นิราศวังน้ำเขียว ตอนที่ ๓ (บุไทรคันทรีวิว)

จากปากช่องมุ่งหน้าวังน้ำเขียว
ทางเลาะเลี้ยววิ่งเลียบป่าเขาใหญ่
ผ่านแมกไม้ขุนเขาลำเนาไพร
รถผ่านไปนานครั้งช่างวังเวง

เส้นทางไปไม่คุ้นนั่งลุ้นหมด
มีเพียงรถพวกเราวิ่งโหลงเหลง
กลบความเงียบด้วยการเปิดเสียงเพลง
กล่อมบรรเลงเราเองตลอดทาง





มีถนนย่อมมีเส้นทางออก
ไม่ลวงหลอกแม้ทางจะอ้างว้าง
ไม่ช้านานก็โผล่ยังเส้นกลาง
ไม่เลือนลางสู่ทางเขาแผงม้า





สู่ทางหลักจะไปยังจุดหมาย
ความผ่อนคลายกังวลสิ้นกังขา
เสียงพูดคุยสนุกสนานและเฮฮา
กลับคืนมาเริงรื่นชื่นฤดี





ตลอดทางมากมายหลายแห่งนัก
แหล่งเข้าพักท่องเที่ยวมีหลายที่
ความงดงามบรรยายกาศก็แสนดี
สมกับที่ขึ้นชื่อในเมืองไทย





คือสวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน
คำเล่าขานเปรียบเทียบถึงแหล่งใหม่
เป็นที่ึเจ็ดโอโซนโลกทั้งใบ
ให้คงไว้สิ่งดีที่ไทยมี





ระหว่างทางแวะชมไร่องุ่น
สีม่วงขุ่นเป็นพวงสุกเต็มที่
ดั่งรอคอยเก็บเกี่ยวเวลาดี
จากทั้งปีดูแลและใส่ใจ





ดอกหน้าวัวออกช่อสีแดงสด
ทั่วทั้งหมดอวดช่อชูไสว
แข่งขันกันเบ่งบานไม่อายใคร
คล้ายหัวใจสีแดงตะแคงมอง





แม้แต่ดอกสีขาวพราวสะพรั่ง
เกสรตั้งสีส้มทั่วทั้งผอง
ล่อผีเสื้อชมเชยเพื่อดมดอม
บินไต่ตอมผสมเกสรตน





ได้ยินเสียงกระดิ่งดังกริ่งกร่าง
จอดข้างทางอยู่ใกล้ริมถนน
เห็นแล้วอยากไอติมกันทุกคน
เดินเวียนวนร้องสั่งชิมทั่วกัน





ไปต่อไปมุ่งหน้าตามจุดหมาย
มองเห็นป้ายบอกเลี้ยวไปทางนั้น
ดีใจจังเร่งรีบขับตามพลัน
มีนัดกันบุไทรคันทรีวิว





ในตอนแรกบนถนนยังราดยาง
เหมือนอำพลางเส้นทางรถวิ่งฉิว
สักพักหนึ่งตกใจตัวลอยปลิว
คันทรีวิวพาวิ่งทางลูกรัง





ฮั่นนั่นแน่..เห็นแล้วประตูเข้า
เพื่อนพ้องเราตามมาอยู่ข้างหลัง
อีกหน่อยเดียวถึงที่โปรดระวัง
อย่าวิ่งพังชนรั้วหน้าประตู





พบพี่เพลงพี่พิณมาถึงก่อน
แอบไปนอนพักผ่อนก่อนคุดคู้
สบทบกันพร้อมสรรพเหมือนจับปู
กางนิ้วชูก่อนเข้าเรือนของตน





เป็นเรือนไม้เรือนนอนพักเตียงคู่
เรียบแต่หรูกางมุ้งนอนสักหน
บ้านหนึ่งหลังแบ่งนอนได้สี่คน
ไม่เบียดจนอึดอัดขัดที่ทาง





ช่วงเวลาหรรษาพาพักผ่อน
ตะวันรอนสาดแสงส่องด้านข้าง
นั่งล้อมวงสังสรรค์กันไปพลาง
พูดคุยอย่างสรวลเสและเฮฮา





เหลือบไปเห็นเจ้าหนอนตัวเขียวใหญ่
ไต่ขึ้นไปกัดกินใบไม้หนา
ขนลุกซู่หากหนอนตกลงมา
คงเฮฮาวงแตกต้องแยกวง





แสงสีส้มเริ่มจับที่ขอบฟ้า
เหมือนนำพาจิตใจให้ลุ่มหลง
เมื่อมองเห็นอาทิตย์อัศดง
ราตรีคงมาเยือนเตือนจิตใจ





นั่งล้อมวงกินข้าวราวโหยหิว
มองเห็นวิวไร่สวนชวนหลงไหล
ใครเขาว่าความสุขอยู่ที่ใจ
เก็บไว้ในห้วงสุขของตัวเรา





อากาศเย็นลดลงทีละนิด
เมื่ออาทิตย์สั่งลาลับทิวเขา
รัตติกาลมาเยือนเห็นเลือนเงา
เตือนให้เราเขานอนพักผ่อนกาย





แม้อาทิตย์ตกลงไม่เคยหยุด
ท้ายที่สุดโผล่ขึ้นยังจุดหมาย
ยังวนเวียนคงอยู่มิเว้นวาย
หากมลายดับลงคงสิ้นกัน





ตื่นยามเช้าท่ามกลางในม่านหมอก
เหมือนลวงหลอกว่าตื่นหรือนอนฝัน
ในความจริงเพ้อพร่ำล่ำรำพัน
อยากเหหันบางกอกที่หลอกลวง





อากาศดีนำพาอารมณ์ดี
ธรรมชาติมีมอบให้ไม่แหนหวง
มองเห็นค่ารักษาสิ่งทั้งปวง
ประทับทรวงเก็บไว้ในความจำ





ได้เวลามาถึงอาหารเช้า
เลือกไข่ดาวขนมปังที่พอคำ
เมนูฮิตทุกที่มีให้ทำ
เป็นประจำท่องจำได้ขึ้นใจ





กินอิ่มหนำสำราญจนบานท้อง
รวมเพื่อนพ้องเดินเล่นด้วยกันไหม
เห็นล้อเกวียนวงเก่าเดินเข้าไป
ชักภาพไว้ดูหน่อยเอ็นจอยดี





หมดเวลาบุไทรคันทรีวิว
คงถึงคิวจากลากันวันนี้
กลิ่นบ้านไร่ปลายเขาเข้าชีวี
โอกาสมีคงกลับมาทักทาย









Create Date : 07 กันยายน 2552
Last Update : 14 กันยายน 2552 9:23:26 น.
Counter : 2378 Pageviews.

3 comments
  
กำลังจะไปเหมือนกันอ่ะ ดูรูปแล้วน่าจะสนุกดีคะ อีกอย่างอ่านกลอนแล้วทำให้ยิ่งอยากไปมากเลยยยยย......


โดย: พนง.bblนวนคร IP: 110.49.131.174 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:03:17 น.
  
พนง.bblนวนคร:
ไปแบบครอบครัวก็ง่ายๆ หรือเป็นหมู่คณะก็สนุกดี จริงๆแล้วสถานที่ที่ว่าสวยก็ไม่สำคัญหรือประทับใจเท่ากับเพื่อนร่วมทาง เพราะเวลาผ่านไปเราจะไม่ค่อยจำสถานที่ แต่จะจดจำเหตุการณ์ต่างๆได้ดีกว่า ขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวทุกๆที่ทุกๆคน.....
โดย: nenenery วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:38:40 น.
  
อยากไปอีกรอบจังอ่ะ
โดย: ททท. IP: 122.154.22.34 วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:10:14:13 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nenenery
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ชื่อเนเน่คนนี้เป็นพี่ใหญ่
ถัดกันไปชื่อเนยเป็นน้องสาว
ชอบท่องเที่ยวไปเรื่อยตามเรื่องราว
ทั้งสั้นยาวหนทางแตกต่างกัน
ประสบการณ์เรียนรู้สู่โลกกว้าง
มีที่ว่างเติมใจให้สุขสันต์
เมื่อลมเพพัดเอื่อยเรื่อยเรื่อยพลัน
ปล่อยใจฝันตามลมให้สมทรวง