บลอกของคนตัวเล็กๆ h blog
Google
Group Blog
 
All blogs
 
ความพยายามของลูกไก่ป่า.....

เคยบอกเพื่อนๆเอาไว้แล้วว่า ถ้าคิดจะคบกันรักกัน อย่าคุยกัน 2 เรื่องนี้ เพราะมันอาจจะทำให้เรามองหน้ากันไม่ค่อติด ในวันนั้นที่พูดไปมันคงนึกว่าเราพูดเล่นมั้ง เรื่องทะเลาะกันของคืนเมื่อวานมันถึงได้เกิดขึ้น

"อย่าคุยกะกูเรื่องศาสนาและการเมืองนะเว่ย"
"เรื่องอื่นคุยได้หมดยกเว้น การเมืองกับศาสนานะ"
พอมานั่งคิดดูแล้ว คงเป็นเพราะเรามันเป็นคนพูดอะไรแล้วฟังดูเหมือนเล่นๆไปหมดมั้ง คนฟังถึงได้ไม่ค่อยเชื่อกัน

เกลียดการเมืองหว่ะ.....

แต่...เคยมั้ย ไปถามใครคนหนึ่งว่า คุณชอบพรรคการเมืองอะไร แล้วเขาตอบว่า ขอโทษครับ ผมไม่สนใจการเมืองหน่ะ
นั่นแหละ จงรู้ไว้เลยว่าเขาเป็นคนที่สนใจการเมืองมากในระดับนึงเลยนะ คนที่ตอบอย่างนี้หน่ะ

ตอนอายุ 26 ผมไปบวช ตอนสึกออกมาค่าโทรศัพท์แพงยิ่งกว่า 3 เดือน รวมกัน ผมบวชเพราะอยากบวช จริงๆไม่ต้องบวชก็ได้ เพราะพ่อผมไม่ใช่คนพุทธ แม่เป็นคนจีน น้องคนกลางก็ถือคริสต์ ส่วนคนเล็กนับถือตามพ่อแต่จริงจังกว่า เวลาวันอาทิตย์ถ้าทุกคนได้มานั่งกินข้าวพร้อมกันต้องระวังไว้ให้ดีอย่าเปิดประเด็น ศาสนาขึ้นมา ไม่งั้น เราจะต้องกินน้ำกันเยอะกว่ากินข้าวแน่ๆ

ผมบวชที่สุราษฏร์ วัดเล็กๆ ที่พอเราเข้าไปบวชแล้วแทบจะกลายเป็นรองเจ้าอาวาสเลยทีเดียว เพราะทั้งวัดมีพระอยู่รูปเดียวนั่นคือเจ้าอาวาส การไปบวชของผมนั้นเหมือนผมตั้งใจเข้าไปหาเต็มที่ แต่อาจจะเป็นเพราะสติปัญญาเรามันน้อยต่ำเตี้ยเลียดินก็ได้ ผมจึงไม่ได้อะไรแบบที่ผู้ชายไปบวชแล้วได้ออกมากัน...ผมไม่เห็นสงบเลย ผมชอบนั่งดูลูกวัวที่เป็นโรคจิตตัวหนึ่งในวัด ผมชอบให้อาหารแมว หมา มากกว่านั่งท่องบาลีในกุฏิ ชอบกวาดเศษใบไม้แห้ง ล้างบาตร และอย่างอื่นมากกว่า
สิ่งที่ผมชอบที่สุดในการบวชคือ การเดินบิณฑบาตรตอนเช้า อากาศบริสุทธิ์ เดินตามตาหลวงไป ใจผมสงบ แทบจะทุกบ้านเขาจะตักบาตรกันหมด นี่คือสิ่งที่แตกต่างกับกรุงเทพ เมื่อเดินกลับมาถึงวัด เด็กวัด หมา แมว ก็เตรียมตัวอิ่มกันได้เลย เพราะกับข้าวอาหารเยอะมาก กินกันทั้งวัด ยังเหลือทุกวัน

วันหนึ่งก่อนสึกพระประมาณ 2 วัน ผมล้างบาตรอยู่แถวๆเล้าไก่ป่าในวัด แม่ไก่ป่าตัวนี้ ตอนผมเข้ามาใหม่ๆ มันพึ่งมีลูกไก่ของมันพอดี 6-7 ตัวได้มั้ง ผมก็เลยเห็นการเติบโตของลูกไก่ป่านั้นไปพร้อมๆกับแม่ของมันเอง เล้าไก่ป่านี้เป็นเล้าไก่แบบเปิด อยู่ใต้ต้นสาละ ไม่รู้ว่าสะกดอย่างนี้หรือเปล่านะ
วันนั้นผมล้างบาตร จาน ช้อน และอื่นๆอยู่หน้ากุฏิ ผมเพิ่งสังเกตว่า วันนี้แม่ไก่ป่า พาลูกๆของมันออกมาเดินเล่นกัน มันเดินกันเป็นขบวนน่ารัก ผมล้างไปดูไป แล้วจู่ๆพวกมันทั้งหมด ก็ไปหยุดอยู่ใต้ต้นไม้ที่มีกิ่งไม้มากต้นหนึ่งซึ่งก็ไม่ได้ห่างอะไรกับผมมากนัก ต้นไม้ต้นนั้นมีกิ่งเล็กกิ่งน้อยยุ่บยั่บไปหมดดูแล้วน่าปวดหัว ทันใดนั้นแม่ไก่ตัวนั้นก็กระโดดเกาะกิ่งไม้ขึ้นไปทีละกิ่ง ทีละกิ่ง ขึ้นไปสูงทีเดียวประมาณว่าตึก 2 ชั้นได้มั้ง ผมมองอย่างตื่นเต้น แม่ไก่ป่าเมื่อขึ้นไปข้างบนได้ ก็ขันซะหน่อย เหมือนจะบอกว่า แม่ทำได้ แล้วมันก็ง่ายมากซะด้วย มันเกาะอยู่นิ่งบนกิ่งที่ดูใหญ่และแข็งแรงที่สุด และตอนนี้สิ่งที่น่าตื่นเต้นกว่าก็เกิดขึ้น ลูกไก่ทั้งหมดของมันพยายามที่จะปีนต้นไม้ขึ้นไปเหมือนแม่ของมัน พวกมันพยายามกระโดดเกาะกิ่งเล็กๆเหล่านั้น แล้วพาตัวมันขึ้นไปบนนั้น ทีละกิ่งๆ ผมมองอย่างตื่นเต้น นี่สิวะ reality ผมนึกในใจ ...

ในพลันนั้นเองผมเพิ่งสังเกตเห็นลูกไก่ตัวนึง ตัวมันดูเล็กกว่าตัวอื่นนิดหน่อย กำลังพยายามกระโดดขึ้นไปเหมือนตัวอื่นๆ แต่ที่แตกต่างก็คือ มันขึ้นไปได้ 2-3 กิ่งแล้วก็จะตกลงมา ขึ้นไปใหม่ได้อีก 3-4 กิ่งแล้วก็ตกลงมาอีก ผมมองมันอย่างเอาใจช่วย ดูความพยายามเล็กๆของมัน สิ่งที่มันกำลังทำอยู่นี้ไม่ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆให้กับโลกนี้ แต่มันกำลังจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกับผมไปตลอดกาล...

ผ่านไปเกือบครึ่ง ชม. ทุกตัวขึ้นไปอยู่บนกิ่งนั้นกับแม่ของมันหมดแล้ว พวกมันทุกตัวขึ้นไปนั่งเรียงกันข้างบนส่งเสียงจิ๊บๆน่ารัก เหลือเพียงแต่มัน มันกระโดดอยู่อย่างนั้น แล้วก็ตกลงมา กระโดดไป แล้วก็ตกลงมาอีก เหมือนภาพซ้ำๆกัน ผมรู้สึกเหงาขึ้นมาแบบบอกไม่ถูก มองมันแล้วก็คิดไปเรื่อย ผมคิดเล่นๆ ว่าอาจเป็นเพราะเราไปจ้องมองมันมากเกินไปหรือเปล่านะ ทำให้มันรู้สึกขยับตัวยากมากขึ้น เนื่องจากถูกจับจ้องจึงทำให้มันรู้สึกกดดันหรือเปล่านะ ว่าแล้วผมก็ลุกไปไหนสักที่ดีกว่า
พักใหญ่เลยทีเดียวที่ผมจากไปไม่อยู่รอดูการพยายามของมัน สงสัยว่ามันคงจะรอผมอยู่เหมือนกัน เมื่อผมกลับมามันก็กระโดดให้ผมดูอีกหนึ่งครั้ง แต่ครั้งนี้มันแตกต่าง มันกระโดดเกาะกิ่งแรก สอง สาม ไปทีละกิ่งอย่างสวยงาม ช้าแต่มั่นคงเหมือนจังหวะการเดินของหัวใจของผมยามเมื่อผมนึกถึงทะเลที่ชื่อเสม็ด ถ้ามันพูดได้มันคงบอกว่า เฮ่ เอ็มดูนี่สิ...
มันกระโดดให้ผมดูหรือเปล่านะ มันกำลังสอนอะไรผมอยู่หรือเปล่านะ เราอาจจะช้ากว่าคนอื่นนะ แต่เราตั้งใจจะไปแล้วนี่ งั้นเราจะไปให้ดู ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นมันก็คือมันขึ้นไปเกาะบนกิ่งรวมกับเพื่อนพี่น้องของมันอย่างเต็มภาคภูมิ

การบวชครั้งนั้นจบลงด้วยบิลค่าโทรศัพท์น่าปวดหัว น้ำตาของเจ้าอาวาสในวันที่สึกผม เนื่องด้วยแกคงเหงาไปอีกนาน เพราะไม่มีใครมาบวชวัดนี้เกือบ 3 ปีแล้ว แกต้องอยู่คนเดียวมาตลอด ผมรู้สึกสงสารแกเหมือนกัน ผมอาจจะไม่ได้อะไรกลับไปมากนักเหมือนที่ชายไทยทั่วไปบวชแล้วได้กัน แต่สิ่งที่ผมได้กลับไปนั้น เป็นข้อคิดเป็นการเตือนสติผมอย่างนึงที่ดีทีเดียว ลูกไก่ตัวนั้นมันสอนผม ให้ผมพยายามขึ้นอีก ให้ผมช้าลงอีกนิดในเรื่องที่ควรจะช้า แล้วไปให้เร็วสุดๆไปเลย ถ้าเราพร้อม

ก่อนการบวช ผมเป็นคนห่ามกว่านี้เยอะ ทำอะไรลวกๆ รนๆ ใจร้อน คิดว่าจะทำอะไรแล้วก็ทำเลย ไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกใครสักเท่าไหร่ หลังบวชกลับมาหลายคนบอกผมดูดีขึ้นนะ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น วันนี้ที่ผมกลับมา ผมเหมือนลูกไก่สีน้ำตาลในวันนั้น คอยดูผมไว้ให้ดี แม้วันนี้ ทุกคนจะทิ้งห่างผมไปหมดแล้ว แต่ผมจะไปให้ดู มาดูกันมาผมจะไปได้สักกี่น้ำ.....

ภาพของลูกไก่ป่าในวันนั้น เมื่อผมนึกขึ้นมาเมื่อใด ผมจะเรียกมันว่า "สิ่งดีงาม"
3:55 6/3/2549


Create Date : 06 มีนาคม 2549
Last Update : 6 มีนาคม 2549 17:17:23 น. 2 comments
Counter : 371 Pageviews.

 
say hi...
ชอบเรื่องนี้จังเจ้าลูกไก่น้อยๆ


โดย: pat IP: 203.170.244.131 วันที่: 21 มีนาคม 2549 เวลา:12:07:44 น.  

 

โห ... เห็นภาพเลย ... เก่งมากๆ
เคยดูการ์ตูนเรื่องนึง เป็นการ์ตูนประกอบเพลงคลาสสิค ... เพลงนั้นอาจจะเป็นเพลง Swan Lake หรือไง ... จะเป็นบรรยากาศในป่าอันสดใส มีเป็ดค่อยๆ ฟักตัวออกมาจากไข่ ... แล้วก็เดินตามกันไปลงน้ำ ... ในบรรดาลูกเป็ดทั้งหมดก็มีอยู่ตัวนึงรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนตัวอื่น ... มันดูเก้งก้างมาก ... (ไม่น่ารักซักนิดเดียว) พวกลูกเป็ดต่างก็ว่ายน้ำไปด้วยลีลาสวยงามตามจังหวะเพลง ส่วนเจ้าลูกเป็ดขี้เหร่ก็ว่ายน้ำได้น่าเกลียดมาก เลยไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อน และในที่สุดก็ต้องแยกตัวมาอย่างโดดเดียว ... น้ำตาไหลนิดๆ น่าสงสารซะ ... ช่วงที่มันเดินจากมาและลงว่ายในน้ำอีกแห่งนึง ก็ให้อารมณ์ประมาณว่ากาลเวลาได้ค่อยๆ ผ่านไป มีใบไม้ร่วงเล็กน้อย มีลมพัด สิ่งเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นไปคือ เจ้าลูกเป็ดที่ค่อยๆ ว่ายน้ำไปนั้นก็มีลำคอยาวระหงขึ้น ขนของมันก็เป็นสีขาวสวยงาม ปีกของมันค่อยๆ กรีดกรายไปกับลีลาการว่ายในน้ำ ... โดดเดี่ยวและสง่างาม ... เหมือนคนกำลังเต้นบัลเล่ย์ ... ที่แท้แล้วมันเป็นลูกหงส์นั้นเอง ... พวกเจ้าลูกเป็ดก็มาเห็นเข้า ... และก็พากันดูด้วยความตื่นตะลึง ... เป็นการ์ตูนประกอบเพลงสั้นๆ ที่ ... ว้าว มากๆ ... เรื่องนึง ...
มันก็สอนอะไรเราบางอย่างเหมือนกัน


โดย: yourstarlight (yourstarlight ) วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:25:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ความตายสีชมพู
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่มีใครเลวไปกว่าใคร แค่อยากไปให้ไกลๆจากทุกคน.....

Friends' blogs
[Add ความตายสีชมพู's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.