34.207721°N 118.206979°W
Group Blog
 
All blogs
 

these little things



เมื่อต้นเดือนธันวาคม
เปิด podcast ในยูทูปฟังขณะกำลังคลีนเพื่อจัดห้องพระ
รับช่วงปีใหม่, เพราะปกติพ่อเป็นคนทำ
พอพ่อไม่อยู่แล้วก็เลยรับหน้าที่เอง

ฟังไปเรื่อย ๆ แบบมือเช็ดถูหิ้งพระไปพลาง
คลิปที่ฟังก็จบ
พอจบก็ขึ้นเป็นคลิปอะไร ๆ ตามที่ยูทูปจะโพรโมท
กลายเป็นคลิป "ทำนายดวง"
เมื่อมือไม่ว่าง เลยปล่อยให้คลิปเล่นไป
และบังเอิญคือ ดวงเดือนธันวาคมของลัคนาตุลย์

นั่งฟังไปพลาง ทำงานไปพลาง
มีเรื่องหนึ่งที่แม่นมาก คือ ลัคนาตุลย์จะเจอโรคเลื่อน

เลื่อนจริง
เริ่มจาก ช่างกล้องวงจรปิดที่ต้องมาเปลี่ยนกล้องเสีย 1 ตัว
กับย้ายจอและสารพัดอุปกรณ์ รวมถึงสายไฟมากมาย
ขึ้นชั้นสูงกว่าเดิม 1 ชั้น เพื่อให้พ้นน้ำท่วม
นัดกันแล้ว เลื่อนมาเรื่อย ๆ จนถึงวันที่ 15
ด้วยการขู่ว่า ถ้าไม่มาอีก จะเปลี่ยนช่าง ไปหาบริษัทใหม่แล้ว

ต่อมาก็ช่างไฟ
ที่ต้องมาเดินสายไฟ เก็บเข้าท่อเพื่อกันน้ำท่วม
เพราะที่ผ่านมา สายไฟและปลั๊กตรงนั้น โดนน้ำท่วมตลอด
กว่าช่างไฟจะหาเวลามาได้ ก็นาน
เลื่อนแล้วเลื่อนอีก

พอมาล่าสุด ช่างน้ำบาดาล
ที่เครื่องเสีย สูบน้ำไม่ได้ จึงถึงคราวเปลี่ยนใหม่
ขนาดว่าเลือกช่างที่ได้รับเสียงการันตีจากคนสนิท
ว่านิสัยดี ทำงานดีแล้ว
ก็พบว่า ทำงานได้หยาบ เพราะต้องเข้ามาแก้งาน 3 รอบแล้ว
และทุกรอบก็จะเลื่อนวัน เปลี่ยนเวลา
ด้วยข้ออ้างสารพัด

...
เจอโรคเลื่อนแบบนี้
เห็นทีต้องคลิกติดตาม "นักทำนายดวง" คนนี้ซะแล้ว


 




 

Create Date : 17 ธันวาคม 2567    
Last Update : 17 ธันวาคม 2567 11:28:37 น.
Counter : 316 Pageviews.  

ไม่มีใครรู้ว่าเราจะจากกันไป วันไหน


เดือนสุดท้ายของปี กระดังงาที่บ้าน
บานสะพรั่ง จนหอมอวลทั่วทั้งบ้าน
มากมาย จนต้องเด็ดมาปักปากหม้อดิน
ไว้รอบบ้านเลย





ช่วงน้ำท่วมบ้านริมคลอง ฉันหนีไปพักบ้านบนเนิน
แต่ก็ขยันลุยน้ำมาดูบ้านริมคลอง เรื่อย ๆ
เลยได้เจอเพื่อนบ้านวัย 80 ที่อยู่คนเดียว
...สามีตาย และไม่มีลูก
ป้าเพื่อนบ้านจะเดินออกมาทักกันทุกเช้า ช่วงน้ำท่วม

แล้ววันหนึ่ง ก็เล่าว่า หลานสาวหนีน้ำท่วมมาพักด้วย 2-3 วัน
ฉันยิ้มให้หลานสาวคนนั้นของป้า ...เป็นการทักทาย
จนน้ำลด ฉันพาแม่กลับมาบ้านริมคลอง
เพื่อจะจ้างคนมาคลีนบ้าน อย่างเร่งด่วน
ป้าเพื่อนบ้านยังคงเดินมาทักทาย เช่นเคย
 
วันที่ 7 ธันวาคม
หลานสาวของป้าเพื่อนบ้านมาเรียกลั่นเลย
ขอความช่วยเหลือ บอกว่า
ป้าวัย 80 บ้านหมุน ทรงตัวไม่อยู่ คล้ายเป็นลม
 
ฉันวิ่งไปดูอาการ
คล้ายเส้นเลือดในสมองมีปัญหา
(ที่พูดอย่างนั้น เพราะฉันเคยเจอคนเป็นเช่นนี้มาก่อน)
ดูอาการแล้วก็ช่วยเรียกคนรู้จักแถวนั้น
ว่าจ้างให้ช่วยพาป้าเพื่อนบ้านไปส่งโรงพยาบาลใหญ่
โดยให้หลานสาวของป้านั่งรถไปกับป้าด้วย
 
ต่อมา หลานสาวป้าเพื่อนบ้านโทรบอกว่า
หมอฟันธงว่า ... อ๋อ คนไข้แค่พักผ่อนไม่พอ
แล้วฉีดยา 1 เข็ม ตอนนี้กำลังให้กลับบ้าน
 
ฉันถึงกับ หืมมมมมม?
แล้วเดินไปบอกให้คนขับรถ ช่วยไปรับกลับ
จากนั้น ฉันก็เดินไปดูอาการ 2-3 ครั้ง รู้สึกแปลก ๆ ในใจ
แต่เมื่อหมอในโรงพยาบาลว่าเช่นนั้น
ก็ไม่รู้จะว่าเช่นไร เพราะฉันไม่ใช่หมอ
ถึงจะทำงานในโรงพยาบาลรัฐที่ pomona นาน 8 ปี
ฉันก็ไม่ใช่หมอ
 
วันที่ 8 ธันวาคม
หลานสาวป้าคนเดิม มาเรียกแต่เช้า รอบสอง
บอกว่า ป้าแน่นิ่งไปอีกแล้ว

ฉันเรียกรถคันเดิม คนขับคนเดิมอีกรอบ
เพื่อขอให้ช่วยนำป้าเพื่อนบ้าน ส่งโรงพยาบาล

หนนี้ หมอเอาป้าเข้า MRI
แล้วบอกว่า เส้นเลือดในสมองตีบ 1 เส้น
ร่างกายซีกขวาไม่ทำงานแล้ว ให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาล

นอนโรงพยาบาล 2 คืน
หมอปล่อยกลับมาบ้าน เช้าวันที่ 10 ธันวาคม
พร้อมบอกว่า ไปพักที่บ้านแล้วหมั่นเคลื่อนไหวร่างกาย
อีก 4 วัน มาตรวจร่างกายอีกครั้ง
 
วันที่ 11 ธันวาคม เวลา 4.00PM
หลานสาวคนเดิมของป้า วิ่งมาตามอีก
บอกว่า ป้าของหนูไม่รู้สึกตัวแล้วค่ะ

ฉันดูนาฬิกา ช่วงนั้นเวลาเลิกเรียน เลิกงานพอดี
รถในเมืองติดหนึบแน่นอน
หนนี้ ฉันตัดสินใจกดโทร 1669
ยืนกดออก 11 ครั้ง ไม่มีแม้เสียงเรียกสายเลยสักนิด
ที่สุด ตัดสินใจเข้ากูเกิ้ล หาเบอร์เรียกรถกู้ภัยเซียงตึ๊ง
กริ๊งเดียวติด
รถกู้ภัยมาไวมาก ฉันผู้ข้ามถนนไปยืนโบกมือรอรถ
เพราะบ้านป้า ...หลังเล็กจิ๋วอยู่ในซอย
กู้ภัย 3 คนบอก ดีมากเลยครับที่ออกมาโบกมือเรียก

ทีมกู้ชีพตรวจร่างกายป้า อาการไม่ดีเลย
รีบหามร่างไร้สติของป้าขึ้นรถเข็นเปลนอน
เพื่อพาไปขึ้นรถฉุกเฉิน ตอนนั้นป้าไร้สติแล้ว

ผ่านไป 2 ชั่วโมง
หลานสาวป้าเพื่อนบ้านโทรมาบอกว่า
หมอตรวจพบว่า เส้นเลือดตีบ 2 เส้นแล้ว
และใช้เครื่องช่วยหายใจ
 
คืนวันที่ 11 ขณะหมอใช้เครื่องช่วยหายใจ
หลานคนไข้โทรมาร้องไห้ บอกว่า... หนูจะทำยังไงคะพี่
หมอถามว่า จะปั๊มหัวใจมั้ย ถ้าเกิดเหตุหัวใจหยุดเต้น

ฉันถามหลานสาวคนไข้ว่า
ถ้าป้าฟื้นคืนแล้วป่วยติดเตียง เธอจะดูแลไหวมั้ย
หลานสาวคนไข้บอกว่า
...คนจะด่าหนูมั้ยว่า ใจดำ ใจร้าย
แต่ป้าไม่มีสามี ไม่มีลูก มีหนูเป็นหลานคนเดียว
หนูไม่มีกำลังจะดูแลแน่
 
ฉันตอบว่า งั้นก็อย่าไปแคร์คำใคร
เพราะไม่มีใครจะช่วยดูแลคนไข้ติดเตียง ตลอดไป
คนดูแลคือหนู คนเดียว
และถ้าป้าฟื้นมาปกติ ก็ดีไป
แต่ถ้าหมอบอกว่า ฟื้นแล้วติดเตียง หรือนิทรา
หนูก็ตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่... คนอยู่และคนไป
ไม่ลำบาก ไม่ทรมานกันทั้งสองฝ่ายเถอะนะ
 
วันนี้ 13 ธันวาคม
เวลาตี 2.12 เสียงโทรศัพท์ดัง
"พี่ ...ป้าของหนูเสียแล้วค่ะ หนูจะทำไงต่อ"
 
อืมมมม กลับบ้านก่อนละกัน
เรียกรถมาเลย มาเอาค่ารถที่บ้านพี่ได้
พักสักนิด แล้วเอาเอกสารสำคัญของป้าเธอ
...ไปติดต่อขอใบมรณบัตร
แล้วสาย ๆ ค่อยไปติดต่อวัดที่เธอสะดวก
 
....
 
แค่ 7 วัน หญิงวัย 80 ที่แข็งแรงกระฉับกระเฉงคนหนึ่ง
หมดลมลง
 
เช้ามืดวันนี้ ฉันตื่นมาโอนเงินเข้ามูลนิธิของรถกู้ภัยแห่งนั้น ...
และตั้งค่าโอนบริจาคทุกเดือน นับแต่นี้ไป

จำนวนเงินบริจาค เลือกตามเลขที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ
คือ 314 ...ซึ่งนับจากนี้จะปิดร้างไปตราบนาน




 

Create Date : 14 ธันวาคม 2567    
Last Update : 17 ธันวาคม 2567 10:23:47 น.
Counter : 283 Pageviews.  

wrapping a present & not giving it

move out man! life is fleeting by.
do something worthwhile, before you die.
leave behind a work sublime,
that will outlive you and time.
.
.
 -- alfred a. montapert
 
ชีวิตคนเรา สั้นนัก
ต้องรู้จักทำประโยชน์ก่อนจะสาย
ทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์หลังความตาย
มีความหมายคงอยู่... ตลอดไป

 



จู่ ๆ ก็รู้สึกอยากกลับบ้าน
และเลยซื้อตั๋ว one way กับ ANA ในบัดดล
จากนั้นก็เคลียร์ธุระปะปังในแอลเอ 7 วัน
อาทิ... ไปหาหมอตรวจสุขภาพที่เหลือ ๆ
เช่น ตรวจแมมโมแกรม ตรวจเลือด

พอผลออกมาโอเค ก็ถึงวันบินพอดี

คืนก่อนเดินทาง ข้างบ้านเดินมาร่ำลา
และเขาเสนอว่า จะฝากกุญแจบ้านไว้ที่เขามั้ย
เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน

ที่จริงก็ตั้งใจเช่นนั้นตลอดมา แต่ไม่เคยฝากเพราะไม่กล้าเอ่ยปาก
หนนี้เลยได้ฝากกุญแจไว้เสร็จสรรพ

พอไปถึงสนามบินตอน 8.00 เช้า ก็ไปเช็คอินคนแรกเลย
และไปนั่งในเลานจ์
มีฝรั่งหญิงสูงวัยมาถามด้วยว่า
เลานจ์ของบัตร Amex อยู่ไหน
เลยพาไปส่ง เพราะของฉันคือเลานจ์ ANA

เข้ามาก็ยึดมุมสงบ ไม่อยากนั่งมองลงไป
เพื่อเห็นความขวักไขว่ของสนามบิน LAX




พอมานั่งสักพัก เริ่มมีคนเข้ามานั่งโซนนี้บ้าง
ชอบความนั่งอ่านหนังสือเล่มของคนตรงนั้น
ดูสงบดี

สักพัก ชายจีนสูงวัยคนหนึ่ง เดินเข้ามา
แล้วคุยโทรศัพท์เสียงดัง
ฝรั่งหนุ่มใหญ่ในชุดสูท น่าจะหัวหน้างานวันนี้เดินเข้ามาเตือน
พอรอบ 2 ก็มีการเชิญออกไป เพราะส่งเสียงรบกวนคนอื่น

ชอบจริง ชอบความเข้มงวด    

นั่งอยู่จนใกล้เวลาขึ้นเครื่องก็เดินออกไปที่เกต
และเลือกจะเข้าไปในเครื่อง คนสุดท้าย
เพราะไม่มีสัมภาระอะไรต้องไปจัดเก็บ

...
พอมาถึงกรุงเทพฯ ระอุอ้าวเช่นคุ้นชิน
ผ่าน ตม. คนแรก
ใช้เวลาหน้า ตม. ไม่ถึง 1 นาที

รวดเร็วมาก

นับเวลาที่ออกจากเครื่อง จนมาถึงจุดรับกระเป๋า
สิริรวมเวลา ไม่เกิน 10 นาที

หนนี้ไปพักบ้านน้องชาย เพราะขนครีมทามือมาแบบ 100 หลอดน่ารัก
มาให้น้องชายและน้องสะใภ้ เอาไปแจกเพื่อนร่วมงาน
เป็นของขวัญปีใหม่
เลยไปเปิดกระเป๋าเดินทางที่บ้านน้อง

บวกกับ ซื้อตั๋วการบินไทยกลับบ้านเกิดในเย็นวันนั้น
เลยไม่ได้พักโรงแรมเช่นเคย

ระหว่างนั้น ไม่ได้นอนเลย
หนนี้แปลกที่นอนไม่หลับ

ตอนกลางวัน น้องชายลางาน พาไปนั่นนี่
เช่น พาไปเดินหาเอสเปรสโซ่ ร้อน กิน
เดินจนทั่วเมกกะ ที่สุดก็ต้องยอมเข้าไปพึ่งพี่บั๊กส์
เพราะร้านอื่น ไม่มีเอสเปรสโซ่ ร้อน
แปลก, เดาว่า หาไม่เจอ

หลังจากนั้นก็ไปเดินหาธนาคาร จัดการแอป
เพราะพอเปลี่ยนมือถือ ก็เข้าแอป scb ไม่ได้
พยายามแล้ว ที่สุดก็ต้องไปพึ่งเจ้าหน้าที่
เสียเวลาไม่นาน แต่นานตรงรอคิว

จากนั้นก็ไปกินชาบูราคาแพงลิบในเมกกะ
ก็โอเคนะ พนักงานน่ารักดี
ขายเก่ง

ผลคือ นั่งตัวเหม็นกลิ่นชาบูในเครื่อง
ทว่า หลับสนิท หลับอย่างนิ่งนาน 1.30 ชั่วโมง
.
.

มาถึงบ้าน มองจากหน้าต่างห้องนอน
เห็นน้ำในคลองปริ่มคอสะพานแล้ว
โอ้ มายยยยยยยยยยยยยย ...



สรุปคือ น้ำท่วมค่า
บ้านหลังติดคลอง ท่วมถึงอก เพราะบ้านหลังนี้
สร้างหลังแรกในย่านนี้ เลยพื้นต่ำเท่าระดับถนน
เมื่อน้ำท่วมเลยหอบหิ้วปีกแม่วัย 84 ไปบ้านอีกหลัง
ซึ่งสร้างบนที่สูงกว่าบ้านริมคลอง มากถึง 8-9 ขั้นบันได
ผลคือ อพยพปั๊บ ท่วมปุ๊บ ปริ่ม ๆ หลังเท้า

บ้านริมคลอง ชั้นล่างเละเทะจนทิ้งทุกอย่าง
ด้วยขนไม่ทัน
บ้านบนเนิน ท่วมแค่ขาโต๊ะ ขาเก้าอี้ เลยแค่โคลนเข้าบ้าน
ยกเว้น ชั้นวางหนังสือ พื้นท่วมนิดหน่อย พอบวม ๆ

...
น้ำท่วมอยู่ 4 วัน นอนอ่านนิยายแกล้มยาแก้หวัด
ด้วยกลับมาเจอฝนเลยเป็นหวัด
ครั้งแรกในรอบ 6 ปี



หลังน้ำลด แม้จะมีคนเตือนว่า ระวังท่วมอีกรอบในวันที่ 12
แต่ทนความเหม็นโคลนในบ้านไม่ได้
เลยจ้าง 2 คน มาช่วยกันทำความสะอาดบ้าน 2 หลัง
จ่ายไปทั้งสิ้น 7,000 บาท

และจ่ายอีก 600 บาท สำหรับจ้างรถมาขนเฟอร์นิเจอร์ไปทิ้ง
เพราะถ้ารอรถเทศบาลมาจัดเก็บ น่าจะกองพะเนิน

ทว่า คนขับรถเก็บขยะก็น่ารักทุกราย
มาเก็บที่เหลือแบบดีมาก ๆ

งานนี้ บินมาเพื่อจ่าย กับมาเพื่อทิ้งของจริง ๆ

หลังคลีนบ้านจนสะอาดเอี่ยม ก็ถึงเวลาซื้อ
ซื้อตู้เย็น ซื้อฟูกใหม่ให้แม่ ซื้อเครื่องซักผ้า
และซื้อโซฟาใหม่ ...
สุดท้ายก็ซื้อของใช้จุกจิกในบ้าน
ที่...น้ำท่วมจนไม่กล้าเสี่ยงใช้ต่อ เช่นหม้อหุงข้าว กาต้มน้ำร้อน

เหนืออื่นใด ต้องเปลี่ยนเครื่องสูบน้ำบาดาล ใหม่
และเลยสั่งให้ช่างยกขึ้นไปอยู่เหนือระดับพื้น
เพราะตลอด 50 ปีที่ผ่านมา เครื่องสูบน้ำบาดาลจมน้ำท่วม
ทุก ๆ ปี

...
ผ่านมาทั้งหมด ได้คำตอบว่า
ทำไมถึงนึกอยากกลับเมืองไทยแบบกะทันหันเช่นนี้
และยังบินกลับบ้านเกิดทันทีทันควัน วันเดียวกันด้วย

ด้วยเหตุเหล่านี้, นี่เอง. 

 




 

Create Date : 10 ธันวาคม 2567    
Last Update : 10 ธันวาคม 2567 16:40:14 น.
Counter : 419 Pageviews.  

attitude is everything

บทสรุปจาก podcast เช้านี้
...วิธีง่าย ๆ ที่ทำให้สุขทุกวัน
เปิดใจให้ตัวเองซึมซับสิ่งดี ๆ รอบตัว
ปรับการรับสื่อ อย่าเสพสื่อที่บั่นทอนจิตใจมากเกินไป
อยู่ในสภาพแวดล้อมที่จะช่วยพัฒนาเราให้ดีขึ้น
ทำอะไรให้ช้าลง และมีสติมากขึ้น
ฝึกขอบคุณให้ติดปาก จดบันทึกถึงสิ่งที่อยากขอบคุณ
จะช่วยให้เราโฟกัสสิ่งที่เป็นด้านบวก





ทีม 5 ดรุณีนัดไปกินมื้อเที่ยงที่ร้านจีนชื่อดัง
ไปถึงพร้อมกันตอน 11.30 ซึ่งคนยังไม่เยอะ
เลยได้โต๊ะทันที, และสั่งทันที

ทั้งหมด 6 เมนู ใช้วิธีอ่านเมนูแล้วชี้
ยกเว้นเมนูสุดท้าย ...
สั่งด้วยการชี้รูปอาหารที่มีอยู่รูปเดียวในหน้านั้น

อาหารมาเสิร์ฟเร็วมาก
และอร่อยมากทั้ง 5 จานแรก, จนถึงจานสุดท้าย
หน้าตาไม่เหมือนกับในรูป
เลยเรียกพนักงานมาถามว่า ส่งผิดโต๊ะหรือเปล่า
พนักงานมายกจานกลับไป 
แต่แป๊บเดียว คนที่มารับออร์เดอร์ก็ตะโกนมาว่า
...ไม่ผิด ยูสั่งผัดเฉาหมิ่นนี่จริง ๆ
พวกเราก็ยืนยันว่า ไม่ได้สั่งเฉาหมิ่น
พวกเราสั่งผัดเสฉวน rice cake

พนักงานส่งเสียงล้งเล้ง ยืนยันว่า เธอไม่ผิด
พวกเรามองหน้ากัน
ฉันพยักหน้า แล้วบอกว่า ไม่เป็นไร เอามาเหอะ
เพื่อจะได้จบเรื่อง

และที่สุด เราก็กินเฉาหมิ่นไม่หมด
เพราะถ้าอยากกินเฉาหมิ่น เราไม่มาร้านนี้หรอก

ที่จริงก็ไม่มีอะไร ถ้าพนักงานจะไม่โวยอยู่หลังร้าน
ชนิดดังมาถึงโต๊ะเรา, แม้จะโวยเป็นภาษาจีน
แต่เผอิญ 2 ดรุณีในกลุ่มฟังและพูดจีนได้คล่อง

สรุปคือ ค่าอาหาร $88.46
ปกติเวลาเรามากัน 5 คน เราจะทิป $20 อย่างน้อย ๆ
แต่มื้อนี้ ฉันเขียนทิปลงไปแค่ให้ยอดรวมเป็น $90 เท่านั้น

...
ด้วยเหตุผลคือ เสียงโวยวายที่ได้ยินนั้น
คือการปฏิเสธว่า พวกเราสั่งผิด
แล้วมีเสียงพูดว่า ดีแล้วที่ยืนยันแบบนั้น
เพราะถ้ายอมรับผิดว่า พนักงานรับออร์เดอร์ผิด
พนักงานจะต้องจ่ายเอง และจานนั้นคือ $12.99

...

ออกจากร้านนั้น พวกเราก็ขับรถ 5 คัน ตรงไปร้านชานม
ไปถึงก็สั่งกันคนละแก้ว ...ฉันนึกในใจว่า หนนี้แพงจัง
สั่ง 5 แก้ว แต่ราคาเหมือนมากกว่าทุกที
ทว่าก็คิดว่า หรือเพราะเราเพิ่มนั่นลดนี่


แต่พอไปรับเครื่องดื่ม ก็เห็นเป็น 6 แก้ว
พี่ ๆ ดรุณีมารับของตนเองกันไป
ส่วนของฉัน ...ก็เอ๊ะ ... นั่นคือเมนู A1
ทำซ้ำมา 2 แก้ว




...ยังไม่ทันถาม พนักงานเม็กซิกันก็พูดว่า
"เอ๊ะ นี่ชั้นกดซ้ำใช่มั้ย ชั้นน่าจะรู้สิว่าเกิน..."
ฉันก็หัวเราะ และบอกว่า
555+ ไม่เป็นไร กินได้ 

พนักงานบอกว่า "ขอโทษนะ เดี๋ยวชั้นคืนเงินกลับเข้าบัตรให้"
ฉันบอกว่า "ไม่เป็นไรเลย คิดเงินไปแล้ว ฉันกิน 2 แก้วได้"
พนักงานยังคงย้ำ "ขอโทษนะ"

สักพัก ระหว่างพวกเรานั่งกินชานมกันหน้าร้าน
พนักงานเดินถือใบเสร็จออกมา
แล้วบอกว่า "คืนเงินเข้าบัตรให้แล้วนะ"

พวกเรา 5 คนก็ยิ้มให้กัน
แล้วฉันก็ลุกไปหย่อนเงินสด $10 ใส่ในโหลทิป 

เชื่อเหอะว่า ...พวกเราจะกลับไปทุกครั้งที่มาแถวนี้

 




 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2567    
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2567 10:17:27 น.
Counter : 351 Pageviews.  

let go of holding on

the year of magical thinking
ในวันธรรมดาวันหนึ่ง โจนและจอห์น สองสามีภรรยานั่งกินมื้อเย็นด้วยกัน
จู่ ๆ จอห์นก็ล้มกระแทกโต๊ะ ทีม 911 พยายามกู้ชีพของเขา
แต่ไม่เป็นผล โจนสูญเสียสามีไปในวันธรรมดาวันหนึ่ง
หนังสือเล่มนี้ พาเราไปเยือนดินแดนแห่ง grief ที่เราเลี่ยงจะพูดถึง
แต่เราต้องเผชิญหน้ากับมันแน่ ในสักวันหนึ่ง
ที่นั่นมันจะสับสน หมุนวน บ้าคลั่ง และจู่โจมเราอย่างไม่ทันตั้งตัว
หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เราเห็นวิธีรับมือของโจน
เผื่อวันหนึ่งเมื่อการสูญเสียมาเยือนโดยไม่ทันเตรียมใจ
เราจะได้มีวิธียอมรับและพร้อมจะใช้ชีวิตไปกับมัน




ชื่อหนังสือบนบรรทัดแรก
ไม่ได้อ่าน เพราะไม่ได้ซื้อ แต่ฟัง audio book จนจบ
ใช้เวลาฟังหลายวันมาก
ฟังแล้วก็คิดถึง 'พ่อ' ...

...
ตอนฟังหนังสือเล่มนี้
จะสวมหูฟัง แล้วเดินไปทั่วบ้าน
เพราะฟังตอนทำงานบ้าง ทำกับข้าว รีดผ้า และ ฯลฯ
เลยคล้ายจะเก็บได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
...
และเต็ม, ใจ

...
วันนี้ ตอนจบบทสุดท้าย ฟังตอนเก็บของ
เตรียมไปบริจาควันจันทร์
เพราะวันจันทร์มีนัดไปพบกับ banker เรื่องกองทุน
นั่นคือ ครบกำหนด เลยจะไปปิดกองทุน
เพื่อโอนไปซื้อหุ้นรัฐบาล
เพราะพบว่า คุ้มกว่ากับการเอาไปซื้อหุ้นรัฐบาล
วัดกันจากดอกเบี้ยที่ได้ในแต่ละเดือน
กองทุนแทบจะเป็นทองม้วนกรอบที่เป็นผง
จับไม่ติดเลย

...
ของที่เตรียมจะเอาไปบริจาคหนนี้
คือผ้าไหมคาดผม มีทั้งแบบปักริม หรือแบบที่เดินเส้นสวย
ทั้งหมดนับได้ 27 ผืน
ต่อมาก็เป็นผ้าพันคอไหม 4 ผืน
เสื้อกล้ามที่ยังดูดีมาก และบางตัวยังไม่ตัดป้ายราคา
เสื้อสารพัดคือ 6 ตัว
ยังมีถุงมือ กับหมวกไหมพรม
และเข็มขัดแบบ art ที่ซื้อมาจากไทย
แต่ไม่เคยใช้อีก 12 เส้น

สรุป บริจาคได้คุ้มการจะแวะไปมาก

ไม่น่าเชื่อว่า ในอดีตจะใช้เงินได้สุรุ่ยสุร่ายมากขนาดนี้
...
และมากขนาดบริจาคอีก 60 วันก็ยังเหลือเฟือ

ทว่า ไม่มีอะไรมากไปกว่าอยากจะ let it go
 




 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2567    
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2567 6:57:04 น.
Counter : 299 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

delicate pudding
Location :
United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




ดีกับทุกคนที่เจอ
ส่วนเขาจะจดจำเราอย่างไร
เป็นมุมมองของเขา
แต่ในมุมมองของเรา
อย่างน้อยเราจดจำได้เสมอว่า
เราปฏิบัติดี กับเขา
นึกย้อนไปจึงไม่มีอะไรเสียดาย

เพราะ moment นั้น
อาจเป็นครั้งนี้ครั้งเดียว, ที่เจอกัน

.
.
Friends' blogs
[Add delicate pudding's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.