กว่างโจว กวางโจว หรือถ้าเอาแบบไทย ๆ ก็ต้องกวางเจา (Guangzhou) แต่ที่ถูกถ้าอยู่ที่โน่นต้องเรียก กว่างโจว หากเรียกกวางโจว ยังพอฟังออก แต่ถ้าออกเสียงกวางเจาแบบไทย ๆ นี่ไปเลยครับ กลับบ้านเก่าเรียบร้อยโรงเรียนจีน(จีนฟังบ่ออก) ถ้าใครเกิดสมัยสัก 30 ปีก่อน(แสดงว่าตัวเองแก่แล้วเพราะเกิดยุคนั้น) คงต้องรู้จักกายกรรมกวางเจา เคยมาเปิดการแสดงที่ประเทศไทยบ่อย ๆ ชื่อนั่นแหละคือเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง(คนไทยรู้จักในนามคะน้ากวางตุ้ง ไว้ใส่กับหมี่เกี๊ยว อร่อยกันไป) กวางโจว เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางภาคใต้ของประเทศจีน หากเปรียบกับประเทศไทยต้องเป็นสุราษฎร์ธานีเพราะสุราษฎร์ฯ เป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้เหมือนกวางโจว ซึ่งมีเขตเศรษฐกิจพิเศษถึง 3 แห่ง คือ เซินเจิ้น(ชายแดนฮ่องกง) จูไห่(ชายแดนมาเก๊า) และ ซัวเถา ถ้าใครที่เป็นลูกหลานจีนแต้จิ๋ว บรรพบุรุษจะอพยบมาจากที่นี่ ยุคที่จีนลำบากยากแค้นซัวเถานี้กันดารสุด ๆ มีชาวจีน 2 ล้านกว่าคนที่อพยบทิ้งบ้านเมืองหนีภัยสงครามในสมัยนั้น(น่าจะเป็นกับพวกมองโก และภายหลังมาเจอญี่ปุ่น ก่อนสงครามโลกครั้งที่2 เข้าไปอีก) จึงอยู่ไม่ไหว ประชาชนส่วนใหญ่จึงหนีความอดอยากไปตามประเทศต่าง ๆ เจ้าสัวบ้านเราหลายคนก็มาจากที่นี่ นอกจากนั้นสำเนียงแท้ ๆ ที่เป็นต้นกำเนิดของสำเนียงภาษากวางตุ้งที่ใช้อยู่ย่าน ฮ่องกง มาเก๊า เซินเจิ้น กวางซี ก็มาจากที่นี่
เมืองกวางโจวตั้งอยู่ปากแม่น้ำจูเจียง และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของจีน มีความประวัติความเป็นมายาวนานพอ ๆ กับประวัติพระเยซูหรือพระพุทธเจ้าเลย คือ ประมาณ 2,800 ปี เคยเป็นเส้นทางสายไหมทางทะเล และเป็นเมืองท่าที่สำคัญในอดีต พูดถึงเส้นทางสายไหมทางทะเลหากเราเปิดแผนที่โลกการจะเชื่อมกวางเจากับกรุงลังกาในอดีตหรือศรีลังกา รวมถึงอินเดียและตะวันออกกลาง(สมัยก่อนต้องเรียกเปอร์เซีย ก็คืออิหร่านในปัจจุบัน) โดยเดินเรือผ่านทะเลจีนใต้เข้าช่องแคมมะละกา(ช่องแคบมาเลเซีย อินโดนีเซีย)ออกสู่ทะเลอันดามัน(ทะเลฝั่งภูเก็ต ลังกาวี)ไปสู่มหาสมุทรอินเดีย คราวนี้ยาวเลยจะเลี้ยวขวาเข้าศรีลังกา อินเดีย หรือจะเลี้ยวเข้าพม่า (อ่าวเบงกอน) หรือจะออกไปมหาสมุทรแอตแลนติกสามารถไปอเมริกา หรืออเมริกาใต้ได้เลย หากใครเคยดูภาพยนต์เรื่องมาโคโปโลตอนมาจีนก็มาทางเส้นทางสายไหมทางทะเลนี่แหละ โอ้โฮพูดยังกับเก่งเรื่องการเดินเรื่องจริง ๆ แล้วเปล่าหรอกครับ สมัยชีวิตตกต่ำเคยไปรับจ้างเป็นลูกเรือรับนักท่องเที่ยวจึงพอมีภูมิอยู่บ้าง
นอกจากนั้นปัจจุบันกวางเจายังเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญเมืองหนึ่งของจีนเป็นที่จัดงาน กวางเจาเทรดแฟร์ หรือ กว่างโจว แฟร์ทุกปี ๆ นี้ Canton Fair 2009 ครั้งที่ 105 จัดระหว่างเดือน เม.ย. - พ.ค.นี้ ที่ใช้ Canton Fair ไม่ต้องงงครับ Canton เป็นชื่อฝรั่งของมณฑลกวางตุ้ง เช่นเดียวกับ แจ๊กกี้ ชาง ท่านที่มองหาโอกาสทางธุรกิจสามารถดูรายละเอียดที่ //www.cantonfair.org.cn เพราะเบื่อที่จะทำธุรกิจในเมืองไทยเพราะทำเนียบรัฐบาลเค้าจัดไว้ให้เป็นที่ชุมนุมของประชาชนในการเรียกร้องผลประโยชน์ต่าง ๆ โดยเอาประชาธิปไตยขึ้นเพื่อเรียกแขก คนไปชุมนุมบ้างครั้งยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยเป็นยังไง คือใครจะเรียกร้องอะไรให้เสียงดังต้องปิดทำเนียบ ศาลให้ออกก็ไม่ออกเพราะอัตตาสูงเท่าตึกไบหยก บ้านเมืองก็เลยเจริญเอา ๆ นี่ขนาด GDP ติดลบแล้วก็ยังไม่เลิกลาฝรั่งมังค่าและเพื่อนบ้านนั่ง นอน รวมถึงบางครั้งก็ตีลังกาหัวเราะร่านักท่องเที่ยวไปเข้าประเทศรอบบ้านกันหมด ไปกวางโจวดีกว่าเสถียรภาพรัฐบาลมั่นคงดั่งหินผา มีพรรคเดียวคือพรรคคอมมิวนิตส์จีน ตั้งแต่ทศวรรษ1980 พรรคพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้กำหนดให้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงดำรงตำแหน่งในรัฐบาลครั้งละ 5 ปีและอยู่ได้ไม่เกิน 2 สมัย บ้านเรา 3 ปีใช้นายก 5 คนถ้านับที่นั่งรักษาการด้วยทั้ง นายกรักษาการ(นายชวรัตน์) และประธาน คมช.(พล.อ.สนธิ) ด้วยก็ล่อไป 7 คนหารเฉลี่ยตกปีละ 3.5 คน กลับมาสู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนปัจจุบันอยู่รุ่นที่ 4 (ไม่ใช่พระสมเด็จนะคร๊าฟ) รุ่นที่ 1 ท่านประธาน เหมา เจ๋อตุง การปฎิวัติจีนเกิดขึ้นสมัยนี้รวมถึงเปลี่ยนจากระบบกษัตริย์มาเป็นระบอบคอมมิวนิสต์เป็นผู้กล่าวว่า อำนาจรัฐ ต้องมาจากปากกระบอกปืน รุ่นที่ 2 คนนี้ดังมากกับกรณีปราบนักศึกษาที่เรียกร้องประชาธิปไตยที่จตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี 2532 คือ เติ้ง เสี่ยวผิง เรียนจบจากฝรั่งเศสสถานที่เดียวกับประธานาธิบดีโฮจิมินของเวียดนามเป็นหนึ่งในมือขวาท่านประธานเหมาต่อมาขัดแย้งกันถูกย้ายไปเป็นกรรมกร(ทำไมเล่นกันแรงจัง จากผู้บริหารพรรค) พอถึงยุคนายกรัฐมนตรีโจวอันไหลขึ้นครองอำนาจรู้ว่าตนเป็นโรคมะเร็ง โจวอันไหลได้เรียกเติ้ง เสี่ยวผิงมาเพื่อสืบทอดตำแหน่งเป็นผู้กล่าวอมตะวาจาว่า จะเป็นแมวสีขาวหรือแมวสีดำไม่สำคัญ ขอให้จับหนูได้เป็นพอ รุ่นที่ 3 คือ เจียง เจ๋อหมินผู้ค้นคิดทฤษฎี 3 ตัวแทน(Three Represents Theory) ทฤษฎีสามตัวแทนมีเนื้อหาว่า พรรคต้องเป็นตัวแทนของ ความต้องการความก้าวหน้าใน 3 ด้าน คือ ความก้าวหน้าของการผลิต ความก้าวหน้าทาง วัฒนธรรม และ ความก้าวหน้าของผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ และรุ่นปัจจุบันคือรุ่น 4 คือ หู จิ่นเทา คนนี้จบวิศวะทำงานให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนอยู่หลายปีและเคยเป็นเลขาธิการพรรคประจำเขตปกครองตนเองทิเบตส่วนตัวเก็งที่คาดว่าจะนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีและเป็นรุ่นที่ 5 มีเข้าตา 2 คน นาย หลี่ เค้อเชียง (Li Keqiang) อายุ 52 ปี เลขาธิการพรรคประจำมณฑลเหลียวหนิง มือขวาประธานาธิบดี หู จิ่น เทา คนต่อมาคือนาย สี จินปิง (Xi Jinping) อายุ 54 ปี เลขาธิการพรรคประจำเขตปกครองเซี่ยงไฮ้หรือช่างไห่(เป็นประเทศไทยก็ต้องผู้ว่าเชียงใหม่,หาดใหญ,พัทยาเทือกนั้น)
การเดินทางไปกวางโจวจากไทยไปได้หลายวิธีเอาวิธีที่คนทั่วไปนิยมนะครับ ไม่เอาประเภทขี่จักรยาน นั่งเรือเดินทะลข้ามช่องแคบมะละกา นั่งรถไฟไปจากฮานอย มันจะพิสดารเกินไป อ่ออย่าลืมนะครับไปจีนต้องมีวีซ่านะครับสามารถไปทำที่ด่าน ตม.ได้แต่รอนาน(เสียเวลา ขอไปจากเมืองไทยดีกว่าไม่ยาก) ผมมีวิธีที่ง่ายที่สุดคือซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านบริษัททัวร์แล้วแถมช่วยฝากเค้าขอวีซ่า(ฟรี) คือเราเสียแต่ค่าวีซ่าไม่ต้องเสียค่าบริการเพราะเค้าต้องไปทุกวันอยู่แล้ว
- ง่ายสุดก็นั่งเครื่องตรงลงกวางเจา(สนามบินไป่ยเหยินกวางโจว สมัยนี้แอร์เอเซียก็บินถึง ค่าเครื่อง 5,300 กว่าบาทพอหาจองได้
- นั่งเครื่องลงที่มาเก๊า สามารถใช้บริการรถเมล์สาย AP1,3,3A ไปลงที่ด่านกงเป่ยเข้าจีนทางจู่ไห่ หรือจะใช้บริการ Express Link Service อันนี้ไม่ต้องผ่าน ตม.มาเก๊ารถจะพาไปด่าน ตม.จีนเลยราคาประมาณ 75 ปาตาก้า(MOP) หรือจะนั่ง Taxi ไปก็ประมาณ 300-400 บาท
- มาจากทางฮ่องกงเดินทางสะดวกมากมาโดยรถทัวร์ หรือรถไฟ อีกเส้นทางที่นิยมและรวดเร็วสูงไปรถไฟความเร็วสูง CRH (China Railways High-speed/เหอเสห่าว) ขึ้นที่สถานีรถไฟหลัวหู เที่ยวแรก 6.50 น. เที่ยวสุดท้าย 22.50 น. สถานีรถไฟกวางเจาตะวันออก 75 หยวน(Guangzhou East) สถานีรถไฟกวางเจา สถานีหลักของกวางโจว 80 หยวน(Guangzhou West หรือ Guangzhou Railway)
การขอวีซ่าจีน
1. Passport ที่มีหน้าเหลืออยู่ และมีอายุก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 6 เดือน
2 รูปถ่าย 1 นิ้ว
3. ใบ Application สามารถ Download จากเวบไซด์ //www.chinaembassy.or.th/chn/lsfw/visa.pdf
อัตราค่าธรรมเนียมขอวีซ่า
Single Entry : สามารถเดินทางเข้าได้ 1 ครั้งระยะเวลา 30 วัน โดยจะต้องเดินทางเข้าประเทศจีนภายใน 3 เดือนนับจากวันที่ทำวีซ่า
บริการเสร็จใน 1 วัน ค่าธรรมเนียม 2,200 บาท
บริการเสร็จใน 2-3 วัน ค่าธรรมเนียม = 1,800 บาท
บริการเสร็จใน4 วัน ค่าธรรมเนียม = 1,000 บาท
เมืองกว่างโจวตั้งอยู่ปากแม่น้ำจูเจียง และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของจีน เป็นเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้งซึ่งเป็นมณฑลซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 3 แห่งของจีน คือ เซินเจิ้น จูไห่ และ ซัวเถา นอกจากนั้นยังใกล้กับเขตปกครองพิเศษมาเก๊าและฮ่องกง
วีซ่าจีนขอไม่ยาก สามารถฝากบริษัททัวร์ขอได้ ยิ่งซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านบริษัททัวร์ด้วยแล้วสามารถขอความอนุเคราะห์ได้หรือเสียค่าธรรมเนียมนิหน่อยสำหรับผู้ไม่มีเวลา แต่ถ้าท่านมีเวลาสามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.chinaembassy.or.th
รถไฟใต้ดินกว่างโจว(Guangzhou Metro) มี 4 สาย คือ สายสีเหลืองวิ่ง Xilang - Guangzhou East Railway Station สีน้ำเงินวิ่ง Sanyuanli - Wanshengwei สีส้มวิ่ง Guangzhou East Railway Station/Tianhe Coach Terminal - Panyu Square และสีเขียววิ่ง Wanshengwei Jinzhou
กังฟูฟาตฟูต(Kung Fu Fast Food) อาหารยอดฮิตของชาวจีนทั้งที่กวางโจว และทั่วแผ่นดินใหญ่ ดังพอ ๆ กับ KFC ของอเมริกาเลยก็ว่าได้ราคาก็ไม่แพงชุดละไม่เกิน 100 บาท อร่อยไม่เบาเหมือนกัน
CITIC Plaza ตึกสูงที่สุดในกวางโจวและเป็นอันดับ 7 ของโลก(รองจากไทเป 101ไต้หวัน,ปิโตรนาส 2 ตึกที่มาเลเซีย,เซียร์ทาวเวอร์ ที่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา,จินเหมาทาวเวอร์ ที่เซี่ยงไฮ้ และ Two International Finance Center ที่ฮ่องกง) ตึก CITIC Plazaสูง 391 เมตร สร้างเมื่อ ค.ศ. 1997
Yuexiu Park เป็นที่ตั้งของสถานที่ถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยวไทยคือ หินแกะสลักแพะ 5 ตัว(Sculpture of the Five Rams)ซึ่งหินแกะสลักนี้มีชื่อเสียงมากและเป็นสัญลักษณ์ของกวางโจว สวนสาธารณะ Yuexiu Park เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ 860,000 ตรม.
สวน ดร.ซุน ยัด เซ็น (Sun Yat Sen Memorial Park Guangzhou) เป็นนักปฎิวัติของจีนนับถือคริสต์ เป็นบุคคลสำคัญที่โค่นล้มราชวงศ์ของจีน(ราชวงศ์ชิง) และเป็นผู้ก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋ง และเป็นประธานาธิบดีคนแรกของจีนด้วย หลังจากนั้นนายพลเจียง ไคเชกเป็นผู้นำพรรคก๊กมินตั๋งแทน ต่อมาการทำสงครามกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ (ประธานเหมา) รัฐบาลเจียง ไคเชกเป็นฝ่ายแพ้ต้องอพยพไปตั้งรัฐบาลจีนคณะชาติที่ไต้หวันในปี พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949)
แม่น้ำจูเจียง(แม่น้ำไข่มุก) ถือเป็นสายเลือดหลักของกว่างโจวเหมือเจ้าพระยาบ้านเรามีพื้นที่กว่า 42,000 ตร.กม.เป็นเขตสามเหลียมเศรษฐกิจจูเจียงที่เกิดจากการไหลเซาะของแม่น้ำ อันประกอบด้วยกว่างโจว เซินเจิ้น ฝอซัน จูไห่ ตงก่วน จงซัน และฮุ่ยโจว รวมประชากร 30 ล้านกว่าคน(เกือบครึ่งของประเทศไทย)
ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติกวางเจาที่ Chinese Export Commodities Fair Complex (Pazhou Complex)กวางเจาแฟร์ ครั้งที่ 105 ปีนี้จัดเดือน เม.ย.- พ.ค. ท่านที่ต้องการลงทุนศึกษาตลาด หรือไปดูงานสามารถดูรายละเอียดได้ที่