WishRich
Group Blog
 
All Blogs
 
ขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

//www.castrol.com/liveassets/bp_internet/castrol/STAGING/brand_assets/Castrol/images/ask_the_expert/do_it_your_self_cover_180x160.jpg






ขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน
เครื่อง























การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องด้วยตัวคุณเอง ไม่แต่เพียงช่วยประหยัด
มันยังง่ายมากอีกด้วย อย่างไรก็ดี พึงระลึกเสมอว่าในการบำรุงรักษายานพาหนะ
สิ่งที่จะต้องตระหนักอย่างยิ่งคือ ความปลอดภัย
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเคยมีประสบการณ์มาก่อนหรือไม่
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจะบอกขั้นตอนแต่ละขั้นตอนเพื่อให้คุณปลอดภัยมากที่
สุด และมีประสิทธิภาพที่สุด







































สิ่งที่จำเป็น




















































  • น้ำมันเครื่องคาสตรอลประมาณ 5 ควอร์ท (ตรวจสอบคู่มือเพื่อหา SAE
    ของความหนืด, ประสิทธิภาพตาม API และปริมาณที่เครื่องยนต์ต้องใช้

  • ไส้กรองใหม่ รถยนต์ส่วนใหญ่ใช้แบบหมุน ซึ่งมีหลายรูปร่างและหลายขนาด
    (ตรวจสอบคู่มือเพื่อหาชนิดและขนาดที่เหมาะสม)

  • คีมปากนกแก้วที่มีขนาดเดียวกับของไส้กรอง

  • อ่างรองน้ำมันเครื่อง อย่างน้อยควรจุได้ 6-8 ควอร์ท

  • ผ้าขี้ริ้ว

  • ที่ล้างมือหรือถุงมือยาง

  • กรวย








































ขั้นตอนที่ 1 - เลือกน้ำมัน












คู่มือประจำรถควรระบุถึงเกรดของน้ำมันที่ควรใช้กับรถภายใต้เงื่อนไขปกติ
และระยะทางของการขับขี่ที่ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง อย่างไรก็ตาม
หากมีการใช้รถในเงื่อนไขต่างไปจากคู่มือ เช่น ใช้รถในอุณหภูมิสูงๆ,
เดินทางระยะสั้นบ่อยๆ ขับๆ หยุดๆ เนื่องจากการจราจร หรือใช้รถลากจูงบ่อย
ควรจะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อยขึ้น โดยเฉลี่ย
คนใช้รถไม่ค่อยคำนึงถึงสิ่งต่างๆ เหล่านี้และปัญหาหลักๆ
มักเกิดจากกรณีเหล่านี้อยู่บ่อยๆ
นั่นเป็นเหตุให้ช่างเครื่องแนะนำให้ทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องในช่วงเวลาที่
สั้นกว่าที่กำหนดโดยผู้ผลิต














































โดยทั่วไป เราควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 5,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ
3 เดือน แล้วแต่ว่าเงื่อนไขไหนถึงก่อน
สิ่งนี้จะช่วยทำให้มีการปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีและทำให้เครื่องยนต์มีอายุ
ใช้งานนาน
(ตรวจสอบคู่มือประจำรถสำหรับกรณีพิเศษและอย่าปล่อยให้การรับประกันสิ้นสุด
ลง)







































ขั้นตอนที่ 2 - เตรียมรถ











หมั่นสอบถามช่างสำหรับการป้องกันก่อนที่เครื่องยนต์จะมีปัญหา














































อย่าใช้แม่แรงยกรถ เพราะมันไม่ค่อยมั่นคง
ให้ใช้ที่ยกรถจะปลอดภัยกว่า แม่แรงจะยกรถให้ลอยขึ้น
จนเราสามารถที่จะเลื่อนตัวเข้าไปใต้ท้องรถได้ เมื่อนอนราบแล้ว
ให้ขับรถขึ้นไปบนที่ยกรถ กระทั่งล้อหน้าลอยขึ้น
ตั้งเบรคฉุกเฉินและให้กั้นล้อรถด้านหลังด้วยไม้กั้นเพื่อป้องกันรถไหล
ใส่เกียร์หนึ่งไว้หากเป็นรถเกียร์ธรรมดา และตัว P ถ้าเป็นรถเกียร์อัตโนมัติ
น้ำมันที่เย็นจะไหลออกมายาก ดังนั้น ควรอุ่นเครื่องรถไว้ประมาณ 5-10 นาที
เพื่อให้อยู่ในอุณหภูมิอย่างตอนที่ใช้
(อย่าติดเครื่องโดยไม่มีน้ำมันเครื่อง)
จากนั้นให้ปิดเครื่องและเปิดกระโปรงรถเพื่อที่จะเปิดฝาน้ำมันโดยไม่ต้องสูบ
น้ำมันขึ้นมา จะทำให้น้ำมันไหลลงมาด้านล่างได้อย่างง่ายดาย







































ขั้นตอนที่ 3 - ถ่ายน้ำมันเก่า











ใส่ปลั๊กน้ำมันด้านล่างของรถ
โดยควรจะอยู่ที่ด้านล่างของเครื่องยนต์ ควรแน่ใจว่าหมุนปลั๊กให้แน่น














































วางถาดรองน้ำมันใต้ท่อทิ้งน้ำมัน
ใช้คีมหมุนให้เปิดออกตามเข็มนาฬิกา ถึงตอนนี้ให้ระวัง
เพราะน้ำมันอาจจะไหลลงมาอย่างรวดเร็วและค่อนข้างร้อน
ระวังอย่าให้ฝาท่อหล่นลงไปในน้ำมัน แต่ไม่เป็นไรถ้าคุณพลาด







































ขั้นตอนที่ 4 - ถอดไส้กรอง











ต่อมา ให้เปิดที่กรองน้ำมัน ซึ่งอาจจะร้อนนิดหน่อย
ด้วยการหมุนตามเข็มนาฬิกาด้วยคีม หยิบออกโดยระวังอย่าไปจับท่อที่ร้อน
ที่กรองน้ำมันอาจจะมีน้ำมันและมีน้ำหนักมากซักหน่อย ดังนั้นให้วางลงค่อยๆ
และไกลจากเครื่องยนต์ และเทน้ำมันที่ติดอยู่ลงในอ่างรองน้ำมัน







































ขั้นตอนที่ 5 - เปลี่ยนไส้กรอง











ใช้ผ้าเช็ดรอบๆ ขอบปากที่กรองที่อยู่ที่เครื่องยนต์
แล้วจึงใส่ที่กรองอันใหม่แล้วใช้นิ้วลูบน้ำมัน (เก่าหรือใหม่ก็ได้)
ไปที่รอบๆ ขอบของที่กรองอันใหม่
โดยที่น้ำมันจะทำหน้าที่เป็นฟิล์มกันการรั่วซึม
ขันที่กรองอย่างระมัดระวังโดยหมุนตามเข็มนาฬิกา อย่าให้แน่นจนเกินไป














































ทำความสะอาดท่อน้ำมันและที่ปิด แล้วใส่กลับไปที่เดิม
หมุนปลั๊กให้แน่นโดยใช้คีมช่วยแต่อย่าแน่นจนเกินไป







































ขั้นตอนที่ 6 - เติมน้ำมันใหม่











ข้างบนสุดของเครื่องยนต์ จะเห็นฝาที่เขียนว่า "น้ำมันเครื่อง"
ให้เปิดฝานั้นออกและเริ่มเติมน้ำมันในปริมาณที่ต้องการ
ตรวจสอบด้วยไม้วัดเพื่อให้แน่ใจว่าปริมาณถูกต้อง
หลังจากนั้นปิดฝาและเช็คทำความสะอาดอีกครั้ง
ไฟแสดงน้ำมันควรจะหายไปเมื่อเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานสักพัก แล้วปิดเครื่องและเช็คไม้วัดน้ำมันอีกที
เพื่อตรวจสอบว่า น้ำมันมีปริมาณที่เหมาะสม ท้ายสุดตรวจสอบที่รูน้ำมันออก
บริเวณด้านล่างของรถว่าไม่มีการรั่วซึม














































ง่ายกว่าที่คิดใช่ไหมครับ
อย่าลืมจดด้วยว่าทำการเปลี่ยนเมื่อเข็มไมล์อยู่ที่ระยะทางเท่าใดและเปลี่ยน
เมื่อไหร่ในที่เก็บของหน้ารถ
จะได้ง่ายในการตรวจสอบว่าครั้งหน้าควรเปลี่ยนอีกเมื่อไร
และยังช่วยให้รถคุณมีราคาที่ดีขึ้นเมื่อคุณประกาศขาย
หากมีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นประจำ







































ขั้นตอนที่ 7 -
การทิ้งน้ำมันเครื่องอย่างถูกวิธี











หากคุณคิดว่าเสร็จขบวนการแล้ว มันก็เกือบนะแต่ยังก่อน
สิ่งสุดท้ายที่ถือว่าสำคัญที่สุดในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง คือ
การทิ้งน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วในที่ที่เหมาะสม
เพราะน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วเป็นพิษอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อม
การทิ้งน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วในภาชนะมิดชิดและสอบถามพนักงานเก็บขยะแถว
บ้านคุณถึงการทิ้งที่เหมาะสม จริงๆ
แล้วควรมีโรงขยะที่รับน้ำมันที่ใช้แล้วส่งต่อให้โรงงานทำการรีไซเคิล
หากคุณไม่สามารถหาที่ทิ้งได้ควรจะมีการจัดการของรัฐเกี่ยวกับขยะจำพวกนี้














































สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมในการทำลายขยะ
ติดต่อองค์กรภาครัฐเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าว






Create Date : 27 มิถุนายน 2553
Last Update : 27 มิถุนายน 2553 21:08:29 น. 0 comments
Counter : 204 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

WishRich
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปพร้อม ๆ กัน เพื่อความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานครับ
Friends' blogs
[Add WishRich's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.