ทำวันนี้ให้ดีที่สุด Be Positive!
Group Blog
 
All Blogs
 

ตอนที่ 50



Seige In Fog
2018

ตอนที่ 50

หลังจากอวี้เหลียนข่ายหนีออกมาจากคุกได้โดยความช่วยเหลือของหมิงหงส์หยู่ ก็ขับรถมาแวะในเมืองเพื่อหาซื้ออาหารแห้ง แต่ในระหว่างที่กำลังเดินอยู่นั้นก็ได้ยินคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังยืนอ่านป้ายประกาศจับตัวเองอยู่ เหลียนข่ายเดินไปเรื่อยๆ แต่ก็ต้องหยุดเดินเมื่อได้ยินคนพูดว่า ตอนนี้ฉินซางภรรยาของเหลียนข่ายถูกจับตัวได้ เหลียนข่ายเดินกลับมาที่รถและขับรถออกไประหว่างทางก็ถามหมิงหงส์หยู่ว่าที่ฉินซางมาเมืองนี้ หงส์หยู่รู้เรื่องหรือไม่ หงส์หยู่บอกไม่รู้ (โกหกมาก) คงเป็นข้อมูลลวงที่จะหลอกให้เหลียนข่ายกลับไปถูกจับมากกว่า หงส์หยู่บอกเขาว่าอย่าสนใจเลย เหลียนข่ายควรรีบเดินทางกลับไปบ้านซะ เพราะที่นั่นจะปลอดภัย เหลียนข่ายบอกข้าจะกลับไปถึงบ้านได้ไง แม้แต่อาวุธข้ายังไม่มีเลย หงส์หยู่เลยยื่นปืนให้ เอาปืนของข้าไปก็ได้ ต่อไปนี้เราคงจากกันตลอดชีวิต ท่านกลับไปถิ่นตระกูลของท่าน ของข้าจะขึ้นไปตะวันออกเฉียงเหนือ หลังพูดจบหงส์หยู่ก็ลงจากรถ และเดินต่อไปเรื่อยๆ เหลียนข่ายลงมาจากรถ และขึ้นไกปืน หงส์หยู่ได้ยินว่าเหยียนข่ายลงจากรถ ก็นึกดีใจ (แบบคงจะมากอด) แต่พอหันมาเห็นเหลียนข่ายเล็งปืนมาที่ตัวเองก็ตกใจ

ก็สะใจอยู่ แต่นางก็ไม่ผิดนะ 


หงส์หยู่ถามเหลียนข่ายว่าจะทำอะไร เหลียนข่ายถามหงส์หยู่ว่ากำลังจะกลับไปตามหา เจียงฉวนซีใช่มั้ย หงส์หยู่ตอบใช่แล้ว พอขาดคำปุ๊บ เหลียนข่ายก็ยิงหัวเข่าของหงส์หยู่ให้หงส์หยู่พิการไปตลอดชีวิต เหลียนข่ายบอกหงส์หยู่ว่าตอนแรกตัวเองก็แปลกใจที่ปกติแล้ว อวี้เหลียนเซ็น (พี่ชายรอง) ต้องมาสอบสวนเขาทุกวันเวลาเดิมแต่วันที่หงส์หยู่มาถึงเมืองนี้ เขาไม่มาสอบสวนข้า ตอนนี้ข้ารู้ล่ะ เจ้าใช้ฉินซางเพื่อล่อเขาออกไป เจ้าจะได้มาช่วยข้า  หงส์หยู่บอกถ้าเจ้าอยากแก้แค้นให้ฉินซาง เจ้าก็ควรฆ่าข้าซะ เหลียนข่ายบอกข้าไม่ต้องการฆ่าเจ้า ข้าไม่ต้องการแก้แค้น ข้าต้องการช่วยเหลือเจ้า ตอนนี้เจ้าเหลือความงามเพียงครึ่งเดียว (อีกครึ่งพิการ)  เจ้าก็จะไม่มีค่าสำหรับเจียงฉวนซี หรือแม้แต่หลี่ซงเหนียน  ข้าช่วยตัดโซ่พันธนาการให้เจ้า เจ้าจะได้กลับไปอย่างเป็นอิสระ อยู่ให้ห่างไกลจากนักการเมืองหรือผู้ชายที่เล่นการเมือง  เจ้าจงกลับไปเจียงโฉวและเปิดร้านขายเต้าหู้ (555 ทำไมต้องเต้าหู้อะ ) เป็นเจ้าของกิจการ  หงส์หยู่โกรธมาก บอก อวี้เหลียนข่าย เจ้านี้มันทุเรศมาก ข้าไม่ควรมาช่วยเจ้าเลย  เหลียนข่ายบอก เจ้าตะโกนใส่ข้าได้ จะเกลียดข้าก็ได้ แต่ด้วยนิสัยเจ้า ข้าไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ ที่จะหยุดเจ้าได้ ข้าขอโทษนะ ข้าต้องไปละ ดูแลตัวเองดีดี (นั่งเป็นผักแล้วนางจะไปไงอะ งงอยู่) หงส์หยู่ตะโกน อวี้เหลียนข่าย เจ้าจะไปไหนอะ

นับถือผมนาง ทำทรงนี้แล้วยังรอด


ทางแม่ทัพที่กองบัญชาการได้รับข่าว (ก็หันมาอยากเท่ห์) ตอนนี้ไม่มีใครหยุดมู่หรงเฉินได้ พรุ่งนี้พวกเราจะประกาศอิสรภาพ พวกเราจะสนับสนุนมู่หรงเฉิน (ทหารก็ตะโกน สนับสนุนมู่หรงเฉิน ๆๆ )---สงครามก็เริ่มขึ้น ระบิดลงตายกันเกลื่อน--- (ระหว่างกองทหารฟู่กับกองทหารมู่) อวี้โจวเฉิงแห่งกองทัพฟู่ตีทัพมฟู่แตก ทำให้ทัพฟู่ต้องถอยหล่นไปเมืองเจียงเป่ย แม่ทัพของฟู่โกรธมากบ่นว่าข้ามีทหารถึง สามหมื่นคน เจ้าอวี้โจวเฉิงมีทหารนิดเดียวหมื่นคนชนะได้ไง แล้วหลีซงเหนียนก็โทรมาหาแม่ทัพฟู่ (แต่แม่ทัพฟู่รับโทรศัพท์แล้วก็พูดแค่ว่า ฮ่าววววว)

ทางด้านทัพมู่ บอกทหารคนสนิทว่าให้ทำตามแผน คืนนี้เราจะบุกหนักตามแผน จัดหนักจัดเต็มไป ทหารรับคำฟัง ลูกน้องถามว่าทำไมเราไม่รอให้สองฝ่ายรบกันไปก่อนใครชนะเราค่อยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ แม่ทัพฝ่ายมู่บอกข้าให้สัญญากับมู่หรงเฉินไปแล้วจะเสียสัตย์ได้ไง เอาตามนี้แหละ

ทางด้านแม่ทัพฟู่ เห็นทหารล่มตายเป็นจำนวนมาก ก็สะเทือนใจ ยืนกล่าวสุนทรพจน์ ปลุกกำลังใจ ประมาณว่า เบื้องหน้าคือบ้านเกิดเมืองนอนของท่านและของข้า พี่น้องสามีภรรยาและลูกๆ ของท่านรอพวกท่านอยู่ที่นั่น แต่สำหรับข้าแล้วข้าไม่มีญาติ ไม่มีภรรยา ไม่มีลูก แต่ประเทศนี้ข้ารักสุดหัวใจข้ามีความฝันเพื่อประเทศชาติ แต่ตอนนี้ข้าไม่สามารถทำความฝันให้เป็นจริงได้ ข้าคงไม่ทันได้เห็นความฝันของข้าเป็นจริง แต่พวกท่านและเยาวชนรุ่นหลัง ข้าหวังว่าพวกท่านจะได้เห็นโลกใหม่ แต่สำหรับพี่น้องของพวกบางคนที่ล้มตายไปไม่มีโอกาสได้เห็นโลกใหม่ ทหารอายุมากๆ บางคนบอกอยากจะออกรบกับข้าเป็นครั้งสุดท้ายด้วยกัน ได้เลยพวกเราที่เหลือจะร่วมมือกันรบร่วมเป็นร่วมตายด้วยกัน----แล้วเสียงปืนก็ดังกระจาย----แม่ทัพอวี้ซงเฉิงตายในสนามรบ---- (อวี้ซงเฉิงคือลุงหกของพระเอก) 

สงครามมันก็จะลอยๆ ประมาณนี้


อวี้เหลียนข่ายกลับมามอบตัวที่ข่ายทหารของพี่ชายรองอีกครั้งหนึ่ง พี่ชายรองนั่งอยู่กับฉินซาง พอฉินซางเห็นอวี้เหลียนข่าย ก็วิ่งเข้ามากอดแล้วพูดว่า ในเวลาที่ท่านอยู่สุขสบายข้าก็เอาแต่ทำนิสัยบ้าบอใส่ท่าน (จริง!!! ย่ะ) ขณะนี้ท่านตกต่ำ ข้าไม่ต้องการจากท่านไป พี่ชายรองนั่งมองที่โต๊ะ แล้วยกมือไปลูบที่ใส่กระดูกของภรรยาตนเอง แล้วก็พูดขึ้นว่า น้องสาม ข้ารู้ว่าหากฉินซางอยู่ที่นี้ เจ้าต้องกลับมาแน่ๆ  อวี้เหลียนข่ายบอก ท่านฆ่าข้าเถอะแล้วปล่อยเธอไป ฉิงซางรีบหันกลับมาพูด ไม่ๆ ฆ่าข้าแล้วปล่อยเหลียนป๋อ ไป ฉินซางหันมาพูดกับเหลียนข่ายว่า หากท่านตาย ความทุกข์ทรมานทั้งหลายต้องตกอยู่ที่ข้าตลอดชีวิตข้าทนไม่ได้  พี่ชายรองลุกขึ้นพูดบ้าง คำพูดของพวกเจ้าช่างเป็นคำที่สวยงาม ... ตั้งแต่ที่ภรรยาข้าเหยียนหยุนตาย ข้าทนทุกข์ทรมานเจ็บปวดทุกค่ำคืน ข้าคิดว่าพวกเจ้า สมควรจะต้องเจ็บปวดทรมานกว่าที่ข้าเจอหลายๆ เท่า  น้องสาวที่นี่คือเฉินหางกวน ที่นี้จะเป็นสุสานของเจ้า เจ้ามีอะไรจะสั่งเสียมั้ย...... เหยียนหยุนตอนนี้ข้านำตัวพวกเขาทั้งสองคนมาที่นี้แล้วตอนนี้ดวงวิญญาณเจ้าจะได้เห็นกับตาอย่างชัดเจนอะไรจะเกิดขึ้นกับคนที่ฆ่าเจ้า ........ พี่ชายรองหันมาที่ชายสามบอกเจ้าทั้งสองคนมีความเสี่ยงชีวิตทั้งคู่แหละไม่ต้องแย่งกันตาย ข้าเตรียมไวน์ที่ดื่มในงานเลี้ยงในวันที่เหยียนหยุนตายไว้ที่นี่แล้ว  หลี่เหลียนข่ายพูดขึ้นว่าวันนั้นฟังเพลงที่พ่อชอบ ข้าหวังว่าท่านพ่อคงไม่หัวเราถ้าพวกเราเมาในสนามรบ จะมีนักรบกี่คนที่กลับไปบ้านได้อย่างปลอดภัย... พี่รองบอก ตอนนี้เหลียนข่ายกลับมาแล้ว ในฐานะที่เจ้าเป็นน้องข้า ข้ามีไวน์ไว้ต้อนรับเจ้า เจ้ากับภรรยาต้องสลับกันดื่มจนหมด มีหนึ่งแก้วที่มียาพิษ ชายสามบอกมันก็มองดูเหมือนกันทุกแก้ว ท่านอยากให้ใครโดนยาพิษล่ะ ชายรองบอกข้าก็ยังไม่ได้คิดนะ พวกเจ้าสลับกันดื่มไปละกัน ใครโดนก็คนนั้นให้สวรรค์เป็นผู้ตัดสิน (เดือดร้อนสวรรค์อีก) ----- (ขอผ่านช่วงลำใยนี้ไปนะคะ สรุปว่าหิมะตกค่ะ ชายสามก็รู้สึกเอาว่าเหยียนหยุน ภรรยาตนให้อภัยขอให้ไว้ชีวิตของทั้งเหลียนข่ายและฉินซางจ้าาาาา ตามนั้นนะ) ----- ชายสามรำพึงรำพัน "ข้าเข้าใจแล้ว ข้าเข้าใจแล้ว".....

พร้อมหน้าพร้อมตา น้องชายน้องสะไภ้ พี่ชายและ(วิญญาณ)พี่สะไภ้ (ในกล่อง)


ใหญ่กว่าแม่ทัพก็วิญญาณเมียเด้อ...


เสียงปืนดังขึ้นด้านนอก พี่รองบอกให้ทหารลดปืนที่จี้ไปทางเหลียนข่ายกับฉินซางลงซะ แล้วพูดว่าทัพของมู่หรงเฉินมาล่ะ พวกเจ้าไปรีบเก็บของแล้วรีบไปซะ กลับไปเมืองฟู่หยวน  เหลียนข่ายรีบถามแล้วท่านละพี่รองข้าจะอยู่ที่นี้ รบกับเขาและถ่วงเวลาไว้ พวกเจ้าจะได้มีเวลาหนีได้ไกลขึ้น  น้องสาม สุดท้ายนี้ขอให้ข้าได้ทำอะไรเพื่อครอบครัวของเราบ้าง เหลียนข่ายบอก ไม่ได้ พวกเราเป็นพี่น้องกันเราต้องอยู่และตายด้วยกัน พี่รองบอกข้าไม่ไป (แล้วก็เคาะกล่องเก็บกระดูกเหยียนหยุน) ข้าจะอยู่ที่นี่แหละ น้องพี่ เจ้าอยู่มั้ย เจ้านี่มันไม่หล่อซะเลยเวลาที่เจ้าไม่ยิ้มนะ เมื่อเจ้ากลับถึงฟู่หยวนแล้ว เจ้าจงยิ้มให้มากๆ  เอาล่ะ ยังไงก็มีอีกคนหนึ่งที่ต้องกลับไปกับพวกเจ้าด้วย .....พี่รองสั่งทหารให้นำตัวคนนั้นออกมา----- พระรองสุดหล่อนั้นเอง---ฉินซางมองหน้าแล้วบอก นี่เจ้ายังไม่หนีออกไปจากเมืองนี้อีกเหรอ ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่มีค่าพอให้เจ้าเอาชีวิตมาทิ้งหรอก...พี่รองตัดบท บอกพวกเจ้าไว้คุยกันไปตามทางก็ได้ เดี๋ยวข้าไปส่งพวกเจ้าที่รถ...พี่รองพูดจบก็ยกกล่องกระดูกเมียเดินออกไป เหลียนข่ายจะเดินตาม โดนทหารเล็งปืนให้หยุด....

คุณชายลำใย แห่ง เมืองฟู่กวน..


เหลียนข่าย ฉินซาง และ พระรอง(พ่านเจียนฉือ) เดินออกมาจากประตูเมือง (ท่ามกลางหิมะ) เหลียนข่ายเดินช้าๆ ในที่สุดก็ตัดสินใจบอกให้ฉินซางกับพระรองรีบเดินทางไป บอกฉินซางมีพระรองอยู่ใกล้ๆ ยังไงก็ต้องปลอดภัย พี่รองโกหกเรา ตอนนี้ทัพของมู่หรงเฉินอยู่ที่นี้แล้ว ไม่ใช่ว่ายังมาไม่ถึง ท่านลุงหกตายในทัพแล้วแน่นอน ไม่งั้นมู่หรงเฉินมาถึงที่นี่ไม่ได้ ไม่ต้องกังวลข้าจะพาพี่รองกลับบ้านให้ได้ ...(เฮ้ออ) ขอแค่เจ้ากลับถึงฟู่กวนอย่างปลอดภัย.....


ไป!!!!


ไม่ไปข้ายิง.... 



พระเอกออกรบก็ตายเดี้ยงพร้อมกันกับพี่รองคร๊าฟฟฟ ในระหว่างที่กำลังจะหมดลมหายใจ ความทรงจำที่มีความสุขของเหลียนข่ายกับฉินซางตั้งแต่วัยเด็กก็กลับมา.... 

ข้ากำลังจะตายคู่กับท่านพี่ชายรอง 


แต่ข้าคิดถึงเมียข้า อดีตรักแรกพบของข้า... (ตกลงสูญพันธู์ชิมิตระกูลอวี้)




เจ็ดปีผ่านไป...

ในโรงเรียนสอนเรื่องการเมือง ครูกำลังอธิบายว่าทำไมพี่ชายน้องชายถึงต่อสู้กันทางการเมืองเสมอๆ ก็เพราะว่าต้องการให้ถ่วงดุลอำนาจกันในสังคมชั้นสูง (ยังไงฟร่ะ) อำนาจทางการเมืองต้องตกเป็นของคนร่ำรวยเสมอ พี่น้องฆ่าฟันกันเองเพื่อต่อสู้แกร่งแย่งทรัพย์สมบัติ (มีทรัพย์มีอำนาจ) หลังจากระบบนั้นถูกทำลายลง (หลังจากมู่หรงเฉินชนะสงคราม) ระบบนี้ได้ถูกทำลายลงญาติพี่น้องในครอบครัวที่ร่ำรวยมีอิสระในการประกอบอาชีพอื่นๆ มากขึ้น (ไม่จำเป็นต้องเล่นการเมือง) พวกเขาจะไม่ต้องตกอยู่ในวังวนของการฆ่าฟันกันเองระหว่างพี่น้องเพื่อแย่งอำนาจ..... ในระหว่างที่ครูสอนหนังสือนักเรียนอยู่นั้น พ่านเจียนฉือ เดินเข้ามาพอดี นักเรียนต่างก็ตื่นเต้นที่เห็นพ่านเจียนฉือตัวเป็นๆ ครูที่เป็นเพื่อนกับพ่านเจียงฉือดีใจ ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้วเหรอ....

ครูท่านนี้ต้องลงรูปซะโหน่ยยย อุตส่าห์อธิบายว่าทำไมพี่น้องต้องเข่นฆ่ากันเองในสมัยศักดินา


ยิ้มอ่อนๆ  ข้ากลับมาจากเดินสายแล้ว


ข้ากลับมาหาเจ้าแล้วเสี่ยวซาง รับรักข้าเถอะนะ



ภาพตัดมาที่พ่านเจียนฉือมาหานางเอก (ฉินซาง) ที่บ้านกลางสวนไผ่ พอพบกัน เจียนฉือก็เอ่ยว่า ข้าสามารถมารอเจ้าได้ตามสัญญาจริงๆ แล้วเสี่ยวซาง ...เสี่ยวซางยิ้มแล้วถามว่า ท่านกลับมานานแล้วเหรอ เจียนฉือบอกข้าเพิ่งกลับมา ทันทีที่ข้ามาถึงข้าก็มาหาเจ้าเลย เจ้ายังคงสวยไม่ส่างเลยนะ ..... ฉินซางยิ้ม บอก ท่านกลับมาก็ดีแล้ว ข้าดีใจด้วยที่ท่านทำความฝันของท่านได้สำเร็จ (หลังจากทิ้งข้าไปตั้งแต่ต้นเรื่อง อิอิ อันนี้แอบด่าเอง)--- ตอนนี้ท่านกลายเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นฮีโร่ไปแล้ว...เจียนฉือบอก ยังมีอีกหลายอย่างที่ข้ายังไม่พอใจ ตัวอย่างเช่น สิบปีก่อนด้วยความฝันของข้าที่อยากอยู่เคียงคู่กับเจ้า แต่ตอนนี้ ...(ข้าก็ยังไม่ได้อยู่เคียงคู่กับเจ้า) ......ฉินซางเอ่ยว่า เมือนานมาแล้ว ตอนนั้นมีเด็กผู้ชายอายุ 14 ปีเขาได้ยินเสียงฟรุตไม้และตามเสียงนั้นไปแต่เมื่อเขาไปถึงที่นั่นแล้ว เขาก็เกิดความกลัวขึ้นมาและวิ่งหนีไป (ด่าชิมิ) เมื่อเขาอายุ 40 ปี เขาก็ได้รู้ว่าตอนที่เขาตามเสียงนั้นไปเขาแค่ต้องการฟังเสียงฟรุต...... เจียนฉือข้าเป็นแค่เพียงเสียงฟรุตที่ท่านได้ยินเมื่อครั้งที่ท่านยังเด็ก......เจียนฉือบอก เมื่อเจ็ดปีก่อน ตอนที่ข้าได้พบเจ้าอีกครั้ง ข้าก็รู้ตัวเองดีว่าข้าเป็นบุคคลที่สามที่อยู่ระหว่างความสัมพันธ์ของท่านและอวี้เหลียนข่าย ...ฉินซางบอก ชื่อของอวี้เหลียนข่าย ข้ายังคงจำได้ดีแต่บางอย่างที่ข้าลืมมันไปนานแล้ว (เป็นไงล่ะ สาวบอกลืมเจ้าไปแล้วพ่อเจียนฉือ).... ฉินซางบอกการจะลืมเหลียนข่ายมันเหมือนกับการจะลืมดอกไม้ที่สวยงาม เหมือนกับการจะลืมลานหิมะที่สวยงามกว้างใหญ่ .......เจียนฉือบอกนั่นเป็นเพราะว่าเจ้าและเขาผ่านเรื่องราวมากมายมาด้วยกันใช่มั้ย ฉินซางบอก หากข้าไม่สามารถลืมเขาได้ก็ไม่มีทางที่ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อได้...เจียนฉือบอก หากข้าสามารถย้อนเวลากลับไปได้ ข้าจะเลือกใช้ชีวิตกับเจ้า...ฉินซางบอก ถ้า ก็ คือ ถ้า ซึ่งมันไม่ใชความจริง ถ้าเป็นข้าข้าจะเลือกที่จะไม่รู้จักท่านเลย.....ข้าจะเลือกที่จะอยู่กับฟรุตของข้าคนเดียวเงียบๆ... แล้วนางเอกก็สะบัดบ๊อบเดินจากไป.....

สะบัดบ๊อบไปละนะ ข้าเทเจ้าบ้างเจียนฉือ

ข้า (อวี้เหลียนข่าย) รักเจ้า (ฉินซาง) ตั้งแต่ข้ายังเด็ก เจ้าก็ไม่รู้.... 


ข้าเฝ้ารอพบเจ้ามาตลอด รู้บ้างมั้ยยยยย ..รอกินเด็ก อิอิ



จบบริบูรณ์




 

Create Date : 19 พฤษภาคม 2561    
Last Update : 19 พฤษภาคม 2561 21:29:03 น.
Counter : 5789 Pageviews.  

บทนำ อารัมภบท



Seige of Fog
2018


ดัดแปลงจากนิยายของ Fei Wo Si Cun.
ชื่อนิยายภาษาจีน: 人生若如初相见
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ:If Time Could Stop the Moment We Met, If Time Could Stop at the Moment When We First Meet; Ren Sheng Ruo Ru Chu Xiang Jian,  Color of Night

จำนวนตอน 50
วันออกอากาศที่จีน 2018

เป็นเรื่องราวของคุณชายสามของตระกูลที่มีอำนาจมากในจีน ที่ไปตกหลุมรักแบบรักแรกพบกับหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งพระเอกกับนางเอกเคยพบกันตั้งแต่สมัยเป็นเด็กหญิงเด็กชาย แต่มีแต่เด็กชาย (พระเอก) เท่านั้นที่จำนางเอกได้ เพราะประทับใจในความมีน้ำใจแบ่งขนมให้พระเอกตั้งแต่เด็กๆ มันเป็นโมเมนต์ที่พระเอกจำไปจนกระทั่งหมดลมหายใจ แต่หญิงสาวจำไม่ได้ แถมพอโตเป็นสาวก็มีคนที่ชอบอยู่แล้ว เป็นนักเรียนนอกหัวรุนแรงต้องการเปลี่ยนให้ประเทศจีนมีระบบการปกครองใหม่ พระเอกจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะบังคับให้หญิงสาวคนนั้น (นางเอก) มาแต่งงานด้วยให้ได้ หลังจากแต่งงานแล้วพระเอกก็พยายามทำทุกอย่างให้นางเอกรัก ช่วงแรกนางเอกก็ปฏิเสธทุกอย่าง ไม่รับรัก แต่พอผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ไปด้วยกัน (สงคราม) ก็เกิดเป็นความรัก แต่พอทุกอย่างใกล้จะดีขึ้น แฟนเก่านางเอกดันกลับมาปรากฏตัว และยังมาทำงานเป็นผู้ช่วยของพระเอก และจะได้อยู่ใกล้ๆ นางเอก...แล้วจะยังไงต่อ?

เรื่องนี้ถ้าจบแบบในนิยายก็หน่วงมาก แต่เราอย่าไปนึกถึงตอนจบ เรานึกถึงตอนตบจูบกันก่อนเน้อะ...สรุปจบแบบนิยายเน้อออ ตอนแรกที่หวานจะเริ่มเล่าคือตอนที่่ 50 ตอนจบนะจ๊ะ

แนะนำตัวละคร

...... ไว้ค่อยมาว่ากัน ขอเขียนตอนสุดท้ายก่อนนะคะ






 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2560    
Last Update : 19 พฤษภาคม 2561 18:40:00 น.
Counter : 5144 Pageviews.  


wansugar
Location :
Germany United Kingdom

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 149 คน [?]




ชื่อหวานจ้า สวัสดีทุกคน ฟอล์โลแฟนเพจ Wansugar-Love Chinese Novels & Series เพื่อติดตามข่าวสารการอัพเดทรีวิว ได้นะคะ
Friends' blogs
[Add wansugar's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.