|
สบายดี สปป.ลาว ขับรถชิว ๆ ไปสะหวันนะเขต
เค้าบอกว่าไทย ลาวเป็นบ้านพี่เมืองน้อง แต่บางคนเดินทางมาเกือบทั่วโลกแต่ไม่เคยไปลาว เพราะอาจจะมองว่าคล้ายกับอยู่บ้านตัวเอง หรืออาจจะไม่ได้อารมณ์ว่าได้ไปเที่ยวต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าเรายังมีเพื่อนบ้านที่น่ารักอยู่ข้าง ๆ เรานี่เอง เดินทางก็ไม่ยากไปได้ทั้งทางเครื่องบินรถยนต์ รถไฟ หรือแม้กระทั่งขี่จักรยานไป(อันนี้จริง ๆ เพราะผมเห็นหลายชมรมจักรยานก็ขี่ไปสำรวจเส้นทางกันมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว) ลาวนั้นไม่มีทางออกทะเล หรือ ที่เรียกว่า Landlock Country มีพรมแดนติดกับไทย จีน เวียดนาม พม่า กัมพูชา ใช้ชื่อเต็มว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แปลกที่ถ้าประเทศไหนใช้คำว่า...
"สาธารณรัฐประชาธิปไตย" แต่การปกครองกลับเป็นประเทศที่ปกครองใน ระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ (เรื่องของชื่อประเทศนี่หากเราศึกษาให้ดี ๆ เราจะสามารถรู้ได้ทันทีว่าประเทศนั้น ๆ ปกครองด้วยระบอบใด)
สปป.ลาวเอง มีประวัติอันยาวนานตั้งแต่สมัยอาณาจักรน่านเจ้า(อาณาจักรทางใต้ ของจีน) ยาวนานมาจนถึงอาณาจักรล้านช้างซึ่งเริ่มเป็นปึกแผ่นในสมัยพระเจ้าฟ้า งุ้ม (พ.ศ. 1896) หากเทียบกับประเทศไทยตรงกับรัชสมัยของพระยาลิไทย (หรือพระมหาธรรมราชาที่ 1 แห่งกรุงสุโขทัย อาณาจักรล้านช้างยาวนาน พอสมควรมีกษัตริย์หลายพระองค์ที่คุ้นหูคนไทยน่าจะเป็นพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ซึ่งเป็นสมัยอยุธยาในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ บอกสมเด็จ พระมหาจักรพรรดิ นั้นอาจจะนึกไม่ออกต้องไล่ประวัติศาสตร์ยาว แต่ถ้าบอกว่า ในหนังพี่ตั้ว (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) ในภาพยนต์เรื่อง สุริโยไท ต้องร้องอ๋อ แน่นอน ต่อมาอาณาจักรล้านช้างแบ่งแยกเป็น 3 ก๊ก(เพราะประชาชนในชาติแตก ความสามัคคีกันเองแบ่งเป็นฝักฝ่าย
เอ! ช่างเหมือนประเทศไหนหนอ?>> คือ อาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง เวียงจันทร์ และ จำปาศักดิ์ ทั้ง 3 อาณาจักรต่างอิสระไม่ขึ้นต่อกัน เมื่อประเทศใดก็ตามแม้แต่คนในชาติยังแตกความสามัคคีสิ่งที่ตามมาก็ไม่ต้องห่วงครับไม่ต้องฟันธง หรือคอนเฟิรมก็ได้ คือ ชาติล่มสลาย ซึ่งในที่สุดทั้ง 3 อาณาจักรก็ตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศสยาม(ไทย) ในปี พ.ศ.2321 สยามปกครองลาวในฐานะประเทศราช(เมืองขึ้น) เป็นเวลา 100 กว่าปี ผ่านการเสียกรุงครั้งที่ 2 ในวันที่ 7 เมษายน 2310 จนพระเจ้าตากสินมหาราชกอบกู้กรุงศรีอยุธยาได้ภายใน 7 เดือน(7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2310) ลาวก็ยังอยู่ในการปกครองของสยามอาจจะแข้งกระด้างบ้างช่วงที่สยามอ่อนอำนาจ จนมาถึงในสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.3
ทรงพระพิโรธเจ้าอนุวงศ์ของเวียนจันทร์ฐานจะตั้งตนเป็นอิสระจึงทรงปราบปราบ และจับเจ้าอนุวงศ์ขังจนสิ้นพระชมน์ ส่วนกรุงเวียงจันทร์นั้นทรงมีพระบัญชาให้ ทำลายจนไม่เหลือสภาพความเป็นเมืองและตั้งศูนย์การปกครองฝ่ายไทยเพื่อ ดูแลอาณาจักรเวียงจันทร์ที่เมืองหนองคายแทน จนมาถึงยุคสมัยการล่อาณานิคม
ไทยเราพิพากษ์กับฝรั่งเศส ๆ นำเรือรบมาปิดอ่าวไทยเพื่อบีบให้ยกดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง เรารู้จักในเหตุการณ์ ร.ศ. 112 หรือ พ.ศ. 2436 หรือ France-Siam War ฝรั่งเศสได้รับชัยชนะ(แบบตกลงกันฉันท์มิตรระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส) เราต้องยกดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง(ลาว)ให้กับฝรั่งเศสไป ลาวจึงตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของฝรั่งเศส(เราจึงเห็นสถาปัตยกรรมประตูชัยที่เวียงจันทร์เหมือนที่ปารีสของฝรั่งเศส) ลาวมาได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2496(ยุคที่ฝรั่งเศสแพ้สงครามเดียนเบียนฟูให้กับเวียดนาม) ภายหลังได้รับเอกราชลาวยังปกครองโดยระบบกษัตริย์โดยได้รวมทั้ง 3 อาณาจักร คือ ...
ล้านช้างหลวงพระบาง ล้านช้างเวียงจันทร์และล้านช้างจำปาสัก เป็นอาณาจักรลาว ต่อมาเมื่อสมัยทฤษฎีดอมิโน่ลัทธิคอมมิวนิสต์ขยายอำนาจก็แบ่งกันเป็นฝ่าย ซ้าย(คอมมิวนิสต์)และฝ่ายขวา(ระบบกษัตริย์)และลาวก็ต้องไปพัวพันกับสงคราม เวียดนามไปโดยปริยาย(จริง ๆ ก็ไม่เว้นแม้แต่ไทย)ซึ่งสงครามเวียดนามเปรียบ เหมือนสงครามตัวแทน(ได้เคยกล่าวไปแล้วในคอลั่มเที่ยวเวียดนาม)
ในที่สุดสงครามตัวแทนในลาวนั้นฝ่ายคอมมิวนิสต์ภายใต้การส่งประกวดของ เอ้ย...สนับสนุนของโซเวียด และเวียดนามเหนือ(โฮจิมิน) ได้รับชัยชนะ ในปี พ.ศ.2518 ยุคสมัย 14 ต.ค.2514 และ 16 ต.ค. 2519 บ้านเรา การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข(กษัตริย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา) ยินยอมสละพระราชอำนาจ พรรคประชาชนปฏิวัติแห่งชาติลาวจึงประกาศสถาปนา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2518 นั่นแหละประวัติคร่าว ๆ ของประเทศ สปป.ลาว
การท่องเที่ยวในลาวนั้นที่ฮิต ๆ ของบริษัททัวร์ บ้านเราคล้าย ๆ กับเวียดนาม คือ มีลาวเหนือ เวียงจันทร์ วังเวียง เชียงขวาง หลวงพระบางซึ่งเส้นนี้ถ้าเดินทางโดยรถยนต์จะออกทางหนองคาย ส่วนลาวใต้จะเป็นเส้นจำปกสัก ปากเซ หลีผี สี่พันดอน คอนพะเพ็ง(ไนแองการ่า แห่งเอเซีย) ทางนี้จะออกทางอุบลราชธานี(ช่องเม็ก) ข้ามสะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น เข้าสู่เมืองปากเซ อ่านแล้วคงงงว่าสะพานเชื่อมไทย-ลาว ทำไมเป็นลาว-ญี่ปุ่น ง่ายนิดเดียวญี่ปุ่นสร้างให้ลาว ส่วนลาวก็ฉลาดนิดนึง(คาดว่าได้ไอเดียจากพี่ไทย) คือ ลาวตั้งชื่อสะพานด้วยชื่อลาวนำหน้าญี่ปุ่น อีกเส้นหนึ่งที่เป็นที่นิยมคือออกทางด้านมุกดาหารเข้าสะหวันนะเขตทะลุด่านลาวบาวออกสู่เมืองเว้ของเวียดนาม(อ่านได้จากตอนเที่ยวเวียดนามใต้) สิ่งที่รัฐบาลแห่งซาติไทย(พูดสำเนียงลาว) น่าคิดก็คือการทำการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ เช่น ลาว และเวียดนามที่มีการกำหนดเส้นทางท่องเทียวเส้นเหนือ ใต้อย่างเป็นรูปธรรม แต่บ้านเราต่างคนต่างทำมีทั้ง อบต. อบจ. และททท. จังหวัดซึ่งทำให้แข่งกันเอง สังเกตง่าย ๆ การทำตลาดน้ำ หรือ เมืองเก่า เช่นที่อัมพวา พอ อัมพวาบูม บางน้อยก็ทำตามทั้ง ๆ ที่จุดขายเหมือนกัน ตรงนี้ทำให้แย่งตลาดและนักท่องเที่ยวกันเอง
บ่นซะมากกลับไปเที่ยวลาวกันดีกว่าครับ ว่าแต่ว่าจะเริ่มยังไงดีง่ายสุดคือใช้ทางหลวงหมายเลข 2 เส้นมิตรภาพแล้วไปเลี้ยวซ้ายที่ จ.ขอนแก่นและใช้ทางหลวงหมายเลข 12 มุ่งหน้าสู่ จ.มุกดาหาร จริง ๆ ที่มุกดาหารเองมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่แต่ขออนุญาตข้ามไปก่อนแวะไปเที่ยวเมืองลาวที่สะหวันเขตกันก่อนดีกว่า แต่การขับรถไปลาวนั้นเจ้าของรถจะต้องมีหนังสืออนุญาตใช้รถระหว่างประเทศ หรือ พาสปอร์ตรถ(เหมือนคนต้องมีพาสปอร์ต) ซึ่งสามารถติดต่อขอรับได้ ณ กรมการขนส่งทางบก จตุจักร หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ เพียงนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ พร้อมหลักฐาน ได้แก่ สำเนาสมุดคู่มือจดทะเบียนรถและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน โดยเจ้าของรถจะได้รับพาสปอร์ตรถและสติกเกอร์แสดงประเทศ สำหรับนำไปติดไว้ที่รถก่อนนำรถเข้าประเทศลาวด้วย ส่วนเอกสารของผู้ขับรถหรือผู้เดินทางจะประกอบด้วย หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) จากกรมการกงสุล และหนังสือผ่านแดน ซึ่งสามารถติดต่อขอรับได้ ณ ที่ทำการ บริษัท ขนส่ง จำกัด ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดชายแดนไทย-ลาว โดยนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูปไปแสดงทำไม่ยากเลยครับเสียเงินค่าถ่ายรูป 100 บาทมีเจ้าหน้าที่(เอกชน) ให้บริการ
อ่อ! อย่าลืมอย่างหนึ่งนะครับ การที่จะนำรถข้ามประเทศได้รถต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของท่านไม่ใช่ไฟแน้นซ์ หรือถ้าเป็นไฟแน้นซ์ต้องให้ทางไฟแน้นซ์มอบกรรมสิทธิ์ให้กับท่านด้วย(ซึ่งยุ่งยากมาก) หากไม่สะดวกสมัยนี้มีเส้นทางขนส่งของ บขส. สะดวกมากในการเดินทาง เส้นทาง บขส.ไทย-ลาวประกอบด้วยกัน 4 เส้นทาง คือ 1. หนองคาย-นครหลวงเวียงจันทร์ เส้นทางที่ 2 อุดรธานี-นครเวียงจันทร์ เส้นทางที่ 3 มุกดาหาร-สะหวันนะเขต เส้นทางที่ 4 ขอนแก่น-นครหลวงเวียงจันทร์ (รายละเอียดสามารถค้นหาได้จาก //www.transport.co.th)
สะหวันนะเขตถือเป็นดินแดนศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว อยู่ตรงข้าม จ.มุกดาหารของไทยและชายแดนประเทศเวียดนามชื่อตามทางการคือเมืองขันธบุรี ประวัติศาสตร์เมืองสะหวันนั้นเริ่มตั้งแต่สมัยขอมเรืองอำนาจ โดยเมื่อก่อนมีชื่อว่าสุวันนะพูมประเทศ เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ในปี พ.ศ. 2120 ท้าวหลวงและนางสิมได้อพยพผู้คนจากภาคเหนือลงมาตั้งหมู่บ้านชื่อว่าหลวงโพนเมืองสิม ห่างจากตัวเมืองปัจจุบันประมาณ 18 กิโลเมตร เป็นสมัยนี้ก็เป็นถนนลาดยางเส้นทางเดียวกับไปพระธาตุอิงฮัง และเมื่อ พ.ศ. 2185 ท้าวสิมพะลีบุตรชายได้พาชาวบ้านหลายสิบครอบครัวแยกออกไปตั้งเมืองใหม่(ประมาณว่าเซ็งพ่อแม่ ไปตั้งเมืองใหม่ให้ตามใจเด็กแนว) โดยให้ชื่อว่า บ้านท่าแร่ เพราะอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุและทองคำ(จึงเห็นที่ตลาดสะหวันนะเขตมีทองคำขายจำนวนหลายร้าน น่าจะมาจากอารยธรรม อันนี้ผมคิดเองนะครับ อย่าถือเป็นประวัติศาสตร์) จนถึงปี พ.ศ. 2462 เมื่อลาวตกเป็นประเทศอาณานิคม ฝรั่งเศสได้ตั้งสำนักงานผู้ว่าราชการแผ่นดินประจำแขวงที่ท่าแร่ และตั้งชื่อใหม่เป็นสะหวันนะเขต
สถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมือง ตลาดสิงคโปร์ : ตั้งอยู่ถนนศรีสว่างวงศ์ ตรงข้ามสถานีวิทยุกระจายเสียงสะหวันนะเขตห่างจากด่านศุลกากรสะหวันนะเขตมาประมาณ 0.5 กิโลเมตร เปิดเวลา 05.00-18.00 น. ตลาดสะหวันนะเขตเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของแขวงเป็นแหล่งการค้าที่สำคัญของชาวบ้านที่นี่ เปิดมาประมาณ 6 ปีแล้ว สาเหตุที่ชาวบ้านเรียกว่าตลาดสิงคโปร์เพราะสิงคโปร์เคยให้เงินช่วยเหลือในการก่อสร้างแทนตลาดเก่าในตัวเมือง มีของนานาชนิดให้เลือกสรร ทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค และเครื่องประดับมากมาย ถ้าเป็นช่วงเทศกาลจะมีตลาดนัดขายของจากประเทศไทย จีน เวียดนาม และลาว นอกจากนี้ยังเป็นท่ารถต่างอำเภอของสะหวันนะเขตด้วย มีอาหารสด อาหารท้องถิ่น ขนมท้องถิ่น ผลไม้และอาหารสำเร็จรูป มีเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีน เครื่องมือก่อสร้าง อุปกรณ์แต่งรถ ยาเส้น เสื้อผ้า ทองรูปพรรณให้เลือกซื้อมากมาย
วัดชัยสมบูรณ์ : ตั่งอยู่ห่างจากด่านศุลกากรสะหวันนะเขตมาทางทิศเหนือประมาณ 500 เมตร วัดชัยสมบูรณ์หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดใหญ่ เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของแขวงนี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2439 จุดเด่นอยู่ที่ผนังด้านนอกพระอุโบสถที่เป็นภาพปูนปั้นนูนต่ำรูปอูฐและแรดนอเดียว พื้นปูด้วยกระเบื้องแบบฝรั่งเศส ประตูวัดหันหน้ามาทางทิศใต้ตามแบบสถาปัตยกรรมในพุทธศาสนานิกายเถรวาท ถัดมาทางซ้ายมือเป็นกุฎิวัด ที่ใช้เป็นอาคารเรียนของพระสงฆ์ และเป็นห้องเรียนสอนหนังสือให้กับเด้กชาวลาว ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบกึ่งฝรั่งเศสยุคอาณานิคมและกึ่งพระพุทธศาสนา มีหอกลองขนาดใหญ่ ที่ด้านบนสามารถชมทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงได้สวยงามและชายฝั่งจังหวัดมุกดาหาร
วัดเจ้า : ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดชัยสมบูรณ์ วัดเจ้า หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าศาลเจ้าสุตตโน เป็นศาลขนาดกลางตั้งอยู่ริมน้ำโขง มีรูปปั้นเจ้าสุตตโนรูปหล่อทองคำสูงเท่าคนปกติยืนอยู่ด้านหน้า สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่บวงสรวงบูชาเทพและภูตผีต่างๆ ชาวบ้านเชื่อว่าถ้าได้มาทำบุญ สักการะที่ศาลแห่งนี้แล้ว จะอยู่เย็นเป็นสุข ด้านบนเป็นศาลาบ้านไม้ สามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของริมโขงได้
อนุสาวรีย์ท่านกุรวงศ์ : ตั้งอยู่บนถนนสุดธนู ตรงข้ามศาลเจ้าจีน ห่างจากวัดชัยสมบูรณ์ประมาณ 500 เมตร ท่านกรุวงศ์เป็นวีรบุรุษในสมัยสงครามต่อต้านญี่ปุ่น และเป็นอดีตรัฐมนตรีกลาโหมคณะรัฐบาลฝ่ายขวา (อนุรักษ์นิยม) อนุสารีย์นี้สร้างขึ้นเพื่อร่วมจารึกประวัติศาสตร์วีรชนสมัยสงครามของประเทศลาว รุปปั้นหินปูนสีดำทะมึนขนาดเท่าคนจริง เชิดชูเกียรติท่ากรุวงศ์ สร้างขึ้นหลังจากที่ท่านถูกลอบสังหารโดยท่านอยู่ในชุดขุนนางชั้นสูง สวมเสื้อไม่มีปก ยืนอยู่กลางลานสวนดอกไม้ล้อมรั้วเหล็กขนาดเล็ก รูปหล่อนี้ถูกเก็บไว้เป็นเวลานาน เพราะเหตุผลทางการเมืองเพิ่งจะนำมาตั้งเมื่อ ปี พ.ศ. 2538
โบสถ์เซนต์เทเรซ่า : ตั้งอยู่ห่างจากอนุสาวรีย์กรุวงศ์ประมาณ 1 กิโลเมตร ตัวโบสถ์เซนต์เทเรซ่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามแบบศิลปะฝรั่งเศส ส่วนปลายสร้างเป็นตึกทรงกลมคล้ายกับหอคอยในประเทศฝรั่งเศส ขวามือตรงประตูทางเข้ามีซุ้มดอกไม้ จัดตกแต่งคล้ายอุโมงค์สวยงามมาก ด้านในมีรูปปั้นพระแม่มารีขนาดเล็กตั้งอยู่ ภายในปูพื้นด้วยกระเบื้องและกระจกแบบฝรั่งเศสดูอบอุ่นเงียบสงบ โบสถ์นี้นับเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับผู้คนในชุมชนเวียดนาทที่นับถือศาสนาคริสต์
ถนนสีเมือง : ในอดีตถนนสายนี้ถือเป็นถนนสายเศรษฐกิจ เพราะเป็นถนนที่มีร้านค้าตั้งอยู่ตลอดทั้งสาย ปัจจุบันร้านค้าเก่าแก่เหล่านั้นยังคงสภาพตัวตึกและอาคารดั้งเดิมสมัยยุคอาณานิคมไว้ แต่บางส่วนอาจถูกปรับเปลี่ยนเป็นโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหารที่ดูทันสมัยขึ้น ตลอดจนอาคารบ้านเรือนของชาวลาวที่สร้างขึ้นสลับกัน แต่ก็ดูกลมกลืนและเป็นรูปแบบเฉพาะที่หาดูได้เฉพาะถนนสายนี้เท่านั้น
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ : ตั้งอยู่ห่างจากวัดชัยสมบูรณ์ 500 เมตร เวลาเปิด 08.00- 12.00 น. และ 13.00-16.00 น. พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในสะหวันนะเขต แสดงร่องรอยการปรากฏของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และความสามรถของนักโบราณคดีชาวลาวที่ร่วมกับนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสขุดหาร่องรอยและหลักฐานไว้ได้มากมาย
จุดเด่นที่น่าชมคือ การค้นพบกระดูกและรอยเท้าไดโนเสาร์ 2 ประเภท 4 สายพันธุ์ คือ ประเภทกินเนื้อ 1 สายพันธุ์ ประเภทกินพืช 3 สายพันธุ์ โดยร่องรอยกระดูก ไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ที่สุดที่ถูกค้นพบที่สะหวันนะเขตนั้นเป็นส่วนหางของ ไดโนเสาร์พันธุ์ Saltasaurus ค้นพบกระดูกสมบูรณ์ครบทั้งหางและมีตู้กระดูก อีกกว่า 10 ตู้เก็บชิ้นส่วนกระดูกไดโนเสาร์ ซากก้อนหินทองคำ ทองแดง หินกล้า ที่ถูกค้นพบที่บ่อขุดหินแขวงสะหวันนะเขต ฟอสซิลหินรูปหอย ปลา และ เต่า โบราณ ที่น่าสนใจมาก
นอกจากนี้ยังมีชิ้นส่วรศีรษะและฟันของสัตว์ดึกดำบรรพ์ลักษณะคล้ายกิ้งก่ายักษ์เป็ฯสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่เกิดก่อนยุคสมัยของไดโนเสาร์จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ด้วย
พิพิธภัณฑ์แขวงสะหวันนะเขต : ตั้งอยู่ห่างจากด่านศุลกากรสะหวันนะเขตไปทางทิศใต้ 3 กิโลเมตร อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลประจำแขวง เวลาเปิด วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 08.00-12.00 น. และ 14.00-16.00 น. พิพิธภัณฑ์แขวงสะหวันนะเขตนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในตัวตึกสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส ภายในอาคารมีเรื่องราวและเหตุการณ์เกี่ยวกับสงครามปลดปล่อยและสงครามอินโดจีน บอกเล่าเรื่องราวอดีตแห่งการต่อสู้ของวีรชนลาวที่ร่วมกันต่อสู้ขับไล่ญี่ปุ่น ฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมีกระทะและโอ่งทองคำ ที่ถูกค้นพบในสมัยอดีตมาตั้งโชว์ในตู้กระจก รวมไปถึงเส้นทางโฮจิมินห์แสดงความเป็นพี่น้องกันระหว่างลาวกับเวียดนามที่ร่วมกันต่อสู้สงคราม ตลอดจนตัวอย่างอาวุธยุทธโธปกรณ์ให้ชมอีกด้วย ถัดมาภายนอกมีซากปืนโบราณใหญ่ 4 อัน และซากเครื่องบินรบลำเล็ก 1 ลำ หันหน้าออกสู่แม่น้ำโขงคล้ายกับป้อมปืนต่อสู้สมัยสงครามอินโดจีนและสงครามปลดปล่อยประเทศจากฝรั่งเศส
วัดรัตนรังษี : ตั้งอยู่ห่างจากพิพิธภัณฑ์แขวงสะหวันนะเขต 1 กิโลเมตร วัดรัตนรังสีสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2494 เพื่อเป็นโรงเรียนสอนพระธรรม บริเวณภายในวัดมีต้นไม้ขึ้นโดยรอบ บรรยากาศร่มรื่น ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ยาว 15 เมตร ประดิษฐานอยู่ในศาลาลองธรรม ถือเป็นพระปางที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธามาก จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ หน้าต่างกรุกระจกรอบพระอุโบสถและศาลาลองธรรมที่สวยงามและภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพุทธประวัติ
สถานที่ท่องเที่ยวนอกตัวเมือง พระธาตุอิงฮัง : ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองตามทางหลวงหมายเลข 13 ประมาณ 13 กิโลเมตร เลียบถนนไปบ้านโพนสิม พระธาตุอิงฮังเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนมในประเทศไทย ทุกปีชาวลาวจะมีงานนมัสการพระธาตุอิงฮังเป็นงานยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับที่ชาวไทยจัดงานประเพณีนมัสการพระธาตุพนม งานทั้งสองมีขบวนแห่เทียนและการฟ้อนรำถวายองค์พระธาตุเช่นเดียวกัน แต่งานพระธาตุอิงฮังจะจัดขึ้นช่วงเดือนธันวาคมส่วนพระธาตุพนมจะจัดขึ้นในช่วงวันเพ็ญเดือนสาม เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี องค์พระธาตุมีความสูง 25 เมตร ตัวประตูทางเข้าทั้ง 4 ด้าน มีภาพแกะสลักแนวกามาวิจิตของฮินดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ได้รับการบูรณะในสมัยอาณาจักรล้านช้างและสมัยฝรั่งเศสปกครอง ฐานเบื้องล่างองค์พระธาตุเจาะเป็นช่อง ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ในอดีตเปิดให้เข้าไปได้เฉพาะผู้ชาย แต่ปัจจุบันปิดไม่ให้เข้าไป รอบผนังกำแพงวัดด้านในสร้างเป็นศาลาเดินวนรอบวัด มีพระปางเงินจำนวน 160 องค์ เป็นฝีมือการหล่อของพุทธศาสนิกชน 2 ชาติ คือช่างคนไทยกับช่างคนลาว
ปราสาทเรือนหิน : ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ห่างจากสะหวันนะเขตมาทางทิศใต้ ไปตามทางหมายเลข 13 ประมาณ 90 กิโลเมตร ปราสาทเรือนหินเป็นซากปราสาทขอมเก่าแก่อายุกว่าพันปี อยู่ในเมืองไชยภูทอง
พระธาตุโพน : ตั้งอยู่เส้นทาวเดียวกับที่จะไปปราสาทเรือนหิน ห่างจากสะหวันนะเขตประมาณ 65 กิโลเมตร พระธาตุโพนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองไชยภูทอง องค์เจดีย์เป็นทรงกลมสีขาวขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายพระธาตุหมากโมที่หลวงพระบาง กล่าวกันว่าสร้างมา 500 ปีเศษแล้ว
ป่าสงวนภูช้างแห : รัฐบาลสวีเดนร่วมกับรัฐบาลลาวเป็นผู้จัดนำเที่ยวบริเวณนี้เพียงรายเดียว ด้วยรูปแบบผสมผสานระหว่างการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เดินผจญภัยศึกษาเส้นทางธรรมชาติ และศึกษาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อยที่อยู่ตลอดเส้นทาง สำหรับนักเดินทางที่ชอบการผจญภัยการมาที่ป่าสงวนภูช้างแห เรียกได้ว่าตอบสนองได้อย่างถึงรสถึงแก่น คุณอาจเริ่มต้นด้วยการเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ดูสัตว์ป่า กิจกรรมเดินเขา ขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ด้านบนที่มองเห็นแนวป่าและแนวเขาลาดยาวทั่วบริเวณ ปิดท้ายด้วยการใช้ชีวิตแบบโฮมสเตย์กับชาวบ้านชนกลุ่มน้อยท้องถิ่น เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่และเปลี่ยนวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีชาวลาวดั้งเดิม และประเพณีเฉพาะกลุ่มชนท้องถิ่น
เซโปน : ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของสะหวันนะเขต มาตามทางหลวงหมายเลข 9 ประมาณ 190 กิโลเมตร เซโปนเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบจากภัยภิบัติเมื่อครั้งเกิดสงครามทำลายลงมากที่สุด เพราะในอดีตเซโปนเป็นเมืองผ่านเส้นทางสายโฮจิมินห์อันเป็นเส้นทางรบที่มีชื่อเสียงมากในสงครามอินโดจีน เป็นเครือข่ายของถนนทุรกันดารที่ซับซ้อนเลียบชายแดนลาว เวียดนาม ตั้งต้นจากโพนสะหวันนะเขตลงมาถึงอัตตะปือและมีทางต่อไปยังกัมพูชาได้ จุดเด่น เซโปนยังคงร่องรอยของอดีตไว้อย่างชัดเจน ถนนรอบเมืองที่มีซากปรักหักพัง ซากอาวุธยุทโธปกรณ์ ทิ้งหลงเหลือไว้ได้เห็นได้ชินตา ในอดีตเส้นทางนี้พวกเวียดมินห์สร้างไว้เพื่อลำเลียงพลสู้กับทหารฝรั่งเศส พ.ศ. 2506 2517 ช่วงสงครามอินโดจีน กองทัพเวียดนามเหนือใช้เป็นเส้นทางลำเลียงพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ไปยังเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาพยายามทำลายเส้นทางนี้โดยการทิ้งระเบิดอย่างหนัก จนทิ้งร่องรอยแห่งสงคราม และความพังพินาศปรากฏอยู่ชัดเจน ปัจจุบันยังคงมีกับระเบิดและซากอาวุธยุทโธปกรณ์ เป็นเครื่องยืนยันเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นอย่างโหดเหี้ยมตลอดเส้นทางให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาอยู่เป็นจำนวนมาก
ภาษา สะหวันนะเขตจะใช้ภาษาถิ่นที่เรียกว่า คำม่วน ซึ่งสำเนียงภาษาถิ่นของลาวเองมีอยู่ด้วยกัน 6 สำเนียง คือ ลาวเวียงจันทร์ ลาวเหนือ ลาวตะวันออกเฉียงเหนือ ลาวกลางหรือคำม่วน ลาวใต้ และลาวตะวันตก(สำเนียงร้อยเอ็ดบ้านเฮา) ภาษาลาวเป็นภาษาที่น่ารักและซื่อ ๆ เรามาดูตัวอย่างภาษาลาวที่น่ารัก ๆ มีให้เห็นทางอินเตอร์เน็ตและส่งกันทางอีเมลอย่างแพร่หลาย
ตัวอย่าง : ท : Superman ล : บัก อึดถลาลม ท : Face Off ล : หน้าข้อยอยู่ปู๊น หน้าเปิ้นอยู่นี่ ท : Speed ล : เบรกบ่อยู่ ท : สองสิงห์ชิง บัลลังก์ ล : สอง สิงห์ชิงตั่งนั่ง ท : รักจริงๆ ให้ดิ้นตาย ล : ฮักคักคัก ชักแงก แงก ท : โลกทั้งใบให้นายคนเดียว ล : โลกโม้ดม้วยให้โต๋ผู้ เดียว ท : หนูน้อย พเนจร ล :**น้อย ตุหรั่ดตุเหร่ ท. ไททานิค ล: ชู้รักเรือ ล่ม ท : ห้อง คลอด ล : ห้องประสูติ ท : นาง ผดุง ครรภ์ ล : นาง ประสูติ ท : ห้องไอซียู ล : ห้อง มรสุม ท : ปั๊มป์เชล ล : ปั๊ม ป์หอย ท : ไฟ แดง ล : ไฟ อำนาจ ท : ไฟเขียว ล : ไฟ อิสระ ท : ถ่ายเอกสาร / ถ่ายสำเนา ล : อัด เอกสาร ท : ร้านถ่ายรูป ล : ร้านแหกตา (- -'') ท : ผ้าเย็น ล : ผ้า อนามัย * เหอๆๆ ท : Johny Walker ล : บักจอน ย่าง * เฮ้ย ท. ห้องผ่าตัด ล. ห้องปาด ท.จู ราสสิคปา ร์ค ล.กะปอมพยศ ท.เชือด เชือด นิ่ม นิ่ม ล.ปาด ปาด เนิบ เนิบ ท.หลอด ฟลูออเรสเซนต์ ล. ข้าวหลาม แจ้ง ท. รถไฟ ล.ห้องแถว ไหล
ศึกษาภาษาลาวได้ที่เว็บของ ม.ราชภัฎอุบลราชธานี //www.ubru.ac.th/ccu/lao_index.php
//www.seasite.niu.edu/lao/LaoLanguage/Lao_language_fp.htm
ที่พัก โรงแรม รีสอร์ท (ศึกษาได้จากเว็บไซด์ด้านล่าง) //www.southlaostour.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=5368764&Ntype=15
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือ ม่วนซื่นลาว หนึ่งในแรงบันดาลใจในการที่อยากจะไปท่องเที่ยวลาว สมเด็จพระเทพฯ ทรงเป็นผู้เจริญสัมพันธไมตรีกับ ต่างประเทศมากมายส่งผลให้ประเทศไทย มีความสัมพันธ์อันแนบแน่นกับประเทศต่าง ๆ
การขับรถไปลาวนั้นเจ้าของรถจะต้องมีหนังสืออนุญาตใช้รถระหว่างประเทศ หรือ พาสปอร์ตรถ(เหมือนคนต้องมีพาสปอร์ต)เล่มสีม่วง ซึ่งสามารถติดต่อ ขอรับได้ ณ กรมการขนส่งทางบก ตรงข้ามสวนจตุจักร หรือ ที่สำนักงานขนส่ง ทั่วประเทศ
ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ หรือใบขับขี่สากลเอกสารที่ต้องใช้ คือ สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน ใบขับขี่ รถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพและสำเนา รูปถ่าย 2 รูป ค่าธรรมเนียม 505 บาท (ปัจจุบัน มีใบขับขี่สากลในรูปแบบบัตรพลาสติก แล้ว)
หลังจากที่ทำพาสปอร์ตรถเรียบร้อยแล้วจะได้สติ๊กเกอร์ตัว T แผ่นสีขาวติด กระจกหน้าและหลัง จริง ๆ หากเดินทางไปเวียดนาม จีนจะต้องใช้แผ่นป้าย ทะเบียนที่เป็นภาษาอังกฤษแต่รู้สึกว่าลาวจะอนุโลม
ตารางเดินรถ บขส. ไทย สปป.ลาว วันละ 12 เที่ยว ราคา 45 บาท จริง ๆ แล้วไม่ไกลเลย แต่เสียเวลาทำใบผ่านแดนและกระบวนการ ตม. เสียมากกว่า
เส้นทาง บขส.ไทย-ลาวประกอบด้วยกัน 4 เส้นทาง คือ 1. หนองคาย- นครหลวงเวียงจันทร์ เส้นทางที่ 2 อุดรธานี-นครเวียงจันทร์ เส้นทางที่ 3 มุกดาหาร-สะหวันนะเขต เส้นทางที่ 4 ขอนแก่น-นครหลวงเวียงจันทร์ (ปัจจุบันมีรถ ระหว่างประเทศ ไทย - สปป.ลาว มากกว่านี้ นะครับ ติดตามข้อมูล จากเว็บไซด์ บขส.)
(รายละเอียดสามารถค้นหาได้จาก //www.transport.co.th)
ด่าน ตม.มุกดาหาร ศตม.ภ.ตะวันออกเฉียงเหนือ นะครับ (คนเข้าออก เยอะเลยครับ)
อัตราค่าผ่านสะพานมิตรภาพไทย สปป.ลาว (ไม่เกิน 7 ที่นั่ง) 50.-บาท หรือ 13,000 กีบ รถบรรทุก 4 ล้อ 50.- บาทหรือ 13,000 กีบ รถโดยสาร ขนาดเล็ก(เกิน 7) ที่นั่งแต่ไม่เกิน 12 ที่นั่ง ) 100.-บาทหรือ 27,000 กีบ รถโดยสารขนาดกลาง(เกิน 12 ที่นั่งแต่ไม่เกิน 24 ที่นั่ง)150.-บาท หรือ 40,000 กีบ รถโดยสารขนาดใหญ่(เกิน24ที่นั่งขึ้นไป) 200.-บาท หรือ 54,000 กีบ รถบรรทุก 6 ล้อ250.-บาทหรือ 67,000 กีบ รถบรรทุก 10 ล้อ 350.-บาท หรือ 94,000 กีบ รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป 500.-บาท หรือ 135,000 กีบ
หนังสือผ่านแดน ซึ่งสามารถติดต่อขอรับได้ ณ ที่ทำการ บริษัท ขนส่ง จำกัด ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดชายแดนไทย-ลาว ตรงข้าม บขส.มุกดาหาร โดยนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูปไป แสดง
กรอกใบ Immigration ขาออกทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว ตามปกติเช่นเดียว กับการออกที่ด่านสุวรรณภูมิ นอกจากท่านมีใบผ่านแดนไม่ต้องกรอกส่งใบ ให้เจ้าหน้าที่ได้เลย(นี่เป็นข้อดี และสะดวกของใบผ่านแดน)
จะนำรถเข้าลาวต้องซื้อประกันภัยด้วย ไม่ต้องสงสัยที่มีอยู่บริษัทเดียวครับ เพราะบริษัทดังกล่าวเป็นการถือหุ้นร่วมกันระหว่างกลุ่มธุรกิจของมาเลเซีย และรัฐบาลลาวในอัตราส่วน 80/20
คาสิโนเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีสำหรับเมืองที่เปิดการ ท่องเที่ยวใหม่ ๆ เช่น ที่สะหวันนะเขต หรือแม้แต่ที่เวียดนามและเมินลา ที่รัฐบาลจีนเช่าจากรัฐบาลลาว ประเทศเรายังถกเถียงกันอยู่เรื่องคาสิโน เพราะเป็นเมืองพุทธ ชาวไทยจึงแห่ออกไปเล่นตามรอบชายแดนประเทศ เพื่อนบ้าน จริง ๆ ศึกษาเรื่องการบริหารจัดการคาสิโนให้ลึกซึ้งเหมือน การบริหารโรงแรม ที่มาเก๊าประเทศสงบสุข เงียบ ทั้ง ๆที่มีคาสิโนทั้งเมือง
สะพานมิตรภาพไทย ลาวเห็นแม่น้ำโขงที่ยิ่งใหญ่ แล้วนึกถึงต้นกำเนินจาก เทือกเขาหิมาลัยไหลผ่านมณฑลชิงไห่ของประเทศจีนบริเวณที่ราบสูงธิเบต ไหลผ่านทะเลจีนใต้ ลาว พม่า ไทย ไปถึงกัมพูชา และเวียดนามมีความยาว ทั้งสิ้น 4,880 กม.
ดาวกาแฟ จริง ๆ ชื่อเต็มเค้าต้องเป็นดาวเรืองกาแฟ ๆ ชื่อดังของประเทศ สปป.ลาว เช่นเดียวกับกาแฟเขาช่องของไทย ฝรั่งเศสแนะนำให้ลาวปลูก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1900 (โดยการสนับสนุนของรัฐฯ) แต่นี่ไม่ใช่เล็ก ๆ นะครับ Dao Coffee นี่ส่งขายทั้งยุโรป และทั่วโลกปี ๆ หนึ่งผลิตกาแฟเป็น 5-6 พันตัน
ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จะพบวงเวียนและมีรูปปั้นไดโนเสาร์ เนื่อง จากสะหวันนะเขตเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์เป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในสะหวันนะเขต
โบสถ์เซนต์เทเรซ่า ตั้งอยู่ห่างภายในตัวเมืองสะหวันนะเขต ตัวโบสถ์เซนต์ เทเรซ่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามแบบศิลปะฝรั่งเศส ส่วนปลายสร้างเป็นตึก ทรงกลมคล้ายกับหอคอยไอเฟล หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส
ไม่ต้องแปลกใจที่เห็นรูปท่านโฮจิมินด้านหน้าพระธาตุพระธาตุอิงฮังเพราะ ระหว่าง พ.ศ. 2506 2517 ช่วงสงครามอินโดจีน กองทัพเวียดนามเหนือ ใช้เป็นเส้นทางลำเลียงพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ไปยังเวียดนามใต้ ลาว และเวียดนามที่ด้อยกว่าทั้งกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ จึงได้ร่วมกันตั้ง เป็นกองกำลังผสม ลาว-เวียดนาม เข้าโจมตีฝรั่งเศสแบบกองโจร
ค่าเข้าชมพระธาตุอิงฮังคนต่างซาติ 5,000 กีบประมาณ 20 บาท (1 บาท/1,000 กีบ) แต่สำหรับชาวลาวก็เสียราคาถูกกว่าคือ 2,000 กีบ
พระธาตุอิงฮัง มีความสูง 25 เมตร ตัวประตูทางเข้ามีทั้ง 4 ด้าน มีภาพ แกะสลักแนวกามาวิจิตของฮินดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายในเป็นที่ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ได้รับการบูรณะในสมัยอาณาจักรล้านช้าง และสมัยฝรั่งเศสปกครอง พระธาตุอิงฮังเป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนม ในประเทศไทย
กำแพงวัดด้านในสร้างเป็นศาลาเดินวนรอบวัด มีพระปางเงินจำนวน 160 องค์ เป็นฝีมือการหล่อของช่างไทยและลาว(ผมเดินดูใต้ฐานพระพุทธรูป มีภาษาลาวนึกสงสัยอยู่นานว่าแปลว่าอะไร เดินไปมาจึงรู้ว่าเป็นรายชื่อ ผู้บริจาค)
เส้นทางอิโดจีนเป็นเส้นทางขี่จักรยานที่ชื่นชอบฝรั่ง หรือแม้แต่ชมรมจักรยาน ต่าง ๆ ในประเทศไทยก็ใช้เส้นทางไทย ลาวกันเหมือนกัน ฝรั่งมีความกล้า และความเชื่อมั่นในตัวเองและข้อมูลที่ศึกษาจึงกล้าที่จะไปไหนมาไหน แม้แต่เดินทาง...ข้ามทวีปด้วยตัวคนเดียว
อนุสรณ์สถานของท่านประธานประเทศคนแรก ไกรสร พรหมวิหาร ซึ่งเป็นผู้นำของ สปป.ลาว ในการประกาศอิสระภาพจากการ ฝรั่งเศส และ สหรัฐอเมริกา และเป็นประธานประเทศคนแรกที่ยิ่งใหญ่ของประเทศลาว นำพาประเทศไปสู่ความเจริญ ท่านเกิดที่สะหวันนะเขตจึงมีอนุสาวรีย์ (เป็นนายแพทย์ นะครับ)
ศูนย์ราชการสะหวันนะเขตคล้าย ๆ กับศูนย์ราชการที่เมืองสุพรรณบุรีบ้านเรา การรวมศูนย์ราชการไว้ในพื้นที่เดียวกันข้อดีคือการทำงานแบบบูรณาการ และสามารถแยกศูนย์จากย่านใจกลางเมืองทำให้การจราจรไม่ติดขัดแต่ ข้อเสียคือ หากเมื่อไหร่เจอปัญหาด้านการก่อการร้ายจะทำให้ระบบราชการ เป็นอัมพาต ทันที!!!
สนามกีฬากลางสะหวันนะเขตซึ่งลาวจะเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 ในปี 2009 เริ่มแข่งขันตั้งแต่วันที่ 9-18 ธันวาคม 2552 (ค.ศ.2009) กำหนดให้จัดการแข่งขันกีฬาใน 3 แขวง คือ นครหลวงเวียงจันทน์ แขวง สะหวันนะเขต และแขวงหลวงพระบาง
ตลาดสิงคโปร์ หรือตลาดอยู่ข้าง ๆ สถานีรถสะหวันนะเขตเป็นตลาดใหญ่ที่สุด ของแขวงเป็นแหล่งการค้าที่สำคัญของชาวบ้านที่นี่ เปิดมาประมาณ 8 ปีแล้ว สาเหตุที่ชาวบ้านเรียกว่าตลาดสิงคโปร์เพราะสิงคโปร์เคยให้เงินช่วยเหลือ ในการก่อสร้างแทนตลาดเก่าในตัวเมือง
สินค้าส่วนใหญ่เป็นการผสมผสานระหว่างสินค้าถิ่นและสินค้าประเภท Copy ใครที่ชอบซื้อโทรศัพท์มือถือราคาถูกไม่ผิดหวังแน่ แต่พึงสังวรไว้นะครับว่า ของดีไม่มีถูก และของถูกเกินไปไม่มีดี(นี่เป็นสัจธรรม)
ที่ตลาดจะมีรถโดยสารท้องถิ่นซึ่งเป็นสายย่อยที่ให้บริการกับชาวบ้าน เพื่อเดินทางเข้าภายในท้องถิ่น ซึ่งถ้าเป็นสถานีรถที่ บขส.ของไทยไปจอด จะเป็นรถโดยสารเส้นทางหลักที่เดินทางไปต่างแขวง(จังหวัด) และข้ามประเทศ เช่น ไป เมือง เว้ ของเวียดนาม
Create Date : 15 เมษายน 2552 |
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2558 17:29:34 น. |
|
14 comments
|
Counter : 16955 Pageviews. |
|
|
|
โดย: กุ วรวงศ์ IP: 96.255.16.241 วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:20:13:06 น. |
|
|
|
โดย: In Trend IP: 96.255.16.241 วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:20:57:52 น. |
|
|
|
โดย: chon IP: 66.121.73.254 วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:1:47:26 น. |
|
|
|
โดย: Pee IP: 96.255.16.241 วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:20:11:18 น. |
|
|
|
โดย: People_Trip IP: 58.8.195.164 วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:9:46:26 น. |
|
|
|
โดย: อำพรอยู่เย็น IP: 192.168.0.118, 58.8.86.191 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:42:24 น. |
|
|
|
โดย: ก่อเกื้อแก้วสุวรรณ IP: 192.168.0.118, 58.8.86.191 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:49:35 น. |
|
|
|
โดย: แฟนหล่อกว่าแบรดฯ IP: 222.123.209.219 วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:0:22:14 น. |
|
|
|
โดย: Nutt (People_Trip ) วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:13:36:33 น. |
|
|
|
โดย: นาย IP: 10.0.1.30, 118.174.90.105 วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:10:50:20 น. |
|
|
|
โดย: แอม IP: 119.46.151.21 วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:20:19:50 น. |
|
|
|
โดย: Nutt (People_Trip ) วันที่: 26 มิถุนายน 2556 เวลา:2:45:38 น. |
|
|
|
โดย: Nutt (People_Trip ) วันที่: 26 มิถุนายน 2556 เวลา:2:51:11 น. |
|
|
|
โดย: ปีศาจเว็บ วันที่: 27 กรกฎาคม 2558 เวลา:22:57:12 น. |
|
|
|
| |
|
|