Welcome to my blog
4 วัน 3 คืน หลวงพระบาง เมืองมรดกโลกแห่งอาณาจักรล้านช้าง (ตอนที่ 3: วิถีพุทธแห่งหลวงพระบาง)

 
สถานที่ท่องเที่ยว : วัดเชียงทอง, Laos
พิกัด GPS : 19° 53' 50.70" N 102° 8' 35.30" E
 
วันที่สอง

นับแต่ก็ตั้งอาณาจักรล้านช้างโดยขุนบรม ชาวลาวจะนับถือธรรมชาติ และภูตผีปีศาจ จนกระทั่งในรัชสมัยของ พระเจ้าฟ้างุ้ม ที่ทรงนำเอาพระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์เข้ามาลงหลักปักฐานได้อย่างมั่นคงในอาณาจักรล้านช้าง นับแต่นั้นเป็นต้นมา พระพุทธศาสนาก็กลายมาเป็นศาสนาประจำชาติของชาวลาวจนถึงปัจจุบัน

ประจักษ์พยานแห่งความศรัทธาในศาสนาพุทธของชาวลาวก็คือ วัดต่างๆทั่วทั้งประเทศ เฉพาะในเมืองหลวงพระบางก็มีวัดต่างๆมากมาย ทั้งใหญ่และเล็กมากกว่า 20 วัด ในรีวิวตอนนี้ เราจะมาเที่ยววัดสำคัญ 4 วัดทั่วเมืองหลวงพระบาง จะมีวัดอะไรบ้างมาชมกันเลยครับ       

1) วัดเชียงทองราชวรมหาวิหาร (วัดเชียงทอง)

เป็นวัดอันดับหนึ่งของหลวงพระบางที่ ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด เนื่องจากวัดนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดที่สวยงามที่สุด จนได้ชื่อว่าเป็น อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว

ค่าเข้าชม: 20,000 กีบ (80 บาท)

วัดนี้สร้างขึ้นในรัชสมัยของ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ก่อนที่พระองค์จะย้ายราชธานีไปอยู่ที่เวียงจันทน์

วัดนี้ถือเป็นวัดเพียงไม่กี่แห่งที่ไม่ถูกทำลาย ภายในจึงมีความสมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบัน ส่วนที่น่าสนใจของวัดนี้ ได้แก่

สิม

เป็นสิมแบบหลวงพระบางแท้ๆ หลังคามีช่อฟ้าสีทอง 17 ยอด (หมายถึง วัดนี้ถูกสร้างโดยกษัตริย์ เพราะถ้าเป็นขุนนางหรือคนธรรมดาสร้างจะมีเพียง 1-7 ยอด)

Note: สิมแบบหลวงพระบาง เป็นสิมที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากสิมแบบล้านนา จะสังเกตว่าสิมของวัดเชียงทองจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับ พระอุโบสถของวัดโลกโมฬี ในจังหวัดเชียงใหม่มาก (ลอง search ดูรูปเปรียบเทียบใน google ได้เลยครับ)

ผนังด้านในประดับด้วยงามจิตรกรรมลายรดน้ำ ปิดทองบนพื้นดำ แสดงภาพพุทธประวัติ 

ประตูแแกะสลักอย่างงดงาม โดย พระยาตัน ซึ่งเป็นสุดยอดช่างฝีมือแห่งหลวงพระบาง

หอพระม่าน

ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปแบบพม่า แต่ปกติหอนี้จะปิด ถ้าใครอยากดูต้องมองลอดช่องประตูเข้าไปครับ

หอพระพุทธไสยาสน์

เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์อายุ 400 กว่าปี (ฝรั่งเศสเคยเอาพระพุทธรูปนี้ไปจัดแสดงที่กรุงปารีสด้วย)

โรงเมี้ยนโกศ

สร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ.2505 เพื่อเป็นที่เก็บราชรถและพระโกศ ซึ่งมี 3 องค์ ได้แก่ พระโกศของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา, พระโกศของพระปิตุลา และพระโกศของพระราชชนนี

2) วัดใหม่สุวรรณพูมาราม (วัดใหม่)

วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ได้รับการบูรณะใหม่หลายครั้ง จนรูปแบบสิมเป็นแบบ สิมแบบผสมหลังคา
5 ชั้น

ผนังด้านหน้าเป็นประติมากรรมปูนปั้นสีทองเรื่องรามเกียรติ์กับพระเวสสันดร

ภายในประดิษฐาน พระเอ้ ซึ่งชาวหลวงพระบางให้ความเคารพนับถือ

วัดนี้ยังเป็น ที่ประทับของพระสังฆราชลาวองค์สุดท้าย และยังในช่วงสงกรานต์ทางการจะอัญเชิญ พระบาง มาประดิษฐานที่ลานด้านหน้าวัดนี้ให้ประชาชนร่วมสรงน้ำอีกด้วย

ค่าเข้าชม: 10,000 กีบ (40 บาท)


3) วัดวิชุนราช

วัดนี้สร้างโดย พระเจ้าวิชุนราช ในปีพ.ศ.2046 เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐาน พระบาง อยู่ช่วงหนึ่ง

ต่อมาในปี พ.ศ.2057 พระนางพันตีนเซียง ซึ่งเป็นพระมเหสีของพระเจ้าวิชุนราชได้มีรับสั่งให้สร้าง พระธาตุหมากโม ขึ้น (นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า พระธาตุนี้ได้รับอิทธิพลมาจาก พระมหาสถูปสาญจี ที่ประเทศอินเดีย)

Note: วัดนี้จะอยู่ห่างออกมาจากถนนเส้นหลักซักหน่อยแต่เดินได้ครับ

4) วัดพูสี (พระธาตุพูสี)

พูสีเป็นชื่อยอดเขาสูง 150 เมตร กลางเมืองหลวงพระบาง (ตรงข้ามพระราชวังหลวงพระบาง) ตามตำนานเชื่อว่าในอดีตตรงนี้เป็นป่าศักดิ์สิทธิ์ที่มีฤาษีอาศัยอยู่ ผู้คนจึงเรียกว่า พูฤาษี ก่อนที่จะเพี้ยนเป็นพูสีในปัจจุบัน ด้านบนมีพระธาตุพูสี ซึ่งเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง

ด้านบนนี้เราจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองหลวงพระบางได้แบบ 360 องศา

พระธาตุพูสีเป็นสถานที่ๆควรมาชมตอน พระอาทิตย์ตกดิน ครับ วิวด้านบนเป็นอะไรที่สุดยอดมาก (แนะนำว่าควรมาตั้งแต่สี่โมงเย็นเพื่อมาจับจองพื้นที่ชมวิว) 

จริงๆวัดในเมืองหลวงพระบางยังมีอีกเยอะมาก แต่วัดที่ผมคัดมาในรีวิวตอนนี้ เป็นวัดที่น่าจะไปเยี่ยมชมในมุมมองของผมครับ

นอกจากวัดพวกนี้แล้ว วัดที่น่าไปเยี่ยมชมอีก ได้แก่

- วัดแสนสุขาราม
วัดสบสิกขาราม
- วัดสีบุนเฮือง
วัดปากคาน

- วัดสุวันนะคิลี

วัดทั้งหมดนี้จะอยู่ตรงทางไปวัดเชียงทอง ในกรอบสี่เหลี่ยมหมายเลข 1 นะครับ

สำหรับรีวิวในตอนที่ 3 ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ครับ ในตอนหน้าจะเป็นการเที่ยวในวันที่สาม ซึ่งผมจะพาไปเยี่ยมชม อดีตพระราชวังหลวงพระบาง  ที่ปัจจุบันกลายเป็น หอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ไปแล้ว เรื่องราวจะเป็นยังไง ฝากติดตามด้วยนะครับ

ตอนอื่นๆ

ตอนที่ 1: เตรียมตัวเที่ยวหลวงพระบาง

ตอนที่ 2: ช็อปปิ้งที่ตลาดมืด

ตอนที่ 3: วิถีพุทธแห่งหลวงพระบาง

ตอนที่ 4: เที่ยววังเก่าหลวงพระบาง

ตอนที่ 5: เที่ยวน้ำตกตาดกวางสี

ตอนที่ 6: นั่งเรือเที่ยวถ้ำติ่ง




Create Date : 26 มกราคม 2561
Last Update : 17 มิถุนายน 2566 21:53:10 น. 0 comments
Counter : 4111 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจ้าสำนักคันฉ่องวารี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




ชอบท่องเที่ยว สนใจประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และการเมืองระหว่างประเทศ

Blog นี้จะใช้เขียนความทรงจำในการเดินทาง และวิธีการเดินทางอย่างละเอียด เผื่อใครจะมาตามรอย หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ

ถ้าชอบ blog เนื้อหาประมาณนี้ ฝากกดติดตามด้วยนะครับ
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เจ้าสำนักคันฉ่องวารี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.