|
รักษาจิต....รักษาอย่างไร | รักษาจิต....รักษาอย่างไร สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
การ ประคองบาตรที่มี น้ำมันเต็ม แม้ไม่ตั้งสติระมัดระวังให้ เต็มที่ ย่อมมีโอกาสที่น้ำมันจะหกออกนอกบาตร ทำ ความสกปรกเลอะเทอะให้เป็นอันมากฉันใด
การไม่ รักษาจิตให้ดี กิเลสย่อมทำความเสียหายให้อย่างยิ่ง ฉันนั้น
ท่าน จึงสอนให้รักษาจิตเหมือนคนประคองบาตรที่เต็มไปด้วยน้ำมัน นึก ถึงความจริงเวลามีน้ำมันหกเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเนื้อตัวเสื้อผ้าโดยเฉพาะ ในขณะที่เนื้อตัวควรสะอาดเรียบร้อย ที่ไม่ควร ให้ความสกปรกจนดูไม่ได้ปรากฏแก่สายตาผู้คนทั้งหลาย จะ รู้สึกอึดอัดอับอายเพียงใด
การมีกิเลสล้นออก นอกจิตใจให้ปรากฏแก่ผู้คนทั่วไป ยิ่งน่าอับอายกว่ามากมาย นัก
การ รักษาจิต คือ การตามดูให้รู้ว่าความคิดที่เกิดขึ้นเป็นความคิดที่ดีหรือที่ร้ายอย่างไร เมื่อ รู้แล้วให้หยุดความคิดที่ร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด อย่าหา ข้อแก้ตัวให้ความคิดเช่นนั้นเป็นอันขาด เพราะจะมีโทษสถาน เดียว ไม่มีคุณเลยแม้แต่น้อย
ความคิดนั้นสำคัญนัก สำคัญจริงๆ สำคัญยิ่งกว่าอะไรอื่นทั้งหมด
เพราะความคิดเป็นสภาพที่เกิดกับใจ จะเข้าใจแบบง่ายๆ ว่า ความคิดคือใจ ก็น่าจะเป็น การเข้าใจง่ายๆ แบบคนทั่วไป เมื่อความคิดก็คือใจ ความคิดจึงเป็นใหญ่เป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยความคิด
เช่นเดียวกับที่พระพุทธศาสนาสุภาษิตแสดงไว้ว่า
ใจเป็นใหญ่ใจเป็น ประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ
ความคิดมีทั้งคุณมีทั้งโทษ แก่ผู้คิดเองก่อนแก่ผู้อื่น
ความรักความสามัคคีปรองดองเหมือน น้องพี่ในหมู่คณะหนึ่งหมู่คณะใด ก็อาจเกิดได้เพราะความคิด ของผู้อยู่ร่วมหมู่คณะนั้น ที่เต็มไปด้วยความรัก ความปรารถนาดีต่อกันและกัน คิดให้อภัย กันเมื่อเกิดความผิดพลาดอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น ไม่ยกความ ผิดพลาดจะโดยบังเอิญ หรือโดยตั้งใจของผู้ใดก็ตามมาคิดซ้ำ เติมไป ต่างๆ นานา
แต่คิดทุกอย่างที่จะอภัยให้แก่ความผิดพลาดนั้น ให้ใจไม่เพ่งโทษกัน
เช่น นี้กล่าวว่าความคิดไม่เป็นโทษ ความคิดเป็นคุณ จะให้ความสบายใจ แก่ผู้คิดนั่นเองก่อนผู้อื่น
ผู้ ปรารถนาความสบายใจ จึงพยายามคิดไปทุกแง่ทุกมุมที่จะให้เกิด ความสบายใจสมปรารถนา
(ที่ มา : แสงส่องใจ ปีใหม่ ๒๕๓๙ พระนิพนธ์สมเด็จพระ ญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก)
|
| | Free TextEditor
|
Bloggang.com |