Group Blog
 
All blogs
 
It Might Get Loud (2008): สนทนาภาษาร็อค



It Might Get Loud (2008) :
เห็นโปสเตอร์สารคดีเรื่องนี้ปุ๊บก็น่าจะเดาได้ไม่ยากเลยว่างานนี้เกี่ยวกับดนตรีแน่นอน ซึ่งถ้าหากท่านเป็นคอเพลงร็อคด้วยแล้วล่ะก็เป็นได้ซี้ดซ้าดกันด้วยความเสียวซ่านแน่ เพราะบนโปสเตอร์โชว์หราชื่อของสามเซียนกีต้าร์สามหนุ่มสามเจเรเนชั่นไล่ตั้งแต่ Jimmy Page (68 ขวบ) มือกีต้าร์สุดเทพของ Led Zeppelin วงร็อคในตำนานจากเกาะอังกฤษ, The Edge (51 ขวบ) มือกีต้าร์จอมเทคนิคของ U2 วงร็อคก้องโลกจากไอร์แลนด์ และหนุ่ม Jack White (37 ขวบ) แห่งวง The White Stripes และ The Raconteurs จากอเมริกา (โอ้ว!!!)

สามหนุ่มสามรุ่นมาแจมกีต้าร์กันจนมันส์หยดติ๋งๆ
สารคดีทำเก๋ในการจีบให้ทั้งสามมานั่งแลกเปลี่ยนทัศนคติทางดนตรีกันอย่างเปิดอกและเป็นกันเอง เพื่อพูดถึงรากเหง้าทางดนตรี ความลุ่มหลงในดนตรี เล่าถึงอดีตที่มาที่ไปของตนกว่าจะมาดัง และยังแลกเปลี่ยนเทคนิคสไตล์การเล่นของแต่ละคนแก่กัน ก่อนจะปิดท้ายด้วยการแจมเพลง "The Weight" ของ The Band กันอย่างม่วนซื่นโฮแซวทั้งคนเล่นคนดูอีกด้วย นับเป็นอะไรที่หาดูไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะเนี่ย ขอบอก!! 

มาดยิ้มกริ่มของหนุ่ม Jack White ผู้มากความสามารถ
ผกก.Davis Guggenheim เจ้าของผลงานสารคดีรักษ์โลกเรื่องดังอย่าง An Inconvenient Truth (2006) พาเราก้าวเข้าสู่โลกของดนตรีร็อคโดยมีสามมือกีต้าร์ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาทำหน้าที่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์นำเที่ยวย้อนรอยชีวิตในอดีตของแต่ละคน ตัดสลับกับการที่ทั้งสามมานั่งจับเข่าคุยกันสดๆ ในโรงถ่าย ซึ่งงานนี้ไม่มีคำว่าน่าเบื่อเจือปนอยู่แม้แต่นิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากท่านเป็นคอเพลง แฟนเพลงของพวกเขา หรือผู้รักการเล่นดนตรีด้วยแล้วล่ะก็ งานนี้ต้องปลื้มกันสุดๆ ไปเลยทีเดียว!!

น้า The Edge กับสำเนียงกีต้าร์ที่เท่อย่าบอกใคร
ส่วนการเลือกเอาทั้งสามมานั้นก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะนอกจากจะมากันคนละยุคสมัยแล้ว ทั้งสามยังต่างพื้นเพ ต่างสังคม ต่างวิถีชีวิตกันจนส่งผลต่อทางดนตรีของพวกเขาอีกด้วย อาทิ Jimmy Page ที่เคยเล่นเพลงป็อปสมัยวัยรุ่น และเคยเป็นมือกีต้าร์รับจ้าง ซึ่งได้รับอิทธิพลจากเพลงสไตล์บลูส์ โฟล์คและแจ๊ซ ก่อนจะมาเป็น Led Zeppelin ในที่สุด, The Edge ที่ยากจนข้นแค้นจนต้องทำกีต้าร์ขึ้นมาเล่นเอง และได้รับอิทธิพลจากวงพั้งค์ในช่วงยุค 70 ซึ่งทำให้อยากตั้งวงมาปลดปล่อยกับเขาบ้าง, Jack White ที่ก็จนเหมือนกัน แต่ก็ลุ่มหลงในดนตรีมาตั้งแต่วัยรุ่น โดยเฉพาะดนตรีแนวบลูส์และการาจร็อค ในขณะที่วัยรุ่นยุคนั้นเขาฟังแต่เพลงเฮ้าส์และเพลงแด๊นซ์กระป๋องกัน!!

Jack White โชว์เทพในการประดิษฐ์กีต้าร์ไฟฟ้าจากเศษไม้และขวดโค้ก
อย่างที่บอกว่าถ้าหากท่านเป็นคอเพลง นักดนตรี หรือผู้ที่สนใจแล้วจะพบว่าสารคดีเรื่องนี้ช่างสุดยอดจริงๆ แต่ถ้าหากเป็นขาจรคนทั่วไปก็อาจจะไม่ค่อยอินและไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่นัก กระนั้นถึงจะเป็นสารคดีเกี่ยวกับดนตรีร็อคแบบเน้นๆ เช่นนี้ก็ยังอุตส่าห์มีข้อคิดมาฝาก อย่างเช่นการที่ทั้งสามมีทุกวันนี้ขึ้นมาได้ นอกจากพวกเขาจะมีฝีมือเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (อันนี้แน่นอน) พวกเขายังมีความมุ่งมั่น ทุ่มเท และกล้าที่จะลุกขึ้นมาทำบางสิ่งบางอย่างที่แตกต่าง เพื่อตามให้ทันความใฝ่ฝัน ซึ่งตรงนี้นี่แหล่ะที่ทำให้พวกเขามายืนอยู่ในจุดนี้ จุดที่พวกเขากลายเป็นตำนานและเป็นที่รักของแฟนเพลงทั่วโลกได้ในทุกวันนี้!!
  • + สารคดีเพื่อชาวร็อค คอเพลง นักดนตรี หรือผู้ที่สนใจ ดูไม่น่าเบื่อและเต็มไปด้วยความรู้ เจ๋งๆ
  • - สำหรับขาจรทั่วไปคงดูไม่น่าสนใจเท่าไหร่



*ของแถม*
เราเอาคลิปช่วงเอนด์เครดิตของสารคดีที่ทั้งสามมาร่วมร้องเล่น "The Weight" ของ The Band ได้อย่างน่าจดจำ มาฝากด้วยจ้า :D 




*รีวิวสารคดีสำหรับคนพันธุ์ร็อคเรื่องอื่นๆ ภายในบล็อก*




Create Date : 30 กันยายน 2555
Last Update : 30 กันยายน 2555 2:22:58 น. 1 comments
Counter : 2805 Pageviews.

 
โอ้โห ถ้าคนชอบกีต้าร์และชอบดูหนังด้วยนี่คงอินมากๆเลยเนอะ

เจ๋งอะ ทำกีต้าร์ไฟฟ้าจากเศษไม้และขวดโค้กได้ด้วย


โดย: VELEZ วันที่: 30 กันยายน 2555 เวลา:6:30:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nanatakara
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




  • Friends' blogs
    [Add Nanatakara's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.