เส้นทางสู่ฝัน...ขับมอเตอร์ไซด์ชมดอยอินทนนท์ น้ำตกแม่ยะ กิ่วแม่ปาน
เป็นครั้งแรกที่ได้ไปสัมผัสความสวยงามที่ดอยอินทนนท์ และเป็นครั้งแรกที่เราขับมอเตอร์ไซด์พิชิตดอยที่ขึ้นชื่อว่าสูงที่สุดในประเทศไทย ....สิ่งเหล่านี้มันเคยอยู่แค่ในความฝัน แต่มันก็เป็นจริงจนได้ แค่...เพื่อนชวนเรารีบคว้าโอกาสครั้งนี้ไว้ เพราะดูโปรแกรมแล้วช่างไม่ธรรมดา....เป็นทริปที่ประทับใจและตราตรึงอยู่ในความทรงจำ คิดถึงทีไรเราอดยิ้มไม่ได้
เริ่มจากนั่งรถทัวร์เที่ยว 2 ทุ่มไปลงอำเภอจอมทอง นอนไม่หลับทั้งคืนเพราะแอบมองข้างทาง ซ้ายก็โค้ง ขวาก็โค้ง แต่รถขับได้ดีมาก ค่อยๆไต่เขา ลงโค้งแบบนิ่มนวล ถึงจอมทองก็เจ็ดโมงเช้าพอดี...อ้อ ลืมบอกไปเราไปช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์ค่ะ อากาศกำลังดี
รถจอดส่งผู้โดยสารที่หน้าวัดจอมทอง แต่ ณ ปัจจุบันรถสายนี้ไม่จอดรับผู้โดยสารหน้าวัดจอมทองนะคะ ต้องไปขึ้นรถที่หน้าวัดดอยแก้วโน้น ก็ไกลอยู่ ที่สำคัญจองก่อนไม่ได้ค่ะ ต้องรอซืื้อตั๋ววันเดินทางเลยประมาณ 3- 4 โมงเย็น ที่นั่งก็มีจำกัดรับได้ไม่กี่ที่ คนขายก็สุดแสนจะแอ๊กอ๊าดเกิ้น....เรารู้สึกว่าไม่สดวกต่อผู้โดยสารขาจรแบบเราเลย เที่ยวก็หนุกดีแต่มาเซ็งตอนจะกลับเนี่ยแหละ
แวะไหว้พระวัดพระธาตุศรีจอมทองก่อนออกเดินทาง
เช่ามอเตอร์ไซด์หน้าวัด รุ่นเก่าเก๋ากึ๊ก ไม่มีให้เลือก....แรกๆก็อดคิดไม่ได้ตรูจะไปรอด มั้ยเนี่ยแต่ขอบอกว่า Honda dream รุ่นเก่าๆเกียส์ธรรมดาคันที่ขับ สุดแสนจะน่ารัก และอึด มาก
พาหนะคู่ใจ
บรื้นๆๆๆๆ จุดแรกน้ำตกแม่ยะค่ะ ....พอถึงตรงนี้ก็รู้ว่าลืม memory card กล้อง มาด้วย น่าเขกหัวตัวเองยิ่งนัก...ลืมจนได้น้อตรู ดีหน่อยมีผู้ใจดีร่วมทริปให้ยืม memory card
เราขับรถลัดเลาะไปตามท้องทุ่ง หยุดจอดถ่ายรูปเป็นระยะๆ ยังกะว่าไม่เคยเห็นทุ่งนาซะงั้น...แต่ทุ่งนาที่นี่สวย เพลินตาดี มีคลองส่งน้ำดูอุดมสมบูรณ์ดีแท้
บรรยากาศข้างทาง ลัดเลาะไปตามเขาค่ะ
จากอำเภอจอมทองไปประมาณ 12 กม ก็ถึงน้ำตกแม่ยะน้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามติดอันดับต้นๆของประเทศ...ในหน้าหนาว...ก็ยังสวยอยู่นะ
ทางเดินสบายๆไปน้ำตก
ถึงน้ำตก ใครจะเล่นน้ำเราไม่สนใจ อากาศดีๆแบบนี้ ขอนอนพักเอาแรงก่อนซักงีบ ZZZZZZZZZZZ แหะ แหะ
ต้นมะเดื่อลูกดกริมทางเดินไปน้ำตก (ผิดพลาดประการใด แจ้งเจ้าของบล็อกได้นะคะ ทีมงานที่ไปด้วยยืนยันว่าเป็นต้น มะเดื่อ)
จุดต่อไปคือ กิ่วแม่ปานค่ะ ขับรถไปแบบไม่รีบร้อน เราเลือกไปเส้นทางลัด(ลัดได้ประมาณ 10 กม) ผ่านหมู่บ้านชาวเขาหยุดสำรวจและถ่ายรูปนาข้าว เป็นระยะๆ ซึ่งแอบนัดหมายกับตัวเองในใจฉันจะมาอีกเดือน พ.ย เพราะช่วงนั้นนาขั้นบันไดคงจะสวยงามมาก
ขนาดยังไม่ใช่ช่วงทำนา ก็สวยไปอีกแบบนะคะ
ถึงแล้วเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ไปเดินป่ากันต่อ ...ที่นี่อากาศดี และ สวยมากกกกก สวยจนลืมเหนื่อยเลยล่ะค่ะ ...ระยะทางการเดินป่าประมาณ 3 กม. ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง เล่นเอาเหนื่อยเพราะทางชันเป็นระยะๆ เราไปเดินกันเองไม่ได้นะคะ ต้องมีไกด์ท้องถิ่นเป็นผู้นำทาง
สูงเอาเรื่องนะเนี่ย ...แต่เรายังไม่ถึงจุดที่สูงที่สุด เดี๋ยวค่อยไปต่อ
ยิ่งสูงยิ่งหนาว.....นี่อุณหภูมิเดือนกุมภาพันธ์นะคะ ช่วงที่เราเดินป่าเป็นช่วงบ่ายสองโมง อุณหภูมิประมาณ 17 c ค่ะ อากาศกำลังดีเดินป่าไม่ร้อน...แต่ตอนดึกประมาณ 5 องศาเซลเซียสค่ะ หนาวจับจิตจับใจเลยล่ะ
ป้ายเตือนผู้มีโรคประจำตัวแบบนี้ ไม่ควรเดินป่านะคะ จขบ และเพื่อนๆยังต้องนั่งพักเป็นระยะๆ หยุดจิบน้ำและนั่งพักซักครู่ค่อยไปต่อ
ทางเดินในป่าดิบเขา มีทั้งทางราบและทางชัน อากาศด้านในครึ้มและเย็น สบายๆชุ่มชื้นไปด้วย พืชตระกูลมอส
เจอขนุนดิน สวยแต่มีพิษค่ะ
ผ่านน้ำตกเล็กๆ ประมาณ 2-3 แห่ง เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำ
พ้นจากป่าทีบแล้วก็มาเป็นทุ่งหญ้าเมืองหนาว เหมือนเราโผล่มาเจอทางสว่าง แดดดูแรงแต่อากาศเย็นเบาสบายมากๆๆๆๆ เขาเรียกทุ่งหญ้าสวันนา ถึงตรงนี้รู้สึกหายเหนื่อยเลย
ทุ่งหญ้าเหลืองอร่ามไปหมด อากาศดีมาก
ถ้าไม่มีรั้วไม้กั้นไว้เราว่าลมพัดตกเขาแน่ๆ เดินๆเหมือนจะเซลงตามเขาซะงั้น
เราเดินลัดเลาะไปตามไหล่เขาไปเรื่อยๆ อย่างมีความสุข .....ทุกอย่างเหมือนภาพฝัน
เพื่อนถ่ายรูปนี้ไว้ แสงกำลังลงมาสวยมาก
มองกันดีๆ เห็นกวางผากำลังเล็มหญ้า มั้ยเอ่ย กวางผาเป็นหนึ่งใน 15 สัตว์ป่าสงวนของไทย กวางผากินหญ้า ใบไม้ และผลไม้เป็นอาหาร อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก ปัจจุบันใกล้สูญพันธ์เพราะถูกคุกคามจากการทำลายป่าของมนุษย์ . ........วันนี้เราโชคดีที่เห็นกวางผามาโชว์ตัว เ ราต้องอยู่เงียบใช้กล้องส่องนก จึงจะมองเห็น ไกด์บอกว่าที่นี่พบกวางผาอยู่ประมาณ 70 ตัว
กุหลาบพันปี บนกิ่วแม่ปาน ที่เห็นคือต้นที่เหลือรอดจากไฟใหม้ป่า
กล้วยไม้ป่ามีให้พบมากมาย
เราใช้เวลาเดินกิ่วแม่ปาน ประมาณ 4 ชั่วโมง จนรู้สึกเกรงใจไกด์ เป็นการเดินป่าที่ประทับใจมากๆ กิ่วแม่ปานช่างสวยงามเกินบรรยาย...อยากให้ทุกคนช่วยกันรักษ์ป่า รักไม้ เราจะได้มีผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ให้คนไทยเราได้ชื่นชมตลอดๆๆๆๆๆๆไป
ออกจากกิ่ว ขับรถไปต่อ ในจุดที่สูงสุดยอดในสยาม แวะไว้ กู่พระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าหลวงเชียงใหม่องค์ที่ 7
ถึงแล้ว ...สูงสุดแดนสยาม
อาหารเย็นในวันหนาวเหน็บ ยิ่งดึกยิ่งหนาว....เราพักกันที่ดอยชัวร์ญ่า บ้านพักแบบกระต๊อบบนเนินเขา เราไม่ได้มีเวลาชมความสวยงามของรีสอร์ทเพราะเข้าพักซะเย็นและหิวโซ....และ หนาววววเลือกพักที่นี่เพราะเราอยากเห็นดอกซากุระบานจ้า
บรรยากาศแปลงดอกไม้ด้านหลังสวย แต่เราหนาว และเหนื่อย พักเอาแรงแล้วพรุ่งนี้เป้าหมายของเรา เราจะตามหาซากุระบาน บนดอยอินทนนท์ เขาว่าดอกพญาเสือโคร่งที่นี่งามนักแล..........
ไว้เจอกันใหม่ ...blog หน้าตามหาซากุระบาน กัีนต่อนะคะ
Create Date : 14 มีนาคม 2556 |
Last Update : 7 ธันวาคม 2559 21:15:04 น. |
|
6 comments
|
Counter : 11378 Pageviews. |
|
|
เที่ยวแบบนี้ เวลาเช่าใช้อะไรเป็นประกัน ค่าเช่า
ประมาณเท่าใดต่อวัน น้ำมันไปเติมที่ไหนครับ
มอไซค์ใช้ประมาณกี่ ซีซี จึงจะพอดีกับการไต่ดอย
ครับ 555 ถามหลายอย่างเลย