WishRich
Group Blog
 
All Blogs
 
การทำความสะอาดหม้อน้ำ






การทำความสะอาดหม้อน้ำ



















































สนิม,ฝุ่นและสิ่งสกปรกไม่ได้มาจากเครื่องยนต์เท่านั้น
แต่ยังมาจากระบบหล่อเย็นอีกด้วย
และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราต้องทำความสะอาดหม้อน้ำซึ่งเป็นอีกส่วนประกอบ
หนึ่งในการดูแลรักษารถยนต์
ระบบหล่อเย็นของรถทำหน้าที่ปกป้องเครื่องยนต์จากความร้อนที่เกิดจากเครื่อง
ยนต์ เพื่อเครื่องยนต์จะทำงานได้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม
การดูแลให้ระบบหล่อเย็นไม่เป็นสนิมไม่มีฝุ่น
ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีที่สุด














































โชคดีที่เราไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดหม้อน้ำอยู่บ่อยๆ
เหมือนกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง (ทุกๆ 2 ปีก็เพียงพอ)
แต่มันก็ง่ายเช่นกัน เพียงทำตามคำแนะจากผู้เชี่ยวชาญของคาสตรอล
ทีละขั้นตอนเท่านั้น







































สิ่งจำเป็น




















































  • ตัวทำละลาย (1-2 แกลลอล หรือ 4-8 ลิตร)

  • <น้ำกลั่น (1-2 แกลลอล หรือ 4-8 ลิตร)

  • ที่รองหรือถังน้ำ

  • สายยางพร้อมก๊อก

  • ถุงมือ (ควรกันน้ำได้)

  • แปรงไนล่อนที่มีขนนิ่ม

  • น้ำสบู่

  • แว่นตานิรภัย

  • ภาชนะมิดชิดเพื่อทิ้งตัวทำละลาย
    (ตัวทำละลายมีพิษมากและควรทำลายอย่างถูกต้อง)

  • ผ้าขี้ริ้ว

  • คีมและไขควง (หากจำเป็น)





































ขั้นตอนที่ 1 - สิ่งแรกที่สำคัญ











สิ่งสำคัญที่สุดลำดับแรก เครื่องยนต์ต้องเย็นก่อน
หากเครื่องยนต์ร้อนนั่นหมายถึงการที่สารหล่อเย็นร้อนไปด้วย
และเป็นไปได้ที่จะทำให้คุณได้รับอันตรายเมื่อเปิดฝาหม้อน้ำ
และน้ำเย็นก็สามารถทำความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ที่ร้อนด้วย







































ขั้นตอนที่ 2 -
ทำความสะอาดหม้อน้ำ











เปิดกระโปรงรถและติดตั้งขาตั้งให้แน่นเพื่อป้องกันการปิดทับลงมา
แล้วใช้แปรงไนลอนจุ่มน้ำสบู่เพื่อขัดทำความสะอาดพวกแมลงหรือฝุ่นต่างๆ
ที่ติดอยู่ที่หม้อน้ำ
โดยต้องเช็ดไปในทางที่ไม่สวนกับการหมุนของใบพัดเพราะใบพัดโค้งงอได้ง่าย
และอาจเสียรูปทรง
เมื่อใบพัดสะอาดให้ใช้สายยางฉีดน้ำทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่ง














































แม้ว่าคุณจะล้างหม้อน้ำทุกๆ 2 ปี
แต่เราแนะนำให้มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหม้อน้ำ ทุกๆ 20,000 กม.
สำหรับน้ำยาหม้อน้ำชนิดเข้มข้นที่ต้องผสมน้ำก่อนใช้
ทั้งนี้ควรอ้างอิงคู่มือการใช้ของรถแต่ละรุ่นเป็นหลัก







































ขั้นตอนที่ 3 -
การทิ้งสารหล่อเย็นที่ใช้แล้วด้วยวิธีที่เหมาะสม











การทิ้งสารหล่อเย็นที่ใช้แล้วด้วยวิธีที่เหมาะสมนั้น สำคัญมาก
เพราะสารหล่อเย็นมีพิษสูงแต่ด้วยกลิ่นหวานๆ ล่อใจเด็กๆ และแมลงมาก
เราจึงไม่ควรทิ้งสารหล่อเย็นเอาไว้ หรือเทลงบนดิน
ควรแน่ใจว่าภาชนะที่นำมารองจะไม่เอาไปใช้ในงานครัวอีก
ควรเลือกใช้ภาชนะที่ใช้แล้วทิ้งจะดีกว่า
และควรจะมีขนาดเล็กพอดีที่จะใส่ใต้ท้องรถได้พอดี














































เมื่อหาที่รองที่เหมาะสมได้แล้ว
เลื่อนมันเข้าไปใต้ท้องรถและจัดให้อยู่ตรงกับวาล์วของท่อทิ้ง







































ขั้นตอนที่ 4 - ตรวจสอบฝาหม้อน้ำ












ฝาหม้อน้ำถูกปิดด้วยแรงดันเพื่อเก็บสารหล่อเย็นเอาไว้เพื่อรักษาเครื่องยนต์
ให้เย็น แรงดันของสารหล่อเย็นแตกต่างกันไปตามแต่ชนิดของเครื่องยนต์
และบนฝาจะระบุแรงดันเอาไว้














































ฝาหม้อน้ำจะประกอบด้วยสปริงและยาง
ความแข็งของสปริงและยางจะเป็นตัวบอกได้ว่าหม้อน้ำมีแรงดันมากน้อยเพียงใด
และสามารถทนแรงดันได้เท่าไร ถ้าสามารถกดสปริงได้ง่าย
ก็ถึงเวลาที่ควรจะต้องเปลี่ยนฝาใหม่แล้ว
สัญญาณอีกอย่างที่จะบอกได้ว่าเราควรเปลี่ยนได้ คือ
มีสนิมมากหรือการเสื่อมสภาพของยางโดยทั่วไปควรเปลี่ยนทุก 2 ปี หรือจำง่ายๆ
ว่า เราล้างหม้อน้ำเมื่อไร ก็เปลี่ยนฝาใหม่ไปพร้อมกันเลย
และอย่าลืมว่าฝาหม้อน้ำต่างกัน และก็ทนแรงดันต่างกันด้วย







































ขั้นตอนที่ 5 -
การตรวจดูท่อของหม้อน้ำ











ขั้นต่อไปคือ การตรวจดูท่อของหม้อน้ำ ซึ่งจะมีอยู่ 2 สาย
สายแรกอยู่ด้านบนของหม้อน้ำซึ่งเป็นสายที่นำเอาสารหล่อเย็นที่ร้อนออกจาก
เครื่องยนต์
อีกสายอยู่ด้านล่างซึ่งจะเป็นสายที่นำเอาสารหล่อเย็นเข้าไปหล่อเย็นเครื่อง
ยนต์ ก่อนการเปลี่ยนสารหล่อเย็นควรตรวจสอบสภาพของสายทั้ง 2เส้น
และก้านยึดก่อนว่ายังอยู่ในสภาพดีแข็งแรงไม่เป็นสนิม
ถ้าชำรุดหรือมีปัญหาที่สายใดสายหนึ่ง ควรเปลี่ยนพร้อมกันทั้งคู่
ควรเลือกสายที่มีลักษณะอ่อนนุ่มมีความคงตัวสูง
แล้วจึงค่อยทำความสะอาดหม้อน้ำ







































ขั้นตอนที่ 6 -
ถ่ายน้ำยาหม้อน้ำที่ใช้แล้ว











วาล์วทิ้งของเสียของหม้อน้ำควรจะมีที่จับ เพื่อจะได้ง่ายต่อการเปิด
ให้ขันสกรูออก (อย่าลืมว่าใส่ถุงมือด้วย เพราะสารหล่อเย็นนั้นมีพิษ)
และปล่อยให้สารหล่อเย็นไหลออกมาลงภาชนะที่เรารองไว้ด้านล่างของรถตามขั้นตอน
ที่ 4 เมื่อไหลออกหมดแล้วให้ปิดวาล์วนั้น
และใช้กรวยเติมสารหล่อเย็นที่ใช้แล้วเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด
แล้วรองถาดกลับเข้าไปที่เดิม







































ขั้นตอนที่ 7 -
ทำความสะอาดหม้อน้ำ











ตอนนี้เราพร้อมที่จะล้างหม้อน้ำแล้ว
ใช้สายยางเติมน้ำลงในหม้อน้ำจนกระทั่งเต็ม
แล้วจึงเปิดวาล์วออกเพื่อให้น้ำไหลลงไปให้หมดเพื่อล้างหม้อน้ำ
ทำซ้ำจนกระทั่งน้ำที่ไหลออกมาใส แล้วนำน้ำล้างเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด
ปิดวาล์วให้เรียบร้อย







































ขั้นตอนที่ 8 - เติมน้ำยาหม้อน้ำ












สารหล่อเย็นที่ดีควรมาจากการผสมสารหล่อเย็นเข้มข้นกับน้ำในอัตราส่วนที่เท่า
กัน ควรใช้น้ำกลั่นในการผสม เนื่องจากสะอาดและป้องกันการเกิดตะกรัน
ควรผสมในภาชนะอื่นให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วจึงนำมาเติมในหม้อน้ำ
โดยทั่วไปหม้อน้ำจะมีความจุประมาณ 2 แกลลอน







































ขั้นตอน 9 - ไล่ฟองอากาศในระบบ











ท้ายสุด เราต้องปล่อยฟองอากาศที่อาจมีในระบบหล่อเย็น
โดยติดเครื่องยนต์ในขณะที่ปิดฝาหม้อน้ำด้วย (เพื่อป้องกันการเกิดแรงดัน)
โดยปล่อยให้เครื่องทำงานประมาณ 15 นาที แล้วเปิดฮีทเตอร์ให้ร้อน
การกระทำนี้จะช่วยในการหมุนเวียนของสารหล่อเย็นและเป็นการไล่อากาศที่มีอยู่
ในระบบ ทำให้มีพื้นที่ในการเติมสารหล่อเย็นได้อีกนิดหน่อย
แล้วจึงเติมสารหล่อเย็นลงไป
ระวังฟองอากาศที่จะถูกแทนที่โดยสารหล่อเย็นกระเด็น เพราะมันค่อนข้างร้อน














































จากนั้นปิดฝาและเช็ดของเหลวส่วนเกินออกให้สะอาด







































ขั้นตอนที่ 10 -
ทำความสะอาดและตรวจสอบความเรียบร้อย











ตรวจสอบความเรียบร้อยของฝาปิดต่างๆ, ผ้าที่เช็ด, สายท่อเก่า
และภาชนะที่ต้องทำลาย















































มันสำคัญมากที่จะทิ้งสารหล่อเย็นอย่างเหมาะสมเช่นเดียวกับน้ำมันเครื่องที่
ใช้แล้ว อย่าลืมว่าสารหล่อเย็นมีกลิ่นที่เด็กๆ
ชอบดังนั้นอย่าปล่อยทิ้งเอาไว้
นำเอาไปทิ้งที่รับขยะรีไซเคิลที่อยู่ใกล้บ้าน อย่าทิ้งเอาไว้
ดูคำแนะนำเกี่ยวกับการทำลายวัตถุอันตรายที่ส่วนของน้ำมันเครื่อง





Create Date : 27 มิถุนายน 2553
Last Update : 27 มิถุนายน 2553 21:11:21 น. 0 comments
Counter : 199 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

WishRich
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปพร้อม ๆ กัน เพื่อความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานครับ
Friends' blogs
[Add WishRich's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.