อีโคโมสไทย สรุปผลการเสวนา[หยุด]รื้อถอน ศาลฎีกา และชื่นชมการทำงานของกรมศิลปากร
เท่าที่เขียนเหตุการณ์ และประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการรื้อถอนศาลฏีกา ซึ่งเป็นประเด็นร้อนข้ามปีกันทีเดียวได้เห็นและติดตามการทำงานของนักวิชาการ และ กรมศิลปากร อย่างละเอียด ก็ขอชื่นชมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้นจากกรมศิลปากร ที่ ไม่ท้อถอย และนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับมหาชน ที่เป็นห่วงสมบัติมรดกชาติ ที่ดูเหมือนจะมีปัญหาตามประเด็นดังกล่าว ซึ่งข้าราชการดีๆ แบบนี้ควรเป็นแบบอย่างที่ดี กับทุกกรมกอง เพราะได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้วส่วนผลลัพธ์ที่เราเห็น ก็คือ มีการรื้อถอน ทุบทำลายอาคารอันทรงคุณค่า(ได้รับรางวัลจากหลายสถาบันน่าเชื่อถือ)ผมไม่มีข้อสงสัยเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร อีกต่อไปแล้ว (สมัยก่อนๆผมก็ยังสงสัยเรื่องความจริงใจ และความมุ่งมั่น) ในส่วนเรื่องการอนุรักษ์อื่นๆในความเห็นส่วนตัวของผม ผมว่าน่าจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาล หรือฝ่ายการเมืองที่ควรจะมีงบสนับสนุน เรื่องการอนุรักษ์ บูรณะ ฟื้นฟู อย่างจริงใจ เพราะโบราณสถานอาคารทรงคุณค่า ในทุกประเทศทั่วโลก เค้าจริงจัง อนุรักษ์กันเป็นระบบเป็นเรื่องเป็นราว แต่เมื่อมองประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเกี่ยวกับความจริงใจ ในการปกป้องมรดกชาติแล้ว มันน่าสงสัยจริงๆ อย่างไรก็แล้วแต่ครับ เมื่อเหตุการณ์ รื้อทุบทำลายมันเกิดขึ้นไปแล้ว และไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นจริงอัพเดทข้อมูลปัจจุบัน กันไปวันต่อวันแบบนี้ ส่วนเหตุการณ์จะดำเนินไปอย่างไรสำหรับผู้ปกป้องมรดกชาติ อาคารทรงคุณค่า คงจะเศร้าไปตามๆกันแต่คงยังมีอีกประเด็นที่มหาชนอย่างเราต้องคอยติดตามเช่นกัน คืออาคารที่จะสร้างใหม่ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว จะ ข่ม พระบรมมหาราชวัง , วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ ทัศนียภาพที่เป็น หัวแหวน เมืองเก่าเกาะรัตนโกสินทร์ ตามที่นักวิชาการหลายท่านจำลองภาพมาให้ดูตามสื่อมวลชนหลายแขนง ที่ตีพิมพ์กันอย่างแพร่หลาย รายละเอียดตามลิ้งก์ครับ //www.oknation.net/blog/tourrattanakosin/2013/01/04/entry-3
สุดท้าย ก็น่าจะคือ ความชัดเจน ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องครับเพราะทัศนียภาพของเกาะรัตนโกสินทร์ มันน่าจะเกี่ยวกับมหาชน อย่างเราที่สมควรเป็นห่วงกันทุกท่าน หรือท่านใดว่าอย่างไรครับ??? ส่วนพรุ่งนี้ (วันที่ 11 มกราคม)ก็จะมีความเคลื่อนไหวของมหาชน ผู้ปกป้องมรดกชาติและผู้ไม่เห็นด้วยกับการรื้อทุบทำลาย อาคารอันทรงคุณค่าที่ผู้ปกป้องจะไปแสดงเจตนารมณ์ อย่างชัดเจน ที่หน้ารั้วประตูศาลฎีกาถนนราชดำเนินใน ฝั่งตรงข้ามสนามหลวง เพื่อให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องรับทราบและตระหนักถึงอาคารอันทรงคุณค่า ว่ามันไม่ใช่เพียงแค่อาคารธรรมดาแต่มันมีประวัติศาสตร์ของชาติไทย ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับศาลไทย มันเป็นรากของประวัติศาสตร์จริงๆ ที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง อีกหนึ่งความเป็นห่วงก็คือเมื่อมันเกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว ย่อมไม่มีใครการันตีได้ว่า จะไม่เกิดขึ้นอีกนั่นย่อมหมายถึง ความห่วงใยที่จะเกิดขึ้นตามมาของมหาชนอย่างเรา แต่ภาครัฐทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะตื่นกันแล้วหรือยัง หรือจะมีแต่ กรมศิลปากรกับเหล่านักวิชาการ และมหาชน อย่างเราเท่านั้น ที่เป็นห่วง ส่วนรัฐบาล หน่วยงานรมต. ที่เกี่ยวข้อง จะตื่น กันด้วยหรือเปล่าน่าเป็นห่วงจริงเมื่อดูสถานการณ์ความเป็นจริง มันช่างอึมครึมไม่มีความชัดเจนในหลายข้อหลายประการ ชวนให้คิดว่า มรดกชาติเรา จะเดินไปถึงทางตันหรือกระมัง???? "ที่พึ่ง"สุดท้ายของคนปกป้องมรดกชาติ "ฟุธบาท หน้าศาลฎีกา" ศุกร์ที่ 11 ม.ค. 9โมงเช้า //www.oknation.net/blog/tourrattanakosin/2013/01/09/entry-1 อย่างไรก็แล้วแต่ องค์กรอนุรักษ์มรดกชาติ นับสิบๆ องค์กร ที่ไม่เห็นด้วยกับการรื้อทุบทำลาย อาคารแล้วสร้างใหม่ ก็ไม่นิ่งนอนใจมาอย่างต่อเนื่อง นับจากนี้ประมาณ อีก 2 อาทิตย์องค์กรเหล่านี้จะมีเสวนาอย่างกว้างขวาง อีก 2 ครั้งผมจะมานำเสนออีกครั้ง โปรดติดตามกันครับ มรดกของเราทั้งนั้นครับไม่ใช่มรดกของผู้หนึ่งผู้ใด หรือองค์กรหนึ่งองค์กรใด Copy//สรุปผลการเสวนา ศาลฎีกา ๕ มค. ๒๕๕๖ โดย ICOMOSThailand Association เมื่อ 10 มกราคม 2013 เวลา 2:17 น. ·
สรุปผลการเสวนา ศาลฎีกา ๕ มค. ๒๕๕๖ โดย ICOMOSThailand Association สรุปข้อมูลและแนวความคิดจากการเสวนาได้ดังนี้ ๑. ข้อมูลจากการเสวนาในครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันถึงความเป็นโบราณสถานที่เข้าตามนิยามของ พรบ.โบราณสถานฯ ตามที่ได้แจ้งให้ทางศาลรับทราบแล้วกลุ่มอาคารศาลฎีกานี้จึงได้รับการคุ้มครองในฐานะโบราณสถานที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน(หากละเมิดก็จะมีโทษจำคุก๗ ปี) ทั้งนี้ พรบ.โบราณสถานฯยังได้มอบให้กรมศิลปากรเป็นผู้ยืนยันความเป็นโบราณสถาน ๒. เรื่องคุณค่าความสำคัญของโบราณสถานแห่งนี้ประกอบด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์โดยที่เป็นการก่อสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการได้เอกราชสมบูรณ์ทางการศาลหลังจากที่เสียไปตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ ๔โดยมีโปรตุเกสเป็นชาติสุดท้ายที่ยอมยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขตในปี พ.ศ.๒๔๘๑โดยเริ่มก่อสร้างที่อาคารหมายเลขหนึ่ง ตามด้วยอาคารหมายเลขสองอย่างต่อเนื่องโดยการออกแบบของ พระสาโรชรัตนนิมมานก์สถาปนิกกรมศิลปากรผู้สำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษนำรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นที่นิยมในช่วงเวลานั้นมาใช้กับอาคารสถาบันที่มีความสำคัญสูงสุดของชาติด้วยการออกแบบให้ดูยิ่งใหญ่น่าเกรงขามสมกับประโยชน์ใช้สอยของความเป็นศาลยุติธรรมถือเป็นความสำคัญทางประวัติศาสตร์ศิลปะสถาปัตยกรรมแสดงถึงพัฒนาการทางสถาปัตยกรรมในประเทศไทยทั้งนี้ผู้ออกแบบยังได้เป็นนายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ท่านแรกอีกด้วย ๓. สำหรับอาคารโบราณสถานในส่วนที่ได้รับความเสียหายไปแล้วนั้นความจริงก็สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ตามรูปแบบดั้งเดิมได้เป็นการอนุรักษ์ในแบบปฏิสังขรณ์ (reconstruction) ดังตัวอย่างที่มีมาแล้วในกรณีที่โบราณสถานได้รับความเสียหายจากสงครามทั้งนี้ด้วยเรายังมีข้อมูลหลักฐานรูปแบบดั้งเดิมของอาคารอย่างครบถ้วนยังมีแบบก่อสร้างอาคารเก็บรักษาไว้ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ การรื้อถอนอาคารในขณะนี้ถือเป็นการละเมิดต่อ พรบ.โบราณสถานฯเนื่องจากในเรื่องนี้ได้มีการรับทราบถึงความเป็นโบราณสถานมีการประสานนำเรื่องเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการวิชาการเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถานซึ่งเป็นกลไกในการตัดสินใจของกรมศิลปากรแต่ยังมิทันสิ้นสุดกระบวนการจนได้รับความเห็นชอบเป็นการละเมิดต่อกฎหมายที่ได้เกิดขึ้นแล้วที่จะต้องมีผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายมิฉะนั้นแล้วก็คงจะไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายนี้ในการปกป้องคุ้มครองโบราณสถานของชาติอื่นๆได้อีกต่อไปด้วย อนึ่งแม้จะเคยมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบการก่อสร้างใหม่โดยมีข้อยกเว้นเรื่องความสูงเป็นกรณีพิเศษเมื่อกว่า๒๐ ปีมาแล้ว ต้องเข้าใจว่า ณเวลานั้นยังมีหลายหน่วยงานใช้พื้นที่ตรงนี้ร่วมกันต่างจากในวันนี้ที่ได้ย้ายออกไปจนเหลือแต่ศาลฎีกาเท่านั้นความจำเป็นที่เคยอ้างไว้ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วอีกทั้งในเวลานั้นกลุ่มอาคารนี้โดยอายุก็ยังไม่พิจารณาให้เป็นโบราณสถานแต่ในมติก็มิได้ชี้ชัดว่าให้รื้อถอนสร้างใหม่ได้เนื่องจากไม่ได้เป็นโบราณสถาน ๔. ที่ประชุมขอชื่นชมการทำงานของกรมศิลปากร และให้กำลังใจขอให้เดินหน้าดำเนินการต่อไปเพื่อการปกป้องคุ้มครองมรดกสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์และศิลปะและขอให้ทางศาล หยุดรื้อโบราณสถานศาลฎีกาในทันที ขอขอบคุณ ICOMOSThailand Association สำหรับข้อมูลการเสวนามา ณ ที่นี้ครับ หมายเหตุ : บทความย้อนหลัง
Create Date : 11 มกราคม 2556 |
Last Update : 11 มกราคม 2556 0:07:33 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1775 Pageviews. |
|
|