Bloggang.com : หญิงจ๊ะ - ข้อดีของการเขียนหนังสือ

วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุด : Today is the best day.

Group Blog

All Blogs

ข้อดีของการเขียนหนังสือ

ข้อดีของการเขียนหนังสือ
การเขียนหนังสือ...ใคร ๆ ก็รู้ว่ามันมีประโยชน์ มันน่าสนุก น่าสนใจและเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าคนเขียนเป็นยังไง แต่จะว่าไปแล้วมันก็เป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก ๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบการอ่านการเขียน เมื่อไหร่ที่เขาเห็นเรากำลัง
ง่วนอยู่กับพิมพ์หรือเขียนต้นฉบับอยู่ เขาก็จะว่าเราว่า "ทำอะไรก็ไม่รู้...วัน ๆ อยู่แต่หน้าคอมน่าเบื่อชะมัด"
แต่อย่างว่าในเมื่อคนเค้าไม่ชอบ จะให้บังคับหรือทำยังไง มันก็คงไม่สามารถจะเปลี่ยนใจเขาได้ คนที่เป็นนักเขียนทำได้ดีที่สุดก็แค่ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และพยายามเขียนเรื่องให้น่าสนใจที่สุด ก็เท่านั้น
คุณเคยบ้างไหม???
เคยบ้างรึเปล่า เวลาที่คุณกำลังจดจ่ออ่านเรื่องเศร้า ๆ คุณจะรู้สึกสะเทือนใจ เหมือนคุณอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ ด้วย แล้วจู่ๆ น้ำในตามันก็ค่อยๆ หลั่งรินออกมาหรือไม่ก็อะไรทำนองนั้น คอยเอาใจช่วยพระนางผู้ถูกกลั่นแกล้งนั้นอย่างมาก ถ้านั่งอ่านนั่งทำอารมณ์อยู่ในบ้านตัวเองน่ะ... ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ถ้าอยู่ที่อื่นอ่ะนะ อย่าให้พูดเลยว่าคนอื่นเขาจะมองคุณยังไง ไม่แซวก็ขำกลิ้งอ่ะดิ ที่เห็นคนอื่นต้องร้องไห้ไปกับหนังสือแค่เล่มเดียว คุณคงจะเข้าใจความรู้สึกของตัวเองใช่มั้ย ว่ามันน่าอายเหมือนกัน บางทีก็ทำอะไรไม่ถูก คงได้แต่เขินๆ กันไปร้องไห้แล้วก็ยิ้มออกมาแก้เขิน...ฮ่า ๆ
แต่ที่จะถามคือ...คุณไปเกี่ยวอะไรกับเค้า...คุณก็แค่คนอ่าน พระนางไม่เข้าใจกันแล้วทำไมคุณต้องร้องไห้??

ที่กำลังจะบอกก็คือ เห็นมั้ยว่านักเขียนเขาเก่งแค่ไหน เขียนเรื่องให้คนอื่นร้องไห้ก็ได้ สมองของเขาวิเศษวิโสมาก ขนาดว่าสร้างตัวละครขึ้นมา แล้วทำให้ตัวละครมีชีวิต มีความรู้สึกได้...เพียงตัวหนังสือที่ถูกจับให้มาอยู่ด้วยกันเท่านั้น ส่วนคนอ่าน...( เรียกว่านักอ่านน่าจะเหมาะกว่า ) ก็จะรับอารมณ์หรือสิ่งที่ผู้เขียนส่งให้ได้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่า "การเขียน เป็นการถ่ายทอดอารมณ์ที่ดีที่สุด...ทางหนึ่ง" ( อาจจะดีกว่าการฟัง การชมหรือดูภาพยนตร์ด้วยซ้ำไป )
แล้วเคยรึเปล่า???
เวลาที่อ่านเรื่องตลก ๆ อะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน เรื่องสั้น หรือนิยาย คุณก็จะอมยิ้ม ไม่งั้นก็ยิ้ม หรือไม่งั้นก็หัวเราะก๊าก ๆ ออกมา คนเดียว ทำเอาคนอื่นที่เขาไม่รู้เรื่องเป็นงง ( งงเป็นไก่ตาระเบิด...เฮ้ย...ตาแตก )
ถ้าคุณอยู่ในอารมณ์นี้คุณจะรู้สึกว่าสุขสบายใจกว่าอารมณ์เมื่อตะกี้ ใครจะว่าคุณยังไง คุณก็คงไม่อายเพราะการหัวเราะทำให้คนมีสุขภาพดี...เอ้ย...นั่นโฆษณาแล้ว
เอาจริงๆ แล้วนะ...คุณไม่ต้องอายหรอกเวลาอ่านเรื่องชวนหัว หัวเราะออกมาเถอะ เพราะมันจะเป็นเครื่องบ่งบอกว่าคุณน่ะเป็นคนมีเสน่ห์ ยิ้มง่าย อารมณ์ดี ใคร ๆ ก็อยากเข้าใกล้ ถึงแม้ว่าจริง ๆ แล้วคุณอาจจะไม่ได้อยากให้ใครมาใกล้ก็เถอะ คุณคิดดูสิถ้าคุณยิ้มออกมาโลกจะสดใสขึ้นมากแค่ไหน คนอื่นเห็นคุณยิ้มเขาก็อมยิ้มต่อ ส่งให้คนที่อยู่ใกล้ๆ ยิ้มต่อ ๆ กันไปเรื่อย ๆ เพราะเห็นท่าทีของคุณ ดูสิคะ น่ารักจะตาย ( คนบางคนอาจจะคิดว่าเราเรียกร้องความสนใจ ไม่ว่ายังไง...มันก็ความคิดของเค้าไม่ต้องไปสนใจเราเปลี่ยนความคิดใครไม่ได้หรอก...คนมองโลกในแง่ร้ายอย่างนั้น...มีอยู่เป็นส่วนน้อยในสังคม ...แต่จะว่าไปแล้ว...ใจร้ายชะมัด...oops!)
บางทีเพื่อนข้าง ๆ ก็อาจจะแซว
"เฮ้ย...อะไรวะอ่านหนังสือเฉย ๆก็ยิ้ม" หรือไม่ก็
"ฮึยๆ ยิ้มอยู่คนเดียวเป็นอะไรไปจ๊ะ"
วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ให้คุณยิ้มหรือไม่ก็หัวเราะเบา ๆ กลับไป ( น่ารักชะมัด )

แต่จะว่าไปแล้วการหัวเราะโดยที่ไม่มีใครรู้เรื่องด้วยก็มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งเหมือนกัน เช่น ในสถานการณ์ที่คนเขากำลังซีเรียสหรือกำลังทะเลาะกันอยู่ และในมุมหนึ่งคุณนั่งอ่านหนังสือของคุณอยู่ดีๆ เผอิญมันขำโดนใจ อดไม่ได้แล้วคุณก็หัวเราะก๊ากออกมา...แล้วเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรมันก็คงขึ้นกับโชคชะตาของคุณนะคะ ( เราไม่เกี่ยวถอยดีกว่า )

เอาล่ะเข้าเรื่องต่อเลยดีกว่า ลองถามตัวเองดูให้ดีสิว่าคุณเริ่มอยากจะเป็นนักเขียนรึยัง คุณอยากทำให้คนอื่นหัวเราะบ้างเหมือนกันใช่ไหม? หรือบางทีคุณก็อยากให้นักอ่านคนอื่นๆ มารับรู้ความรู้สึกเศร้าๆ ในส่วนลึกของห้วงอารมณ์บ้างเหมือนกัน...รึเปล่า...แน่นอนคุณอยากจะระบายออกมาและวิธีที่ดีที่สุดก็คือ "การเขียน" นี่เอง
ประการหนึ่งต้องยกนิ้วให้กับคนเขียนหนังสือที่ไม่ว่าเขาจะมีชื่อเสียงหรือไม่มีแค่ไหนยังไง ก็ถือว่าเขาประสบความสำเร็จอย่างแรง ที่ทำให้คนอื่นกล้าอ่านเรื่องราวของเขา และเขาเองก็กล้าที่จะระบายเรื่องราวในหัวใจและหัวสมองออกมา และเขากล้ามากแค่ไหนกับการรอดูว่า "จะมีคนอ่านเรื่องราวของเขาบ้างรึเปล่า"
นักเขียนเก่งใช่ไหมล่ะที่สามารถมอบความสุขให้กับนักอ่านได้ แต่...แล้วพวกที่อ่านเล่มเดียวกันแท้ๆ แต่เค้าไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลยล่ะ
นั่นก็อาจจะเป็นเพราะ
1. เขาอายที่จะต้อง ร้องไห้ ยิ้มหรือหัวเราะออกมา หรือ
2. เขาคงเป็นประเภทที่ไม่ชอบเสียงหัวเราะอะไรประมาณนั้น (กระมัง)

ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เจ้าของงานเขียนทุกคนก็จงภูมิใจเสียเถอะที่ อย่างน้อย บุคคลทั้ง 2 ประเภทก็ได้หยิบหนังสือคุณขึ้นมาอ่านแล้ว การที่ใครสักคนหยิบเรื่องของเราขึ้นมาอ่าน หรือสนใจความคิดดีๆ ของเรา แค่นี้ก็เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งแล้วสำหรับนักเขียน
จะว่าไปแล้ว การเขียนหนังสือเท่ากับการได้ถ่ายทอดความรู้กับคนอื่นยังไงอย่างงั้น
"มีตำราเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน" เรื่องจริงที่ใครก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ (อ่านต่อฉบับหน้าจ๊ะ)

Create Date : 24 สิงหาคม 2551

Last Update : 24 สิงหาคม 2551 21:40:59 น.

0 comments

Counter : 1169 Pageviews.

หญิงจ๊ะ

Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

Rss Feed

Smember

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

อดีต.
สวัสดีค่ะทุกคน ตอนนี้หญิงกำลังรอการเข้าศึกษาต่อปริญญาโท มหาวิทยาลัยขอนแก่น และอยู่ในระหว่างการเขียนงานวิจัยในฐานะผู้ช่วยวิจัย โครงการจัดการน้ำแล้ง น้ำท่วม อย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน ประจำการอยู่ที่ ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน
สิ่งที่ชอบ ก็คือ การเขียน การอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังและร้องเพลง ถ่ายรูป ท่องเที่ยวและฝันหวานค่ะ
ใครสนใจอยากรู้จักกับที่ทำงานของหญิง ไปดูได้ที่ http://www.facebook.com/ecberkku ค่ะ

ปัจจุบัน.
รับราชการ ที่จังหวัดกรุงเทพมหานครค่ะ

Friends' blogs

[Add หญิงจ๊ะ's blog to your web]

Links

BlogGang.com