Group Blog All Blog
|
คนบ้ามี 8 จำพวก
คนบ้ามี 8 จำพวก พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้าที่ 37 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้าที่ 38 ได้ ทราบว่าคนบ้าในโลกนี้มี ๘ จำพวก เพราะฉะนั้นโบราณาจารย์ จึงได้กล่าวไว้ว่า คนที่ได้สัญญาว่าเป็นบ้ามี ๘ จำพวก คือ :- ๑. บ้ากาม (กามุมฺมตฺตโก) มัวเมาในกาม คือ :- ตกอยู่ใต้อำนาจ จิต (จิตฺตวสงฺคโต) ของผู้อื่น ตกอยู่ใต้อำนาจความโลภ (โลภวสงฺคโต) ๒. บ้าโกรธผู้อื่น (โกธุมฺมตฺตโก) คือ :- ตกอยู่ใต้อำนาจวิหึสา (วิหึสาวสงฺคโต) คนอื่น ๓ บ้าความเห็น (ทิฏฺฐุมฺมตฺตโก) บ้าทฤษฎีหรือบ้าลัทธิ ตกอยู่ใต้อำนาจ ความเข้าใจผิด (วิปลฺลาสวสงฺคโต) ๔ บ้าความหลง (โมหุมฺมตฺตโก) คือ :- ตกอยู่ในอำนาจความไม่รู้ ๕ บ้ายักษ์ (ยกฺขุมฺมตฺตโก) คือ :- ตกอยู่ในอำนาจยักษ์ (ยกฺขวสงฺคโต) ๖ บ้าดีเดือด (ปิตฺตุมฺมตฺตโก) คือ :- ตกอยู่ในอำนาจของดี (ปิตฺตวสงฺคโต) ๗ บ้าสุรา (สุรุมฺมตฺตโก) คือ :- ตก อยู่ใต้อำนาจการดื่ม (ปานนวสงฺคโต) ๘. บ้าเพราะความสูญเสีย (พฺยสมุมฺมตฺตโก) คือ :- ตกอยู่ใต้อำนาจของความเศร้าโศก (โสกวสฺคโต) ใน จำนวนบ้า ๘ จำพวกเหล่านี้ พระมหาสัตว์ ในชาดกนี้เป็น ผู้บ้ากามตกอยู่ใต้อำนาจความโลภ จึงไม่รู้คุณของบรรพชา. ถามว่า ก็โลภะนี้ ทำสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ทำลายคุณความดี ด้วยประการ ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ แต่เหุตุไฉนสัตว์ทั้งหลาย จึงไม่อาจหลุดพ้นไปได้. ตอบว่า เพราะความโลภนั้นเจริญมาแล้ว โดยรวมกันเป็นเวลาหลาย แสนโกฏิกัปป์ ในสงสารที่ไม่มีใครตามพบเงื่อนต้นแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ แล้ว บัณฑิตทั้งหลาย จึงละด้วยอำนาจแห่งการพิจารณาหลายอย่าง มีอาทิว่า กามทั้งหลายมีความชื่นใจน้อย. ขอบคุณบทความ จาก พลังจิต ขอขอบคุณเวป ที่นี่ดอทคอม //variety.teenee.com/saladharm/24683.html Free TextEditor ...ทำไมคนเราถึงต่างกัน?...
...ทำไมคนเราถึงต่างกัน?...ใน หนังสือทางธรรมหน้า๑๓-๒๑... ...๑) อายุยืน-อายุสั้น คนที่เกิดมาแล้วอายุยืนก็เพราะไม่ได้ฆ่าสัตว์ในชาติก่อนและชาตินี้...... ส่วนคนที่เกิดมาอายุสั้นก็เพราะเคยฆ่าสัตว์ในชาติก่อนและชาตินี้...คำว่าฆ่า สัตว์หมายถึง......ทั้งคนและสัตว์เดรัจฉานที่เรียกรวมๆว่าสัตว์โลก ผู้ที่ต้องการจะมีอายุยืนนอกจากจะต้อง......ไม่ฆ่าสัตว์ทุกชนิดแล้ว ยังต้องช่วยให้สัตว์อื่นๆ มีอายุยืนด้วย นั่นคือการให้อาหารเป็นทาน......การปล่อยสัตว์ ช่วยสัตว์ที่ตกอยู่ในอันตรายต่างๆ... ...๒) โรคมาก-โรคน้อย เป็นคนที่เคยเบียดเบียนสัตว์ ในชาติก่อนและชาตินี้... ...คนที่มีโรคน้อย ก็เพราะไม่ได้เบียดเบียนสัตว์ทั้งในชาติก่อนและชาตินี้... ...วิธี แก้ให้มีโรคน้อย ควรถวายยารักษาโรค ช่วยคนเจ็บป่วยให้ได้รับความสุข... ...พบ เห็นคนหรือสัตว์ที่เจ็บป่วยก็ควรจะช่วยรักษาพยาบาลตามกำลัง... ...ควรงด เว้นการกักขังสัตว์ต่างๆทุกชนิด...ถ้าจะเลี้ยงสัตว์ก็ต้องให้ได้รับ... ...ความ สุขสบายมากที่สุด และจะต้องไม่ใส่กรง... ...๓) ผิวพรรณสวย-ไม่สวย คนที่ผิวพรรณสวย ก็เพราะไม่เป็นคนขี้โกรธง่าย ไม่อาฆาต พยาบาทคน......คนที่ผิวพรรณไม่สวย ก็เพราะเป็นคนที่มักโกรธ ใครทำอะไร หรือพูดอะไรขัดใจนิดหน่อยก็โกรธ... ...ความโกรธ เกิดจากการหงุดหงิด รำคาญ แล้วก็ฟักตัวมาเป็นความโกรธ แค้นเคือง อาฆาต......และพยาบาท จนถึงการจองเวรกันข้ามภพข้ามชาติ อารมณ์หงุดหงิดที่ทำให้สีหน้าไม่ผ่องใส.....จิตใจไม่เบิกบาน จนถึงหน้านิ่วค้วขมวด เป็นเหตุให้หน้าย่น แก่เกินวัย ไม่สวย ไม่มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น... ...แม้แต่ผู้ที่สวยอยู่แล้ว(เพราะบุญ เก่า) แต่ถ้าเป็นคนที่โกรธอยู่ประจำ ก็จะทำให้หน้าไม่สวย......ไร้เสน่ห์ ความโกรธ มีทั้งโทษต่อร่างกายและจิตใจ เป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ เช่น......โรคความดัน โรคกระเพาะ โรคประสาท โรคเครียด เป็นต้น... ...วิธี แก้โรคโกรธที่ได้ผลทันตาก็คือ ต้องใช้การเจริญเมตตา แผ่ความรัก... ...และ ความปรารถนาดีต่อผู้อื่น...นึกถึงแต่สิ่งดีๆของเขา ก็จะเห็นความน่ารัก... ...น่า สงสารของเขา ก็จะทำให้จิตใจของเราสบาย กินได้นอนหลับ... ...๔) มีอำนาจมาก-อำนาจน้อย คนที่ไม่ริษยาผู้อื่น ไม่มุ่งร้ายผู้อื่น... ...ไม่ ริษยาในลาภในสักการะตลอดจนการไหว้ การบูชาคนอื่น จะเป็นคนมีอำนาจ... ...ใน ทางตรงกันข้ามก็จะมีอำนาจน้อย คนที่อิจฉา ริษยา ในลาภหรือความดีของคนอื่น... ...อาการของความริษยาก็คือ เห็นใครเขาดีกว่าตนแล้ว รู้สึกไม่สบายใจ คับใจ... ...อดที่จะแสดงกิริยา หรือพูดเสียดสีนินทาเขาไม่ได้... ...วิธีแก้หรือทำลายตัวริษยามีทาง เดียวคือสร้างมุทิตา คือพลอยยินดีเมื่อเห็นคนอื่นได้ดี... ๕) ร่ำรวย-ยากจน คนที่เกิดมาแล้วมีฐานะดี ไม่อดอยากยากจน ในชาติก่อนได้ทำทานไว้มากเช่น......ข้าว น้ำ ผ้า ยา ตลอดจนที่พักอาศัย และแสงสว่าง ส่วนคนที่เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน.....หรือร่ำรวยแล้วยากจนภายหลัง ก็แสดงให้เห็นว่า ตระหนี่ ขี้เหนียว.....ไม่มีจิตเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ แก่คนหรือสัตว์ เห็นแก่ตัวจัด... ...วิธีแก้ก็คือ ให้ทำทาน มีน้อยก็ทำน้อย จะทำอย่างไรก็ได้... ...แต่ทำแล้วต้องไม่เดือดร้อนตัวเอง และครอบครัว... ...๖) เกิดในตระกูลสูง-ตระกูลต่ำ คนที่มีโอกาสเกิดในตระกูลสูง เป็นคนไม่เย่อหยิ่ง... ...อ่อนน้อมถ่อมตน ไหว้คนที่ควรไหว้ บูชาคนที่ควรบูชา ส่วนคนที่เกิดในตระกูลต่ำ... ...มัก เป็นคนกระด้าง ถือตัว จองหอง ไม่รู้จักอะไรควรไม่ควร ไม่นับถือคนที่ควรนับถือ... ...วิธีแก้ ให้แก้ด้วยการสร้างค่าสำนึกว่า คนที่เกิดมาในโลกเดียวกันนี้ ย่อมมีศักดิ์ศรีเท่ากันหมด......เรื่องความมี ความจน ความฉลาด โง่ สวย ขี้เหร่ เป็นเพียงค่าสมมุติเท่านั้น ที่เหมือนกันคือ......ทุกคนต้องแก่ แล้วก็ต้องตาย ไม่มีใครเอาสิ่งต่างๆ ใส่โลงไปได้ นอกจาก บุญ และ บาป เท่านั้น... ...๗) ฉลาด-โง่ คนที่เกิดมาฉลาด มีปัญญาดี เขาจะต้องสั่งสมปัญญาไว้ในชาติก่อน... ...ศึกษาเรื่อง บาป บุญ คุณ โทษ อะไรดี อะไรชั่ว เป็นผู้ศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม......ส่วนคนโง่เขลาเบาปัญญา ก็คือคนที่ไม่ใฝ่รู้การศึกษา ดังคำที่ว่า... ...ไม่เรียนก็ไม่รู้...ไม่ดูก็ไม่ เห็น...ไม่ทำก็ไม่เป็น...ไม่ปฏิบัติก็ไม่เกิดผล... ขอบคุณบทความจาก ธรรมจักร
ขอบคุณ ลิ้งค์จากเวป ที่นี่ดอทคอม Free TextEditor "การทำใจ"
Free TextEditor ความดีที่เขียนไว้ ในที่มืด
หากเราเคยทำ ผิดพลาดมาในอดีต.. มีสติ..มีความรู้สึกตัว.. พยายามปรับปรุงแก้ไขตน เอง.. เราก็ได้ชื่อว่า..เป็นผู้กลับตัวกลับใจ..ใฝ่ดีได้.. แต่หากละเลย ..ขาดสติ.. ปล่อยจิต..ปล่อยใจ.. พาลท่าเสียที..ทำความชั่ว.. แล้ว ไม่ปรับปรุงแก้ไขตนเอง.. ปล่อยเลย..ตามเลย.. เราก็จะได้ชื่อว่า..ดี กลับใจ..ใจคิดชั่วไปก็ได้.. ความดี..ที่เราทำ.. แม้ ไม่มีใครรู้..ไม่มีใครเห็น.. ก็เปรียบเหมือนกับการเขียนความดีไว้..ที่ หัวใจ.. อาจไม่มีใคร..ไม่มีใครเห็น.. แต่เราก็รับรู้และสัมผัสได้.. ด้วยหัวใจของผู้กระทำดี..นั่นเอง.. ความชั่ว..ที่เราทำ.. แม้ไม่มีใครรู้..ไม่มีใครเห็น.. ก็ เปรียบเหมือนกับการเขียนความชั่วไว้..ในความมืด.. ที่ไม่มีใครรู้..ไม่ มีใครเห็น.. แต่ก็สามารถรับรู้และสัมผัสได้.. ด้วยหัวใจของผู้กระทำ ชั่ว..เช่นกัน.. อุปมาเหมือนกับ.. การที่เรานั่งเขียนความดี - ความชั่วไว้.. ในท่ามกลางแห่งความมืดของจิตใจ.. แม้ไม่มีใครรู้ ..ไม่มีใครเห็น.. ไม่ว่าเราจะกระทำสิ่งใด ๆ.. จิตใจของผู้กระทำนั้น ..ย่อมรู้ดีว่า.. เราเขียนความดีไว้ที่หัวใจ..แห่งความสว่างไสว.. ที่ งดงามด้วยคุณธรรม.. หรือ เขียนความชั่วไว้ที่หัวใจ.. แห่งความมืดมน..ที่ปราศจากแสงสว่างแห่ง คุณธรรม.. บท ความ..โดย..ชายน้อย.. ที่มา : dhammathai
//variety.teenee.com/saladharm/24617.html Free TextEditor |
zaiseefa
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Friends Blog
|