Group Blog
 
All Blogs
 

ก็อยากจะทำหง่ะ ใครมีปัญหามั่งงงง ?????




กดๆๆๆๆ บอกว่า กดไง !!!


ลืมบอกไป ก่อนกดเปิดเสียงด้วยจ้า !!!!!




 

Create Date : 02 สิงหาคม 2550    
Last Update : 3 สิงหาคม 2550 1:52:12 น.
Counter : 1365 Pageviews.  

TAG มันเป็น...ยางงาย..(ฟร่ะ)



เมื่อมะกี่วันก่อนบังเอิ๊นนน แวะเข้าไปบ้านนู๋ฉุกละหุก
ปรากฏว่านังนู๋ฉุก โดนแถกค๊า แล้วนู๋ฉุกปากาดลั่นบ้านเลยนะว่าจะยกมรดกแถกกก ให้แก่เพื่อนๆๆ ซึ่งหนึ่งในนั้น ผู้ที่ด้ายรับมรดกแถกจากนู๋ฉุก คือ หมวยเคี้ยง พอได้ยินชื่อว่า
หมวยเคี้ยง ได้รับมรดกด้วย มันเหมือนสายฟ้าฟาดเปรี้ยง !!! ลงกลางลำตัวคุนป้า เพราะคุนป้ารู้ชะตาชีวิต
ของตะเองแล้ว ว่า งานนี้ตรูม่ายรอดแน่ๆๆ แง แง

ด้วยฟามกลัวจับขั้วหัวใจสะออน เนื่องจากมะรู้ว่าอ้ายแถกก
มันเปนยังงาย มันเปนเชื้อโรค มันเปนเชื้อร้ายอะไรยังไง
( อิๆๆ กลัวคอมเจ๊ง ) เลยวิ่งแจ้นไปถามนู่มาลี สามสิบยังแจ๋ว ว่าอ้ายแถกกก เนี่ยมันคืออะไร นู๋มาลีใจดีมาตอบ
ให้อย่างละเอียดยิบ " คุนป้าขา แถกกก มันก้อคือจดหมายลูกโซ่ค๊า มันไม่ใจร้ายหรอกน่ะค๊า จิ๊บๆๆ ค๊า แต่นู๋ประกาศ
ไม่รับแถกกก ค๊า " อ้าวไหงงั้นละจ๊ะ นู๋มาลี อิๆๆ

พอเข้าใจเรื่องแถกแล้วว จริงอย่างนังนู๋ฉุกว่าไว้ " คุนป้าค๊า
แถกกกก มะด้ายน่ากลัวขนาดนั้นค๊า "

555 ง้านก็หนุกจิงานนี้ คอมมะเจ๊ง งั้นก้อมาฟังเรื่อง
แถกที่คุนป้าได้รับมอบหมายมาดีกว่าค๊า



ยุทธการ TAG หนนี้มีชื่อว่า

"เรื่อง 10 สิ่งที่อยากทำก่อนตาย"


1. เริ่มต้นกันด้วยการคุมกำเนิด อ๊ะๆๆ อย่าเข้าใจผิดมะช่าย
คุมกำเนิดคุนป้านะค๊า แต่เป็นการคุมกำเนิดไอ้เจ้าแถกก นี่
แหละ ประเพณีแต่โบราณ เจ้าแถกก จะต้องมีทายาทมารับภารกิจต่อถึงห้าคนคุนป้าว่ามันมากไป ดังนั้นนับแต่นี้ต่อไป คุณป้าขอใช้อำนาจกิ๊กของทั่นเปาแห่งศาลครายโฟง
สั่งการให้คุมกำเนิดเหลือเพียงแค่ สองก้อพอค๊า
มีแถกมากจายากจนหง่ะ ดังนั้นนับจากวันนี้เปนต้นไป
แถกกก 2 กะลังดีค๊า

2.เรื่องที่อยากทำอีกเรื่องคือ อยากเป็นนักร้องสาว สวย
ผู้โด่งดัง อยู่ในวงคาราบาวหง่ะ กรี๊ดๆๆๆ สมัยสาวๆคลั่งไคล้
น้าแอ๊ดมั่กๆๆๆๆ อยากเปน โจ บาวแดง หง่ะ กรี๊ดๆๆๆๆ
อันนี้อยากทำจริงๆน๊า มะด้ายโม้เลย คงเท่ห์ดีพิลึก หุ หุ หุ
วี้ดดด วิ้ววว โจ บาวแดง แค่นึกก้อครึ้มหัวจายย แว้ววว

3.เรื่องที่อยากทำก่อนตายอีกเรื่องคือ อยากแต่งงาน
กับหนุ่มรูปหล่อ เสียงดี บ้านน๊อก บ้านนอก และรวยอารมณ์ขัน อย่าง น้าหมู พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ หง่ะ
ตอนไปเรียนเมืองนอกหง่ะ ก้อมีน้าหมูเนี่ยแหละที่มาร้องเพลงกรอกหู ทุกคืนหลังจากเลิกงานเป็นพนักงานเสริฟ
ที่ร้านอาหารไทย ช่วงรอรถเมล์กลับบ้าน น้าหมูก้อจะมาร้องเพลง กรอกหูมะเคยบ่น ไม่ว่าคุนป้าจะให้ร้องสักกี่รอบๆ หมูทำด้ายๆๆ ( จน walkman พัง น้าหมูก้อยังมะบ่น อิๆๆ )

4.อยากเลี้ยงหมาสวยๆๆ พันธุ์ฝรั่งมั่งหง่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บ๊อกเซอร์หง่ะ อยากเลี้ยงงมั่กๆๆๆ มันดูซกม๊กดี อะไรที่ดูซ๊ก ม๊ก ป้าช๊อบ ชอบ มะรู้เปนไร แต่ถ้าคิ๊กขุแบบ พู้ดเดิ้ล
หรือ ชิวาว่า มันไม่เร้าใจสักเท่าหร่ายน๊ะ อันนี้เปงฟามชอบส่วน
บุคลค๊า เจ้าของหมาน่ารักๆ ทั้งหลายอย่าโกรธน๊า
ทุกวันนี้หมาที่เลี้ยงอยู่ เจ็ดตัว เปนหมาที่เก็บมาจากวัดมั่ง
หมาขี้เรื้อนมั่ง ( รักษาแล้ว ) หมาข้างถนนมั่ง จนหมดงบประมาณ สนามหมา เพราะถ้ามากกว่านี้ประชากรหมาจะแออัด และกัดกันกระเจิง เคยขออนุญาติ อิลุงว่าขอซื้อบ๊อกเซอร์จั๊กตัว อิลุงตอบว่า โนวววว อินาฟด็อก หง่ะค๊า
แง แง อิลุงจายร้ายยย เค้าอยากมีบ็อกเซอร์หง่ะ

5.อันนี้เป็นกิเลส ส่วนตั๊ว ส่วนตัว อยากไปอิยิปต์ อยากไป
ดูสุสานฟาโรห์ อยากทำมัมมี่เปน อยากใช้ตะขอล้วงจมูกดึงสมอง ออกมาทางรูตะหมูก อยากทำน้ำหอมแบบอิยิปต์
โบราณเปน แบบที่ใช้ดอกตะบองเพชรทำ อยากหัดผสมยาพิษ อยากเป็น เบดูอิน อยากเกิดในยุคนั้น คุนป้าบ้ามากถึงขนาดที่ไม่ว่าหนังสืออะไรก้อแล้วที่มีเรื่องเกี่ยวกับ
ไอยคุปต์ นิดๆหน่อยๆๆ เปนต้องซื้อมาอ่าน หง่ะค๊า คลั่งไคล้จริงๆ อยากสัมผัสกระดาษปาปิรุสรุ่นสองพันปีก่อน
อยากรู้จักเทพเจ้าต่างๆๆให้หมดทุกองค์ เคยถึงขนาดลงทุนนั่งจดชื่อของเทพเจ้าต่างๆๆ เพื่อจะด้ายจำด้าย อะฮ้า ให้โม้เรื่องนี้ สามวันก้อมะจบแน่ๆๆ ไปต่อดีกว่าค๊า

6.อยากรวย อยากหาเงินเก่งแบบ บิลว เกท หง่ะ ถ้าคุนป้ารวยขนาดนั้นจะเอาเงินมาช่วยองค์การการกุศล ที่ขาดความช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการสำหรับเด็กๆ
ทั้งหลาย ข้อนี้แอบเนียนเปนคนดี จิ๊กนุงนาค๊า
แบบว่าอยากสร้างภาพหง่ะค๊า

7. แหะๆๆ กว่าจะมาถึงข้อนี้เริ่มรู้สึกเหนื่อย และตันแล้ว ขอพักแป๊บน่ะค๊า.....
เอ๊าะ อ๋อ นึกออกแล้วววว
อยากไปเรียนคลาสแด๊นซ ก๊ะ ครูเป็ด AF คงมัลล ดีพิลึก
เอ้า หนึ่ง สอง สาม สี่
ห้า โหะ เจะ แป๊ะ ยิ่งช่วงนี้มีเทรนเนอร์มาจากเกาหลีซะด้วย
ไปหัดโยกจั๊กนิด หวังว่ากระดูกข้อเข่าคงจะยังไม่เสื่อม
สภาพจนเกินไปนะค๊า อิๆๆ

8.โห เริ่มมะหนุกแว้วว คิดมะออกหง่ะ อ๋อๆๆ ด้ายอยู่ๆๆ
นึกด้ายแว้ววว อยากเปนเพื่อนซี้กับ
อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ มะรู้เขียนนามสกุลถูกมั้ย
ถ้าไม่ถูกก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยค๊า ค๊นอาไรเกิดมา
ช่างเขียนรูปเก่งเหมือน เป็นเทพบุตรผู้เสกสรร ปั้นแต่งงานศิลป์ คนอาไร ปากช่างจัดจ้านดีแต้ๆๆ คนอะไร ช่างบ้าทะลุฟ้าได้ขนาดนั้น คนอะไร ช่างโพดดด มัลล ก๊ะชีวิต คุนป้าอยากเปนเพื่อนซี้กะ อ.เฉลิมชัย เผื่อท่านโยนรูปงานเขียน
เก่าๆให้สักรูป สองรูป 555 แค่นี้ก้อรวยมะรู้เรื่องแล้ว รูปเขียนของอาจารย์ตกประมาณแค่ มะกี่ล้านบาทเองต่อรูป
อยากได้ๆๆๆ อิๆๆ

9.อยากจะเกิดเป็นชาวบ้านบางระจัน รุ่นเดียวกับนายจัน หนวดเขี้ยว แห๊ม !!พูดแล้วอยากจะวิ่งไปคว้าดาบมาฟาดฟันสู้รบ ซะเดี๋ยวนี้เลย อยากจะมีชื่อจารึกในประวัติศาสตร์
อำแดงโจ สู้จนตัวตายในสนามรบ อิๆๆ เวรี่ คูลล ไมค์ !!

10. ไชโย ข้อสุดท้ายแล้ววววว
อยากจะบอกเพื่อนๆๆในโลกไซเเบอร์ ทุกๆคนว่าขอบคุณมากค่ะ สำหรับมิตรภาพที่ล่องลอยมาตามสายเคเบิ้ล
ล่องลอยมากับจานดาวเทียม และล่องลอยมากับ
สายลมแสงแดด ขอบคุณจริงๆๆค่ะ

จากใจ คุนป้าซ่าส์ โซดาฉิงงงงงง



@ หมายเหตุ @

ผู้ใดที่ได้รับแถกกก ไปจากคุนป้าจะต้องปฎิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด กฎมีอยู่ว่าจะเขียนแบบมีสาระหรือไม่ก้อด้ายทั้งนี้ ทั้งนั้นต้องยืนอยู่บนพื้นฐานแห่งความโอเว่อร์
และขำๆ ห้ามซีเรียสและจริงจังโดยเด็ดขาด



@ รายนามผู้รับมรดก @

1. อิๆๆๆ จะใครล๊าถ้ามะช่าย ลุงแอ๊ดดดดด
มารับซะดีๆๆ อย่าให้คุนป้าต้องตามไปอาละวาด
ที่บ้านลุงน่ะค๊า

2. สมาชิกใหม่ของบ้านทรายทอง อิๆๆ
เชิญค๊า น้องบี be-oct4 มารับไปซะดีๆ เพื่อฉลองงานล้าง
เครื่อง อิๆๆ

3. เปิดไว้เผื่อใครอยากโดนแถกกก เสนอตัวดังๆๆ ได้นะค๊า เด๋วป้าจัดห้ายยย

ลาละค๊า โชคดีในการคิด สิบข้อแถกกก ขอบอกหลังจาก
ข้อห้าแล้วโพดดดด เหนื่อยเลยค๊า อิๆๆๆ




Scorpions - Wind o...




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 25 กรกฎาคม 2550 13:44:46 น.
Counter : 655 Pageviews.  

แฮรี่ พ๊อตเตอร์ เล่ม 7 ตอนที่ 34-36 จบ

บทที่ 34 the forest agian

ในที่สุดความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับสเนป ก็กระจ่าง แฮรี่ได้รู้ว่า สเนป เสี่ยงตายเพื่อช่วยดัมเบิลดอร์ และตัวเขา ด้วยชีวิต

ดัมเบิลดอร์ฝากความหวังไว้ที่เขา เด็กชายคนหนึ่ง หวังว่าเขาจะทำลายฮอร์ครุกทุกชิ้น แต่แฮรี่ ก็โง่เองเพราะฮอร์ครุกไม่ได้ผูกพันแค่เวอร์ดี้ แต่ยังรวมถึงตัวเขาด้วย แฮรี่ จะต้องเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อทำลาย ฮอร์ครุกทุกชิ้น เขาอิจฉาพ่อแม่และ ทุกคนที่ตายอย่างง่ายดาย

แต่ดัมเบิลดอร์ ก็คาดหวัดมากเกินไป เพราะ นากินียังมีชีวิตอยุ่ ถึงแม้แฮรี่ตายไปแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่ง ที่จะทำให้เวอร์ดี้ ยังอยู่ในโลกนี้ได้ หลังจากเขาตาย ใครจะฆ่ามันได้ เป็น รอน เฮอร์ นี่เองสาเหตุที่ ดัมเบิลดอร์ ต้องการให้ ทั้งสองอยู่เคียงข้างเขา เพื่อทำภารกิจให้เสร็จสิ้น

แฮรี่ตัดสินใจเด็ดขาด เขากลับมาที่ฮอลใหญ่ เจอเนวิล และฝากให้เนวิล บอกรอน หรือ เฮอร์ ให้ฆ่า นากินี

เนวิลรับปาก และบอกว่า ทุกคนพร้อมจะสู้ แฮรี่ ทำหน้าเศร้า คลุมผ้าคลุม แล้วเดินจากมา จนมาเจอจินนี่กำลังปลอบ เพื่อนอยู่ แฮรีอยากตะโกนบอกให้จินนี้รู้ว่าเขาอยู่ใกล้ๆ อยากให้เธอห้ามเขา พาเขากลับบ้าน แต่ฮอกวอต คือบ้านของเขา ที่แห่งเดียวที่เขา และ เวอร์ดี้ และสเนป นับเป็นบ้าน แฮรี่เดินจากมาก

ผ่านมาถึงกระท่อมของแฮกริด แฮรี่คิดถึงวันเก่า ๆ ทีรอนเคยอ๊วก ตัวทาก เฮอร์ ช่วยดูแลนอเบิรท (เหมือนลาไปตายจริง)

สุดท้ายแฮรี่ ก็เปิดลูกสนิชลูกแรกออก ทายซิ ใช่แล้ว เป็นยาชุบชีวิต ในที่สุด แฮรี่ก็ ได้ Death Master ครบสามแล้ว

ในทีสุดแฮรี่ก็เข้า ยานี้ไม่ใช่เพื่อพาคนที่ตายแล้วกลับมา แต่เพื่อพามาเจอต่างหาก แล้วก็รวมญาติ เจอทุกคนที่ตาย ไป พ่อแม่ ลูปิน ทุกคนยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ลูปิน ถามว่าเขาตายยังไง แฮรีบอกตายหลังจากได้ลูกชาย

จะมีแฮรี่คนเดียวที่เห็นพวกเขา เหมือนมาเสริมพลังให้แฮรี่ แฮรี่ เดินมาเจอ โดโรฮอฟ กับ ยักซี ที่เหมือนจะรู้สึกถึง ผ้าคลุม แต่ผ่านไป พวกเขาขี่ อาราก็อก กลับมาแจ้งข่าวกับเวอรดีว่าตามแฮรี่ไม่เจอ

แต่เวอร์ดี้มั่นใจว่ายังไง แฮรี่ก็ต้องมา

แล้วแฮรี่ก็ทิ้งผ้าคลุม ปรากฏตัวขึ้นกลางวง ทุกคนตกใจ แฮรี่รู้ว่าเวอร์ดี้ ต้องเสกคาถาป้องกันนากินีไว้ ถ้าเขาชีไม้ไปที่มันต้องโดนขัดขวางแน่

ทันใดนั้น แฮกริดก็เข้ามาห้าม แต่โดน ผุ้เสพความตายสะกัดไว้

แฮรี่เผชิญหน้ากับ เวอร์ดี้

แฮรี พอตเตอร์ เด็กชายผู้รอดชีวิต เวอร์ดี้เรียกเขา

ทุกอย่างหยุดนิ่ง

แฮรี นึกถึงจีนนี้ สายตา ของเธอ ริมฝีปากของเธอยามที่พวกเขา

แฮรี่ต้องตัดสินใจ ณ เดี๋ยวนั้น ก่อนที่ความกลัว จะครอบงำเขาเสียก่อน เขาเห็นปากขยับ และ แสงสีเขียวพุ่งออกมา ก่อนที่ทุกอย่างจะ เลือนหายไป

จากคุณ : kwanmanee - [ 21 ก.ค. 50 03:48:31 ]

มีแปลไว้สองคนค่ะ

บทที่ 35 โอ๊ย บีบหัวใจอ่ะ

แฮรี่นอนคว่ำหน้า เขาแน่ใจว่าอยู่คนเดียวแน่ๆ ไม่แน่ใจว่านี่ยังเป็นตัวเขารึเปล่า จนครู่ใหญ่แฮรี่ ก็เริ่มได้สติ ว่าเขาเปลือยอยุ่ (ว๊าว) เขาเริ่มเช็คว่ามองเห็นไหม ขยับได้ แฮรี่ลุกขึ้น เริ่มเขินที่ตัวเองโป๊ มองไปรอบ ๆ คาดว่าจะอยู่ในห้องต้องประสงค์ เผอิญเจอเสื้อคลุมก็เลยหยิบมาใส่

แฮรีพยายามหาทางกลับไปที่ห้องโถงใหญ่ เสียงที่เหมือนเด็กร้อง ตั้งแต่เขาเริ่มได้สติ มาจาก เด็กเปลือยคน หนึ่งที่เดินเข้ามาหาเขา นันคือ ดัมเบิลดอร์

แฮรี่ คิดว่าตัวเองตายไปแล้ว เพราะเขาไม่ได้ป้องกันตัว แต่ยอมให้เวอร์ดี้ ฆ่าเขา

ดัมเบิลดอร์บอกว่า เมื่อเวอร์ดี้ ฆ่า แฮรี่ ทำให้ส่วนนึงของเวอร์ดี้ที่อยู่ในตัวแฮรี่ ถูกทำลายไป เพราะ เมือ่เวอร์ดี้กลับมามีร่างใหม่ (เล่มสี่) ต้องใช้เลือดของแฮรี่ ทำให้ เวทย์มนต์ ที่แม่แฮรี่ทำไว้ เข้าไปอยู่ในตัว เวอร์ดี้ ด้วย และ ในคืนที่เวอร์ดี้โดนเวทย์มนต์ ก็ทำให้แฮรี่กลายเป็นฮอร์ครุกที่ เจ็ด โดยไม่รู้ตัว

แฮรี่ ถามว่า ดัมเบิลดอร์ รุ้มาตลอดหรือ แต่ป๋าบอกว่าเดาเอา

ในที่สุดดัมเบิลดอร์ก็เล่าให้แฮรี่ฟัง เรื่องที่ผ่านมา ทั้งเรื่อง แม่ น้องชายน้องสาว ที่ อาเบอร์ฟาท เล่าให้ฟัง เป็นเรื่องจริง ดัมเบิลดอร์ สนใจใฝ่รู้มาก จนละเลย หน้าที่และความรับผิดชอบต่อ ครอบครัว ยิ่งมา เป็นเพื่อน กับ Gringenwald ที่บ้าเรื่อง Deaht Hallow ทำให้ทั้งสองเฝ้าตามหา ของทั้งสามชิ้น และเรื่องราวของสามพี่น้องก็จริง

จนเมื่อน้องสาวดัมเบิลดอร์ ตายยิ่งทำให้ ดัมเบิลดอร์ อยากรวบรวมมากขึ้นเพื่อพา แม่และน้องสาวกลับมา

ดัมเบิลดอร์ บอกว่า ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะสมที่จะครอบครอง HALLOW สำหรับ ตัวเขาเป็นเจ้าของได้ เพียง Elder Wan แต่แฮรี่ มีความเหมาะสม เพราะ เกี่ยวข้องกับความตาย ทั้งเป็นฮอร์ครุก และ สืบต่อ ผ้าคลุม ทางสายเลือด อีกทั้ง ต้องฟื้นคืนชีพ (มาฆ่าเวอร์ดี้ไง)

ดัมเบิลดอร์คาดว่า เวอร์ดี้รู้แค่ ไม้จะทำให้ เขาเพิ่งพลังอำนาจ ทำให้เวอร์ดี้ตามล่าแต่ ไม้ แต่ไม่รุ้วัตถุประสงค์ที่แท้จริง ทำให้ ดัม วางแผน ให้เวอร์ดี้ เอาไม้ไป โดยไม่รู้ว่า เขาวางแผน ให้ สเนป ต่างหากที่เป็นเจ้าของไม้ที่แท้จริง เพื่อกำจัด เวอร์ดี้ แต่ไม่สำเร็จ

สุดท้าย ดัมเบิลดอร์ บอกให้แฮรี่รู้ว่า สามารถเลือกที่จะกลับไป หรืออยู่ ตายกับป๋าที่นี่ก็ได้ ความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัว

จากคุณ : kwanmanee - [ 21 ก.ค. 50 04:27:54 ]
35 สถานี คิงส์ ครอส

แฮรี่หมดสติในที่ที่เงียบและเปลี่ยว ระนะเวลาเท่าใดไม่แน่ชัด แล้ว แฮรี่ค่อยพบว่าตนเองอยู่ที่กว้างมากๆ และไปพบ อัลบัส ดัมบี้ ค่อยๆเดินมาหา "แฮรี่ เด็กมหัสจรรย์ เด็กกล้าหาญ แฮรี่เดินคุยกันมั๊ย"

"ง่า จารย์ตายแล้วนี่" แฮรี่
"ช่าย" ดัมบี้
งั้น ผมก็ตายแล้วสิ"
"ฉันไม่คิดเช่นนั้น" ดัมบี้
"ก็ผมให้ วูดดี้ฆ่า แล้วนะ เพื่อทำลายบางส่วนของ...ในผม "
"...สิ่งนั้นได้ถูกทำลายหมดแล้ว" ( ประมานว่าถ้าแฮรี่ไม่ตาย โวลดี้ก็ไม่ตาย แฮรี่จึงต้องตาย แต่มีหินคืนชีพเพื่อนจำได้เปล่า วูดดี้ม่ายสนใจเพราะมัวใส่ใจฮอคครุก)
แฮรี่เป็นฮอคครุก อันที่7 ที่วูดดี้ไม่ได้ตั้งใจทำ แล้วว่า ที่วูดดี้เอาเลือดแฮรี่มาบูชายัญตอนกลับคืนร่างมนุษย์ มาใช้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองเป็นเรื่องที่ผิดพลาด ทำให้ไม้กายสิทธิ์ของแฮรี่มีฤทธิ์มากกว่าของวูดดี้

แฮรี่แย้งว่า เฮอทำไม้ของผมหัก และ วูดดี้ก็ฆ่าผม ด้วย" แต่ดัมบี้บอก ว่าวูดดี้ล้มเหลว และแฮรี่จะชนะไม้กายสิทธิ์ แล้วดัมบี้ก็เล่าเรื่องที่เขาแกล้งยอมตายให้แฮรี่ฟัง และดัมบี้บอกแฮรี่ว่าอยากลัวความตาย แต่จงสังเวชผูที่มีชีวิตอยู่โดยปราศจากความรัก By returning, you may ensure that fewer souls are maimed, fewer families are torn apart. If that seems to you a worthy goal" ดังนั้นแฮรี่เลยมีกำลังใจกลับไปจัดการวูดดี้

เล่าให้ฟังสั้น ไปนอนแล้วนะง่วง

แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 50 04:19:21

จากคุณ : กงจู้ต้าถัง - [ 21 ก.ค. 50 04:17:21 ]

บทที่ 36 – The Flaw in The Paln
(ไม่ค่อยชอบบทสุดท้ายต่อจากนี้เลยค่ะ ช่วยแปลบทนี้ดีกว่า) .. ขอแก้สิ่งที่หายไปและที่ผิดค่ะ

แฮรี่รู้สึกตัวว่าเขากลับมาอยู่ในป่าอีกครั้ง และคาดว่าจะได้ยินเสียงพวกผู้เสพความตายตะโกนอย่างยินดีในการตายของเขาแต่กลับได้ยินเสียงฝีเท้าหนึ่งก้าวมาอย่างเร่งรีบและเรียกชื่อโวลเดอมอร์ เสียงนั้นคือเบลลาทริกซ์นั่นเอง แฮรี่รู้ว่าไม้กายสิทธิ์ของตัวเองยังอยู่ดีใต้เสื้อคลุมของเขาและมั่นใจว่าผ้าคลุมล่องหนต้องอยู่ที่ไหนซักแห่งใกล้ๆกันนี้
แฮรี่แอบเปิดตาขึ้นนิดหนึ่ง เขาเห็นโวลเดอมอร์พูดกับเบลลาทริกซ์ว่า "จะต้องทำแน่”พวกผู้เสพความตายต่างเข้ามารุมล้อมโวลเดอมอร์และแฮรี่เห็นโวลเดอมอร์ทรุดลงไปอยู่ที่พื้น เกิดอะไรบางอย่างขึ้นเมื่อตอนที่เขาเสกคำสาปพิฆาต? ทั้งเขาและโวลเดอมอร์ต่างก็ล้มลงทั้งคู่และตอนนี้ก็ได้ฟื้นขึ้นมาทั้งคู่หรือ? เบลลาทริซ์ถามว่าแฮรี่ตายหรือยัง โวลเดอมอร์จึงสั่งให้ใครคนหนึ่งเข้าไปตรวจดู แฮรี่พบว่าเขาถูกสัมผัสด้วยมือที่นิ่มนวลของผู้หญิงและหล่อนสัมผัสได้ถึงหัวใจที่กำลังเต้นของเขา แต่หล่อนกลับกระซิบถามด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เดรโกยังมีชีวิตอยู่ไหม เขาอยู่ที่ปราสาทหรือเปล่า” และแฮรี่ตอบเบาๆว่า “อยู่” ผู้หญิงคนนั้นคือนาร์ซิสซานั่นเอง และนาร์ซิสซาได้ลุกขึ้นตอบกับทุกคนว่า “เขาตายแล้ว” พวกผู้เสพความตายพากันดีใจยกใหญ่ และเอาร่างของแฮรี่โยนขึ้นๆลงๆ จากนั้นโวลเดอมอร์ก็ให้ทุกคนมุ่งหน้าไปยังปราสาทโดยให้แฮกริดเป็นคนแบกแฮรี่ไป โวลเดอมอร์บอกกับทุกคนที่ปราสาทว่าแฮรี่ตายแล้ว ตายโดยการวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ทุกคนมองร่างที่นิ่งไม่ไหวติงของแฮรี่ที่ตอนนี้นอนอยู่ที่พื้น แฮรี่ได้ยินเสียงตะโกนอย่างไม่เชื่อและเสียงร้องไห้ของรอน เฮอร์ไมโอนี่และจินนี่ท่ามกลางเสียงของคนอื่นๆด้วย
โวลเดอมอร์บอกให้ทุกคนเงียบแล้วบอกว่าแฮรี่ตายยังงัยอีกครั้ง ขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั่นเองก็มีใครบางคนแหวกวงล้อมของคนอื่นๆในปราสาทออกมาประจันหน้ากับเขา เบลลาทริกซ์เป็นคนบอกว่านั่นคือเนวิล ลองบอตท่อม ลูกชายของ Aurors โวลเดอมอร์จึงบอกว่าเขาจำได้แล้ว และพูดกับเนวิลว่าเขาคือพวกเลือดบริสุทธิ์ไม่ใช่หรือและเกลี้ยกล่อมให้เนวิลมาเป็นผู้เสพความตาย แต่เนวิลยืนหยัดในทางตรงข้ามและพูดคำว่า กองทัพของดัมเบิลดอร์ ซึ่งทำให้ทุกคนส่งเสียงขึ้นมาอย่างมีกำลังใจอีกครั้ง โวลเดอมอร์บอกว่าในเมื่อนี่คือทางเลือกของเนวิล เขาก็จะกลับไปใช้วิธีเดิมของเขา โวลเดอมอร์ขยับไม้หมวกคัดสรรปรากฏขึ้นมา และบอกว่าจะไม่มีบ้านอื่นเว้นแต่สลิธีริน เขาขยับไม้ไปที่เนวิล เนวิลถูกสะกดนิ่ง โวลเดอมอร์วางหมวกลงบนศีรษะของเนวิล พวกผู้เสพความตายขยับไม้เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในฮอกวอร์ต โวลเดอมอร์พูดว่าเนวิลจะเป็นตัวอย่างว่าคนที่ต่อต้านเขาจะเป็นเช่นไร โวลเดอมอร์ขยับไม้ ไฟลุกท่วมหมวกและเนวิล เกิดเสียงกรีดร้องไปทั่ว
แฮรี่ตัดสินใจว่าเขาทนไม่ได้แล้ว
จากนั้นมีหลายสิ่งเกิดขึ้นพร้อมกัน
เกิดเสียงคนหลายร้อย เหมือนอยู่ในสงคราม กอร์ปถูกยักษ์ของโวลเดอร์มอร์โจมตี เกิดความโกลาหนไปทั่ว แฮรี่เอาผ้าคลุมล่องหนออกมาคลุมตัวเองไว้และแทบจะพร้อมๆกันนั้น เขาเห็นเนวิลขยับตัว เนวิลทำลายคำสาปของโวลเดอมอร์ได้ หมวกคัดสรรตกลงจากศีรษะของเนวิลและแฮรี่เห็นเขาถืออะไรบางอย่างที่มีสีเงินและมีทับทิมสีแดงติดอยู่ ไม่มีใครสามารถได้ยินเสียงของดาบท่ามกลางการต่อสู้อย่างโกลาหน เพียงขยับตัวครั้งเดียว เนวิลก็ใช้ดาบของก็อดดริก กริฟฟินดอร์ฟันหัวของงูนากินีขาดลอยกระเด็นไปในอากาศ โวลเดอมอร์ส่งเสียงกรีดร้องอย่างโกรธแค้นแต่ไม่มีใครได้ยิน แฮรี่เสกคาถาโล่ป้องกันระหว่างเนวิลกับโวลเดอมอร์
แฮกริดสังเกตว่าศพของแฮรี่หายไป และตะโกนเรียกชื่อแฮรี่ เกิดความโกลาหนขึ้นมาอีกครั้ง เซนทอร์เข้าโจมตีพวกผู้เสพความตาย บัคบีคกับกอร์ปสู้กับพวกยักษ์ แฮรี่เห็นว่าการต่อสู้ค่อยๆเคลื่อนเข้าไปทางโถงทางเข้า แฮรี่ตามเข้าไปและพยายามมองหาโวลเดอมอร์และเห็นเขากำลังมุ่งหน้าไปทางห้องโถงใหญ่ กำลังเสกคาถาและสั่งการพวกลูกน้องคนอื่นๆของเขาที่ตามเข้ามา แฮรี่เสกคาถาโล่ห์ป้องกัน เชมัส ฟินิกันและฮันนา แอบบอต เพิ่งจะผ่านเขาเข้าไป แฮรี่เห็นชาลี วีสลีย์ ฮอเรซ สลักฮอร์น พวกครอบครัวและเพื่อนๆของนักเรียนฮอกวอร์ต พวกเจ้าของร้านและคนที่อาศัยอยู่ในฮอกส์มีด และเขาเห็นเอลฟ์ประจำบ้านปรากฏขึ้นที่ทางเข้าห้องโถง ในนั้นมีเอลฟ์ตัวหนึ่งสวมล็อกเก็ตของเรกูลัส แบล็ค ครีเชอร์นั่นเอง มันร้องตะโกนให้สู้ ในนามของเรกูรัส นายของมัน
แฮรี่ตามเข้าไปในห้องโถงใหญ่และพบว่าโวลเดอมอร์อยู่ตรงศูนย์กลางของการต่อสู้ แฮรี่พยายามเข้าไปให้ถึง มีคนเข้ามาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเห็นจอร์จและลี จอร์ดันสู้อยู่กับ Yaxley โดโลฮอฟกำลังเพลี่ยงพล้ำฟลิตวิก แมคแนร์ถูกแฮกริดโยนข้ามห้องโถง รอนกับเนวิลช่วยกันเอาชนะเกรย์แบ็ก ลูเซียสกับนาร์ซิสซาไม่ต่อสู้กับใครแต่วิ่งร้องเรียกหาลูกชายของพวกเขา
ตอนนี้โวลเดอมอร์รับมือกับ มักกอนนากัล สลักซ์ฮอร์นและคิงสลีย์ เบลลาทริกซ์สู้อยู่กับเฮอร์ไมโอนี่ ลูน่า จินนี่ เขาเห็นคำสาปพิฆาตพลาดจากจินนี่ไปนิดเดียวเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจหันไปทางเบลลาทริกซ์ก่อน แต่นางวีสลีย์เข้ามาแทนทั้งสามคนและสู้กับเบลลาทริกซ์อย่างดุเดือด และเริ่มมีเด็กคนอื่นๆออกมาช่วย เธอบอกให้พวกเขาถอยไป นางวีสลีย์ฆ่าเบลลาทริกซ์ได้ โวลเดอมอร์กรีดร้อง และโกรธยิ่งกว่าเดิม สามคนที่สู้อยู่กับโวลเดอมอร์เริ่มล้าแล้วและถอยออกมา โวลเดอมอร์หันไม้กายสิทธิ์มาทางนางวีสลีย์ แฮรี่เสกคาถา “โพรเทโก้!” เกิดโล่ขึ้นระหว่างห้องโถงคั่นกลางเอาไว้ แฮรี่เอาผ้าคลุมออก เกิดเสียงตะโกนอย่างดีใจที่รู้ว่าแฮรี่ยังไม่ตาย โวลเดอมอร์กับแฮรี่ประจันหน้ากันอยู่กลางวงกลมที่ล้อมรอบโดยคนที่เหลือ เขาตะโกนบอกทุกคนว่าอย่าเข้ามาและเขาต้องทำมันพียงคนเดียวเท่านั้น
(ตรงนี้ขอสรุป อาจทำให้ขาดอรรถรสไปบ้าง) โวลเดอมอร์ยังคิดว่าเขาสามารถเอาชนะแฮรี่ได้ เพราะเขามี Elder wand แต่แฮรี่ก็ค่อยๆเผยความลับที่โวลเดอมอร์ไม่รู้ เรื่องการตายของดัมเบิลดอร์ เรื่องที่สเนปเป็นสายให้ดัมเบิลดอร์ เรื่องแม่ของเขากับสเนป และบอกว่าโวลเดอมอร์กำลังจะทำผิดอีกครั้งหากยืนยันจะสู้กับเขา ตอนนี้เขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่ตายได้เท่านั้น และเนื่องจากการตายของดัมเบิลดอร์ซึ่งเป็นเจ้าของ Elder Wand เป็นการตายอย่างสมัครใจโดยให้สเนปเป็นคนทำ ดังนั้นสเนปไม่ใช่คนที่เป็นเจ้าของไม้คนต่อมา แต่เป็นเดรโก มัลฟอย! เพราะเดรโกใช้คาถากับดัมเบิลดอร์เป็นคนสุดท้ายก่อนสเนปและเขาทำสำเร็จ แม้จะไม่ได้เป็นคนฆ่าก็ตาม แฮรี่ย้ำกับโวลเดอมอร์ว่าเขารู้จากโอลิแวนเดอร์แล้วไม่ใช่หรือว่าไม้ต่างหากที่เลือกผู้ใช้ (บางครั้งแฮรี่เรียกโวลเดอมอร์ว่า ทอม และ ริดเดิ้ล ด้วย)
โวลเดอมอร์ช็อกแต่รีบพูดว่าถึงยังงัยเขาก็สามารถเอาชนะแฮรี่ได้ด้วยความสามารถของเขาเองโดยไม่ต้องอาศัยพลังอำนาจจากไม้ แต่แฮรี่บอกว่าโวลเดอมอร์คิดผิดแล้ว เพราะไม้อันที่เขาถืออยู่คือไม้ของเดรโก ซึ่งเขาเอาชนะมาได้ ถึงตอนนี้แฮรี่รู้สึกได้ว่าสายตาของทุกคนในห้องโถงจับจ้องมาที่เขา แฮรี่พูดต่อว่า โวลเดอมอร์คิดหรือไม่ว่าคราวนี้ไม้ที่เขาถือจะรู้ไหมว่าที่กำลังเผชิญหน้าอยู่คือคนที่เอาชนะเจ้านายเก่าของมันได้ และตอนนี้แฮรี่คือนายใหม่ของ Elder Wand! ทั้งสองคนตะโกนพร้อมกัน "อวาดา เคดฟรา” “เอ๊กซ์เปลลิอามัส”
เกิดระเบิดลูกใหญ่และ Elder Wand ปลิวไปในอากาศ แฮรี่กระโดดคว้าไว้ได้ ทอม ริดเดิ้ลปลิวไป นิ่งสนิท ตายด้วยคาถาของตนเองที่สะท้อนกลับ …..

(ตรงนี้ก็ขอสรุปคร่าวๆ) ทุกคนต่างโห่ร้องอย่างดีใจ รอนกับเฮอร์ไมโอนี่เข้ามากอดแฮรี่ รวมทั้งคนอื่นๆที่ต่างก็รุมล้อมเข้ามา พวกผู้เสพความตายที่เหลือถ้าไม่หนีไปก็โดนจับ (ตอนนี้คิงสลีย์รักษาการแทนในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนต์ ) พวกเขายกร่างของทอม ริดเดิ้ล เข้ามารวมกับผู้เสียชีวิตคนอื่นๆ มีลูปิน ท็องส์ เฟร็ด คอลิน และคนอื่นๆอีกราว 50 คน ทุกคนรวมทั้งเซนทอร์ กอร์ป พวกผี นั่งรวมกันโดยไม่แยกบ้าน แฮรี่คว้าผ้าคลุมล่องหนมาสวม เขามองไปที่จินนี่ซึ่งอยู่กับนางวีสลีย์ แล้วเดินไปสะกิดรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ให้ออกไปข้างนอกด้วยกัน
พวกเขาขึ้นไปที่ห้องอาจารย์ใหญ่ และพูดคุยกับรูปภาพอาจารย์คนใหญ่ก่อนๆรวมถึงดัมเบิลดอร์ด้วย สุดท้ายแฮรี่ตัดสินใจจะไม่เก็บ Elder Wand ไว้ เขาเสกคาถา “รีแพโร” กับไม้เดิมของตัวเองที่อยู่ในสภาพ “ซ่อมไม่ได้อีกแล้ว” แต่มันทำได้ ไม้กายสิทธิ์ของแฮรี่กลับมาดีเหมือนเดิม และเขาบอกว่าจะเอา Elder Wand ไปเก็บไว้ที่เดิม ดัมเบิลดอร์ในรูปภาพยิ้มให้แฮรี่ พวกเขายิ้มให้กัน


แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 50 08:53:30

จากคุณ : spring rain - [ 21 ก.ค. 50 05:57:47 ]


//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5630761/A5630761.html

บทส่งท้าย

มาต่อบท EPILOGUE NINETEEN YEAR LATER ให้คับ (หากผิดพลาดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะคับ ปะกิตไม่ได้แข็งแรงเท่าไหร่)

19 ปีต่อมา เป็นเรื่องตอนที่แฮรี่กับจินนี่กำลังจะไปส่งลูกๆขึ้นรถไฟไปฮอกวอร์ต แฮรี่กับจินนี่มีลูกด้วยกัน 3 คน คนโตชื่อเจมส์ คนรองชื่ออัลบัส เซเวอรัส คนเล็กชื่อลิลี่
โดยปีนี้เป็นปีแรกที่คนรองจะได้ไปเรียนที่ฮอกวอร์ต ระหว่างทางเจมส์กับอัลบัสก้อมีเถียงกันนิดหน่อย เพราะเจมส์ดันไปบอกว่าอัลบัสอาจจะได้อยู่สลิธิรินก้อได้
แต่อัลบัสไม่ต้องการอยู่สลิธิริน จนจินนี่ต้องห้ามเจมส์ไม่ให้แหย่น้อง เมื่อครอบครัวพอตเตอร์ทั้ง 5 เดินทางมาถึงสถานี เจมส์ที่เป็นคนโตก้อวิ่งผ่านกำแพงไปยังชานชาลาเป็นคนแรก
พอเจมส์ไปแล้ว อัลบัสก้อถามแฮรี่กับจินนี่ว่าจะเขียนจดหมายหาเค้าใช่มั้ย จินนี่จึงตอบว่า "ทุกวันถ้าลูกต้องการ" แต่อัลบัสก้อยังไม่เชื่อเถียงแม่ว่า "คนส่วนใหญ่ได้รับจดหมายจากบ้านแค่เดือนละครั้ง" แต่จินนี่ก้อบอกไปว่า ปีที่แล้วเธอเขียนหาเจมส์(พี่เอ๋ง)สัปดาห์ละ 3 ครั้ง จากนั้นทุกคนก้อวิ่งผ่านกำแพงไป ที่ชานชาลาครอบครัวพอตเตอร์ทั้ง 4 คน(เจมส์วิ่งหายไปไหนไม่รุ - -") ได้พบกับ รอน นู๋เฮอร์ และลูกๆ 2 คน ชื่อ Roses กับ Hugo พอเจอกันปุ๊บรอนก้อบ่นกับแฮรี่เรื่องใบขับขี่ของมักเกิ้ล รอนบ่นว่า "เจ๊เฮอร์(ไม่นู๋แล้ว) ไม่เชื่อว่ารอนจะสอบใบขับขี่ผ่านโดยที่ไม่ได้ใช้เวทย์ช่วย" เจ๊เฮอร์แอบได้ยินก้อเลยรีบบอกว่า "ป่าวนะ ชั้นเชื่อเทอต่างหาก" แล้วรอนก้อแอบกระซิบบอกแฮรี่ว่า "จิงๆแล้วตูใช้ว่ะ" แล้วพ่อๆก้อช่วยกันยกของขึ้นรถไฟ ระหว่างนั้นลูกๆก้อคุยกันว่าตัวเองจะได้อยู่บ้านไหนตอนเข้าฮอกวอร์ตแล้ว รอนเลยบอกลูกๆว่า "ถ้าลูกไม่ได้อยู่กริฟฟินดอร์ เราจะตัดลูกออกจากกองมรดก" เจ๊เฮอร์กับจินนี่เลยพร้อมใจกันเบรกรอน แล้วบอกลูกๆว่า "พ่อมันพูดเล่นน่ะลูก"

ซักพักก้อเห็นมัลฟอยยืนอยู่กับภรรยาและลูกชาย (มีบรรยายตัวลูกชายไว้ว่าลอกแบบมาจากมัลฟอยได้เหมือนพอๆกับที่ อัลบัสลอกแบบมาจากแฮรี่) พอมัลฟอยหันมาเห็นกลุ่มของแฮรี่

เฮียแกก้อพยักหน้าให้ยึกนึงแล้วหันกลับไปคืน (คงความหยิ่งไว้อย่างเต็มเปี่ยมจิงๆไอ้หมอนี่) รอนสั่ง Rosie ว่าต้องสอบชนะ Scopius(ชื่อลูกชายมัลฟอย) ให้ได้ทุกครั้งไป แล้วก้อ

ขอบคุณพระเจ้าที่ลูกคนนี้ได้สมองแม่มา (รู้ตัวด้วยนะนี่) เจ๊เฮอร์เลยดุรอนว่าอย่ายุให้เด็กๆเป็นศัตรูกันตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าเรียนสิ รอนก้อเลย "ขอโต๊ดก๊าบ" แต่ก้อยังไม่วายเสี้ยมลูกสาว

ว่า "อย่าไปเป็นมิตรกับหมอนั่นนัก(ลูกมัลฟอย) ปู่ของลูกจะไม่อภัยให้ลูกแน่ๆถ้าลูกแต่งงานกับพวกเลือดบริสุทธิ์ "(555+)

จากนั้นเจมส์ก้อกลับมาอีกครั้ง แล้วก้อบอกว่าเจอ Teddy (ลูกของลูปิน) ***ช่วงนี้อ่านไม่ค่อยเข้าใจอ่ะคับ ฝากเซียนปะกิตช่วยทีนะคับ ***
เข้าใจว่าเจมส์ไปเห็นเทดดี้กำลังจูบกับใครซักคนอยู่ ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเจมส์ แล้วบอกว่าถ้าเขาแต่งงานกันก้อจะได้เป็นครอบครัวเดียวกัน รู้สึกว่าเจมส์จะกระตือรือร้นมากที่จะ

ชวนเทดดี้มาอยู่ด้วย แล้วก้อยอมแชร์ห้องกับอัลและเทดดี้ แต่แฮรี่ก้อเบรคว่า "เขาจะยอมให้เจมส์กับอัลอยู่ห้องเดียวกันก้อต่อเมื่อเขาต้องการให้บ้านแตกนั่นแหละ" จากนั้นจินนี่ก้อ

ฝากความคิดถึงไปถึงเนวิลล์ที่ตอนนี้เป็นอาจารย์สอนวิชาสมุนไพรที่ฮอกวอร์ต จากนั้นพ่อแม่ลูก ก้อกอดจูบร่ำลากัน แฮรี่ก้อสั่งเสียกะอัลบัสว่า อย่าลืมนัดที่แฮกริดชวนไปดื่มชาศุกร์หน้า

อย่าไปวุ่นวายกับพีพฟ์(ผีจอมกวน) อย่าไปสู้กับใครโดยที่ยังไม่ได้เรียนรู้วิธีการสู้ อัลบัสที่ยังกังวลเรื่องบ้าน ก้อกระซิบถามแฮรี่ว่า "จะเป็นยังไงถ้าผมได้อยู่สริธิริน" แฮรี่ก้อย่อตัวลง

บอกกับอัลบัสโดยที่มีจินนี่แอบได้ยินว่า "อัลบัส เซเวอรัส ชื่อของลูกถูกตั้งขึ้นมาจากชื่อของอาจารย์ใหญ่ 2 คนของฮอกวอร์ต หนึ่งในนั้นเป็นพวกสริธิริน และเขาคนนั้นก้อเป็นผู้ชาย

ที่มีความกล้าหาญที่สุดที่พ่อเคยรู้จัก ถ้าเป็นอย่างนั้นสริธิรินก้อจะได้นักเรียนที่ยอดเยี่ยมเพิ่มอีกคน มันก้อไม่เห็นเป็นอะไร แต่ถ้าลูกต้องการ ลูกเลือกเองได้ว่าจะอยู่กริฟฟินดอร์ หมวกคัดสรรจะเอาวิถีทางที่ตัวลูกเลือกไปพิจารณาด้วย"
"จริงเหรอคับพ่อ" อัลบัสถามอย่างมีความหวัง "มันทำแบบนี้กับพ่อน่ะ" แฮรี่ว่า จากนั้นลูกๆก้อขึ้นรถไฟ ก่อนที่รถไฟจะออกนั้น

อัลบัสกับโรส ชะเง้อมองออกมานอกหน้าต่าง แล้วสังเกตเห็นว่ามีคนจ้องมาทางพวกเขามากมาย ก้อเลยออกปากถาม รอนเลยได้ปล่อยมุขสุดท้าย(กลัวแปลแล้วไม่ฮา) "ก้อแบบว่าคนมันดังอ่ะนะ" ("Don't let it worry you," said Ron. "It's me, I'm extremely famous.) เด็กๆได้ยินเข้าก้อหัวเราะ แล้วรถไฟก้อค่อยๆเคลื่อนตัว พวกแฮรี่โบกมือลาลูกๆ จนลิบตา
"เขาจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ย" จินนี่ถาม แฮรี่เอามือไปจับที่แผลเป็นแล้วคอบจินนี่ว่า "ผมรู้ เขาไม่เป็นไรหรอก" แผลเป็นนั่นไม่ได้ทำให้แฮรี่เจ็บมา 19 ปีแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยดี


จากคุณ : ma_moon - [ 21 ก.ค. 50 06:51:33 ]

//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5630761/A5630761.html

คอมเม้นท์เด็ดๆ

ความคิดเห็นที่ 229

เข้ามาขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกน้ำใจงามทุกท่านที่ช่วยกันย่อเรื่องให้เหล่ามักเกิ้ลผู้ที่อดรนทนรอฉบับภาษาไทยไม่ไหวได้อ่านกันนะครับ

( ขอขอบคุณมากๆเลยโดยเฉพาะคุณบีจัง ที่นำขบวนมาแต่แรก ร่วมสิบกว่าตอน )

ผมแวะเข้ามาหาข้อมูลเรื่องหนังสือที่เพิ่งออกก็เลยได้รู้เรื่องหมดเลย 555
( มิน่าว่าทำไมลูกสาว 2 คนไม่แวะเข้า 1000 ทิปเลยช่วงนี้คงเพราะกลัวเจอสปอยล์นี่เอง )

ส่วนผมชอบครับชอบ

แต่อย่างไรก็คงต้องซื้อฉบับแปลของนานมี มาเสพอรรถรสแบบเต็มๆอีกครั้งอยู่แล้วเพราะซื้อมาทุกเล่ม



เท่าที่อ่านเพื่อนๆสมาชิกสรุปเรื่องให้อ่านกันนี่ต้องยอมรับคุณ JK เลยนะครับว่าเป็นสุดยอดนักเขียนคนนึงในประวัติศาสตร์โลก
( ผมว่าอีก 100 ปีหนังสือชุดนี้ก็ยังมีคนอ่านและสะสม ประมาณว่าเป็นวรรณกรรมคลาสสิคในโลกอนาคต ไม่ด้อยไปกว่าโรอัลดาห์ล ในยุคนี้ )

ทั้ง 7 เล่มมีส่วนคาบเกี่ยว - ทาบซ้อน - และซับพล็อทมากมายมหาศาล

ส่วนตัวผมประทับใจกับเรื่องราวของสเนปมากมายครับ


-ลิลลี่เป็นคนดีที่แท้ คือดีทั้งความคิดและจิตใจ ( แฮรี่ได้ส่วนนี้ของแม่มาเต็มๆ )
คนที่ดีเพียบพร้อมเทียบเท่ากับลิลลี่ในเรื่องก็เห็นจะมีเฮอร์ไมโอนี่น่ะครับที่ใกล้เคียง

-เจมส์ กับ ซิเรียส ก็ดีนะครับแต่ดีเพราะทัศนคติดี เลือกที่จะอยู่ฝ่ายดี มีความกล้าหาญและเสียสละ
ทว่าส่วนตัวผมแล้วยังเห็นว่าเป็นความดีที่เห็นแก่ตัว เป็นความดีที่มองจากมุมของตัวเอง

-และที่ผมอึ้งก็คือสเนป

ไม่ได้อึ้งเพราะตอนจบสเนปเป็นฝ่ายดีหรอกครับ
( อันนี้เดาได้ตั้งแต่เล่มก่อนๆหน้านี้แล้ว )

แต่อึ้งเพราะฝีมือในการคลี่คลายเรื่องราวของ JK

สเนปหลงใหลศาสตร์มืดแน่นอนและมีทัศนคติที่ฝักใฝ่ความชั่ว

สเนปพร้อมทุกอย่างที่จะเป็นคนชั่วอย่างสมบูรณ์แบบ

แต่สุดท้ายแล้วพลังแห่งความรัก ( ที่ทอม ริดเดิ้ล ไม่เคยเข้าใจ ) ก็ขัดขวางสเนปเอาไว้ได้

อานุภาพของมัน ( ความรัก ) นี่ถูก JK ตีแผ่ให้ผู้อ่านเข้าใจและเข้าถึงได้มากกว่าเรื่องหวานแหว๋วทั้งหลายเสียอีก

คำว่า " ความรัก" คำเดียวครับที่ฉุดสเนปเอาไว้

แม้นคนที่ตัวรักจะตายไปแต่ความรักก็ไม่เคยตายไปจากหัวใจของสเนปเลย


ผมชื่นชมสเนปครับ

เพราะถึงสเนปจะเป็นคนไม่ดี พื้นฐานอุปนิสัยไม่น่ารัก

แต่สเนปเข้าใจความรักไม่น้อยไปกว่าใครๆและรักษามันไว้ยิ่งชีพ


เขาเป็นตัวละครที่น่าเห็นใจและน่านับถือที่สุดตัวหนึ่งในนวนิยายชุดนี้ครับ



ขอบคุณผู้ย่อ + สรุปเรื่องให้ได้อ่านกันทุกท่านอีกครังด้วยครับ

ขอให้ความรักอยู่ในใจของทุกคนด้วยเช่นกัน

จากคุณ : ตอสระอือ - [ 21 ก.ค. 50 11:47:59 ]


//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5630761/A5630761.html




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2550 22:00:46 น.
Counter : 538 Pageviews.  

แฮรี่ พอตเตอร์ เล่ม7 ตอน 28- 33

บทที่ 28 - The Missing Mirror

พวกเขามายัง Hogsmeade และทันทีที่เขามาถึง อากาศแถวนั้นก็แปลกไป ผู้เสพความตายวิ่งกรูออกมาจากร้านไม้กวาดสามอัน ราวกับรู้ว่าพวกเขามาถึงแล้วทั้ง ๆ ที่อยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน พวกมันพยายามให้คาถาเรียกผ้าคลุมเพราะรู้ว่าพวกเขาต้องหายตัวอยู่แน่ ๆ แต่ไม่คาถาใช้ไม่ได้ผลกับผ้าคลุม พวกแฮร์รี่พยายามจะหายตัวหนี แต่ก็ไม่ได้ผล พวกผู้เสพความตายจึงเรียก Dementor มา แฮร์รี่เลยเสกผู้พิทักษ์ไล่ Dementor ไป ตามแผนของพวกมัน ซึ่งก็รีบวิ่งลงมายังแถว ๆ ที่แฮร์รี่เพิ่งเสกคาถา แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งเรียกพวกแฮร์รี่ให้เข้าไปในประตู ๆ หนึ่ง และไล่ขึ้นไปข้างบน เงียบ ๆ แฮร์รี่เพิ่งรู้ว่านี่คือโรงแรม Hog's Head พวกเขารีบขึ้นไปข้างบน และเฝ้ามองจากหน้าต่างชั้นบน เห็นเจ้าของโรงแรมกำลังเถียงกับพวกผู้เสพความตายอยู่ แฮร์รี่ถึงรู้ว่าตอนนี้ที่นี่มีเคอร์ฟิวอยู่ เจ้าของโรงแรมบอกว่าผู้พิทักษ์ที่พวกนั้นเห็นคือผู้พิทักษ์ในร่างแพะของเขาเอง

เจ้าของโรงแรมนั้นคือ Aberforth น้องชายของดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่รู้ว่า Aberforth เป็นคนส่งด๊อบบี้ไปช่วยพวกเขา และเห็นกระจกอีกส่วนของซีเรียสใต้รูปภาพหญิงสาว แฮร์รี่บอกว่าพวกเขาต้องการเข้าไปในฮอกวอกต์ แต่ Aberforth บอกให้เลิกคิดและให้พวกแฮร์รี่ไปไกล ๆ จากที่นี่

เขาเล่าเรื่องของดัมเบิลดอร์ในสมัยก่อน ชี้ให้ดูรูปภาพหญิงสาวซึ่งก็คือ Ariana น้องสาวของพวกเขา Aberforth เล่าว่าเมื่อ Ariana อายุหกขวบ เธอยังเด็กและควบคุมพลังไม่ได้ เธอถูกเด็กหนุ่มมักเกิ้ลสามคนทำร้าย เพราะเขาเคยเห็นเธอใช้เวทมนต์ แล้วเธอก็ควบคุมมันไม่ได้อีก เธอเลยไม่ใช้พลังและมันทำให้เธอคลั่ง พลังระเบิดออกมาเมื่อเธอไม่สามารถควบคุมได้ พ่อของพวกเขาไปจัดการเด็กหนุ่มสามคนนั้น จนถูกจับและเอาไปขังที่อัซคาบัน พ่อเขาไม่เคยพูดเลยว่าเพราะอะไร เขาไม่อยากให้ทางกระทรวงรู้ ไม่งั้นลูกสาวจะต้องถูกจับขังใน St. Mango และถูกประกาศว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อความมั่นคง เพราะเธอควบคุมพลังไม่ได้ แม่และ Aberforth คอยดูแลเธอ โดนเฉพาะ Aberforth ที่เธอไว้ใจและรักมากที่สุด แต่ดัมเบิลดอร์ส่วนมากจะเก็บตัวในห้อง อ่านหนังสือและเขียนจดหมายหาคนที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Aberforth ไม่อยู่ แล้วเธอก็คุมพลังไม่ได้ แม่ก็เอาไม่อยู่จนแม่ตาย ดัมเบิลดอร์เลยต้องหยุดการเดินทางท่องเที่ยวกับ Elphias Doge มาดูแลบ้านในฐานะหัวหน้าครอบครัว

Aberforth ต้องการเลิกเรียน กลับมาดูแลน้อง แต่ดัมเบิลดอร์ไม่ยอม เขาดูแลเธอไม่ให้ระเบิดบ้านพัง จนกระทั่ง Grindelwald เข้ามาพูดคุยกับดัมเบิลดอร์ในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งระเบียบของสังคมพ่อมด เรื่อง Hallows และทุกสิ่งที่พวกเขาสนใจ ท้ายที่สุด พวกเขาทั้งสามทะเลาะกันเรื่องของ Ariana ... Grindelwald ใช้คำสาปกรีดแทงใส่ Aberforth และดัมเบิลดอร์พยายามหยุด และพวกเขาก็สู้กัน ซึ่งทำให้ Ariana ทนไม่ได้ จนระเบิดพลังออกมา Aberforth บอกว่าเธอเพียงต้องการจะช่วยแต่เธอเพียงไม่รู้ว่าเธอกำลังอะไรอยู่ เขาไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนทำ รู้อีกทีเธอก็ตายแล้ว Grindelwald หนีไป ดัมเบิลดอร์เป็นอิสระตลอดกาล

แต่แฮร์รี่แย้งว่าดัมเบิลดอร์ไม่เคยมีอิสระเลย และเล่าว่าถึงคำพูดตอนที่ดัมเบิลดอร์ดื่มน้ำยาในคืนที่เขาตาย ว่าดัมเบิลดอร์คงยังระลึกถึงตอนที่เขาเห็น Grindelwald กำลังทำร้ายน้อง ๆ อยู่ และแฮร์รี่ก็บอกว่าเขาจะไม่หยุด จนกว่าจะล้มโวลเดอมอร์ได้ ... Aberforth เดินไปยังรูปภาพ Ariana บอกว่าเธอรู้ว่าต้องทำยังไง .. หญิงสาวในภาพหันหลังและเดินจากไป ซึ่งไม่เหมือนภาพอื่น ๆ เวลาเดินทางไปยังกรอบรูปอันอื่น .. มันเหมือนเป็นอุโมงค์ยาวมืด ๆ .. Aberforth บอกว่าทุกทางมียามเฝ้าแล้ว มีเพียงทางนี้ทางเดียว สักพัก Ariana ก็กลับมา พร้อมกับพาเนวิลล์มาด้วย รูปภาพเปิดออก และเนวิลล์ก็กระโดดออกมาอย่างดีใจสุดขีดที่ได้พบพวกแฮร์รี่อีกครั้ง

์จากคุณ : BeeJang
//beejang.livejournal.com/137301.html
บทที่ 29 - The Lost Diadem

ระหว่างที่เนวิลล์พาพวกเขาเดินผ่านอุโมงค์หลังภาพ เขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังว่าที๋โรงเรียนเปลี่ยนไปมากยิ่งกว่าตอนที่อัมบริดจ์มาคุมเสียอีก Amycus Carrows สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ซึ่งกลายเป็นสอนวิชาการใช้ศาสตร์มืดจริง ๆ โดยให้ฝึกคาถากรีดแทง เอาไว้ทำโทษคนอื่น ส่วน Alecto Carrows สอนมักเกิ้ลศึกษาก็เอาแต่ว่ามักเกิ้ลเป็นดั่งสัตว์โง่เง่าและสกปรก ซึ่งเนวิลล์ก็ถูกพวกนั้นทำโทษบ่อย ๆ จนมีแผลเต็มไปหมด มีนักเรียนบางส่วนต่อต้านเขา ซึ่งเมื่อจินนี่ไม่ได้กลับมาหลังคริสมาส เนวิลล์ก็เหมือนกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มไป และถูกพวกพี่น้อง Carrows จับตามองตลอด จนไม่นานมานี้ พวกนั้นถึงไปลงที่คุณยายของเนวิลล์ แต่พวกนั้นคาดไม่ถึงว่าแม่มดแก่ ๆ จะมีพิษสงอะไรมากมาย แต่คุณยายของเนวิลล์เล่นงานผู้เสพความตายคนหนึ่งเข้า St. Mungo จนป่านนี้ยังไม่หายเจ็บเลย คุณยายกำลังหลบหนีอยู่ และส่งจดหมายมาหาเนวิลล์ชื่นชมเขาว่าสมเป็นลูกของพ่อแม่ และเธอภูมิใจในตัวเนวิลล์มาก

เนวิลล์พาแฮร์รี่ทะลุไปยังอีกด้านของรูปภาพ นั่นคือ Room of Requirements ที่มีเพื่อน ๆ รออยู่หลายคน ซึ่งลูน่า ดีน จินนี่ เฟร็ดจอร์จ ลี และโชตามมาสมทบอีก พวกเขาทุกคนต้องการจะช่วยแฮร์รี่ แต่แฮร์รี่ยังคงไม่แน่ใจและยังไม่ยอมบอกว่าเขากลับมาที่นี่เพื่อหา Horcruxes รอนกับเฮอร์ไมโอนี่เห็นด้วยที่จะให้เพื่อน ๆ ช่วย แม้จะไม่ได้บอกคนอื่นว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร แฮร์รี่จึงบอกเพื่อน ๆ ว่า เขามาที่นี่เพื่อหาของสิ่งหนึ่งที่จะช่วยทำลายโวลเดอมอร์ และอาจอยู่ในส่วนที่พักของเรเวนคลอ มันคืออะไรสักอย่างที่มีนกอินทรีของเรเวนคลอ ซึ่งลูน่าก็ให้ความเห็นว่า มันคือ Lost Diadem ของเรเวนคลอ .. โช แชงบอกว่ามันสูญหายไปนานแล้ว แต่ถ้าเขาอยากเห็นว่า Diadem เป็นยังไง เธอจะพาไปดูที่รูปปั้นในห้องนั่งเล่นของเรเวนคลอ ... จินนี่เสนอให้ลูน่าเป็นคนพาแฮร์รี่ไปแทน

ใต้ผ้าคลุมล่องหน แฮร์รี่เปิดแผนที่และขึ้นไปยังห้องนั่งเล่นเรเวนคลอ และเห็นรูปปั้นกับ Diadem ที่เป็นรัดเกล้าหินอ่อน มีคำจารึกเล็ก ๆ สลักอยู่ แฮร์รี่เลยออกจากผ้าคลุม และปีนขึ้นไปอ่าน ได้ความว่า "Wit beyoud measure is man's greatest treasure." ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียง จนตกใจหล่นลงมากับพื้น และพบ Amycus Carrows ยืนค้ำหัวอยู่ และกดนิ้วไปยังรอยตรามารบนแขน

Note : - บทนี้เนวิลล์เจ๋งค่ะ ลุกเถียงอาจารย์บ่อย ๆ จนโดนทำโทษ แต่ที่เจ๋งกว่าคือคุณยายเนวิลล์ค่ะ
- ไมเคิล คอร์เนอร์ถูกทำโทษหนักเพราะช่วยนักเรียนที่ถูกล่ามเอาไว้

- ไปนอนได้แล้วนะคะ บทนี้คือบทสุดท้ายของวันนี้ค่า อิอิ

จากคุณ : BeeJang - [ 21 ก.ค. 50 00:47:42 ]

30 The Sacking of Severus Snape

ในจังหวะที่ Alecto สัมผัสตรามาร บนตัวเธอนั่งเอง แฮรี่ก็วูบ ...Voldermort รู้แล้วว่า แฮรี่อยู่ที่ Hogwart

พอแฮรี่ได้สติฟื้นขึ้นมา ก็เป็น Luna ทีเด็ด Stun Alecto ลงในนอนเรียบร้อย.. ซึ่งเสียงกระแทกไปปลุกให้ เด็กๆในหอเรเวนคลอ ตื่นขึ้นมาหมดเลยครับ แล้วก็ลงมาดูสภาพAlecto มีเด็กปีหนึ่งคนนึงมาแตะๆแล้วบอกว่า "ตายแล้วมั้ง"

ซักพัก ก็มีเสียงเคาะประตูหอดังลั่น Amycus มาครับ ...เคาะประตูใหญ่เลย ตะโกนถามAlectoว่า ได้ตัวแฮรี่แล้วเหรอ ระหว่างที่จะโกนอยู่นั้น ป้าแมกกอนนากัลมาถึงแล้วครับ ป้าถาม Amycus ว่ามาทำไมดึกๆดื่นๆ Amycus บอกให้ไปตาม Flitwick มาเปิดประตูให้...แมกกอนนากัลเลยย้อนว่า อ้าวก็น้องสาวอยู่ในนั้นแล้วก็ให้ข้างในเปิดให้สิ (ฮา)... แต่สุดท้ายแมกกอนนากัลก็ตอบคำถามเปิดประตูใน Amucus เข้าครับ

Amycus เข้ามาเห็นAlecto นอนแป้บอยู่ก็โวยวายใหญ่ว่าใครฆ่าน้อง ..แมกกอนนากัลสวนว่า แค่สลบเอง ...Amycus บอกว่า เดี๋ยวพอ Dark lord มาที่นี่ ไม่เห็น Potter จะซวยหมู่ เพราะเมื่อครู่ Amycus รู้สึกได้ว่าตรามารร้อนขึ้นมา ซึ่งdark lord เป็นคนส่งทั้งสองคนมาที่นี่ และบอกว่า Potter อาจมาที่หอเรเวนคลอให้มาดักจับ แต่ตอนนี้ไม่มีpotter จะทำไงดี...Amycus ไอเดียบรรเจิด บอกว่าให้โทษเด็กเรเวนคลอว่ารุมทำร้าย Alecto และบังคับให้แมกกอนนากัลเออออห่อหมก ด้วย แต่แมกกอนนากัลปฏิเสธไม่เอาด้วยด้วยจรรยาบรรณครู (อันนี้เติมเองครับ)
Amycus เลยเกิดheat :-)น้ำลายใส่หน้าแมกกอนนากัลซะ....แฮรี่เห็นแล้วโกรธจัด เลยออกจากผ้าคลุมล่องหน แล้วก็

"Crucio..." แฮรี่ใช้คาถากรีดแทงเล่นงาน Amycus ครับ (โหดใช่เล่น) แล้วยังบอกอีกว่า เขาเข้าใจคำของBellatrix ที่ว่า จะเสกคาถาแนวนี้ต้องตั้งใจแบบนั้นจริงๆแล้ว...

แมกกอนนากัลเห็นแฮรี่ก็ตกใจ และถามว่ามาทำอะไรที่นี่ แฮรี่บอกว่าVoldermort กำลังมา และถามว่าอาจารย์เคยเห็น diadem รึเปล่า ...ซึ่งตอนนี้แฮรี่พูดชื่อ Voldermort เต็มแล้ว เพราะรู้ว่ายังไง Voldermortก็รู้แล้วว่าเขาอยู่ที่นี่ ไม่มีความจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงคำต้องห้ามอีกต่อไป ทั้งคู่ตกลงว่าจะอพยพพวกเด็กๆให้หนีไปให้หมด และเริ่มมาตรการป้องกันฮอกวอร์ต โดย แมกกอนนากัลเสกย์ Pratonas เป็นแมวสีเงินสามตัว เพื่อไปเตือนอาจารย์อีกสามบ้าน

ระหว่างทางนั้น เอง Snape ก็ปรากฏตัวขึ้นครับ ต่อปากต่อคำกันพอหอมปากหอมคอก็ดวลกับแมกกอนนากัล (ฉากดวลเก๋ามากครับ) แฮรี่ที่หลบใต้ผ้าคลุมล่องหนนั้นพยายามจะแอบช่วย(ลอบกัด)หลายครั้ง แต่ก็ต้องคอยกันลูน่าจากลูกหลงอยู่ตลอด

แต่แป้บๆ.... Filtwick กับ Sprout ก็มาครับ....แล้วธรรมะก็ได้เวลารุมกินโต๊ะ...สเนปเลยหนีครับ แล้วก็ไล่ล่ากันไปตามห้องเรียน (เป็นหนังคงมันส์พะยะค่ะ) จนสุดท้ายสเนปก็กระโดดทะลุหน้าต่างแปลงร่างหนีไปได้

แมกกอนนากัลเล่าเรื่องให้อาจารย์อีกสองคนฟังว่า Voldermort กำลังมา และให้แต่ละคนเตรียมมาตรการป้องกันและอพยพเด็กของตัวเอง Flitwick เสกย์คาถากำแพงลมกั้นฮอกวอร์ตไว้ ส่วนแมกกอนนากัลกผละไปกริฟฟินดอร์ ดดยระหว่างทางผ่านพวก Slytherine ซึ่ง Slughorn ออกมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น

"ถึงเวลาที่ Slytherine ต้องเลือกข้างแล้ว ว่าภักดีอยู่กับใคร" แมกกอนนากัลบอก แล้วป้าก็ร่ายมนตร์ Piertotum Locomator! ปลุกรูปปั้นในปราสาท ขึ้นมาช่วยรบ (เท่ห์ซ้า)

ส่วนด้านแฮรี่กับลูน่าก็กลับไปหาพวกเพื่อนๆ ระหว่างทางมีคนเห็น แฮรี่ก็หือหากันใหญ่ พอถึงห้องก็พบว่า พวก Order มากันครบทีมเลยครับ Fred บอกว่า เรียกทั้งหมดมาช่วยกันรบ Percy ก็มาด้วย Mrs. Weasley ดีใจมากและสวมกอดลูชาย(ซึ้งง่า) ฝาแฝดมีแซวเล็กน้อย ส่วนด้านลูปินก็เอารูปลูกชายมาอวดใหญ่เลย

Ginny ก็อยู่ด้วย แต่ถูกแม่ปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมเพราะเพิ่ง 16 เท่านั้นเอง แต่ท้ายที่สุดแล้ว Mr. Weasley ก็บอกว่าให้ลูกสาวอยู่ก็ได้ แต่ให้รอเฉยๆไม่ต้องไปสู้

แฮรี่สังเกตเห็นรอนกับเฮอร์ไมโอนี่หายไป เลยสงสัย จินนี่บอกว่า ทั้งคู่เอ่ยถึงห้องน้ำ แฮรี่ เลยไปดูห้องน้ำ แต่จังหวะนั้นเอง ...วูบอีกแล้ว.... เรือของ Voldermort มาถึงแล้วครับ....


คุณ : rynekel - [ 21 ก.ค. 50 01:29:09 ]

บทที่ 31 ที่ฮอกวอตส์

ศาสตราจารย์มักกอนนากัลและภาคีนกฟีนิกซ์ยืนอยู่ที่แท่นอาจารย์ใหญ่ และสั่งให้พรีเฟคของแต่ละบ้านอพยพนักเรียนของบ้านตัวเองออกไปจากฮอกวอตส์ทันทีภายใต้การดูแลของมาดามพอมฟรีย์และฟลินซ์ เออร์นี่ถามว่า แล้วถ้าต้องการจะอยู่และต่อสู้ต้องทำอย่างไร มักกอนนากัลอนุญาตให้อยู่ได้กรณีที่อายุถึงเกณฑ์ มีนักเรียนถามถึงเสนป มักกอนนากัลบอกว่าเสนปจากไป โดยไม่ได้บอกใคร ระหว่างนั้นแฮรี่พยายามมองหารอนและเฮอร์ไมโอนี่ที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ แต่ยังหาไม่เจอ มักกอนนากัลพยายามเร่งให้นักเรียนรีบออกไป แต่คำพูดของศ.มักกอนนากัลก็ถูกขัดจังหวะโดยเสียงปริศนาเสียงหนึ่ง เสียงสูง เยือกเย็น และชัดเจน
...ฉันรู้ว่าพวกเธอทุกคนพร้อมจะสู้ แต่ความพยายามของพวกเธอนั้นไร้ประโยชน์ ฉันนับถืออาจารย์ในฮอกวอตส์
...ส่งแฮรี่ พอตเตอร์มาแล้วทุกคนจะปลอดภัย
...พวกเธอมีเวลาถึงเที่ยงคืนเท่านั้น...

หลังโวลเดอร์มอร์ดพูดจบ แพนซี่ พาร์กินสัน กรีดร้องให้ทุกคนจับแฮรี่ส่งไป แต่เด็กบ้านกริฟฟินดอร์ ฮัฟเฟิลพัพ และเรเวนคลอ ยืนขึ้นปกป้องแฮรี่ มักกอนนากัลสั่งให้แพนซี่ออกไป และตามด้วยพวกสไลธีริน มักกอนนากัลสั่งให้บ้านอื่นๆออกไปด้วย แต่เด็กปีสูงๆบ้านเรเวนคลอ เด็กฮัฟเฟิลพัพหลายคน และกว่าครึ่งหนึ่งของเด็กกริฟฟินดอร์ยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้

แฮรี่พยายามถามหาเฮอร์กับรอน นายวิสลีย์เริ่มกังวลถึงสองคนนั้น แต่ความสนใจก็ถูกดึงไป เมื่อคิงสลีย์ขึ้นมาประกาศว่าเหลือเวลาครึ่งชั่วโมง และแบ่งนักเรียนสามกลุ่มให้ไปกับ มักกอนนากัล สเปราต์ และฟลิตวิก ไปประจำการที่สามหอคอยที่สูงที่สุด ส่วนคิงสลีย์ อาเธอร์ ลูปิน เฟรด จอร์จ จะไปที่สนาม มักกอนนากัลป์เตือนแฮรี่ให้รีบหาของที่แฮรี่ตั้งใจจะหา แฮรี่พยายามมุ่งคิดถึงฮอร์ครักซ์ แต่ก็อดคิดถึงรอนและเฮอร์ไม่ได้เพราะโดยปกติแล้วสองคนนั้นจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

แฮรี่เดาว่า โวลจะต้องคิดว่าแฮรี่จะต้องไปที่หอคอยของบ้านเรเวนคลอ เพราะโวลให้อะเลคโตมาเฝ้าไว้ ซึ่งมีเหตุผลที่เป็นไปได้ข้อเดียวคือ โวลกลัวว่าแฮรี่จะรู้ถึงฮอร์ครักที่มีความเชื่อมโยงกับเรเวนคลอ
แฮรี่หลับตาและนึกถึงของที่หายไปของบ้านเรเวนคลอ และนึกถึงมงกุฎที่หายสาบสูญไป เป็นไปได้หรือไม่ที่มงกุฏจะเป็นฮอร์ครักซ์
แล้วแฮรี่ก็นึกถึงบางเรื่องขึ้นมาได้ เลยไปถามนิคถึงผีประจำบ้านของเรเวนคลอ ซึ่งก็คือ the grey lady เมื่อแฮรี่เห็นก็จำได้ว่า เคยเจอ the grey lady เสมอๆที่ทางเดินในปราสาท เพียงแต่ไม่เคยพูดด้วย แฮรี่ถามถึงมงกุฎที่สาบสูญ แต่ the grey lady ปฏิเสธว่าคงช่วยอะไรแฮรี่ไม่ได้ มีนักเรียนมากมายหลายต่อหลายรุ่นตามหามันมาตลอด แฮรี่ขอร้องและบอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโวลเดอร์มอร์ต

The grey lady บอกว่าเธอคือลูกสาวของเรเวนคลอ ผู้ก่อตั้งบ้านเรเวนคลอ และเธอเป็นคนขโมยมงกุฎนั้นจากแม่ของเธอเพราะคิดว่าจะทำให้เก่งกว่าแม่ และหนีไป
เรเวนคลอไม่ยอมรับว่ามงกุฎหายไป แต่แสร้งทำว่าอยู่กับตัวเองมาตลอด ปิงบังแม้กระทั่งผู้ก่อตั้งฮอกวอตส์คนอื่นๆ
ต่อมาเรเวนคลอป่วย และอยากจะพบลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย จึงส่งผู้ชายคนหนึ่งที่เธอเชื่อว่าจะตั้งใจตามหา เพราะชายคนนี้หลงรักลูกสาวเธอมานาน ผู้ชายคนนั้นคือ บารอนเลือด !!!
เมื่อตามมาจนพบ แต่เธอปฏิเสธที่จะกลับไป ด้วยความโมโหชั่ววูบ บารอนเลยแทงเธอตาย แต่เมื่อได้สติเขาก็เสียใจ และใช้มีดนั้นฆ่าตัวตายตาม ส่วนมงกุฎนั้นถูกซ่อนอยู่ในป่าที่เธอตาย ที่แอลเบเนีย
แฮรี่ถามว่าเธอได้บอกเรื่องนี้ใครบ้างหรือเปล่า เธอจำได้ว่าเคยบอกเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แฮรี่เดาได้ว่าคือทอม ริดเดิ้ล ซึ่งน่าจะไปค้นหาตั้งแต่จบจากเรียน และป่าในแอลเบเนียนี้เองที่ริดเดิลซ่อนตัวอยู่ในช่วงสิบปีที่สูญเสีญอำนาจ แต่เวลานั้น มงกุฎที่กลายเป็นฮอร์ครักซ์ไม่น่าจะอยู่ที่ป่าอีกต่อไปแล้ว แต่กลับสู่บ้านของมัน ซึ่งก็คือ ฮอกวอตส์!! ...และน่าจะมีเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น คือวันที่โวลกลับมาสมัครเป็นอาจารย์สอนป้องกันตัวจากศาสตร์มืด มงกุฏจึงน่าจะถูกซ่อนแถวๆห้องทำงานของดัมบิลดอร์

เหลือเวลาเพียงห้านาทีก่อนถึงเที่ยงคืน แฮรี่มั่นใจว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่าฮอครักซ์อันสุดท้ายคืออะไร แต่ปัญหาคือ มันอยู่ที่ไหนกันเล่า ในเมื่อมันไม่เคยถูกค้นพบแม้ว่านักเรียนหลายรุ่นจะค้นหามาตลอด แสดงว่ามันไม่ได้ซ่อนอยู่ในหอคอยของเรเวนคลอ แฮรี่เดินคิดจนมาเจอแฮกริด และกอร์ป ในที่สุดก็ถึงเวลาเที่ยงคืน แฮรี่เห็นแสงจากด้านนอก เป็นสัญญาณที่บอกว่าการต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว แฮกริดเล่าว่าได้ยินเสียงโวลตอนอยู่ในถ้ำ เลยมาช่วย และถามถึงรอนกับเฮอร์
แฮรี่ตอบว่าไม่รู้ และชวนแฮกริดออกไปค้นหาแถวทางเดินห้องพักอาจารย์ แฮรี่มองเห็นรูปปั้นสัตว์ประหลาดหน้าห้องอาจารย์แล้วนึกถึงรูปปั้นเรเวนคลอที่บ้านเลิฟกูด และที่หอคอย และในที่สุดก็นึกออกว่ามงกุฎของเรเวนคลออยู่ที่ไหน
แฮรี่วิ่งต่อไป ผ่านเฟรด ดีน เนวิลล์ (ที่กำลังไปช่วยเมนเดรก) และคนอื่นๆ และเจอกับรอนและเฮอร์ เฮอร์เล่าว่าทั้งสองคนเข้าไปในห้องแห่งความลับ โดนรอนเคยฟังแฮรี่และเลียนเสียงพาเซลเมาท์ได้ ทั้งสองคนใช้เขี้ยวของบาสิลิสทำลายถ้วยของฮัฟเฟิลพัพที่เป็นฮอครักซ์ไปแล้ว

แฮรี่บอกว่าตนเองรู้แล้วว่าฮอร์ครักสุดท้ายอยูที่ไหน เป็นที่ๆนักเรียนใช้ซ่อนของมานานนับศตวรรษ แฮรี่รู้เพราะเคยเอาหนังสือปรุงยาไปซ่อนที่นั่น
ที่ทางเดินหน้าห้องต้องประสงค์ แฮรี่ เฮอร์ รอน เจอ จินนี่ ทองก์ และย่าของเนวิลล์ แฮรี่อยากให้จินนี่กลับไป แต่ขณะที่เถียงกันรอนก็นึกได้ว่าควรไปปล่อยเอลฟ์ประจำบ้านให้หนีไปด้วย พอได้ยินแบบนี้เฮอร์เลยวิ่งเข้าไปจูบรอน (ที่ปากซะด้วย โอ้ว)
แฮรี่เตือนแบบเกรงใจว่าเราต้องหาฮอครักซ์กันต่อ และท่องในใจว่าต้องการห้องที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกซ่อนอยู่ ประตูบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
แฮรี่ และหาเจอรูปปั้นที่สวมมงกุฏเก่าๆหมองๆที่แฮรี่นำมาทำสัญลักษณ์เพื่อซ่อนหนังสือปรุงยา แฮรี่หยิบมงกุฎขึ้นมา แต่มีคนสามคนปรากฏตัวข้างหลัง คือ แครบ กอยน์ และมัลฟอย ซึ่งบอกว่าจะมาจับแฮรี่เพราะต้องการรางวัลจากโวล รอนได้ยินเสียงจึงเข้ามาตามแฮรี่ แครปอยากเสกคาถาแต่มัลฟอยห้ามเพราะกลัวทำมงกุฎพัง มัลฟอยเดาว่ามงกุฎน่าจะสำคัญเพราะแฮรี่มาเอา แต่แครปบอกว่า มัลฟอยไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งคนอื่นอีกแล้ว เฮอร์โผล่ออกมาพอดี แครปเลยเสกอะวาดา เคดาฟรา ใส่เพราะเป็นเลือดสีโคลน แต่แฮรี่เสกคาถางุนงงใส่แครป แครปเลยเซไปชนมัลฟอยและทำไม้กายสิทธิ์หล่น ทั้งหมดต่อสู้กัน แครปเสกคำสาปที่แฮรี่ไม่รู้จักมาก่อน เกิดไฟไหม้ กอยน์หมดสติ แฮรี่ไปช่วยมัลฟอยเอากอยน์ออกมา

แฮรี่สังเกตว่าของที่เกี่ยวข้องกับเวทย์มนตร์ถูกไฟนี้เผาไปได้ แฮรี่พามัลฟอยออกมาเจอกอยน์ รอน เฮอร์ และรู้ว่าแครปตายแล้ว มงกุฎในมือแฮรี่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เฮอร์บอกว่าไฟนี้คือ fiendfyre สามารถทำลายฮอครักซ์ได้ เท่ากับว่าตอนนี้ภารกิจของพวกเขาเหลือเพียงงูนากินี...

แต่แล้วพวกเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนและต่อสู้ ผู้เสพความตายบุกเข้าฮอกวอตส์ได้แล้ว เฟรดและเพอร์ซี่กำลังต่อสู้ ทั้งสามคนเข้าไปช่วย ผู้เสพความตายคนนึงทำผ้าคลุมหลุดออก และปรากฏว่าเป็น รมต.กระทรวงเวทย์มนตร์ เพอร์ซี่เลยบอกว่างั้นลาออกเลยละกัน เฟรดเหมือนจะดีใจและแปลกใจหน่อยๆที่เพอร์ซี่ยิงมุขตลกๆกะเค้าด้วย เฟรดกำลังแซวเพอร์ซี่ก่อนเสียงจะขาดหายไป

No no no! someone was shouting. No! Fred! No!
And Percy was shaking his brother, and Ron was kneeling beside them, and Fred's eyes stared without seeing, the ghost of his last laugh still etched upon his face.

เฮอร์และแฮรี่ได้แต่เพียงยืนมอง ทั้งสองคนเศร้ามากๆ แฮรี่รู้สึกเหมือนว่าโลกนี้มืดลงไป และกลัว...อย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อนในชีวิต

จบบท 31 ค่ะ

ขอโทษนะคะไม่ได้ช่วยแปลต่อ พอดีมีเรียนพรุ่งนี้เช้าค่ะ
ไปจริงๆแระ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 50 02:17:25

จากคุณ : Lunar_moon - [ 21 ก.ค. 50 02:16:17 ]

บทที่ 32 The Elder Wand

ทุกคนไม่เชื่อว่าเฟรดจะตายแล้ว แต่คำสาบยังล่องลอยอยุ่ในอากาศ แฮรีกับรอน ดึงแขนเฮอร์ ให้หมอบลงกับพื้น
เพอร์ซี่ ยังคงคุกเข่าอยุ่ข้างศพของเฟรด แฮรีพยายามดึงเขาออกมา ตอนนั้นเองที่เฮอร์ ร้องกรี๊ด แฮรี่หันไปดู แมงมุมยักษ์ (คาดว่ามาจากป่าต้องห้าม) ก็กรูเข้ามา พวกเขาพยายามหนีตาย

ทันใด เพอซี่ ก็ตะโกนขึ้น " ร็อควูด" (ผู้เสพความตาย) แล้ววิ่งตามไป เฮอร์ ต้องห้ามไม่ให้รอนตามพี่ไป แต่เฮอร์ เตือนสติว่า พวกเขามีภาระกิจต้องฆ่านากินี ฮอร์ครุก ชิ้นสุดท้าย พวกเขาต้องตามหาเวอร์ดี้ ให้เจอ ถึงแฮรี่จะเข้าใจความรู้สึกของรอน ตัวเขาเองก็เป็นห่วงครอบครัววีสลีย์ โดยเฉพาะจินนี่

รอนเร่งให้แฮรี่ เข้าถึงจิตใจของเวอร์ดี้ เพื่อหาที่อยุ่ของเขา มันเป็นเรื่องง่ายๆ เพราะ แผลเป็นของแฮรี เริ่มทรมานเขามาหลายชัว่โมงแล้ว แฮรี่หลับตา และเข้าถึงความคิดของเวอร์ดี้ เขาค้นหาไปเรื่อย จนได้ยินเสียงเรียก

"นายท่าน " เป็น ลูเชียส มัลฟอย นั่งอยุ่ที่มุมมืด ร้องขอชีวิต มัลฟอย
แต่เวอร์ดี้ บอกว่า ถ้ามัลฟอย จะตายก็เพราะไม่ยอมมาอยู่ข้างเวอร์ดี้ เขาอาจอยากเป็นเพื่อนแฮรี่ก็ได้ ลูเชียส พยายามแก้ตัว แต่ไม่สำเร็จ เวอร์ดี้ยังรุ้ด้วยว่า ลูเชียส อยากรีบไปตามหาลูก

เวอร์ดี้ สั้งให้ ไปตามสเนป มา มีงานจะให้ทำ แล้วเวอร์ดี้ก็นั่งรอ

แฮรี่ บอกรอนและเฮอร์ ว่า เวอร์ดี้จะไม่เปิดฉากต่อสู้แต่จะรอให้ แฮรี่ เข้าไปหาเพราะรู้ว่าเขาต้องการ ฮอร์ครุกอันสุดท้ายคือ นากินี

แฮรี่จะไปคนเดี่ยวแต่ที้งสองคนไม่ยอม มีผู้เสพความตายสองคนโผล่เข้ามา อาจารย์ แมกกอนากับ เข้ามาช่วย

ทั้งสามวิ่งมาใต้ผ้าคลุมล่องหน เจอ มัลฟอย ทำเนียนใส่หน้ากากผู้เสพความตาย ตะโกนบอกผุ้เสพความตายว่า อยู่ข้างเวอร์ดี้ รอนโกรธจัด ต่อยไปทีนึง ด่าว่า พวกเขาช่วยชีวิตไว้ แต่มัลฟอยกลับทำตัวเป็นนกสองหัว

พวกเขา รีบเดินทางไปหาเวอร์ดี้ ระหว่างทางเจอพวกนักเรียนวิ่งหนี ออกมา เพราะแมงมุมยักษ์ ผู้เสพความตายจะฆ่าแต่แฮกริดมาขวาง พวกแฮรี่ ช่วยแฮกริดออกมาได้ แต่ก็มาเจอ ดีเมนทอร์ เป็นร้อย ทุกคนเสกคาถาคุ้มครอง

มีลูน่า เออร์นี่ ซีมัส มาช่วย

พวกเขาไปที่เพิงโหยหวน แต่แฮรี่เริ่มสงสัยว่าอาจะเป็นกับดักของเวอร์ดี้ พวกเขาเลยใช้ผ้าคลุมล่องหน แล้วเดินไปตามาทาง จนสุด ก็พบเวอร์ดี้กำลังคุยกับสเนป

เวอร์ดี้ เชื่อว่าแผนการณ์กำลังใกล้จะสำเร็จ สเนป ขอเป้นคนเอาตัวแฮรี่ มาให้เอง แฮรีจ้องที่นากินี พยายามเล็งไม่ให้พลาด

เวอร์ดี้ บอกว่า Elder Wand ไม่ work สมราคาคุย สเนปขออีกครั้ง ให้เขาเป็นคนไปจับแฮรี่ แต่เวอร์ บอกว่าแฮรี่ จะมาหาเขาเองแน่นอน เวอร์ดี้รำพึงว่า ถ้าแฮรี่ มา จะเกิดอะไรขึ้น เพราะที่ผ่านมา ไม้ของเขาไม่สามารถทำอันตรายแฮรี่ได้ แล้วเขาก็คิดได้ ว่าเพราะ เขาไม่ใช้เจ้านายตัวจริง ของไม้

เป็นสเนป ที่ฆ่าดัมเบิลดอร์ ดั้งนั้น ตายซะเถอะสเนป แล้ว ก็ฆ่าสเนปเลย (โห ง่ายๆ งี้นะ)

พอเวอร์ดี้เดินออกไป แฮรีก็ออกจากผ้าคลุม เดินมาหาสเนป มีของเหลวสีเงิน ไหลออกมาจากปาก หู ของสเนป เขาสั่งให้แฮรี่ หยิบมัน แฮรี่กับเฮอร์ ช่วยกันหยิบ คำพูดสุดท้ายของป๋าเนป "มองฉันซิ" แล้วก็หมดลมหายใจไป

จากคุณ : kwanmanee - [ 21 ก.ค. 50 03:04:25 ]

chapter33 The Prince's Tale

แฮรี่ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆสเนป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงของโวลเดอมอร์ดังขึ้นมา โวลเดอร์มอร์ประกาศให้ทุกคนยอมแพ้ซะ เพราะสู้ต่อไปก็เสียเปล่า ถ้าทุกคนยอมแพ้เขาจะไม่ทำอะไรและสั่งให้กองกำลังของเขาล่าถอย และโวลเดอมอร์ก็ประกาศถึงแฮรี่โดยตรงว่าแฮรี่จะทำให้เพื่อนของเขาต้องมาตายแทน และโวลดี้ขอให้แฮรี่ยอมแพ้ซะ แล้วออกมามอบตัวกับเขาซะเขาจะรอที่ป่าต้องห้าม และจะให้เวลา1ชั่วโมง หากเลยเวลานี้ไปแล้วแฮรี่ไม่ออกมา ทุกคนตายหยังเขียด
รอนบอกแฮรี่ว่าอย่าไปฟังโวลเอดร์มอร์ เฮอมี่บอกให้รีบกลับไปที่ปราสาท เพราะถ้าโวลดี้ไปที่ป่าต้องห้าม พวกเขาจำเป็นที่จะต้องวางแผนกันใหม่
แฮรี่คว้าผ้าคลุมล่องหนมา และจ้องมองดูไปที่ศพของสเนป เขาไม่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับสเนป แต่เขาช็อคกับการตายของสเนป และสาเหตุที่สเนปต้องตาย
แฮรี่ รอน เฮอไมโอนี่ เข้ามาในปราสาท ซึ่งเงียบผิดปกติ พวกเขาเจอกลุ่มผู้รอดชีวิตที่ห้องโถงใหญ่ มาดามพรอมฟรีย์กำลังรักษาคนเจ็บอยู่ มีศพนอนเรียงเป็นแถวอยู่กลางห้องโถง ศพของเฟรดถูกล้อมรอบไปด้วยคนในครอบครัวของเขา ศพของลูปินและท็องอยู่ถัดไปจากศพของเฟรด แฮรี่รู้สึกผิด เขาคิดวาถ้าเขายอมมอบตัวแต่แรก ทุกคน คงไม่ต้องมาตายแบบนี้
แฮรี่รีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องอาจารย์ใหญ่ เขาพบว่ารูปภาพทั้งหมดได้หายไปแล้ว แฮรี่สังเกตุเห็นเพนซีฟ แฮรี่จึงเข้าไปดูเพนซีฟ แล้วก็พบความทรงจำที่เป็นเรื่องราวของ สเนปกับลิลลี่แม่ของเขาเอง เขาเห็นแม่กับป้าของเขากำลังเล่นชิงช้า โดยมีเด็กชายร่างผอมเกร็งกำลังเฝ้ามองอยู่ แฮรี่เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้เด็กชาย สเเนปดูน่าจะมีอายุไม่เกิน9-10ขวบ
ต่อไปนี้ขอย่อแบบรวบๆแหล่ว
ลิลลี่เผลอใช้เวทย์มนต์ออกมา ทูนีย์(ป้าเพตทูเนีย ลิลลี่เรียกว่าทูนีย์อะ) เลยเตือนลิลลี่ว่าแม่สั่งห้ามไว้นะ สเนปเห็นเข้าพอดีเลยเดินมาบอกว่าลิลลี่เป็นแม่มด ทูนีย์บอกสเนปว่าไร้สาระ สเนปเรียกทูนีย์ว่ามักเกิลแบบดูถูก แล้วก็เล่าเรื่องของโลกพ่อมดแม่มดให้ลิลลี่ฟัง ว่าลิลลี่จะได้ไปเรียนที่โรงเรียนเวทย์มนตร์ จะมีคนมาอธิบายกับครอบครัวลิลลี่เอง ฉากตัดมาที่ชานชาลาที่9เศษ3ส่วน4ยกกำลัง2 บทพูดตอนนี้สรุปได้ประมานว่า ทูนีย์ก็อยากไปเรียนที่เดียวกับลิลลี่ด้วย เลยเขียนจดหมายถึงอาจารย์ใหญ่ขอร้องให้เขารับเธอเข้าเรียนด้วย แต่เขาไม่รับ ทูนีย์เลยมาวีนเอากับลิลลี่ ว่าลิลลี่เป็นคนบ้า และกำลังจะเรียนที่โรงเรียนสำหรับคนบ้า ลิลลี่โมโหเลยเอาเรื่องจดหมายขึ้นมาพูด ทูนีย์เลยโกรธหาว่าลิลลี่กับสเนปแอบรื้อค้นเรื่องส่วนตัวของตน
ลิลลี่ขึ่นรถไฟไปเรียนกับสเนปแล้วก็คุยเกี่ยวกับบ้านที่ตนจะได้ไปอยู่ แล้วก็เจอเจมกับซิเรียสบนรถไฟคุยเรื่องบ้านเหมือนกัน เมื่อถึงโรงเรียน ลิลลี่ได้ไปอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ และสเนปต้องไปอยู่สลิธีริน แต่พวกเขายังคงความเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่(สเนปมันเป็นไข่ย้อยรึไงเนี่ย- -") เมื่อเวลาผ่านไป ลิลลี่เริ่มไม่ชอบพวกเพื่อนๆบ้านสลิธีรินของสเนป สเนปก็ไม่สบอารมณ์กับเจมส์และซีเรียส เพื่อนๆบ้านเดียวกับลิลลี่ และเริ่มสงสัยเรื่องลูปิน



ฉากในเพนซีฟตัดกลับตอนที่แฮรี่เคยดูมาแล้ว คือตอนที่เจมส์จับสเนปห้อยหัวลง แล้วสเนปเรียกลิลลี่ว่ายัยเลือดสีโคลน ฉากตัดมาที่ตอนกลางคืน สเนปขอโทษลิลลี่และบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ ลิลลี่บอกว่าเธอไม่สนใจคำขอโทษของเขา เธอต่อว่าสเนปเรื่องที่เขาและกลุ่มเพื่อนๆทำตัวมุ่งหวังที่จะเป็นผู้เสพความตาย ลิลลี่บอกว่าสเนปได้ตัสินใจแล้วที่จะเลือกข้างของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ลิลลี่ก็ได้ตัดสินใจแล้ว ประมานว่าเราขาดกันแค่นี้นะไข่ย้อย
ฉากตัดมาที่สเนปกำลังเฝ้ารอใครบางคนอย่างหวาดผวาโดยในมือกำไม่กายสิทธิ์แน่น และทันใดนั้นเองก็มีลำแสงเหมือนฟ้าผ่าปรากฎขึ้น สเนปเข่าอ่อนและทำไม่กายสิทธิ์หลุดมือ ดัมเบิลดอร์น่ะเอง สเนปร้องขอชีวิตต่อดัมเบิลดอร์ แต่ดัมเบิลดอร์บอกว่าเขาไม่ได้มาด้วยความตั้งใจที่จะฆ่าสเนป สเนปก็ได้เล่าว่าเขาได้เล่าคำพยากรณ์ที่ได้ยิน(คำพยากรณ์ของทรีลอว์นีย์ที่ดัมเบิลดอร์เป็นคนได้ฟังในเล่ม5)ให้กับโวลดี้ฟังทั้งหมด ทำให้โวลดี้คิดว่าคำพยากรณ์นั้นหมายถึงลิลลี่อีแวนส์ ดัมเบิลดอร์จึงรู้ถึงความรู้สึกของสเนปที่มีต่อลิลลี่ ดัมเบิลดอร์เลยถามสเนปว่าถ้าลิลลี่สำคัญต่อเขาขนาดนี้ ทำไมเขาไม่ขอให้โวลดี้ปล่อยเธอไปล่ะ สเนปบอกดัมเบิลดอร์ว่าเขาขอแล้ว ดัมเบิลดอร์เลยด่าสเนปว่าน่าขยะแขยง สเนปไม่แคร์เลยว่าจะเกิดอะไรกับสามีและลูกของเธอ สเนปจึงขอร้องให้ดัมเบิลดอร์พาลิลลี่และครอบครัว(ไอ้ครอบครัวนี่ก็ไม่ค่อยเต็มใจจะเอ่ยหรอก)ไปซ่อน ดัมเบิลดอร์ถามว่าสเนปมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกับคำขอนี้ สเนปบอกว่าเขายินดีจะให้และทำทุกอย่าง (โถไอ้ไข่ย้อย แกมาบอกอะไรเอาป่านนี้)
ฉากตัดมาที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ สเนปอยู่ในห้องนั้นด้วย สเนปกล่าวโทษดัมเบิลดอร์ ว่าไหนเขาสัญญาว่าจะพาลิลลี่ไปซ่อนในที่ปลอดภัยไง ดัมเบิลดอร์จึงตอบไปว่า ลิลลี่กับเจมส์ไว้ใจคนผิด แบบเดียวกับที่สเนปไว้ใจโวลเดอมอร์น่ะแหละ เขาถามสเนปว่าคิดจริงๆหรือว่าโวลเดอร์มอร์จะยอมปล่อยลิลลี่ ดัมเบิลดอร์เล่าต่อไปว่า ลูกชายของลิลลี่รอด และเขาได้ตาของแม่มา ดวงตาที่สเนปรู้จักดี สเนปทนฟังไม่ด้าย เขารู้สึกอยากตาย ดัมเบิลดอร์กล่อมสเนปว่าตายไปแล้วก็ไม่ได้อะไร ถ้าเขารักลิลลี่จริง ต้องช่วยลิลลี่ปกป้องลูกของเธอ
ฉากตัดมาสมัยแฮรี่เข้าเรียนปี1สเนปมีอคติต่อแฮรี่ หาว่าแฮรี่เย่อหยิ่งยะโสอวดดีแบบเจมส์ แต่ดัมเบิลดอร์ยืนยันว่าแฮรี่เป็นเด็กที่อ่อนโยน และบอกให้สเนปคอยจับตาดูควีเรลล์ไว้
ฉากตัดมาที่ตอนในเล่ม4 สเนปรายงานดัมเบิลดอร์ว่าตรามารของคาคารอฟเข้มขึ้นทุกทีๆ
ฉากตัดมาที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์อีกครั้ง สเนปกำลังพูดกับดัลเบิลดอร์เกี่ยวกับแหวนของมาโวโลกอนท์ (ช่วงต่อไปนี้ไม่แน่ใจนะคะ) ด้วยคำสาปของแหวนนี้จะทำให้ดัมเบิลดอร์อ่อนแอลง และคงมีเวลาเหลือไม่ถึง1ปี แล้วก็พูดถึงแผนการของโวลดี้ที่จะให้มัยฝอยมาสังหารดัมเบิลดอร์เพื่อเป็นการลงโทษลูเชียส และโวลดี้มั่นใจว่ามันฝอยจะทำไม่สำเร็จ และตั้งใจที่จะให้สเนปเป็นคนปิดฉาก และดัมเบิลดอร์ขอให้สเนปสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องนักเรียน สเนปพยักหน้ารับ ดัมเบิลดอร์ต้องการจะช่วยมันฝอย จึงวางแผนที่จะให้สเนปฆ่าตน(ตรงนี้เดาถูกกันหลายคนเลยนะเนี่ย) สเนปจึงถามว่าถ้าดัมเบิลดอร์ไม่กลัวความตาย ก็แล้วทำไมไม่ให้มันฝอยฆ่าเขาไปเลยล่ะ ดัมเบิลดอร์ต้องการที่จะปกป้องจิตใจของมันฝอย ไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้ สเนปจึงเกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจ ดถามดัมเบิลดอร์กลับไปว่า แล้วใจผมละคร้าบเพ่ ดัมเบิลดอร์เลยตอบไปว่าถือว่าช่วยคนแก่เต๊อะ สเนปก็ประมานว่า เออทำก็ได้วะ
ฉากตัดมาที่สเนปคุยกับดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์พยายามกล่อมให้สเนปเห็นว่าแฮรี่อ่อนโยนเหมือนแม่มากกว่ากวนติงเหมือนพ่อ สเนปถามดัมเบิลดอร์ต่อว่าดัมเบิลดอร์ไปแอบงุบงิบคุยอะไรกับแฮรี่2ต่อ2 ดัมเบิลดอร์จึงตอบว่าเขาไปให้ข้อมูลที่แฮรี่ควรรู้ก่อนที่จะสายเกินไป สเนปจึงงอนดัมเบิลดอร์ หาว่าดัมเบิลดอร์เชื่อใจแฮรี่แต่ไม่เชื่อใจเขา ดัมเบิลดอร์จึงตอบไปว่า เขาไม่อาจบอกความลับทั้งหมดแก่(ตะกร้าหน้าจะหมายถึงคนแหละ)คนเพียงคนเดียวได้(ประมานข้อมูลควรจะกระจายๆกันไป) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ทำงานใกล้ชิดโวลดี้แบบสเนป สเนปจึงโต้กลับว่า แล้วทีกับแฮรี่ที่มีจิตเชื่อมต่อกับโวลดี้โดยตรงล่ะฟระ ดัมเบิลดอร์จึงตอบไปว่า โวลดี้เคยได้รับบทเรียนเกี่ยวกับการพยายามที่จะเข้าถึงจิตใจแฮรี่มาแล้วเมื่อเร็วๆนี้ และเขาคงไม่พยายามเข้าถึงจิตของแฮรี่ด้วยวิธีนั้นอีก
ตัดมาที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์อีกครั้ง ดัมเบิลดอร์เตือนสเนปว่า แฮรี่ต้องไม่รู้อะไรเลยจนกว่าจะถึงช่วงสุดท้ายของแผนการณ์นี้หลังจากที่เขาตาย จนกว่าช่วงเวลาที่โวลดี้กังวลเกี่ยวกับชีวิตของนากินีและพยายามเก็บมันไว้ใกล้ตัวมาถึง ช่วงเวลานั้นจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะบอกแฮรี่ว่าในคืนที่ลิลลี่ตายและวิญญาณของโวลเดอมอร์แตกกระจายเป็นชิ้นๆ วิญญาณส่วนหนึ่งของเขาได้เข้ามาอยู่ในสิ่งมีชีวิตเดียวภายในบ้าน ซึ่งนั่นก็คือแฮรี่ ประมานว่าถ้าแฮรี่ไม่ตาย โวลดี้ก็ไม่ตาย(ทายถูกกันอีกละ)
เริ่มง่วงเอาแบบย่อๆแล้วนะคะ
สเนปรู้สึกว่าเหมือนตัวเองถูกดัมเบิลดอร์หลอกใช้ให้ช่วยแฮรี่เพื่อลิลลี่ แต่เปล่าเลย ดัมเบิลดอร์รักษาชีวิตของแฮรี่ไว้ เพื่อที่จะใช้ความตายของแฮรี่ให้ถูกเวลา ไม่ต่างอะไรกับเลี้ยงหมูเพื่อรอเวลาเชือด แล้วฉากหลังจากนี้สเนปก็เสก ผู้พิทักษ์ออกมาเป็นกวางตัวเมียสีเงิน ดัมเบิลดอร์ถามว่าผู้พิทักษ์ของเขาเป็นแบบนี้มาตลอดหรือ สเนปตอบว่า มันเป็นแบบนี้เสมอมอและจะตลอดไป( กริ๊กริ้วไอ้ตลอดไปนี่เติมเองค่ะ เหอๆๆ)
ฉากตัดมาที่ดัมเบิลดอร์กำลังเตี๊ยมแผนการกับสเนป ที่ใช้น้ำยาสรรพรสปลอมหลายๆคนเป็นแฮรี่แล้วใช้เป็นเหยื่อล่อ โดยให้สเนปสะกดมันดังกัสให้ไปเสนอแผนนี้ต่อภาคีอีกที
ฉากต่อมาสเนปอยู่ในห้องนอนเก่าของซีเรียสกำลังอ่านจดหมายเก่าๆของลิลลี่น้ำตาไหลพรากๆ ในหน้าที่2มีข้อความว่า (อันนี้แหนมยังงงๆว่าหมายถึงอารัย ยังไงก็เอามาทั้งข้อความเลยละะกันค่ะ)
could ever have been friends with Gellert Grindelwald. I think her mind going personally
lots of love
Lily
สเนปเก็บรูปภาพของลิลลี่ที่กำลังยิ้มแย้มไว้(แต่ฉีกรูปเจมส์ที่อยู่ข้างๆออกไปแล้ว)
ฉากตัดมาที่ห้องอาจารย์ใหญ่ ฟีนีแอสไนเจลลัสเข้ามารายงานเขาว่า พวกเลือดสีโคลนมาตั้งค่ายอยู่ที่forrest of deanแล้ว สเปนโต้กลับไปว่าอย่าใช้คำนั้น(คำว่าเลือดสีโคลน) ฟีนีแอสรายงานต่อ ว่าเขาได้ยินนังเด็กเกรนเจอร์นั่นเอ่ยถึงสถานที่ตอนที่เธอเปิดกระเป๋า(รูปฟีนีแอสที่พวกแฮรี่พกมาด้วย) รูปภาพดัมเบิลดอร์ในห้องอาจารย์ใหญ่เตือนสเนปไม่ให้ลืมมอบดาบของกริฟฟินดอร์ให้แฮรี่ และต้องระวังไม่ให้แฮรี่รู้ว่าใครเป็นคนมอบให้ เพราะดัมเบิลดอร์อาจจะอ่านใจแฮรี่เจอเรื่องพวกนี้ได้ แล้วสเนปก็ออกจากห้องไป
แฮรี่เงยหน้าขึ้นมาจากเพนซีฟ จบ(กันห้วนๆดื้อๆแบบนี้ล่ะค่าตอนนี้)

อาจจะพิมพ์ผิดเยอะมาก เพราะตอนพิมพ์ก็ง่วงๆเบลอๆแล้ว ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้นะค้า =/\=

จากคุณ : แหนมมัด - [ 21 ก.ค. 50 03:40:07 ]




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2550 21:52:47 น.
Counter : 608 Pageviews.  

แฮรี่ พ๊อตเตอร์ เล่ม 7 ตอน 23-27

บทที่ 23 มันโคตร

Chapter 23 Malfoy Manor

พวกล่าค่าหัวล้อมเต็นท์ของทั้ง 3 คน เสกคาถาใส่เข้าไปในเต็นท์ ทั้ง 3 คนโดนคาถากันเข้าไปเต็มๆ แฮรี่โดนคาถาเข้าเต็มหน้า ทั้ง 3 คนโดนจับได้ เกรแบ็คเป็นหัวหน้าพวกล่าค่าหัว พวกนี้รู้ที่อยู่ของทั้ง 3 คนเพราะแฮรี่เผลอเรียกชื่อโวลเดอร์มอร์ มีการลงคาถาใส่ชื่อนี้ ใครเรียกชื่อโวลเดอร์มอร์โดยตรงจะถูกระบุที่อยู่ได้และถูกจับกุมข้อหาต่อต้านและถูกสอบสวน

เกรแบ็คถามชื่อทั้ง 3 คน เกรแบ็คจำแฮรี่ไม่ได้เพราะแฮรี่โดนคาถาที่หน้าทำให้มีแผลและมีเลือด(มั้ง)กลบหน้าจนมองไม่ออก แฮรี่อ้าวว่าตัวเองชื่อเวอนอน ดัดลี่ รอนบอกว่าเขาชื่อบาร์ดี้ วีสลี่ที่เป็นญาติห่าง เฮอไมโอนี่บอกว่าเธอชื่อเพเนโลเป้ เคลียร์วอร์เตอร์ ทั้งสามคนอ้างว่าหนีโรงเรียนมา แต่ในราชชื่อนักเรียนไม่มีชื่อเวอนอน ดัดลี่ แฮรี่โดนซักเขาจึงอ้างว่าอยู่บ้านสลิเธอลิน และเนื่องจากแฮรี่เคยแอบเข้าไปในห้องนั่งเล่นของสลิเธอลินตอนปี 2 ทำให้เขาบรรยายภาพได้ถูก แฮรี่ยังอ้างว่ามีพ่อทำงานที่กระทรวง ปรากฏว่ามีคนนามสกุลดัดลี่ทำงานที่กระทรวงจริงๆ เกรแบ็คเกือบหลงเชื่อ แต่มีคนในกลุ่มหยิบเดลี่พรอเฟ็ตออกมา ในนั้นมีภาพเฮอไมโอนี่อยู่ในประกาศจับ เกรแบ็คจึงรู้ว่าพวกเขาโกหก และเวอนอน ดัดลี่จะต้องเป็นแฮรี่ พอตเตอร์ แต่ไม่มีใครแน่ใจ เต็นท์ถูกค้นอย่างละเอียดและดาบกริฟฟินดอร์ถูกยึดไปได้ เกรแบ็คสั่งให้พานักโทษทั้งหมดซึ่งรวมถึงดีน โทมัสและกริบฮุกที่ถูกจับได้ก่อนแล้วไปที่บ้านมัลฟอยล์ที่ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการ เดรโกกับลูเซียสที่เคยเจอพวกแฮรี่มาก่อนถูกตามมาระบุตัวแฮรี่ แต่ไม่มีใครกล้าชี้ชัดเพราะหน้าแฮรี่ตอนนี้เยินมาก แต่พวกเขาจำเฮอไมโอนี่กับรอนได้ ยังไม่มีใครกล้าตามตัวโวลเดอร์มอร์มาเพราะถ้าเกิดความผิดพลาดอาจได้รับโทษได้ แฮรี่เริ่มเจ็บแผลเป็นอีกครั้ง โวลเดอร์มอร์ไปพบใครคนนึงเพื่อตามหาของที่แฮรี่เชื่อว่าคือ wand ในตำนาน เบราทริกซ์เข้ามาในห้อง เธอเห็นดาบของกริฟฟินดอร์ที่เกรแบ็คถืออยู่ เธอตกใจมากเพราะเธอได้รับคำสั่งให้ไปดูและกริงกอตและตอนนี้ดาบน่าจะเก็บอยู่ที่นั่น เบราทริกซ์แย่งดาบมาจากเกรแบ็คและโวยวายถามว่าดาบนี่มาได้ยังไง พวกแฮรี่ไม่ตอบ เบราทริกซ์ยืนกรานว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องสอบสวนก่อนจะรายงานโวลเดอร์มอร์ได้ เธอสั่งให้เอานักโทษไปขังที่ห้องใต้ดินยกเว้นเฮอไมโอนี่ รอนพยายามขวางแต่ไม่สำเร็จ

ที่ห้องใต้ดิน แฮรี่ได้เจอลูน่ากับโอลิแวนเดอร์ที่ถูกขังมาก่อน เฮอไมโอนี่ถูกเบราทริกซ์ทรมานให้บอกว่าได้ดาบมาได้ยังไง พวกเขาแอบเข้าไปในกริงกอตได้ยังไง และขโมยอะไรไปอีกบ้าง เฮอไมโอนี่บอกว่าเจอดาบโดยบังเอิญและดาบอันนี้เป็นของปลอม เบราทริกซ์ให้พาตัวกริบฮุกมาดูดาบ ดาบของจริงสร้างโดยก๊อบลิน กริบฮุกต้องดูออก เดรโกมาที่ห้องขังพาตัวกริบฮุกไป แฮรี่แอบกระซิขอร้องให้กริบฮุกโกหก แฮรี่ใช่กระจกสองทางเรียกตัวด๊อบบี้มาช่วย แฮรี่ให้ด๊อบบี้พาลูน่า โอลิแวนเดอร์ และดีนหายตัวหนีไปก่อนค่อยกลัมารับเขากับรอน แต่เสียงหายตัวของเอลฟ์ดังมากจนลูเซียสได้ยิน ลูเซียสสั่งให้หางหนอนลงไปตวจดูห้องใต้ดิน แฮรี่กับรอนรอจังหวะที่หางหนอนเข้ามาในห้องขัง รอนริบ wand ของหางหนอนได้ แฮรี่เอามือปิดปากหางหนอนไม่ให้ส่งเสียง หางหนอนบีบคอแฮรี่ แฮรี่ทวงบุญคุณเรื่องที่เขาเคยช่วยหางหนอน หางหนอนจึงปล่อยมือจากแฮรี่ ทันใดนั้นมือปลอมของหางหนอนที่โวลเดอร์มอร์เสกให้กลับบีบคอตัวเอง แฮรี่กับรอนพยายามช่วยแต่ไม่สำเร็จ หางหนอนตาย(ซะงั้นแหละ)

ที่ด้านบน กริบฮุกบอกเบราทริกซ์ว่าดาบที่ยึดได้เป็นของปลอม เบราทริกซ์จึงใช้รอยแผลที่แขนเรียกตัวโวลเดอร์มอร์ โวลเดอร์มอร์กำลังทรมานชายแก่คนหนึ่งให้บอกว่าของอยู่ที่ไหนแต่ไม่สำเร็จ โวลเดอร์มอร์จึงฆ่าชายแก่นั่น รอนวิ่งขึ้นไปด้านบน ใช้คาถาปลดอาวุธ แฮรี่ที่ตามมายึด wand ของเบราทริกซ์ได้ เบราทริกซ์ใช้มีดขู่จะฆ่าเฮอไมโอนี่ รอนยอมวางอาวุธ ทันใดนั้นโคนไฟเพดานตกลงมาด้วยฝีมือด๊อบบี้ แฮรี่เสกคาถาใส่เกรแบ็ค โวลดอร์มอร์ใกล้จะกลับมาแล้ว แฮรี่สั่งให้บ๊อบบี้รีบพาทุกคนหนี กริบฮุกหยิบดาบได้ด้วย เบราทริกซ์ปามีดใส่ก่อนที่ทุกคนจะหายตัวไป เมื่อไปถึงที่หมาย แฮรี่พบว่าด๊อบบี้โดนมีดปักกลางอก ด๊อบบี้ตายในวงแขนของแฮรี่

จากคุณ : Domingo - [ 20 ก.ค. 50 19:02:42 ]

บทที่ 24 The Wandmaker

ครับ ยาวหน่อยนะ ผมย่อไม่เก่ง

บทที่24 ครับ

หลังจาก Dobby ตาย ทุกคนก็วิ่งออกมาหาแฮรี่ โดยที่รอนมาเฮอไมโอนี่เข้าไปพักข้างใน ส่วน Deanกับ nFleur ก็พาGriphook ที่บาดเจ็บไปรักษา

แฮรี่บอกว่าเขาต้องการฝังศพDobby ให้เหมาะสม และปฏิเสธที่จะใช้เวทย์มนตร์เสกหลุมฝังศพ แฮรี่ให้ทุกคนเข้าไปข้างในแล้วเริ่มต้นขุดหลุมด้วยตัวเองคนเดียว ถึงแม้แผลเป็นจะปวดแปลบ แต่แฮรี่ก็เรียนรู้ที่จะควบคุมความเจ็บปวดไว้ (เจอมาหนักนี่เนอะ) ขุดไปก็คิดไป Hallows / Horcruxes / Hallows / Horcruxes แล้วแฮรี่ก็คิดได้ว่า ตอนนี้ Vold อยู่ที่ไหน และนึกถึงหางหนอนที่ถูกฆ่า

สักพัก รอน กับ ดีนก็ออกมาช่วยขุดด้วย พอขุดเสร็จ รอนก็ถอดรองเท้าตัวเองสวมให้ Dobby ส่วนดีนก็เสกย์หมวกให้Harry เอาไปสวมหัวDobby แล้วทุกคนก็ออกมาข้างนอก เฮอร์ไมโอนี่ยังอาการไม่ดี ตัวซีดหนาวสั่น ส่วนลูน่าก็ปิดตาให้ศพของDobby

แฮรี่วางศพของDobby ลงในหลุม ลูน่าบอกว่าทุกคนควรจะพูดอะไรซักหน่อย โดยเธอเป็นคนเริ่มก่อน เธอกล่าวขอบคุณDobby ที่ช่วยชีวิตขจองเธอไว้ และมันไม่ยุติธรรมเลยที่Dobbyจะต้องมาตายทั้งๆที่เป็นคนดีและกล้าหาญ คนอื่นรวมทั้งแฮรี่พูดอะไรไม่ออกนอกจากคำขอบคุณหรือคำลาก่อน หลังจากนั้นพอทุกคนกลับเข้าไปข้างใน แฮรี่ก็ขอเวลาอยู่กับหลุมศพคนเดียวสักพัก

แฮรี่ล้วงเข้าไปในกระเป๋า จับไม้กายสิทธิ์ทั้งสอง แล้วเลือกอันที่สั้นกว่า เขาเสกคาถาใส่หินก้อนใหญ่ๆแถวนั้นเพื่อทำป้ายหลุมฝังศพในDobby “HERE LIES DOBBY, A FREE ELF.”

พอแฮรี่เข้ามาด้านใน Bill ก็บอกว่าได้ย้ายทุกคนจาก Burrow ไปMuriel เรียบร้อยแล้ว เพราะพวก Death Eater รู้ว่า รอนอยู่กับแฮรี่ และครอบคัว Weasley จะตกเป็นเป้าหมายได้ และก็บอกว่าจะย้าย Olivander กับ Griphook ที่บาดเจ็บไปที่ Muriel ด้วย แต่แฮรี่สวนว่า เขาต้องคุยกับสองคนนั่นเป็นการส่วนตัว (ท่าทีแฮรี่ตอนนี้เปลี่ยนไปเลยครับ เข้มโหดทีเดียว) แฮรี่ขอตัวไปล้างมือที่เปลื้อนโคลน ระหว่างที่ล้างแฮรี่ก็คืดไปถึงว่าใครเป็นคนส่งDobby มาช่วย แล้วก็นึกไปถึงประโยคของDumbledore “จะมีความช่วยเหลือที่ฮอกวอร์ตเสมอเมื่อมีคนต้องการ (ภาษาไทยแปลแบบนี้รึเปล่าหว่า)”

(ย่อหน้าต่อไป อยากแปลเต็มๆช่วงครับ เพราะมันคมมากๆ)

........Harry understood and yet did not understand. His instinct was telling him one thing, his brain quite another. The Dumbledore in Harry’s head smiled, surveying Harry over the tips of his fingers, pressed together as if in prayer.
แฮรี่เข้าใจแต่ก็ยังไม่เข้าใจ สัญชาติญาณบอกเขาอย่างหนึ่ง แต่สมองก็บอกเขาอีกอย่าง ภาพของDumbledoreในหัวของแฮรี่กำลังยิ้ม มือประสานกันคล้ายกับกำลังสวดภาวนา
You gave Ron the Deluminator…You understood him…You gave him a way back…
คุณให้Deluminator กับรอน ...... คุณเข้าใจรอน ......คุณให้ทางออกกับเขา

And you understood Wormtail too…You knew there was a bit of regret there, somewhere
และคุณก็เข้าใจหางหนอน ... คุณรู้ว่าเขายังมีความสำนึกผิดซ่อนอยู่ในใจ

… And if you knew them…What did you know about me, Dumbledore? Am I meant to know but not to seek? Did you know how hard I’d feel that? Is that why you made it this difficult? So I’d have time to work that out?
.....ถ้าคุณเข้าใจพวกเขา แล้วผมล่ะ ดัมเบิลดอร์...ผมควรจะได้รู้แต่ห้ามค้นหาอย่างนั้นหรือ ..... คุณรู้ไหมว่ามันหนักหนาเหลือเกิน.... เพราะเหตุนี้เหรอ คุณถึงทำให้มันยากนัก เพื่อจะให้ผมใช้เวลาในการค้นหามัน
(แปลไม่ได้เรื่องเลยตรู แนะนำให้อ่านภาษาอังกฤษครับ ชอบๆๆ)

หลังจากคุ่นคิดอยู่สักพัก แฮรี่ก็ขอคุยกับ Olivander และ Griphook ...Fluer คัดค้านยและบอกว่าพวกเขายังเจ็บหนักอยู่ แต่แฮรี่บอกว่า ไม่มีเวลาแล้วบิลถามว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆแฮรี่ก็โผล่มาพร้อมศพของเอล์ฟ กับ ก๊อบลินที่บาดเจ็บ แฮรี่บอกว่า เขาบอกไม่ได้ และยังบอกอีกว่า บิลก็เป็นสมาชิกของ Order และรู้ว่า Dumbledore ฝากภารกิจไว้ให้ตัวเขา (อย่าถาม ว่างั้นเถอะ) บิลก็เลยถามว่า จะคุยกับใครก่อน คนขายไม้ หรือ ก๊อบลิน

แฮรี่ลังเลว่าจะเอาเรื่องไหนก่อนดี Hallows หรือ Horcruxes ....และก็ตัดสินใจเลือก.....Griphook แฮรี่ขอให้ รอนกับเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปด้วย

Griphook บอกว่าแฮรี่เป็นพ่อมดที่แปลกดูจากที่แฮรี่ทำหลุมฝังศพให้กับ Dobby ซึ่งเป็นเอล์ฟประจำบ้าน แล้วก็มีการถกเถียงเล็กน้อยระหว่างรอนกับ griphook เรื่อง “wand carrier” (ปัญหาระหว่างพวกพ่อมดที่ไม่ยอมให้ goblin ซึ่งสามารถให้เวทย์ได้อยู่แล้ว ถือครองไมกายสิทธิ์ เพราะจะทำให้มีอำนาจยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนรอนเถียงว่า goblin ก็ไม่บอกความลับของการหลอมดลหะกับพวกพ่อมดเหมือนกัน) แล้วก้เข้าสู่หัวข้อหลักที่คุยกับ Griphook ก็คือ แฮรี่บอกว่าจะบุกเข้าปล้นกริงกอร์ต. ... และจะบุกห้องเซฟของตระกูล Lestranges..... ถึง griphook จะบอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่แฮรี่ก็บอกว่า ก็วันที่ แฮรี่ไปกริงกอร์ตวันแรกไง ที่มีคนบุกเข้าไปสำเร็จ Griphook ก็ปฏิเสธว่านั่นมันห้องเปล่าๆ แต่ของ Lestranges มันต้องแน่นหนาแน่ๆ แล้วยังถามว่า จะเข้าไปทำอะไร เพราะดาบของกริฟฟินดอร์ในห้องนนั้นมันก็ของปลอม (ของจริงอยู่นี่) แฮรี่บอกว่าในห้องมันมันมีอย่างอื่นอีกนอกจากดาบ...griphook บอกว่าความลับลูกค้าเปิดเผยไม่ได้ (แน่ะ เล่นตัวอีก) แฮรี่ขอให้griphook ช่วยพวกเขาในการที่จะบุกเข้าไปในเซฟ ซึ่ง griphook บอกว่าขอคิดดูก่อน.....

พอgriphook ออกมา แฮรี่ก็บอกรอนว่า ตอนที่แฮรี่โกหก เบลลาทริกซ์ว่าบุกห้องเซฟมาแล้ว เบาลาทริกซ์เหมือนกลัวอะไรบางอย่างจับจิต ซึ่งแฮรี่เดาว่าสิ่งของอีกสิ่งที่ซ่อนอยู่ในห้องเซฟก็คือ Horcrux อีกชิ้นหนึ่ง ถึงทำให้ เบลลาทริกซ์ออกอาการเมื่อได้ยินว่าโดนบุกเซฟ

รอนสงสัยเพราะนึกว่า Horcrux จะถูกซ่อนในที่ที่Voldermort เคยไป แล้วก็ถามว่า Voldermort เคยไปกริงกอร์ตเหรอ แฮรี่บอกว่า ตอนเด็ก Voldermort ยากจน น่าจะเป็นปมที่ทำให้อิจฉาพวกที่มีกุญแจเซฟที่กริงกอร์ต จึงเป็นไปได้ว่าความเก็บกดนี้จะทำให้โวลดี้เอาของไปซ่อนที่กริงกอร์ต

ต่อมาก็เป็นคิวของโอลิแวนเดอร์ ...โอลิแวนเดอร์กล่าวขอบคุณแฮรี่ที่ช่วยเขาออกจากการโดนทรมานอย่างหนัก... แฮรี่บอกไม่เป็นไร แล้วก็ส่งไม้กายสิทธิ์ที่หักครึ่งของเขาให้โอลิแวนเดอร์ซึ่งโอลิแวนเดอร์ก็บอกว่า ถ้าเสียหายขนาดนี้คงจะซ่อมไม่ได้แล้ว แฮรี่เลยเอาไม้อีก 2 อันในกระเป๋าให้โอลแวนเดอร์ดู ซึ่งโอลิแวนเดอร์ก็บอกได้ทันทีว่าเป็นของ เบลลาทริกซ์ กับของเดรโก มัลฟอย ...แฮรี่เลยถามว่า แล้วไม้นี่เค้าจะใช้ได้อย่างปลอดภัยมั้ย โอลิแวนเดอร์บอกว่า อาจจะ เพราะถ้าไม้กายสิทธิ์ถูกเอาชนะมาอย่างถูกต้องมันจะรับใช้นายใหม่ได้เต็มที่ รอนก็เอาไม้ของเพตติกรูให้โอลิแวนเดอร์ดู และถามว่าเขาควรจะใช้ไม้อันนี้รึเปล่า โอลิแวนเดอร์บอกว่าได้เ ถ้าเธอเป็นคนเอาชนะมา

แฮรี่เลยถามว่า กฏนี้ใช้ได้กับไม้ทุกอันรึเปล่า โอลิแวนเดอร์บอกว่า น่าจะ และบอกว่าศาสตร์ของไม้กายสิทธิ์มันซับซ้อนมาก แฮรี่เลยถามต่อว่า แล้วจำเป็นจะต้องฆ่าเจ้าของคนเดิมรึเปล่า เพื่อที่จะชิงไม้มา โอลิแวนเดอร์ปฏิเสธว่าคงจะไม้ต้องถึงขนาดฆ่าก็ได้ แฮรี่เลยยกเรื่องเล่าของไม้ที่ส่งต่อกันระหว่างฆาตกร ซึ่งโวลเดอมอร์ตกำลังต้องการไม้นี้อยู่...โอลิแวนเดอร์ตกใจมากว่าแฮรี่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง แฮรี่ยังบอกอีกว่า เขารู้ว่า โอลิแวนเดอร์บอกให้โวลเดอมอร์ตใช้ไม้ของคนอื่นแทน เพราะไม้ของทั้งสองเป็นพี่น้องกัน ซึ่งทำให้โอลิแวนเดอร์ยิ่งซีดเข้าไปใหญ่ แต่แฮรี่ไม่ได้ว่าอะไร แล้วเล่าเรื่องที่ ไม้ของแฮรี่เสกคาถาโดยที่แฮรี่ไม่ได้ร่าย.. โอลิแวนเดอร์บอกว่าประหลาดมากและไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน

แฮรี่เลยวกกลับมาที่เรื่องไม้ elder wand หรือ Deathstick หรือ Wand of Destiny (นึกว่า Pick of Destiny ซะอีกแหน่ะ)

โอลิแวนเดอร์เลยว่าว่า โวลเดอมอร์ตนั้นพอใจกับไม้ของตัวเองมาก จนกระทั่งพบว่า ระหว่างไม้ของแฮรี่กับตัวเองมันเชื่อมกัน เลยต้องการหาไม้ใหม่ แฮรี่เลยบอกว่า อีกไม่นานเดี๋ยวโวลเดอมอร์ตก็จะรู้ว่าไม้ของเขาหักไปแล้ว แต่เฮอร์ไม่เห็นด้วย และบอกว่าเขายังไม่รู้ และจะหลอกให้เป็นแบบนั้น แต่แฮรี่บอกว่า ร่องรอยที่บ้าน Malfoy จะทำให้ โวลเดอมอร์ตรู้ว่า เขาใช้ไม้อันอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเอง โอลิแวนเดอร์บอกว่า โวลเดอมอร์ตไม่ได้แค่ต้องการไม้ elder wand เพื่อเอาชนะแฮรี่ แต่ยังต้องการจะไร้เทียมทาน (เป็นหนังจีนไปแล้ว)

แฮรี่เลยทักว่า โอลิแวนเดอร์ใช่มั้ยที่บอกโวลเดอมอรืต ว่าไม้อยู่กับ Gregorovicth ซึ่งก็ทำให้ โอลิแวนเดอร์ตกใจ (เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว) ว่าทำไมแฮรี่รู้ (เยอะนัก) โอลแวนเดอร์บอกว่าเขาลือกันว่าอย่างนั้น และบางทีตัวGregorovitch เองที่เป็นคนปล่อยข่าวนี้ แฮรี่เลยถามต่อว่า โอลิแวนเดอร์ รู้อะไรเกี่ยวกับ deathly Hallows บ้าง ซึ่ง โอลิแวนเดอร์เองก็บอกว่าไม่รู้เลยว่าคืออะไร ...การซักถามโอลิแวนเดอร์จบแค่นี้

ทั้งสามคนออกมาที่หลุมศพของDobby ...ซึ่งแฮรี่เริ่มอธิบายทฤษฎีที่เขาคิดให้ รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ฟัง แฮรี่บอกว่า ไม้เคยอยู่กับ Gregorovitch แต่ก็ถูก Grinderwald ขโมยไป ....ซึ่งในขณะนี้แฮรี่ก็สัมผัสได้ว่า โวลเดอมอร์ตมาอยู่ที่ประตูของฮอกวอร์ตแล้ว...!!!

แฮรี่เล่าต่อว่า ...เมื่อGrinder wald ทรงพลังมากขึ้น ก็โดนปราบ..โดยดัมเบิลดอร์.....ซึ่งก็แปลว่าไม้ elder wand อยู่กับดัมเบิลดอร์นี่เอง...และตอนนี้ไม้ก็อยู่ที่ฮอกวอร์ตนี่แหล่ะ.... รอนเลยบอกว่า งั้นก็รีบไปเอาเลยสิ ...แต่แฮรี่บอกว่า สายไปแล้ว...ป่านนี้ โวลเดอมอร์ตน่าจะไปถึงไม้ก่อนแล้ว

“ไม้ที่ไม่มีทางแพ้นะ แฮรี่” รอนครวญคราง
“ฉันไม่ควรจะไปเอาไม้.....ฉันควรจะไปเอาHorcrux…

ฉากตัดมาที่ โวลเดอมอร์ตกับ กับ สเนป โวลเดอมอร์ตสั่งในสเนปไปรอที่ปราสาท ส่วนตัวเองก็ใช้คาถากำลังกาย แล้วบุกหลุมศพของดัมเบิลดอร์ ศพของดัมเบิลดอร์ยังถูกเก็บไว้อย่างดี และนั่นเอง ที่หน้าอกของศพ สิ่งที่มือทั้งสองประสานไว้....elder wand
โวลเดอมอร์ตชิงไม้มาได้แล้ว.....

จากคุณ : rynekel - [ 20 ก.ค. 50 19:19:56 ]

บทที่#25 - Shell Cottage

ยังอยู่ที่กระท่อมเปลือกหอยริมหาดของบิลกับเฟลอร์ แฮร์รี่ซึ่งบอกว่าจะไม่ตามไปชิง Elder Wand กลับรู้สึกสับสนและลังเล
นี่เป็นครั้งแรกที่แฮร์รี่เลือกที่จะไม่ลงมือทำอะไรเลย ยิ่งคิดถึงหลุมศพดัมเบิลดอร์ยิ่งทำให้แฮร์รี่รู้สึกแย่
เหมือนกับว่าดัมเบิลดอร์ทิ้งความนัยอะไรบางอย่างเอาไว้ให้แฮร์รี่ค้นหาคำตอบแล้ว แต่ตัวเขาเองมองข้ามมันไป ทำให้เขาต้องคอยเหลียวหลังหันกลับมามองอย่างลังเล
ตลอดเวลาว่าทางที่เลือกเดินมานี้ถูกต้องแล้วหรือ แล้วแฮร์รี่ก็พาลนึกโกรธดัมเบิลดอร์ที่ไม่อธิบายอะไรๆ ให้ชัดเจนไว้ก่อนตายบ้างเลย
รอนพยายามเปิดประเด็นว่าดัมเบิลดอร์ตายไปแล้วจริงๆ รึเปล่าใหม่ ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ตั้งท่าค้านตกเต็มที่ พอดีเฟลอร์เดินเข้ามาขัดจังหวะ
บอกแฮร์รี่ว่ากริปฮุคอยากคุยกับแฮร์รี่เป็นการส่วนตัวในห้อง ด้วยท่าทีที่ไม่ปิดบังเลยว่าเธอไม่ชอบพวกกอบลินอย่างยิ่ง

กริปฮุดบอกกับแฮร์รี่ว่าตกลงจะช่วยพวกแฮร์รี่บุกเข้าไปในกริงก็อตส์ แต่จะไม่ทำให้ฟรี ขอค่าจ้างเป็นดาบของกริฟฟินดอร์
ได้ยินข้อเรียกร้องของกริปฮุดเข้าไปฝั่งแฮร์รี่ถึงกับสะอึก รอนเสนอว่าให้กริปฮุดเอาสมบัติอะไรก็ได้ในเซฟของพวกเลสแตรงค์แทน
กริปฮุดสวนกลับอย่างเดือดว่าตนไม่ใช่ขโมย จะไม่ถือเอาของที่ตนไม่มีสิทธิ รอนบอกว่าดาบนั้นเป็นของกอดริก กริฟฟินดอร์
ดังนั้นจึงเป็นของพวกตนซึ่งเป็นลูกบ้านกริฟฟินดอร์ด้วย กริปฮุดชี้หน้ารอนด้วยความโกรธจัดแล้วโต้ว่าดาบนั้นเป็นของ Ragnuk
ที่หนึ่ง (กษัตริย์ของกอบลิน?) ซึ่งถูกกอดริก กิรฟฟินดอร์แย่งชิงมา เป็นงานชิ้นเองของช่างกอบลิน เป็นสมบัติของกอบลิน
แล้วก็ยื่นคำขาดว่าไม่ตกลงก็เลิกพูดกัน แฮร์รี่ของตัวออกมาปรึกษากันก่อน

ทั้งสามคุยกันว่าจะเชื่อเรื่องที่กริปฮุคบอกว่าดาบนั้นเป็นของขโมยมาได้รึเปล่า เฮอร์ไมโอนี่เองก็ไม่แน่ใจ
เพราะประวัติศาสตร์ของพ่อมดย่อมไม่เขียนเรื่องแย่ๆ ของพ่อมดไว้ เธอเสริมว่าพวกกอบลินเองก็มีเหตุผลที่ดีที่จะเกลียดชิงชังพวกพ่อมด
เพราะในอดีตพวกพ่อมดกดขี่ข่มเหงกอบลินไว้เยอะมาก รอนเสนอแผนว่าจะเอาดาบปลอมให้กริปฮุคไป
ยิ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่ได้ทีไล่ทันทีว่าพวกพ่อมดก็คิดกันแบบนี้แหละพวกกอบลินถึงไม่ชอบหน้าเอา เงียบไปอีกพักโดยไม่มีใครคิดออกว่าจะเสนอให้อะไรที่มีค่าพอๆ
กับดาบที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้ในการทำลายฮอร์ครักซ์เหมือนกันดี

ในที่สุดแฮร์รี่ก็ตกลงใจว่าเขาจะยอมให้ดาบกริฟฟินดอร์ไปหลังจากที่กริปฮุคช่วยให้พวกเขาบุกเข้าไปได้สำเร็จแล้ว
แต่เขาจะไม่บอกกริปฮุคว่าจะให้ดาบ "เมื่อไหร่" เฮอร์ไมโอนี่ไม่ชอบไอเดียนี้ แต่ไม่มีใครคิดอะไรที่ดีกว่านี้ได้
ในที่สุดแฮร์รี่กับกริปฮุคก็จับมือทำข้อตกลงกันเรียบร้อย ท่ามกลางความชื่นมื่นของกริปฮุคแต่เพียงผู้เดียว

จากนั้นกริปฮุคกับทั้งสามก็หมกตัวกันวางแผนบุกปล้นกริงก็อตส์ชนิดที่แทบไม่โผล่หัวออกมาดูโลกนอกจากเวลาอาหาร
กริปฮุคออกตัวว่าเคยเข้าไปในห้องเซฟของตระกูลเลสแตรงค์เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นตอนที่เอาดาบปลอมไปเก็บไว้
ห้องนั้นเป็นหนึ่งในห้องเซฟที่เก่าแก่ที่สุด อยู่ลึกที่สุด ได้รับการคุ้มกันอย่างดีที่สุด เหมือนอย่างห้องของตระกูลพ่อมดเก่าแก่ทั้งหลาย
ซึ่งนี่เป็นอุปสรรคต่อแผนบุกของพวกเขา และอุปสรรคอีกอย่างคือน้ำยาสรรพรสในสต็อกเหลือเพียงแค่สำหรับ 1 คนเท่านั้น
เฮอร์ไมโอนี่แสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากพิจารณาแผนที่ทางเดินที่กริปฮุควาดให้ดูแล้วแฮร์รี่ก็บอกว่ามีเท่านั้นก็เพียงพอ

แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่เริ่มรู้สึกไม่ชอบนิสัยหยาบคายไร้ความปรานีต่อผู้อื่น (โดยเฉพาะชนเผ่าที่ด้อยกว่า) ของกริปฮุค
แต่ยังไงก็ต้องทนจนกว่าแผนจะสำเร็จ และจากความที่เฟลอร์ก็ไม่ชอบ ประจวบกับเรื่องต่างๆ มากมาย
วันหนึ่งแฮร์รี่จึงเอ่ยขอโทษกับเฟลอร์ที่ทำให้ต้องลำบากขณะที่ทั้งสองอยู่ในครัว
เฟลอร์บอกไม่เป็นไร เพราะยังไงแฮร์รี่ก็คือคนที่ช่วยชีวิตน้องสาวของเธอไว้ แล้วเปลี่ยนหัวเรื่องคุยว่าเดี๋ยวเย็นนี้คุณโอลิแวนเดอร์ก็จะไปอยู่บ้านเมอเรียลแทนแล้ว
อะไรๆ ก็คงจะยุ่งน้อยลง แฮร์รี่บอกว่าอีกไม่นานพวกเขาก็จะไปด้วยเหมือนกัน เฟลอร์กับบิลจะได้ไม่ลำบาก เฟลอร์ได้ยินก็บอกแฮร์รี่ว่าห้ามไปไหนนะ
อยู่ที่นี่แหละจะได้ปลอดภัย เป็นคำพูดที่แฮร์รี่รู้สึกว่าเหมือนแม่ของรอนจริงๆ พอดีจินนี่กับดีนเปียกฝนโชกกลับเข้าบ้านมาพอดี
แฮร์รี่จึงฉวยโอกาสหลบลี้หนีหายไปก่อนจะโดนเฟลอร์ซักถามอะไรอีก

คืนนั้นบิลพาคุณโอลิแวนเดอร์ไปส่งบ้านเมอเรียล เฟลอร์จึงฝากเทียร่าประดับเพชรกับมูนสโตนที่ยืมมาใช้ในงานแต่งไปคืนป้าเมอเรียลของครอบครัววีสลีย์ด้วย
กริปฮุคเห็นเทียร่านั้นก็ทักขึ้นว่าเป็นของที่ทำโดยกอบลินสินะ บิลตัดบทว่าและเป็นของที่พ่อมดจ่ายเงินให้แล้ว
จากนั้นบิลกับโอลิแวนเดอร์ก็ฝ่าลมแรงออกจากบ้านไป คนอื่นๆ ก็ตั้งโต๊ะกินมื้อเย็นกัน จนบิลกลับมา และบอกว่าทุกคนที่นั่นฝากความคิดถึงมาให้ด้วย
ขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอยู่บนโต๊ะอาหาร ก็ได้ยินเสียงเคาะที่ประตู ปรากฏว่าเป็นลูปินโผล่เข้ามาบอกว่าท็องส์คลอดลูกแล้ว เป็นเด็กผู้ชายชื่อเท็ด
ได้ยินอย่างนั้นทุกคนจึงเข้ามาแสดงความยินดีกับลูปิน (ยกเว้นกริปฮุค) ลูปินบอกว่าตนกับท็องส์เห็นพ้องต้องกันว่าจะให้แฮร์รี่เป็นพ่อทูนหัวของลูกชาย
แฮร์รี่ได้ยินอย่างนั้นก็รับปากไปอย่างงงๆ เฟลอร์ถามว่าเท็ดหน้าตาเหมือนใคร ลูปินบอกว่าคงเหมือนท็องส์ เพราะสีผมของเท็ดเปลี่ยนได้ด้วย
หลังจากดื่มไวน์ฉลองไปหลายแก้วลูปินก็ขอตัวกลับ แต่คนที่เหลือในบ้านยังคงฉลองข่าวดีนี้อย่างรื่นเริงกันต่อไป

บิลกับแฮร์รี่ช่วยกันเก็บโต๊ะ ขณะที่อยู่ในครัว บิลเปิดประเด็นเรื่องที่แฮร์รี่กำลังวางแผนอะไรอยู่กับกริปฮุค
บิลเอ่ยขึ้นว่าตนทำงานกับกอบลินมานานจนรู้จักพวกกอบลิน มีเพื่อนเป็นกอบลิน และเตือนแฮร์รี่ว่าจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการทำสัญญาตกลงอะไรกับกอบลิน
โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับสมบัติ เพราะวิธีคิดของพวกกอบลินในเรื่องของความเป็นเจ้าของนั้นแตกต่างจากของพวกพ่อมด
โดยที่พวกกอบลินถือว่า สิ่งของต่างๆ ถือเป็นสิทธิ์ของคนที่สร้างขึ้น วัตถุต่างๆ
ที่กอบลินสร้าง ในทัศนะของกอบลิน จึงถือว่าเป็นของกอบลินเสมอ แม้พวกพ่อมดจะจ่ายเงินให้ กอบลินก็จะถือว่านั่นคือการให้เช่าเฉยๆ
เมื่อพ่อมดที่เป็นเจ้าของตายสิ่งของก็ควรจะกลับมาเป็นของกอบลินผู้สร้าง ไม่ใช่เป็นของตกทอดเปลี่ยนมือกันไประหว่างพวกพ่อมด
ดังนั้นการยกของที่กอบลินสร้างตกทอดให้พ่อมดคนอื่นจึงเป็นการขโมยในสายตาของกอบลิน ในเมื่อแนวคิดเรื่องสิทธิ์แตกต่างจากของพวกพ่อมดเช่นนี้จึงทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันและไม่พอใจขึ้น
พวกกอบลินจึงมีความเชื่อกันว่าพวกพ่อมดนั้นไว้ใจไม่ได้ในเรื่องเงินๆ ทองๆ บิลกล่าวสรุปว่าจะทำสัญญาอะไรกับกอบลินก็ให้ระวัง แฮร์รี่ก็รับปากว่าจะจำใส่ใจไว้

บทที่ 26 "กริงกอทท์"

หลังจากใช้เวลาวางแผนนานหลายวัน ในที่สุดพวกแฮรี่ก็พร้อมบุกกริงกอทท์ คืนก่อนออกเดินทางแฮรี่เอา wand ของเบราทริกซ์ให้เฮอไมโอนี่
ใช้แทนอันของเธอที่หายไป เฮอไมโอนี่ไม่ชอบใจนักเพราะ wand อันนี้เคยใช้ทำเรื่องเลวร้ายมาก และมันยังไม่ยอมรับเธอเต็มที่
เฮอไมโอนี่บ่นที่ลูน่าได้ wand อันใหม่เป็นของขวัญจากโอลิแวนเดอร์ เธอน่าจะได้บ้าง แฮรี่ใช้ wand ของมัลฟอยล์ที่ยึดมาได้ ส่วนรอนใช้ wand
ของหางหนอน ตามแผนที่วางไว้ เฮอไมโอนี่จะปลอมเป็นเบราทริกซ์เข้าไปในธนาคารและรอนจะปลอมตัวเป็นนักลงทุนจากสแกนดิเนเวียที่เบราทริกซ์ต้องดูแล
ส่วนแฮรี่กับกริดฮุกจะซ่อนตัวอยู่ในผู้คลุมล่องหน

เมื่อไปถึงตรอกไดแอกอน เทรเวอร์เข้ามาทักเบราทริกซ์(เฮอไมโอนี่) เขาสงสัยว่าเบราทริกซ์น่าจะยังถูกขังอยู่ในบ้านมัลฟอยล์
เพราะโดนทำโทษที่ปล่อยให้แฮรี่หนีไป เฮอไมโอนี่บอกว่าดาร์กลอร์ดให้อภัยคนที่จงรักภักดีมากกว่าและมีผลงานมากกว่า
เทรเวอร์เดินนำทั้งหมดไปที่กริงกอทท์ ที่หน้าธนาคารมีพ่อมด 2
คนในชุดสีทองถือเครื่องมือพิเศษสำหรับใช้ตรวจหาเวทมนต์เข้ามาตรวจเฮอไมโอนี่กับรอน แฮรี่เสกคาถา Confundo ใส่เครื่องมือให้การตรวจผิดพลาด
เมื่อเข้าไปที่ข้างในเฮอไมโอนี่แจ้งความต้องการเข้าไปในห้องนิรภัยของเบราทริกซ์ ก๊อบลินขอดูสิ่งแสดงตัว พวกเขาได้รับคำสั่งให้ระวังตัวปลอม เฮอไมโอนี่ส่ง wand ให้ตรวจ
กริดฮุกกลัวว่าจะผิดพลาดจึงให้แฮรี่เสกคาถาสะกดใจใส่ก๊อบลินตัวนั้นกับเทรเวอร์จนผ่านเข้าไปด้านในได้ เพื่อป้องกันความผิดพลาด แฮรี่สั่งให้เทรเวอร์ที่โดนคาถาสะกดใจอยู่ไปซ่อนตัวในที่ลับตา
จากนั้นสั่งให้ก๊อบลินชื่อโบ-กรอดนำทางไปห้องนิรภัย พวกเขานั่งรถรางลงไปลึกมาก ลึกกว่าห้องนิรภัยของแฮรี่
พวกเขาผ่านไปในน้ำที่ตกลงมา ทันใดนั้น เฮอไมโอนี่กันรอนก็กลับคืนร่างเดิม น้ำตกมีเวทมนต์ป้องกันการคาถาต่างๆอยู่ เป็นด่านพิเศษที่ป้องกันพวกตัวปลอม
เฮอไมโอนี่ได้ยินเสียงคนตามมา เธอเสกคาถาเกราะวิเศษขวางไว้หลังน้ำตก กริดฮุกพาพวกแฮรี่ไปที่ห้องนิรภัย มีมังกรตาบอดเฝ้าอยู่หน้าห้องนิรภัย กริดฮุกเอา
Clankers ให้มังกรเพื่อให้มันยอมให้ผ่านทาง แฮรี่สั่งให้โบ-กรอดเปิดประตูห้องนิรภัย ในห้องมีของเก็บอยู่มากมาย
พวกเขาค้นอย่างรวดเร็ว หลังจากโดนกับดักไปคนละนิดละหน่อย พวกเขาก็หาถ้วยของฮัพเฟิลพัฟเจอวางอยู่สูงสุดของกองสิ่งของ
หลังจากพยายามอย่างยากลำบาก ในที่สุดแฮรี่ก็ได้ถ้วยมา แต่กริดฮุกฉกดาบแล้ววิ่งหนีไป ในขณะที่ยามของกริงกอทท์หลายคนมาถึง
แฮรี่เสกคาถาปลดโซ่มังกรแล้วพารอนกับเฮอไมโอนี่ขึ้นหลังมังกร มังกรพาทั้งสามคนบินไปตามทางอุโมงจากนั้นก็พ่นไฟแล้วใช้เท้าขุดเพดานถ้ำเพื่อออกไปด้านนอก ทั้งสามใช้คาถาระเบิดทางช่วยมังกรด้วยจนในที่สุดก็โผล่ขึ้นมาในห้องโถงของกริงกอทท์ ทำให้ก๊อบลินและพ่อมดในนั้นวิ่งหนีกันวุ่นวาย จากนั้นมังกรก็พาทั้งสามคนบินหนีไป

จากคุณ : Domingo - [ 20 ก.ค. 50 23:02:12 ]
//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5629686/A5629686.html


บทที่ 27 The Final Hiding Place

หลังจากที่ ทั้งสามคนหนีออกมาจาก กริงกอร์ตด้วยมังกร ...ทั้งสามบนมังกรก็บินขึ้นไปเหนือlondon และสูงขึ้นไปเรื่อยๆ โดยมังกรนั้นก็มองไม่เห็นเลยไม่รู้ว่าจะไปไหน บินไปไม่รู้ทิศรู้ทาง พวก 3สหาย ก็ยิ่งทรมานขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเมื่อยทั้งหนาว

สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ทั้งสามก็ตัดสินใจ กระโดดลงในทะเลสาบตอนที่มังกรบินต่ำลง (เพื่อไปหาน้ำกิน)

ทั้งสามคลานขึ้นมาจากทะเลสาบ (โคลนเยอะน่ะ) แบบหมดสภาพ แล้วก็เอา ถ้วนของฮัพเฟิลพัฟ ออกมาดู

ข่าวดี - ได้Horcruxมาแล้ว. .....ข่าวร้าย - เสียดายไปแล้ว

อย่างไรก็ตามการทีได้ Horcrux มาก็ทำให้ทั้งสามสามารถหัวเราะออกมาได้ ทั้งสามเริ่มถกกันว่า Voldermort จะรู้รึยังว่าถ้วยหาย และพวกเขากำลังตามล่า Horcrux อยู่ รอนบอกว่า บางทีพวกที่ธนาคารอาจจะกลัวแล้วก็ไม่กล้าบอกความจริงVoldermortก็ได้...ทันใดนั้น Harry ก็วูบ (อีกแล้วครับท่าน)

แฮรี่วูบเข้ามาในหัว Voldermort อีกครั้ง (เล่มนี้ Harry มาหัวVoldy บ่อยมาก)
ซึ่งVoldermort ที่มาถึงกริงกอร์ตก็หัวเสียอย่างแรง ถามว่ามีคนบุกรุกได้ยังไง ...พวกgoblinบอกว่า มีimposter (ตัวปลอม) เข้ามาหลอก ซึ่งVoldermort โกรธมาก และพอgoblin บอกว่า เป็นแฮรี่และสหาย Voldermort ก็ถามทันทีว่า พวกเค้าได้อะไรไปบ้าง......พวกgoblinบอกว่าสิ่งที่พวกแฮรี่ได้ไป เป็นถ้วยเล็กๆสีทอง...ได้ยินเท่านั้นแหล่ะ Voldermort เลยคลั่ง แล้วใช้ eldar wand ฆ่าทุกคนที่ขวางหน้า ...ขนาดBelatrix กับ Lucius ยังต้องเอาคนอื่นไปเป็นเกราะป้องกันแล้วหนีออกไปทางประตู

ถึงตอนนี้ Voldermort ก็เริ่มparanoid อย่างแรง ว่าเจ้าพวกเด็กเมื่อวานซืนไปรู้ความลับเรื่อง Horcrux ได้ยังไง (กว่าจะสงสัย โดนทำลายไปกี่อันแล้วล่ะนี่).. หรือว่า Dumbledore จะอยู่เบื้องหลังเรื่องพวกนี้ ....Voldermort สงสัยว่า ถ้า Horcrux อันไหน ถูกทำลายลง ตัวเขาเองก็น่าจะรู้สึกได้สิ....ถึงแม้ตอนที่ Diary ถูกทำลาย เขาจะไม่รู้ก็เถอะ แต่นั่นก็น่าจะเป็นเพราะว่าตอนนั้น Voldermort ยังไม่มีร่างอยู่ทำให้ ไม่รู้สึกถึงdiary ที่ถูกทำลาย....Voldermortเริ่มไม่แน่ใจในข้อนี้แต่ก็ยังมั่นใจว่า Horcruxน่าจะยังอยู่ครบ...คิดถึงตรงนี้ Voldermort เลยตัดสินใจจะไปเช็คที่ตั้งของ Horcrux ทีละอันเลยว่ายังอยู่ดีรึเปล่า ซึ่งนั่นก็คือ ที่ทะเลสาบ(ล๊อกเก็ต), the shack (แหวน), และที่สุดท้าย..... Hogwarts!!!

Voldermortคิดว่ายังไง กับ the shack ก็ไม่น่าจะมีใครรู้ได้ เพราะไม่น่าจะมีใครรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพวก Gaunt....
ส่วนที่ทะเลสาบก็ไม่น่าจะมีใครทะลวงแนวป้องกันไปได้
และที่ Hogwarts ซึ่ง Voldermortมั่นใจว่าเป็นที่ที่ secure สุด
สุดท้ายก็คือนากินี ที่เขาจะปล่อยให้ไปไกลตัวไม่ได้อีกแล้ว

แล้วVoldermort ควรจะไปเช็คที่ไหนก่อนล่ะ
Dumblemore รู้ชื่อกลางของเขา เพราะฉะนั้น อาจจะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง Voldermort กับ Guantได้ เพราะฉะนั้น Voldermortจึงตัดสินใจไปเช็คที่ Gaunt ก่อนเป็นแห่งแรก ส่วนที่ทะเลสาบยังไง Voldermort ก็มั่นใจว่าแนวป้องกันปลอดภัย ส่วนที่ Hogwarts ก็จะเตือนสเนปให้ระวังพวกเด็กๆบุกเข้าไป .....คิดได้แบบนั้น Voldermort ก็ใช้ภาษางูเรียกนากินีมาหา แล้วก็เริ่มเดินทางทันที.....

ตัดกลับมาที่แฮรี่...ซึ่งฟื้นจากภวังค์โดยมีเพื่อนทั้งสองเคียงข้าง แฮรี่เล่าให้ทั้งคู่ฟังว่า Voldermort รู้แล้วว่าพวกเค้ากำลังตามหา Horcrux และยังรู้อีกว่า ชิ้นสุดท้าย ซ่อนที่ Hogwarts... และสุดท้ายก็คือ Voldermort กำลังกลัว!!! (น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ Harry สามารถเข้าไปในหัวของ Voldermort ได้สะดวกโยธิน)

แฮรี่จึงตัดสินใจว่าจะไปที่ Hogwarts เลย ก่อนที่ Voldermortจะรู้ว่าพวกเขาทำลายแหวนกับล๊อกเก็ตไปแล้ว และจะไปย้ายที่อยู่ของชิ้นสุดท้ายที่ Hogwarts เสียก่อน ....ทั้งสามคลุมผ้าคุลมล่องหน และเร่งเดินทางไป ฮอกมี้ดทันที

................

จากคุณ : rynekel - [ 20 ก.ค. 50 23:36:55 ]


นี่ของอีกคนที่แปลค่ะ

บทที่ 27 "ที่ซ่อนสุดท้าย"

มังกรตาบอดพาแฮรี่ รอน เฮอไมโอนี่บินสูงขึ้นเรื่อยๆ แฮรี่รู้สึกดีมาก รอนสั่งเล็กน้อย ส่วนเฮอไมโอนี่ต้องหลับตาร้องครางออกมา มังกรพาทั้งสามบินไปตลอดวัน จนพระอาทิตย์เริ่มตก มังกรร่อนลงที่ทะเลสาบแห่งหนึ่ง ทั้งสามคนโดดจากหลังมังกรลงไปในะเลสาบ หลังจากขึ้นฝั่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ รอนบอกว่ามองในแง่ดี เราได้ฮอครักซ์มา มองในแง่ร้าย เราเสียดาบไป แล้วรอนก็พูดขึ้นว่า"เขา"ต้องรู้แน่ เพราะเราเราเพิ่งบุกทลายกริงกอทท์มาหมาดๆ ทั้งสามมองหน้ากันจากนั้นก็เริ่มหัวเราะกันออกมา ทั้งสามหัวเราะไม่หยุดจนแฮรี่รู้สึกปวดท้อง เฮอไมโอนี่ถามว่าจะทำยังไงต่อไป แฮรี่นอนลงกับพื้น แผลเป็นเริ่มร้อนขึ้นมาอีก เขาเห็นภาพก๊อบลินหลายตนไปพบดาร์กลอร์ดเพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น พอรู้ว่าพวกแฮรี่บุกเข้าไปขโมยถ้วยทองใบเล็กๆออกมา โวลเดอร์มอร์รู้สึกโกรธและกลังจนรู้สึกได้ เขาฆ่าก๊อบลินทั้งหมดทิ้งเพื่อระบายโทสะ เขาสงสัยว่าแฮรี่รู้ความลับได้ยังไง ฮอครักซ์อันอื่นยังปลอดภัยดีหรือไม่ ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกเลยว่าฮอครักซ์เป็นอันตราย เขาต้องไปตรวจดูฮอครักซ์ที่เก็บไว้ตามที่ต่างๆว่ายังปลอดภัยดีหรือไม่ สมุดบันทึกถูกทำลายไปแล้ว แหวนที่อยู่ที่บ้านตระกูลกอนท์น่าจะเสี่ยงที่สุด ล๊อกเก็ทที่ทะเลสาบรองลงมา ต่อไปคือของที่ซ่อนอยู่ในฮอกวอตท์ ส่วนนากินี่อยู่กับเขาคงปลอดภัยที่สุด แล้วโวลเดอร์มอร์ก็ออกเดินทางไปบ้านตระกูลกอนด์

แฮรี่ลืมตาขึ้นมา รอนกับเฮอไมโอนี่จ้องมองด้วยความเป็นห่วง พวกเขารู้ว่าแฮรี่กำลังแอบดูดาร์กลอร์ด เฮรี่เล่าสิ่งที่ได้เห็นให้ทั้งสองคนฟัง เขาบอกว่าฮอครักซ์ชิ้นสุดท้ายอยู่ในฮอกวอตท์แต่เขาไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน พวกเขาต้องรีบไปที่ฮกวอตท์ก่อนที่โวลเดอร์มอร์จะไปที่นันเพื่อเปลี่ยนที่ซ่อนของ ตอนนี้มืดแล้วทั้งสามคนใช้ผ้าคลุมล่องหนจากนั้นก็หายตัวไปที่ฮอกมี้ด

จากคุณ : Domingo - [ 20 ก.ค. 50 23:57:41 ]




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2550 21:45:16 น.
Counter : 506 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

ป้าซ่าส์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




วันเปลี่ยน คนเปลี่ยน







Friends' blogs
[Add ป้าซ่าส์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.