ในตอนที่แล้ว ผมได้พาไปชมวัดทั่วเมืองหลวงพระบางกันไปแล้ว ในตอนนี้เราจะเปลี่ยนบรรยากาศมาชมพระราชวังกันบ้าง
ก่อนหน้าที่ลาวจะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ ลาวมีการปกครองแบบราชอาณาจักร และมีประมุขของรัฐ ที่เรียกว่า เจ้ามหาชีวิต มาโดยตลอด
ตั้งแต่ช่วงปี 1904 เป็นต้นมา เจ้ามหาชีวิตของลาวจะประทับที่ พระราชวังหลวงพระบาง ซึ่งผมจะมารีวิวที่นี่ในบล็อกนี้ครับ
วันที่สาม
หอพิพิธภัณฑ์ หรือ อดีตพระราชวังหลวงพระบาง (Royal Palace Museum) ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับทางขึ้นพระธาตุพูสีซึ่งเราเพิ่งจะเที่ยวมาเมื่อวานนี้
ด้านหน้าของพระราชวัง เราจะเจอกับ หอพระบาง ก่อน จะสังเกตว่าหอแห่งนี้เป็นสไตล์สิมแบบหลวงพระบางครับ
น่าเสียดายที่ข้างในไม่ให้ถ่ายรูป ผมจึงถ่ายรูป องค์พระบาง มาไม่ได้ เลยขอเอารูปจากเน็ตมาให้ดูละกัน (แต่คิดว่า รูปนี้น่าจะเป็นองค์จำลองนะครับ)
ตำนานเกี่ยวกับพระบาง
ตามตำนานกล่าวว่าพระบางถูกสร้างขึ้นที่ กรุงลังกา จากนั้นก็ถูกอัญเชิญมาไว้ที่เขมร ก่อนที่ พระเจ้าฟ้างุ้ม จะอัญเชิญมาประดิษฐานที่เมืองหลวงพระบางแห่งนี้ และก็ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานยังกรุงเวียงจันทน์ในเวลาต่อมา
ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สยามกับล้านช้างเกิดสงครามระหว่างกัน หลังสยามได้รับชัยชนะ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ต่อมาคือ รัชกาลที่หนึ่ง) ได้อัญเชิญพระบางมาประดิษฐานที่กรุงธนบุรีพร้อมกับ พระแก้วมรกต แต่ภายหลังได้ทรงคืนพระบางไปหลังการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่สาม สยามก็อัญเชิญพระบางลงมาประดิษฐานที่กรุงเทพอีกครั้ง (หลังสงครามเจ้าอนุวงศ์) แต่หลังจากเกิดเหตุภัยแล้งหลายปี ผู้คนในกรุงเทพจึงลือกันว่า สาเหตุเกิดจากการที่พระบางกับพระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ที่เมืองเดียวกัน (มีเรื่องเล่าว่า พระทั้งสององค์ไม่ถูกกัน) ทำให้พระบางจึงถูกอัญเชิญกลับไปที่ประเทศลาวจนถึงทุกวันนี้
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เชื่อว่าพระบางองค์จริงถูกพรรคคอมมิวนิสต์ย้ายไปประดิษฐานที่กรุงเวียงจันทน์อยู่ช่วงหนึ่ง ภายใต้การคุ้มครองอย่างแน่นหนา จนเมื่อหอพระบางสร้างเสร็จ พระบางองค์จริงก็ถูกย้ายกลับสู่เมืองหลวงพระบางอีกครั้ง
ฝั่งตรงข้ามหอพระบาง จะเป็น อนุสาวรีย์ของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ครับ
เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
เป็นพระโอรสของ พระเจ้าสักรินทรฤทธิ์ (เจ้าคำสุก) เสด็จขึ้นครองราชย์เป็น พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง ในปี พ.ศ.2447 และหลังจากลาวได้รับเอกราชก็เสด็จขึ้นครองราชย์ในฐานะ พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรลาว
พระราชกรณียกิจที่สำคัญในรัชสมัยของพระองค์คือ ทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกของลาว ที่เขียนโดยคนลาว ในปี พ.ศ.2490
เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์สวรรคตในปี พ.ศ.2502 พระโอรสของพระองค์จึงได้ขึ้นครองราชย์ต่อมาเป็น เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของราชอาณาจักรลาว
หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง
ในอดีตที่นี่คือ พระราชวังหลวงพระบาง ถูกสร้างขึ้นในปี 1904 เป็นศิลปะแบบล้านช้างผสมโคโลเนียล ออกแบบโดยสถาปนิกฝรั่งเศส
เนื่องจากด้านในไม่สามารถถ่ายรูปได้ (ต้องฝากของทั้งหมดไว้ที่ล็อคเกอร์เก็บของด้านนอก) ผมจึงขอบรรยายให้ฟังนะครับว่า มีอะไรบ้าง
(1) ห้องรับแขกเจ้ามหาชีวิต
เป็นห้องให้คณะทูตานุทูตมาเข้าเฝ้าเพื่อปรึกษาราชการ และถวายสาส์นตราตั้ง ภายในจะมีรูปหล่อเจ้ามหาชีวิต 3 พระองค์ที่หล่อมาจากฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีงานไม้แกะสลักกลองสัมฤทธิ์โบราณ ส่วนผนังจะบรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวลาวหลวงพระบาง และประเพณีต่างๆ
(2) ท้องพระโรงหน้า
ใช้ประกอบพิธีสำคัญต่างๆ รวมทั้งถูกใช้เตรียมสำหรับพิธีบรมราชาภิเษก สำหรับเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา (แต่พิธีก็ถูกยกเลิก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง)
(3) ห้องรับแขกพระมเหสี
มี 2 ส่วนคือ ห้องสำหรับเก็บและจัดแสดงของขวัญที่ได้จากประเทศต่างๆส่งมาถวายเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา (รวมทั้งของขวัญจากประเทศไทย) ส่วนอีกห้องแสดงภาพวาดสีน้ำมันของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา พระราชินีคำผุย และเจ้าชายมกุฎราชกุมารวงศ์สว่าง
(4) ห้องโถงใหญ่
ใช้จัดแสดงราชบัลลังก์ไม้แกะสลักหุ้มทองและแหย่งช้างที่ เจ้าอนุวงศ์ แห่งอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ส่งมาถวาย เจ้ามันธาตุราช แห่งอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง เพื่อชักชวนให้ร่วมสงครามกับสยามในสมัยรัชกาลที่สาม
(5) เขตพระราชฐาน
เป็นห้องบรรทมของเจ้ามหาชีวิตพระมเหสี เชื้อพระวงศ์ รวมทั้งห้องเสวย ห้องพักผ่อนและห้องจัดแสดงสมบัติส่วนพระองค์
(6) ห้องแสดงรถพระที่นั่ง
จัดแสดงรถพระที่นั่งโบราณและราชรถสำหรับขบวนแห่พระบาง
ค่าใช้จ่าย: 30,000 กีบ (120 บาท)
เวลาเยี่ยมชม: เปิดทุกวันยกเว้นวันอังคาร (8.00-11.30 และ 13.30-16.00)
โดยภาพรวมผมว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ๆน่าสนใจ ถ้าใครมาเที่ยวที่หลวงพระบาง ผมว่าก็ควรหาเวลามาเยี่ยมชมให้ได้นะครับ จะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ประเทศเพื่อนบ้านไปด้วย
สำหรับรีวิวในตอนนี้ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ครับ ในตอนหน้าเราจะเปลี่ยนแนวไปเที่ยวน้ำตกกันบ้าง เรื่องราวจะเป็นยังไง ฝากติดตามด้วยนะครับ
ตอนอื่นๆ
ตอนที่ 1: เตรียมตัวเที่ยวหลวงพระบาง
ตอนที่ 2: ช็อปปิ้งที่ตลาดมืด
ตอนที่ 3: วิถีพุทธแห่งหลวงพระบาง
ตอนที่ 4: เที่ยววังเก่าหลวงพระบาง
ตอนที่ 5: เที่ยวน้ำตกตาดกวางสี
ตอนที่ 6: นั่งเรือเที่ยวถ้ำติ่ง