Group Blog
 
All Blogs
 
คิดจากหนัง CSI: Crime Scene Investigation

สวัสดีค่ะ



ภาพนำมาจาก //csi.ubi.com/index.php

วันนี้ดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ทางช่อง 7 เป็นภาพยนต์ซีรี่ส์ ประเภทสืบสวนสอบสวน (ทราบภายหลังว่าชื่อ CSI: Crime Scene Investigation ซึ่งภาพยนต์ชุดนี้ได้รับความนิยมมากในประเทศอังกฤษ) ไม่ทันได้เปิดดูตั้งแต่เริ่มแรก แต่เมื่อเปิดมาดูก็เพิ่งเดินเรื่องไปไม่นาน จับความได้คร่าว ๆ ว่าทีมงานตำรวจกำลังสืบหาคดีการหายตัวไปของนักศึกษาสาวของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

เรื่องดำเนินมาถึงตอนที่ ตำรวจกำลังสอบปากคำเพื่อนร่วมห้องของสาวเจ้าคนที่หายตัวไป ปรากฏว่า เพื่อนร่วมห้องนี้ เพิ่งลาออกจากมหาวิทยาลัย สอบไปสอบมา ได้ความว่า ลาออก เพราะโดนข่มขืน โดยถูกมอมยา และเจ้าตัวก็ไม่รู้ว่า ใครเป็นคนกระทำ รู้ แต่ว่า เป็นหนึ่งในบรรดาเพื่อนนักศึกษาชายที่อยู่หอพักเดียวกัน รู้สึกอับอายจึงได้ลาออกไป และก็ไม่ได้แจ้งความ แต่ตำรวจก็สืบหาคนร้าย และในที่สุดก็จับตัวคนข่มขืนได้ แต่ปรากฎว่านักศึกษาชายคนนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องในการหายตัวไปของสาวคนแรก

ตำรวจหาเบาะแสต่อไป จนสืบไปถึงอาจารย์คนหนึ่ง ซึ่งมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับสาวคนนี้ แต่อาจารย์ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนักศึกษาคนนี้เช่นการ โดยที่อาจารย์สามารถหาพยานยืนยันสถานที่ที่ตัวเองอยู่ในขณะเกิดเหตุได้ เรื่องก็โยงไปจนถึงภรรยาของอาจารย์คนนี้ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยรายต่อไป ว่าอาจจะเป็น เพราะสาเหตุหึงหวง แต่ก็ปรากฏว่า ไม่ใช่อยู่ดี

ในที่สุด ก็มีคนพบศพของนักศึกษาสาวคนนั้น ถูกอัดบี้อยู่ในก้อนขยะ (ขยะที่เก็บมาแล้ว จะถูกนำมาอันเข้าเป็นก้อน) เป็นก้อนขยะที่ถูกเก็บมาจากถังขยะด้านหลังหอพัก ชันสูตรศพแล้ว สาเหตุการตาย คือ โดนกระแทกอย่างแรงตรงบริเวณชายโครง จนกระดูกหักทิ่มม้าม เลือดไหล และตาย ตำรวจไปตรวจดูที่เกิดเหตุ ปรากฎมีร่องรอยถังขยะถูกรถชน ตามสืบจนเจอเจ้าของรถ ซึ่งให้การว่า ในคืนวันนั้นตัวเองขับรถเร็วมาก เพราะภรรยากำลังจะคลอดลูก ขณะขับรถผ่านมายังจุดเกิดเหตุ ก็ปรากฏถังขยะขยับเลื่อนออกมา ตัวเองเบรกไม่ทัน เลยชนถังขยะนั้นเข้ากับกำแพง เมื่อเห็นว่า ที่ตัวเองชนนั้นเป็นถังขยะ ก็จึงขับรถเลยผ่านไป หลักฐานทุกอย่างก็แสดงว่า ชายคนนั้นให้การตามจริง

เมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาถึงตรงนี้ ดูเหมือนจะหมดร่องรอยที่จะให้สืบต่อไป กลุ่มตำรวจจึงเริ่มต้นวิเคราะห์ใหม่ ตั้งแต่เริ่มแรก ไล่ลำดับเหตุการณ์ว่า สาวที่หายตัวไปนั้น กำลังจะคืนห้องพัก ด้วยความที่ต้องการเงินมัดจำคืน จึงทำความสะอาดห้องให้เรียบร้อยก่อนคืนห้อง เมื่อตำรวจตรวจดูสิ่งของในห้องอีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า ถังขยะในห้องหายไป จึงตั้งข้อสันนิษฐาน และจำลองเหตุการณ์ขึ้น

เป็นไปได้มั้ยที่นักศึกษาหญิงคนนี้ เมื่อทำความสะอาดห้องเสร็จจึงเอาถังขยะไปทิ้งที่ช่องทิ้งขยะ ซึ่งฝาปิดปล่องทิ้งขยะดีดกลับเร็วเกินไป ทำให้ถังขยะหลุดมือตกลงไปในถังขยะใหญ่ที่อยู่ด้านล่าง นักศึกษาคนนั้นจึงลงไป และพยายามปีนถังขยะใบใหญ่ เพื่อที่จะเก็บถังขยะเล็กขึ้นมา ขณะที่กำลังปีนอยู่นั้น ตัวคนปีนอยู่ในซอกระหว่างถังขยะใบใหญ่กับกำแพง ทำให้ถังขยะเลื่อนออกมาเล็กน้อย ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่มีรถคนหนึ่ง ขับมาถึงด้วยความเร็ว และชนถังขยะเข้า ทำให้ถังขยะเข้าไปอัดนักศึกษาคนนี้เข้ากับกำแพง และเสียชีวิตในที่สุด โดยที่ศพก็ตกลงไปในถังขยะ แล้วจึงได้มีการพบศพในกองขยะที่ถูกบีบอัดนั้น

แล้วตำรวจก็สรุปว่า คดีนี้ไม่มีฆาตกร และนักศึกษาผู้นี้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ซึ่งการสรุปคดีดังนี้ ทำให้พ่อแม่ของนักศึกษาผู้เสียชีวิตรับไม่ได้ และยืนยันว่า คดีนี้ต้องมีคนผิด ทิ้งท้ายไว้ว่า จะจ้างนักสืบ เพื่อสืบคดีนี้ใหม่ และหาตัวฆาตกรให้ได้

เรื่องจบลงตรงนี้ เรื่องนี้เกี่ยวกับธรรมะอย่างไร

**************************************************


มันเป็นเรื่องของพ่อแม่ ที่กำลังเผชิญความทุกข์จากการสูญเสียลูกสาวไป โดยที่พ่อแม่ปักใจเชื่อว่า ต้องมีฆาตกร หรือผู้รับผิดชอบต่อการตายของลูกสาวของตนนั้น เมื่อตำรวจสรุปคดีว่า เป็นอุบัติเหตุก็จึงยอมรับไม่ได้ จึงได้เกิดทุกข์ ไม่ยอมรับความจริงว่า เรื่องต่าง ๆ ที่มันดำเนินไปนั้น เป็นเรื่องของเหตุปัจจัย ที่เข้ามาบรรจบกัน

คนเรามักจะไม่ยอมรับ ไม่มองว่า เหตุการณ์ในชีวิตของเรา ล้วน แต่เป็นเรื่องของเหตุปัจจัยตามธรรมชาติ เรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ก็หนีไม่พ้น และเป็นส่วนหนึ่งที่เคลื่อนไปตามเหตุปัจจัยของโลกด้วยเช่นกัน

เรามักจะมองสิ่งต่าง ๆ เป็นส่วน ๆ ไม่ได้มองว่า มันเป็นกระแสการเคลื่อนไหว หมุนเวียนเปลี่ยนไป ทุกอย่างเกี่ยวข้องกันหมด ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นจุดศูนย์กลาง หรือสามารถแยกตัวออกมาจากกระแสการเปลี่ยนแปลงได้ เ่ช่น เมื่อเราสร้างตึก ก็มักจะคิดว่า ตึกนี้เราเป็นผู้สร้าง ไม่ได้มองว่า มันเป็นส่วนผสมของเหตุปัจจัยที่เหมาะสม มีการออกแบบโครงสร้างตึกที่ดี มีการวางแผนการดำเนินงานที่ดี มีคนงานก่อสร้าง มีการแก้ปัญหาต่าง ๆ ซึ่งถ้าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ตึกที่เราสร้างก็ไม่มีทางสำเร็จได้ แต่เรามักยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง มักจะมองว่า ตึกนี้สำเร็จได้ เพราะมีเราเป็นผู้วางแผน มีเราเป็นผู้ออกแบบ มีเราเป็นผู้สร้าง ซึ่งความจริง ๆ แล้ว หากขาดเราผู้วางแผนไป ก็จะมีการจัดหาผู้วางแผนคนอื่นมาแทน เมื่อมีเหตุปัจจัยครบ การสร้างตึกก็ย่อมสำเร็จได้ด้วยดี

หรือเมื่อเราผิดหวังจากความรัก หรือผิดหวังจากสิ่งที่ไม่เป็นไปดั่งใจเรา เราก็มักจะมองว่า เค้าคนนั้นเปลี่ยนไป สิ่งนั้นผิด คนนั้นเป็นตัวการ โดยที่ลืมที่จะมองว่า นั่นน่ะ มันเป็น เพราะเหตุปัจจัยมันกระกอบกันเข้าพอดีต่างหาก ผลมันจึงออกมาเป็นอย่างนั้น

ถ้าเราหัดมองตามเหตุปัจจัย ตามที่มันเป็นจริงแล้ว หมั่นฝึกบ่อย ๆ เราก็จะค่อย ๆ เรียนรู้ และเข้าใจในความเป็นจริง เป็นการสร้างภูมิต้านทานให้กับใจของเรา เมื่อเกิดสิ่งที่มากระทบใจเข้า เราก็ จะได้ตั้งตัวทัน และคิดได้ว่า นี่ไง เราได้เคยคิดไว้แล้ว ในที่สุดมันก็เกิดขึ้นจริง ๆ ด้วย เอ้อ กูว่า แล้ว ว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ คิดไปอย่างนี้ ฝึกไปหัดไป

สนุกไปกับมัน สนุกไปกับการตรวจสอบ ตรวจทานใจตัวเอง ตรวจทานอารมณ์ตัวเอง แล้วมองให้เห็นให้ได้ ว่า เอ้อ จริงว่ะ ภูมิต้านทานก็จะเพิ่มขึ้น ๆ แล้วเราก็จะทนทาน ไม่หวั่นไหว จนในที่สุด เมื่อเรานึกขึ้นได้อีกทีหนึ่ง เราอาจจะนึกว่า เอ๊ะ ครั้งสุดท้ายที่เราเสียใจเนี่ย มันเมื่อไหร่กันน้อ


พญาไฟ
17 พฤษภาคม 2548


Create Date : 18 พฤษภาคม 2548
Last Update : 18 พฤษภาคม 2548 10:33:38 น. 2 comments
Counter : 669 Pageviews.

 
อืมมม จะลองคิดแบบนั้นดู "แบบว่าเรื่องมันบังเอิญหนะ"


โดย: กางเขนดง IP: 161.200.255.163 วันที่: 18 พฤษภาคม 2548 เวลา:10:55:10 น.  

 
ฝนตก กลับบ้านไม่ได้ เลยแวะมาเยี่ยมพี่นกจ้า... ^_____^


ชอบแนวคิดการสร้างภูมิต้านทานให้ตัวเองค่ะ ช่วงนี้ก็พยายามพัฒนาวัคซีนให้ตัวเองอยู่เสมอ แต่เผลอ ๆ โรคเก่า ๆ มันก็กำเริบ (โดยเฉพาะเวลามีปัจจัยสนับสนุนโผล่เข้ามาในชีวิต) แม้อาการจะไม่หนักหนาเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็รู้สึกรำคาญตัวเองที่ไม่ยอมหายเสียทีค่ะ Y____Y


แล้วจะมาเยี่ยมบ่อย ๆ เน้อตัวเอง


โดย: Poceille วันที่: 30 พฤษภาคม 2548 เวลา:19:21:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พญาไฟ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add พญาไฟ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.