แม่ทัพฉู ม่อหรานและแม่ทัพอีกคน (จำชื่อไม่ได้) ลอบเข้าไปในเมือง เพื่อก่อความวุ่นวาย....แม่ทัพฉูตามพานลู่และเห็นจุ๋ยจวี้ ....วันรุ่งขึ้นแม่ทัพฉูบอกผิงถิงว่าการยึดเมืองจินโหรว นี่คงจะง่ายกว่าที่คิดละล่ะ....ผิงถิงพบกับแม่ทัพฉูและบอกว่าระหว่างเดินทางเข้ามานี่ข้าเห็นชาวเมืองไม่ค่อยมีความสุข วิตกกังวล ข้าว่าท่านทำงานกันหนักเมื่อคืน ได้ผลที่คุ้มค่า..แม่ทัพฉูยิ้มแล้วบอกตอนนี้เรารู้ถนนหนทางทุกหนทุกแห่งของเมืองนี้แล้ว และยังมีข่าวดีอีกข่าวหนึ่งที่ข้ายังไม่ได้บอกเจ้า..ตอนแรกพวกข้าต้องการจะไปลอบฆ่าแม่ทัพที่ดูแลประตูเมือง (พานลู่) และครองเมืองซะแต่ข้าว่าพวกเราไม่ต้องฆ่าเขาหรอก... ผิงถิงถามว่าทำไมล่ะ...แม่ทัพฉูบอกเดี๋ยวเจ้าจะรู้เอง...
ในเมืองพานลู่จูงมือจุ๋ยจวี้ลากเดินไปโน้นมานี่ และเห็นว่าน้ำในบ่อที่ชาวเมืองตักขึ้นมากลายเป็นสีแดง พานลู่สังเกตเห็นว่าคนต่างอพยพออกนอกเมือง และผู้คนต่างพูดถึงเรื่องที่ทำไมไม่มีขุนนางมาดูแลประชาชนเลย แม้แต่พวกแม่ทัพก็ต่างหายกันไปหมดทั้งไป๋หลัน....พานลู่หันไปมองจุ๋ยจวี้ สงสัยที่เจ้าปากเสียไว้จะถูกต้องละล่ะ เพราะดูพวกชาวเมืองทำท่าทางกันแปลกๆ ทั้งเมืองของข้าเลย...พานลู่รู้สึกว่ามีคนตามมา...จุ๋ยจวี้พวกเราจะล่าคนกันอย่างกับล่ากระต่ายเลย เจ้าว่าข้าควรยิงที่คอหรือที่หัวใจดี จุ๋ยจวี้ตอบข้าไม่รู้....พานลู่ตะโกนบอกใครก็ตามที่สะกดรอยตามข้ามา ก้าวออกมาได้แล้ว..ม่อหรานเดินออกมา จุ๋ยจวี้ยิ้มดีใจและเรียก "ม่อหราน" ..
ม่อหราน---จุ๋ยจวี้ข้าดีใจที่ได้พบเจ้า ทำไมเจ้าไม่ส่งจดหมายไปถึงพวกเราเลย เจ้าไม่รู้เหรอว่าทุกคนเป็นห่วงเจ้า (จุ๋ยจวี้จะวิ่งมาหาม่อหราน แต่พานลู่จับมือจุ๋ยจวี้ไว้ แล้วชี้ธนุไปที่ม่อหราน (อย่านะหล่อน ม่อหรานฉ้านหวง))
ม่อหราน--- (มองพานลู่ด้วยหางตา) ถ้าไม่ใช่เพราะจุ๋ยจวี้ เจ้าโดนข้าฆ่าไปแล้ว (เท่ห์ อะ คือเราลำเอียงมาก)
พานลู่-----ข้าชอบยิงคอคน เพราะยิงปุ๊บก็พูดไม่ได้ปั๊บ
แม่ทัพฉู---(เอาดาบมาวางที่บ่าของพานลู่) ข้าก็ชอบตัดที่คอเหมือนกัน
แม่ทัพต้าจิ้นอีกคนดึงอาวุธของพานลู่ออก..จุ๋ยจวี้ดีใจที่ได้พบผิงถิง ผิงถิงกับจุ๋ยจวี้กอดกัน..
พานลู่---ข้าช่างเป็นกระต่ายที่น่าสงสาร พานลู่ผู้ถูกทิ้ง
จุ๋ยจวี้---ลูกท่านละพี่สาวไป๋ ลูกเป็นไงบ้าง
ผิงถิง ---จุ๋ยจวี้เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้าสบายดีและลูกชายก็สบายดี
จุ๋ยจวี้---ข้าคิดถึงท่านมากเลย
ผิงถิง---ข้าก็คิดไม่ถึงว่าข้าจะได้พบเจ้าอีก ในชีวิตนี้
พานลู่---(มองผิงถิง) ในที่สุดข้าก็ได้พบ ไป๋ผิงถิงตัวจริง
จุ๋ยจวี้---นี่เจ้าโกหกข้าทำไม (ว่ารู้แล้วว่าข้าไม่ใช่ผิงถิง ไม่บอกเรื่องที่ผิงถิงไม่ตาย)
พานลู่---พวกเจ้าได้พบกันอีกก็ดีแล้ว เจ้าไม่เห็นเหรอว่ามีดาบวางอยู่ที่คอข้า
จุ๋ยจวี้---นี่เจ้ายังไม่เจียมตัว กล้าดียังไงพูดกับข้าเสียงดัง เจ้าไม่รู้เหรอว่าเขาเป็นใคร ข้าบอกพวกเขาให้ตัดคอเจ้าได้นะ
พานลู่---พวกเขาเป็นใครไม่สำคัญหรอก สำคัญที่ว่าถ้าพวกเขาตัดคอข้า เจ้าจะไม่เสียใจเหรอ
จุ๋ยจวี้---ถ้าเจ้ายังไม่หยุดล้อข้า ข้าจะให้เขาตัดคอเจ้าเดี๋ยวนี้
แม่ทัพฉู--(เคร ตัดใช่มั้ย)
จุ๋ยจวี้---ไม่ ไม่ ไม่ ข้าล้อเล่น
แม่ทัพฉู---จุ๋ยจวี้ข้าจะไว้ชีวิตคนรักของเจ้าไว้ก่อน ... (หันไปทางพานลู่) พวกเรามาที่จินโหรวเพราะต้องการจะหารือกับเจ้า (พานลู่หันมาคารวะแม่ทัพฉุ)
พานลู่---ข้าดีใจที่ท่านแม่ทัพฉูมีเรื่องจะหารือกับข้า ท่านต้องการอะไร เมืองจินโหรวเป็นเมืองเล็กๆ เท่านั้น ทุกคนต่างก็รู้ว่าท่านแม่ทัพฉู ต้องการจะต่อสู้กับเฮ่อเซีย(ไป๋หลัน) โชคดีของข้าจริงๆ คนที่เป็นศัตรูของศัตรูข้า กลับกลายมาเป็นเพื่อนข้า ข้าไม่สนใจเฮ่อเซีย เพราะหลังจากเฮ่อเซียมีอำนาจ ได้อำนาจจากไป๋หลันแล้วทุกคนที่อำมาตย์กุ่ยสนับสนุนล้วนถูกตามล่าและฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมเหมือนหมา
แม่ทัพฉู--ที่เจ้าพูดมาทั้งหมด หมายความว่า...
พานลู่---ข้ามีแค่อย่างเดียวที่อยากจะพูด..ข้าสามารถยอมให้จินโหรวสวามิภักดิ์ต่อท่าน แต่มีเงื่อนไข 1 ข้อ
แม่ทัพฉู---เงื่อนไขของท่านคืออะไร
พานลู่---(ทำท่าคิด) เมืองจินโหรวเป็นเมืองสำคัญ ถ้าข้าขอแค่เงื่อนไขเดียวดูจะน้อยไป ข้าขอ 2 ข้อละกัน
จุ๋ยจวี้---นี่เจ้าอย่ามัวล้อเล่น จะมาขออะไรกับแม่ทัพฉูตอนนี้
แม่ทัพฉู---ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือสาพานลู่หรอก บอกมาได้
ผิงถิง---เมืองจินโหรวเป็นเมืองสำคัญมาก เป็นการดีที่พานลู่จะยอมสวามิภักดิ์แต่โดยดี เงื่อนไขข้อเดียวก็ดี หรือสองข้อก็ดี ถือว่าโอเค เจ้าบอกเงื่อนไขของเจ้ามา พวกเราจะบอกเจ้าเองว่าให้ได้หรือไม่
พานลู่---ข้อแรก ข้าต้องการจุ๋ยจวี้ (แหงะ สงสารม่อหราน )
จุ๋ยจวี้---ข้าไม่ใช่สิ่งของนะ และพี่เป๋ยเจียจะเที่ยวยกให้ใครก็ไม่ได้...
พานลู่---เจ้าอย่ามากวน ข้ากำลังบอกเงื่อนไขของข้าอยู่ เงียบๆ ไปเลย
แม่ทัพฉู---คำขอของเจ้าข้อแรกง่ายมาก ข้าตกลง
พานลู่---จุ๋ยจวี้เพิ่งพูดออกมาว่านางไม่ใช่สิ่งของ แล้วท่านแม่ทัพฉูกล้ารับปากข้าได้อย่างไรว่านางจะอยู่กับข้าตลอดไป
แม่ทัพฉู---ข้าจะตัดนิ้วของข้า หากจุ๋ยจวี้ตอบว่า "ไม่" ข้าสัญญา และมั่นใจว่าก่อนที่ข้าจะตัดนิ้วข้าหมดทั้ง 10 นิ้ว จุ๋ยจวี้จะตอบตกลง
จุ๋ยจวี้---ข้าตกลง (แหงะ เร็วแท้ 555)
พานลู่---(แม่ทัพฉู) ท่านนี้ช่างฉลาดจริงๆ
แม่ทัพฉู---ข้อแรกเรียบรอ้ยไปละ แล้วข้อต่อไปละ
พานลู่---ตอนนี้ข้ายังไม่ได้คิด ไว้ข้าคิดออกแล้วจะบอกท่านนะ... (พานลู่มองไปที่จุ๋ยจวี้) ข้ากำลังจะมอบเมืองเมืองหนึ่งเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง ข้านี่ช่างเสียชาติเกิดจริง (555 อืมม)
จุ๋ยจวี้---นี่เจ้ากำลังพูดอะไร ฮะ
พานลู่---(หัวเราะ แต่ไม่พูดอะไร มองไปทางแม่ทัพฉู) นี่ท่านวางยาพิษลงในน้ำเหรอ
แม่ทัพฉู--- เปล่า มันเป็นแค่สีเท่านั้น น้ำไม่มีพิษ และยิ่งไปกว่านั้นชาวเมืองเป็นผู้บริสุทธิ์ (จะวางยาพิษทำไม)
พานลู่---ท่านมีกำลังคนเท่าไหร่
แม่ทัพฉู--ข้ามีกัน 4 คน ตอนนี้พอ แต่ต่อไปข้าต้องพึ่งท่านให้ช่วย
ผิงถิง---ตอนนี้ในเมืองวุ่นวายแล้ว เราต้องเร่งมือ
พานลู่-- ในเมื่อข้าสวามิภักดิ์ต่อแม่ทัพฉูแล้ว งั้นข้าขอเชิญทุกท่านไปหารือกันที่บ้านข้า คืนนี้
ทางด้านเฮ่อเซีย..เฮ่อเซียหงุดหงิด ขวางฏีกาของพวกขุนนางเกลือนห้อง ตงจั๋วเข้ามาเห็นก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอ เฮ่อเซียบอกมีแต่ฏีกาจากพวกขุนนางเก่าๆ ให้ข้ารอก่อน อย่าเพิ่งขึ้นเป็นฮ่องเต้ของไป๋หลัน ตอนนี้เกิดเหตุการณ์ผิดปกติวุ่นวายไปทั่วไป๋หลันอยู่...ข้าบอกพวกนั้นเสมอๆ ว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ไม่ได้เกิดจากพระเจ้าอะไร แต่พวกมันไม่ฟังข้า ข้าเรียกเจ้าเข้ามาเพื่อให้ทำบางอย่างให้หน่อย...ตงจั๋วบอกท่านบอกมาได้เลย...เฮ่อเซียบอกข้ารู้สึกไม่ไว้ใจหนวด ข้าต้องการให้เจ้าช่วยพิสูจน์เขา....ตงจั๋วแปลกใจแล้วถามว่าท่านต้องการจะดูแลหนวดงั้นเหรอ เฮ่อเซียบอกคนที่ข้ายังสงสัยอยู่(ไม่แน่ใจ)มักจะเป็นปัญหาในอนาคต (ถ้าพิสูจน์ว่าจงรักภักดีกับข้าไม่ได้ ก็ฆ่าซะ)......ตงจั๋วเจ้าคิดว่าข้าใจร้ายมั้ย เพราะข้าต้องการกำจัดหนวด ตงจั๋วส่ายหัว ท่านต้องมีเหตุผลของท่านในการที่จะกำจัดหนวด ข้าจะจัดการตามที่ท่านสั่ง....(ตงจั๋วหนอตงจั๋ว)....เฮ่อเซียถอนหายใจ ..นี่เป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ต่อไปเมื่อข้าขึ้นเป็นฮ่องเต้ครองทั่วหล้าแล้ว ต่อไปเรื่องต่างๆ เจ้า(ตงจั๋ว) ต้องจัดการแทนข้าละ...ส่วนไป๋ผิงถิง หากข้าได้พบนางอีกครั้ง ข้าต้องฆ่านางแน่นอน...ตงจั๋วถามเฮ่อเซีย ท่านคิดว่าพี่สาวไป๋ยังมีชีวิตอยู่อย่างนั้นเหรอ..เฮ่อเซียบอกถ้าไม่ใช่เพราะไป๋ผิงถิงไม่มีทางที่ฉูเป๋ยเจียจะออกมาจากที่ซ่อนได้....แล้วตอนนี้มงกูฏเป็นไงบ้าง ตงจั๋วบอกตอนนี้หาช่างทำได้แล้ว และหาพวกเพชรต่างๆ มาได้ตามต้องการแล้วยกเว้นเพชรเม็ดตรงกลางมงกุฏ ช่างต้องการ 2 เม็ดใหญ่แต่ตอนนี้หาได้แค่เม็ดเดียว...เฮ่อเซียบอกให้เอาเพชรที่ได้ทำให้มงกูกราชินีก่อน ส่วนมงกุฏข้ารอได้...ทำมงกุฏขององค์หญิงให้ดีที่สุด งามที่สุดทุกๆ รายละเอียดต้องเลิศ.....(คืออารมณ์รักคิดถึงเมีย???)
ที่บ้านพานลู่---จุ๋ยจวี้ได้พบกับอาจารย์ ทั้งสองกอดกันและบอกอาจารย์ว่าข้าคิดถึงอาจารย์มาก...พานลู่บอกหยุดร้องไห้ได้แล้ว พานลู่คารวะอาจารย์จุ๋ยจวี้ 3 หน แล้วขอร้องให้อาจารย์จุ๋ยจวี้รับเป็นลูกเขย (เข้าใจว่าอาจารย์เป็นพ่อจุ๋ยจวี้)...จุ๋ยจวี้บอกนี่อาจารย์ข้า อาจารย์บอกตราบใดที่เจ้าา (พานลู่) ดูแลเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยนี้ได้ดี ก็ไม่มีปัญหาเจ้าจะเรียกอาจารย์หรือจะเรียกพ่อตาก็ได้......(เรานี่ก็จ้องแต่ม่อหราน สงสาร มีเบือนหน้าหนีด้วย)
แม่ทัพฉุบอกพวกเราหยุดเรื่องส่วนตัวไว้ก่อน... พานลู่อธิบายเส้นทางในแผนที่ประมาณว่าเส้นสีแดงคือเส้นทางหลักที่เหล่าทหารใช้เดินทางลำเลียงเสบียงข้าวแยกไปตามค่ายทหารต่างๆ เมืองจินโหรวเป็นเมืองพัก (จุดพัก) ของทุกกองเสบียงก่อนจะแยกย้ายกันไป...แม่ทัพฉูบอก ถึงแม้ว่าตอนนี้เฮ่อเซียจะมีอำนาจ แต่เฮ่อเซียก็เปรียบเสมือนคนนอก (ไม่ใช่คนไป๋หลัน) ยังมีแม่ทัพของไป๋หลันที่ไม่ชอบเฮ่อเซีย จะมีแม่ทัพท่านใดที่ข้าจะไปคุยกับเขาได้บ้างมั้ย .....พานลู่หัวเราแล้วบอกว่าข้าเคยอยู่ในกองทัพข้ารู้ว่าใครเราควรเอาใจ ใครเราไม่สามารถ...แม่ทัพฉูขอให้พานลู่ลิสต์รายชื่อให้หน่อย พานลู่บอกได้ไม่มีปัญหา ท่านวางแผนไว้ว่าอย่างไรละ... หากพวกเราต้องการให้กองทัพจากด้านนอกเข้ามาช่วยคงยากเพราะมีสายสืบเยอะคอยจับตาอยู่...แม่ทัพฉูส่ายหัวบอกเราจะไม่เคลื่อนย้ายอะไรทั้งนั้น ตรงกันข้ามพวกเราจะใส่ยาพิเศษให้พวกเขา.....พานลู่บอกนั่นยิ่งยากเข้าไปใหญ่เพราะถ้ามีใครคนหนึ่งโดนพิษพวกเขาจะยิ่งรีบหาสาเหตุ....ผิงถิงบอกพานลู่มันไม่ใช่ยาพิษ ข้าสามารถสร้างยานี้ได้โดยที่จะไม่ถูกตรวจได้ว่ามีพิษ......พานลู่บอกงั้นก็เอาตามนั้นมันอาจจะได้ผล ข้ารู้ละทำไมเฮ่อเซีย กับอำมาตย์กุ่ยถึงพยายามอย่างที่สุดที่จะแยกท่านทั้งสองคนออกจากกัน.... จุ๋ยจวี้ตบหัวพานลู่....นี่เจ้าพูดอะไร...พานลู่บอกข้าไม่ได้หมายความอะไรที่มันไม่ดี ข้าหมายถึงข้าเขาสองคนอยู่ด้วยกัน ก็ไม่มีใครบนโลกนี้มาหยุดพวกเขาได้....ผิงถิงประกาศเราจะทำตามแผนนี้กัน...
เฮ่อเซียฝันเห็นองค์หญิงเหย้าเทียน เหย้าเทียนถามเฮ่อเซีย สามี ข้าเป็นภรรยาท่านข้าจะให้ท่านดื่มเหล้าพิษได้อย่างไร...เหย้าเทียนถือแก้วเหล้า "ไหนละมงกุฏราชินี....เฮ่อเซียสะดุ้งตื่นเหงื่อโทรม แล้วก็ตะโกนดังลั่น "เหย้าเทียนอย่าดื่ม".... ตงจั๋วรีบวิ่งเข้ามาดูเฮ่อเซีย เฮ่อเซียบอกข้าไม่เป็นไร เจ้าออกไปเถอะ...ตงจั๋วมองเฮ่อเซียลังเลเป็นห่วง แล้้วบอกเฮ่อเซียว่าเมื่อคืนนี้แม่ทัพจูถูกฆ่าตายแล้วแล้วหัวของเขาถูกแขวนไว้บนยอดธง เฮ่อเซียถามแล้้วจับคนฆ่าได้ยัง....ตงจั๋วบอกยังจับไม่ได้ ข้าคิดว่าฉูเป๋ยเจียอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้......เฮ่อเซียคิด แล้วบอกตงจั๋ว ไม่ใช่ฉูเป๋ยเจียอยู่เบื้องหลังหรอก แม่ทัพจูเป็นแม่ทัพเล็กๆ ไม่มีเหตุผลที่จะตามเขา ข้าว่าต้องเป็นบางคนที่อยู่ในไป๋หลัน...ตงจั๋วบอกแม่ทัพจูเป็นคนที่ท่านต้องการจะแต่งตั้งขึ้นตำแหน่งให้ อาจจะมีแม่ทัพคนอื่นๆ อิจฉาไม่ชอบใจที่แม่ทัพจูจะขึ้นมาตำแหน่งใหญ่...เฮ่อเซียถามใครได้ประโยชน์มากที่สุดหากแม่ทัพจูตาย ตงจั๋วบอกแม่ทัพฉีเทียน...ตงจั๋วเจ้าไปบอกแม่ทัพฉีเทียนให้สืบทำคดีเรื่องนี้ ถ้าแม่ทัพฉีเทียนไม่สามารถหาตัวคนร้ายได้ ข้าต้องการให้เขาเอาหัวเขามาให้ข้า.... (มันดีเน้อะ)
ผิงถิงรอแม่ทัพฉู พอแม่ทัพฉูมาก็โชว์ยาที่ผลิตขึ้น ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น สิ่งที่ข้าจำเป็นต้องทำคือผลิตมันเพิ่ม...แล้วถามแม่ทัพฉูว่าแล้วทางท่านตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง...แม่ทัพฉูบอกตอนนี้เรามีครบทุกอย่างที่เราต้องการ ข้ามีมีดสั้นที่จะเอาไว้ฆ่าพวกแม่ทัพ พวกเขาไม่ทันได้สู้ก็ต้องตายเพราะมือข้าละล่ะ ในอนาคตถ้าข้าตกงานข้าไปเป็นนักฆ่าได้สบายๆ เลย.....ผิงถิงบอกข้ารู้ว่าท่านไม่เคยต้องทำแบบนี้ ถ้าเรามีคนมากพอท่านย่อมต้องออกไปสู้อย่างเปิดเผย แม่ทัพฉูบอกในการทำศึกสงครามไม่มีอะไรที่น่าละอายเท่ากับภาระกิจลอบสังหาร....
วันต่อมา พานลู่เตรียมอาวุธอยู่ จุ๋ยจวี้มาเคาะประตู ถามพานลู่ว่าเจ้ากินอะไรหรือยัง..พานลู่บอกข้ากินแล้ว จุ๋ยจวี้เลยบอกงั้นข้าเอาอาหารไปให้คนอื่นละกัน...พานลู่รีบเปิดประตูและก็กิน กิน กิน พานลู่บอกตั้งแต่ข้าพบท่านพ่อตา เจ้าดีต่อข้าจริงๆ ช่วงนี้ จุ๋ยจวี้ยิ้มแล้วบอกว่าข้าจะดีกับเจ้าเสมอๆ ตลอดไป เจ้ารีบกินเข้าเถอะ...อาจารย์ข้าบอกข้าว่าข้าควรมองโลกให้กว้าง และหยุดรบกวนเจ้า เพราะเจ้ามีสิ่งสำคัญที่จะต้องทำ ข้าจะให้เจ้าอยู่คนเดียว ไม่รบกวนเจ้า เจ้าจะได้ทำงานให้เสร็จ พานลู่รีบห้ามจุ๋ยจวี้ไม่ให้ออกไป...ต่อมาพานลู่รู้สึกคันไปทั้งตัว จุ๋ยจวี้เข้ามาตรวจดูพานลู่ ไม่เห็นมีรอย ไม่เห็นมีผื่นเลย ชีพจรเจ้าก็ปกติ...จุ๋ยจวี้ยิ้มกว้าง พี่ผิงถิงนี้เก่งจริงๆ ยาเลิศ....พานลู่ถามจุ๋ยจวี้ "นี่เจ้ากล้าดียังไงเอาข้าเป็นหนูทดลองยา" .... จุ๋ยจวี้บอกข้าต้องให้เจ้าเป็นหนูทดลองยานี่แหละ เจ้าปากไม่ดีบอกอาจารย์ข้าได้ยังไงว่าเรานอนด้วยกันแล้ว...พานลู่ยิ้มบอกงั้นเจ้าทำถูกแล้วที่ใช้ข้าเป็นหนูทดลองยา..ข้าจะปล่อยข่าวลือเรื่องของเราไปเรื่อยๆว่าเป็นเรื่องจริง ..จุ๋ยจวี้ไล่ตีพานลู่... (ตกลงยังไม่ได้กันเน้อะ สองสามปีเองเน้อะ เชื่อก็ได้เน้อะ )
พานลู่ถาม อีกนานมั้ยกว่าจะหายคัน...จุ๋ยจวี้บอกมันก็แล้วแต่คนนะ อาจจะยาวนาน หรืออาจจะแค่แป๊บเดียว...ข้ารู้จักยาทุกชนิด แต่ยาที่พี่ผิงถิงทำข้าก็สับสนว่าสมุนไพรอะไร ดีนะที่พี่ผิงถิงรู้ทุกอย่าง และถึงแม้ข้าจะพยายามทดสอบผสมกับโลหะ เข็มเงิน ก็ไม่สามารถตรวจเจอพิษได้ คนที่ดื่มพิษเข้าไปจะมีอาการเหมือนท่าน จะคันไปทุกที่และหมดแรง....จุ๋ยจวี้ยิ้ม ดีเลยพวกทหารของข้าศึกต้องหมดแรงด้วยยานี้....พานลู่ถามนี่แล้วยาถอนล่ะ จุ๋ยจวี้บอกมันไม่มีหรอกยาถอนพิษ......พานลู่ทำทีออกมาตรวจของที่จะส่งไปยังกองทัพ แล้วก็เอายาพิษใส่ผสมกับข้าวไป
ทางด้านเฮ่อเซีย เรียกหนวดเข้ามาพบ...ทหารคนสนิทของหนวดเตือนหนวดว่าให้ระวัง แล้วก็บอกตอนนี้เฮ่อเซียต้องการพบท่าน...เฮ่อเซียให้ตงจั๋วนำเหล้ามาให้หนวดดื่ม หนวดกลัวสุดขีด (สังเกตยกแก้วเหล้า ดื่ม ไม่ดื่ม) หนวดบอกเฮ่อเซีย เพื่อให้เป้าหมายของท่านบรรลุ องค์หญิงจำเป็นต้องตาย ท่านควรหยุดเศร้าโศกต่อการตายขององค์หญิงได้แล้ว ..เจ้าว่าองค์หญิงต้องตายอย่างนั้นหรือ...เฮ่อเซียโยนกระบี่ซื่อสัตย์ให้หนวด เอาไปข้าให้เจ้า...หนวดรีบวิ่งออกไปขี่ม้าแล้วออกไปทันที...
พานลู่รายงานแม่ทัพฉูว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเป็นไปตามแผน ...ข่าวที่ทหารป่วยมากมายโดยที่แพทย์ก็หาสาเหตุไม่ได้แพร่กระจายออกไป พานลู่บอกตอนนี้ท่านแม่ทัพฉีเทียนเหมือนจะมีปัญหา ทหารของเขาหมดแรงทุกคน ไม่มีแรงรบ...แม่ทัพฉูบอก แม่ทัพจูตายไปแล้วแน่นอนว่าเฮ่อเซียสงสัยว่าแม่ทัพฉีเทียนเป็นคนทำ เฮ่อเซียต้องระแวงแม่ทัพฉีเทียนหากแม่ทัพฉีเทียนไม่สามารถให้เหตุผลที่ดีต่อเฮ่อเซียได้ว่าทำไมทหารของเขาถึงไม่มีแรงไปรบ...พานลู่ชมผิงถิงว่ายาของท่านช่างได้ผลดีจริงๆ ใช้ผสมกับเม็ดข้าวไปได้ผลดี.....ผิงถิงบอกแม่ทัพฉูนี่เป็นเวลาอันดีที่ท่านควรไปพบแม่ทัพฉีเทียน...พานลู่บอกข้ารู้เส้นทางดีข้าจะพาท่านไป จุ๋ยจวี้เป็นห่วงถามว่าพานลู่เจ้าต้องไปด้วยเหรอ พานลู่บอกข้าต้องไป และข้าก็คันไม้คันมือด้วย (อยากไป)...จุ๋ยจวี้บอกหัวใจข้าเต้นแรงทั้งวัน ข้ากังวล พานลู่บอกนี่มันเป็นสัญญาณอันตรายนะ ให้ข้าตรวจให้ละกัน....ก็ตีกันอีกเช่นเดิม ....
ผิงถิงบอกแม่ทัพฉู พวกเราไม่มีเวลาแล้ว เฮ่อเซียจะต้องรู้ถึงสิ่งปกติที่เกิดขึ้นในเมืองนี้ เราต้องไปหาแม่ทัพฉีเทียนให้เรียบร้อย ได้ทหารอีกหนึ่งกอง พวกเราจะทำตามแผนเดิม ข้าจะอยู่ที่เมืองจินโหรวเพื่อล่อให้เฮียเซียมาโจมตี...ท่าน(แม่ทัพฉู) จะโจมตีจากทางด้านหลัง ...แม่ทัพฉูตกใจ อะไรนะ ตามแผนเดิม เจ้าไม่ต้องอยู่ในเมืองนี้นี่ จินโหรวต้องเป็นเมืองร้าง (ที่วางแผนไว้) ผิงถิงบอกตลอดเวลาแผนของข้าคือพวกเราจะอยู่ด้านหลังเมืองจินโหรว..เฮ่อเซียเป็นคนระมัดระวัง และเขาจะรู้ได้ว่าข้าไม่ได้อยู่ข้างในจินโหรวไม่มีทางที่เขาจะตกหลุมพลางพวกเรา...อีกอย่างพวกเราไม่มีคนมากพอที่จะมาสู้กับเฮ่อเซียได้เพียงกองทัพเดียว...แม่ทัพฉูบอกผิงถิงเจ้าสัญญากับข้าว่าเจ้าจะตามข้าไปถ้าเจ้าไม่ไปข้าก็ไม่ไป ข้าไม่ยอมให้เจ้าอยู่ในนี้คนเดียว....ผิงถิงบอกพวกเรามีทางเดียวคือต้องชนะศึกครั้งนี้ พวกเราจะแพ้ไม่ได้ ถ้าพวกเราแพ้ไม่แค่เมืองจินโหรวจะนองไปด้วยเลือด โลกนี้ทั้งโลกต้องลำบากภายใต้การปกครองของเฮ่อเซีย ผู้คนจะต้องทุกข์ยาก แม้แต่จะมีชีวิตก็ยากลำบาก เด็กและลูกหลานอีกมากมายต้องทนทุกข์....ผิงถิงบอกแม่ทัพฉู จินโหรวไม่ร้าง ข้าจะเอยู่กับทหารห้าพันคนเพื่อป้องกันเมือง ..เป๋ยเจียท่านต้องเชื่อใจข้าและนี่ข้าขอเป็นครั้งสุดท้าย นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย (ที่เราแยกจากกัน) แม่ทัพฉูบอกผิงถิงขอให้นี่เป็นครั้งสุดท้ายนะ เจ้าต้องสัญญาว่าจะมีชีวิตอยู่และรอข้ากลับมา...... (รำคาญผิงถิง มากกกกกกกกกก)