Group Blog
 
All Blogs
 
แฮรี่ พอตเตอร์ เล่ม7 ตอน 28- 33

บทที่ 28 - The Missing Mirror

พวกเขามายัง Hogsmeade และทันทีที่เขามาถึง อากาศแถวนั้นก็แปลกไป ผู้เสพความตายวิ่งกรูออกมาจากร้านไม้กวาดสามอัน ราวกับรู้ว่าพวกเขามาถึงแล้วทั้ง ๆ ที่อยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน พวกมันพยายามให้คาถาเรียกผ้าคลุมเพราะรู้ว่าพวกเขาต้องหายตัวอยู่แน่ ๆ แต่ไม่คาถาใช้ไม่ได้ผลกับผ้าคลุม พวกแฮร์รี่พยายามจะหายตัวหนี แต่ก็ไม่ได้ผล พวกผู้เสพความตายจึงเรียก Dementor มา แฮร์รี่เลยเสกผู้พิทักษ์ไล่ Dementor ไป ตามแผนของพวกมัน ซึ่งก็รีบวิ่งลงมายังแถว ๆ ที่แฮร์รี่เพิ่งเสกคาถา แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งเรียกพวกแฮร์รี่ให้เข้าไปในประตู ๆ หนึ่ง และไล่ขึ้นไปข้างบน เงียบ ๆ แฮร์รี่เพิ่งรู้ว่านี่คือโรงแรม Hog's Head พวกเขารีบขึ้นไปข้างบน และเฝ้ามองจากหน้าต่างชั้นบน เห็นเจ้าของโรงแรมกำลังเถียงกับพวกผู้เสพความตายอยู่ แฮร์รี่ถึงรู้ว่าตอนนี้ที่นี่มีเคอร์ฟิวอยู่ เจ้าของโรงแรมบอกว่าผู้พิทักษ์ที่พวกนั้นเห็นคือผู้พิทักษ์ในร่างแพะของเขาเอง

เจ้าของโรงแรมนั้นคือ Aberforth น้องชายของดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่รู้ว่า Aberforth เป็นคนส่งด๊อบบี้ไปช่วยพวกเขา และเห็นกระจกอีกส่วนของซีเรียสใต้รูปภาพหญิงสาว แฮร์รี่บอกว่าพวกเขาต้องการเข้าไปในฮอกวอกต์ แต่ Aberforth บอกให้เลิกคิดและให้พวกแฮร์รี่ไปไกล ๆ จากที่นี่

เขาเล่าเรื่องของดัมเบิลดอร์ในสมัยก่อน ชี้ให้ดูรูปภาพหญิงสาวซึ่งก็คือ Ariana น้องสาวของพวกเขา Aberforth เล่าว่าเมื่อ Ariana อายุหกขวบ เธอยังเด็กและควบคุมพลังไม่ได้ เธอถูกเด็กหนุ่มมักเกิ้ลสามคนทำร้าย เพราะเขาเคยเห็นเธอใช้เวทมนต์ แล้วเธอก็ควบคุมมันไม่ได้อีก เธอเลยไม่ใช้พลังและมันทำให้เธอคลั่ง พลังระเบิดออกมาเมื่อเธอไม่สามารถควบคุมได้ พ่อของพวกเขาไปจัดการเด็กหนุ่มสามคนนั้น จนถูกจับและเอาไปขังที่อัซคาบัน พ่อเขาไม่เคยพูดเลยว่าเพราะอะไร เขาไม่อยากให้ทางกระทรวงรู้ ไม่งั้นลูกสาวจะต้องถูกจับขังใน St. Mango และถูกประกาศว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อความมั่นคง เพราะเธอควบคุมพลังไม่ได้ แม่และ Aberforth คอยดูแลเธอ โดนเฉพาะ Aberforth ที่เธอไว้ใจและรักมากที่สุด แต่ดัมเบิลดอร์ส่วนมากจะเก็บตัวในห้อง อ่านหนังสือและเขียนจดหมายหาคนที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Aberforth ไม่อยู่ แล้วเธอก็คุมพลังไม่ได้ แม่ก็เอาไม่อยู่จนแม่ตาย ดัมเบิลดอร์เลยต้องหยุดการเดินทางท่องเที่ยวกับ Elphias Doge มาดูแลบ้านในฐานะหัวหน้าครอบครัว

Aberforth ต้องการเลิกเรียน กลับมาดูแลน้อง แต่ดัมเบิลดอร์ไม่ยอม เขาดูแลเธอไม่ให้ระเบิดบ้านพัง จนกระทั่ง Grindelwald เข้ามาพูดคุยกับดัมเบิลดอร์ในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งระเบียบของสังคมพ่อมด เรื่อง Hallows และทุกสิ่งที่พวกเขาสนใจ ท้ายที่สุด พวกเขาทั้งสามทะเลาะกันเรื่องของ Ariana ... Grindelwald ใช้คำสาปกรีดแทงใส่ Aberforth และดัมเบิลดอร์พยายามหยุด และพวกเขาก็สู้กัน ซึ่งทำให้ Ariana ทนไม่ได้ จนระเบิดพลังออกมา Aberforth บอกว่าเธอเพียงต้องการจะช่วยแต่เธอเพียงไม่รู้ว่าเธอกำลังอะไรอยู่ เขาไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนทำ รู้อีกทีเธอก็ตายแล้ว Grindelwald หนีไป ดัมเบิลดอร์เป็นอิสระตลอดกาล

แต่แฮร์รี่แย้งว่าดัมเบิลดอร์ไม่เคยมีอิสระเลย และเล่าว่าถึงคำพูดตอนที่ดัมเบิลดอร์ดื่มน้ำยาในคืนที่เขาตาย ว่าดัมเบิลดอร์คงยังระลึกถึงตอนที่เขาเห็น Grindelwald กำลังทำร้ายน้อง ๆ อยู่ และแฮร์รี่ก็บอกว่าเขาจะไม่หยุด จนกว่าจะล้มโวลเดอมอร์ได้ ... Aberforth เดินไปยังรูปภาพ Ariana บอกว่าเธอรู้ว่าต้องทำยังไง .. หญิงสาวในภาพหันหลังและเดินจากไป ซึ่งไม่เหมือนภาพอื่น ๆ เวลาเดินทางไปยังกรอบรูปอันอื่น .. มันเหมือนเป็นอุโมงค์ยาวมืด ๆ .. Aberforth บอกว่าทุกทางมียามเฝ้าแล้ว มีเพียงทางนี้ทางเดียว สักพัก Ariana ก็กลับมา พร้อมกับพาเนวิลล์มาด้วย รูปภาพเปิดออก และเนวิลล์ก็กระโดดออกมาอย่างดีใจสุดขีดที่ได้พบพวกแฮร์รี่อีกครั้ง

์จากคุณ : BeeJang
//beejang.livejournal.com/137301.html
บทที่ 29 - The Lost Diadem

ระหว่างที่เนวิลล์พาพวกเขาเดินผ่านอุโมงค์หลังภาพ เขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังว่าที๋โรงเรียนเปลี่ยนไปมากยิ่งกว่าตอนที่อัมบริดจ์มาคุมเสียอีก Amycus Carrows สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ซึ่งกลายเป็นสอนวิชาการใช้ศาสตร์มืดจริง ๆ โดยให้ฝึกคาถากรีดแทง เอาไว้ทำโทษคนอื่น ส่วน Alecto Carrows สอนมักเกิ้ลศึกษาก็เอาแต่ว่ามักเกิ้ลเป็นดั่งสัตว์โง่เง่าและสกปรก ซึ่งเนวิลล์ก็ถูกพวกนั้นทำโทษบ่อย ๆ จนมีแผลเต็มไปหมด มีนักเรียนบางส่วนต่อต้านเขา ซึ่งเมื่อจินนี่ไม่ได้กลับมาหลังคริสมาส เนวิลล์ก็เหมือนกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มไป และถูกพวกพี่น้อง Carrows จับตามองตลอด จนไม่นานมานี้ พวกนั้นถึงไปลงที่คุณยายของเนวิลล์ แต่พวกนั้นคาดไม่ถึงว่าแม่มดแก่ ๆ จะมีพิษสงอะไรมากมาย แต่คุณยายของเนวิลล์เล่นงานผู้เสพความตายคนหนึ่งเข้า St. Mungo จนป่านนี้ยังไม่หายเจ็บเลย คุณยายกำลังหลบหนีอยู่ และส่งจดหมายมาหาเนวิลล์ชื่นชมเขาว่าสมเป็นลูกของพ่อแม่ และเธอภูมิใจในตัวเนวิลล์มาก

เนวิลล์พาแฮร์รี่ทะลุไปยังอีกด้านของรูปภาพ นั่นคือ Room of Requirements ที่มีเพื่อน ๆ รออยู่หลายคน ซึ่งลูน่า ดีน จินนี่ เฟร็ดจอร์จ ลี และโชตามมาสมทบอีก พวกเขาทุกคนต้องการจะช่วยแฮร์รี่ แต่แฮร์รี่ยังคงไม่แน่ใจและยังไม่ยอมบอกว่าเขากลับมาที่นี่เพื่อหา Horcruxes รอนกับเฮอร์ไมโอนี่เห็นด้วยที่จะให้เพื่อน ๆ ช่วย แม้จะไม่ได้บอกคนอื่นว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร แฮร์รี่จึงบอกเพื่อน ๆ ว่า เขามาที่นี่เพื่อหาของสิ่งหนึ่งที่จะช่วยทำลายโวลเดอมอร์ และอาจอยู่ในส่วนที่พักของเรเวนคลอ มันคืออะไรสักอย่างที่มีนกอินทรีของเรเวนคลอ ซึ่งลูน่าก็ให้ความเห็นว่า มันคือ Lost Diadem ของเรเวนคลอ .. โช แชงบอกว่ามันสูญหายไปนานแล้ว แต่ถ้าเขาอยากเห็นว่า Diadem เป็นยังไง เธอจะพาไปดูที่รูปปั้นในห้องนั่งเล่นของเรเวนคลอ ... จินนี่เสนอให้ลูน่าเป็นคนพาแฮร์รี่ไปแทน

ใต้ผ้าคลุมล่องหน แฮร์รี่เปิดแผนที่และขึ้นไปยังห้องนั่งเล่นเรเวนคลอ และเห็นรูปปั้นกับ Diadem ที่เป็นรัดเกล้าหินอ่อน มีคำจารึกเล็ก ๆ สลักอยู่ แฮร์รี่เลยออกจากผ้าคลุม และปีนขึ้นไปอ่าน ได้ความว่า "Wit beyoud measure is man's greatest treasure." ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียง จนตกใจหล่นลงมากับพื้น และพบ Amycus Carrows ยืนค้ำหัวอยู่ และกดนิ้วไปยังรอยตรามารบนแขน

Note : - บทนี้เนวิลล์เจ๋งค่ะ ลุกเถียงอาจารย์บ่อย ๆ จนโดนทำโทษ แต่ที่เจ๋งกว่าคือคุณยายเนวิลล์ค่ะ
- ไมเคิล คอร์เนอร์ถูกทำโทษหนักเพราะช่วยนักเรียนที่ถูกล่ามเอาไว้

- ไปนอนได้แล้วนะคะ บทนี้คือบทสุดท้ายของวันนี้ค่า อิอิ

จากคุณ : BeeJang - [ 21 ก.ค. 50 00:47:42 ]

30 The Sacking of Severus Snape

ในจังหวะที่ Alecto สัมผัสตรามาร บนตัวเธอนั่งเอง แฮรี่ก็วูบ ...Voldermort รู้แล้วว่า แฮรี่อยู่ที่ Hogwart

พอแฮรี่ได้สติฟื้นขึ้นมา ก็เป็น Luna ทีเด็ด Stun Alecto ลงในนอนเรียบร้อย.. ซึ่งเสียงกระแทกไปปลุกให้ เด็กๆในหอเรเวนคลอ ตื่นขึ้นมาหมดเลยครับ แล้วก็ลงมาดูสภาพAlecto มีเด็กปีหนึ่งคนนึงมาแตะๆแล้วบอกว่า "ตายแล้วมั้ง"

ซักพัก ก็มีเสียงเคาะประตูหอดังลั่น Amycus มาครับ ...เคาะประตูใหญ่เลย ตะโกนถามAlectoว่า ได้ตัวแฮรี่แล้วเหรอ ระหว่างที่จะโกนอยู่นั้น ป้าแมกกอนนากัลมาถึงแล้วครับ ป้าถาม Amycus ว่ามาทำไมดึกๆดื่นๆ Amycus บอกให้ไปตาม Flitwick มาเปิดประตูให้...แมกกอนนากัลเลยย้อนว่า อ้าวก็น้องสาวอยู่ในนั้นแล้วก็ให้ข้างในเปิดให้สิ (ฮา)... แต่สุดท้ายแมกกอนนากัลก็ตอบคำถามเปิดประตูใน Amucus เข้าครับ

Amycus เข้ามาเห็นAlecto นอนแป้บอยู่ก็โวยวายใหญ่ว่าใครฆ่าน้อง ..แมกกอนนากัลสวนว่า แค่สลบเอง ...Amycus บอกว่า เดี๋ยวพอ Dark lord มาที่นี่ ไม่เห็น Potter จะซวยหมู่ เพราะเมื่อครู่ Amycus รู้สึกได้ว่าตรามารร้อนขึ้นมา ซึ่งdark lord เป็นคนส่งทั้งสองคนมาที่นี่ และบอกว่า Potter อาจมาที่หอเรเวนคลอให้มาดักจับ แต่ตอนนี้ไม่มีpotter จะทำไงดี...Amycus ไอเดียบรรเจิด บอกว่าให้โทษเด็กเรเวนคลอว่ารุมทำร้าย Alecto และบังคับให้แมกกอนนากัลเออออห่อหมก ด้วย แต่แมกกอนนากัลปฏิเสธไม่เอาด้วยด้วยจรรยาบรรณครู (อันนี้เติมเองครับ)
Amycus เลยเกิดheat :-)น้ำลายใส่หน้าแมกกอนนากัลซะ....แฮรี่เห็นแล้วโกรธจัด เลยออกจากผ้าคลุมล่องหน แล้วก็

"Crucio..." แฮรี่ใช้คาถากรีดแทงเล่นงาน Amycus ครับ (โหดใช่เล่น) แล้วยังบอกอีกว่า เขาเข้าใจคำของBellatrix ที่ว่า จะเสกคาถาแนวนี้ต้องตั้งใจแบบนั้นจริงๆแล้ว...

แมกกอนนากัลเห็นแฮรี่ก็ตกใจ และถามว่ามาทำอะไรที่นี่ แฮรี่บอกว่าVoldermort กำลังมา และถามว่าอาจารย์เคยเห็น diadem รึเปล่า ...ซึ่งตอนนี้แฮรี่พูดชื่อ Voldermort เต็มแล้ว เพราะรู้ว่ายังไง Voldermortก็รู้แล้วว่าเขาอยู่ที่นี่ ไม่มีความจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงคำต้องห้ามอีกต่อไป ทั้งคู่ตกลงว่าจะอพยพพวกเด็กๆให้หนีไปให้หมด และเริ่มมาตรการป้องกันฮอกวอร์ต โดย แมกกอนนากัลเสกย์ Pratonas เป็นแมวสีเงินสามตัว เพื่อไปเตือนอาจารย์อีกสามบ้าน

ระหว่างทางนั้น เอง Snape ก็ปรากฏตัวขึ้นครับ ต่อปากต่อคำกันพอหอมปากหอมคอก็ดวลกับแมกกอนนากัล (ฉากดวลเก๋ามากครับ) แฮรี่ที่หลบใต้ผ้าคลุมล่องหนนั้นพยายามจะแอบช่วย(ลอบกัด)หลายครั้ง แต่ก็ต้องคอยกันลูน่าจากลูกหลงอยู่ตลอด

แต่แป้บๆ.... Filtwick กับ Sprout ก็มาครับ....แล้วธรรมะก็ได้เวลารุมกินโต๊ะ...สเนปเลยหนีครับ แล้วก็ไล่ล่ากันไปตามห้องเรียน (เป็นหนังคงมันส์พะยะค่ะ) จนสุดท้ายสเนปก็กระโดดทะลุหน้าต่างแปลงร่างหนีไปได้

แมกกอนนากัลเล่าเรื่องให้อาจารย์อีกสองคนฟังว่า Voldermort กำลังมา และให้แต่ละคนเตรียมมาตรการป้องกันและอพยพเด็กของตัวเอง Flitwick เสกย์คาถากำแพงลมกั้นฮอกวอร์ตไว้ ส่วนแมกกอนนากัลกผละไปกริฟฟินดอร์ ดดยระหว่างทางผ่านพวก Slytherine ซึ่ง Slughorn ออกมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น

"ถึงเวลาที่ Slytherine ต้องเลือกข้างแล้ว ว่าภักดีอยู่กับใคร" แมกกอนนากัลบอก แล้วป้าก็ร่ายมนตร์ Piertotum Locomator! ปลุกรูปปั้นในปราสาท ขึ้นมาช่วยรบ (เท่ห์ซ้า)

ส่วนด้านแฮรี่กับลูน่าก็กลับไปหาพวกเพื่อนๆ ระหว่างทางมีคนเห็น แฮรี่ก็หือหากันใหญ่ พอถึงห้องก็พบว่า พวก Order มากันครบทีมเลยครับ Fred บอกว่า เรียกทั้งหมดมาช่วยกันรบ Percy ก็มาด้วย Mrs. Weasley ดีใจมากและสวมกอดลูชาย(ซึ้งง่า) ฝาแฝดมีแซวเล็กน้อย ส่วนด้านลูปินก็เอารูปลูกชายมาอวดใหญ่เลย

Ginny ก็อยู่ด้วย แต่ถูกแม่ปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมเพราะเพิ่ง 16 เท่านั้นเอง แต่ท้ายที่สุดแล้ว Mr. Weasley ก็บอกว่าให้ลูกสาวอยู่ก็ได้ แต่ให้รอเฉยๆไม่ต้องไปสู้

แฮรี่สังเกตเห็นรอนกับเฮอร์ไมโอนี่หายไป เลยสงสัย จินนี่บอกว่า ทั้งคู่เอ่ยถึงห้องน้ำ แฮรี่ เลยไปดูห้องน้ำ แต่จังหวะนั้นเอง ...วูบอีกแล้ว.... เรือของ Voldermort มาถึงแล้วครับ....


คุณ : rynekel - [ 21 ก.ค. 50 01:29:09 ]

บทที่ 31 ที่ฮอกวอตส์

ศาสตราจารย์มักกอนนากัลและภาคีนกฟีนิกซ์ยืนอยู่ที่แท่นอาจารย์ใหญ่ และสั่งให้พรีเฟคของแต่ละบ้านอพยพนักเรียนของบ้านตัวเองออกไปจากฮอกวอตส์ทันทีภายใต้การดูแลของมาดามพอมฟรีย์และฟลินซ์ เออร์นี่ถามว่า แล้วถ้าต้องการจะอยู่และต่อสู้ต้องทำอย่างไร มักกอนนากัลอนุญาตให้อยู่ได้กรณีที่อายุถึงเกณฑ์ มีนักเรียนถามถึงเสนป มักกอนนากัลบอกว่าเสนปจากไป โดยไม่ได้บอกใคร ระหว่างนั้นแฮรี่พยายามมองหารอนและเฮอร์ไมโอนี่ที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ แต่ยังหาไม่เจอ มักกอนนากัลพยายามเร่งให้นักเรียนรีบออกไป แต่คำพูดของศ.มักกอนนากัลก็ถูกขัดจังหวะโดยเสียงปริศนาเสียงหนึ่ง เสียงสูง เยือกเย็น และชัดเจน
...ฉันรู้ว่าพวกเธอทุกคนพร้อมจะสู้ แต่ความพยายามของพวกเธอนั้นไร้ประโยชน์ ฉันนับถืออาจารย์ในฮอกวอตส์
...ส่งแฮรี่ พอตเตอร์มาแล้วทุกคนจะปลอดภัย
...พวกเธอมีเวลาถึงเที่ยงคืนเท่านั้น...

หลังโวลเดอร์มอร์ดพูดจบ แพนซี่ พาร์กินสัน กรีดร้องให้ทุกคนจับแฮรี่ส่งไป แต่เด็กบ้านกริฟฟินดอร์ ฮัฟเฟิลพัพ และเรเวนคลอ ยืนขึ้นปกป้องแฮรี่ มักกอนนากัลสั่งให้แพนซี่ออกไป และตามด้วยพวกสไลธีริน มักกอนนากัลสั่งให้บ้านอื่นๆออกไปด้วย แต่เด็กปีสูงๆบ้านเรเวนคลอ เด็กฮัฟเฟิลพัพหลายคน และกว่าครึ่งหนึ่งของเด็กกริฟฟินดอร์ยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้

แฮรี่พยายามถามหาเฮอร์กับรอน นายวิสลีย์เริ่มกังวลถึงสองคนนั้น แต่ความสนใจก็ถูกดึงไป เมื่อคิงสลีย์ขึ้นมาประกาศว่าเหลือเวลาครึ่งชั่วโมง และแบ่งนักเรียนสามกลุ่มให้ไปกับ มักกอนนากัล สเปราต์ และฟลิตวิก ไปประจำการที่สามหอคอยที่สูงที่สุด ส่วนคิงสลีย์ อาเธอร์ ลูปิน เฟรด จอร์จ จะไปที่สนาม มักกอนนากัลป์เตือนแฮรี่ให้รีบหาของที่แฮรี่ตั้งใจจะหา แฮรี่พยายามมุ่งคิดถึงฮอร์ครักซ์ แต่ก็อดคิดถึงรอนและเฮอร์ไม่ได้เพราะโดยปกติแล้วสองคนนั้นจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

แฮรี่เดาว่า โวลจะต้องคิดว่าแฮรี่จะต้องไปที่หอคอยของบ้านเรเวนคลอ เพราะโวลให้อะเลคโตมาเฝ้าไว้ ซึ่งมีเหตุผลที่เป็นไปได้ข้อเดียวคือ โวลกลัวว่าแฮรี่จะรู้ถึงฮอร์ครักที่มีความเชื่อมโยงกับเรเวนคลอ
แฮรี่หลับตาและนึกถึงของที่หายไปของบ้านเรเวนคลอ และนึกถึงมงกุฎที่หายสาบสูญไป เป็นไปได้หรือไม่ที่มงกุฏจะเป็นฮอร์ครักซ์
แล้วแฮรี่ก็นึกถึงบางเรื่องขึ้นมาได้ เลยไปถามนิคถึงผีประจำบ้านของเรเวนคลอ ซึ่งก็คือ the grey lady เมื่อแฮรี่เห็นก็จำได้ว่า เคยเจอ the grey lady เสมอๆที่ทางเดินในปราสาท เพียงแต่ไม่เคยพูดด้วย แฮรี่ถามถึงมงกุฎที่สาบสูญ แต่ the grey lady ปฏิเสธว่าคงช่วยอะไรแฮรี่ไม่ได้ มีนักเรียนมากมายหลายต่อหลายรุ่นตามหามันมาตลอด แฮรี่ขอร้องและบอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโวลเดอร์มอร์ต

The grey lady บอกว่าเธอคือลูกสาวของเรเวนคลอ ผู้ก่อตั้งบ้านเรเวนคลอ และเธอเป็นคนขโมยมงกุฎนั้นจากแม่ของเธอเพราะคิดว่าจะทำให้เก่งกว่าแม่ และหนีไป
เรเวนคลอไม่ยอมรับว่ามงกุฎหายไป แต่แสร้งทำว่าอยู่กับตัวเองมาตลอด ปิงบังแม้กระทั่งผู้ก่อตั้งฮอกวอตส์คนอื่นๆ
ต่อมาเรเวนคลอป่วย และอยากจะพบลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย จึงส่งผู้ชายคนหนึ่งที่เธอเชื่อว่าจะตั้งใจตามหา เพราะชายคนนี้หลงรักลูกสาวเธอมานาน ผู้ชายคนนั้นคือ บารอนเลือด !!!
เมื่อตามมาจนพบ แต่เธอปฏิเสธที่จะกลับไป ด้วยความโมโหชั่ววูบ บารอนเลยแทงเธอตาย แต่เมื่อได้สติเขาก็เสียใจ และใช้มีดนั้นฆ่าตัวตายตาม ส่วนมงกุฎนั้นถูกซ่อนอยู่ในป่าที่เธอตาย ที่แอลเบเนีย
แฮรี่ถามว่าเธอได้บอกเรื่องนี้ใครบ้างหรือเปล่า เธอจำได้ว่าเคยบอกเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แฮรี่เดาได้ว่าคือทอม ริดเดิ้ล ซึ่งน่าจะไปค้นหาตั้งแต่จบจากเรียน และป่าในแอลเบเนียนี้เองที่ริดเดิลซ่อนตัวอยู่ในช่วงสิบปีที่สูญเสีญอำนาจ แต่เวลานั้น มงกุฎที่กลายเป็นฮอร์ครักซ์ไม่น่าจะอยู่ที่ป่าอีกต่อไปแล้ว แต่กลับสู่บ้านของมัน ซึ่งก็คือ ฮอกวอตส์!! ...และน่าจะมีเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น คือวันที่โวลกลับมาสมัครเป็นอาจารย์สอนป้องกันตัวจากศาสตร์มืด มงกุฏจึงน่าจะถูกซ่อนแถวๆห้องทำงานของดัมบิลดอร์

เหลือเวลาเพียงห้านาทีก่อนถึงเที่ยงคืน แฮรี่มั่นใจว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่าฮอครักซ์อันสุดท้ายคืออะไร แต่ปัญหาคือ มันอยู่ที่ไหนกันเล่า ในเมื่อมันไม่เคยถูกค้นพบแม้ว่านักเรียนหลายรุ่นจะค้นหามาตลอด แสดงว่ามันไม่ได้ซ่อนอยู่ในหอคอยของเรเวนคลอ แฮรี่เดินคิดจนมาเจอแฮกริด และกอร์ป ในที่สุดก็ถึงเวลาเที่ยงคืน แฮรี่เห็นแสงจากด้านนอก เป็นสัญญาณที่บอกว่าการต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว แฮกริดเล่าว่าได้ยินเสียงโวลตอนอยู่ในถ้ำ เลยมาช่วย และถามถึงรอนกับเฮอร์
แฮรี่ตอบว่าไม่รู้ และชวนแฮกริดออกไปค้นหาแถวทางเดินห้องพักอาจารย์ แฮรี่มองเห็นรูปปั้นสัตว์ประหลาดหน้าห้องอาจารย์แล้วนึกถึงรูปปั้นเรเวนคลอที่บ้านเลิฟกูด และที่หอคอย และในที่สุดก็นึกออกว่ามงกุฎของเรเวนคลออยู่ที่ไหน
แฮรี่วิ่งต่อไป ผ่านเฟรด ดีน เนวิลล์ (ที่กำลังไปช่วยเมนเดรก) และคนอื่นๆ และเจอกับรอนและเฮอร์ เฮอร์เล่าว่าทั้งสองคนเข้าไปในห้องแห่งความลับ โดนรอนเคยฟังแฮรี่และเลียนเสียงพาเซลเมาท์ได้ ทั้งสองคนใช้เขี้ยวของบาสิลิสทำลายถ้วยของฮัฟเฟิลพัพที่เป็นฮอครักซ์ไปแล้ว

แฮรี่บอกว่าตนเองรู้แล้วว่าฮอร์ครักสุดท้ายอยูที่ไหน เป็นที่ๆนักเรียนใช้ซ่อนของมานานนับศตวรรษ แฮรี่รู้เพราะเคยเอาหนังสือปรุงยาไปซ่อนที่นั่น
ที่ทางเดินหน้าห้องต้องประสงค์ แฮรี่ เฮอร์ รอน เจอ จินนี่ ทองก์ และย่าของเนวิลล์ แฮรี่อยากให้จินนี่กลับไป แต่ขณะที่เถียงกันรอนก็นึกได้ว่าควรไปปล่อยเอลฟ์ประจำบ้านให้หนีไปด้วย พอได้ยินแบบนี้เฮอร์เลยวิ่งเข้าไปจูบรอน (ที่ปากซะด้วย โอ้ว)
แฮรี่เตือนแบบเกรงใจว่าเราต้องหาฮอครักซ์กันต่อ และท่องในใจว่าต้องการห้องที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกซ่อนอยู่ ประตูบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
แฮรี่ และหาเจอรูปปั้นที่สวมมงกุฏเก่าๆหมองๆที่แฮรี่นำมาทำสัญลักษณ์เพื่อซ่อนหนังสือปรุงยา แฮรี่หยิบมงกุฎขึ้นมา แต่มีคนสามคนปรากฏตัวข้างหลัง คือ แครบ กอยน์ และมัลฟอย ซึ่งบอกว่าจะมาจับแฮรี่เพราะต้องการรางวัลจากโวล รอนได้ยินเสียงจึงเข้ามาตามแฮรี่ แครปอยากเสกคาถาแต่มัลฟอยห้ามเพราะกลัวทำมงกุฎพัง มัลฟอยเดาว่ามงกุฎน่าจะสำคัญเพราะแฮรี่มาเอา แต่แครปบอกว่า มัลฟอยไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งคนอื่นอีกแล้ว เฮอร์โผล่ออกมาพอดี แครปเลยเสกอะวาดา เคดาฟรา ใส่เพราะเป็นเลือดสีโคลน แต่แฮรี่เสกคาถางุนงงใส่แครป แครปเลยเซไปชนมัลฟอยและทำไม้กายสิทธิ์หล่น ทั้งหมดต่อสู้กัน แครปเสกคำสาปที่แฮรี่ไม่รู้จักมาก่อน เกิดไฟไหม้ กอยน์หมดสติ แฮรี่ไปช่วยมัลฟอยเอากอยน์ออกมา

แฮรี่สังเกตว่าของที่เกี่ยวข้องกับเวทย์มนตร์ถูกไฟนี้เผาไปได้ แฮรี่พามัลฟอยออกมาเจอกอยน์ รอน เฮอร์ และรู้ว่าแครปตายแล้ว มงกุฎในมือแฮรี่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เฮอร์บอกว่าไฟนี้คือ fiendfyre สามารถทำลายฮอครักซ์ได้ เท่ากับว่าตอนนี้ภารกิจของพวกเขาเหลือเพียงงูนากินี...

แต่แล้วพวกเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนและต่อสู้ ผู้เสพความตายบุกเข้าฮอกวอตส์ได้แล้ว เฟรดและเพอร์ซี่กำลังต่อสู้ ทั้งสามคนเข้าไปช่วย ผู้เสพความตายคนนึงทำผ้าคลุมหลุดออก และปรากฏว่าเป็น รมต.กระทรวงเวทย์มนตร์ เพอร์ซี่เลยบอกว่างั้นลาออกเลยละกัน เฟรดเหมือนจะดีใจและแปลกใจหน่อยๆที่เพอร์ซี่ยิงมุขตลกๆกะเค้าด้วย เฟรดกำลังแซวเพอร์ซี่ก่อนเสียงจะขาดหายไป

No no no! someone was shouting. No! Fred! No!
And Percy was shaking his brother, and Ron was kneeling beside them, and Fred's eyes stared without seeing, the ghost of his last laugh still etched upon his face.

เฮอร์และแฮรี่ได้แต่เพียงยืนมอง ทั้งสองคนเศร้ามากๆ แฮรี่รู้สึกเหมือนว่าโลกนี้มืดลงไป และกลัว...อย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อนในชีวิต

จบบท 31 ค่ะ

ขอโทษนะคะไม่ได้ช่วยแปลต่อ พอดีมีเรียนพรุ่งนี้เช้าค่ะ
ไปจริงๆแระ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 50 02:17:25

จากคุณ : Lunar_moon - [ 21 ก.ค. 50 02:16:17 ]

บทที่ 32 The Elder Wand

ทุกคนไม่เชื่อว่าเฟรดจะตายแล้ว แต่คำสาบยังล่องลอยอยุ่ในอากาศ แฮรีกับรอน ดึงแขนเฮอร์ ให้หมอบลงกับพื้น
เพอร์ซี่ ยังคงคุกเข่าอยุ่ข้างศพของเฟรด แฮรีพยายามดึงเขาออกมา ตอนนั้นเองที่เฮอร์ ร้องกรี๊ด แฮรี่หันไปดู แมงมุมยักษ์ (คาดว่ามาจากป่าต้องห้าม) ก็กรูเข้ามา พวกเขาพยายามหนีตาย

ทันใด เพอซี่ ก็ตะโกนขึ้น " ร็อควูด" (ผู้เสพความตาย) แล้ววิ่งตามไป เฮอร์ ต้องห้ามไม่ให้รอนตามพี่ไป แต่เฮอร์ เตือนสติว่า พวกเขามีภาระกิจต้องฆ่านากินี ฮอร์ครุก ชิ้นสุดท้าย พวกเขาต้องตามหาเวอร์ดี้ ให้เจอ ถึงแฮรี่จะเข้าใจความรู้สึกของรอน ตัวเขาเองก็เป็นห่วงครอบครัววีสลีย์ โดยเฉพาะจินนี่

รอนเร่งให้แฮรี่ เข้าถึงจิตใจของเวอร์ดี้ เพื่อหาที่อยุ่ของเขา มันเป็นเรื่องง่ายๆ เพราะ แผลเป็นของแฮรี เริ่มทรมานเขามาหลายชัว่โมงแล้ว แฮรี่หลับตา และเข้าถึงความคิดของเวอร์ดี้ เขาค้นหาไปเรื่อย จนได้ยินเสียงเรียก

"นายท่าน " เป็น ลูเชียส มัลฟอย นั่งอยุ่ที่มุมมืด ร้องขอชีวิต มัลฟอย
แต่เวอร์ดี้ บอกว่า ถ้ามัลฟอย จะตายก็เพราะไม่ยอมมาอยู่ข้างเวอร์ดี้ เขาอาจอยากเป็นเพื่อนแฮรี่ก็ได้ ลูเชียส พยายามแก้ตัว แต่ไม่สำเร็จ เวอร์ดี้ยังรุ้ด้วยว่า ลูเชียส อยากรีบไปตามหาลูก

เวอร์ดี้ สั้งให้ ไปตามสเนป มา มีงานจะให้ทำ แล้วเวอร์ดี้ก็นั่งรอ

แฮรี่ บอกรอนและเฮอร์ ว่า เวอร์ดี้จะไม่เปิดฉากต่อสู้แต่จะรอให้ แฮรี่ เข้าไปหาเพราะรู้ว่าเขาต้องการ ฮอร์ครุกอันสุดท้ายคือ นากินี

แฮรี่จะไปคนเดี่ยวแต่ที้งสองคนไม่ยอม มีผู้เสพความตายสองคนโผล่เข้ามา อาจารย์ แมกกอนากับ เข้ามาช่วย

ทั้งสามวิ่งมาใต้ผ้าคลุมล่องหน เจอ มัลฟอย ทำเนียนใส่หน้ากากผู้เสพความตาย ตะโกนบอกผุ้เสพความตายว่า อยู่ข้างเวอร์ดี้ รอนโกรธจัด ต่อยไปทีนึง ด่าว่า พวกเขาช่วยชีวิตไว้ แต่มัลฟอยกลับทำตัวเป็นนกสองหัว

พวกเขา รีบเดินทางไปหาเวอร์ดี้ ระหว่างทางเจอพวกนักเรียนวิ่งหนี ออกมา เพราะแมงมุมยักษ์ ผู้เสพความตายจะฆ่าแต่แฮกริดมาขวาง พวกแฮรี่ ช่วยแฮกริดออกมาได้ แต่ก็มาเจอ ดีเมนทอร์ เป็นร้อย ทุกคนเสกคาถาคุ้มครอง

มีลูน่า เออร์นี่ ซีมัส มาช่วย

พวกเขาไปที่เพิงโหยหวน แต่แฮรี่เริ่มสงสัยว่าอาจะเป็นกับดักของเวอร์ดี้ พวกเขาเลยใช้ผ้าคลุมล่องหน แล้วเดินไปตามาทาง จนสุด ก็พบเวอร์ดี้กำลังคุยกับสเนป

เวอร์ดี้ เชื่อว่าแผนการณ์กำลังใกล้จะสำเร็จ สเนป ขอเป้นคนเอาตัวแฮรี่ มาให้เอง แฮรีจ้องที่นากินี พยายามเล็งไม่ให้พลาด

เวอร์ดี้ บอกว่า Elder Wand ไม่ work สมราคาคุย สเนปขออีกครั้ง ให้เขาเป็นคนไปจับแฮรี่ แต่เวอร์ บอกว่าแฮรี่ จะมาหาเขาเองแน่นอน เวอร์ดี้รำพึงว่า ถ้าแฮรี่ มา จะเกิดอะไรขึ้น เพราะที่ผ่านมา ไม้ของเขาไม่สามารถทำอันตรายแฮรี่ได้ แล้วเขาก็คิดได้ ว่าเพราะ เขาไม่ใช้เจ้านายตัวจริง ของไม้

เป็นสเนป ที่ฆ่าดัมเบิลดอร์ ดั้งนั้น ตายซะเถอะสเนป แล้ว ก็ฆ่าสเนปเลย (โห ง่ายๆ งี้นะ)

พอเวอร์ดี้เดินออกไป แฮรีก็ออกจากผ้าคลุม เดินมาหาสเนป มีของเหลวสีเงิน ไหลออกมาจากปาก หู ของสเนป เขาสั่งให้แฮรี่ หยิบมัน แฮรี่กับเฮอร์ ช่วยกันหยิบ คำพูดสุดท้ายของป๋าเนป "มองฉันซิ" แล้วก็หมดลมหายใจไป

จากคุณ : kwanmanee - [ 21 ก.ค. 50 03:04:25 ]

chapter33 The Prince's Tale

แฮรี่ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆสเนป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงของโวลเดอมอร์ดังขึ้นมา โวลเดอร์มอร์ประกาศให้ทุกคนยอมแพ้ซะ เพราะสู้ต่อไปก็เสียเปล่า ถ้าทุกคนยอมแพ้เขาจะไม่ทำอะไรและสั่งให้กองกำลังของเขาล่าถอย และโวลเดอมอร์ก็ประกาศถึงแฮรี่โดยตรงว่าแฮรี่จะทำให้เพื่อนของเขาต้องมาตายแทน และโวลดี้ขอให้แฮรี่ยอมแพ้ซะ แล้วออกมามอบตัวกับเขาซะเขาจะรอที่ป่าต้องห้าม และจะให้เวลา1ชั่วโมง หากเลยเวลานี้ไปแล้วแฮรี่ไม่ออกมา ทุกคนตายหยังเขียด
รอนบอกแฮรี่ว่าอย่าไปฟังโวลเอดร์มอร์ เฮอมี่บอกให้รีบกลับไปที่ปราสาท เพราะถ้าโวลดี้ไปที่ป่าต้องห้าม พวกเขาจำเป็นที่จะต้องวางแผนกันใหม่
แฮรี่คว้าผ้าคลุมล่องหนมา และจ้องมองดูไปที่ศพของสเนป เขาไม่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับสเนป แต่เขาช็อคกับการตายของสเนป และสาเหตุที่สเนปต้องตาย
แฮรี่ รอน เฮอไมโอนี่ เข้ามาในปราสาท ซึ่งเงียบผิดปกติ พวกเขาเจอกลุ่มผู้รอดชีวิตที่ห้องโถงใหญ่ มาดามพรอมฟรีย์กำลังรักษาคนเจ็บอยู่ มีศพนอนเรียงเป็นแถวอยู่กลางห้องโถง ศพของเฟรดถูกล้อมรอบไปด้วยคนในครอบครัวของเขา ศพของลูปินและท็องอยู่ถัดไปจากศพของเฟรด แฮรี่รู้สึกผิด เขาคิดวาถ้าเขายอมมอบตัวแต่แรก ทุกคน คงไม่ต้องมาตายแบบนี้
แฮรี่รีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องอาจารย์ใหญ่ เขาพบว่ารูปภาพทั้งหมดได้หายไปแล้ว แฮรี่สังเกตุเห็นเพนซีฟ แฮรี่จึงเข้าไปดูเพนซีฟ แล้วก็พบความทรงจำที่เป็นเรื่องราวของ สเนปกับลิลลี่แม่ของเขาเอง เขาเห็นแม่กับป้าของเขากำลังเล่นชิงช้า โดยมีเด็กชายร่างผอมเกร็งกำลังเฝ้ามองอยู่ แฮรี่เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้เด็กชาย สเเนปดูน่าจะมีอายุไม่เกิน9-10ขวบ
ต่อไปนี้ขอย่อแบบรวบๆแหล่ว
ลิลลี่เผลอใช้เวทย์มนต์ออกมา ทูนีย์(ป้าเพตทูเนีย ลิลลี่เรียกว่าทูนีย์อะ) เลยเตือนลิลลี่ว่าแม่สั่งห้ามไว้นะ สเนปเห็นเข้าพอดีเลยเดินมาบอกว่าลิลลี่เป็นแม่มด ทูนีย์บอกสเนปว่าไร้สาระ สเนปเรียกทูนีย์ว่ามักเกิลแบบดูถูก แล้วก็เล่าเรื่องของโลกพ่อมดแม่มดให้ลิลลี่ฟัง ว่าลิลลี่จะได้ไปเรียนที่โรงเรียนเวทย์มนตร์ จะมีคนมาอธิบายกับครอบครัวลิลลี่เอง ฉากตัดมาที่ชานชาลาที่9เศษ3ส่วน4ยกกำลัง2 บทพูดตอนนี้สรุปได้ประมานว่า ทูนีย์ก็อยากไปเรียนที่เดียวกับลิลลี่ด้วย เลยเขียนจดหมายถึงอาจารย์ใหญ่ขอร้องให้เขารับเธอเข้าเรียนด้วย แต่เขาไม่รับ ทูนีย์เลยมาวีนเอากับลิลลี่ ว่าลิลลี่เป็นคนบ้า และกำลังจะเรียนที่โรงเรียนสำหรับคนบ้า ลิลลี่โมโหเลยเอาเรื่องจดหมายขึ้นมาพูด ทูนีย์เลยโกรธหาว่าลิลลี่กับสเนปแอบรื้อค้นเรื่องส่วนตัวของตน
ลิลลี่ขึ่นรถไฟไปเรียนกับสเนปแล้วก็คุยเกี่ยวกับบ้านที่ตนจะได้ไปอยู่ แล้วก็เจอเจมกับซิเรียสบนรถไฟคุยเรื่องบ้านเหมือนกัน เมื่อถึงโรงเรียน ลิลลี่ได้ไปอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ และสเนปต้องไปอยู่สลิธีริน แต่พวกเขายังคงความเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่(สเนปมันเป็นไข่ย้อยรึไงเนี่ย- -") เมื่อเวลาผ่านไป ลิลลี่เริ่มไม่ชอบพวกเพื่อนๆบ้านสลิธีรินของสเนป สเนปก็ไม่สบอารมณ์กับเจมส์และซีเรียส เพื่อนๆบ้านเดียวกับลิลลี่ และเริ่มสงสัยเรื่องลูปิน



ฉากในเพนซีฟตัดกลับตอนที่แฮรี่เคยดูมาแล้ว คือตอนที่เจมส์จับสเนปห้อยหัวลง แล้วสเนปเรียกลิลลี่ว่ายัยเลือดสีโคลน ฉากตัดมาที่ตอนกลางคืน สเนปขอโทษลิลลี่และบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ ลิลลี่บอกว่าเธอไม่สนใจคำขอโทษของเขา เธอต่อว่าสเนปเรื่องที่เขาและกลุ่มเพื่อนๆทำตัวมุ่งหวังที่จะเป็นผู้เสพความตาย ลิลลี่บอกว่าสเนปได้ตัสินใจแล้วที่จะเลือกข้างของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ลิลลี่ก็ได้ตัดสินใจแล้ว ประมานว่าเราขาดกันแค่นี้นะไข่ย้อย
ฉากตัดมาที่สเนปกำลังเฝ้ารอใครบางคนอย่างหวาดผวาโดยในมือกำไม่กายสิทธิ์แน่น และทันใดนั้นเองก็มีลำแสงเหมือนฟ้าผ่าปรากฎขึ้น สเนปเข่าอ่อนและทำไม่กายสิทธิ์หลุดมือ ดัมเบิลดอร์น่ะเอง สเนปร้องขอชีวิตต่อดัมเบิลดอร์ แต่ดัมเบิลดอร์บอกว่าเขาไม่ได้มาด้วยความตั้งใจที่จะฆ่าสเนป สเนปก็ได้เล่าว่าเขาได้เล่าคำพยากรณ์ที่ได้ยิน(คำพยากรณ์ของทรีลอว์นีย์ที่ดัมเบิลดอร์เป็นคนได้ฟังในเล่ม5)ให้กับโวลดี้ฟังทั้งหมด ทำให้โวลดี้คิดว่าคำพยากรณ์นั้นหมายถึงลิลลี่อีแวนส์ ดัมเบิลดอร์จึงรู้ถึงความรู้สึกของสเนปที่มีต่อลิลลี่ ดัมเบิลดอร์เลยถามสเนปว่าถ้าลิลลี่สำคัญต่อเขาขนาดนี้ ทำไมเขาไม่ขอให้โวลดี้ปล่อยเธอไปล่ะ สเนปบอกดัมเบิลดอร์ว่าเขาขอแล้ว ดัมเบิลดอร์เลยด่าสเนปว่าน่าขยะแขยง สเนปไม่แคร์เลยว่าจะเกิดอะไรกับสามีและลูกของเธอ สเนปจึงขอร้องให้ดัมเบิลดอร์พาลิลลี่และครอบครัว(ไอ้ครอบครัวนี่ก็ไม่ค่อยเต็มใจจะเอ่ยหรอก)ไปซ่อน ดัมเบิลดอร์ถามว่าสเนปมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกับคำขอนี้ สเนปบอกว่าเขายินดีจะให้และทำทุกอย่าง (โถไอ้ไข่ย้อย แกมาบอกอะไรเอาป่านนี้)
ฉากตัดมาที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ สเนปอยู่ในห้องนั้นด้วย สเนปกล่าวโทษดัมเบิลดอร์ ว่าไหนเขาสัญญาว่าจะพาลิลลี่ไปซ่อนในที่ปลอดภัยไง ดัมเบิลดอร์จึงตอบไปว่า ลิลลี่กับเจมส์ไว้ใจคนผิด แบบเดียวกับที่สเนปไว้ใจโวลเดอมอร์น่ะแหละ เขาถามสเนปว่าคิดจริงๆหรือว่าโวลเดอร์มอร์จะยอมปล่อยลิลลี่ ดัมเบิลดอร์เล่าต่อไปว่า ลูกชายของลิลลี่รอด และเขาได้ตาของแม่มา ดวงตาที่สเนปรู้จักดี สเนปทนฟังไม่ด้าย เขารู้สึกอยากตาย ดัมเบิลดอร์กล่อมสเนปว่าตายไปแล้วก็ไม่ได้อะไร ถ้าเขารักลิลลี่จริง ต้องช่วยลิลลี่ปกป้องลูกของเธอ
ฉากตัดมาสมัยแฮรี่เข้าเรียนปี1สเนปมีอคติต่อแฮรี่ หาว่าแฮรี่เย่อหยิ่งยะโสอวดดีแบบเจมส์ แต่ดัมเบิลดอร์ยืนยันว่าแฮรี่เป็นเด็กที่อ่อนโยน และบอกให้สเนปคอยจับตาดูควีเรลล์ไว้
ฉากตัดมาที่ตอนในเล่ม4 สเนปรายงานดัมเบิลดอร์ว่าตรามารของคาคารอฟเข้มขึ้นทุกทีๆ
ฉากตัดมาที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์อีกครั้ง สเนปกำลังพูดกับดัลเบิลดอร์เกี่ยวกับแหวนของมาโวโลกอนท์ (ช่วงต่อไปนี้ไม่แน่ใจนะคะ) ด้วยคำสาปของแหวนนี้จะทำให้ดัมเบิลดอร์อ่อนแอลง และคงมีเวลาเหลือไม่ถึง1ปี แล้วก็พูดถึงแผนการของโวลดี้ที่จะให้มัยฝอยมาสังหารดัมเบิลดอร์เพื่อเป็นการลงโทษลูเชียส และโวลดี้มั่นใจว่ามันฝอยจะทำไม่สำเร็จ และตั้งใจที่จะให้สเนปเป็นคนปิดฉาก และดัมเบิลดอร์ขอให้สเนปสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องนักเรียน สเนปพยักหน้ารับ ดัมเบิลดอร์ต้องการจะช่วยมันฝอย จึงวางแผนที่จะให้สเนปฆ่าตน(ตรงนี้เดาถูกกันหลายคนเลยนะเนี่ย) สเนปจึงถามว่าถ้าดัมเบิลดอร์ไม่กลัวความตาย ก็แล้วทำไมไม่ให้มันฝอยฆ่าเขาไปเลยล่ะ ดัมเบิลดอร์ต้องการที่จะปกป้องจิตใจของมันฝอย ไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้ สเนปจึงเกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจ ดถามดัมเบิลดอร์กลับไปว่า แล้วใจผมละคร้าบเพ่ ดัมเบิลดอร์เลยตอบไปว่าถือว่าช่วยคนแก่เต๊อะ สเนปก็ประมานว่า เออทำก็ได้วะ
ฉากตัดมาที่สเนปคุยกับดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์พยายามกล่อมให้สเนปเห็นว่าแฮรี่อ่อนโยนเหมือนแม่มากกว่ากวนติงเหมือนพ่อ สเนปถามดัมเบิลดอร์ต่อว่าดัมเบิลดอร์ไปแอบงุบงิบคุยอะไรกับแฮรี่2ต่อ2 ดัมเบิลดอร์จึงตอบว่าเขาไปให้ข้อมูลที่แฮรี่ควรรู้ก่อนที่จะสายเกินไป สเนปจึงงอนดัมเบิลดอร์ หาว่าดัมเบิลดอร์เชื่อใจแฮรี่แต่ไม่เชื่อใจเขา ดัมเบิลดอร์จึงตอบไปว่า เขาไม่อาจบอกความลับทั้งหมดแก่(ตะกร้าหน้าจะหมายถึงคนแหละ)คนเพียงคนเดียวได้(ประมานข้อมูลควรจะกระจายๆกันไป) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ทำงานใกล้ชิดโวลดี้แบบสเนป สเนปจึงโต้กลับว่า แล้วทีกับแฮรี่ที่มีจิตเชื่อมต่อกับโวลดี้โดยตรงล่ะฟระ ดัมเบิลดอร์จึงตอบไปว่า โวลดี้เคยได้รับบทเรียนเกี่ยวกับการพยายามที่จะเข้าถึงจิตใจแฮรี่มาแล้วเมื่อเร็วๆนี้ และเขาคงไม่พยายามเข้าถึงจิตของแฮรี่ด้วยวิธีนั้นอีก
ตัดมาที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์อีกครั้ง ดัมเบิลดอร์เตือนสเนปว่า แฮรี่ต้องไม่รู้อะไรเลยจนกว่าจะถึงช่วงสุดท้ายของแผนการณ์นี้หลังจากที่เขาตาย จนกว่าช่วงเวลาที่โวลดี้กังวลเกี่ยวกับชีวิตของนากินีและพยายามเก็บมันไว้ใกล้ตัวมาถึง ช่วงเวลานั้นจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะบอกแฮรี่ว่าในคืนที่ลิลลี่ตายและวิญญาณของโวลเดอมอร์แตกกระจายเป็นชิ้นๆ วิญญาณส่วนหนึ่งของเขาได้เข้ามาอยู่ในสิ่งมีชีวิตเดียวภายในบ้าน ซึ่งนั่นก็คือแฮรี่ ประมานว่าถ้าแฮรี่ไม่ตาย โวลดี้ก็ไม่ตาย(ทายถูกกันอีกละ)
เริ่มง่วงเอาแบบย่อๆแล้วนะคะ
สเนปรู้สึกว่าเหมือนตัวเองถูกดัมเบิลดอร์หลอกใช้ให้ช่วยแฮรี่เพื่อลิลลี่ แต่เปล่าเลย ดัมเบิลดอร์รักษาชีวิตของแฮรี่ไว้ เพื่อที่จะใช้ความตายของแฮรี่ให้ถูกเวลา ไม่ต่างอะไรกับเลี้ยงหมูเพื่อรอเวลาเชือด แล้วฉากหลังจากนี้สเนปก็เสก ผู้พิทักษ์ออกมาเป็นกวางตัวเมียสีเงิน ดัมเบิลดอร์ถามว่าผู้พิทักษ์ของเขาเป็นแบบนี้มาตลอดหรือ สเนปตอบว่า มันเป็นแบบนี้เสมอมอและจะตลอดไป( กริ๊กริ้วไอ้ตลอดไปนี่เติมเองค่ะ เหอๆๆ)
ฉากตัดมาที่ดัมเบิลดอร์กำลังเตี๊ยมแผนการกับสเนป ที่ใช้น้ำยาสรรพรสปลอมหลายๆคนเป็นแฮรี่แล้วใช้เป็นเหยื่อล่อ โดยให้สเนปสะกดมันดังกัสให้ไปเสนอแผนนี้ต่อภาคีอีกที
ฉากต่อมาสเนปอยู่ในห้องนอนเก่าของซีเรียสกำลังอ่านจดหมายเก่าๆของลิลลี่น้ำตาไหลพรากๆ ในหน้าที่2มีข้อความว่า (อันนี้แหนมยังงงๆว่าหมายถึงอารัย ยังไงก็เอามาทั้งข้อความเลยละะกันค่ะ)
could ever have been friends with Gellert Grindelwald. I think her mind going personally
lots of love
Lily
สเนปเก็บรูปภาพของลิลลี่ที่กำลังยิ้มแย้มไว้(แต่ฉีกรูปเจมส์ที่อยู่ข้างๆออกไปแล้ว)
ฉากตัดมาที่ห้องอาจารย์ใหญ่ ฟีนีแอสไนเจลลัสเข้ามารายงานเขาว่า พวกเลือดสีโคลนมาตั้งค่ายอยู่ที่forrest of deanแล้ว สเปนโต้กลับไปว่าอย่าใช้คำนั้น(คำว่าเลือดสีโคลน) ฟีนีแอสรายงานต่อ ว่าเขาได้ยินนังเด็กเกรนเจอร์นั่นเอ่ยถึงสถานที่ตอนที่เธอเปิดกระเป๋า(รูปฟีนีแอสที่พวกแฮรี่พกมาด้วย) รูปภาพดัมเบิลดอร์ในห้องอาจารย์ใหญ่เตือนสเนปไม่ให้ลืมมอบดาบของกริฟฟินดอร์ให้แฮรี่ และต้องระวังไม่ให้แฮรี่รู้ว่าใครเป็นคนมอบให้ เพราะดัมเบิลดอร์อาจจะอ่านใจแฮรี่เจอเรื่องพวกนี้ได้ แล้วสเนปก็ออกจากห้องไป
แฮรี่เงยหน้าขึ้นมาจากเพนซีฟ จบ(กันห้วนๆดื้อๆแบบนี้ล่ะค่าตอนนี้)

อาจจะพิมพ์ผิดเยอะมาก เพราะตอนพิมพ์ก็ง่วงๆเบลอๆแล้ว ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้นะค้า =/\=

จากคุณ : แหนมมัด - [ 21 ก.ค. 50 03:40:07 ]



Create Date : 22 กรกฎาคม 2550
Last Update : 22 กรกฎาคม 2550 21:52:47 น. 0 comments
Counter : 609 Pageviews.

ป้าซ่าส์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




วันเปลี่ยน คนเปลี่ยน







Friends' blogs
[Add ป้าซ่าส์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.