Bukchon Hanok Village


ใครที่เคยดูซีรีส์เกาหลี ต้องเคยเห็นบ้านโบราณผ่านตาบ้างล่ะ

หากไทยเรามีบ้านเรือนไทย ที่เกาหลีก็มีบ้านฮันอก

อยากเห็นชัดๆต้องมาที่นี่ ”บุกชน” สาย 3 สีส้ม สถานี Anguk ทางออก 2

เคยได้ยินชื่อบ่อยๆว่าเป็นย่านผู้ดีเก่า มีเงิน หรือเป็นบ้านขุนน้ำขุนนางสมัยก่อน 

คนที่อยู่ย่านนี้ ณ ปัจจุบันจึงนับว่าเป็นผู้รวยจริงอะไรจริง 

เลยขอตามไปดูหน่อยเถอะ 

หรือถ้าเคยดูละคร Personal Tatse ที่มี อีมินโฮ รับบทเล่นเป็นพระเอกล่ะก็

ละครเรื่องนั้นก็มาถ่ายที่นี่ด้วยเหมือนกันนะ กับบ้านเลขที่ 43 ซึ่งในท้องเรื่องให้ชื่อว่า “ซังโกแจ” 

เราก็เลยต้องเดินตามหากันตามไป วนไป หลงไป ทั้งเมื่อยทั้งขำ 

ผ่านจุดๆเดิมไปสามรอบ แต่ยังร่าเริงมากๆอยู่ เพราะอากาศเย็นสบายมาก ไม่ทำให้เหนื่อย 

และที่สำคัญ บ้านฮันอกที่บุกชนนี่สวยจริงอะไรจริง ยิ่งมองดูยิ่งรู้สึกว่า “ต้องมีเงินจริง” นั่นแหละ 

เพราะที่ดินเกาหลีนั้นมีมูลค่าสูงมาก คนที่มีบ้านเป็นหลังๆต้องถือว่ารวยจริง 

แต่คนที่มีบ้านฮันอกมาแต่เดิมคงต้องเรียก “รวยมานาน” ล่ะมั้ง ..... 

เราตามหาซังโกแจเจอในที่สุด และเป็นไปตามคาดของสถานที่ในละครที่ต้องมีคนยืนถ่ายรูปอยู่ 

คงเป็นแฟนๆของมินโฮ ^^ 





Create Date : 20 พฤษภาคม 2556
Last Update : 16 มีนาคม 2561 10:57:44 น.
Counter : 1451 Pageviews.

0 comment
Bunpo Bridge
อีกสถานที่หนึ่งซึ่งพยายามและตั้งใจจะมาเหลือเกินในการมาเกาหลีทุกๆครั้ง

แต่ไม่สำเร็จเลยสักครั้ง คือ สะพานบันโพ

อยากจะมาดูน้ำพุและแสงสี

อยากจะมาตามหานักดับเพลิงของคึมจันดี

อยากมานั่งโรแมนติค และครั้งนี้ได้มา ทำให้รู้ว่า

“ไม่ควรมากับเพื่อน”


อ่านหนังสือมา ถาม KTO มา เค้าก็บอกว่าทางออกนี้แหละ

ออกไปรอรถเมล์สาย 8401 นะ หน้าห้างชินเซเก ก็ไป

แต่ว่า.....หายนะมาอีกรอบ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าป้ายรถเมล์ที่เกาหลีเนี่ยนะ แถวบ้านเราเรียกว่าเกาะกลางถนนค่ะ

มันตั้งอยู่กลางถนน ข้ามไปถึงก็ให้งง ต้องนั่งฝั่งไหนก็ไม่รู้

ต้องมุ่งไปทางซ้าย หรือทางขวาล่ะ แล้วมี 7-8 ป้าย เต็มไปหมด ต้องนั่งป้ายไหนล่ะ

แล้วทำไมทุกป้าย ไม่เห็นมีสาย 8401 เลยล่ะ กรี๊ดดดดดด หาไม่เจอ

ทั้งเมื่อย ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ทั้งหนาว แต่อยากไป ทำไงๆ ได้แต่หยิบไอโฟนมาช่วยชีวิต

หาข้อมูลเข้าไปๆๆๆ หาๆๆๆๆ จนเจอคนๆนึงเขียนไว้ เราก็เดินตาม (ขอบคุณไว้ ณ ตรงนี้)

สรุปว่าเราไม่ต้องข้ามถนนมาหรอก ออกทางออก 8-1 มาปุ๊บเราก็เดินตรงๆไปทางถนนนั้นแหละ

จนไปเจอ 4 แยกใหญ่ เราก็เลี้ยวขวา เดินตรงไปเรื่อยๆๆๆๆ

เจอทางลงใต้ดิน มีกล้อง CCTV อยู่ เดินลงไปเรื่อยๆ จะเจอตรอกเล็กตรอกน้อยเต็มไปหมด เลี้ยวขวาที่ซอกแรกเลย

พอทะลุสวนแล้วเจอสะพานบันโพเอง

ป๊าดดดดดดดดด ง่ายจนเหลือเชื่อว่าเราเสียเวลาหารถเมล์ทำไม

ไปถึง เห็นเงาคนตะคุ่มๆเป็นจุดๆ มีทั้งเพื่อน ทั้งครอบครัว แต่ส่วนใหญ่มาเป็นคู่รัก

แต่ละคนก็หามุมนั่งกันไป เราก็ทรุดตัวลงนั่งเหมือนกัน

น้ำพุยังไม่เริ่มเราก็นั่งพักให้หายเหนื่อย

พอ 2 ทุ่มตรงเป๊ง......เราก็ได้ยินเสียงประกาศแว่วมา ฟังไม่ออก แต่เดาว่าน่าจะบอกว่าน้ำพุกำลังจะเริ่ม

เพราะสักพักเพลงก็ดัง แล้วน้ำพุก็เริ่มขยับไหว ว้าววววววว

มันสวยมากเลย

มันโรแมนติคมากด้วย

ขยับตัวเองไปให้ใกล้ที่สุดเพื่อจะถ่ายรูปและอัดวีดีโอ

โอ๊ย ตายแล้ว ฉันชอบที่นี่ ฉันชอบน้ำ ฉันชอบน้ำพุด้วย ฉันชอบแบบนี้

ฟินมาก มันสวยและโรแมนติคจนสะเทือนใจว่านั่งดูคนเดียว (เพื่อนที่มาอย่าไปนับ)

อยากมีแฟน อยากมีเธอคนนั้นเป็นแฟน จะมานั่งจู๋จี๋ดู๋ดี๋แบบคู่อื่นๆบ้าง

เข้าใจแล้วว่าทำไมคนมากันเป็นคู่ โอ๊ยย มันสวยมากเลย น้ำพุพลิ้วไหว ลีลาสวยมาก

ชอบสะพานบันโพอ่ะ







ปล. ใครพักแถวมยองดง ทงแดมุน โซลสเตชั่นอะไรแบบนี้ นั่งรถเมล์สาย 406 มาได้นะ
เราเคยนั่งกลับจากสะพานมาที่พัก เส้นทางรถมันวิ่งเป็นวงกลมล่ะ ^^



Create Date : 16 พฤษภาคม 2556
Last Update : 18 มิถุนายน 2556 16:13:44 น.
Counter : 1530 Pageviews.

0 comment
Everland ดินแดนมหัศจรรย์
เคยไปสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ 3 รอบ

รอบแรกไปกับทัวร์ ครั้งแรกที่มาเกาหลีใต้ แต่คนเยอะมาก ไม่ได้เล่นเครื่องเล่นอะไรสักอย่าง ได้แต่เดินไปมา เก็บบรรยากาศ

รอบสอง ก็ยังมากับทัวร์อีก ฝนตก รถไฟรางไม้ก็ปิด อดเล่น ครั้งนี้คนไม่ค่อยเยอะ เพราะเป็นวันธรรมดา แถมฝนตก ได้เล่นอะไรกุ๊กกิ๊กๆนิดหน่อยเอง

ได้ไปดูไลเกอร์ ลูกของไทเกอร์+ไลอ้อน หน้าตาน่าเอ็นดู



ดูหมีขอขนมด้วย น่ารักเหมือนกัน ตัวนี้ตลกมากนั่งโล้หน้าโล้หลังโชว์ขอขนมตลอดเวลา



ที่นี่มีทั้งสวนสัตว์เปิด-ปิดอยู่ในตัว ส่วนด้านนอกก็เป็นสวนสนุก

แต่ยัง ยังไม่ฟิน

รอบที่ 3 นั้น มันส์กว่าเยอะ!!

เพราะไปเองเลย ใช้เวลาทั้งวันที่นี่อย่างสนุกสนาน

สาย 2 สีเขียว สถานี Gyodae ทางออก 13

แล้วต่อรถเมล์สาย 1500 หรือ 1500-1 ก็ได้ แค่นี้ก็ถึงแล้ว


เราออกจากบ้านมาเพื่อสละเวลาทั้งวันให้สวนสนุกแห่งนี้

ก้าวเข้าไปถึง โอ้ ว้าวววววววว ยังคงน่าตื่นตาตื่นใจเช่นเคย

และ ความตั่งใจอันมุ่งมั่นกับเจ้าเครื่องเล่น T-Express ก็สำเร็จในครั้งนี้จนได้

หลังเฝ้าดูชิลลางน้อยแข่งทำหน้าเป็นกับฮวางบูอินบนเจ้ารถไฟรางไม้นี่มานาน

ในที่สุดวันนี้ฟ้าฝนก็เป็นใจให้ได้ขึ้นจนได้

แม้แถวจะยาวเหยียดแต่เราไม่ย่อท้อ เราต่อแถวไปเรื่อยๆและ...มันฟินมากๆเลยล่ะ

มันเป็นเครื่องเล่นที่ต้องระบุไว้ในตำนานเลย

ด้วยความที่เป็นรางไม้และสูงมากกกกกก ดิ่งมากกกกกก

มันเลยเพิ่มความหวาดเสียวให้แก่ผู้เล่นว่าไม้จะหักระหว่างทางไหม 555

ขึ้นไปนั่งได้ก็ท้ากับเพื่อนว่าเรามาแข่งทำหน้าตายกัน ใครจะชนะ .....

พอเครื่องเริ่มออกแล่นไปตามราง เราก็เก็กๆๆๆๆ ขรึมตลอดทาง

ถามว่ากลัวไม่ ไม่นะ มันน่าหวาดเสียวจริง ดิ่ง 90 องศามากจริงๆ

แต่มันกลับไม่น่ากลัวเลย สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่า T-Express สนุกคือ

รางไม้ที่บางจุดเรี่ยดิน เหมือนหัวจะชนพื้น ชนไม้ ตรงนั้นอ่ะที่กลัว ฮ่าๆๆๆๆๆ

แล้วกำลังแล่นด้วยความเร็วสูง มันก็กระตุกๆ เป็นระยะ

เรียกความวูบวาบเข้าช่องท้องได้เป็นอย่างดี เลยหลุดหัวเราะก๊ากออกมาจนได้

ลงเครื่องมาดูรูปที่ทางสวนสนุกถ่ายไว้ แพ้หลุดลุ่ย

เพราะดันมาถ่ายติดตอนเราหัวเราะขำอ่ะซิ

เอาเหอะ......ไว้มาแข่งกับเจ้าบ่าวน้อยใหม่ก็ได้ อิอิ





Create Date : 16 พฤษภาคม 2556
Last Update : 16 พฤษภาคม 2556 10:27:20 น.
Counter : 1020 Pageviews.

0 comment
English Village Yangpyeong Camp

แผนการเดินทางรวนๆนั้น อย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ด้วยเนื่องจากเคยโดนหลอกว่าจะได้ไปแล้วไม่ได้ไป มาครั้งนี้.....จึงเดินทางเอง (ก็ได้วะ)

English Village Yangpyeong Camp

โรงเรียน F4 ชินฮวาไฮสกูลของ จีฮูซอนเบ คนดีนั่นเอง อ๊ายยย >///<

เริ่มจากสาย Jungang สีฟ้าอ่อน ไปลงที่สถานี Yongmun

แล้วต่อรถแท็กซี่อีก 20 นาที

มาเองก็ได้ฟะ ไม่ง้อทัวร์แล้ว (แต่ได้ข่าวว่าตั้งแต่เข้าปี 2012 นี่ต้องง้อแล้วนะ เขาไม่เปิดให้เข้าเองแล้วเพราะรบกวนโรงเรียน

อยากเข้าต้องไปกับทัวร์แล้วล่ะ)

การมาเรียนของพี่จีฮูนั้น เหนื่อยมากนะ เพราะมันช่างไกลมากจริงๆ

เรานั่งรถไฟกระฉึกกระฉักมาเรื่อยๆ รถก็แน่นยืนจนเมื่อยขา เพราะเป็นวันเสาร์

เหล่าคุณลุงคุณป้าเลยเต็มไปหมด ทุกคนแต่งตัวพร้อมไปปีนเขาที่ชานเมือง

ผู้สูงอายุที่นี่แข็งแรงจริงๆ คนเกาหลีก็ชื่นชอบการปีนเขาจริงจังนะ

ออกรถไฟมาได้เกือบเที่ยง ไกลจนท้องหิว

เราเลยแวะหาอะไรกินกันก่อนแถวหน้าสถานี

ร้านนี้ขายอะไรมากมายไม่รู้สั่งไปเรื่อยเปื่อย อร่อยดี อาจุมม่าใจดีด้วย

กินเสร็จยื่นปากกาให้เซ็นข้างกำแพงเราก็เขียนลงไป พันยาดั๊บมาแล้วจ้า 5555

แล้วเรียกแท็กซี่เพื่อไปส่งที่โรงเรียน การจะเข้าไปได้นั้นต้องมีพาสปอร์ตด้วยนะ ^^



และเพราะเป็นโรงเรียนInter ก็เลยมีสอนประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

พร้อมเกมส์ให้เล่นในพาสปอร์ตด้วย ^^ น่ารักดี

แล้วคุณลุงหน้าป้อมยามจะพาไปทัวร์รอบๆ ก่อนจบที่ห้องเรียนของ F4

ที่มีสมุดเยี่ยมชมให้เขียนถึงตัวละครโปรดของใครของมัน

งานนี้คุณนายคิมผู้หลงรักท่านยุนจนโงหัวไม่ขึ้นก็ถลาซบลงบนโต๊ะซอนเบคนดีทันที

อย๊ากกกก อยาก อยากเป็นคึมจันดีที่พี่จีฮูหลงรัก ทำไงดีหนอออออ

เราใช้เวลาเดินเล่นถ่ายรูปที่นี่ไปรอบๆได้สักสองชั่วโมงก็กลับ

เพราะกว่าจะถึงโซลก็เย็นย่ำ ..... ก็ที่นี่มันไกลน่าดูจริงๆนะเนี่ย

แล้วก็แผนผังทั้งโรงเรียน กว้างขวางใหญ่โตดีจริงเลยๆ





Create Date : 16 พฤษภาคม 2556
Last Update : 16 พฤษภาคม 2556 10:06:22 น.
Counter : 1690 Pageviews.

1 comment
Seoraksan : อุทยานแสนสวย
เคยไปโซรักซานครั้งหนึ่ง สมัยมาเกาหลีใต้กับทัวร์เมื่อปลายปี 2006

เป็นสถานที่ที่ทัวร์ทุกบริษัทต้องพาไป

ที่นี่สวยต่างฤดูนะ

พูดง่ายๆคือ 4 ฤดู ร้อน-หนาว-ผลิ-ร่วง สวยไม่ซ้ำกัน

ตอนนั้นมาช่วงใบไม้ร่วง อากาศเย็นๆ ใบไม้เหลืองแดง สวยมากทีเดียว

แต่ครั้งนี้อยากเจอหิมะ มาเอากลางเดือนมีนานี่นะ

จะไปสกีรีสอร์ทก็ใช่ที่ เพราะส่วนใหญ่ลานสกีคงไม่อยากให้เราปั้นตุ๊กตาเท่าไร

เลยมองหาว่าที่ไหนพอจะมี

หาไปหามา ลุ้นไปลุ้นมา

หิมะก็ตก ณ วันที่เราไปพอดี lucky girl ^^

เราตื่นแต่ตีสี่ เพราะต้องเดินทางไปขึ้นรถบัสที่ Dongseoul Bus Terminal เที่ยว 07.19 น.

มีรถหลายเที่ยวนะ ราคาแตกต่างกันไป ขึ้นกับความเร็วและจำนวนจุดจอด

ค่าเดินทางไปเมือกซกโช เมืองที่ตั้งอุทยานแห่งชาติโซรักซาน คนละ 17,300 วอน เที่ยวเดียวนา





การเดินทางไปใช้เวลาราวๆ 2.30 ชั่วโมง เพราะรอบที่เราเลือกเป็นแบบ express bus ฮี่ฮี่
ไม่จอดที่ไหนเลย แค่แวะให้เข้าห้องน้ำแป๊บนึง

ถึงเร็วหน่อยจะได้เที่ยวเยอะๆ


รถของเราที่จะไปซกโช



ภายในรถ



ที่นั่งกว้างขวาง สะดวกสบาย ปรับเอน(แทบจะ)นอนได้ ถ้าคนไม่เต็มนะ เอนมากเกรงใจคนข้างหลังด้วย




ระหว่างทางกินคิมบับกับช็อกโกอูยูเป็นมื้อเช้า ชมวิว



เห็นหิมะแล้วใจชื้น



ลอดอุโมงค์ด้วย มืดๆๆๆๆ




ถึงแล้วจ้า Sokcho Bus Station ดูบ้านๆมาก ก็ต่างจังหวัดอ่ะนะ ตามสไตล์ ^^



เดินออกมาเลี้ยวไปทางขวามือจะเจอป้ายรถเมล์อยู่ตรงข้ามปั๊มน้ำมันนี้



นั่งรอสาย 7 หรือ 7-1 ก็ได้นะ เพื่อไปโซรักซาน ป้ายสุดท้าย อีกคนละ 1,100 วอน


นั่งไปประมาณ 20 นาที เริ่มเห็นความสวย

เหมือนภาพวาดเลยอ่ะ ถ่ายผ่านหน้าต่างรถนะเนี่ย






ถึงแว้ววววว ไปซื้อบัตรเข้ากันก่อน ค่าเข้าคนละ 3,500 วอนนะจ๊ะ





วันนี้ลมแรง กระเช้าปิด กระซิกๆ เศร้าสุดๆ เพราะตั้งใจจะขึ้นไปบนๆ หิมะน่าจะท่วมๆ

แล้วจะได้ปั้นไหม ตุ๊กตาฉัน

เดินเข้ามาเจอพี่หมีก่อน สัญลักษณ์ของที่นี่



ฟ้าสวยมากกกกกกกกกกกก

ไม่เคยไปสวิต แต่เข้าใจว่าสวิตเซอร์แลนด์เกาหลีเป็นไงก็วันนี้

ขุนเขาที่ทอดตัวยาวข้างหน้า สวยมากจริงๆ

เดินๆไป นั่น ข้างหน้านั่น!!!!!

หิมะ

นุนอิดะ!!!!



กระโดดโลดเต้นกัน ดีใจเจอหิมะ(กลางเดือนมีนา)แล้ว สมกับที่ดั้นด้นมาจริงๆ

ที่นี่หนาว หิมะเลยละลายช้า ให้เราได้ปั้นกัน เพื่อนๆเจอหิมะแรกดีใจกันใหญ่

ดิฉันก็ปลื้มใจพาเพื่อนมาสมหวังจนได้

อันนี้ ฮยอนจุงนุนซารัม 555



อันนี้โอปป้า รักแท้ของเราที่ได้ช่างแกะน้ำแข็งจากฮาร์บิ้นส์มาช่วยปั้น กร๊ากกกกก




หนาวๆ แวะมาหาช็อกโกแลตร้อนๆอุ่นท้องหน่อย



ร้านนี้มีเงื่อนไข หนึ่งคนหนึ่งแก้ว ไม่กินห้ามอยู่ในร้าน บ๊ะ โหด

ไม่บอกว่าชื่อร้านอะไร แค่เข้าไปเดินตรงๆเจอร้านไหนก็ร้านนั้นแหละ อิอิ

เขากลัวเราไปหลบหนาว ผิงไฟฟรีแน่ๆเลยเนอะ


ไหว้พระด้วยนะ (ฟ้าสวยจริงๆ)





กระเบื้องขอพร ภาษาไทยเพียบนะ





วิวทั่วๆไป น้ำเริ่มใสแล้ว เดือนก่อนๆคงปกคลุมด้วยหิมะหมด






เราอยู่ที่นี่พอสมควรก็ไปขึ้นรถเมล์จุดเดิม สายเดิมที่ลง กลับเข้าเมืองซกโช

แล้วซื้อตั๋วกลับเข้าโซลอีก ราคาเท่ากัน



แพงแท้ ไป-กลับ ตกคนละเกือบพัน

แต่ชอบนะ

ครั้งที่สองที่มาโซรักซาน มาเองไม่ยาก แถมเดินได้เรื่อยเปื่อยเท่าใจอยาก เสียดายแค่อดขึ้นกระเช้า

เห็นเขาทดสอบส่งกระเช้าเปล่าขึ้นไป 2-3 รอบก็ไม่เปิดให้บริการ

ลมแรงจริงๆนั่นแหละ



Create Date : 26 เมษายน 2556
Last Update : 26 เมษายน 2556 14:53:48 น.
Counter : 1448 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  

ณ เงา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



New Comments