3 วัน 2 คืน ฮอยอัน+หมีเซิน รอยอารยธรรมแห่งอาณาจักรจามปา
สถานที่ท่องเที่ยว : สะพานญี่ปุ่น (Japanese Bridge) เมืองฮอยอัน, Vietnamพิกัด GPS : 16° 3' 47.09" N 108° 13' 47.21" Eเวียดนามถือเป็นหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียนที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างยาวนาน ทำให้ที่นี่มีร่องรอยอารยธรรมจากยุคโบราณปรากฏอยู่มากมายหลายแห่ง หนึ่งในนั้นก็คือ เมืองเก่าฮอยอัน (Hoi An) ซึ่งผมจะมารีวิวในบล็อกนี้ครับรู้จักกับเมืองฮอยอัน (Hoi An) ฮอยอัน ( Hoi An) หรือที่ภาษาเวียดนามออกเสียงว่า โห่ย -อัน เป็นเมืองท่าอยู่บน ปากแม่น้ำทูโบน ( Tho Bon river) ตั้งอยู่ในเขต จังหวัดกว๋างนาม ( Quang Nam) ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม ในอดีตฮอยอันก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรจามปาเช่นเดียวกับส่วนอื่นๆของเวียดนามกลาง เมืองนี้มีชื่อเดิมว่า ไฮโฟ ต่อมาชาวเวียดนามก็สามารถผนวกภูมิภาคนี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรไดเวียต ฮอยอันจึงทำหน้าที่เป็นเมืองท่าที่สำคัญของเวียดนามในช่วงศตวรรษที่ 16-17 มีชาวต่างชาติเข้ามาทำการค้าขายในเมืองนี้เป็นจำนวนมากทั้งชาวจีน, ชาวญี่ปุ่น, ชาวดัตช์ และชาวอินเดีย บ้านเมืองที่นี่จึงได้รับอิทธิพลจากชาติต่างๆ ผสมผสานจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ ว่ากันว่า ในช่วงพีคที่สุด ฮอยอันเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกด้วยครับ ต่อมา แม่น้ำทูโบนเปลี่ยนทิศทางและตื้นเขินลง ฮอยอันจึงค่อยๆถูกลดความสำคัญลง และดานังก็กลายมาเป็นเมืองท่าหลักของภูมิภาคนี้ไปแทน ผู้คนจึงค่อยๆลืมเลือนเรื่องราวของเมืองนี้ไป จนกระทั่ง คาซิเมียซ เควียดโควสกี้ ( Kazimierz Kwiatkowski) สถาปนิกชาวโปแลนด์ได้เข้ามาทำการศึกษาประวัติศาสตร์ และทำการผลักดันให้ฮอยอันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก ในปี 1999 ทำให้คนฮอยอันสำนึกบุญคุณของท่าน และมีการสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นใจกลางเมืองฮอยอัน พร้อมกับมีการจุดธูปบูชาอยู่เสมอ ทุกวันนี้ ฮอยอันยังคงเป็นเมืองขนาดเล็กเช่นเดิม แต่ด้วยเสน่ห์ของ เมืองที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนสีเหลือง ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนเป็นจำนวนมาก โดยผู้มาเยือนมักจะมาเยี่ยมชมบ้านเรือนเก่าๆ รวมทั้งร้านค้าขายผลงานทางศิลปะและหัตถกรรม นอกจากนี้ริมฝั่งแม่น้ำยังมีอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ บาร์ และร้านอาหารเปิดเรียงรายอยู่มากมายซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าใช้บริการ (ฝรั่งหลายคนหลงเสน่ห์เมืองนี้ จนมาอยู่ที่นี่เป็นเดือนๆก็มีครับ) VIDEO
แผนเที่ยว วันที่หนึ่ีง เดินทางถึงเมืองฮอยอัน เช็คอินเข้าที่พัก (Hoi An Travel Lodge Hotel) วันที่สอง เช้า: เที่ยวชมเมืองเก่าฮอยอัน ได้แก่ สะพานญี่ปุ่น (Japanese covered bridge), สมาคมชาวจีนฝูเจี้ยน (Phouc Kien Assembly Hall), สมาคมชาวจีนกวางตุ้ง (Cantonese Assembly Hall), บ้านเลขที่ 101 (101 old house), พิพิธภัณฑ์เซรามิก (Ceramic Museum) บ่าย: ซื้อทัวร์เที่ยวแหล่งโบราณคดีหมีเซิน (My Son Sanctuary) จากนั้น นั่งเรือชมแม่น้ำทูโบน กลับเข้าตัวเมืองฮอยอัน วันที่สาม เช็คเอาท์ / เดินทางออกจากเมืองฮอยอัน ที่พักในเมืองฮอยอัน สำหรับที่พักในเมืองฮอยอัน ผมเลือกพักที่ Hoi An travel lodge hotel ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวครึ่ง อยู่ใกล้กับ Hoi An old town ข้อดีของที่นี่คือ บรรยากาศดี ทำเลเยี่ยม พนักงานเป็นมิตร ผมจองห้อง Deluxe แบบ Twin ผ่าน booking ได้ในราคาคืนละ 1,622 บาท หารต่อคนก็ตกคนละ 811 บาทต่อคืนครับ โดยผมพักที่นี่ 2 คืนครับ ใครสนใจที่พักนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://hoiantravellodge.com/ VIDEO
วันที่หนึ่ง ทริปนี้ผมเริ่มต้นจากเมืองดานังครับ โดยผมได้ติดต่อเช่ารถจาก klook ให้มาส่งที่เมืองฮอยอัน แต่ถ้าใครไม่ได้เช่ารถ ก็สามารถเรียก grab จากเมืองดานัง บานาฮิลล์ หรือสนามบินดานังก็ได้ โดยค่ารถจะอยู่ที่ 400,000 ถึง 600,000 ดอง
การใช้ grab ในเมืองใหญ่ของเวียดนาม รวมทั้งในเมืองท่องเที่ยว เราสามารถใช้ app เดียวกับที่ใช้กดเรียก grab ในประเทศไทยได้เลยครับข้อควรระวัง : ระหว่างเดินเที่ยวอยู่ อาจจะมีคนอ้างตัวว่าตัวเองเป็นคนขับ grab หรือ Uber อย่าหลงเชื่อนะครับ ส่วนใหญ่หลอกลวง ให้เลือกขึ้นเฉพาะรถที่เรากดเรียกมาจาก app ในโทรศัพท์มือถือของเราเท่านั้นครับ (เช็คได้จากทะเบียนรถที่มารับว่า ตรงกับในแอปหรือเปล่า)วันที่สอง วันนี้เป็นวันเที่ยวครับ โดยในช่วงเช้า เราจะเดินเที่ยวใน ย่านเมืองเก่าของฮอยอัน (Hoi An old town) ก่อนที่ช่วงบ่ายจะซื้อทัวร์ไปเที่ยวที่ แหล่งโบราณคดีหมีเซิน (My son sanctuary) สำหรับบริเวณเมืองเก่าฮอยอันซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆไม่ได้มีขนาดใหญ่โต เราจึงสามารถเดินชมทั้งเมืองได้อย่างชิลล์ๆครับ หรือถ้าใครขี้เกียจก็สามารถเช่าจักรยานปั่นได้ สิ่งที่ต้องระวังคือ พวกรถมอเตอร์ไซค์ จักรยาน และสามล้อ รวมทั้งมิจฉาชีพต่างๆ ที่อาจล้วงกระเป๋าเวลาที่คนเยอะๆได้ครับ
ตั๋วชมเมืองเก่าฮอยอัน สถานที่เกือบทั้งหมดในเขตเมืองเก่าฮอยอันจะต้องเสียค่าเข้าชม โดยเราสามารถซื้อตั๋วเข้าชมสถานที่ต่างในเมืองฮอยอันได้จากเคาน์เตอร์ขายตั๋วซึ่งมีอยู่ทั่วทั้งเมืองแบบนี้ครับ ในตั๋ว 1 ใบ จะประกอบไปด้วยคูปอง 5 ใบ (ทางด้านขวาของตั๋ว) โดยคูปอง 1 ใบสามารถใช้เยี่ยมชมได้ 1 สถานที่ ดังนั้นในการซื้อตั๋ว 1 ครั้ง เราจึงสามารถเข้าชมได้ 5 สถานที่นั่นเอง (แนะนำให้เข้าชม 5 สถานที่ๆผมจะกล่าวถึงต่อไปนี้ เพราะถือเป็นที่เที่ยวยอดฮิตของเมืองนี้แล้ว) สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเก่าฮอยอัน 1. สะพานญี่ปุ่น (Japanese Covered Bridge) มีชื่อในภาษาเวียดนามว่า จั่วเกิ่ว ( Chua Cau) สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมระหว่างชุมชนชาวจีนและชุมชนชาวญี่ปุ่น ในปี ค.ศ.1593
ความน่าสนใจของสะพานนี้คือ บริเวณปลายสะพานจะมีรูปปั้น ลิงถือลูกท้อ กับ สุนัข ซึ่งที่มาก็ยังเป็นที่ถกเถียง บ้างก็ว่า เพราะจักรพรรดิญี่ปุ่นหลายองค์ประสูติในปีวอกและปีจอ แต่บ้างก็ว่า เพราะสะพานนี้เริ่มสร้างในปีวอก และแล้วเสร็จในปีจอต่างหาก
2. บ้านเลขที่ 101 (The Old house Tan Ky) เป็นบ้านไม้เก่าของคหบดีชาวเมืองฮอยอันตระกูล Tan Ky มีอายุยาวนานถึง 270 ปี และมีสมาชิกในครอบครัวสืบทอดกันมาถึง 7 รุ่น (ปัจจุบัน บ้านนี้ก็ยังคงมีคนอาศัยอยู่บนชั้นสอง)
บ้านนี้มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันถึง 3 ชาติ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และ เวียดนาม สิ่งที่น่าสนใจของบ้านหลังนี้คือ บ้านนี้จะยาวมากตั้งแต่แม่น้ำไปจรดถนนอีกฝั่งหนึ่ง เนื่องจากในอดีต บ้านนี้ยังเป็นร้านค้า ดังนั้น สินค้าที่ขนส่งมาทางน้ำจะถูกนำเข้ามาทางหลังบ้านเพื่อนำมาขายยังหน้าบ้านที่อยู่ติดกับถนน
บ้านหลังนี้เคยโดนน้ำท่วมมาแล้วหลายครั้ง สิ่งที่น่าสนใจคือ ภายในบ้านจะมีป้ายบอกระดับน้ำ ว่าแต่ละปีน้ำท่วมถึงแค่ไหน ปีที่ท่วมหนักที่สุดคือ เดือนตุลาคม ปี ค.ศ 1964 ที่น้ำท่วมเกือบถึงชั้นสองของบ้านครับ
3. ศาลาประชาคมชาวจีน (All Chinese Assembly hall) เป็นสมาคมชาวจีนที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองฮอยอัน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1792 ในอดีตถือเป็นจุดศูนย์รวมของพ่อค้าชาวจีนที่อพยพเข้ามาค้าขายในเมืองนี้ ตอนหลังมีการสร้างวัดที่ข้างในและอัญเชิญ เจ้าแม่ทับทิม , เทพเจ้าตาทิพย์ และ เทพเจ้าหูทิพย์ ให้ชาวเรือสักการบูชาก่อนออกทะเล
4. ศาลเจ้าเฟื้อกเกี๊ยน (Phouc Kien Shrine) ตั้งอยู่ภายในศาลาประชาคมชาวฝูเจี้ยน (Fujian Chinese Assembly Hall) เป็นที่ประดิษฐานของ เจ้าแม่ทับทิม ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของชาวจีน
ภายในมีภาพแกะสลักเป็นเรื่องราวของสามก๊กครับ
ไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งของสถานที่แห่งนี้ คือ รูปปั้นมังกรในสระน้ำ ที่ปั้นได้อ่อนช้อยแต่ดูแข็งแรง มีการประดับเกล็ดมังกรด้วยชิ้นกระเบื้องและแก้วอย่างงดงาม
5. พิพิธภัณฑ์เซรามิก (Ceramic Museum) เนื่องจากในอดีต ฮอยอันเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางการค้าเซรามิกที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บ้านเล็กๆอายุกว่า 80 ปีแห่งนี้จึงถูกดัดแปลงเพื่อจัดแสดงโบราณวัตถุที่ทำจากเซรามิกทั้งถ้วย ชาม และเครื่องใช้โบราณต่างๆครับ
นอกจากที่เมืองเก่าฮอยอันแล้ว ในแถบเวียดนามกลางยังมีมรดกโลกอีกหนึ่งแห่ง ที่คนไทยส่วนใหญ่ มักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญ และไม่ค่อยแวะเที่ยวที่นี่กัน แต่สำหรับผมที่ชอบประวัติศาสตร์และเมืองเก่าๆ คงจะข้ามที่นี่ไปไม่ได้จริงๆ ผมเลยใช้เวลาในช่วงบ่ายของทริปในวันที่สาม ไปเที่ยวชมโบราณสถานแห่งนี้ครับ ก่อนที่จะมาทำความรู้จักกับที่นี่ ผมขอเท้าความเกี่ยวกับ อาณาจักรจามปา (Champa Kingdom) ที่ผมมักจะกล่าวถึงในรีวิวชุดนี้อยู่บ่อยๆกันซะหน่อยอาณาจักรจามปา (Champa Kingdom) ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 1 พันปีก่อน บริเวณที่เป็นเวียดนามกลางและเวียดนามใต้ในปัจจุบัน ไม่ได้เป็นของชาวเวียดนาม แต่มีอาณาจักรอิสระที่ชื่อว่า อาณาจักรจามปา ( Champa Kingdom)
อาณาจักรจามปาก่อตั้งขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ.192 แต่รุ่งเรืองถึงขีดสุดในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9-10 ความน่าสนใจของอาณาจักรนี้คือ ที่นี่เป็นอาณาจักรฮินดู เช่นเดียวกับอาณาจักรขอม เราจึงได้เห็นแหล่งโบราณสถานมากมายที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงกับนครวัดของประเทศกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็น แหล่งโบราณคดีหมีเซิน ( My Son Sanctuary) ใกล้กับเมืองฮอยอัน, ปราสาทโพนคร (Po Nagar Cham Tower) ในเมืองญาจาง (Nha Trang) และ ซากโบราณสถานของเมืองปัณฑุรังคะ ( Panduranga) ที่นครฟานซาง-ท้าปจาม (Phan Rang - Tháp Chàm) อย่างไรก็ตาม เมื่อศาสนาอิสลามได้เผยแพร่เข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชาวจามก็ค่อยๆเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม จนมาถึงปัจจุบันชาวจามส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายซุนหนี่ แต่ก็ยังมีชาวจามบางส่วนยังคงนับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู รวมทั้งศาสนาพุทธอีกด้วย
อาณาจักรจามปาค่อยๆตกต่ำลงเนื่องจากการทำสงครามกับอาณาจักรใกล้เคียงไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรขอม และอาณาจักรไดเวียดของชาวเวียดนาม จนในที่สุดอาณาจักรจามปาได้ล่มสลายลงในปี ค.ศ.1491 และได้ถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเวียดนามอย่างสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1832 ชาวจามส่วนหนึ่งจึงได้อพยพลี้ภัยสงครามเข้ามาในประเทศไทย รัชกาลที่ 1 จึงทรงพระราชทานที่ดินที่ ชุมชนบ้านครัว ในเขตปทุมวันให้เป็นที่อยู่ของชาวจามมาจนถึงปัจจุบันแหล่งโบราณสถานหมีเซิน (My Son Sanctuary) ซากโบราณสถานที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรจามปามีหลายแห่งครับ แต่ที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญมากที่สุดก็คือ แหล่งโบราณสถานหมีเซิน ( My Son Sanctuary) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1999
ปราสาทหมีเซินเป็นโบราณสถานที่อยู่ในจังหวัดกว๋างนาม ใกล้ๆกับเมืองดานังและเมืองฮอยอันในภูมิภาคเวียดนามกลาง สร้างด้วยศิลปะจามโบราณในสมัยศตวรรษที่ 4 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระเจ้าภัทรวรมันที่ 1 ประกอบด้วยปราสาททั้งหมด 73 หลัง ล้อมรอบด้วย เขาฟันแมว ( Cat’s Tooth Mountain) และมีธารน้ำจากเทือกเขาไหลผ่าน จึงถือว่าเป็นทำเลที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการสร้างศาสนสถานสำหรับการบูชาพระศิวะตามความเชื่อของศาสนาฮินดู อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงครามเวียดนาม ทหารเวียดนามได้ใช้ปราสาทหมีเซินเป็นกองบัญชาการ ฝ่ายอเมริกันจึงได้นำเครื่องบินทิ้งระเบิดบริเวณนี้ โบราณสถานจำนวนมากถูกทำลาย ทำให้ปัจจุบันเหลือปราสาทเพียง 22 หลัง
หมีเซินเคยเป็นนครศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ของอาณาจักรจามปา โดยเป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ประจำอาณาจักร ที่ชื่อว่า ภัทเรศวร ตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 - ศตวรรษที่ 15 ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 900 ปี ทำให้โบราณสถานแห่งนี้เป็นที่รวบรวมลักษณะทางด้านศิลปกรรมที่หลากหลาย และจัดเป็น กลุ่มโบราณสถานในศาสนาฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในอินโดจีน แหล่งโบราณสถานหมี่เซินอยู่ไม่ไกลจากเมืองดานังและฮอยอัน เราจึงสามารถเหมา Taxi หรือ Grab มาชมที่นี่ได้ ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 800,000-1,100,000 ดอง (ประมาณ 1,000 ถึง 1,200 บาท) อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยนิยมซื้อทัวร์จากเมืองฮอยอันมาเที่ยวที่นี่มากกว่าครับ เพราะราคาถูกกว่า และภายในเมืองฮอยอันก็มีหลายบริษัทที่รับจัดทัวร์มาที่หมี่เซิน แต่สำหรับทริปนี้ผมเลือกจองผ่าน My son tour ซึ่งเป็นทัวร์แบบ private tour ครึ่งวัน ซึ่งคิดราคาอยู่ที่คนละ 35 USD หรือประมาณ 1,000 ต่อคน โดยราคานี้จะรวมค่ารถรับส่งจากโรงแรม, ไกด์, ค่าอาหาร และค่าเรือที่ใช้ล่องกลับเมืองฮอยอัน (ยกเว้นค่าตั๋วเข้าชมอีก 150,000 ดอง หรือประมาณ 200 บาทซึ่งเราต้องจ่ายเอง)
ก่อนเข้าชมซากโบราณสถาน คุณไกด์ของเราก็พาเราไปชมพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่บอกเรื่องราวเกี่ยวกับการขุดค้นและโบราณวัตถุบางชิ้นที่พบเจอได้ในบริเวณนี้
จากนั้นก็นั่งรถฟรีของทางอุทยานเข้าไปยังตัวปราสาท
ภายในแหล่งโบราณคดีหมี่เซินมีการจัดจำแนกซากโบราณสถานออกเป็น 10 กลุ่ม โดยใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นสัญลักษณ์ในการจัดจำแนก แบ่งเป็น แหล่ง A ไปจนถึง แหล่ง L ครับ (สำหรับทัวร์นี้ เราจะได้ชมทุกแหล่ง ยกเว้นแหล่ง H, K และ L ซึ่งอยู่แยกออกไป)
ระหว่างทางเราก็จะเจอกับหลุมระเบิดจากสงครามเวียดนามอยู่เต็มไปหมด แต่ระเบิดน่าจะถูกเก็บกู้หมดแล้วครับ เดินได้ปลอดภัย (ถ้าเดินไปในเส้นทางที่เค้าจัดไว้ให้)
อันนี้เป็นซากโบราณสถานบางส่วนครับ จริงๆพังไปเยอะ แต่ทางการเวียดนามก็พยายามบูรณะ โดยได้เงินทุนมาจากองค์การยูเนสโก้ และเงินจากรัฐบาลเวียดนามเอง เป็นที่น่าสังเกตว่า ทางการอินเดียก็เข้ามาร่วมในการบูรณะครั้งนี้ด้วย อาจจะเป็นเพราะมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับศิลปะฮินดู
อันนี้เป็นศิลาจารึกภาษาจามครับ ปัจจุบัน ไม่มีใครอ่านออกแล้ว แต่ก็มีความพยายามแกะกันอยู่
หลังชมซากปราสาทเสร็จ เรายังได้มี การแสดงอัปสรา (Traditional Apsara Dance) ซึ่งเป็นการแสดงของชาวจามให้เราได้ดูกันด้วยครับ (ข้อดีของทัวร์นี้คือ เค้าจะช่วยคุมเวลาให้เรา จะได้ไม่พลาดชมการแสดงดีๆแบบนี้)
VIDEO
หลังจากชมหมี่เซินเสร็จ เราก็เดินทางต่อไปยังท่าเรือเพื่อล่องเรือกลับตัวเมืองฮอยอัน
ทัวร์นี้ยังรวมอาหารด้วยครับ เราได้ชิมเฝอท้องถิ่นซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่า คุณไกด์ไปหามาจากที่ไหน แต่อร่อยมากครับ
เวลาประมาณ 17.30 น. เราก็ล่องเรือกลับมาถึงเมืองฮอยอัน จากนั้นรถก็มารับเรากลับถึงโรงแรม เป็นการจบทริปครึ่งวันที่หมีเซินอย่างประทับใจครับสีสันยามค่ำคืนที่ย่านเมืองเก่าฮอยอัน ข้อดีของการมาค้างคืนที่ฮอยอันก็คือ เราจะได้ชมสีสันยามค่ำคืนที่เมืองฮอยอัน (หลายๆคนบอกว่าสวยกว่าในช่วงกลางวัน) หนึ่งในไฮไลท์ที่สำคัญของเมืองฮอยอันก็คือ เทศกาลโคมไฟ ( Full Moon Lantern Festival) ซึ่งเดิมทีจะจัดขึ้นเฉพาะในคืนพระจันทร์เต็มดวง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทางการเมืองฮอยอันจะมีการประดับโคมไฟทุกคืนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เราจึงสามารถมาชมความงดงามของโคมไฟได้ทุกคืนเลยครับ
ทุกๆบ้านและร้านค้า จะพร้อมใจกันประดับโคมไฟหลากสีสันอย่างสวยงาม (ขอเตือนว่า อย่าไปถ่ายรูปโคมไฟส่งเดชนะ บางร้านคิดเงิน โดยเฉพาะร้านที่มีโคมไฟสวยๆ)
นอกจากจะมีเทศกาลโคมไฟแล้ว ก็ยังมีกิจกรรม การลอยกระทงกระดาษ ซึ่งเดิมทีจะจัดเฉพาะในคืนพระจันทร์เต็มดวง แต่ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อและลอยกระทงได้ทุกวันเลยครับข้อควรระวัง : ควรจ่ายเงินค่ากระทงให้เรียบร้อยก่อนนำไปลอย เพราะมีหลายคน เอากระทงมาลอยก่อน แล้วโดนแม่ค้าขายกระทงโก่งราคากระทงจนแพงเวอร์ ต้องระวังครับ
สิ่งหนึ่งที่ผมพลาดไปตอนไปเที่ยวฮอยอันก็คือ การแสดงโชว์ Hoi AN Memmories ซึ่งเป็นการแสดงแสงสีเสียงกลางแม่น้ำทูโบนที่ไหลผ่านกลางเมืองฮอยอันครับ พอดีเพิ่งไปเห็นคลิปตัวอย่างการแสดงมา แล้วรู้สึกว่าน่าดูมาก แต่ยังไม่มีโอกาสกลับไปที่ฮอยอันอีกรอบ ถ้าใครไปฮอยอันอย่าลืมไปดูกันนะครับ
VIDEO
สำหรับทริปเวียดนามกลางที่เมืองเก่าฮอยอัน และแหล่งโบราณคดีหมี่เซินก็ขอจบเพียงเท่านี้ครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่จะวางแผนไปเที่ยวเวียดนามกลาง ส่วนใครที่สนใจข้อมูลทางประวัติศาสตร์ลึกๆของทั้งฮอยอัน และหมีเซิน ผมขอฝากรายการประวัติศาสตร์นอกตำรา ไว้ที่คลิปด้านล่างนี้ครับ
VIDEO
บล็อกอื่นที่เกี่ยวข้อง
Create Date : 12 พฤษภาคม 2563
Last Update : 1 ธันวาคม 2566 22:49:13 น.
8 comments
Counter : 21755 Pageviews.