บลอกของคนตัวเล็กๆ h blog
Google
Group Blog
 
All blogs
 

รัก.....ก็คือรัก

ผมมีคำถามตลกๆ ที่แปะอยู่บนความรู้สึกเศร้าส่วนตัว มาถามทุกคนกัน

เมื่อไม่กี่วันมานี้ผมเพิ่งประสบเหตุที่ทำให้ตัวเองมีพฤติกรรมแปลกๆ ที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเราจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ ไม่ ผมไม่ได้โดนของ อาการของผมมันเป็นอย่างนี้ ผมพูดคนเดียว ตอนอาบน้ำ ตอนแต่งตัว ตอนนอน หรือแม้แต่ตอนที่ผมอยู่ท่ามกลางความฝันกลางดึก ผมก็ยังคงพูดพร่ำเพ้อตลอดเวลา ในฝันนั้นผมเปลือยอยู่กับใครสักคนที่เคยรู้จัก แต่มันแล้งไร้ไปด้วยความรู้สึกยินดีหรือเสน่หา และเมื่อเธอเดินจากผมไปในความฝันแสนเศร้านั้น ผมมีอันต้องสะดุ้งตื่นขึ้นทุกครั้ง และเมื่อสำรวจตัวเองดีๆจะพบว่า ผมเหมือนคนที่เพิ่งกลับจากการเดินทางไกล คอและลิ้นผมแห้งผาด มันฝาดจนขมขื่น ใบหน้าและลำตัวร้อนผ่าวผมเหงื่อเยอะมาก แต่แปลกที่แอร์ก็ยังคงทำงานเงียบเย็นเช่นปกติ
น่าแปลกที่เวลาแค่ 2 ชั่วโมงในการหลับ จะสร้างความทุกข์และทรมานได้ขนาดนี้ 3วันกับการนอนเพียง 6 ชั่วโมง กับเม็ดข้าวกระปริดกระปรอยที่แทบจะนับได้ ว่าใส่ปากไปกี่ช้อน อาการแบบนี้ผมไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ขอบอกอีกครั้งผมไม่ได้โดนของ
26 ปีบนโลกมนุษย์แห่งนี้ ผมมีความรักราว 5 ครั้ง มีทั้งรุนแรง สวยงาม ปัญญาอ่อน และโศกเศร้า และทุกครั้งที่ความรักจบ ผมจะมีอาการซึมเศร้าอยู่ครู่ใหญ่ๆเสมอ แต่ไม่เคยมีความคิดที่จะทบทวนเรื่องราวและสาเหตุแห่งการแตกร้าวนั้น หน้าเราดูเศร้าจริง แต่ตายังคงทำการเหล่หญิงที่เดินผ่านอย่างไม่หยุดพัก อืม…เมื่อย้อนคิดแล้วนั่นไม่ใช่รัก
ผมค้นพบว่าความรัก สามารถเสกหรือบันดาลได้ทุกสิ่งจริง อย่างที่ละครว่าเอาไว้ มันทำให้เรามีพลัง มันทำให้ความฝันของเราไม่เดียวดาย มันทำให้ทุกเวลานาทีเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเย็นชื่นและในบางครั้งมันทำให้คนอ่อนแอบางคนบนโลกนี้ต้องตายไป

มาเข้าสู่คำถามของผมกันอย่างที่เกริ่นไว้สักครู่นี้ก่อน คำถามคือหากชีวิตนี้คนเราสามารถตายได้ 2 ครั้ง ครั้งนึงคุณอยากจะตายด้วยสาเหตุใดหรือเพื่ออะไร ผมคิดมานานแล้วว่าผมอยากจะใช้ความตายที่เกินมาครั้งหนึ่งเพื่อความรัก ผมอยากจะตายเพราะรักใครมากๆ
ผมอยากจะรักใครสักคนแบบดุดัน ใช้อารมณ์ล้วนๆ เป็นรักที่ขาดสติความยั้งคิด แต่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของตัวเอง เปรียบเช่น ความรักของขวัญ-เรียม โรมีโอ-จูเลียต และเพื่อน-แพง คุณคงคิดว่าสู้เก็บความตายนั้นไว้ไปใช้ตายกับโรคระบาด หรือเผื่อไว้สำหรับสงครามโลกครั้งใหม่จะดีกว่า ไม่ไหว ไอ้นี่มันคิดเอาเท่ห์อย่างเดียว ก็ได้ๆ ผมจะเป็นโรมีโอกับจูเลียต คู่แรกของโรคที่ตายด้วยโรคระบาด หากมันจะทำให้ดูเท่ห์น้อยลง และคุณพอใจ
ตายเพราะรักใครมากๆสักคนดีกว่า ตายโดยไม่เคยสัมผัสถึงความอบอุ่นแห่งรัก ณ บัดนี้ ผมคิดอย่างนี้นะ แต่เพราะคนเรามันตายกันได้แค่ครั้งเดียว เพราะฉะนั้นควรจะมีสติยั้งคิดให้มากๆเข้าไว้สักหน่อย พ่อแม่ พี่น้อง ที่เขารักเรายังมีอยู่ ก็เอาความรักจากเขาเหล่านั้นแหละมาเติมเต็มหัวใจแหว่งวิ่นของเรา ให้มันมีแรงพอที่จะหยิบช้อนตักข้าวเข้าปากได้มากขึ้น เอาความห่วงใยจากเขาเหล่านั้น มาห่มอุ่นให้หลับสบายได้อย่างเต็มตื่นอีกครั้ง
ผมเคยบอกคนที่ผมรักว่า รัก ก็คือรัก รักคือความห่วงใยและหวังดี ในวันนี้ผมคิดว่า พ่อแม่ พี่น้อง ของผมคงกำลังพูดคำเดียวกันนั้นให้ผมฟังอยู่เช่นกัน

29.6.47




 

Create Date : 11 กันยายน 2549    
Last Update : 21 กันยายน 2549 15:53:40 น.
Counter : 347 Pageviews.  

ชีวิตขำๆ 1 วันที่ทศภาคอารีน่า

เมื่อวานนี้ไปเล่นconcertที่ทศภาคมา สนุกมากๆ สนุกจริงๆ คนเยอะที่สุดตั้งแต่เคยเล่นมา ได้เจอเพื่อนเก่าๆเยอะ และแน่นอนงานนี้ก็มีเพื่อนคนใหม่ๆในชีวิตมาดูเช่นกัน มีทั้งคนที่ดี จริงใจ เต็มใจมาดู และคนที่คอยจ้องจะเอาผิด จับผิดเราตลอด คอยดูเราชิบหาย และไม่เต็มใจมาดู แต่เมื่อเจอเราแล้วกลับบอกว่าชอบเรา ชื่นชมเรา ซึ่งมีเยอะมากเลยคนแบบนี้ ซึ่งจริงๆมันก็สนุกดีเหมือนกัน เกมส์แบบมนุษย์ที่มีความศิวิไลเนี่ย.....

สิ่งที่ทำให้การแสดงดนตรีเมื่อวานแตกต่างจากที่อื่นนั้น ไม่ใช่ตัวงาน ไม่ใช่สถานที่ ไม่ใช่จำนวนคน แต่สิ่งที่แตกต่างมากๆ คือ มีผู้หญิงน่ารักๆ 2 คนมาดูผมเล่นดนตรี ทั้ง 2 คนนั้นคือน้องสาวของผมเอง น้องสาวของผมไม่เคยมาดูการแสดงดนตรีของพี่ชายคนนี้เลยสักครั้ง เพราะอะไรไม่มีใครรู้ และผมเองก็รู้สึกแปลกๆที่จะชวนน้องตัวเองมาดูการละเล่นบนเวทีประกอบดนตรีแบบนี้เหมือนกัน ผมกลัวพลาด กลัวเป็นอะไรก็ได้ที่จะทำให้น้องสาวอาย เลยตั้งใจไว้ว่าเก็บเกี่ยวฝีมือไปอีกสักพัก เมื่อมั่นใจแล้วค่อยชวนน้องแท้ๆของเรามาดูดีกว่า
เมื่อวานน้องสาวทั้ง 2 ของผมมาแต่งตัวมาดีเชียว แต่กว่าจะมาถึงก็เล่นเอาผมกระวนกระวายใจพอสมควรเลยทีเดียวกลัวว่าจะมาไม่ทันดู อยากให้มาดูๆ แต่ก็นั่นแหละ ที่น้องเรามาก็เพราะเราชวนใช่มะ แต่ก่อนชวนก็คิดนานนะ ถ้าชวนแล้วมันจะมาไหม มันจะมากับใครด้วยหรือเปล่า แต่เอาเข้าจริงๆง่ายมากๆ ชวนคำเดียว น้องสาวที่ผมรักทั้ง 2 ก็มากันอย่างง่ายดาย

บนเวที.....หน้าผู้ชายที่อยู่บนจอโปรเจคน์เตอร์ใหญ่ๆนี้ เป็นพี่ชายของใคร มีแต่น้องสาวเขาเท่านั้นที่รู้ สิ่งที่พี่ชายคิดไว้ในใจจะมีอะไรบ้างทั้งก่อนเล่น ขณะเล่น หลังเล่นไม่มีใครรู้.....
แต่เมื่อจบการแสดงบนเวทีลงมา ผู้หญิงคนแรกที่เข้ามา พูดคุยกับเราด้วยอาการแบบดีใจ ปนตื่นเต้นมากพอๆกับเรานั้น คือน้องสาวของผมเอง ผมมองเห็นอะไรในตาของน้องผมด้วย
มันคือความภูมิใจ ของคนที่เกิดมาร่วมใช้นามสกุลและพ่อแม่คนเดียวกัน

มาดูกันว่าพี่คนนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน สำหรับน้องสาวทั้ง 2 ของผม
มาดูกันว่าไอ้เอ็มคนนี้จะไปได้กี่สักน้ำ สำหรับคนที่ชอบปรามาสผม และหัวเราะเยาะสิ่งที่ผมทำมาตลอด
ขอบคุณทุกเสียงตบมือ และขอบคุณทุกเสียงที่ด่าผมว่าไอ้เสี่ยวหรือปัญญาอ่อน ขอบคุณทุกการแสดงออกของตัวเองที่ดูเสร่อ

มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคนที่ทำสุดความสามารถมั่งหล่ะ..........ไม่มี




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2549    
Last Update : 23 สิงหาคม 2549 0:25:00 น.
Counter : 520 Pageviews.  

ตาที่มองไม่เห็นแต่รู้สึกได้

วันนี้น้องน่ารักแถวบ้าน เอาคลิปมือถือที่เป็นผู้หญิงตบกันมาให้ดู ผมดูแล้วก็ เอ่อ…นี่มันอะไรกันวะนี่ นี่ตบกันเอาตายขนาดนี้เลยเหรอ อารมณ์แบบโกรธแค้น กันมาร่วมชาติ ทั้งตบทั้งต่อย ทั้งจิกผม คือว่าในชีวิตนี้ก็เคยเห็นนะผู้หญิงตบกันเนี่ย แต่นี่ดูแล้วรู้สึกเหมือนอารมณ์มันไปไกลเกินกว่าที่จะตบกันเรื่องแย่งผู้ชายแล้ว ผมถามน้องน่ารักว่าเอามาจากไหนเนี่ย น้องน่ารักบอกง่ายมากๆ ขอจากเพื่อนๆไงมีทุกคลิปทุกแนว บางทีก็เมล์ forward มา ผมเลยถามว่าปกติเปิดดูบ่อยหรือเปล่า เธอบอก ดูอะไร ก็คลิปที่เป็นผู้หญิงตบกันนี่ไง น้องเขาบอกดูเฉพาะตอนที่มีคนอื่นอยู่ด้วย อารมณ์คืออยากให้ทุกคนได้ดูกัน อยากแบ่งปัน.....

ผมรู้สึกคนเราทุกวันนี้ตกเป็นทาสเทคโนโลยีกันมากขึ้นๆ มากเหลือเกิน บางสิ่งดูไม่จำเป็นกับการใช้ชีวิตแต่เราก็หาเรื่องผูกโยงมันเข้าด้วยกันกับชีวิตประจำวัน และทำให้มันกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นขาดไม่ได้กันขึ้นมาเอง อย่างเมื่อไม่กี่วันนี้ได้ดูโฆษณาบัตรเงินสดยี่ห้อหนึ่ง งี่เง่ามากๆ ถ้าคนไทยได้ดูโฆษณาแนวๆนี้กันทุกวัน ผมว่าทุกคนก็ต้องโง่ลงพร้อมๆกันด้วย อยากรู้จริงๆ ซื้อลูกอมเม็ดเดียวเนี่ยต้องพกบัตรเงินสดเหรอ จะไรจะเทคโนโลยี่กันขนาดนั้น เป็นการผูกโยงที่โคตรจะงี่เง่า แต่ถ้าไปถาม creative เขาก็คงจะบอกว่า ที่งี่เง่าๆเนี่ย แล้วขายได้หรือเปล่า แล้วคนดูจำได้ไหม ถ้าคนดูจำได้ กูสำเร็จ กูตอบโจทย์ แต่ถ้าถามกลับไปว่า กูรู้ว่าคนจำได้แต่ยอดขายสินค้าของมึงเพิ่มขึ้นไหม มึงอาจจะตอบไม่ได้ก็ได้
เพราะคนที่ซื้อสินค้านั้น ส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดา ไม่ได้เป็น creative เขาซื้อสินค้ากันตามเม็ดเงินในกระเป๋า ไม่ได้ซื้ออะไร เพราะ trend
เฮ้อ มันก็เป็นแค่คำบ่น ของคนอายุ 28 คนนึงเท่านั้นแหละ.....

เด็กผู้หญิงที่ตบกันในคลิปที่ผมดูก็ตกเป็นทาสเทคโนโลยีเหมือนกัน ใช่ ความจริงแล้วเพื่อนของเด็กพวกนั้นเป็นคนถ่าย แต่ผมรู้สึกว่า เด็กที่เราเห็นตบตีหรือต่อยกันในคลิปมือถือจะดูรุนแรงมากกว่า เด็กที่ทะเลาะตบตีกันในโอกาสธรรมดา อาจจะเป็นเพราะว่าเด็กพวกนั้นรู้สึกได้ถึงการมี “ตา”เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคู่ในการดูเขาทำกิจกรรมกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องใดๆ เมื่อมีตาของกล้องขึ้นมาทุกคนจะเป็นนักแสดงไปทันที ไม่มากก็น้อย การแสดงออกจะรุนแรงมากขึ้น ถ้าตบก็ห้ามแพ้ กูต้องชนะมึงเพื่อจะเอาคลิปนี้ไปดู ไปโชว์ หรือหากเรามี sex กัน ภายใต้ดวงตาแห่งเทคโนโลยีนี ทุกอย่างมันต้องมากขึ้นมากกว่าปกติ เพราะสักวันกูอาจจะเอาไปแบ่งปันให้เพื่อนๆดู !!!

ผมบอกน้องน่ารักว่า ลบคลิปนี้ไปเถอะ และก็อธิบายเหตุผลส่วนตัวสั้นๆ ให้ฟังไป ดูเขาตั้งใจฟังนะ แม้ไม่ลบในทันทีต่อหน้า แต่ผมก็รู้ว่า เธอจะต้องลบเมื่อผมจากไปแน่ๆ

คลิปอย่างนี้จะดูสนุกกว่าคลิปงานวันเกิดของเรา หรือคลิปที่มีแต่เสียงหัวเราะของเรากับเพื่อนๆหรือคนที่เรารักไปได้ยังไง.....

15/7/49




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2549    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2549 23:40:52 น.
Counter : 365 Pageviews.  

กินข้าวววว เสียงเรียกแบบนี้จะไม่มีอีกแล้ว.....

คงจะเป็นเรื่องหมา เรื่องสุดท้ายแล้ว หลังจากไอ้เป้ตายไป เมียมันโอเล่ตรอมใจ ไม่กินข้าวกินปลาได้ 10 กว่าวันแล้วก็ตายตามมันไป เหลือลูกมันตัวเดียวไว้ให้ผมเลี้ยงต่อ คือไอ้ป๊อกแป๊ก หมาพ่อแม่ลูก 3 ตัวนี้มันรักกันมากๆ เมื่อพ่อตายไป แม่ตรอมใจตายตาม วันนี้ป๊อกแป้ก หมาอายุ 11 ปี ตัวสุดท้าย ในตระกูลได้ตายจากไปอย่างน่าสงสาร มันไม่กินข้าวกินน้ำเลย ตั้งแต่อีนังโอเล่แม่มันตาย ตอนไอ้เป้ตายแม่มันไม่กินอะไรเลยเหมือนกัน แต่ไอ้แป๊กมันกิน กินเหมือนตั้งใจจะกินให้แม่มันดู เหมือนชวนแม่มันมากินข้าว แต่โอเล่ก็ไม่กิน พอแม่มันตายไป แป๊กมันไม่เคยเห่าเลยอีกเลย ไม่กินข้าวไม่กินน้ำ นอนอยู่ตรงใต้ต้นมะม่วงหลังบ้านตรงที่แม่มันตายตลอด ตอนตี 1 เมื่อคืนวาน ฝนทำท่าจะตก ผมเห็นมันลุกเดินกระย่องกระแย่งมานอนรอฝน ผมมองมันออกมาจากในออฟฟิส ที่ปิดไฟมืด ใจผมสั่นๆ คิดว่าเฮ่ ย ไม่จริงใช่ไหม ผมสงสารมันมากๆ แต่ใจนึงก็อยากรู้ว่าถ้าฝนตกมันจะลุกหนีไหม
ฝนตก มันนอนตากฝน.....จริงๆ แล้วมันตั้งใจนอนตากฝน ผมรู้ เพราะฉะนั้นผมจึงปล่อยมันไว้อย่างนั้น

ป๊อกแป๊กเป็นหมาที่น่าเกลียดมากๆ ไม่น่ารักเลย ขนมันหยาบกระด้างตัวไม่เล็กไม่ใหญ่มองดูปราดเดียวก็รู้ว่ามันเป็นหมาพันธ์ทางชั้นแย่ ผมแทบจะไม่เคยเล่นกับมัน แต่หลังจากไอ้เป้พ่อมันตาย ผมลองมองมันมุมใหม่ พบว่าถึงมันไม่น่ารักเลย แต่มันเป็นหมาที่ดูน่าสงสารตลอดเวลา เจ๊ขายของชำบ้านตรงข้ามเรียกมันว่า ไอ้หมาไม่มีศักดิ์ศรี ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาเรียกแบบนั้น
วันนี้มันไม่ยอมกินอีกแล้ว พ่อผมจับเอาข้าวป้อนใส่ปาก มันก็ไม่ยอมกิน พ่อผมเลยพูดกับมันว่า ไอ้แป๊กมึงอยากตายเหมือนแม่มึงเหรอข้าวไม่ยอมกิน เหลือเชื่อ พูดเสร็จมันก็ลุกขึ้นเดินกระย่องกระแย่งไปหลังบ้าน เดินไปตรงหลุมของแม่มัน เกือบจะถึงแต่ไม่ถึงมันล้มลงก่อนสัก 2 เมตรที่จะถึงแม่มัน แล้วก็เริ่มนอนระบายลมหายใจรวยริน อยู่ที่ใต้ต้นมะม่วงนั่นเอง พูดจริงๆคือน้ำเน่ามากๆ แต่เศร้าชิบเป๋ง แม่ผมเดินไปหามัน แล้วท่องคำว่า พุทโธ ๆ แล้วชวนให้มันท่องตาม ผมขำมากๆ ต้องรีบเดินหนีเพราะน้ำตาผมจะไหล เราเคยพามันไปหาหมอแล้ว หมอบอกว่าเกิดจากการตกใจหรือว่าช็อคอย่างแรง ฟังดูตลก แต่หัวเราะไม่ออก วันนี้พ่อเอามันมานอนตรงแถวๆหน้าต่างห้องครัว เอาพัดลมตัวเก่าๆมาเปิดให้มัน มันนอนนิ่งๆไม่ขยับเลย ผมสงสัยว่าถ้าไม่มีพัดลมมันจะเป็นยังไง จะมีแมลงวันมาบินป้วนเปี้ยนอยู่ที่ตัวมัน เหมือนแม่มันตอนใกล้ตายไหม
4 ทุ่มกว่าผมเดินไปชงกาแฟ จู่ๆก็รู้สึกแวบเข้ามาในใจว่าควรจะเดินไปดูมันหน่อย ผมตั้งใจไว้ว่าถ้ากาแฟหมดแก้ว จะเดินลงไปดูมันไปชวนมันคุย คุยอะไรกันก็ได้ กาแฟไม่ทันหมดแก้ว คนงานเข้ามาเรียกบอกว่า ไอ้แป๊ก ตายแล้วนะ ผมตกใจมากรีบลงไปดู มันตายแล้วจริงๆ รู้สึกโมโหตัวเองมากๆๆๆ ที่มัวแต่กินกาแฟ คนงานบอกว่ามันตายน่าสงสารมาก มันเป็นตัวเดียวในบ้านที่ตายโดยไม่มีใครรู้ ไม่มีใครมายืนอยู่ใกล้ๆมันตอนมันตาย ผมยืนชงกาแฟอยู่ที่ขอบหน้าต่าง ชะโงกหน้าลงไปก็มองเห็น แต่ไม่ทำ รู้สึกผิดและเศร้ามากๆๆๆๆ ช่วงชีวิตก่อนที่มันจะตายนั้น ทุกวันคงทรมานสำหรับมันมากๆ หวังว่าอย่างน้อยที่สุดก่อนตายมันคงเห็นภาพ พ่อและแม่มันนะ ผมก้มลงไปพูดกับร่างไร้วิญญาณอย่างไม่อายคนงานที่ยืนอยู่ข้างๆ บอกมันว่าแล้วเจอกันนะไอ้แป๊ก เดี๋ยวจะขุดฝังให้นะ 2 ตัวก่อนหน้านี้ คนงานกับพ่อขุด แต่กับแป๊กพี่เอ็มจะขุดฝังให้เอง พี่ทำได้แค่นี้จริงๆ

ผมฝังหมาพ่อแม่ลูก 3 หลุมเรียงเคียงคู่กัน นึกถึงกลอนไฮกุ ที่เคยร่วมกันแต่งกับน้องตอนมัธยมขึ้นมา “แม่ปลาพาลูกปลาน้อยล่องลอยว่ายสู่ดวงจันทร์” ผมฝังมันไว้ที่บ้านพร้อมๆกับคำถามที่ว่า ความรักแท้ของหมามีจริงไหม วันนี้ ผมไม่ต้องการคำตอบอีกแล้ว ที่ทำได้ก็แค่ เสียน้ำตา.....

13-6-49




 

Create Date : 15 มิถุนายน 2549    
Last Update : 15 มิถุนายน 2549 15:05:22 น.
Counter : 417 Pageviews.  

อีกหนึ่งเสียงที่หายไปจากบ้านหลังเล็ก

หลังจากไอ้เป้ตายไป 17 วัน ยังไม่คุ้นชินกับหนึ่งเสียงที่หายไปได้ไม่เท่าไหร่ วันนี้ อีกหนึ่งเสียงก็ได้หายไปอีกเช่นกัน
พอไอ้เป้ตาย เมียมัน อีนังโอเล่ ไม่กินข้าวและน้ำเลย ขนาดหมายังทำใจไม่ได้กับการจากไปของสิ่งที่มันรัก.....
ผมได้รับรู้อย่างแท้จริงจากความรักของหมาแล้ว วันนี้ การตายเพราะตรอมใจ มีอยู่จริงๆ ความรักของหมามันยิ่งใหญ่แค่ไหน และความรักของคนมันยิ่งใหญ่แค่ไหนกันนะ บางเรื่องอาจไม่ต้องการ การพิสูจน์
ทำได้แค่สงสัย และเสียน้ำตาจริงๆ


28/5/49




 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 30 พฤษภาคม 2549 18:55:39 น.
Counter : 360 Pageviews.  

1  2  3  

ความตายสีชมพู
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่มีใครเลวไปกว่าใคร แค่อยากไปให้ไกลๆจากทุกคน.....

Friends' blogs
[Add ความตายสีชมพู's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.