แม่จะเข็มแข็งเพื่อหนู/ที่หนึ่งในหัวใจ
Group Blog
 
All blogs
 

เขียนถึงคนบนฟ้า







7 ปีที่ได้รู้จักได้อยู่ร่วมกัน

ดูช่างรวดเร็ว

ถึงแม้เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในอีก 20 หรือ 30 ปีข้างหน้า

มันก็คงไม่แตกต่างกันในความรู้สึก

การที่ต้องสูญเสียคนที่รัก

คนที่เคยอยู่ข้างกาย

คนที่เคยเป็นที่ปรึกษา

คนที่เคยตักเตือนด้วยความหวังดี

คนที่ให้และยอมเราในสิ่งที่ดูไร้สาระ

จากนี้ไปคงไม่มีอีกแล้ว

เราคงไม่มีโอกาสได้หัวเราะกัน

กระเซ้าเย้าแหย่ หรือต้องถียงกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง

เหมือนอย่างเคยๆ

บางครั้งก็นึกโกรธเฮีย

ที่อยู่ๆ ก็มาทิ้งกันไป

แต่ก็นั่นหล่ะเมื่อได้เห็นความพยายามของเฮียอย่างที่สุดแล้ว

เพ็ญก็คิดว่าการปล่อยเฮียไป

ย่อมดีกว่าเห็นเฮียทรมาน

ดีใจที่ได้อยู่กับเฮียจนถึงนาทีสุดท้าย

ถึงแม้เฮียจะไม่ได้พูดกล่าวอะไรไว้

แต่การเห็นเฮียจากไปอย่างสงบ

ทำให้เพ็ญคิดว่า

ถึงแม้เวลานาทีของเฮียบนโลกของความจริงหมดลงแล้ว

แต่สำหรับเพ็ญเวลาของเฮียไม่เคยหมด

ร่างกายของเฮียอาจสูญสลายไป

แต่ในความทรงจำของเพ็ญเฮียยังคงอยู่

ถึงแม้เฮียจะบอกกล่าวอะไรไม่ได้

แต่เพ็ญเชื่อว่าเฮียยังคงคอยนำทางและเป็นกำลังใจให้อยู่เสมอ

มีในหลายๆ เรื่องที่เฮียสั่งไว้แล้วเพ็ญอาจไม่ได้ทำตามนั้น

เพ็ญคิดว่าเฮียเองก็คงเข้าใจถึงเหตุและผลว่าทำไมถึงไม่สามารถทำได้

ตอนนี้รูปเฮียแขวนอยู่ที่บ้าน

ตอนเช้าและก่อนนอน

จะบอกปันปันให้ สวัสดีพ่อ

ให้เค้ารู้สึกว่าเฮียยังอยู่เพียงแต่เค้ากอดพ่อเค้าไม่ได้

เฮียไม่ต้องน้อยใจหรือเสียใจนะ

ที่อยู่ดูแลปันปันไม่ได้

เพ็ญบอกปันปันทุกวันถึงความรักที่เฮียมีให้

เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เฮียทิ้งไว้

จะเป็นทุนการศึกษาปันปัน

ให้ปันปันรับรู้ว่าพ่อไม่เคยทอดทิ้งเค้าไป

พ่อไม่อยู่ด้วยเพราะเหตุจำเป็น

ทุกเวลานาทีที่อยู่กับปันปัน

เพ็ญจะพูดถึงเฮียเสมอ

จนถึงวันหนึ่งที่เค้าจะสามารถเข้าใจได้เอง

วันสุดท้ายที่เมรุ ปันปันถามว่า

ทำไมต้องเผาพ่อด้วย ไม่เผาพ่อได้ไหม

เพ็ญได้แต่บอกไปว่า พ่อจะได้ไปขึ้นสวรรค์

จะมีเทวดากับนางฟ้ามารอรับพ่ออยู่

ถ้าเมื่อไหร่ปันปันคิดถึงพ่อก็ให้ปันปันมองขึ้นไปบนฟ้า

พ่อก็จะมองปันปันอยู่บนนั้น

ปันปันแหงนหน้าขึ้นไปมองฟ้า

แล้วหันกลับมาทำหน้าเศร้าซบลงที่ไหล่เพ็ญ

ท่าทางที่ใสซื่อของปันปันแบบนี้หล่ะ

ที่คงเป็นทั้งสิ่งที่ทำให้จิตใจเพ็ญเข้มแข็งและอ่อนแอให้คราวเดียวกัน

บางครั้งเพ็ญก็คิดกังวลถึงอนาคต

เมื่อปันปันโตขึ้นและเป็นเด็กผู้ชาย

อาจจะมีบางช่วงเวลาที่เพ็ญคงเข้าไม่ถึงความคิดหรือโลกของปันปัน

ถึง ณ ตอนนั้นเพ็ญจะทำอย่างไรดี

แต่เพ็ญไม่ห่วงแล้วหล่ะเฮีย

เพราะเพ็ญมีเพื่อนที่ดี

เพื่อนๆ หลายคนที่มีลูกชาย

หลายคนจดจำเรื่องราวของเฮียได้เป็นอย่างดี

เวลาอ่านเรื่องราวที่เพื่อนๆ เขียนถึงเฮีย

เพ็ญต้องพลอยเช็ดน้ำตาไปหลายรอบ

เพ็ญและปันปันเองก็ได้รับความห่วงใย

ความช่วยเหลือมากมายทั้งจากเพื่อนของเฮีย

และเพื่อนของเพ็ญ

นี่คงเพราะสิ่งดีดีที่เฮียได้ทำไว้

พลอยนึกย้อนไปถึงวันแรกที่ได้เจอกัน

และเพลงแรกที่เฮียได้ให้เพ็ญไว้

เป็นคำถามที่ได้รับคำตอบแล้ว

ฉันยังคงสงสัย รู้สึกอยู่ไม่หาย ก็คิดว่าเธอคงรักกัน

และฉันก็รอฟัง รอฟัง แค่หนึ่งคำนั้น ที่เธอยังไม่เคยบอกฉันเลย



เห็นแววตาลึกซั้ง ที่เธอมีให้ฉัน มันมากเกินคำว่าเพื่อนกัน

ดูคล้ายเธอมีใจ ดูเธอช่างห่วงใยฉัน แต่กลัวที่ฉันเดามันจะไม่จริง

ถึงแม้เพ็ญจะเคยพูด เคยบอกกับเฮียไป

แต่วันนี้เพ็ญขอบอกกันเฮียให้ชัดๆ อีกครั้งว่า



จากวันนี้เธอคือที่สุด ฉันรักเธอที่สุด

ไม่ว่านานเท่าไหร่จะไม่หยุดรักเธอเลย

จากวันนี้เธอคือที่หนึ่ง ฉันให้เธอที่หนึ่ง

ซึ่งฉันไม่คิดว่าฉันจะรักใคร ได้เท่านี้เลย

รักเสมอ

เพ็ญและปันปัน




 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2551 6:41:32 น.
Counter : 481 Pageviews.  

ลมหายใจสุดท้าย

จากที่เฮียกลับเข้า รพ

ด้วยอาการของโรคซึมเศร้า

และกำลังจะได้ออกเมื่อวันเสาร์

แต่คืนวันศุกร์เฮียอ้วก 2 ครั้ง

จากนั้นเริ่มพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง

จะเดินเข้าห้องน้ำเอง

น้องเล็กดูไม่ทันเลยหกล้มแต่ไม่เป็นไรมาก

หมอเลยให้ล็อคเตียงไม่ให้ลง

เฮียเริ่มอาละวาด โวยวายเสียงดัง

ด่าทอด้วยคำหยาบคาย

เรากับปันปันไปถึง รพ บ่ายสามกว่า

ปันปันทักทายเฮียเป็นอย่างดี

ระหว่างนั้นเฮียก็ยังโวยวายอยู่

อยากให้เอาที่ล็อคเตียงลง

เราพยายามอธิบายยังไงแกก็ไม่ฟัง

บอกไปว่าถ้าจะเอาลงให้นางพยาบาลมาเอาลงให้

ปันปันได้ยินก็เดินออกไปจากห้อง

น้องเล็กเดินตามไปถามว่าปันปันจะไปไหน

ปันปันบอก หนูจะไปบอกพยาบาลให้มาเอาลงให้พ่อ

เราเคยถามปันปันว่า

ปันปันเคยโกรธพ่อไหมเวลาที่พ่อตี

ปันปันบอก ไม่เคยโกรธ

นอกจากปันปันจะหน้าตาเหมือนเฮียแล้ว

หลายสิ่งหลายอย่างก็ถอดแบบมา

ชนิดที่คนรอบข้างเห็นแล้วรู้ว่าเป็นใครเลยหล่ะ


สักพักหมอมาปรึกษาจะขอให้ย้ายห้อง

จากชั้น 12 ไปอยู่ชั้น 3

เพราะชั้น 3 มีเหล็กดัดอยู่เปิดออกไปไม่ได้

หมอแกกลัวว่าเฮียอาจทำอะไรที่เราคาดไม่ถึง

เราตกลง แต่ห้องที่ย้ายไปเป็นห้องเดี่ยวก็จริง

แต่เป็นห้องน้ำรวม ไม่มีทีวี ตู้เย็น

ห้องเล็กค่อนข้างอึดอัด

สำหรับเฮียแกก็คงเหมือนกัน

แกได้อยู่แค่บนเตียง

ถูกมัดมือ มัดเท้าอยู่

ไม่ยอมกินข้าว ดื่มน้ำ หรือทานยา

จำเป็นต้องให้อาหารทางสายยาง

ใช้ผู้ชาย 4 คนถึงจะเอาเฮียอยู่

ยาที่ให้ก็ช่วยได้เป็นพักๆ

บางครั้งแกก็นอน พอรู้สึกตัวก็โวยวายให้แก้มัด

แต่แกเรียบเรียงคำพูดไม่ค่อยได้

จำสับสนหรือพูดเพ้อไปเรื่อย

ใครถามอะไร แกจะไม่ตอบ

บอกให้แก้มัดอย่างเดียว

ถ้าไม่ทำให้จะด่าและโมโหมาก

กลางคืนแกพูดพร่ำ

แต่ประโยคหนึ่งที่จำได้ดีคืน

แกบอกว่า

ปันปันเอาหมอนแล้วมานอนนี่มา

เอาผ้ามาห่มด้วย

สำหรับปันปันคงอยู่ในจิตใต้สำนึกตลอดเวลา

ตอนนี้แกไม่ใช่คนเดิมที่เราเคยรู้จัก

แกไม่รับรู้สิ่งที่เราสื่อสาร

อาจจะด้วยฤทธิ์ของยา

หรืออาจเป็นด้วยอาการสมองบวม

หรือจะอะไรก็แล้วแต่

มันก็กำลังทำร้ายเฮียและเราอย่างช้าๆ

แกหลับๆ ตื่นๆ อยู่ตลอดเวลา

ในสถานการณ์แบบนี้เราไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะต้องเจอ

บอกตรงๆ ว่ารับไม่ทัน

เครียดมาก

เห็นแกโดนมัดก็สงสาร

แต่ถ้าไม่ทำแกก็เป็นอันตรายต่อตัวเอง

และคนอื่นๆ ได้

วันอาทิตย์พบหมอ

หมออยากให้ หมอทางจิตมาช่วยดูเกี่ยวกับยาด้วย

ถามว่าจะมีปัญหาอะไรไหม

เราเองคงไม่ขัดข้อง อะไรก็ได้ที่เฮียจะได้กลับบ้าน

อยากให้เค้าได้กลับบ้าน

วันจันทร์น้องเล็กเฝ้าโทรไปถามอาการเป็นระยะๆ

ช่วงเช้าแกดูเป็นปกติ กินข้าว ดื่มน้ำเอง

แต่ก็เพียงสักพัก ก็เป็นเหมือนเดิม

ตอนที่เราไปหาแกแทบไม่มีสติ

ไม่รับรู้อะไร ตาเหม่อลอย

ผุดลุกผุดนั่งอยู่

แค่เราเดินไปจับมือแก

เราก็น้ำตาร่วงแล้ว

พูดไม่ออก

ตอนนี้ก็ใส่ท่อสำหรับปัสสวะด้วย

รู้สึกว่าข้างในแกทรมาน

แกอาจจะพูดอยู่ข้างใน

ที่ซึ่งใครๆ ก็ไม่ได้ยิน

รู้สึกอยากให้แกกลับบ้าน

22/1/2008

ตอนเช้าน้องเล็กโทรมา

บอกเฮียอ้วกหลายรอบมาก

ม่านตาไม่ตอบสนองการรับรู้

พยาบาลโทรบอกหมอ

หมอว่าให้ยาเต็มที่ ไม่สามารถให้มากกว่านี้ได้แล้ว

มีทางให้เลือกสองทาง

หากอาการแกทรุดมากไปกว่านี้

หนึ่งให้ทาง รพ ช่วยอย่างเต็มที่

อาจจะให้ออกซิเจนหรือปั๊มหัวใจ

ย้ายไปห้อง ซีซียู คือห้องเฝ้าระวัง

หรือสองปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ

ให้แกจากไปเอง

น้องเล็กพูดกับเราอยู่ 2-3 รอบ

เราฟังแล้วไม่เข้าใจ คงเหมือนไม่ได้ฟังที่พูดมากกว่า

น้องเล็กเลยบอกให้โทรเข้ามาคุยกับหัวหน้าพยาบาล

โทรมาก็ได้ความว่าทาง รพ ขอแจ้งไว้ก่อน

เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทาง รพ จะได้เตรียมรับมือให้ทัน

หากญาติต้องการให้ช่วยเหลืออย่างเต็มที

แต่หากไม่ต้องการให้เค้าทรมาน

ทาง รพ ก็แจ้งอาการให้ทราบเป็นระยะๆ เหมือนกัน

เราเลือกแบบที่สอง

ไม่อยากให้เค้าต้องทรมานโดยที่บอกเราไม่ได้ว่าเค้าเจ็บปวดอยู่

เพราะไม่เข้าใจว่าจะเลือกแบบที่หนึ่งทำไม

ถามหลายๆ คน บอกว่าก็คือการ ยื้อ อยากให้เค้าอยู่กับเรานานๆ

แต่สำหรับเราหรือน้องเล็กผู้เป็คนใกล้ชิด เป็นคนคอยเฝ้าดูแล

ก็เป็นการทรมานใจไม่แพ้เฮียที่ทรมานกายอยู่

สำหรับเราคิดว่าความรักของเราที่มีคือการให้เฮียได้สบายที่สุด

เจ็บปวด ทรมานน้อยที่สุด

ช่วงตอนตีสองครึ่งของวันที่ 22 อยู่ดีดี เฮียก็ชัก

เกร็งไปหมดทั้งตัว ตาค้าง กัดปากแน่น น้ำลายไหลออกมาเป็นทาง

เราบอกเฮีย ใจเย็นๆนะ แล้วรีบกดออดเรียกพยาบาล

พยาบาลมาพยายามจะใส่ยางกันกัด แต่เฮียก็กัดมากแน่นไม่ยอมเปิด

แล้วก็เอาสายออกซิเจนมาใส่ไว้ที่จมูก

เอาสายมาดูดน้ำลายออก

สักพักเฮียแก็สงบไปเอง

แกเป็นอยู่อย่างนี้ 3-4 ครั้ง

พยาบาลแจ้งหมอเวรให้มาช่วยดูอาการ

หมอฉีดยากันชักให้

แกก็ค่อยสงบลง

วันที่ 23/1/2008

วันนี้น้องเล็กเป็นคนเฝ้า

เราโทรถามอาการแล้วเข้าไปหาตอนสองทุ่ม

น้องเล็กว่าวันนี้เฮียชัยอาการดีขึ้นมาก

พูดแบบจับใจความได้

ส่วนใหญ่แกจะเน้นไปเรื่องงาน

กับเรื่องอาหารการกินเสียมากกว่า

แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร

ขอเพียงให้แกได้พูดได้สื่อสารกันบ้าง

ทั้งเราและคนอื่นๆ ก็พลอยสบายใจไปด้วย

วันนี้หมอมาดึกเกือบสามทุ่ม

หมอบอกว่า อาการของคนไข้โรคนี้

อาจจะทรงๆ ทรุดๆ อยู่เป็นระยะๆ

ให้ญาติรอดูอาการก่อนแล้วกัน

เผื่ออย่างไงอาจจะรับกลับไปดูแลที่บ้าน

หมอกลับไปแล้ว

แต่สิ่งที่หมอพูดก็เหมือนเป็นโจทย์อันใหม่

คุยกันกับน้องเล็ก ขอดูอาการเฮียก่อนสัก 2-3 วัน

แล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอายังไง

คืนนี้เราไม่ได้นอนเฝ้า

น้องเล็กจะอยู่แทนคืนนี้กับคืนพรุ่งนี้

เข้าวันที่ 24/1/2008

ช่วงตีหนึ่งน้องเล็กโทรมารอบหนึ่ง

บอกว่าเฮียแกหายใจไม่ค่อยดีนะ ดูเหนื่อยๆ

แต่บังเอิญเราหลับ น้องอีกคนรับสายแทนเลยไม่ได้บอก

คงด้วยเห็นว่ายังไม่เป็นอะไรมาก

จนถึงตีสี่น้องเล็กโทรมาอีก

เรารับสาย บอกน้องเล็กว่าจะรีบไป

ไปถึงเฮียแกหายใจเสียงดังมาก

แบบเหนื่อย หอบ

เราบอก เฮียหลับตาสิ นอนพักก่อน ค่อยๆ หายใจช้าๆ

แกบอกว่า นอนไม่หลับ

เราบอกงั้นก็สวดมนต์นะ

สวดแบบที่เฮียนับถือ

เฮียพูดไม่ค่อยได้เราสวดให้แทน

ตอนนี้เหมือนแกไม่ค่อยรู้สึกตัวแล้ว

ความพยายามทั้งหมดที่มีก็คือ การใช้แรงเพื่อหายใจ

หลายครั้งที่แกพอมีแรงยกมือขึ้นเพื่อที่จะดึงเอาหน้ากากออกซิเจนออก

เราก็จะจับมือแกไว้ บอกว่าไปดึงออกนะเด๋วหายใจไม่ได้

เวลา 7.00 น พยาบาลเอายามาให้ทางสายยาง

แกก็ค่อยๆ หายใจเบาลงไปบ้าง

ในการหายใจต้องแกแต่ละครั้ง

ดูเหมือนมันยากเย็น

เราจะคอยลูบหน้าอกแกให้ค่อยๆ หายใจ

บอกแกให้ใจเย็นๆ

เราจะนั่งอยู่ข้างๆ ไม่ได้ไหน

เฮียไม่ต้องห่วงหรือกังวลอะไรทั้งสิ้น

จะทำหน้าที่ทุกอย่างให้เหมือนเฮียยังอยู่

ทำเท่าที่ตัวเองจะทำได้

สักพักเฮียก็ค่อยๆ หายใจช้าลง

ช้าลง และสงบนิ่งไป

เราเดินไปเรียกพยาบาลให้ช่วยมาดู

เรียกน้องเล็กที่นอนอยู่ตรงโซฟา

พยาบาลเข้ามารุมล้อมเตียงเฮีย

ช่วยกันเรียกชื่อ และจับชีพจร

แล้วบอกว่า เฮียแกไปสบายแล้ว

จากนั้นก็เริ่มถอดหน้ากากออกซิเจน

เอาสายที่ให้อาหารออก

เรียกให้หมอมาตรวจดูอีกครั้ง

ช่วงนั้นเราก็โทรบอกแม่

และให้น้องเล็กโทรบอกน้องกับญาติคนอื่นๆ

ในรายละเอียดของงานคงขอไม่เล่าอะไรมาก

ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี

งานเอกสารราบรื่นทุกอย่าง

เพราะนี่คือเฮียชัย

แกเตรียมทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อย

ไม่อยากให้ใครต้องลำบาก

เสียดายก็แต่แกไม่ทันเห็น

ความหวังดี ความห่วงใยมากมาย

จากญาติ พี่น้อง เพื่อนๆ และอีกหลายๆคน

สำหรับเราคงขอกล่าวแทนเฮียชัยไว้ ณ ที่นี้ว่า

ขอบคุณทุกน้ำใจที่หลั่งไหลมา

หากมีโอกาสได้ตอบแทน ขออย่าได้เกรงใจ

เราและปันปันยินดีให้ความช่วยเหลือเท่าที่เราจะสามารถทำได้









 

Create Date : 29 มกราคม 2551    
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2551 10:59:11 น.
Counter : 542 Pageviews.  

Desperate Housewives

สมาคมแม่บ้านหัวใจเปลี่ยว

ความจริงพยายามหลีกเลี่ยงการดูซีรีย์ส

เพราะมันจะต้องติดทุกทีสิน่า

ครั้งนี้ก็เหมือนกัน

รู้ว่าเรื่องนี้มีมานานแล้ว

แต่ไม่ได้สนใจ

บังเอิญซื้อหนังที่หายากอยู่ 2-3 เรื่อง

เห็นมีเรื่องนี้เลยติดมาด้วย

ดูวันละแผ่น 4 ตอน

ละครหรือหนังมันก็เหมือนกับชีวิตหล่ะนะ

มีทั้งตอนที่สนุก ตอนที่น่าเบื่อ

ตอนตื่นเต้น ตอนดีใจ ตอนเศร้า ตอนทุกข์ใจ

เป็นธรรมดาที่เมื่อเราดูแล้วก็จะต้องย้อนกลับมาดูตัวเราเอง

แต่ดูเพื่อแก้ไข ดูเพื่อเอาอย่าง ดูเพื่อเตรียมรับมือกับหลายๆ สถานการณ์

นั่นก็คงแล้วแต่ตัวบุคคล

ดูจบ 1 ซีซั่นประมวลผล

สำหรับตัวละครหลักๆ 4 ตัว

ออกมาตามความคิดของตัวเองเป็นแบบนี้

ซูซาน เหมือนตัวแทนของผู้หญิงมากมายในสมัยนี้

ที่ยังดิ้นรน ไขว่คว้า แสวงหา และให้เวลากับความรัก

เชย อยากรู้อยากเห็น เซ่อ ซุ่มซ่าม แต่น่ารัก

กาเบรียล สาวมั่น เปรี้ยวจี๊ด โดนใจ

เป็นธรรมดาของสาวที่มีรูปเป็นทรัพย์

สิ่งที่ได้มาล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ใฝ่ฝัน

บ้านหลังใหญ่ รถสปอร์ต เครื่องเพชร ชายผู้ตามใจเธอทุกอย่าง

แต่เธอกลับเลือกให้ชีวิตต้องมีด้านมืด

ลินเน็ท แม่ลูก 4 ที่ยอมทิ้งชีวิตการงานที่กำลังไปได้สวย

มาเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ตามคำขอของสามี

เป็นเรื่องน่าแปลกที่ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน

แต่กลับไม่ประสบผลสำเร็จในการเลี้ยงลูก

คงเพราะอย่างที่หลายๆ คนบอก

ถ้าคุณสามารถเลี้ยงลูกคนหนึ่งจนประสบความสำเร็จได้

คุณก็สามารถเขียนตำราเลี้ยงลูกได้

การเลี้ยงลูกไม่มีสูตรสำเร็จ

เคร็ดลับใครเคร็ดลับมันหล่ะมั้ง

บรี สาวเพอร์เฟ็ก

แต่ล้มเหลวทั้งเรื่องชีวิตคู่และเรื่องลูก

เธอแกร่ง เธอเข้มแข็ง เธอรับได้ทุกสถาณการณ์

เธอเก็บทุกอย่างไว้ ภายใต้สีหน้าที่เรียบเฉย

แต่สักวันมันคงต้องระเบิด

ดูแล้วคิดว่าหลายเหตุการณ์ช่างจิกกัดได้เจ็บแสบดี

เพื่อนบ้านเป็นได้ทั้งมิตรและศัตรู

บางคนมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น

บางคนเห็นชีวิตของคนอื่นเป็นของเล่น

บางคนคิดว่าตัวเองอยู่เหนือคนอื่น

แต่ที่สุดแล้วทุกการกระทำย่อมได้รับผลตอบแทน

เมื่อถึงเวลานั้นเราเตรียมรับมันได้หรือเปล่า ???




 

Create Date : 19 มกราคม 2551    
Last Update : 29 มกราคม 2551 14:47:34 น.
Counter : 346 Pageviews.  

อา ทิ ต ย์ ที่ ส อ ง ข อง ปี ใ ห ม่

สิ่งที่ทำไปแล้วสำหรับปีนี้

1. เพื่อเป็นการประหยัดเงินซื้อนิตยสาร เลยเปลี่ยนเป็นเช่าที่ ร้านปันกันแทน

มีให้เลือกแบบ 11 เล่ม กับ 7 เล่ม ต่อสัปดาห์

รายเดือน Cosmo, Cleo, Elle, Image, เที่ยวรอบโลก, บ้านและสวน, อสท, Health & Cuisine, Maxim, A day, GM, GM Car
รายปักษ์ แพรว, ดิฉัน, ชีวจิต, ขวัญเรือน, เปรียว, พลอยแกมเพชร, Lips
รายสัปดาห์ สกุลไทย, ทีวีพูล, มติชน(รายสัปดาห์), Lisa, ขายหัวเราะ

ตัวอย่าง 1 * ตารางการส่งหนังสือตลอดเดือน แบ่งเป็นรายสัปดาห์ (สำหรับชุด 11 เล่มต่อสัปดาห์)
ที่ สัปดาห์ที่ 1 สัปดาห์ที่ 2 สัปดาห์ที่ 3 สัปดาห์ที่ 4
1 Cosmo อสท บ้านและสวน Maxim
2 Elle เที่ยวรอบโลก A-day Image
3 Health & Cuisine Cleo ชีวจิต ดิฉัน
4 GM ดิฉัน พลอยแกมเพชร เปรียว
5 แพรว Lips GM Lips
6 ชีวจิต ขวัญเรือน แพรว ขวัญเรือน
7 มติชน มติชน มติชน มติชน
8 สกุลไทย สกุลไทย สกุลไทย สกุลไทย
9 ขายหัวเราะ ขายหัวเราะ ขายหัวเราะ ขายหัวเราะ
10 ทีวีพูล ทีวีพูล ทีวีพูล ทีวีพูล
11 Lisa Lisa Lisa Lisa



ตัวอย่าง 2 * ตารางการส่งหนังสือตลอดเดือน แบ่งเป็นรายสัปดาห์ (สำหรับชุด 7 เล่มต่อสัปดาห์)
ที่ สัปดาห์ที่ 1 สัปดาห์ที่ 2 สัปดาห์ที่ 3 สัปดาห์ที่ 4
1 Cosmo อสท บ้านและสวน Maxim
2 Elle เที่ยวรอบโลก A-day Image
3 Health & Cuisine Cleo ชีวจิต ดิฉัน
4 GM ดิฉัน พลอยแกมเพชร เปรียว
5 แพรว Lips GM Lips
6 ชีวจิต ขวัญเรือน แพรว ขวัญเรือน
7 ทีวีพูล ทีวีพูล ทีวีพูล ทีวีพูล


อัตราค่าบริการต่อสัปดาห์
(เลือกเพียง 1 ราคาที่เหมาะกับความต้องการของท่าน)
ราคาต่อ 11 เล่ม ต่อสัปดาห์ ราคาต่อ 7 เล่ม ต่อสัปดาห์
สัปดาห์ ราคา (บาท)
หนังสือใหม่เอี่ยมชนแผง 290
วางแผงแล้ว 1 สัปดาห์ 250
วางแผงแล้ว 2 สัปดาห์ 220
วางแผงแล้ว 3 สัปดาห์ 190
วางแผงแล้ว 4 สัปดาห์ 160
วางแผงแล้ว 5 สัปดาห์ 130
วางแผงแล้ว 6 สัปดาห์ 120
วางแผงแล้ว 7 สัปดาห์ 110
วางแผงแล้ว 8 สัปดาห์ 100
วางแผงแล้ว 9 สัปดาห์ 90
สัปดาห์ ราคา (บาท)
หนังสือใหม่เอี่ยมชนแผง 280
วางแผงแล้ว 1 สัปดาห์ 240
วางแผงแล้ว 2 สัปดาห์ 210
วางแผงแล้ว 3 สัปดาห์ 180
วางแผงแล้ว 4 สัปดาห์ 150
วางแผงแล้ว 5 สัปดาห์ 120
วางแผงแล้ว 6 สัปดาห์ 110
วางแผงแล้ว 7 สัปดาห์ 100
วางแผงแล้ว 8 สัปดาห์ 90
วางแผงแล้ว 9 สัปดาห์ 80


เราเลือกแบบ 11 เล่มต่อสัปดาห์ เอาแบบถูกสุดๆ

out ไป 2 เดือน คงยังไม่ถึงกับตกขอบเวทีหล่ะมั้ง

สิ่งสำคัญคือบางเรื่องบางบทความหรือนิตยสารบางเล่มไม่เคยจะหยิบอ่านเลยด้วยซ้ำ

มาคราวนี้เหมือนเรียนภาคบังคับก็ต้องอ่านหล่ะ

เท่ากับว่าได้อ่านหนังสือ 44 เล่ม ต่อ หนึ่งเดือน

ในราคา 440 บาท ประหยัดเงินไปได้ตั้งเยอะ

ปล...ขายหัวเราะอ่านแล้วยังขำเหมือนเดิม

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

2. ปันปันบ่นคิดถึงครูเจี๊ยบที่ รร รุ่งอรุณ

ระหว่างที่พาไปเมื่อวันอาทิตย์ถามว่า

ปันปันอยากเรียนดนตรีไหม

ปันปันบอกอยากเรียน

พอเรียนกับครูเจี๊ยบเสร็จ

เลยพาไปลองเรียนที่บ้านตัวโน้ต

มีทดสอบก่อนว่าจะเรียนเดี่ยวได้ไหม

ปันปันเข้าไปได้ประมาณ 20 นาทีก็ออกมา

ครูบอกว่า ปันปันยังพอจำที่เคยเรียนมาได้

แต่เรียนๆ อยู่แล้วบอกว่า ง่วงนอน

ครูเลยบอกไว้คราวหน้ามาเทสต์ใหม่อีกทีหล่ะกัน

ถ้าเรียนได้ก็เรียน

ถ้าเรียนไม่ได้ก็เรียนกลุ่ม

แต่ต้องรอเปิดคอร์สเสียก่อน

ทีแรกยังคิดว่าปันปันเบื่อหรือป่าว

พอขึ้นรถกินน้ำกับหนมปุ๊บ

หลับเฉยเลย หนมยังคามืออยู่เลย

เวลานั่งอัพไดฯ บางทีปันปันก็มาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ

ถามว่าแม่ทำไร

เรามักจะบอกว่า ก็กำลังเขียนบันทึกเก็บไว้ให้ปันปันอ่านตอนโตไง

ปันปันเดินหนีไปเลยง่ะ - -‘

เมื่อเย็นพี่สามูนกับพี่สาลี่ตื่นเต้นกันใหญ่

มาบอกว่า ปันปันอ่านภาษาอังกฤษได้

ความจริงไม่มีอะไรหรอก

ในหนังสือมีรูปภาพพร้อมคำบรรยาย

ปันปันเห็นรูปเลยตอบได้ ไม่ใช่อ่านได้

สำเนียงก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นฝรั่งจ๋า

ก็พูดเป็นคำๆ เหมือนแม่มาน

ที่ยังดำผุดดำว่ายอยู่

แต่ก็รู้สึกดีที่อย่างน้อย

ปันปันก็คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ

ไม่กลัวหรืออายที่จะพูด

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

3. ไปฟิตเนสอย่างสม่ำเสมออาทิตย์ละ 2 วัน

คงเพราะหลงรักโยคะ

เป็นสิ่งแรกที่คิดว่าน่าจะเรียนมาตั้งนานแล้ว

ยิ่งคลาสที่เป็น อจ จากอินเดียหรือเนปาลด้วยนะ

ไม่ทราบว่ากำลังจะหาผู้สืบทอดหรืออย่างไร

สอนแบบดุเดือด เลือดผล่านมั่กๆ

ถ้าแกเห็นใครแววดี ท่าสวยหน่อย

แกช่วยจับให้ทำให้ได้

ขาจะแหก แขนจะหัก หลังจะเดาะก็ช่างมัน

จะอ้วน จะผอม จะวัยใส หรือวัยสูง ก็ไม่สน

คิดในใจถ้าไปคลาสเรียนแบบ ชั่วโมงครึ่ง

เรียนจบคงกลายเป็นศพกลับบ้านแน่

แต่ก็ไหนๆ แล้ว หุ่นไม่ให้แต่ใจรักนะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สุดท้ายติดต่อที่เรียนภาษาญี่ปุ่นมา 2 ที่หล่ะ

บ้านเราก็ไม่ได้ไกลปืนเที่ยงนะ

ทำไมหาครูให้ไม่ได้สักกะที

เซ็งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

แถมอีกเรื่อง วันที่ 7 เดือนหน้า

อยากจะไปทำบุญที่บ้านครูน้อย

เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมตังค์ เต็มที่

โทรไปถาม คำตอบคือ เป็นวันหยุดค่ะ(ตรุษจีน)

อืม....................................................นะ




 

Create Date : 15 มกราคม 2551    
Last Update : 29 มกราคม 2551 14:46:59 น.
Counter : 320 Pageviews.  

แ ส ง ห นึ่ ง คื อ รุ้ ง งา ม

พระอารมณ์ขัน ของ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์

พี่ที่ผมรู้จักคนหนึ่งเล่าว่า

พี่เค้าเคยเรียนกับพระองค์ท่าน สมัยที่พระองค์ท่านสอนที่เกษตร
มีความทรงจำ ดังนี้...

"ท่านทรงดุมากๆ
แต่ว่าถ้าใครมาสายนะ ก็ให้เข้าห้อง แล้วปกติท่านะจะให้อ่านก่อน
หมายถึงเตรียมมา แล้วท่านจะสอน สรุปที่เตียมมา แค่ 15 นาที แล้วถามค่ะ
โหดมากๆยังกะสอบ

ท่านสอนวรรณคดีฝรั่งเศสนะ อาจารย์ฝรั่งยังบอกว่าท่านเก่งมากๆๆ อ่านเก๋งวิเคราะห์เก่งกว่าฝรั่งอีก
สำเนียงผู้ดีสุดๆๆ

แถมถ้าใครเอากระเป๋าแพงมาเรียนนะ จะได้นั่งแถวหน้า
แบบว่า ถ้าพกหลุยส์จะนั่งแถวหน้า ท่านบอกว่าต้องตั้งใจเรียน
จะตั้งใจสอนนะ นิสิตที่พกหลุยส์มาเรียน

***ท่านสอนว่าพ่อหม่หนูรวย แต่ถ้าหนูโง่ พกแต่ของแพงๆเกินตัวต่อไปหนูจะลำบาก
งั้นย้ายมานั่งหน้าค่ะ***

เลยไม่ค่อยมีพวกอวดรวยมาในคาบนี้

ที่เกษตรท่านสอนดีมากๆนะ
อารยธรรมฝรั่งเศสกะ วรรณดีฝรั่งเศส
หืดขึ้นคอ เกรดยากมั่กๆๆ

***ท่านตรวจข้อสอบสองครั้ง ครั้งแรกให้แลกกันตรวจแล้วมาส่งท่าน
ให้คะแนนกันเองเพราะว่าท่านบอกว่า ครูเองก็มีอะไรที่ล้าสมัย เด็กอาจคิดไม่เหมือนท่าน***

สมัยนั้นท่านขับจากัวร์มาสอนค่ะ ขับเองค่ะ

(ผมถาม): แล้วมีคนติดตามเยอะปะคับ?

นางสนอง 1 ทหาร 1 ค่ะ

ท่านเรียบง่ายมาก ไม่วุ่นวายเลย

จากคุณ : Funky Forever

เอาพระอารมณ์ขันของท่านให้เรื่องนึงด้วยค่ะ

“พระองค์จะทรงเลือกเสด็จ เฉพาะพื้นที่กันดาร หลายหมู่บ้านที่เสด็จ ก่อนหน้านั้นจะไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา แต่เมื่อพระองค์
เสด็จไปแสงสว่างก็จะตามมาทันที ชาวบ้านจะบอกว่า นอกจากพระองค์จะมาช่วยรักษาแล้ว ยังทรงนำแสงสว่างมาให้
ด้วย…แม้การเดินทางจะลำบากเพียงไร แต่พระองค์ยังทรงมีอารมณ์ขัน หากชาวบ้านถวายพระพรว่า ขอให้ทรงพระเจริญยิ่ง
ยืนนาน พระองค์จะแย้มพระสรวลแล้วตรัสว่า ต้องขอนั่งบ้างนะถ้ายืนนานๆ มันก็เมื่อย หรือเวลาที่ข้าหลวงถวายงานแล้วพูด
ราชาศัพท์ผิดพระองค์จะตรัสว่า พูดธรรมดาก็ได้ ทั้งยังทรงแซวว่า ดูลิเกบ้างหรือเปล่า เขาพูดราชาศัพท์กันเก่งนะ ในเรื่องของการ
เสวยพระองค์ท่านก็เรียบง่ายมาก บางทีชาวบ้านหรือเจ้าภาพในพื้นที่แกงกบผัดกบพระองค์ก็จะเสวยไม่ให้เขาเสียน้ำใจ บ่อยครั้งที่
ลงพื้นที่แล้วฝนตกพระองค์ก็ทรงงานตากฝนไปจนจบ แม้จะมีเพิงแต่ก็แทบกันฝนไม่ได้”

จากคุณ : คุณหนูหลิว




งั้นขอถ่ายทอดเรื่องราวแห่งความทรงจำอีกหนึ่งเรื่องเล็กๆ ล่ะกันนะครับ
เมื่อประมาณปี 2538 เพิ่งจบใหม่ๆ
ผมทำงานในฐานะสตาฟคนหนึ่งของละครเวทีเรื่องหนึ่ง
จัดแสดงที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
มีรอบนึงเป็นรอบเสด็จ สมเด็จพระเจ้าพี่นางฯ
เมื่อตอนละครแสดงเสร็จ พวกเราก็ตั้งแถวเพื่อรอส่งเสด็จกลับ
พระองค์ท่านเสด็จทักทายอย่างเป็นกันเอง จนมาถึงแถวพวกเรา
ซึ่งเป็นกลุ่มสต๊าฟทำงานเบื้องหลัง
พระองค์ทรงแย้มพระสรวล เมื่อผู้กำกับละครกราบทูลว่า
"น้องๆ กลุ่มนี้เป็นสต๊าฟทำงานละครเรื่องนี้ครับ"
ไม่คิดว่าพระองค์ท่านจะตรัสกับพวกเราว่า
"พวกนี้กำลังสำคัญนะ ถ้าไม่มีทีมงานพวกนี้ ละครก็สำเร็จไม่ได้"
เล็งเห็นได้เลยครับว่าพระองค์ให้ความสำคัญกับมดงานเล็กๆ
พระดำรัสของพระองค์ท่านวันนั้น เข้าได้ดีกับเพลงแสงหนึ่ง
ที่พี่บอยด์ โกสิยพงศ์ แต่งถวาย
แสงหนึ่งที่มองไม่เห็น แต่ส่องมาสะท้อนสิ่งที่ซ่อนเร้น ก็เด่นชัดขึ้นทันที
พระองค์ทรงงานหนักมาตลอด
และพระองค์คือแสงหนึ่งที่เป็นกำลังพระราชหฤทัยองค์สำคัญของในหลวงของเรา ขอดวงพระวิญญาณของพระองค์จงเสด็จสู่สวรรคาลัย
และทรงปกปักรักษาในหลวงของเรา และประเทศชาติให้พ้นโพยภัยด้วยเทอญ

จากคุณ : เกี๊ยวหมู (เกี๊ยวหมู)


รวบรวมจากพันทิพ


ชื่อเพลง : แสงหนึ่ง
เนื้อร้อง - ทำนอง : บอยด์ โกสิยพงษ์
ขับร้อง : นภ พรชำนิ


รู้ไหมว่าเราซาบซึ้งใจแค่ไหน
และรู้ไหมว่าเรานั้น ปลาบปลื้มเท่าไหร่
ที่ได้มีเธอ เป็นพลังอันสำคัญ
เพราะว่าเรานั้นรู้เธอทำเพื่อใคร
เหน็ดเหนื่อยแค่ไหน เธอไม่ไหวหวั่น
เพื่อที่จะให้เรานั้นได้เดินต่อไป


แม้ว่าจะไม่มีใครมองเห็นเธอ
แต่ว่าสำหรับเรานั้น...


เธอเหมือนดังกับแสง ที่มองไม่เห็น
แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
ก็เด่นชัดขึ้นทันที
เปรียบเธอกับแสง แม้ไม่มีสี
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด


ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้ จะเป็นเช่นไร
วันและคืนจะหมุนเปลี่ยนสักเท่าไหร่
เรานั้นก็แน่ใจ ว่าจะมีเธอยืนอยู่ข้างหลัง


แม้ว่าจะไม่มีใครมองเห็นเธอ
แต่สำหรับเรานั้น...


เธอเหมือนดังกับแสง ที่มองไม่เห็น
แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
ก็เด่นชัดขึ้นทันที
เปรียบเธอกับแสง แม้ไม่มีสี
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด


จึงอยากขอมอบเพลง เพลงนี้ให้
ให้เธอรับรู้ว่าสำหรับเรา เธอสำคัญเพียงไหน


เธอเป็นดั่งแสง ที่มองไม่เห็น
แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
ก็เด่นชัดขึ้นทันที
เปรียบเธอกับแสง แม้ไม่มีสี
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด







 

Create Date : 13 มกราคม 2551    
Last Update : 15 มกราคม 2551 15:09:51 น.
Counter : 306 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

แม่เจ้าปัน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ขอรหัสผ่านหลังไมค์นะค่ะ
Free Counters
Friends' blogs
[Add แม่เจ้าปัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.