หน้าวัว
ชื่อสามัญ Anthurium
ชื่อวิทยาศาสตร์ Anthurium andraeanum
ลักษณะทั่วไป
หน้าวัวและเปลวเทียนเป็นไม้ดอกสกุลหน้าวัวเพียง 2 ชนิดเท่านั้นที่มีการ ปลูกเป็นการค้าในเขตร้อนชื้น โดยเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่มีเนื้อไม้อ่อนและมีอายุยืนลำต้นตั้งตรงความยาว ของปล้องจะแตกต่างกันใปขี้นอยู่กับชนิดหรือพันธุ์ เมี่อยอดเจริญสูงขึ้นอาจพบรากบริเวณลำต้นและรากเหล่านี้จะเจริญยืดยาวลงสู่ เครื่องปลูกได้ก็ต่อเมื่อโรงเรือนมีความชื้นสูงพอ ลำต้นอาจเจริญเป็นยอดเดี่ยวหรือ แตกเป็นกอก็ได้ ใบมีรูปร่างต่าง ๆ กัน เช่น รูปหัวใจ ดังเช่นที่พบในหน้าวัว หรือ รูปพายคล้ายใบของเขียวหมื่นปีและรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดดังที่พบ ในเปลวเทียนแต่ไม่ว่าจะมีรูปร่าง อย่างไรจะสังเกตเห็นว่าปลายใบแหลม ในพวกที่มี ใบกว้างเส้นใบจะเรียงตัวคล้ายร่างแหขณะที่พวกซึ่งมีใบแคบเส้นใบจะเรียงตัว คล้ายเส้นขนาน แต่ทั้งนี้เส้นใบมักจะนูนขึ้นอย่างชัดเจน การขยายพันธุ์
การเพาะเมล็ด นิยมใช้เพื่อการปรับปรุงพันธุ์หรือเพื่อผลิตลูกผสมที่มีลักษณะต่างไปจาก พ่อ-แม่พันธุ์เท่านั้น ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 3 ปี ต้นจึงจะให้ดอกการเพาะเมล็ดพันธุ์ควรทำทันทีหลังจากเก็บผล เพราะเมล็ดหน้าวัวสูญเสียความงอกเร็วมาก
การตัดชำยอด
จะทำเมื่อต้นมีความสูงกว่าวัสดุปลูกเกิน 60 เซนติเมตรโดยตัดยอดให้ใบติดอยู่3-5ใบและมีราก2-3รากทาแผลที่เกิดจากรอยตัดด้วยยาป้องกันการ ติดเชื้อจากนั้นนำยอดไปปักชำในที่ร่มและมี ความชื้นสูง เมื่อมียอดใหม่และรากงอกแล้วจึง ย้ายไปปลูกตามปกติ
การแยกหน่อหรือตัดหน่นิยมทำหลังจากที่ตัดยอดชำแล้ว ต้นตอที่ถูกตัดยอดแล้วจะมีหน่อใหม่เกิดขึ้นสามารถ
ตัดแยกหน่อไปปลูกได้ โดยหน่อนั้นควรเป็นหน่อที่มีขนาดใหญ่และมีราก 2-3 รากแล้ว
การปักชำต้น ใช้กับต้นขนาดใหญ่ที่มีอายุมากและถูก ตัดยอดไปชำแล้วโดยตัดต้นเป็นท่อนแต่ละท่อนให้มีข้2-3ข้อนำไปปักชำในทรายหรือ อิฐทุบก้อนเล็กๆความชื้นสูงแต่ไม่เพาะควรปักชำให้ยอดทำมุมประมาณ30 - 40 องศาวิธีนี้ใช้เวลานานและต้นใหม่ที่ได้มักไม่แข็งแรงจึงไม่ค่อยนิยมกันนัก
การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เป็นวิธีที่ใช้เมื่อต้องการต้นจำนวนมากในระยะเวลาสั้น นิยมใช้กับพันธุ์ที่ผลิตเพื่อการค้า
Create Date : 28 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 28 มิถุนายน 2553 17:24:11 น. |
|
0 comments
|
Counter : 547 Pageviews. |
|
|