Group Blog
 
All Blogs
 
วิหารจันทรา ๐๙

แสงจันทร์กระจ่างของคืนพระจันทร์เต็มดวง ส่องสว่างไปทั่วลานกว้าง บนลานนั่งเต็มไปด้วยชาวหมู่บ้าน ทางด้านหน้า กรินทร์ และผู้เฒ่าทั้งสี่ กำลังสนทนากับ จันทริ ที่นั่งอยู่เคียงคู่กับ รพีพันธ์ บนเก้าอี้คนละตัว นี่นับเป็นครั้งที่สาม ที่ชายหนุ่มได้เห็นพิธีกรรมในคืนเพ็ญของหมู่บ้านนี้

“ทุกสิ่งทุกอย่างข้าบอกพวกท่านจนหมดแล้ว จะปฏิบัติหรือไม่ จะปฏิบัติเช่นไร ขึ้นอยู่กับพวกท่าน” จันทริ พูดอย่างเป็นงานเป็นการ จันทร์เสี้ยวกลางหน้าผากทอประกายสีทองแวววาว ราวกับจะล้อกับดวงจันทร์เพ็ญกลางฟ้า
“พ้นราตรีนี้ไป ข้าจักหลับไหลไปจนกว่าจะสิ้นวสันต์” จันทริ พูดด้วยเสียงที่ดังพอจะได้ยินกันทั่ว
..............................................................
.................................
“ที่คุณพูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไง” รพีพันธ์ ถามขึ้นมาเมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสอง ภายในถ้ำใหญ่
“ท่านหมายถึงเรื่องใด” จันทริ ถามพลางมองหน้าชายหนุ่มด้วยความสงสัย
“ที่บอกว่าจะหลับไปจนกว่าจะหมดฤดูฝนน่ะ อะไรจะนอนยาวขนาดนั้น ตั้ง ๒-๓ เดือนเชียวนะ” รพีพันธ์ พูดกลั้วหัวเราะเหมือนจะให้เป็นเรื่องตลก
“มิใช่ข้า แต่เป็น จันทรา” จันทริ พูดยิ้มๆ “นางต้องการพักผ่อน”
“ก็เหมือนกันนั่นแหละ จะ จันทริ หรือ จันทรา ก็คือตัวคุณ” ชายหนุ่มพูดพลางจับมือขวาของ จันทริ มากุมไว้ “ผมเป็นห่วงนะ”
“ดวงวิญญาณที่มีพลังแห่งเทพสถิตย์อยู่ เมื่อต้องมาอยู่ในร่างมนุษย์ ย่อมมิอาจดำรงไว้ซึ่งพลังนั้นตลอดไป พลังย่อมสูญสลายไปตามกาลเวลา ตอนนี้ จันทรา เหลือพลังอยู่ไม่มากนัก ดังนั้น นางต้องการพักผ่อน” ขณะที่ จันทริ พูด จันทร์เสี้ยวสีขาวนวล ก็ปรากฏขึ้นที่กลางหน้าผาก “แต่นางยังคงรับรู้ทุกอย่าง ยังคงได้ยิน ยังคงสนทนากับผู้ที่นางต้องการได้ ดังเช่นตอนนี้ นางกำลังขอบคุณในความห่วงใยของท่าน”

รพีพันธ์ เหม่อมองจันทร์เสี้ยวดวงนั้นอย่างเหม่อลอย สิ่งหนึ่งที่เขาสงสัยมานานแล้ว นั่นคือ ทำไมบางครั้งจันทร์ดวงนี้เปล่งแสงสีขาวนวลตา แต่บางครั้งกลับเปล่งแสงสีทองเป็นประกายเรืองรอง

ยามที่ปรากฏแสงนวลขาวของจันทร์เสี้ยวนั้น จันทริ ยังคงอ่อนโยน พูดจาไพเราะ อ่อนหวาน และเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
แต่เมื่อใดที่จันทร์เสี้ยวนั้นเปล่งแสงสีทอง จันทริ จะเคร่งขรึม ดูมีอำนาจ การพูดจาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่ไม่อาจแข็งขืน แม้แต่สีหน้า ยังเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขาม ... หรือว่านั่นคือ จันทรา ดวงวิญญาณอีกดวงหนึ่งในร่างของ จันทริ

“แล้วถ้าเมื่อไหร่ที่ จันทรา หมดพลังล่ะ คุณจะเป็นยังไง” รพีพันธ์ ถามพลางขมวดคิ้วด้วยความกังวล
“พวกข้าย่อมกลับไปสู่ที่มา ท่านก็เช่นกัน”
“หมายความว่ายังไง”
จันทริ ไม่ตอบ แต่ซุกใบหน้าลงบนแผ่นอกของ รพีพันธ์
ชายหนุ่มกระชับวงแขนกอดร่างบางไว้แนบแน่น พลางถอนหายใจด้วยความห่วงใย

กว่าสองเดือนแล้วที่ รพีพันธ์ หลงเข้ามาอยู่ในที่แห่งนี้ ความประหลาดใจ ความวิตกกังวล เปลี่ยนเป็นความคุ้นเคย กับการใช้ชีวิตในสถานที่แห่งนี้ ช่วงแรกๆ จันทริ ก็ติดตามเขาไปทุกหนทุกแห่งที่เขาต้องการไป แต่เมื่อเริ่มคุ้นเคยกับชาวหมู่บ้าน จันทริ จึงยอมให้ชายหนุ่มไปยังสถานที่ต่างๆตามลำพัง บางวันเขาไปทำงานภายในไร่ บางวันไปนั่งตกปลาอยู่ริมแม่น้ำ บ้างก็เล่นกับเด็กๆในหมู่บ้าน เคยแม้กระทั่งออกไปเดินป่ากับชาวหมู่บ้าน ที่ไปหาของป่า ค้างแรมอยู่ในป่าหลายคืน

รพีพันธ์ คิดถึงบ้านน้อยลง คิดถึงการที่จะได้กลับไปยังโลกเดิมของเขาน้อยลง เคยคิดแม้แต่การสร้างบ้าน อาศัยอยู่ที่นี่อย่างถาวร ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ เขาคงมีความสุขกับชีวิตอันเรียบง่าย เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่จริงใจของผู้คนในหมู่บ้าน โดยเฉพาะ ‘ภรรยา’ ของเขา ... จันทริ ...

เพียงเรื่องเดียวที่เขากังวลคือ ... ลูก

ชายหนุ่มเคยลองพูดถึงเรื่องนี้กับ จันทริ เหมือนกัน
“ถ้าผมอยากมีลูกจะทำยังไงดีล่ะ”
“ท่านก็แต่งงานกับสตรีที่ท่านรัก ท่านจักมีบุตรดังที่ท่านต้องการ” จันทริ ตอบด้วยรอยยิ้ม
“คุณยอมเหรอ”
จันทริ ยิ้มให้ชายหนุ่มอย่างอ่อนโยนมากกว่าเดิม
“เป็นเรื่องธรรมดา ภายภาคหน้า ท่านย่อมได้แต่งงานกับสตรีอันเป็นที่รักของท่าน และสตรีนั้นก็รักท่านเยี่ยงชีวิต ท่านจะมีบุตร มีครอบครัวที่อบอุ่น มีความสุขมากยิ่งกว่าอยู่กับข้าเพียงลำพัง ณ ที่นี้”



Create Date : 17 สิงหาคม 2551
Last Update : 17 สิงหาคม 2551 18:41:58 น. 0 comments
Counter : 239 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tumty
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add tumty's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.