Group Blog
 
All Blogs
 
วิหารจันทรา ๐๕

“กินอาหารเสียหน่อย ท่านคงหิวแล้ว หากมีอะไรสักครู่ค่อยสนทนากัน”
รพีพันธ์ หันมาตามเสียงเรียกเมื่อเขาแต่งตัวเสร็จ ก็มองเห็นถาดไม้วางไว้บนเตียง ภายในถาดวางไว้ด้วยถ้วยหลายใบ พร้อมกับอ่างดินเผาใบเล็กๆวางอยู่นอกถาดอีกใบหนึ่ง ส่วนคนที่นำของเหล่านั้นมาวาง ก็เดินกลับไปนั่งที่ก้อนหินก้อนเดิม

รพีพันธ์ เดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นว่าในถ้วยบนถาด บรรจุไว้ด้วยข้าวต้ม เนื้อสัตว์ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ ไข่เค็ม ผักดอง กล้วยน้ำว้าสองผล ถ้วยบรรจุน้ำผึ้ง และถ้วยน้ำสะอาด ในอ่างใบเล็กก็เป็นน้ำเปล่า มีผ้าผืนเล็กๆพับพาดไว้ที่ขอบอ่าง เขาคิดว่าคงจะเป็นน้ำสำหรับล้างมือนั่นเอง พอเห็นแล้วเขาก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที

ข้าวต้มอุ่นๆ เนื้อที่เป็นเนื้อไก่ปรุงรสหวานๆเค็มๆ ผักดองรสเปรี้ยว แทรกไว้ด้วยความเผ็ดเล็กน้อย กับไข่เค็ม เขากลับรู้สึกเอร็ดอร่อยกับมันมาก ถึงแม้จะเป็นอาหารพื้นๆก็ตาม นึกแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน เพราะปรกติอาหารเช้าของเขาอาจจะเป็นข้าวต้มเครื่องอย่างดี หรืออเมริกันเบรคฟราส ข้าวต้มกับเครื่องเคียงพื้นๆแบบนี้ ไม่เคยอยู่ในความคิดของเขาเลย เสร็จจากอาหารคาว ก็ตามด้วยผลไม้ เขาค่อยๆปอกเปลือกกล้วยน้ำว้า แล้วจุ่มกินกับน้ำผึ้ง
“อร่อยดีเหมือนกันนี่หว่า ถ้าเป็นกล้วยหอมทอดนะ .... เจ๋ง” เขาพึมพำกับตัวเอง
พอกินเสร็จเรียบร้อย ก็ล้างมือในอ่างน้ำใบเล็กนั้น แล้วใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดมือ

“พอดีอิ่มหรือไม่ หากไม่ ยังพอมีกล้วยน้ำว้าอีกหลายผล” เสียงนุ่มๆดังขึ้นอีกครั้ง แล้วร่างสูงโปร่งก็มายืนอยู่ข้างๆเขา พลางก้มตัวหยิบถาดอาหารและอ่างน้ำออกไป ตอนนั้นเองที รพีพันธ์ ได้มองเห็นคนผู้นั้นอย่างชัดเจน

เรือนร่างสูงโปร่ง ผิวสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้ารูปไข่ คิ้วเรียวบาง ดวงตากลมโต จมูกโด่งเป็นสันเล็กน้อย ริมฝีปากบางเบาเป็นสีแดงเรื่อ มุมปากเหมือนจะมีรอยยิ้มบางๆ ประดับอยู่เสมอ อายุคงจะน้อยกว่าเขาหลายปี

... ผู้ชาย ... รพีพันธ์ คิดขึ้นมา เมื่อมองสำรวจไปตามส่วนต่างๆของร่างกายคนคนนั้น

ชายคนนั้นเดินออกไปนอกเพิง สักครู่ก็เดินกลับเข้ามา แล้วนั่งลงบนเตียง หันหน้ามาทาง รพีพันธ์
“ยังรู้สึกปวดหัวอยู่หรือไม่” เสียงนุ่มใส แฝงไว้ด้วยความห่วงใย
“ไม่แล้ว แต่เหมือนจะมีไข้เหลืออยู่หน่อย” รพีพันธ์ พูดพลางเอามือแตะไปตามลำคอของตัวเอง “แต่ดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณนะ”
รพีพันธ์ มองไปรอบๆอีกครั้ง เหมือนจะมองหาใครสักคน
“คนที่ช่วยผมไว้ล่ะ ผมอยากจะขอบคุณเค้าซะหน่อย”
“มิต้องขอบคุณดอก เป็นเรื่องที่ข้าต้องกระทำอยู่แล้ว”
“คุณน่ะเหรอที่เป็นคนช่วยผม” เขาถามออกไปอย่างสงสัย และยังสงสัยถึงสำนวนพูดแปลกๆ ของชายหนุ่มตรงหน้า
“ข้าเอง”
“แต่ผมจำได้นี่นา ว่าคนที่ช่วยผมไว้ ดูเหมือนจะมีปานสีขาวที่หน้าผาก ... ปานสีขาวรูปจันทร์เสี้ยว” ชายหนุ่มพูดพลางมองไปที่หน้าผากอันเนียนเรียบ ไร้รอยตำหนิใดๆของคนที่อยู่ตรงหน้า
ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มให้ รพีพันธ์ อย่างอ่อนโยน ... เจือไปด้วยความอ่อนหวานในความรู้สึกของชายหนุ่ม
“คุณ ... เอ้อ ... คุณชื่ออะไร” รพีพันธ์ รู้สึกว่าหน้าเขาแดงขึ้น ด้วยความขัดเขินอย่างที่หาสาเหตุไม่ได้
“จันทริ คือนามของข้า ... ท่านเล่า”
“ผมชื่อ รพีพันธ์ เรียกผมว่า อาทิตย์ ก็ได้”
“รพีพันธ์” จันทริ ทวนคำ “ผู้สืบสายจากองค์เทพแห่งสุริยา”
ดวงตาของ จันทริ เป็นประกายแวววาว
“บุรุษแห่งสุริยาเทพ ข้าขอต้อนรับท่านสู่วิหารจันทรา”

“วิหารจันทรา” รพีพันธ์ ทวนคำ พลางทำท่าคิด เพราะเหมือนกับว่าเขาเคยได้ยินคำเหล่านี้มาก่อน



Create Date : 25 กรกฎาคม 2551
Last Update : 25 กรกฎาคม 2551 20:37:51 น. 0 comments
Counter : 240 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tumty
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add tumty's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.