กล้วยไม้
“...กล้วย ไม้ระบัดใบไม่เหมือนก่อน เอื้องในดงในดอนแตกใบอ่อน แสนเพลิดเพลิน เจริญตาในดงดอน ดอกแสนสวยด้วยน่าพิสมัย เอื้องประทิ่นกลิ่นหอมอยู่ ใกล้ไกล สวยสดใสคู่เคียงเวียงตะไคร้ น้ำใสไหลเย็นกระเซ็น ไซร้ ไปตามหว่างทางโขดขุนเขา...”
กล้วยไม้เป็นพืชที่พบกระจัดกระจายทั่วไปในวังตะไคร้ เป็นไม้ประดับที่สวยงามทั้งต้น ใบและดอก เหมาะกับบรรยากาศตามธรรมชาติ ต่อมาวังตะไคร้ได้รับกล้วยไม้จากฝ่ายสำรวจนิเวศ วิทยา โครงการคืนชีวิตกล้วยไม้สู่ไพรพฤกษ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นจำนวนประมาณ 2000 ต้น เป็นการเลี้ยงกล้วยแบบธรรมชาติ โดยนำมาปล่อยให้เกาะตามต้นไม้ที่มีชีวิต ใช้กาบมะพร้าวหุ้มราก และมีที่ยึดให้ติดกับต้นไม้ กล้วยไม้ส่วนใหญ่ทนกับสภาพและปรับตัวได้ก็อยู่รอด มีการขยายพันธุ์โดยการตัดแยกหรือแบ่งแยกเพราะเป็นวิธีที่สะดวกและง่ายกว่า การเพาะเมล็ดมาก การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ตามธรรมชาตินี้ต้องการการดูแลรักษาน้อยมาก และเป็นกล้วยไม้ที่เลี้ยงง่าย ทนทานต่อโรคและแมลง กล้วยไม้ไม่ใช่กาฝากจากการหาน้ำและอาหารเลี้ยงจากต้นไม้ จึงอาศัยน้ำฝน น้ำค้าง ละอองน้ำและแสงแดดตามธรรมชาติ ลักษณะทั่วไปของกล้วยไม้คือ มีต้น ราก ใบ ดอก และผล ลำต้นไม่มีแก่น ไม่มีเปลือกไม้และเนื้อไม้ ไม่มีรากแก้ว มีแต่รากอากาศ อาศัยอยู่กับกิ่งของต้นไม้ใหญ่ ส่วนที่อยู่เหนือข้อและติดกับข้อจะมีตาซึ่งอาจงอกเป็นหน่ออ่อน กิ่งอ่อนหรือดอก ส่วนที่เป็นข้อยังเป็นส่วนที่มีใบ กาบใบ หรือกาบของต้น ส่วนที่อยู่ระหว่างข้อนั้น เราเรียกว่า ปล้อง กล้วยไม้ไทยจัดว่าดีที่สุดในโลก เป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมสูง เพราะมีความหลากหลายในรูปร่าง สีสันสวยงาม และความคงทนหลังจากที่ตัดดอกพร้อมก้าน อาจจะมีใบหรือไม่มีใบติดไปด้วย เพื่อใช้ทำช่อดอกไม้ ปักแจกัน และใช้ตกแต่งอาคารสถานที่
Create Date : 29 มิถุนายน 2553 | | |
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 13:40:07 น. |
Counter : 339 Pageviews. |
| |
|
|
|