อาหารสำหรับมุสลิม กับการเลือกบริโภค
มุสลิมต้องทานอาหารที่อนุมัติตามคำสั่งของพระเจ้า
เมื่อบุคคลใดเรียกตัวเองว่ามุสลิม ก็ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติ คำสั่งห้าม/ใช้ ตามคัมภีร์อัล-กุรอาน ซึ่งเป็นวะยูห์จากพระเจ้า และคำสั่งสอนของท่านนบีมูฮำมัด ศ็อลลอลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ผู้เป็นศาสนทูต คนสุดท้ายของอิสลาม (อธิบายเพิ่มเติม ท่านนบีเป็นผู้เผยแพร่ศาสนา โดยนำสารจากพระเจ้าคือคัมภีร์ิัอัลกุรอาน ดังนั้นจึงมิใช่เจ้าของศาสนาอย่างที่หลายๆคนเข้าใจแต่อย่างไร )
" มนุษย์เอ๋ยจงบริโภคสิ่งที่อนุมัติและที่ดีจากที่มีอยู่ในแผ่นดิน และอย่าปฏิบัติตามรอยเท้าของมาร แท้จริง มันเป็นศัตรูที่เปิดเผยสำหรับสูเจ้า " จากอัลกุรอาน อัลบะเกาะเราะฮ บทที่ 2 : โองการที่168
" พระองค์ทรงห้ามพวกเจ้านั้นเพียงแต่สัตว์ที่ตายเอง และเลือด และเนื้อสุกรและสัตว์ที่ถูกกล่าวนามอื่นนอกจากอัลลอฮฺ(เมื่อถูกเชือด) แต่ผู้ใดได้รับความคับขันโดย และมิใช่เจตนาขัดขืน และมิใช่เป็นผู้ละเมิดขอบเขตแล้วไซร้ ก็ไม่มีบาปใด ๆ แก่เขา แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัยโทษผู้ทรงเมตตาเสมอ "
จากอัลกุรอาน อัลบะเกาะเราะฮ บทที่ 2 : โองการ173
" แท้จริง พระองค์เพียงแต่ทรงห้ามสูเจ้า (มิให้บริโภค) สัตว์ที่ตายเอง และเลือดและเนื้อของสุกร และที่ถูกเปล่งนามอื่นนอกจากอัลลอฮฺ (เมื่อเชือด) แต่ผู้ใดก็ดีที่อยู่ในภาวะคับขันไม่เจตนาดื้อดึง และมิใช่ละเมิด ฉะนั้นแท้จริง อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงให้อภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ " จากอัลกุรอาน อันนะหฺล บทที่ 16 : โองการ115
คำว่าอนุมัตินั้น ภาษาอาหรับเรียกว่า "ฮาลาล " ไม่เฉพาะกับสิ่งที่เรากินเท่านั้น ยังหมายถึง วิธีการได้มาซึ่งเงิน และสิ่งๆอื่นๆที่ต้องห้าม สิ่งใดที่ห้ามไม่อนุมัติจะเรียกว่า " ฮารอม " การคดโกงมาก็เรียกว่า ฮารอม เช่นกัน
ดังนั้น สิ่งที่เราทานเข้าไปก็มีผลต่อเลือดเนื้อของเรา หากทานสิ่งไม่ดีสิ่งเหล่านี้ก็จะถูกดูดซึมหมุนเวียนเข้าสู่ร่างกาย หัวใจและสมอง เนื้อในร่างกายก็จะเป็นสิ่งที่ไม่ดี เช่นกัน ทำให้มีผลต่อธรรมชาติจิตใจของมนุษย์
ซึ่งจะมีผลต่อการทำอิบาดะฮฺ และการขอดุอาจากพระองค์อัลลอฮฺซุบบะฮานะฮูวะตะอาลา ด้วย
อีกทั้งเนื้อในร่างกายเรานั้นหากบริโภคในสิ่งที่ต้องห้าม ก็จะกลายเป็นเชื้อเพลิงของนรก....
"ก้อนเนื้อทุกชิ้นที่เติบโตมาจากสิ่งฮะรอม(ก้อนเนื้อนั้น) ไฟนรกจะเผาผลาญเป็นเบื้องแรก "(รายงานโดย:ฎ็อบเราะนีย์)
" พึงทราบเถิด ในร่างกายมีก้อนเนื้ออยู่ก้อนหนึ่ง หากว่ามันดีร่างกายก็จะดีไปด้วยทั้งหมด หากว่ามันเสียหาย ร่างกายทั้งหมดก็จะเสียหายไปด้วย มันคือหัวใจ "
(รายงานโดย:บุคอรีและมุสลิม)
กล่าวมา ณ ตรงนี้ ต้องการจะสื่อว่า ปัจจุบันมีอาหารมากมายหลากหลายชนิด ที่วางรายเรียง ทั้งชนิดสำเร็จรูป และ รอการไปประกอบอาหาร ซึ่งในปัจจุบันมีหน่วยงานที่รับรองมาตรฐานอาหารฮาลาล ขึ้นมา เพื่อช่วยให้มุสลิมมีทางเลือกที่ถูกต้องบริโภคได้ตามหลักศาสนาเพื่อส่งเสริมและสร้างศรัทธา
มิใช่กินเพราะอยากกินโดยไม่พินิจพิจารณา ว่าอะไรทานได้หรือไม่ได้
ดังนั้น มุสลิมยุคนี้ ต้องเท่าทัน ไม่ใช่เห็นว่า น่าจะทานได้ก็ซื้อดะ.....
ส่วนผู้ที่อาสาจัดอาหารให้มุสลิมทานนั้น ก็ใช่ว่า ถ้าไม่มีหมูเป็นพอ ซึ่งเป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง
เราต้องศึกษาหาความรู้ เรื่องส่วนต่างๆของอาหาร ที่มีมากมาย นอกจากพิจารณาถึงส่วนประกอบแล้ว ยังต้องมองไปถึงขั้นตอนการทำด้วยซ้ำ..... แต่จะทราบได้เหรอว่าเขามีขั้นตอนการทำเช่นไร ??
นั่นแหละปัญหา บรรดาแม่บ้าน แม่ครัว พ่อครัวทั้งหลายต้องพินิจพิจารณาให้ดี....
แม้ปัจจุบันจะมีสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทยแล้ว โดยการออกเครื่องหมายรับรอง
แต่ใช่ว่าทุกสินค้า ทางสถาบันจะมีอำนาจไปตรวจสอบ ถ้าเขาไม่มาขอเครื่องหมายนี้ !!
เอาล่ะสิ ปัญหาเริ่มเกิด.... มีการปลอมแปลงเครื่องหมายมากมาย
บางร้านเอาเครื่องหมายมาติด ดาวเดือนบ้าง เครื่องหมายฮาลาล ที่ทำเองบ้าง แล้วอ้างว่าซื้อตู้ต่อมาจากเจ้าของเดิมที่เป็นมุสลิมแล้วไม่ได้เอาออกเพราะเห็นว่า มีแล้วขายดีมุสลิมมาทานแยะ
ตรงนี้ แสดงว่าเขามีเจตนา หลอกหลวงผู้บริโภคสามารถแจ้งความจับได้ เพราะผิดกฏหมายแจ้งความได้
ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งนั้นอันเป็นเท็จ ถ้ากระทำการนั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พัน บาท อยู่ในมาตรา 271
มุสลิมเราต้องมองไกลๆ ทุกอย่างเข้าไปในร่างกายก็ต่อหัวใจมีผลถึงการวิงวอนขอพระจากพระเจ้า อย่าละเลยแม้เรื่องเพียงเล็กน้อย
ไม่รู้มิใช่ เฉยเมยไม่ศึกษาเพิ่ม แต่ต้องศึกษามากๆตลอดเวลา..... เรียนรู้แล้วต้องช่วยคนที่ยังไม่รู้...เพราะมุสลิมไม่ได้เดินไปเพียงคนเดียว...
อาหารที่ไม่อนุมัติให้รับประทานตามหลักการอิสลามได้แก่
- หมูและผลิตภัณฑ์จากหมู
- สัตว์ที่ไม่ได้ฆ่าตามหลักการอิสลาม
- สัตว์ที่ตายเอง(ยกเว้นสัตว์ทะเล)
- สัตว์ที่ถูกรัดคอ ถูกตีตาย ตกจากที่สูงตาย ถูกชนตาย สัตว์ร้ายได้กินมัน
- อัลกอฮอล์และสารพิษ
- สัตว์กินเนื้อ สัตว์มีเขี้ยว
- เลือดและผลิตภัณฑ์จากเลือด
- สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ (กบ เขียด ฯลฯ)
- ลาบ้าน ล่อ แมว
** เรื่องขนมปังที่ใช้ยีสช่วย ทำให้เกิดขบวนการ ตรงนี้มันจะหายไปตอนอบ ไม่เหลือค่าแอลกอฮอล์อยู่เลย
หลายๆครั้งหลายๆคราวที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้า มุสลิมทั้งหลายใช้ส่วนประกอบต่างๆที่ไม่ฮาลาลมาประกอบอาหาร อาจเป็นเพราะ ……
1. คิดว่าน่าจะได้และไม่ทราบจริงๆว่าส่วนประกอบและขั้นตอนแต่ละอย่างมีอะไรบ้าง
2. ละเลยไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดต่างๆ เห็นร้านมุสลิมขายอยู่ก็ซื้อทันที
3. เห็นเขาใช้กันทั้งนั้น (อย่างเช่น ซุบก้อนต่างๆ )
อย่างไส้กรอกรมควันนั้น ใช้รมควันรวมกับหมู ของ บ.แห่งหนึ่งที่ขอฮาลาลไก่ แต่มีผลิตภัณฑ์อื่นที่ไม่ฮาลาล และมีร้านของตนเองด้วย
4. ผู้ขายมุสลิมมักง่ายส่วนมากเกิดกับมุสลิมที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจ.....ในอิสลาม
แม้บางสินค้าจะมีตราฮาลาล แต่บางคราวไม่ได้รับความไว้วางใจ นั่นเพราะยังมีภาพมาตรฐานที่ยังขาดความเชื่อถืออยู่บ้าง ตรงนี้ทางสถาบันฯเองก็ต้องปรับปรุง และพัฒนาบุคลากรของตนเอง ให้ทำหน้าที่ตรวจสอบบ่อยๆและเสมอ มิใช่ ปีละหน -_-' ที่ผู้รับหน้าที่ตรงนี้บางคนกระทำอยู่
หวังว่าผู้มีหน้าที่ตรงนี้จะได้หน้าที่ที่ได้รับอะมานะฮฺมาให้เต็มที่ และที่สำคัญยังขาดการประชาสัมพันธ์
ออกมาบอกบ้างสิ มีวิธีการและขั้นตอนอย่างไรบ้าง จะรอตราฮาลาลอย่างเดียวคนเราก็ต้องทานทุกวัน ^^
ตรงนี้เห็นสภาพแล้วยอมรับเลยว่า สถาบันฯขาดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งด้าน วิทยาศาสตร์อาหาร ที่ต้องมีความรู้ด้านศาสนา ที่สำคัญต้องซื่อสัตย์ และรู้ทัน ตามข่าว และทันเกมส์เล่ห์กลต่างๆของผู้ประกอบการ
บางคนรู้ศาสนาแยะมาก แต่พอเจอใบส่วนประกอบต่างๆที่เป็นภาษาอังกฤษถึงกับหงายหลัง บางคนไม่รู้อะไรด้านวิทยาศาสตร์เลย แต่บางคน บางพื้นที่เก่งจริงๆยอมรับ แต่มีจำนวนน้อยมากที่มีความรู้ความสามารถหลายๆอย่าง
จะว่าไป น่าจะส่งเสริมมุสลิมไทยที่มีความรู้ ด้านวิทยาการต่างๆหันมาช่วยทำงานด้านศาสนาแยะๆ เพราะปัจจุบัน ส่วนมากจะรู้ ด้านดุนยา(โลกปัจจุบัน) แต่ขาดความรู้ที่จะนำไปสู่อาคิเราะฮฺ บางคนละหมาด ปีละ 2 หนเองเสียด้วยซ้ำ.....
มันเป็นองค์รวมที่ต้องบูรณาการแยะๆ (เรื่องใหญ่ เรื่องยาว และยาก ) แต่เริ่มได้ที่ครอบครัว....จุดเล็กๆ จาก 1 ไป 2 จาก 2 ไป 4 8 16......
อาหารทะเล
เวลาไปตามทะเล มุสลิมหลายท่านก็เลือกที่จะทานอาหารพวกนี้ เพราะคิดว่า ปลอดภัยจากหมู....
แต่....ไม่ใช่เลย เพราะบางอย่างไม่ใส่หมู แต่ใส่เหล้า ไม่ว่าจะเป็นเหล้าชนิดใดก็ไม่ก็ไม่เป็นที่อนุมัติ!!
อาหารทะเลผัดทุกชนิด ส่วนใหญ่จะใช้เหล้าเพื่อดับกลิ่นคาว และเพิ่มความหอม
เช่น...
- ขี้เมาทะเล บางเจ้ามีทีเด็ดที่ใส่ลงไปด้วย คือ "บรั่นดีไทย" เพราะความร้อนจากกระทะทำให้แอลกอฮอล์ระเหยไปเกือบหมด เหลือแต่กลิ่นหอมยั่วน้ำลายเท่านั้น เอาเหล้าเพิ่มความหอม
- หอยเชลกระทะร้อน ใส่เหล้าจีนเพิ่มความหอม เช่นเดียวกับข้างบน
- กุ้งอบวุ้นเส้นหรือปูอบวุ้นเส้น เอามันหมูแข็งวางไว้บนสุด หรือสูตรเด็ดจะวางรองไว้ที่ก้นหมอดิน
- สปาเก็ตตี้ หรือพาสต้าผัดกับกุ้ง (หรืออาหารทะเลอย่างอื่นก็ได้) ใส่เหล้าจีนเพิ่มความหอม
- สาหร่ายพันกุ้ง ก็จะใส่มันหมู เพราะเนื้อกุ้ง กับปลาหมึกจะได้จะเกาะตัวกันได้ด
ขนมและเบเกอร์รี่
ขนมโตเกียวรถเข็น
ไส้กรอกไก่ อิสลามทานได้ (เขาติดว่างั้น)
แต่มีไส้หมูอยู่อีกกล่อง คีมหยิบจับสาระพัดคีบมา
คีบทั้งหมู คีบทั้งไก่ มือก็ไขว้หยิบพับขนมไปมา ใช้เตาอันเดียวกัน หมูหยอง ไส้กรอกหมูต้องปะปนกันอยู่แล้ว
ขนมปังปิ้ง เครปญี่ปุ่น
เช่นเดียวกับ ขนมโตเกียว ใช้อุปกรณ์เดียวกันหมด คีมคีบคนละอันก็จริง แต่มืออ่ะเขาไม่สะอาดเนื่องจากต้องใช้มือหยิบจัดแต่งตัวไส้ด้วยโดยไม่ล้างมือ เตาก็อันเดียวกัน
ขนมกลีบลำดวน
บางเจ้าใช้น้ำมันหมูใหม่ แทนน้ำมันพืช ระวังได้ก็จะดี (ทานของที่ได้รับฮาลาลไว้ดีที่สุด)
ช็อคโกแลตบางชนิด ทานไม่ได้ เนื่องจากมีการทา ethyl alcohol
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัลมอนด์เครือบ chocolate ในขั้นตอนสุดท้าย เขาจะมีการทา ethyl alcohol แล้วปล่อยทิ้งไว้สักพักแล้วเพื่อทำให้product มีความมัน
เดิมเคยตรวจฮาลาลในขั้นตอนนี้ให้มีปริมาณ alcohol ที่มุสลิมทานได้แต่ตอนนี้ไม่ขอก็ไม่ตรวจแล้วเนื่องจากยอดขาย(ในภาคใต้ไม่ดีขึ้น และเป็นการเพิ่มต้นทุน)ตอนนี้เลยไม่มีฮาลาลและไม่มีการควบคุมแอลกอฮอล์แล้ว
ระวังช็อคโกแลตให้มาก
เกี่ยวกับเรื่องยาแก้อักเสบที่บรรจุในแคปซูล
แคปซูลยาทั่วไป ใช้เจลาติน ซึ่งมีแหล่งที่มาจากสัตว์ เช่น หนังหมู หรือกระดูกวัว
ทีนี้ ตัวเลือกยาแก้อักเสบที่ไม่บรรจุแคปซูลก็มีเช่นกัน เราสามารถเลือกได้
และอย่างเวลาเราไปหาหมอ เราก็สามารถแจ้งได้ ว่าไม่ขอรับยาชนิดแคปซูล
อันนี้ ผู้เขียน ก็รีเควสคุณหมอเช่นกัน ไม่ขอรับยาชนิดแคปซูล
คุณหมอก็ถาม แพ้ยาเหรอ ทานแล้วเป็นอย่างไร
เลยแจ้งว่า เพราะแคปซูลมาจาก... คุณหมอตอบว่า เออๆใช่ๆ แคปซูลทำมาจากหมูจริงด้วย ขอโทษๆนะ
เลยได้รับยาชนิดเม็ดมาแทน
อาหารที่น่ากลัว แต่น่าทานที่สุดคือเบเกอร์รี่
เรื่องขนมปัง เบเกอร์รี่อะไรต่างๆ บางคนมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เห็นว่าไม่ใช่หมูก็ซื้อทานทั้งๆที่ มันวางขายอยู่ติดกันเห็นๆ
ถ้าใครเคยได้ไปอยู่เบื้องหลังการทำเบเกอรี่ เชื่อได้ว่าพี่น้องจะไม่กล้าทานไรง่ายๆเลย
เวลาตอนทำเค้าก็ไม่ได้ทำทีละอย่างแล้วล้างมือ แล้วก็มาจับแป้งทำขนมชนิดอื่นต่อ เช่น
เวลาทำขนมปังใส่หมู พอหมูหมดก็เอาแป้งที่เหลือแหละ มาทำหนมปังเนยสด หรืออะไรก็ว่าไปลักษณะนี้มีให้เห็นทั่วไป นอกจาก โรงงานใหญ่ๆที่เขาขอรับรองเครื่องหมายฮาลาล เขาจะแยกโรงงานจัดแบ่งผลิตภัณฑ
เค้กชาเขียวราดคาราเมล ก็มีเจลลาติน
สตรอเบอรี่ เค้ก ก็ใช้น้ำเชื่อมเหล้าพรมทั่วเค้ก มูสผลไม้ ก็มีเจลลาติน
อะไรๆในเบเกอร์รี่ที่เป็นวุ้นๆ หรือเหนียวๆต้องการคงรูปจะใช้เจลลาติน มีผลไม้ก็จะใช้เหล้า ถึงจะน่าท่านแต่ทานไม่ได้ (แต่บางเจ้าไม่ใช้เพราะจะเพิ่มต้นทุนในการผลิต)
ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ ถูกถอดฮาลาลแล้วค่ะ
แต่โรงงานแยกกันผลิต ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นเจรจาต่อรองถ้าอยากได้ฮะลาลต้องปลดขนมไส้หมูออก แต่ถึงอย่างไรก็ยังแยกโรงงานอยู่ไม่มีการปะปนกัน สามารถแยกพิจารณาเป็นชนิดๆไปได้
KFC และเชสเตอร์กริล มุสลิมเราไม่สมควรที่จะทานนะคะ
ถึงแต่เดิมเคยได้เครื่องหมายฮาลาล แต่ปัจจุบันไม่ได้แล้ว อีกทั้ง ขั้นตอนการผลิตนั้นไม่รับรองฮาลาลค่ะ
เห็นมุสลิมหลายๆคน คลุมฮิญาบด้วยซ้ำไปนั่งทานกันหน้าตาเฉย ว่าเป็นไก่จะทานได้หมดนะคะ
ถึงไก่จะเชือดตามมาตรฐานฮาลาล แต่ขั้นตอนผลิตนั้นไม่ใช่เลยอีกทั้งไม่ทราบด้วยว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง เจ้าหน้าที่สถาบันมาตรฐานฮาลาลยืนยันมา
สเวนเซ่นไม่ได้รับเครื่องหมายฮาลาล
ถ้าพูดกันตามความจริง ในปีที่แล้ว เขาขอให้ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลตรวจสอบว่ามีสิ่งฮารอมเจือปนหรือไม่
ทดสอบ 2 หน หนแรก ไม่ผ่าน เขาจึงเปลี่ยนสูตร
ทดสอบครั้งต่อมา ก็ไม่พบสิ่งเจือปนแต่อย่างไร
เขาจึงมั่นใจว่า ของมุสลิมสามารถทานได้ และเขาก็ไม่ได้ขอรับรองเครื่องหมายฮาลาล จากสถาบันมาตรฐานฮาลาลแต่อย่างไรและทางสถาบันมาตรฐานฮาลาลเองก็ไม่รับรองว่าด้วยว่า ส่วนที่แต่งหน้าบนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ณ ขณะนี้มีส่วนของสิ่งฮารอมเจือปนด้วยหรือไม่ แต่ช่วงที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลตรวจสอบนั้น ทุกอย่างผ่านหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวช็อคโกแลต หรือตัวอื่น ช็อคโกแลตเองก็ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองเครื่องหมายฮาลาลเช่นกัน
ในตอนนี้ ยูนิลิเวอร์ได้เป็นผู้ถือหุ้นของสเวนเซ่นแล้ว ยูนิลิเวอร์ มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับเครื่องหมายฮาลาล นั่นคือไอศกรีมวอลล์ ดังนั้น เขาจึงเอาเครื่องหมายฮาลาล มาติดที่ผลิตภัณฑ์ของสเวนเซ่นด้วย ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ไม่สามารถนำมาใช้กันได้ ขอฮาลาลสินค้าตัวไหน ก็ได้รับเฉพาะสินค้าตัวนั้น ไม่ได้หมายถึงว่าจะครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทุกชนิดภายใต้แบรนด์เดียวกัน ดังนั้น จริงเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน
ขอย้ำอีกครั้งว่า สเวนเซ่น ไม่ได้รับรองผลิตภัณฑ์เครื่องหมายฮาลาลแต่อย่างใด
และส่วนของไอศกรีมวอลล์นั้น จะมีผลิตภัณฑ์บางส่วนที่มีรัมม์ผสมอยู่ ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้รับรองฮาลาลค่ะ และทางมาเลเซียเองก็สั่งห้ามไม่ให้วอลล์นำผลิตภัณฑ์รัมม์มาขายที่มาเลเซียด้วยเช่นกัน
อาหารบนรถไฟสายใต้ ไม่ได้รับการรับรองเครื่องหมายฮาลาลแล้ว
ใครที่ต้องเดินทางด้วยรถไฟลงใต้ ก็เตรียมอาหารไปทานเองแล้วกันค่ะ
เพราะทุกอย่างใช้อุปกรณ์เดียวกันหมด
อีกทั้งไม่มีตราฮาลาลที่ถูกต้องมานานแล้วด้วย และทางสถาบันมาตรฐานฮาลาลบอกมาตามนี้
ของง่ายๆก็ได้ เช่นข้าวเหนียวเนื้อ ขนมปัง(ที่ไม่ใช่ฟาร์มเฮ้าส์)และนมกล่องแทน เพราะแค่มื้อสองมื้อเอง อดมาทั้งวันช่วงการถือศีลอดยังอดได้เลย
(ข้อมูลจากการสอบถาม ระหว่างไปอบรมฮาลาลมา)
เตือนบรรดาร้านเบเกอร์รี่มุสลิมทั้งหลายที่ใช้ เชอร์รี่แบบนี้
ลูกเชอร์รี่ดำที่มักใช้ตกแต่งใน เค้ก แบล็ก ฟอเรสต์ โดยมากก็แช่ในเหล้า Kirsch
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ พี่น้องอาจไม่ทราบว่ามันหะรอม(ต้องห้าม) เช่น ลูกเชอรี่ที่ใช้ตกแต่งหน้าเค้ก ถ้ามีคำว่า maraschino นั้นก็คือเหล้าค่ะ
maraschino = เหล้าแมรัซคี-โน
KIRSCH = บรั่นดีประเภทหนึ่ง
อะมานะฮฺ(หน้าที่รับผิดชอบล้วนๆ) เมื่อทำแล้วต้องศึกษาตรวจสอบดีๆ ^^
ผู้ผลิต ซอส ตรา ทาคุมิ-อายิ" แจ้งผู้บริโภค ว่าไม่เหมาะกับผู้ที่รับประทานเจและชาวมุสลิม
ชื่นชม บริษัทที่ผลิตซอสนี้ที่มีความจริงใจกับลูกค้า
(ขอยอมรับว่าได้ใจไปเต็มๆ ที่ออกมาบอกว่าผลิตภัณฑ์ของเขาไม่เหมาะกับมุสลิมและผู้ทานเจ)
ได้อธิบายรายละเอียดของผลิตภัณฑ์และระบุหมายเหตุของเขาไว้ว่า
.
.
.
.
.
หมายเหตุ : "ซอส ทาคุมิ-อายิ" ไม่เหมาะกับผู้ที่รับประทานเจและชาวมุสลิม
ส่วนผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ สามารถใช้ปรุงอาหารได้ตามปกติ...
ที่มา : //www.ajinomoto.co.th/th/products/detail.php?GID=1&ProductID=17
มีคำถามตามมา ไข่แมงดาทานได้ไหม...??
ส่วนหนึ่งจากกรุอาน(คัมภีร์ที่ใช้เป็นบัญญัติศาสนาของอิสลาม) ในบท ซูเราะฮฺอัลมาอิดะฮฺ อายะฮฺที่ 96 [5:96] "การล่าสัตว์ในทะเลเป็นที่อนุมัติสำหรับสูเจ้า และอาหารของมัน"
สัตว์ทุกชนิดที่อยู่ในทะเล มุสลิมสามารถนำมารับประทานจึงได้ ส่วนใครจะทานหรือไม่ทานแล้วแต่บุคคล เพราะบางคนทานอาหารทะเลไม่ได้ แพ้โปรตีนจากสัตว์ทะเลทุกชนิด หรือเป็นไม่ชอบส่วนตัวก็ได้
ส่วนปลาปักเป้า มีพิษ ถ้ามีพิษก็เป็น มุสตัสนา (คือสิ่งถูกยกเว้นจากการอนุมัติ )
ตอนนี้มุสลิม มีชมรมคุ้มครองผู้บริโภคมุสลิมแล้ว
ชมรมฮิมายะฮ์ เป็นการรวมตัวของกลุ่มพี่น้องมุสลิมที่ออกมาช่วยปกป้องและช่วยไขปัญหาฮาลาล
มีปัญหาเรื่องข้อมูลข่าวสารหรือสงสัยในฮาลาล สามารถติดต่อได้ที่นี่ //www.himayah.net/
ดังนั้นสำหรับมุสลิม ใช่ว่าไม่มีหมูก็ทานเลย เพราะมีผลเรื่องศาสนามากมายตามมา
ที่สำคัญ เมื่อเรามีอาหารเหลือเฝือ ก็สมควรแบ่งปันเพื่อนพี่น้องที่เขายังขาดแคลน....
ในขณะที่เราฟุ่มเฟือย แต่อีกส่วนยังไม่มีจะทาน
ทำอาหารทั้งที โปรดแบ่งปันเพื่อนบ้าน เพราะศาสนาสอนให้พี่น้องมุสลิมมีน้ำใจแบ่งปันกันและกัน.....
คำสอน หะดิษ(คำพูดหรือ จริยวัตรของศาสนทูต) หนึ่งของอัลอัสลาม ระบุไว้ว่า
“เมื่อท่านทำแกง ก็จงใส่น้ำแกงให้มาก แล้วท่านจงมองดูผู้อยู่ในบ้านจากบรรดาเพื่อนบ้านของท่าน แล้วจงมอบแกงส่วนหนึ่งให้แก่เขา เพื่อเขาจะได้รับประทาน” (บันทึกหะดิษโดย มุสลิม)
ที่มาบทความ ข้อมูลอาหารฮาลาล web //www.annisaa.com
Free TextEditor