคนรักเบาๆ แล้วมองนิ่งสบตาดวงโตนั้น ต่อให้รู้อยู่เต็มอกว่าการโกหกมันบาป แต่เขาก็จำเป็นต้องทำ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เขาต้องจัดการเอง ไม่อยากให้แจจุงมารับรู้ด้วย และคำตอบในใจมันก็มีอยู่แล้ว ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางที่จะเลิกกับแจจุงแน่นอน

“ไอ้ที่ว่าไม่มีก็มีทุกครั้ง ขอร้องล่ะยุนโฮ อย่าคิดว่าฉันบอบบาง อย่าคิดว่าฉันช่วยอะไรนายไม่ได้ ฉันจะมีความสุขได้ถ้าฉันได้แบ่งปันทั้งทุกข์และสุขของนาย อย่าปล่อยฉันไว้ข้างหลังโดยที่นายลุยไปข้างหน้าเพียงลำพัง ฉันไม่เคยมีความสุขสักครั้งที่ได้รับรู้” แจจุงวางมือทับลงบนมืออบอุ่นที่ตอนนี้กลับร้อนจัดสำหรับแจจุง แววตาที่เคยนิ่งกลับวูบไหวเมื่อคำพูดของแจจุงจบลง

“ขอร้อง ยุนโฮขอร้องเถิดบอกฉัน”

ยุนโฮถอนหายใจเฮือก เขาแพ้อาการขอร้องด้วยท่าทางจะเป็นจะตายของแจจุงเสมอ

“มันอาจทำให้นายรู้สึกแย่”

“ก็เพราะเป็นอย่างนั้นไงนายถึงต้องบอกฉัน”

เขาแพ้ตั้งแต่ทำให้แจจุงจับสังเกตุได้แล้ว แจจุงฉลาด และละเอียดอ่อน เกินกว่าจะปิดบังอะไรได้ แล้วยุนโฮก็ไม่สามารถทอดทิ้งความรู้สึกของแจจุงได้เช่นกัน เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายจะต้องเสียใจ และพยายามจนรู้ในได้แน่นอน ถ้าเขาละเลยที่จะไม่บอก ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว

“วันก่อนพ่อเรียกฉันไปคุย เรื่องของเราสองคน”

“หือ?”

“พ่ออยากให้ฉันทบทวนเรื่องความสัมพันธ์ของเรา”

“มันหมายถึงยังไงยุนโฮ พูดมาตรง ๆ” แจจุงกระชับมือตัวเองกับฝ่ามือของคนรักที่ตอนนี้ดึงลงมากุมกันเอาไว้อยู่

“พ่ออยากให้ฉันคิดดี ๆ เรื่องที่เราคบกันแบบนี้ พ่ออยากให้ฉันแต่งงานแต่งการกับผู้หญิงที่เหมาะสมกับฉันสักคน”

“หมายถึงท่านอยากให้เราเลิกกัน?”

“ไม่ ท่านไม่ได้พูดแบบนั้น”

“แต่นายก็เครียดเรื่องนี้มาก นายอยากทำให้พ่อพอใจ และฉันพอใจด้วยใช่ไหมยุนโฮ”

“อืมม”

“แล้วนายได้คิดอย่างที่พ่อบอกหรือยัง คิดดีๆ เรื่องระหว่างเรา คิดดีๆ เรื่องอนาคตของนาย”

“ฉันรู้คำตอบดีอยู่แล้วแจจุง ฉันไม่มีทางทิ้งเธอได้ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉันนั่นคือเธอ” แจจุงยิ้มอ่อนหวานให้กับพูดนั้น ยุนโฮไม่ใช่คนปากหวาน และทุกคำพูดของเขาเชื่อได้ว่ามันจริง

“ก็เรื่องแค่นี้เอง แล้วทำไมไม่บอกฉันยุนโฮ”

“เธอไม่เสียใจเหรอที่พ่อฉันพูดแบบนี้”

“ฉันไม่โกรธคุณพ่อเลยนะที่ท่านพูดกับยุนโฮอย่างนี้ ฉันเข้าใจท่าน และเห็นด้วยกับท่านด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ไม่ใช่นางเอกพอที่จะบอกให้ยุนโฮไปจากฉันเสียเถิดเพื่อสิ่งที่ดีกว่า เพราะฉันก็มั่นใจในตัวเองว่าฉันก็มีดีพอที่จะอยู่ข้างๆ ยุนโฮ และท่านไม่ได้บอกให้เราเลิกกันเสียหน่อย แค่บอกให้ยุนโฮคิด ในเมื่อคิดแล้วว่ายังไงเราก็จะไม่เลิกกันก็จบ”

“คิดได้ง่ายๆ แบบนั้นก็ดีซิ แล้วถ้าพ่อไม่ยอม พ่ออยากให้ฉันเลิกกันเธอล่ะ”

“มันยังไม่ถึงเวลานั้นสักหน่อย แล้วต่อให้สั่งก็คิดเหรอว่าฉันจะยอม เราโตแล้วนะยุนโฮ แล้วฉันก็จะสู้และพยายามเพื่อเราสองคนให้มากกว่านี้”

ยุนโฮกดจูบเบาๆ บนริมฝีปากสีเข้มที่ขยับอยู่ตรงหน้า แจจุงเข้มแข็งเสมอ และเป็นคนที่มองอะไรในแง่บวก ผิดกับเขา ถ้าเขาคิดแบบแจจุงเสียแต่แรกก็คงไม่ต้องมาคิดมากแบบนี้ แต่แน่นอนต่อให้แจจุงพูดแบบนี้มันก็ไม่ได้ทำให้คลายกังวลได้ เพราะรู้ดีว่าพ่อไม่เคยปล่อยวางอะไรง่ายๆ เช่นกัน อะไรที่ท่านต้องการท่านก็ต้องทำมันจนถึงจุดหมาย

“อย่าคิดมากรู้ไหม คิดมากแก่เร็ว ฉันไม่ได้อยากได้อะไรจากยุนโฮไปมากกว่าให้รักฉันให้มาก ๆ ถ้าต่อไปมันจะเจออะไรที่ลำบากมากกว่านี้แค่รักฉันมาก ๆ ก็พอ ฉันก็จะรักยุนโฮมาก ๆ แล้วจะบอกอะไรให้ แค่นายไปบอกผู้หญิงสักคนที่พ่อคิดจะหามาให้ ว่านายชอบผู้ชายขี้คร้านเขาจะรีบคืนนายมาให้ฉันแทบไม่ทัน” คนมองโลกในแง่ดีหัวเราะเสียงใสก่อนจะโอบแขนกับรอบคอของรัก และรั้งให้ใบหน้าแนบชิดจนปลายจมูกโด่งเคลียกันเบาๆ

“วันนี้จะทำให้ยุ่ง จนเลิกคิดมากเลย” ยุนโฮอดหัวเราะกับคำพูดสองแง่สองง่ามของคนรักแสนซนไม่ได้

แจจุงทำให้เรื่องที่เขาคิดไม่ตกกลายเป็นปัญหาจิ๊บจ๊อยไปเสียได้ เอาเถิดเวลาแบบนี้เขาควรโยนปัญหาโลกแตกนี้ทิ้งและชู้ตมันไปไกลๆ แล้วเอาเวลามากระชับความสัมพันธ์ ซึ่งกันและกันดีกว่า

***************************
จุนซูเดินลากกระเป๋าใบโต และข้าวของที่ติดมือมาเอามาวางไว้กลางห้องพัก ก่อนจะพาตัวเองไปนอนหมดแรงอยู่บนเตียงหลังเล็ก เด็กหนุ่มหลบออกมาจากบ้านของ ผอ.หนุ่มเสียตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง ดีที่ยามอนุญาตให้เขาเข้ามายังหอพักได้ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้จะทำยังไง แถมเมื่อคืนเจ้าตัวยังนอนไม่หลับ และตอนนี้อาการง่วงงุนมันเริ่มจะเข้ามาทำร้ายเขาเสียแล้ว

จุนซูรู้ว่าการที่เดินออกมาเช่นนี้มันไม่ควร คุณยูชอนคงจะดุเอาถ้ารู้ว่าเขาหนีมาก่อน แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเวลานี้จุนซูไม่กล้าแม้จะพบหน้า ผอ.หนุ่ม

จุนซูเสียใจเมื่อคิดไปว่าคงมีแต่ตัวเองเท่านั้นที่คิดไปไกล และก็กลัวคำตอบที่ได้รับจากคุณยูชอนเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนว่ามันจะเป็นคำตอบที่ทำให้เสียใจมากกว่าเดิม

แถมอยู่ดีๆ คำพูดของชิมชางมินมันก็ดันเข้ามาในหัวเพิ่มขึ้นมาอีก จนจุนซูต้องรีบสลัดความคิดแย่ๆ พวกนั้นออกไป ถึงยังไงจุนซูก็ยังเชื่อว่าคุณยูชอนไม่ได้ตั้งใจทำอะไรเลวร้ายกับเขาหรอก ถ้าคิดจะทำจริงคงไม่ทำเพียงแค่จูบและหลบหน้าไปแบบนี้ ถ้าคิดจะล่วงเกินกัน ผอ.หนุ่มมีโอกาสมากอยู่แล้ว ฉะนั้นจุนซูก็ยังเชื่อว่า คุณยูชอนไม่ได้คิดอะไรสกปรกแบบนั้นกับเขา

แต่ทำไมล่ะถึงจูบจุนซู แบบนี้มันทำให้จุนซูคิดมากรู้ไหม??

เด็กหนุ่มทำได้แต่เพียงเอาหน้าซุกหมอน แล้วพยายามข่มตาให้หลับ ในเมื่อคิดว่า คิดให้หัวระเบิด ก็คิดไม่ออกหรอกว่าทำไม

แต่อยู่ดีๆ เสียงริงโทนเพลงที่คุ้นหูก็ดังลั่นทำลายความตั้งใจเสียสิ้น ไม่ต้องดูก็รู้ว่าใครเป็นคนโทรมา

จุนซูกลั้นใจสักพักก่อนจะกดรับสายนั้น
“ฮัลโหล”

“นี่พวกฉันกำลังเริ่มออกเดินทางนะ อีกสักพักคงไปถึงโรงเรียน” เสียงใสๆ นั่นกรอกลงมาตามสาย จุนซูได้แต่เออออรับคำของลีซองมินที่พูดอยู่ และไม่นานอีกฝ่ายก็วางสายทิ้ง

ตอนได้ยินเสียงโทรศัพท์เพียงแวบแรกเจ้าตัวเล็กก็คิดว่าคนที่โทรมาจะเป็นคนที่ตัวเองหนีหน้าออกมา แต่มันก็เป็นแค่ความหวัง ทั้งๆ ที่หลบหน้าอีกฝ่ายมาแท้ๆ ยังจะหวังให้เขาโทรมาตามหาอีกหรือ

จุนซูกลับไปนอนซุกหน้าอยู่กับหมอนใหม่ พลางถอดถอนใจ

ทำไมไม่มีใครบอกจุนซูก่อนหน้านี้น่ะ ว่าการมีความรักมันมีแต่เรื่องให้คิดมาก

ก๊อก ๆๆ .........

เด็กหนุ่มถึงกับร้องครางด้วยความอ่อนใจ เมื่อคราวนี้กลายเป็นเสียงเคาะประตูที่ทำลายความตั้งใจจะนอนของตัวเองลงอีก

“ใครฮะ”
“ป้าจินจูจ๊ะ”

“ป้ามีอะไรเหรอฮะ” จุนซูค่อย ๆ พาตัวเองมาที่หน้าประตูก่อนเปิดไปสนทนากับ แม่บ้านประจำตัวของ ผอ.หนุ่ม

“ก็หนูเล่นหายมาอย่างนี้ ใคร ๆก็เป็นห่วงซิจ๊ะ นี่คุณยูชอนให้ฉันเดินมาดูมาหนูกลับมาที่ห้องหรือยัง”

“คุณยูชอนตื่นแล้วเหรอฮะ”

“ตื่นแล้วจ๊ะ ตื่นมาแล้วไม่เจอหนู ผอ.ก็เลยตกใจ นี่ให้ฉันลองเดินมาดูที่นี่ก่อนว่าอยู่ไหม อยู่นี่ก็โล่งใจไป วันหลังอย่าทำแบบนี้รู้ไหมจ๊ะผู้ใหญ่ห่วงแย่” ป้าจินจูดุเด็กหนุ่มไม่จริงจังนัก แล้วเธอก็เดินจากไป ทิ้งให้จุนซูมองตามหลังไป

ดีใจที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นห่วง แต่ก็ไม่ใช่ความปรีดาจนที่สุด ก็ทำไมนะคุณยูชอนถึงไม่โทรมาตามหา หรือเดินมาด้วยตัวเองล่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ คุณยูชอนเองก็คงตั้งใจที่จะหลบหน้าเช่นกันใช่ไหม




พอแม่บ้านขึ้นมารายงานกับเขาว่าเจ้าตัวเล็กกลับไปที่หอพักแล้ว มันทำให้ยูชอนโล่งใจขึ้นมาก เมื่อเช้าตอนที่ตื่นมาแล้วไม่เห็นกระเป๋าใบโต รวมถึงข้าวของ ของเจ้าตัวเล็กวางอยู่ตอนนั้นใจเข้าตกวูบหายไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ ยิ่งพอถามป้าจินจูว่าเห็นเจ้าตัวเล็กไหม แล้วได้คำตอบว่าไม่เห็น ตอนนั้นใจของเขาก็ร้อนรนเสียจนบอกไม่ถูก

แต่พอมารู้ว่าจุนซูตั้งใจหนีไปแบบนี้ ก็กลายเป็นเรื่องที่ยังคงไม่สบายใจอยู่ ไอ้เรื่องบ้าบอที่เขาทำลงไปนั่น ตอนนี้มันก่อปัญหาใหญ่ขึ้นเสียแล้ว


ปาร์คยูชอนไม่เคยต้องง้อใคร เพราะไม่เคยคิดจะเข้าหาใคร
ปาร์คยูชอนไม่เคยรู้สึกผิด เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองทำอะไรผิด

แต่ตอนนี้แหละที่เขากำลังต้องทำสิ่งที่ไม่เคยทำพวกนั้น ไอ้ความรู้สึกผิดตอนนี้มันกัดกินใจของเขาอยู่แล้ว แต่ที่จะต้องไปปรับความเข้าใจนี่ซิมันต้องเริ่มจากตรงไหนกัน

ปาร์คยูชอนพรมนิ้วๆ เบาลงที่คีย์เปียโนเพื่อสงบจิตใจ พลางคิดว่าเอาว่าเอาไว้ให้สบายใจกันทั้งสองฝ่ายแล้ว ค่อยคุยกันดีกว่า หรือดีไม่ดีแค่เย็นนี้เจ้าตัวเล็กก็คงวิ่งกลับมาหาเขาแล้วก็เป็นได้
.
.
.
.


แต่ทุกอย่างนั้นปาร์คยูชอนคิดผิด ผ่านไปแล้วสองวันเจ้าตัวเล็กที่เขาเคยพูดคุย หยอกล้อ หรือแม้แต่เคยอยู่ในอ้อมกอด ไม่ยอมมาพบหน้าเขาอีกเลย แล้วตัว ผอ.หนุ่มเองก็ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนที่จะปรับความเข้าใจกัน เขาไม่รู้จะไปบอกเจ้าตัวเล็กยังไงถึงเรื่องวันนั้น ว่าตอนนั้นเหตุการณ์มันพาไป เขาไม่ได้คิดอะไรเลย ฟังดูแล้วมันแย่เสียยิ่งกว่ายอมรับความจริง แต่ไอ้ครั้นจะเพิกเฉยไปเลยก็ยิ่งยาก เพราะเขาไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะอ้างถึงเพื่อเรียกให้อีกฝ่ายมาหาได้ ครั้งสุดท้ายที่ปาร์คยูชอนเห็นจุนซูก็เมื่อไม่กี่นาทีมานี้ตอนเขาเดินผ่านตึกซ้อม แล้วเห็นเจ้าตัวเล็กกำลังเกาะแขนเพื่อนตัวโย่งชิมชางมินอยู่ โดยที่มองไม่เห็นเขา

นี่มันแทบจะทำให้ นักเปียโนหนุ่มที่เคยสุขุมไม่สามารถสงบจิตใจได้เลย...

กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานฉุดรั้งความคิดของปาร์คยูชอนให้กลับมาอีกครั้ง เขายกหูขึ้นมารับสาย ที่เดาได้ว่าเป็นเลขาหน้าห้องที่โทรมา

“คุณยูชอนค่ะ คุณแจจุงมาขอพบค่ะ”

“ใครนะครับ”

“คุณคิมแจจุงค่ะ” ชื่อที่ยูชอนไม่คิดมาก่อนว่าจะมาหาเขาได้ นั่นทำให้เขาต้องขมวดคิ้วด้วยความข้องใจ

“มาคนเดียวเหรอครับ”

“ค่ะ ผอ.จะอนุญาตไหมคะ” พอได้ยินน้ำเสียงไม่มั่นคงจากคนเป็นนาย อีซอนมีก็เลยต้องถามย้ำคำอนุญาตอีกที

“โอเคครับ”
ยูชอนพยายามนึกอยู่ว่าครั้งสุดท้ายที่แจจุงมาหาเขาโดยลำพังมันตั้งแต่เมื่อไหร่ เท่าที่จำได้ตั้งแต่เขากลับมาอยู่ที่นี่ถาวร แจจุงไม่เคยมาพบโดยลำพังเลยต่างหาก ทุกทีก็มาพร้อมกับคุณฮี หรือแม้อาจจะเคยอยากมาแต่เขาก็เลี่ยงที่จะพบมาตลอด เพราะลึก ๆ ยูชอนยังค้างคาใจกับเรื่องคนรักของเพื่อนคนนี้ หรืออีกนัยก็พี่ชายของเขานั่นแหละ แล้วอยู่ดีวันนี้ทำไมถึงโผล่มาไม่ทันให้ตั้งตัวแบบนี้

พอบานประตูเปิดกว้างออก ใบหน้าขาวกระจ่างก็ยิ้มกว้างมาให้เจ้าของห้อง พร้อมกับคำทักทาย

“เป็นไงสบายดีขึ้นไหม”

“ก็ดี” คนป่วยตอบกลับไปแกนๆ เพราะไม่อยากบอกว่าช่วงสองสามวันมานี้ อาการออกจะทรุดๆ ด้วยซ้ำ

“แล้วมาหาฉันมีเรื่องอะไร?”

“ไม่มีเรื่องอะไรหรอกแค่อยากจะคุยด้วย”

“หือมม” ปาร์คยูชอนมองเพื่อนนักร้องดังด้วยสายตาไม่เชื่อ คนที่คิวงานยาวไปถึงปีหน้าอย่างคิมแจจุงจะมีเวลาขับรถเล่นมาเพียงแค่นั่งคุยกับเขาโดยไม่มีเรื่องหรือ

“จริง ๆ นะแค่อยากจะคุยด้วย ตอนนี้มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อย เลยอยากหาที่ปรึกษา”

“แล้วพี่กับคุณฮีล่ะ”

“นี่ใจร้ายไม่คิดจะช่วยกันหน่อยหรือ”

“ไม่ใช่แบบนั้น ก็เห็นทุกทีเธอมีพวกเขาอยู่แล้ว”

“แต่ไม่ใช่เรื่องนี้ ยูชอนฉันอยากคุยกับนายจริงๆ นะ” พอเห็นแววตาขอร้องที่ทอดมา เขาก็แกล้งใจร้ายกับเพื่อนไม่ลง บางทีนอกจากจะได้ช่วยเพื่อนแล้ว แจจุงเองก็อาจจะช่วยเขาได้บ้างเหมือนกันในเวลานี้ที่เขาเองก็มีเรื่องไม่สบายใจ

“โอเค จะคุยเลยไหม”

“นายพอมีเวลาว่างไหม จริงๆ ฉันอยากชวนนายออกไปข้างนอกด้วยกัน”
ปาร์คยูชอนนิ่งคิดสักพักก่อนจะพับแฟ้มงานที่ไม่ใช่งานด่วนอะไร และพยักหน้ารับคำชวน

...............................................................



เชื่อว่ารีดเดอร์หลายๆ คนคงอยากเตะไรเตอร์ เพราะหวังเอาไว้ว่าจะหวาน กลายเป็นอมขมเสียแทน 5555 แต่มันเป็นวิถีที่ควรจะเป็น อยู่ดีๆ คนปิดหัวใจตัวเองอย่าง คุณผอ.จะลุกขึ้นมาป่าวประกาศให้โลกรู้ว่ากรูรักเด็กที่เลี้ยงต้อยมามันก็คงไม่ใช่แนวท่าน ท่านต้องพิรี้พิไรสักนิดให้มันลำบากองค์ (แกแต่งเองคิดเองยังจะโยนความผิดให้ตัวละครนะมิโดริ)

แต่ไม่นานเกินรอค่ะจะกลับมาสู่โหมดกิ๊บกิ๊ว~~

ตอนหน้าหวังว่าจะมาเร็วกว่านี้ เพราะตอนนี้ดันเสร่อคิดไปเองว่าฉันใช้พลังวัตรไปเยอะในตอนที่แล้ว แต่กลายเป็นว่าพลังวัตรที่ว่านั่นเอาไปใช้กับ Shot Fic Yoosu Day ต่างหาก ไม่ใช่เรื่องนี้ เอาเป็นว่าใครยังไม่ได้อ่าน Shot fic แวะไปอ่านได้ที่ห้อง Shot fic นะคะ

อ๋อแล้วอีกอย่างที่คิดว่าจะเร็วเพราะมิโดริได้ลงทุนถอยเนทบุ๊คออกมา เอาไว้ไปเมาท์มอยที่ไหนก็จะได้แต่งฟิคได้เลยเวลาว่างๆ เพราะก่อนหน้านี้ขี้เกียจแบกโน้ตบุ๊คไปไหนมาไหนด้วยมันหนักเกิดร่างบาง ๆ (และเตี้ย) อย่างมิโดริจะแบกได้ เพราะทุกวันนี้ก็แบกกระเป๋ากล้องหนักสี่ห้าโลอยู่แล้ว

ปล.เพิ่งว่างๆ ย้อนกลับไปอ่านคอมเม้นท์ของทุก ๆ ท่านที่บางคนเพิ่งมาเมนท์ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์จริงๆ ค่ะ ปุ้มอาจไม่ค่อยตอบคอมเม้นท์เท่าไหร่ แต่ไม่ใช่ไม่ใส่ใจนะคะ แต่ไม่เก่งที่จะตอบ และที่ปุ้มไม่ค่อยเรียกร้องคอมเม้นท์ก็เพราะพอเข้าใจว่าการบังคับมันทำยากสำหรับคนที่ไม่ถนัด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีคอมเม้นท์เลยก็ได้นะคะ อันนั้นเกินไป มีให้กระชุมกระชวยหัวใจ ตื่นเต้น คึกคักจะดีกว่า บางทีไม่รู้จะเม้นท์อะไร แต่ทักทายกันก็ได้ค่ะ

เจอกันตอนหน้าในเร็ววันนี้ค่ะ









Create Date : 13 สิงหาคม 2553
Last Update : 13 สิงหาคม 2553 4:03:24 น. 10 comments
Counter : 480 Pageviews.

 
คุณผอ. ทำให้น้องคิดมากนะเนี่ย
อย่าคิดนานน้าสงสารเจ้าตัวเล็กอ่ะ

ไรเตอร์เมื่อไหรที่คุณผอ.เลิกพิรี่พิไรขอหวานๆสมกับเป็นยูซูน้า

^_____________^~


โดย: patongko IP: 1.47.30.250 วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:10:21:10 น.  

 
ผอ ทำรีดเดอร์เครียดมากเลยพี่ปุ้ม งือออ

สงสานน้องอะ ทำไรคลุมเครือชะมัดดด


โดย: mickygook IP: 172.168.1.201, 58.8.153.206 วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:14:32:54 น.  

 
เงียบๆเลยอ่ะ ผล เงียบเลย สงสารจุนจัง

แจจุงจะเปงไงต่ออ่ะ ง่ะ งือ มาต่อเร็วๆนะคร้า


โดย: NaTTy IP: 124.122.62.163 วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:15:03:30 น.  

 
ผอ.อ่ะ ทำน้องคิดมากเลย
ไม่รู้ว่าคิดยังงัยกับตัวเองอ่ะ
รู้ใจเร็วๆนะ ผอ.สงสารน้องเค้า


โดย: nujit IP: 115.67.33.98 วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:22:41:24 น.  

 
รอ ร้อ รอ....


โดย: ooopimmyooo IP: 125.27.242.90 วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:9:44:42 น.  

 
เฮ้อ...คุณผอ.คะ ทำแบบนี้จุนวูเค้าก็คิดมากซิคะ
ทั้งๆที่ทำลงไปแล้ว
ก็ยอมรับความรู้สึกออกไปเลยก็หมดเรื่อง

ล้อเล่นหนะคะ เข้าใจนะคะว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
กับคนที่ปิดตายหัวใจตัวเองตลอดมาอย่างยูชอน
ไหนจะเรื่องที่จุนซูเป็นเด็กผู้ชาย แถมเป็นลูกศิษย์

แต่ดูเหมือนสิ่งที่ยูชอนกังวลที่สุด
จะเป็นความรู้สึกของจุนซูที่มีต่อเค้าต่างหาก
คงกลัวจะต้องเสียจุนซูไปหากจุนซูไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกัน

รอพาร์ทต่อไปนะคะ

เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์นะคะ


โดย: azure_^^ IP: 125.24.58.124 วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:13:50:44 น.  

 
ท่าน ผอ. ทำไมทำเด็กให้ตกอกตกใจอย่างนี้ล่ะค่ะ ดูซิน้องจุนจังของเค้า เลยต้องหนีกลับหอเลย โถ่น้องจุนจังอย่าเสียใจไปนะจ๊ะ อีกไม่นานพี่ปุ้มเค้าจะเขียนให้กลับมาหวานอีกนะจ๊ะ อิยะฮ่าฮ่า มียุนแจด้วย อิอิอิ ^///^ "วันนี้จะทำให้ยุ่ง จนเลิกคิดมากเลย" แต่เค้าคิดมากไปแล้วอ่ะ หุหุหุหุ
*ตังหน้าตั้งตารอตอนต่อไปนะค่ะคุณปุ้ม เป็นกำลังใจให้ค่ะ ไฟว์ติ้งค่ะ*


โดย: -Killer Queen- IP: 124.121.151.223 วันที่: 15 สิงหาคม 2553 เวลา:4:13:04 น.  

 
คุณปาร์ค (ทุบโต๊ะ)
ทำไมทำแบบเน้
ไม่เข้าใจ๊ (ลงไปดีดดิ้นกรีดร้องกับพื้น)
จะบ้าเรอะ ตัวเองเป็นฝ่ายจูบเค้าก่อนแท้ ๆ ยังจะมีหน้ามาคิดว่า ปล่อยให้มันผ่านไป เดี๋ยวน้องเลิกคิดมากก็กลับมาเองงั้นเรอะ
เด็กที่ไหนมันจะม๊าาาา คิดว่าน้องจะกล้ามาหา แล้วถามว่า จูบเมื่อคืนมันคืออะไร งั้นหรอคะ

คุณผอ. บทจะคิดอะไรง่าย ๆ ก็เป็นได้ขนาดนี้ (ร้องไห้)
แล้วนี่ถ้าไปบอกน้องว่าที่จูบไปไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้คิดอะไรด้วยนี่ มีฆาตกรรมแน่ ๆ (ณ จุดนี้ มีแต่ต้องยอมรับความรู้สึกตัวเองเท่านั้น ๕๕๕)
ตอนแรกกะแนะนำว่าให้ไปปรึกษาคุณฮี แต่มาคิดอีกที คงไม่ไหวมั๊ง ปาร์คคงอยากจะบอกคุณฮีเป็นคนสุดท้ายแหง ๆ เรื่องแบบนี้ ๕๕๕
เพราะฉะนั้น ... ไหน ๆ แจก็มาแล้ว ปรึกษาแจซะนะ

ยุนแจนี่ก็อีกคู่ อันนี้ปวดตับยิ่งกว่า จริง ๆ แจก็คงคิดมากอะไรบ้างเหมือนกันแหละ แต่ยุนก็เป็นกังวลมากพออยู่แล้ว ถ้าแจไปแสดงออกว่าเสียใจคงไม่เข้าท่าแน่ ๆ แต่จริง ๆ นะ ถ้าคุณพ่อเค้าแค่อยากให้ไปคิด ๆ ดู เราม่เลิกมันก็จบ หรือถ้าจะบังคับจริง ๆ ก็หนีตามกันไปเลย (ฟังดูง่ายมาก)


โดย: measama IP: 58.8.147.91 วันที่: 15 สิงหาคม 2553 เวลา:16:13:36 น.  

 
ตอนนี้โกรธท่านผอ.มาก ทำให้น้องหวั่นไหว แล้วก็ตัดบทฉับอย่างนี้เนี่ย มาต่อยกะพี่ดีกว่า เค้าโกรธมากนะเนี่ย ลูกน้อยของเค้าเลยซึม ขนกระเป๋าหนีกลับเลยอ่ะ

แต่ก็จริงอย่างที่มิโดริบอกอ่ะนะ ท่านผอ.ผู้ปิดตัวเอง แล้วก็ไม่ค่อยฉลาดในเรื่องความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเท่าไหร่เนี่ย คงจัดการอะไรไม่ได้หรอก

ขอบคุณสำหรับฟิคนะคะมิโดริ

แอบดีใจตอนทอล์คประโยคสุดท้าย .....

.....เจอกันตอนหน้าในเร็ววันนี้ค่ะ.... จริงป่าวตัวเอง


โดย: montiannaja IP: 192.168.10.11, 118.172.63.212 วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:0:53:26 น.  

 
เข้าบล็อคนี้วันล่ะ 10 รอบได้ อิอิอิ มานอนรอคร้า


โดย: NaTTy IP: 124.121.180.35 วันที่: 21 สิงหาคม 2553 เวลา:22:39:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Angels Midori
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Angels Midori's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.