บลอกของคนตัวเล็กๆ h blog
Google
Group Blog
 
All blogs
 
กินข้าวววว เสียงเรียกแบบนี้จะไม่มีอีกแล้ว.....

คงจะเป็นเรื่องหมา เรื่องสุดท้ายแล้ว หลังจากไอ้เป้ตายไป เมียมันโอเล่ตรอมใจ ไม่กินข้าวกินปลาได้ 10 กว่าวันแล้วก็ตายตามมันไป เหลือลูกมันตัวเดียวไว้ให้ผมเลี้ยงต่อ คือไอ้ป๊อกแป๊ก หมาพ่อแม่ลูก 3 ตัวนี้มันรักกันมากๆ เมื่อพ่อตายไป แม่ตรอมใจตายตาม วันนี้ป๊อกแป้ก หมาอายุ 11 ปี ตัวสุดท้าย ในตระกูลได้ตายจากไปอย่างน่าสงสาร มันไม่กินข้าวกินน้ำเลย ตั้งแต่อีนังโอเล่แม่มันตาย ตอนไอ้เป้ตายแม่มันไม่กินอะไรเลยเหมือนกัน แต่ไอ้แป๊กมันกิน กินเหมือนตั้งใจจะกินให้แม่มันดู เหมือนชวนแม่มันมากินข้าว แต่โอเล่ก็ไม่กิน พอแม่มันตายไป แป๊กมันไม่เคยเห่าเลยอีกเลย ไม่กินข้าวไม่กินน้ำ นอนอยู่ตรงใต้ต้นมะม่วงหลังบ้านตรงที่แม่มันตายตลอด ตอนตี 1 เมื่อคืนวาน ฝนทำท่าจะตก ผมเห็นมันลุกเดินกระย่องกระแย่งมานอนรอฝน ผมมองมันออกมาจากในออฟฟิส ที่ปิดไฟมืด ใจผมสั่นๆ คิดว่าเฮ่ ย ไม่จริงใช่ไหม ผมสงสารมันมากๆ แต่ใจนึงก็อยากรู้ว่าถ้าฝนตกมันจะลุกหนีไหม
ฝนตก มันนอนตากฝน.....จริงๆ แล้วมันตั้งใจนอนตากฝน ผมรู้ เพราะฉะนั้นผมจึงปล่อยมันไว้อย่างนั้น

ป๊อกแป๊กเป็นหมาที่น่าเกลียดมากๆ ไม่น่ารักเลย ขนมันหยาบกระด้างตัวไม่เล็กไม่ใหญ่มองดูปราดเดียวก็รู้ว่ามันเป็นหมาพันธ์ทางชั้นแย่ ผมแทบจะไม่เคยเล่นกับมัน แต่หลังจากไอ้เป้พ่อมันตาย ผมลองมองมันมุมใหม่ พบว่าถึงมันไม่น่ารักเลย แต่มันเป็นหมาที่ดูน่าสงสารตลอดเวลา เจ๊ขายของชำบ้านตรงข้ามเรียกมันว่า ไอ้หมาไม่มีศักดิ์ศรี ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาเรียกแบบนั้น
วันนี้มันไม่ยอมกินอีกแล้ว พ่อผมจับเอาข้าวป้อนใส่ปาก มันก็ไม่ยอมกิน พ่อผมเลยพูดกับมันว่า ไอ้แป๊กมึงอยากตายเหมือนแม่มึงเหรอข้าวไม่ยอมกิน เหลือเชื่อ พูดเสร็จมันก็ลุกขึ้นเดินกระย่องกระแย่งไปหลังบ้าน เดินไปตรงหลุมของแม่มัน เกือบจะถึงแต่ไม่ถึงมันล้มลงก่อนสัก 2 เมตรที่จะถึงแม่มัน แล้วก็เริ่มนอนระบายลมหายใจรวยริน อยู่ที่ใต้ต้นมะม่วงนั่นเอง พูดจริงๆคือน้ำเน่ามากๆ แต่เศร้าชิบเป๋ง แม่ผมเดินไปหามัน แล้วท่องคำว่า พุทโธ ๆ แล้วชวนให้มันท่องตาม ผมขำมากๆ ต้องรีบเดินหนีเพราะน้ำตาผมจะไหล เราเคยพามันไปหาหมอแล้ว หมอบอกว่าเกิดจากการตกใจหรือว่าช็อคอย่างแรง ฟังดูตลก แต่หัวเราะไม่ออก วันนี้พ่อเอามันมานอนตรงแถวๆหน้าต่างห้องครัว เอาพัดลมตัวเก่าๆมาเปิดให้มัน มันนอนนิ่งๆไม่ขยับเลย ผมสงสัยว่าถ้าไม่มีพัดลมมันจะเป็นยังไง จะมีแมลงวันมาบินป้วนเปี้ยนอยู่ที่ตัวมัน เหมือนแม่มันตอนใกล้ตายไหม
4 ทุ่มกว่าผมเดินไปชงกาแฟ จู่ๆก็รู้สึกแวบเข้ามาในใจว่าควรจะเดินไปดูมันหน่อย ผมตั้งใจไว้ว่าถ้ากาแฟหมดแก้ว จะเดินลงไปดูมันไปชวนมันคุย คุยอะไรกันก็ได้ กาแฟไม่ทันหมดแก้ว คนงานเข้ามาเรียกบอกว่า ไอ้แป๊ก ตายแล้วนะ ผมตกใจมากรีบลงไปดู มันตายแล้วจริงๆ รู้สึกโมโหตัวเองมากๆๆๆ ที่มัวแต่กินกาแฟ คนงานบอกว่ามันตายน่าสงสารมาก มันเป็นตัวเดียวในบ้านที่ตายโดยไม่มีใครรู้ ไม่มีใครมายืนอยู่ใกล้ๆมันตอนมันตาย ผมยืนชงกาแฟอยู่ที่ขอบหน้าต่าง ชะโงกหน้าลงไปก็มองเห็น แต่ไม่ทำ รู้สึกผิดและเศร้ามากๆๆๆๆ ช่วงชีวิตก่อนที่มันจะตายนั้น ทุกวันคงทรมานสำหรับมันมากๆ หวังว่าอย่างน้อยที่สุดก่อนตายมันคงเห็นภาพ พ่อและแม่มันนะ ผมก้มลงไปพูดกับร่างไร้วิญญาณอย่างไม่อายคนงานที่ยืนอยู่ข้างๆ บอกมันว่าแล้วเจอกันนะไอ้แป๊ก เดี๋ยวจะขุดฝังให้นะ 2 ตัวก่อนหน้านี้ คนงานกับพ่อขุด แต่กับแป๊กพี่เอ็มจะขุดฝังให้เอง พี่ทำได้แค่นี้จริงๆ

ผมฝังหมาพ่อแม่ลูก 3 หลุมเรียงเคียงคู่กัน นึกถึงกลอนไฮกุ ที่เคยร่วมกันแต่งกับน้องตอนมัธยมขึ้นมา “แม่ปลาพาลูกปลาน้อยล่องลอยว่ายสู่ดวงจันทร์” ผมฝังมันไว้ที่บ้านพร้อมๆกับคำถามที่ว่า ความรักแท้ของหมามีจริงไหม วันนี้ ผมไม่ต้องการคำตอบอีกแล้ว ที่ทำได้ก็แค่ เสียน้ำตา.....

13-6-49


Create Date : 15 มิถุนายน 2549
Last Update : 15 มิถุนายน 2549 15:05:22 น. 5 comments
Counter : 416 Pageviews.

 
อ่านแล้วน้ำตาจะไหลครับ

ถึงแป๊กจะไม่น่ารัก แต่แป๊กก็จิตใจงามนะครับ


โดย: T_Ang วันที่: 15 มิถุนายน 2549 เวลา:16:40:30 น.  

 
เศร้าอ่ะค่ะ


โดย: chubbycherry วันที่: 15 มิถุนายน 2549 เวลา:19:20:33 น.  

 
อ่านแล้วสะเทือนใจ

แต่มันก็ไปดีแล้วนะครับ


โดย: konku (konku ) วันที่: 15 มิถุนายน 2549 เวลา:20:14:35 น.  

 
เมื่อไหร่จะมีเรื่องใหม่ๆมาเล่าให้ฟังอีกอ่ะ รออ่านอยู่นะ


โดย: แพท IP: 203.170.244.131 วันที่: 17 กรกฎาคม 2549 เวลา:12:42:59 น.  

 


โดย: Serendipity_t วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:19:50:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ความตายสีชมพู
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่มีใครเลวไปกว่าใคร แค่อยากไปให้ไกลๆจากทุกคน.....

Friends' blogs
[Add ความตายสีชมพู's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.