You Are My Glory 『 ดุจดวงดาวเกียรติยศ 』

You Are My Glory
『 ดุจดวงดาวเกียรติยศ 』




“ นับจนถึงตอนนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ” - อวี๋ถู

ไม่ผิดหวังจริง ๆ
จบด้วยความอิ่มเอมใจที่สุดอ่ะ





เรื่องนี้เป็นอะไรที่รอนานเกือบสองปีเลย
รอละคร หยางหยาง ฉายอ่ะนะ 55555

ตั้งแต่รู้ว่ากู้ม่านออกนิยายเล่มใหม่ นี่ก็ตั้งตารอฉบับแปลไทย
บอกเลยว่าเป็นแฟนนิยายคุณเขา
ยิ่งพอบอกอีกว่า หยางหยาง จะมารับเล่น
โอ๊ยยยยย ปักธงรอเลยอ่ะ

อ่านนิยายจบด้วยความประทับใจแบบใจเต้นตึกตัก
ใจพองฟูมากมาย ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับประเทศตัวเองเลยจ๊ะ
รู้สึกว่าคนเขียนถ่ายทอดได้ดีมากกกกกกกก
บทสุดท้ายของนิยาย ทำให้อิ่มเอมใจ ภาคภูมิใจ
และนับถือคนในแวดวงนี้มาก ๆ

『 ดุจดวงดาวเกียรติยศ 』



นี่ชอบชื่อไทยของหนังสือเล่มนี้มากมาย
ดูทรงเกียรติอ่ะ
และใช่ เกียรติยศของคนที่รักในดวงดาวนั้น กว้างใหญ่ไพศาลเท่าดาราจักรอันไกลโพ้น

อวี๋ถู (หยางหยาง) วิศวกรอวกาศ ผู้ที่อยู่ในจุดหักเหของชีวิต
ต้องเลือกระหว่างงานที่เป็นความฝัน เป็นความภูมิใจ ความมุ่งมั่น และอุดมการณ์ของตัวเอง
หรือ จะก้าวไปในเส้นทางใหม่ที่สร้างชื่อเสียงเงินทองเพื่อครอบครัว เพื่อคนที่ตนรัก

เฉียวจิงจิง (ตี๋ลี่เร่อปา) ดวงดาวสุกสกาวทอแสงเจิดจรัสแห่งวงการบันเทิง
ดาวอีกดวงที่ครั้งหนึ่งนั้นเคยส่องประกายหาอวี๋ถู
แต่เมื่อโดนปฏิเสธ เส้นทางของทั้งสองคนจึงห่างหายกันไป

และทั้งคู่ ได้กลับมาเจอกันในสิบปีให้หลัง
เมื่อจิงจิง พรีเซนเตอร์ของเกมชื่อดัง กลับเล่นเกมไม่ได้เรื่องซะเอง
ความบังเอิญไม่มีในโลก มีแต่พรหมลิขิต
เมื่อโชคชะตาพาให้ทั้งสองมาพบกันอีกครั้ง มีอวี๋ถูคอยสอนให้จิงจิงให้เล่นเกม

ระหว่างที่อวี๋ถูสับสนกับทางเลือกนั้น มีจิงจิงที่คอยอยู่ข้าง ๆ
มอบมุมมองอีกด้าน มอบความเชื่อมั่น มอบความเข้าใจให้
และระหว่างที่จิงจิงต้องการการสนับสนุนในหน้าที่การงาน
ก็มีโค้ชอวี๋คนนี้คอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้างเช่นกัน

แต่ …. คนธรรมดาอย่างเขา จะเหมาะสมกับดวงดาวอันเจิดจรัสหรือ ?

ถึงเขาจะเป็นกระต่ายที่เห็นดวงดาวมามากมาย แต่ดาวดวงนี้ สมควรแล้วหรือ ?

กว่าสองปีที่รอคอย ละครออนแอร์ในที่สุด เย้!!!!!!



ทุกอย่างตรงตามบทประพันธ์เป๊ะ !
เรียกว่าไม่ไถลไปไหนเลย นั่นเพราะกู้ม่านมาเขียนบทละครด้วยตัวเอง 😆

หยางหยาง เป็นอวี๋ถูที่จริงจัง เคร่งเครียด กดดัน สับสน
และน่ารัก ขี้เล่น มีเสน่ห์ และควรค่าแก่การหวีดร้อง ตามลำดับ 🥰
ช่วงแรกบทเครียดมาก แกะเล่นได้ดี สายตามาเต็ม
คิ้วขมวดไม่เว้นสักตอน สีหน้ากล้ำกลืนตลอดเวลา
ดูไม่แฮปปี้เอาซะเลย
… และใช่ค่ะ พอหลังมี BDS เข้ามาในชีวิต
โอ๊ยยยย หล่อนกลายเป็นคนละคนเลยนะยะโค้ชอวี๋!

หมอน ผ้าห่ม ตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา อะไรบนเตียงอิฉันจิกขาดเรียบ 555555

ดีต่อใจ คุณค่าที่รอคอยจริง ๆ หล่อทุกองศา
ยังคงเป็น หยางหยาง ยิ้มที่โลกละลายไม่เปลี่ยนแปลง



เร่อปา บอกตรงไม่เคยดูผลงานมาก่อน ได้ยินแต่ชื่อ หน้าก็ยังจำไม่ได้
นี่เป็นละครเรื่องแรกที่ดู

ไม่ควรมีคอมเม้นท์ 55555555555555555555

อืมมมมม ยังไงดี ก็เป็นจิงจิงที่น่ารักดีแหละ ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกไม่โอเคอ่ะนะ

เรามันเป็นหยางเหมาอ่ะ เวลาดูก็เน้นพระเอกเนอะ โอ๊ย ขำ

สรุป น้องก็น่ารักดี เป็นจิงจิงที่สดใส ร่าเริง ยิ้มทีเจิดจรัส สมเป็นดวงดาวน่ะ



ช่วงแรกของเรื่องคือเป็นช่วงก่อความสัมพันธ์ของพระนาง
ที่มีเกมออนไลน์เข้ามาเป็นตัวเชื่อม
เราไม่ใช่คนเล่มเกม (แนวนี้) ตอนอ่านหนังสือก็เข้าใจในระดับหนึ่ง แต่ไม่อิน
พอเป็นละคร มันสนุกมากเลยยยยยยยยยย จนอยากเล่นเกมตามเลยล่ะ

ระหว่างนั้นก็มีปัญหานั่นนี่เข้ามารุมเร้าเป็นระยะ
พอให้เป็นช่วงเวลาที่สองคนจะได้ใช้เวลาคุยกัน
และเริ่มรู้สึกดี ๆ ให้กัน
และครึ่งหลัง ก็เริ่มเข้าสู่ความรัก และเกียรติยศของกันและกัน

เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่เราสัมผัสจากเรื่องนี้
ไม่ใช่เกมออนไลน์ ที่สนุกมากจริงๆ ละครทำออกมาได้สนุกมากๆ ลุ้นตามจนตื่นเต้นไปหมด
ไป๋หลี่โส่วเยว์เท่มาก พอกับ จูเก่อเลี่ยง
และแน่นอนว่าไอดีผู้ใช้ที่ชื่อกระต่ายหยกตำยา ก็น่ารักไม่แพ้ มือเด็ดปุยฝ้าย

ไม่ใช่ความรักของพระนาง ที่ทั้งอึดอัด ด้วยความไม่เท่าเทียม ความไม่เหมาะสม
สารพัดที่พระเอกของเราจะสรรหามาน้อยเนื้อต่ำใจตัวเองได้
ความแตกต่างของคนสองคน
หนึ่งเจิดจรัสทอแสงสกาว
หนึ่งเหมือนอีกด้านของดวงจันทร์ที่มืดมิด
คนที่อยู่คนละโลกจะเหมาะสมกันหรือ

ไม่ใช่ความรักของพระนาง ที่รักและเคารพซึ่งกันและกัน
ใช้วันเวลาจับจูงมือไปด้วยกัน
เรื่องนี้หวานไม่บ่อย แต่อ้อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อย่าปล่อยให้หวานนะ ไม่งั้นน้ำตาลขึ้นจริง ๆ


ซีนที่ชอบที่สุด เป็นแค่คำพูดสั้นๆ ของอวี๋ถู ว่า

“ แล้วเมื่อไรเราถึงจะไปถ่ายรูปด้วยกันล่ะ ”

ตอนอ่านนิยายมาถึงประโยคนี้ ……. นอนตาย 5555555555555555555555555

ไม่มากค่ะคุณ แค่ประโยคเดียว ตายสงบศพสีชมพูเลย 

แล้วพอเป็นละคร สีหน้า หยางหยาง ซีนนี่คือแบบ ไม่ไหวแล้วแม่!!!!

ภาพประกอบเน้นความฟิน ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาด้านบน ฮ่าๆๆๆ








กลับมาที่ แล้วเราประทับใจอะไรจากเรื่องนี้ที่สุด ?

การทำงานของสถาบันวิจัยการบินอวกาศไงล่ะ
เพราะบ้านเราไม่มีงานแบบนี้
และเราไม่เคยสนใจอวกาศเลย
แค่นั่งมองดาวสวย ๆ ไปวัน ๆ
นั่งขอพรเวลาเจอดาวตก
นั่งมองจันทร์เต็มดวง แล้วเห่าหอนไปตามประสา
ไม่เคยสนใจว่าอวกาศมีอะไรมากกว่าดาร์ธเวเดอร์และเดธสตาร์ไหม

จนวันที่ได้มารู้จักเรื่องนี้ ถึงรู้ว่าองค์กรนี้ “โรแมนติค” แค่ไหน

การทำงานด้านอวกาศ ที่ทั้งกดดัน เวลาให้ครอบครัวก็ไม่มี ค่าตอบแทนก็น้อย
ปัญหาสารพัดอย่างนั้น
ต้องใช้แรงใจของตัวเอง และความเข้าใจจากครอบครัวมากขนาดไหนกัน

แล้วเรื่องของหน่วยงานแบบนี้ เป็นนิยายก็ได้เหรอ ? เป็นละครก็ได้เหรอ ?

พระเอกช่างมีอาชีพไม่เหมือนใครเอาซะเลย แปลกใหม่มาก ๆ
การจะปล่อยจรวดออกสู่ห้วงอวกาศ มันยากมากขนาดนี้เลยเหรอ
ความเหนื่อยยาก ความทุ่มเท และอุดมการณ์ของคนกลุ่มหนึ่ง
มันเป็นอะไรที่เราไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยจริง ๆ
วงการอวกาศของจีน ช่างยิ่งใหญ่จริง ๆ

จนเมื่อได้อ่านนิยายจบ หัวใจเราพองฟู
จนเมื่อได้ดูละครตอนจบ ที่เขาถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก ๆ หัวใจเราตื้นตัน

ความฝันของอวี๋ถูที่เพียรพยายามมาตลอด …. สำเร็จแล้ว

การยืนหยัดของบุคลากรเหล่านี้ เป็นเรื่องที่คนต้องหันมามองเหมือนกันนะ

และใช่

อวี๋ถู ก็คือ อวี้ทู่
คือกระต่ายที่เห็นดวงดาวมาเยอะที่สุด


 

บทสุดท้ายของนิยายและละครเรื่องนี้คือความภาคภูมิใจ
คือความฝัน
คืออุดมการณ์ของคนกลุ่มหนึ่ง
ให้กับดวงดาวที่มากขึ้น
แก่ดาราจักรที่อยู่ไกลแสนไกลออกไป

คือที่มาของคำว่า “ดุจดวงดาวเกียรติยศ”

คือ You Are My Glory

คือ 你是我的荣耀


ขอยกให้เป็นละครที่โรแมนติคที่สุดแห่งปีค่ะ

เป็นทั้งนิยายที่เราประทับใจ และกลายเป็นละครที่เราตราตรึงใจเช่นกัน
ใครจะไปคิด ว่าละครรักแบบนี้
จะมีปล่อยจรวดด้วย !!! 

 

ป.ล. หยางหยาง พูดกับกู้ม่านไว้ว่า

“ยังไงล่ะทีนี้ ถ้าให้ผมกลับไปเป็นเซียวไน่อีกครั้ง ไม่ได้แบบเดิมแล้วนะ
คุณยังอยากจะทำเวยเวยภาคสองอีกรึไง”

cr. คุณ FullTime_YANG ในทวิตเตอร์ที่เคยแปลไว้ค่ะ

เซียวไน่ และ อวี๋ถู อาจจะไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ต่างกัน
เพราะหล่อ เก่ง เทพ และโรแมนติคทั้งคู่เลย!

❤️

#หยางหยาง
#YANGYANG
#杨洋
#ดุจดวงดาวเกียรติยศ
#YouAreMyGlory
#你是我的荣



Create Date : 17 สิงหาคม 2564
Last Update : 17 สิงหาคม 2564 14:41:53 น.
Counter : 3956 Pageviews.

0 comment
My Birthday Party in Seoul 2017


Kim Hyun Joong 2018 World Tour HAZE in Seoul

2 December 2017




งานคอนเสิร์ตที่หลายคนปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าคิมฮยอนจุงจัดฉลองวันเกิดให้ดิฉันค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

ในหนึ่งปีมีตั้ง 365 วัน ไม่จัด มาจัดวันนี้ ทำไมต้องวันนี้

ก็ต้องเข้าใจ (ไปเอง) ให้ได้อ่ะนะ ว่าเค้าฉลองวันเกิดให้อิ่มเอมจ้าา

มีความสุขจริงๆ

เพราะการมโนคือนิพพาน

Smiley


และการที่ผู้ชายบอกว่าให้มาเย็นๆ ก็ได้ ก็ไม่เคยหมายความว่าแฟนๆ จะเชื่อฟังกันสักครั้งเลยนั่นแหละ

พอคิมฮยอนจุงบอกว่าให้มา 4 โมง

มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะมาถึงหน้าฮอลล์ตอนบ่าย 2 โมง นั่นเอง 

… เป็นผู้หญิงต้องดื้อรั้นพองามนะคะ ...


งานวันเกิดครั้งนี้เฉลิมฉลองกันที่ KOREA University Hwajung Gymnasium 

ฮอลล์บนยอดดอยที่ต้องถ่อสังขารของป้าๆ ขึ้นไปค่ะ

จำได้ว่าครั้งก่อนที่จัดฮอลล์นี้คือ มาหน้าร้อน โอ๊ยยยยย 

กว่าอิป้าจะถ่อขึ้นดอยได้ ลมจะใส่ ทั้งร้อน ทั้งเหนื่อย


หน้าร้อนเกาหลีนี่นะบอกเลยว่าทรมาน มันร้อนแสบผิวไปหมด และอบอ้าว 

และ .... บรรยายไม่ถูก มันคือแย่กว่าสงกรานต์บ้านเราอีกอ่ะเธอ

เขยิบมาปีนี้พอรู้ว่าจัดฮอลล์นี้อีก ป้าเตรียมยาดมแล้วค่ะ

แต่ด้วยความที่ United Henecia เขารวบรวมเงินกัน จ้างรถชัทเทิลบัสมารับส่ง 

ระหว่างสถานีรถไฟ Anam (อ่านว่า อานัม นะจ๊ะ) และฮอลล์

ทำให้สุขภาพเข่าป้าดีขึ้นทันตา พอเงยหัวจากรถไฟใต้ดินมาทางออก 1 ได้ ก็ยืนรอรถเลย

ไม่เกิน 15 นาที รถจะวนมารับเราไป

สบ๊ายสบาย ดี๊ดี ขอบคุณผู้ร่วมสมทบทุนครั้งนี้จากนานาประเทศไว้เลยจ๊ะ





thanks pic credit as tagged


ใช่ค่ะเรามาถึงหน้าฮอลล์ตอนบ่าย 2 โมง และแน่นอนที่สุดก็ยังไม่ใช่คิวแรกๆ อยู่ดี 55555

สาวๆ ที่มากับทัวร์ๆ ทั้งหลายล้วนมาถึงก่อน 

และยืนเข้าคิวกันเตรียมรอซื้อของหน้างานกันแล้ว เราก็ไปยืนรอเช่นกัน

ท่ามกลางอุณหภูมิ 4 องศา อุ่นกำลังดี เราก็ยืนวนแถวไปค่ะ เมื่อย....


แฟนๆ เอาของมาแจกด้วย น่าร๊ากกกกก



ช่วงรอก็เม้าท์มอยหอยกาบแลกเปลี่ยนข้อมูลกันไป

ทั้งฝั่งไทย อินเดีย รัสเซีย อเมริกา อิหร่าน สิงคโปร์ ฮ่องกง ฯลฯ 

เรียกว่ามันเป็นงาน international ตามประสา อย่างที่เคยๆ มานั่นแหละ


แต่สำหรับเราสิ่งที่แปลกตาไปสักหน่อยคือ ครั้งนี้เราเห็นฝรั่งเยอะขึ้นมากๆ เลย 

เดิมมีบ้างแต่น้อย นับหัวได้ แต่งานวันนี้ เห็นเยอะขึ้นจนแปลกใจ 

อาจจะเพราะคนน้อยลงด้วยทำให้เห็นคนที่สายพันธุ์ต่างจากเราชัดเจนขึ้น 

ปกติก็โซนเอเชียเดินกันพรึ่บพรั่บไง พอวันนี้ แหม คอเคซอยด์เต็มไปหมด 

เราก็แปลกหูแปลกตาและแปลกใจด้วย

ต้องยอมรับว่า“คนน้อยลง...มาก”


น้อยลงตั้งแต่วันจองตั๋วคอนเสิร์ตนั่นแหละปกติไม่เกิน 10-20 นาที ตั๋วคือหมดเรียบทุกโซน ทุกที่นั่ง

อาจมีจองกั๊กเพื่อเลือกที่นั่ง แล้วค่อยปล่อยคืนบ้าง 

แต่สุดท้ายมันก็หมดไงแต่คอนเสิร์ตครั้งนี้ บอกเลยว่า 

ตั้งแต่วันแรกที่เปิดขายให้เฮเนเชียลากยาวจนถึงวันงาน 

ตั๋วขายยังไงก็ขายไม่หมด


ขนาด DC Gallery ขอรับเงินสนับสนุนมาซื้อตั๋ว มันก็ยังไม่หมด

(คหสต. เราว่าการเอาเงินมาซื้อตรงนี้ ไม่น่าภูมิใจเท่าไร ตั๋วขายได้เยอะคีย์ก็คงดีใจว่าไม่ขาดทุน 

แต่การขายได้แต่ไม่มีคนไปดูให้เต็มที่นั่งจุงคงเสียใจกว่านะ 

เพราะฉะนั้นการซื้อเท่าจำนวนคนไปดูจริงๆ น่าจะดีกับจุงมากกว่าไหม 

อย่าให้ความหวังนางเลย ว่าทุกอย่างมันยัง “เหมือนเดิม” ทั้งที่มันไม่ใช่

แต่ก็นั่นแหละ คิดไม่เหมือนกันเนอะ นานาจิตตัง)


ก็นะยืนรอคิวไป หนาวๆ ขาแข็งไป ขาสั่นไป จน 3 โมงตรงก็เริ่มขยับแถว




ใครที่มีตั๋วเป็นใบๆ มาแล้ว เช่น คนที่มากับทัวร์ ก็จะเดินไปต่อแถวอีกทีที่หน้าจุดขายของ

ส่วนคนที่จองออนไลน์มา (บรรดาแฟนๆ ต่างชาติทั้งหลาย) ก็เดินวนไปแลกตั๋วก่อนแล้วค่อยไปต่อแถวซื้อของอีกที 

ซึ่ง ณ จุดนี้พี่การ์ดจัดการดีมาก ไม่มีมั่วคิว เช่น เราต้องแลกตั๋วก่อน แต่พี่ข้างหลังมีตั๋วมาแล้วเงี้ย 

พี่การ์ดก็จะปล่อยให้เราแลกตั๋วให้เสร็จแล้วให้เราไปต่อจุดซื้อของ 

แล้วค่อยปล่อยคนข้างหลังเรามายืนตรงจุดซื้อของต่อจากเรา

ไม่ปล่อยให้มายืนตัดหน้าเราได้ จัดการเป็นระเบียบดีมาก น่าชื่นชมสุดๆ (ปกติไม่มีไง 5555)


ซึ่งใช้เวลายืน 1.30 ชั่วโมง กว่าจะได้ตั๋วมา อู๊ยยยยยย เมื่อยและหนาว

และยืนอีกชั่วโมงกว่าต่อไปอีกกว่าจะถึงคิวตัวเองซื้อของ เหนื่อยเหลือเกินพี่จุงจ๋าาาาา

แต่ในที่สุดหนูก็ได้แท่งไฟมาโบกสะบัด 

ได้ซีดีที่ผลิตมาน้อยเหลือใจมาไว้ในครอบครองกับเขาแล้ว

หนูปลื้มใจดั่งหนึ่งกู้ชาติได้ทีเดียวแหละ


กว่าจะเสร็จภารกิจหน้างานคอนก็ปาเข้าไปจะ 6 โมงเย็น 

รวบรวมข้าวของวิ่งไปหาอะไรรองท้องก่อนเข้างานและเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย

(อารมณ์จะดูว่าตัวเองได้แฟนไซน์ไหม ยังแทบไม่มีอ่ะ มันทั้งหนาว ทั้งเมื่อย ทั้งหิวและปวดฉี่สุดๆ)

เสร็จสรรพทุกอย่างไป! เข้าฮอลล์กัน!!!


ที่นั่งของเจ้าของงานวันเกิดวันนี้อยู่ที่ชั้น 1 นะคะ ในหลุมดำของเฮเนเชียนั่นเอง

ระหว่างยืนเอียงคอ 70 องศามองเก้าอี้ของตัวเองที่ถูกยึดไปนั้นก็ได้สบตากับชะนีจีนนางหนึ่ง

ต่างคนต่างมองกัน แล้วเราก็พูดว่า “it’s mine” 

นางก็หัวเราะแล้วบอกว่า “I know but just in case you won’t come,I will take this” 

อ่อ เหรออออออออ


เข้าไปนั่งที่ตัวเองได้ไม่นานกวาดตามอง แหม ฮอลล์โล่งซะแหว่งเลย 

จุงที่มองจากบนเวทีคงสะเทือนใจไม่ต่างจากเรา

แต่ความจริงก็คือความจริงนะจุงนะ

อย่างน้อยๆ มันก็ยังมีคนที่ยังอยู่กับเธอตรงนี้ ไม่ใช่ไม่มีเลย

ถึงน้อยลงแต่แน่นอน มันคือเปี่ยมคุณภาพ เพราะเราผ่านการพาสเจอไรซ์มาแล้วอย่างเข้มข้น หึหึหึ

และงานก็เริ่ม

เริ่มแล้วนะ เอายัง!!!


งานวันนี้เริ่มด้วย VTR ที่ไว้โปรโมทงานนี้นั่นแหละ ที่จุงเดินถือนาฬิกาเดินไปเดินมาหาอะไรก็ไม่รู้

 เพียงแต่คลิปยาวขึ้นกว่าที่เคยดูทีเซอร์กันมา จุงก็เดินไปเดินมาจากนั่นไปนี่ หาอะไรวะ ถามจริงๆ

และสิ่งที่เราคาดหวังและตั้งตารอในคืนนี้ก็มา...

ทรงผมของคิมฮยอนจุงในคืนนี้จะเป็นทรงไหนนะ โคตรจะกลั้นใจลุ้นอ่ะ


และจุงก็มา กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เปิดตัวเพลงแรกด้วยเพลง Haze จุงยืนบนเวทีด้านบนสูงๆ มีม่านกั้น ยืนร้องเพลง เราก็ส่องหัวจ้องหัว

พอม่านทิ้งตัวลง

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

หนักกว่าเดิม




หัวนั่น 5555555555 มันดีขึ้นกว่าเดิมเหรอ โว้ยยย ขัดใจ 55555555555

บอกตัวเองว่าสไตลิสท์และเรื่องของแฟชั่นมันคงเป็นอะไรที่เราเข้าไม่ถึง 

ดูๆ ไปเหอะ อย่าคิดมาก เพราะเราทำอะไรไม่ได้แน่นอนแล้ว 5555


จะบอกว่าเพลง Hazeนี้ ตอนฟังมันก็งั้นๆ แต่พอมาฟังในคอน เออ มันก็เพราะดีนะ บรรยากาศมันส่งอ่ะ 

จบเพลงแรกไป จุงก็ทักทายพวกเรานิดนึง เดินมาทักเราด้วย ฮี่ฮี่ 

จริงๆ คือเดินมาโซนเราอ่ะ ทักไปทั่วเต่เราเหมาว่าทักเราไว้ก่อน

แล้วก็ต่อด้วย Break Down และ Yes I will พอจบเพลงที่ 3 ความใกล้ก็บังเกิด

เพราะพ่อคุณเล่นปิดไฟฮอลล์ และลงเวที มาวิ่งผ่านหน้าเราไปซะงั้น 

แว้กกกกกก ใกล้เกิน ใกล้เร็วไป ตกใจหมด 


จุงวิ่งไปหลังเวที ไปเปลี่ยนชุด ในขณะที่บนเวที มี VTR อีกตัวจ้า

ตัวใหม่นี้พี่แกไม่รู้จะสื่ออะไร แต่หน้าตาดูมู้ดดี้ตลอดเวลา 

เขียนเพลงก็หงุดหงิด เดินไปเดินมาก็ฟึดฟัด เดินตรวจงานวง Gemini เหมือนครูใหญ่ถือไม้เรียว 

ขัดรองเท้าก็โมโห ดูเหนื่อย ดูนอนไม่พอ ดูเหวี่ยง ดูเลือดลมไม่ดี ดูอารมณ์เสีย 

ดู ... เป็น His Habit

ฮ่าๆๆๆๆๆ จะสื่อแบบนั้นก่อนเข้าเพลงไหมก็ไม่รู้เนอะ 


แต่จุงกลับมาพร้อมชุดใหม่ ที่คงคอนเซปต์ “แฟนไม่เข้าใจ” อยู่ดี 




เสื้อตัวใน กางเกงสูท รองเท้า หัวนั่น ถามว่ามันมีอะไรเข้ากันบ้างไหมวะ 555555

ต่อด้วยเมดเล่ย์รัวๆ Beauty Beauty / Gentleman / Kiss Kiss / U / Do you like that / Lucky Guy 

และจบที่เพลงที่เราตั้งตารอกันสุดๆ อย่าง Moonlight

(เดี๋ยวๆ ลุงยังไหวไหม หอบไหม พักก่อนไหม ) Smiley Smiley


ตัดภาพกลับมาที่เพลง Moonlight

อะโห .... สเตจแรกค่ะคุณ ท่าเต้นน่ารัก 

แล้วยิ่งมาเต้นส่ายตูดหน้าเรานี่เป็นอะไรที่แบบว่าได้แต่หัวเราะในใจ 

มันเป็นเพลงที่เราชอบมากๆ และเฝ้ารอดูท่าเต้น ... ไม่ผิดหวัง

มันน่ารักสมกับเพลงนั่นแหละ ชอบไปอี๊กกกกก

จบมูนไลท์ ลุงแวะไปให้ออกซิเจนแพล่บ 55555555555 

Smiley Smiley


ส่วนบนเวทีมี VTR ตัวที่สาม 

ตัวนี้คือเลอค่า เราชอบมาก เพราะดูแล้วคิดถึงจีฮูซอนเบสุดๆ ไปเลยอ่ะ 

ทั้งทรงผม สีหน้า ท่าเดิน (ขาขวิดไปมา น่ากลัวล้ม) ดูแล้วหล่อ อยากขนกลับบ้านนนนนนนนนน


และจุงกลับมาบนเวทีพร้อมชุดลุง!!! 




เสื้อสีขาวๆ กางเกงโคร่งๆ ตัวที่ถ่าย VTR ตัวโปรโมทนั่นอ่ะ

คือแฟชั่นแนวไหนไม่รู้ ตาแรกเราว่ามันลุงๆ หน่อยๆ นะ แต่ไม่รู้ซิ พอมาเห็นจุงใส่จริงๆ 

พอจุงเคลื่อนไหวแล้ว เราว่า มันก็น่ารักดี 

(คือรักอ่ะแกร๊ ฉันรักเค้า เค้าใส่อะไรฉันก็ว่าน่ารักอ่ะแกร๊ ใส่ไม่ใส่ ก็รักอ่ะ เข้าใจตรงกันเนอะ)

Smiley Smiley Smiley




จุงมาพร้อมเพลง ฮาโกชิพึน มัล (Word I want to say) แล้วพอร้องจบก็เริ่มคุยนั่นนี่กับแฟนๆ

อย่างหนึ่งที่พอฟังออกคือ แฟนถามว่าจะเป็นแด๊นซ์คอนครั้งสุดท้ายจริงๆ เหรอ


“ผมยังเต้นได้นี่ครับ เมื่อกี้ไม่เห็นเหรอ ผมเต้นอยู่นะ เต้นได้ดีด้วย เห็นกันไหมครับ?

ดังนั้นมันควรเป็นครั้งสุดท้ายเหรอ

แดนเซอร์ชุดที่แล้วนี่รีไทร์ไปแล้วนะครับ แต่ผมยังอยู่ตรงนี้นะ 

คุณไม่คิดว่าผมยังเต้นได้เหรอ

นี่ผมได้แดนเซอร์ชุดใหม่มา พวกเขาเพิ่ง 21-22 กันเอง ..... (แฟนๆ กรี๊ดดดด) 

เดี๋ยว ทำไมพอผมบอกอายุแดนเซอร์แล้ว พวกคุณต้องกรี๊ดด้วยล่ะ คิดอะไรกันอยู่

เอาเป็นว่า เมื่อกี้เห็นใช่ไหมครับว่าผมยังเต้นได้ 

ดังนั้น ผมไม่คิดว่านี่จะเป็นแดนซ์คอนครั้งสุดท้ายนะครับ”


ฉันหมั่นไส้วาจามั่นใจสุดติ่งและสีหน้าว่าข้ายังหนุ่มของเธอเหลือเกิน คิมฮยอนจุงงงงงงงงงง

อ่ะ หลังจากลุงแกมั่นใจพอแล้วก็ถึงเวลานั่งเก้าอี้ร้องเพลง 555555


เก้าอี้มา มือกีต้าร์ของ Gemini ก็ขึ้นมา และเรามาร้อง Because I’m Stupid กันค่ะ




เพลงนี้จุงมีวิธีร้องใหม่ เพราะดีนะ ได้อีกอารมณ์นึง 

ที่สำคัญจุงไม่ต้องไต่บันไดเสียงร้อง ไม่ต้องโก่งคอจนเอ็นขึ้นอีก 5555 แบบนี้ก็พอแล้ว เพราะดี ฟังเพลินมากกกกก

เพลินจนพอจุงยื่นไมค์ให้ช่วยร้องก็เงียบกันทั้งฮอลล์ เพราะมัวแต่ฟังเพลิน มองหน้าเพลิน

จนลืมว่าเนื้อเพลงท่อนต่อไปคืออะไร 55555555555

คิมฮยอนจุงผู้น่าสงสารแฟนๆ ไม่ช่วยร้องเล้ยยยยยยยย


จบเพลงไปแบบเสียงปรบมือรัวๆ 

จุงก็บอกว่า "เพลงต่อไปครับเป็นเพลงที่ผมไม่ได้เตรียมไว้นะ I’mYour Man ครับ 

ทำไมมีเพลงนี้ขึ้นมาในลิสท์เพลงต้องร้องล่ะ" ....หลังจากจุงมึนไปมึนมา จุงก็บอกว่า 

"อ่อๆ ผมรู้แล้ว มันคือเพลง นานึน นี นัมจายานั่นเอง อ่อๆๆ ภาษาอังกฤษเรียกว่า แอม ยัวร์ แมน ซินะครับ"

ตาบ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา


อ่ะไฟหรี่ลง เตรียมตัวอะคูสติกกันอีกเพลง พอไฟมืดลงแล้วนั้น จู่ๆคิมฮยอนจุงก็ตะโกนขึ้น

“เดี๋ยวครับ เดี๋ยวๆ เปิดไฟก่อนนนนนน”

เอาซะตกอกตกใจกันไปหมด ไฟก็รีบเปิดพรึ่บขึ้นทันใด เกิดอะไรขึ้นอ่ะ จุงเป็นอะไร?


“ผมลืมบอกพวกคุณไป แต่มันก็ 3 ปีมาแล้วนะครับ ไม่รู้ว่าพวกคุณยังจำได้ไหมว่าเพลงนี้ต้องทำยังไง?”

โอ๊ยยยยยย นึกว่าอะไร ร้องซะตกใจหมด ฉันล่ะอยากจะถอนใจใส่หน้าจริงๆ เชียว

แฟนๆ ตะโกนบอกว่าจำได้ พร้อมเสียงหัวเราะแบบเพลียๆ หน่อย

“จำได้แน่นะครับ แน่นะ ต้องร้องท่อนไหนจำได้แน่ๆ นะครับ โอเค ผมจะรอดู”

แล้วไฟก็ได้หรี่ลง (สักที) แล้วผู้ชายของเราก็ร้องเพลงบนไฮดรอลิกกลมๆ หมุนไปมา สบตากันทั้งฮอลล์

พอถึงท่อนสำคัญ ใช่ แฟนๆ ไม่พลาดหรอกย่ะ!! 

พอเรา นานึน นี ยอจายา ไป คิมฮยอนจุงก็ยิ้มแป้นร้องตอบกลับมา "นาโต นี นัมจายา" 

พร้อมจบเพลงด้วยคำว่า


ซารังฮัมนีดะ


แอ๊กกกกกกกกก


เค้า-บอก-รัก-ฉัน-ใน-วัน-เกิด

Smiley Smiley

มันคือนิพพาน

5555555555555555555555555


พอจุงร้องเสร็จแฟนๆ ก็ตะโกนบอกว่าจุงทำดีมาก เยี่ยมสุดยอด

จุงก็หัวเราะขำตายิบหยีแล้วบอก อ่อ เหรอครับ เยี่ยมเหรอครับ ครับๆ ขอบคุณที่ชมนะครับ

งั้นร้องกันอีกรอบดีไหมครับ พอแฟนบอก เอา ร้องอีก

“เอาเหรอครับ งั้นไม่ทำครับ”

ดูมั๊นนนนนนนนนน กวนประสาทที่สุด!!!!


เพลงต่อไปผมคิดว่าพวกคุณชอบกันมากๆ เลยนะครับ ผมก็ชอบ 

อาจจะไม่ใช่เพลงที่ชอบที่สุดแต่ก็ชอบเหมือนกัน Please




แล้วเราก็นั่งจ้อง อืมมมม เสื้อตัวในนั่น เสื้อกล้ามนิ

เสื้อตัวนอก อืมมมมม ติดกระดุมเม็ดเดียวด้วย

จะถอดเสื้อออกก็ไม่ยากนะ อืมมมมมมมมม

แต่จนจบเพลงก็ไม่ถอด ว้าาาา 555555555555


แล้วม่านก็เทลงมาแล้ว Your Story ก็เริ่ม ครั้งนี้มีสาวนักบัลเล่ต์มาเต้นไปเต้นมาด้วยล่ะ

สรุปว่าชุดนี้ลุงแกแต่งตัวมาร้องเพลงช้านั่นเอง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ


จบส่วนเพลงช้าไปแล้ว VTR ตัวที่ 4 ก็ขึ้นมา เป็น One Day of Hyun Joong

ซึ่งเป็นอะไรที่เซอร์ไพรซ์สุดสำหรับเราเพราะมันมีซับอังกฤษ 55555555

ปกติไม่มีนะคะคุณ แฟนต่างชาติก็ดูรูปไปเพลินๆ อย่าหวังเข้าใจเนื้อหาอะไรได้

แต่ตั้งแต่ออกกรมมานี่ต้องบอกเลยว่าทั้งเว็บไซต์ ทั้งอะไรต่อมิอะไรดูอำนวยความสะดวกให้แฟนต่างชาติมากขึ้น

ไม่ต้องบอกว่าเพราะอะไรเนอะ 5555555


เริ่มด้วยวันๆ หนึ่งนั้นจุงจะพาอาร์ตและเมติคไปเดินเล่น เช้ารอบ บ่ายรอบ

เจ้าสองตัวนี้ก็เชื่องดีมาก พอบอกให้นั่งตัวตรง มองกล้อง ถ่ายรูปก็ทำเลยทันที น่าเอ็นดู๊ววววว

พาหมาไปเดินเล่น พาไปเที่ยว Pet Café เสร็จแล้วจุงก็จะไปออกกำลังกาย

ไอ้คลิปออกกำลังนี่ก็เฟคมากนะ เพราะออกกำลังเป็นบ้าเป็นหลัง 

เหงื่อไม่ออก ผมยังสลวย ปากอมชมพูอยู่เลย ไม่มีความเรียลสักกะติ๊ด 5555555555

อ่ะ แล้วก็ไปซ้อมคอนเสิร์ต ซ้อมร้อง ซ้อมเต้น

และเวลา 00.21 น. เที่ยงคืนกว่า ตามสัญญาวันนั้นที่คุยกันในห้องแชท

ที่จุงถามว่าสถานีอานัมนี่อยู่ในโซลไหมครับ 55555555 

จุงก็ให้ทีมงานพาไปยังสถานีเพื่อไปถ่ายรูปกับป้ายโฆษณาที่แฟนจีนทำไว้ให้

ทำเอาแฟนๆ กรีดร้องกันระงม ทั้งขำ ทั้งเอ็นดู ทั้งดีใจที่จุงไปดูให้เห็นด้วยตาตัวเอง




แต่ที่แน่นอนกว่าคือประโยคจบท้าย

คำสุดท้ายที่ผมอยากบอกคือ

“ชินชิมือโร ซารังฮัมนีดะ” พร้อมมินิฮาร์ท 2 ดวง

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

SmileySmiley Smiley

ฉันรักเค้า วันนี้เค้าบอกรักฉันสองรอบแล้ว ฉันเขิน

มันคือวันเกิดที่แสนดีงามและแสนหวานอะไรเบอร์นั้นนนนนนนน


พอผู้ชายบอกรักฉันแล้ว ผู้ชายก็ขึ้นเวทีมาบอกว่ามัน It’s Over ห่ะ! อะไรวะ?

บอกรักไม่ทันหายใจเต้น มาบอกเลิกเลยทันที ใครจัดลิสท์เพลงเนี่ย!!!

แล้วเสื้อผ้าอีก เอาเศษผ้ามาเย็บๆ แปะๆ กันใช่ไหม 




โอ๊ย กลุ้มใจกับคอสตูมคอนเสิร์ตนี้จริงๆ 5555555

แล้วต่อด้วย Unbreakable แล้วจุงก็บอกว่าเพลงสุดท้ายแล้วครับ กลับเหอะ 

ดึกกว่านี้ไม่มีรถไฟกลับนะเออ

ผมไม่ได้จองฮอลล์ไว้ถึงพรุ่งนี้ด้วยอ่ะนะ


พอแฟนๆ งอแงๆ ไม่ยอมกลับ จุงก็ดูลำบากใจ แล้วพึมพำว่า

“ถ้าพวกคุณไม่ยอมกลับ แล้วเมื่อไรผมจะได้ร้องอังกอร์ที่เตรียมไว้ล่ะครับ”

555555555555

ตาบ้า!!!!


เออ ปล่อยให้นางกลับเข้าไปข้างหลังเปลี่ยนชุดซะ แล้วเราก็ดู VTR ตัวที่ 5 กันต่อ 

เป็นเบื้องหลังการถ่ายปก ถ่ายงานวันนี้ เป็นคลิปที่หล่อวัวตายควายล้มไป 30 คอกเห็นจะได้อ่ะนะ

หล่อบ้าบอคอแตก ไม่รู้จะหล่อไปไหน 




ครางหงิงๆ น้ำลายไหล แม่จ๋า หนูอยากได้เค้า งือออออออ

และคนหล่อนะจ๊ะแม่จ๋า ตอนถ่ายทำหน้าเหวี่ยงมาก วีนมาก ใส่สูทหล่อมาก แต่ใส่รองเท้าแตะจ๊ะ 

เดินไปมามันขำอ่ะแม่ 5555555555 หล่อไม่เสร็จอ่ะจ๊ะ


แล้วลูกโป่งยักษ์ก็ลอยออกมาพร้อมเพลง Nothing on U 

และคิมฮยอนจุงก็มาปิดคอนเสิร์ตฉลองวันเกิดให้อิ่มเอมในวันนี้ด้วย Couple Jeans 

เพราะวันนี้เราใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ เหมือนกันเลย


แอ๊ๆๆๆๆๆ จุงอยากเปิดตัวอิ่มเอมใช่ม๊า ใช่ม๊าาา


Smiley




จวนจบเพลง มีแฟนบอยคนหนึ่งยื่นมือถือให้จุง จุงก็หยิบขึ้นมาเซลฟี่ให้ 

ถ่ายแต่หน้าตัวเองด้วยอ่า แฟนๆ กรี๊ดกันกระหน่ำมาก อยากได้เนอะๆ 




พอจุงคืนมือถือให้คนนั้นแล้วคุณผู้หญิงคนข้างๆ ที่มาด้วยกัน หันไปทำไม้ทำมือว่า นายทำดีมาก 555555555

อังกอร์เพลงที่สองคือ Let’s Party และเพลงที่สามคือ Moonlight อีกรอบ

เพลงนี้มันช่างน่ารักจริงๆ เลยอ่ะนะ 




จุงนี่ก็เล่นกล้องหนักมาก ใครถ่ายคลิปถ่ายรูปนี่ มาเล่นหูเล่นตาตลอดๆ 

ดูมีความสุข ดูสนุก แม้คนไม่เยอะ แม้พื้นที่เหลือเยอะ แต่จุงก็เต็มที่กับวันนี้มากๆ เลย




จบอังกอร์ 3 เพลงไป โค้งขอบคุณแฟนๆ แล้ว จุงก็เดินกลับ มีแฟนยื่นมือถือให้อีกรอบ

แต่รอบนี้จุงไม่เซลฟี่คนเดียว แต่หันองศามา ให้ติดแฟนๆ ด้านหลังด้วย

น่าร๊ากกกกกกกก




ขอบคุณนะ

มันเป็นค่ำคืนที่แสนดีมากๆ ทุกวินาทีที่เธออยู่ในสายตา มันคือความสุข

วันเกิด.... สำหรับฉันไม่ได้มีความหมายพิเศษ แต่ปีนี้มันพิเศษ เพราะได้อยู่กับเธอ

คอนเสิร์ตวันนี้สำหรับแฟนๆ ต่างชาติแล้ว เชื่อเถอะว่า 

มันคุ้มค่ากับทุกบาททุกสตางค์ มันคุ้มค่ากับตั๋วเครื่องบินกับทุกๆ อย่าง

ต่อให้เธอนั่งยิ้มให้เราเฉยๆ มันก็มีค่าและมีความหมายที่สุดแล้ว


ปี 2017 ถ้ามันเป็นปีที่ดีที่เธออยากจดจำไว้อย่างที่เธอพูด

สำหรับฉัน มันก็เป็นปีที่สวยงามเช่นกัน

ขอให้ปีหน้าของเราทั้งคู่ ทั้งคิมฮยอนจุงและเฮเนเชีย สวยงามและมั่นคงไปด้วยกันเนอะ


진심으로 사랑합니다 Smiley


และเราจะอยู่ไปด้วยกันอีกหนึ่งปี อีกสองปี อีกสามปี และเป็นสิบๆ ปีเนอะ

หันหลังมาเมื่อไร จะมีฉันอยู่กับเธอเสมอ




แต่จะให้ดี หันมามองหน้ากันบ้างก็ได้ 555555



ปล.1 ไหนเพลงที่บอกจะแต่งให้เข้ากับหน้าหนาว ให้ฟังเพลินๆ .... อยู่ไหน?

ปล.2 ขอบคุณเฮเนเชียทั่วโลกที่มาร่วมงานวันเกิดของดิฉันนะคะ ฮี่ฮี่






Create Date : 11 ธันวาคม 2560
Last Update : 13 มีนาคม 2561 11:40:48 น.
Counter : 1634 Pageviews.

1 comment
Welcome Back Kim Hyun Joong












Welcome Back Kim Hyun Joong

김현중_전역 


12 พฤษภาคม 2015 - 11 กุมภาพันธ์ 2017

ระยะเวลา 1 ปี 9 เดือน หรือ 640 วัน 
กับการเข้ากรมรับใช้ชาติตามประสาผู้ชายเกาหลีของคิมฮยอนจุง

นับเป็นเวลาที่ยาวนานและทุกข์ทรมานกว่าไอดอลคนใดๆ 

สำหรับเราแล้ว 
การเข้ากรมของจุงถือเป็นเรื่องน่าภูมิใจ 
การรับใช้ชาติ ทำหน้าที่ของลูกผู้ชายนั้นเป็นสิ่งที่ดี
และเป็นอะไรที่เราตั้งตารอ การจะไม่ได้เจอกันเกือบสองปี ไม่ใช่ปัญหา 

เรารอได้ เรามั่นใจสุดๆ

ดังนั้นจึงตื่นเต้นกับวันเข้ากรมที่จะมาถึง อยากเห็นคนใส่เครื่องแบบทหารเท่ๆ 
ต้องหล่อมากแน่นอน เรื่องหล่อเอาเป็นเอาตาย ไว้ใจคิมฮยอนจุงค่ะ!

แต่เมื่อวันนั้นมาถึงจริงๆ ทุกอย่างไม่เป็นตามที่คิด
เเละตลอดช่วงเวลาที่จุงอยู่ในกรม มันก็ไม่สนุกเอาซะเลยสำหรับเรา

มันเต็มไปด้วยความเครียด กดดัน ขมขื่น ปวดใจ 
สงสารตัวเอง สงสารจุง สงสารครอบครัวจุง เห็นใจเพื่อนๆ และแฟนคลับจุงทั่วโลก

มันเป็นช่วงเวลาที่เรา "ทุกคน" ต้องผ่านไปด้วยความยากลำบาก 
ต้องเก็บตัวเงียบ ต้องกัดปากและปาดน้ำตาตัวเองอยู่ทุกวันคืน

มันมากกว่า 640 วัน ที่เราจมอยู่กับความทุกข์ใจ

และวันที่เรารู้สึกว่า เเม้ทุกสิ่งทุกอย่างจะยังไม่จบลง แต่ขอแค่เราสู้อยู่ด้วยกันก็มาถึ

วันที่คิมฮยอนจุงจะออกจากกรม กลับมาอยู่เคียงข้างกันกับพวกเราเฮเนเชียดังเดิม 

วันที่เรารู้สึกว่าต่อให้โลกมันจะคว่ำจะคะมำอีกกี่รอบ เราก็ยังสู้ไหว ถ้าเราได้อยู่ด้วยกัน


วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2017

ช้านี้ตื่นตีสี่ ไม่อาบน้ำ (อาบไม่ไหวแล้ว แต่แปรงฟันนะ) และเอาเสื้อผ้าห่อหุ้มตัวให้หนาที่สุด 
เพราะต้องไปยืนกลางแจ้ง กลางอากาศหนาวนานหลายชั่วโมง ต้องทำตัวให้อุ่นที่สุดเข้าไว้ก่อน
ออกจากที่พักตอนตีสี่ครึ่งไปหาบรรดาเจ้ๆ ทั้งหลายที่จุดนัดพบตอนตีห้าตรง

มยองดงตอน 04.30 น. มีดิฉันเดินเพียงลำพัง หมาไม่มีหอนใส่ สงสัยหาที่อุ่นๆ นอนหลับหมด

โธ่ ชีวิต Smiley

ราวตีห้าน้อยๆ รถที่จองไว้ก็มารับเราเพื่อตรงไปยังหน่วยที่ 30 เมืองโกยาง จ.คยองกีโด
พูดเหมือนไกล จริงๆ ห่างโซลไปราวๆ 30 นาทีเท่านั้นแหละ
วันนี้พระจันทร์สวยมาก กลมโต อากาศหนาว แต่หัวใจอบอุ่น 
นั่งอยู่บนรถมองจันทร์เป็นหน้าเธอไปไม่นาน ก็ถึงแล้ว

เราเดินเข้าไปตามทางที่บรรดาลุงๆ คนขับรถชี้ให้ดู คนขับรถรู้จักกันหมด 
เหมือนทุกคนถูกจ้างวานมาจนชิน 55555

เข้าไปถึงตอนราวๆ 05.40 น. ได้ล่ะมั้ง เห็นพี่การ์ดเดินอยู่แล้วหลายคน
เจ้ๆ แซวกันว่าคนที่รู้จักแฟนคลับดีก็การ์ดนี่แหละเพราะรู้ทันว่าเราจะมาเช้ากันมากๆ 
การ์ดก็เลยต้องมาเช้ายิ่งกว่า
มาครบทั้งพี่บึ้ก พี่ล่ำ พี่มั่น พี่ถึก และสารพัด การ์ดเยอะมากๆ สงสัยมาหมดคีย์อีสต์แน่ๆ

มองไปมาเห็นเขากำลังจัดเตรียมซุ้มข้าว และป้ายผ้าใบที่แฟนๆ ทำไว้ต้อนรับจุงอยู่ 
ทำงานกันแต่เช้ามืดเลยทีเดียว







เราไปต่อแถวเรียงคิว ได้คิวที่ 87 เอิ่ม .... คิวแรกมากี่โมงคะ 
มาหาจุงทีไรกลายเป็นผู้หญิงมีเบอร์ทุกทีเลยค่ะ 555

อากาศหนาวมาก หนาวมากๆ -15 องศา และแดดยังไม่ออก พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น 
เราต้องนั่งเงียบๆ รอคิวอยู่อย่างนั้น
แฟนๆ ทะยอยมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ต่างชาติ ต่างภาษา เยอะขึ้น
นิ้วแข็ง แก้มชา เท้าสองข้างไร้ความรู้สึก แม้จะพกถุงร้อนมากู้ชีพสองถุง ถุงละ 70 องศา
สองถุงให้ 140 องศาเลย (คิดไปได้) แต่ก็....
หนาวเว้ยเฮ้ย อะไรวะเนี่ย มาทรมานตัวเองทำไม!!! 
กระโดดดึ๋งๆ ให้ร่างกายอบอุ่น แล้วรอต่อ เพื่อจุง ทนได้

ตอนมา come back Break Down ว่าหนาวมากแล้ว เทียบกันไม่ได้กับวันนี้เลยจริงๆ พับผ่าเหอะ

เจ็ดโมงเกือบครึ่ง แถวเริ่มขยับ พี่การ์ดเริ่มมาตั้งที่กั้นให้เป็นทางๆ ให้พวกเราไปรับของที่ระลึก

รถกาแฟ Oppa Truck วิ่งมาจอด จอดปุ๊บป้ายจุงลงมาตั้ง 
แฟนๆ ฮือฮา รุมถ่ายรูปรถกันยกใหญ่ 

เราก็เช่นกัน



แล้วก็เดินวนคิวรับของที่ระลึกกันไป เป็นโฟโต้บุ๊คเล่มน้อยๆ จากคลิป White Hole ที่น่ารัก 



กรีดร้องกันระงมไปหมด

ปาดน้ำลาย แล้วไปรับกาแฟกันคนละแก้วต่อ

ผู้ชายกลัวเราหนาวตายก่อนเวลาอันควร จึงเตรียมกาแฟอุ่นๆ มารอเสิร์ฟ



ตามที่แจ้ง จุงจะออกกรมเวลา 10 โมง พวกนี้มาแต่ตี่สี่ตีห้า ไม่หนาวก็บ้าเเล้วล่ะ

รับกาแฟมาแล้ว ก็มีกล่องรับนกให้หย่อน 
แต่เราตอนนั้นทั้งกาแฟ ของที่ระลึก ผ้าพันคอ กระเป๋า พัวพันไปหมด จึงเดินเลย 
เดี๋ยวกลับมาหย่อน หาที่สิงสถิตย์ก่อน

พ้นจุดนี้ไปแล้ว พี่การ์ดให้ตั้งแถวใหม่ หันหน้าเข้าหาตัวอาคารที่เล็งแล้วว่าจุงคงมายืนตรงนั้น

เราได้แถวที่สอง หลังสาวญี่ปุ่น เรียกว่าทำเลดีทีเดียว

อยู่ไปอยู่มา คนก็เยอะขึ้น อากาศไต่ไปที่ -17 max สุดๆ เเม้พระอาทิตย์จะขึ้นแล้วก็ตาม 
ยืนรอจนขาสั่นแบบระงับกิริยาตัวเองไม่ได้
หนาวจะตายแล้วววววว แต่ก็อีกไม่นาน เดี๋ยวจุงมา ทนได้ ฉันทนด้ายยยยยย

สื่อมา สื่อมาเยอะใช้ได้อยู่ มาถึงก็ตั้งกล้องบังพวกเรา ขอบใจ!!!

ทำเลดีแค่ไหน สื่อมาบังก็พังซิคะ


เค้กมา เค้กที่ว่าจะเซอร์ไพรส์จุงมาแล้




กรงนกก็มา ว้ายยยยยย ลืมหย่อน พี่วรรณใจดี วิ่งไปหย่อนให้ ขอบคุณนะคะ




และด้วยความไปหย่อนทีหลัง สื่อถ่ายมาติดของเราเลย เด่นมาก เพราะคำว่า "ฮยอนจุงอ่า" แน่ๆ เลย




ดูบรรดาสื่อสนใจในกรงนกนี่มากๆ เพราะทุกสำนักข่าวไปรุมถ่ายกันยกใหญ่เลย เราก็สนนะ 
เพราะตอนแรกที่ดูมันน้อย คือเราคิวแรกๆ ที่เดินผ่านมันไง

พอใกล้ถึงเวลาจุงมา แฟนๆ มาเยอะขึ้นเห็นว่า 1,200-1,500 คน อันนี้ไม่แน่ใจ 
สุดท้ายกรงนกก็เต็มแน่นเลย หลากสีสัน สวยมาก

Smiley แฟนๆ มารับจุงเยอะเเยะไปหมดเลยเนอะ Smiley




อยากจะบอกสื่อ ... อย่าดูแคลนความรักของแฟนคลับ โดยเฉพาะแฟนคลับคิมฮยอนจุง 

เพราะเราผ่านอะไรมาเย้ออออออ

ระหว่างที่รอนั้น สื่อก็มาสัมภาษณ์คนนั้นคนนี้ เน้นไปที่แฟนญี่ปุ่น ถามว่า "ทำไมถึงมา"

คือคำถามนี้คิดมาแล้วใช่ไหม? จะถามทำไมวะ ไม่เข้าใจ ยังต้องถามเหรอ

ก็นั่นแหละ ก็เป็นช่วงสัมภาษณ์กันไป เราก็ดูนาฬิกาไปเรื่อยๆ 

จาก 6 โมง เป็น 7 โมง เป็น 8 โมง และเป็น 9 โมง ..... ชั่วโมงสุดท้ายแล้ว

ยังไม่ทันจะ 10 โมงตามที่ควรเป็น .... แค่ 9.45 น. เท่านั้นล่ะมั้ง

เสียงฮือฮาที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากทางขวามือของเรา 
เสียงเรียก ลีด้าๆ คิมฮยอนจุงๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ 
เสียงแห่งความดีใจ ตื่นเต้น





และก็เห็นจุงค่อยๆ เดินมา เดินไปมองแต่แฟนๆ ไป จนไปยืนในจุดที่เตรียมไว้



พ่อเจ้าประคุณเอ๊ยยยยยยย เสียงแฟลชรัวแตกมาก คนข้างหลังก็ดัน โถมเข้ามาไม่หยุด 
เราทุกคนพยายามจะมองเห็นจุงให้มากที่สุด ทั้งสองตาและผ่านเลนส์

ช่างน่าสะเทือนใจกับความสูงของตัวเองดังที่ผ่านมาตลอดชีวิต ที่ต้องมองผ่านเลนส์ 555555

พยายามจะถ่ายจุงด้วย แต่เรียกว่าโคตรจะลำบาก 
หนาว มือสั่น ปรับโฟกัสไม่ได้ (อาการปกติของอิ่มเอมค่ะ)
คือเรียกว่า ไม่ประสบความสำเร็จในการถ่ายรูปอ่ะนะ

แล้วจุงก็เริ่มพูด เอาจริง ฟังไม่รู้เรื่องหรอก มารู้เอาตอนมีคนแปลทีหลัง
รู้แต่ เสียงจุง เสียงที่ไม่ได้ยินมาเกือบสองปีแล้ว
และนั่น คือทหารที่หล่อที่สุดในโลกใบนี้ เช่นกัน

เครื่องแบบทหารที่แทบไม่ค่อยได้เห็น กว่าจะได้เห็น ก็วันนี้ .... วันปลดประจำการ 555

กับยิ้มหวานๆ สดชื่น ที่ไม่ได้เห็นมานานมากเหลือเกิน อู๊ยยย ดีใจ น้ำตาจิไหล
เห็นเธอยิ้มได้ หัวใจฉันก็เบิกบาน




สวัสดีครับ ผมสิบเอกคิมฮยอนจุง

ผมรู้สึกขอบคุณบรรดาผู้สื่อข่าวทุกท่านและแฟนๆ ที่มากันไกล 

ท่ามกลางอากาศเช่นนี้นะครับ 

ผมได้เข้ากรมไปในช่วงเวลาที่ยากลำบากและได้เรียนรู้อะไรมากมาย 

ตอนนี้เป็นการเริ่มต้นครั้งใหม่ เริ่มต้นอีกครึ่งของชีวิตแล้วครับ 

และในตอนที่รู้สึกเช่นนี้นั้น ผมได้ปฏิบัติหน้าที่ทหารอย่างสมบูรณ์แล้ว


อันที่จริงผมยังรู้สึกกังวลและยังกลัวอยู่เหมือนกัน แต่ว่าได้เรียนรู้อะไรจากในกรมมาเยอะ 

ได้ใช้เวลาคิดเยอะมาก และรู้ว่าจะก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างไร จะแก้ไขอย่างไร 

ดังนั้นผมจะยินดีมากถ้าหลายๆ คนและแฟนๆ ของผมจะยังคงเชื่อในตัวผม 

และกรุณาติดตามผมต่อไปนะครับ


ขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่มาในที่หนาวๆ แบบนี้ ขอบคุณมากครับ


แล้วจุงก็หยุดพูด หันมาโพสต์ท่าตะเบ๊ะให้ชาวเรากรีดร้อง เท่มาก คุณขา เท่มากกก

สื่อถ่ายกันกระหน่ำ จุงหันไปทางนั้นที ทางนี้ที ทำท่าเคารพอย่างดี มาดแมนมากๆ 







หัวใจจะวาย หล่อ เท่ ดีงามในสามชาติ

ก่อนจะหยิบไมค์ขึ้นมาอีกรอบ

ให้พูดอะไรกับแฟนๆ ที่ยังคงสนับสนุนผมเหรอครับ ..... 

ตอนที่ผมเข้ากรมไปนั้น ผมไม่ได้กล่าวคำลา อดรู้สึกผิดไม่ได้ 

แต่ตอนนี้ หลังจากผ่านไป 21 เดือน ผมได้มาทักทายแล้วนะครับ เลยรู้สึกดีใจมากๆ 

อย่างที่พูดไปแล้วนะครับ ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นผมได้คิดอะไรมากมาย 

มันทำให้ผมรู้ว่าจะก้าวต่อไปอย่างไร 

และได้รับความกล้าหาญมาเยอะด้วย ผมอยากขอบคุณจริงๆ นะครับ

ทั้งเหล่าเพื่อนทหาร ทั้งพนักงานและบุคคลากรต่างๆ ในกรม 

รวมทั้งแฟนๆ ที่อยู่ตรงหน้านี้ด้วย


คือ ถ้าคุณเป็นผู้ชาย คุณต้องเข้ากรมสักครั้งหนึ่งนั้นแหละครับ 

ผมเองก็เข้ามาและเปลี่ยนความคิดไปหลายอย่างเหมือนกัน 

คุณนักข่าวผู้หญิงตรงนี้อาจไม่เข้าใจถึงมัน แต่คุณนักข่าวผู้ชายคงเข้าใจได้ดี 

และผมไม่ได้ถูกขอร้องมาให้พูดนะครับ แต่ผมพูดเพราะเชื่อจริงๆ ว่า 

ประชาธิปไตยในประเทศเรายังอยู่ได้เพราะมีทหารอยู่ 

การสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยก็เช่นกัน 

เพราะการมีอยู่ของกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ 

ผมจึงคิดว่าประชาชนในสาธารณรัฐเกาหลีใต้นี้จะดำรงชีวิตต่อไปได้อย่างไร้ความกังวล 

ผมได้รับการฝึกเช่นนั้นมาตลอด 21 เดือน 

และหวังว่าคนบันเทิงที่เพิ่งเข้ากรมไปช่วงนี้จะเข้มแข็งจนกว่าจะสำเร็จการฝึกฝนนะครับ


สิ่งแรกที่ผมจะทำคือไปพบพ่อแม่ครับ 

ถึงจะได้พบพวกท่านบ้างช่วงวันหยุด แต่ก็อยากไปบอกว่าผมฝึกทหารจบแล้วนะครับ 

ส่วนแพลนในอนาคตยังระบุไม่ได้ครับ 

แต่อย่างแรกที่จะทำเลยคืออยากทักทายแฟนๆ ของผมเร็วๆ นี้ ในที่ดีๆ ครับ




ระหว่างที่จุงหยุดพูดบ้างนั้น แฟนๆ ตะโกนเรียกคิมฮยอนจุงๆ เป็นระยะ 
ทุกคนดีใจ เราเชื่อว่าทุกคนดีใจที่ได้มายืนเห็นจุงวันนี้ ได้เห็นว่าจุงแข็งแรงดี ทั้งกายและใจ
คิมฮยอนจุงในวันนี้ แตกต่างกับวันนั้นมากเหลือเกิน

วันที่จุงต้องเข้ากรม จุงต้องเดินก้มหน้า และหลบสายตาคนอื่น แววตาว่างเปล่า เปี่ยมทุกข์

แต่จุงวันนี้ หน้าตาผ่องใส เชิดหน้าและสบตาทุกคน มีรอยยิ้มแตะแต้มทั้งแววตาและริมฝีปาก ล้นสุข



คิมฮยอนจุงของพวกเราวันนี้ เข้มแข็งแล้วจริงๆ

เราดีใจที่เห็นเช่นนั้น

หลังกล่าวคำทักทายจบ จุงก็หันหลังเข้าไปในตัวอาคาร เรานึกว่าจะหมดแล้ว 
แต่ไม่เลย พี่การ์ดเริ่มมาจัดระเบียบแฟนคลับอีกรอบ 
และไม่นานเลย จุงก็ก้าวออกมาอีกครั้ง และเดินตรงไปทางซ้ายมือของเรา ไปทางนั้น

เพื่อตั้งตรงเดินทักทายแฟนๆ!!! 

จุงเดินไปสุดปลายทางหนึ่ง เพื่อเริ่มต้นเดินทัก ให้แฟนๆ ได้เห็นหน้า 
และให้จุงได้มองหน้าทุกๆ คน เช่นกัน

ทำไมมันน่ารักแบบนี้ล่ะ!!!!

เดินไปเรื่อยๆ ค่อยๆ เดินมา จากซ้ายไปขวา  แฟนๆ ก็ดันกันใหญ่ พยายามจะเข้าไปให้ใกล้ที่สุด


เดี๋ยวๆ นี่ ผบ. ฮนช. เดินตรวจเยี่ยมประชาชนอยู่เหรอยะ 555+








อิฉัน เดิมอยู่แถวสอง เจอชะนีจีนเบียดกระเด็น จบสถานะตัวเองอยู่ราวๆ แถวห้า เฉยเลยค่าาาาาา

อยากใกล้ ไยไม่มาแต่ตีสามวะคะ พวกนี้เนี่ย!!! 

อย่ากระนั้นเลยเราปล่อยพวกซอมบี้โถมไป 
เราสงบแล้ว เราปล่อยวางเเล้ว เราเห็นจุงผ่านเลนส์แล้ว จบ พอ เลิก

..... แต่ในจังหวะนึงนั้น เหมือนว่ามีแฟนคลับถูกดันจนล้มลงตรงหน้าจุง ทำให้แถวหน้ามันเตี้ยลง 
ทำให้จุงหันมา และ

ทำให้อิ่มเอมเห็นหน้าคิมฮยอนจุงเต็มสองตาตัวเอง กรี๊ดดดดดดดดดดดดด

กรีดร้องก้องอกแฟ่บๆ ของตัวเองค่ะ ขุ่นพระๆๆๆๆ Smiley

คือมานี่แบบกะว่าเห็นผ่านเลนส์พอ ไม่คาดหวังค่ะ 

แต่มันดันได้เห็นด้วยตาตัวเองเว้ยแกร๊!!! ฉันจิคลั่งงงงงง

แค่ 3 วินาทีคงได้ นี่กรี๊ดบ้าบอคอหอยแตก 
คือถ้าใครยืนอยู่ใกล้ๆ อาจเห็นว่าอิฉันทำหน้าเฉยๆ ท่าทางก็นิ่งๆ

แต่โปรดรู้นะคะ ในใจดิฉันนั้นดีดดิ้นรุนแรงมาก 555555555555

มันคือความชื่นใจแบบประเมินค่าไม่ได้ มันคือความ Smiley "อิ่มเอมใจ" Smiley

มันคือความรู้สึกว่า เฮ้ยยย แค่เนี้ยแหละ อยู่ได้เป็นปีๆ เลยนะ แค่เสี้ยววินาทีที่เห็นหน้านี่แหละ

มันคือยาใจชั้นดีที่สุดสำหรับเราเลย

ราว 10.15 น. ม็อบสลาย พอผู้ชายเดินหายลับขึ้นรถไป 
แฟนคลับหายแว่บ ราวที่นี่ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น 
ทุกอย่างสลายรวดเร็วมาก อะไรกัน 555555555555

ขามานั่งกันเงียบ ง่วง
ขากลับกรีดร้องระงม จนลุงคนขับส่ายหน้า

รูปสิบเอกในใบประกาศนียบัตร เป็นทหารต้องหล่อเบอร์นี้ไหมคะคุณ?



จุงน่ารัก จุงน่าร๊ากกกกก รูปสื่อออกไวมาก จุงหล่อ หนวดนั่น ปากแดงๆ นั่น หูซ้ายของฉันนั่น

กรี๊ดดดดดดดด

ขอต้อนรับการกลับมานะจุง

ยินดีต้อนรับกลับสู่อ้อมกอดของ HENECIA 

เราจะสู้ไปด้วยกัน เยสสสสส


ปล. เขาบอกว่าตอนจุงมาให้ร้องเพลง Thank You จุดนั้น ทุกคนลืมหมด ไม่เห็นมีใครร้องเลยนะ 

ปล.2 ไหน -17 ไม่มี๊ ไม่มี พอผู้ชายออกมาที ความหนาวไม่มีค่ะ 
ร้อนมากกกกกก ผู้ชายฮอตมากกกกก

รูปเดียวที่ถ่ายได้ของเรา ได้หูซ้ายมาด้วย รู้สึก ฟินมากกกกกกก



- - - - - - - - - - - - - 


วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2017

เช้าแรกของจุงหลังออกจากกรม จุงส่งคลิปออกมาทักทายพวกเรา เป็นคลิปที่ ... ไม่ไหวเอาซะเลย


สวัสดีครับ ผมคิมฮยอนจุงครับ

ลืมตาตื่นมาเช้านี้ ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าปลดประจำการแล้ว ไม่ได้อยู่ในกรมแล้ว 

ผมอยากขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่มารับผมทั้งที่อากาศหนาวแบบนี้นะครับ

21 เดือนที่ผ่านมา นับเป็นช่วงเวลาที่ผมได้พิจารณาข้อบกพร่องของตัวเอง 

และสำหรับพวกคุณ มันคงยากน่าดูที่จะบอกว่าเป็นแฟนคลับของคิมฮยอนจุงอย่างเคย 

อาจมีบางทีที่ต้องปิดไว้ไม่ให้ใครรู้ด้วยซ้ำ

แต่ผมรวบรวมจิตใจตัวเองได้แล้

และจะตอบแทนทุกคนที่เชื่อในตัวผม แสดงให้เห็นว่าผมเข้มเเข็งขึ้น 

ในฐานะแฟนๆ ของผม ตั้งตารอดูได้เลยครับ! 

ผมจะกล้าหาญและเผชิญหน้ากับทุกอย่างด้วยความมั่นใจ

ผมอยากขอบคุณทุกคนที่มาหาผมท่ามกลางอากาศหนาวแบบนี้อีกครั้งนะครับ 

และต้องขอขอบคุณทุกๆ คนในหน่วยที่ 30 ที่อยู่กับผมมาตลอด 21 เดือนด้วย


คิมฮยอนจุง ฉันไม่เคยปิดบังใครว่าฉันเป็นแฟนคลับของเธอ

ฉันภูมิใจในตัวเธอเสมอ

สองปีที่ผ่านมา แม้มันจะขมขื่นและเครียด มันทรมานใจแค่ไหน 

ฉันก็ไม่เคยสิ้นหวังและหมดรักในตัวเธอ

ฉันอาจจะเก็บตัวเงียบ ปิดปากเงียบ

ไม่ใช่เพราะฉันคิดว่าเธอผิด ไม่ใช่เพราะฉันไม่กล้าปกป้องเธอให้คนอื่นฟัง

เพียงแค่ ... เพราะฉันไม่อยากเถียงออกมาให้ใครๆ โจมตีเธอมากขึ้นเท่านั้น

การปิดปากเงียบ คือ การปกป้องเธอที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเราจะทำได้
เราเคลื่อนไหวเงียบๆ เราไม่โต้ตอบกับสื่อเลวๆ และสังคมที่เหยียบย่ำเรา
เราแค่กอดกันเอง และถ่ายทอดกำลังใจให้ให้เธออย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เราปาดน้ำตาตัวเอง และหยิบยื่นรอยยิ้มที่ยังมีเหลือให้เธอ
แค่ให้เธอรู้ว่า โลกนอกกรมทหาร ไม่ได้มีแต่หนามแหลม 
แต่มีความรักของพวกเรารอคอยเธออยู่

มนุษย์เรานั้นชื่นชอบข่าวฉาว และชิงชังที่จะแก้ข่าวที่ฉาวให้กลายเป็นถูกต้อง 
แม้ภายหลังคดีความจะคลี่คลายไปในทางที่ดี 
แต่กลับไม่มีใครหันกลับไปมองเลยว่าพวกเขาได้ทำร้ายเธอมากแค่ไหน
ถ้อยคำดูหมิ่นเธอ และการกระทำที่ดูแคลนเฮเนเชียอย่างพวกเรา
มันอาจจะทำให้เจ็บปวดและทุกข์ใจ
แต่เช่นกัน มันทำให้รู้ว่า 
คนเราจะรักกันได้มากแค่ไหน เมื่อต้องผ่านเวลาเลวร้ายแบบนี้ไปด้วยกัน

เรารักเธอ

เฮเนเชียรักเธอนะคิมฮยอนจุง

ฉันภูมิใจที่จะบอกใครต่อใครว่าเป็นแฟนคลับของคิมฮยอนจุง

เพราะเธอไม่ใช่เรื่องน่าอายในชีวิตของฉัน

#ProudToBeKHJfan










Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2560 8:11:19 น.
Counter : 2525 Pageviews.

1 comment
My Precious Memory


อีกฉบับล่ะ ^^

เรื่องดีๆในชีวิตเรื่องนึงที่คิดมาเสมอคือ 4 ปีที่ผ่านมานี้

กับการมีโอกาสได้เขียนหนังสือ ได้ถ่ายทอดความคิดฟุ้งๆเป็นตัวอักษร

ตั้งแต่เล็กจนโต เป็นคนช่างเขียน ช่างพูด ช่างเพ้อ สารพัดช่างมารวมๆกัน

เป็นการระบายอารมณ์ ระบายความรู้สึก ระบายความคิด ระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีก็ระบายๆออกมาซะผ่านการเขียนของตัวเอง

ไม่ว่าจะไดอารี่ จดหมาย โปสการ์ด เศษกระดาษ หรือแม้แต่...บล็อก

ก็ระบายๆมาเรื่อยเปื่อย

จนวันหนึ่งไอ้การระบายอารมณ์ผสมความสนุก มันไปอยู่ในนิตยสารขึ้นมา

ทุกครั้งที่นิตยสารวางแผง

ทุกฉบับที่มีข้อเขียนฟุ้งๆของเราอยู่ในนั้น

มันดีใจนะ

การเพ้อเจ้อของเรา มันมีคนอ่านแหะ ^^

การโหวกเหวกโวยวายของเรามันมีคนชื่นชมแหะ

มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากกกกกกกกก จริงๆนะ

ขอบคุณน้องเต๋า คนแรกที่ผลักดันเรื่องฟุ้งๆของพี่

ขอบคุณ hyuniversal0606 ทุกคน ที่ช่วยกันอ่าน ช่วยกันหัวเราะ

และเป็นคนกลุ่มแรกๆที่บอกว่า "มันเพ้อได้สนุกดี"

ขอบคุณคุณตั้ม หมีใหญ่ใจดี ที่ให้กำลังใจและเข้าใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆ มาเสมอเลย

ขอบคุณพี่ดวง ที่หยิบยื่นโอกาสและหน้ากระดาษให้อย่างต่อเนื่อง

ขอบคุณแม่ พี่โอ๋ แอ๊บ และน้องก้อง ที่ปล่อยให้ไปเพ้อถึงโน่นนั่นนี่ไม่คิดจะห้ามปราม (เหมือนๆห้ามจะไม่อยู่ คึคึ)

ขอบคุณเพื่อนจา บุคคลทรงคุณค่าที่สุดในชีวิตการเพ้อเจ้อ นางเป็น "ผู้ฟังระดับเทพ"

ขอบคุณคนอ่านทุกๆคน ทั้งที่แสดงตัวและไม่แสดงตัว

ทั้งที่โทรไปถึงนิตยสาร ไปชื่นชม ทั้งที่ตามมาบอกว่าชอบในทวิตเตอร์ด้วย ทั้งที่คอยติดตามในบล็อกด้วย

คำชมของคุณทุกคนมันทำให้ "อิ่มเอมใจ" จริงๆนะ

และสำคัญที่สุดคือ ขอบคุณเธอ....เพราะเธอ เธอคนเดียว

การมีเธอเข้ามาในชีวิต ทำให้การเขียนอะไรฟุ้งๆของฉันกลับกลายเป็นรูปเป็นร่าง

เป็นสิ่งที่น่าจดจำ เป็นสิ่งที่มีความหมายมากมายเหลือเกินในชีวิต

ถ้าไม่เพราะเธอ ฉันก็ยังคงนั่งเขียนอะไรลงเศษกระดาษอยู่เลยมั้ง

เพราะเธอ....การที่ได้รู้จักเธอ ไม่ใช่แค่ทำให้หัวใจชื่นบานเหมือนฤดูใบไม้ผลิที่ไม่เคยจบสิ้นลง

แต่มันทำให้ความฝันเล็กๆของฉันเป็นจริงขึ้นมาได้

เพราะเธอคนเดียวเลย คิมฮยอนจุง

รักนะยะ จุ๊บุจุ๊บุ

현중의 임엠
(อิ่มเอมของฮยอนจุง)
2009 - Eternity















Create Date : 26 กันยายน 2557
Last Update : 26 กันยายน 2557 14:55:33 น.
Counter : 656 Pageviews.

0 comment
현중의 임엠 Fan sign นี้ มีแต่รัก-รัก-รัก
29-08-2013

อีกหนึ่งวันที่ต้องจดจำไว้ในประวัติศาสตร์ชีวิตตัวเอง
เพราะเป็นวันที่จะได้เกาะโต๊ะสบตาชายหนุ่มเป็นครั้งแรกในชีวิต

การไปแฟนไซน์สำหรับหลายคนอาจเป็นเรื่องธรรมดา ไปบ่อย , บางคนอาจเป็นครั้งแรก ,
และบางคนอาจอยากไปแต่ไม่ได้ไปด้วยสาเหตุที่แตกต่างกัน

แต่สำหรับเรานั้นมันเป็นการไปที่คาดหวังและสิ้นหวังในคราวเดียวกัน

เพราะเรารู้มาว่าแต่ละคนต้องซื้อกันหลายสิบแผ่นเพื่อจะได้รับสิทธิ์ไปสบตาจุงแบบส่วนตัว

แต่เราทำใจไม่ได้ เราไม่อยากมีซีดีจุงเป็นหลายสิบแผ่นแบบนั้น
เราคิดว่าเพลงของจุงมันควรไปกระจายๆให้คนหลายๆคนฟัง
ไม่ใช่มากองที่เราคนเดียว

และต่อให้มันขายไม่ได้ก็เรื่องเหอะ ไม่ควรมากองอยู่ที่เราอยู่ดี 555

เพราะฉะนั้นจึงเป็นการไปร่วมงานแบบคาดหวังและสิ้นหวัง
จะกล้าหวังได้ไงก็ซื้อซีดีเท่าที่อยากได้เท่านี้ จะไปแข่งกับใครได้

แต่วาสนายังมี พอในประกาศมีชื่อเราเท่านั้น ถึงขั้นกรี๊ดลั่นสวนสาธารณะยออิโดยามค่ำ
น้ำตาแทบไหล หัวใจเต้นตึกตัก จะได้ลายเซ็นแล้ว (เว้ยยยยย)



เช้านี้ วันพฤหัสบดี ตื่นมาอากาศจึงเป็นใจ.....โซลฟ้ารั่วจ๊ะ

ฝนตกตั้งแต่เช้า แรงขึ้น เบาลง แรงอีก จางอีก เบาไป วนเวียนอยู่อย่างนี้
จะว่าไปไม่เคยมาอยู่ที่นี่ยามฝนตกเหมือนกันแหะ
ฝนของกรุงโซลหนักเบาแบบพิกล ฟ้าไม่ขาวไม่มืดแบบบ้านเราด้วย
อืมมมม ภูมิศาสตร์ต่างกันทำให้แม้แต่เมฆฝนก็หน้าตาต่างกันหรือป่าวนะ??

4 โมงกว่าๆเราก็ออกเดินทางเพื่อไปยังสถานียออิโด จุดที่จะเกิดเหตุ
ชักเริ่มหายใจติดขัด เริ่มเกิดอาการตื่นกลัว
จริงๆเลยนะ ไอ้อาการกลัวจุงนี่เมื่อไรจะหายก็ไม่รู้ แล้วเป็นมาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่แน่ใจ.....
รู้สึกอีกที เราก็หวาดกลัวการมีตัวตนหรือการไปยืนอยู่ในสายตาของคิมฮยอนจุงไปซะแล้ว

ไปถึง มีเวทีตั้งไว้เตี้ยๆ แบนเนอร์ใดยังไม่มา เริ่มกระสับกระส่าย
จนได้เวลาก็ขึ้นไปที่ชั้นสอง ร้าน YP Books เพื่อไปรับบัตรคิว ว่าจะได้เข้าหาจุงเป็นลำดับที่เท่าไร
ทุกคนผลักดัน ไม่อยากเป็นคนแรกเท่าไร ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมแหะ
แต่แถวก็ยาวพอประมาณ เราได้คิวที่ 48 โอ๊ะ .....



เลขสลากที่ได้ก็ 407 สงสัยงวดนี้ต้องเล่นเลขนี้ซะล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ



รับบัตรคิวแล้วก็ใจตุ๊มๆต่อมๆไปหน้างาน ที่ตอนนี้กั้นคอกแล้วเรียบร้อย ให้ผู้โชคดี 150 คนนั่งในนี้
ส่วนสหประชาชาติมุงให้อยู่นอกรอบนะจ๊ะ
เข้าไปนั่งเรียงลำดับสองข้างประกบด้วยแฟนจากญี่ปุ่นที่นั่งได้มั่วสุดๆไปเลยซ้ายเบอร์ 49 แต่ขวาเบอร์ 69

เอิ่มม.....

สักพักสาวเกาหลีเบอร์ 70 มาสะกิดบอกว่าเรานั่งผิด แหม อยากจะบอกว่าที่ผิดอ่ะป้าปุ่น
แต่นางไม่เข้าใจ นางก็ฮึดฮัดจากไป แต่เรานั่งนิ่ง เราไม่ขยับใดๆ
เราเสี่ยงตายกลั้นหายใจมาจนถึงวินาทีนี้ จะสละที่นั่งที่แสนนนน...จะกลางงาน ตรงหน้าจุงไปได้อย่างไรกันเนอะ

และแล้วเสียงกรี๊ดเบาๆก็ดังขึ้นวูบหนึ่ง ตอนเวลา 19.30 น. ตรงเป๊ะ
คิมฮยอนจุงวันนี้มาในชุดสีดำอีกแล้วครับท่าน เสื้อยืดตัวหลวมๆ หมวกสีดำ กางเกงห้าส่วนสีดำ ซาตานชัดๆ
..... คนใจดำ ชุดก็ดำ ที่พอมองไปรอบๆด้านแล้วยิ้มที กลับทำให้ลมหายใจเราติดขัดกว่าเดิม นี่มันเทพบุตรล่ะ....



มือเริ่มเย็น สติเริ่มแตก และหายใจไม่ค่อยถนัดอีกแล้ว
ป้าปุ่นข้างๆถามว่าเป็นอะไรไหวไหม ตื่นเต้นมากเลยเหรอ
ได้แต่พยักหน้าหงึกหงักบอกป้าว่ามันเป็นครั้งแรกของหนู
(ที่มานั่งเกาะขอบโต๊ะนะ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอ 555)
แต่มันเป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ ที่ยังมีอาการตื่นกลัวแบบนี้

แถวขยับไปเรื่อยๆ แต่ละคนก้าวไปหาจุงเรื่อยๆ เราได้แต่ยืนกลั้นหายใจ
พอคิวเดินผ่านเจอเพื่อนไต้หวัน นางก็ยื่นมือมาให้จับสองข้าง ให้กำลังใจสุดฤทธิ์แล้วบอกว่า
"โอ้วว มือของยูเย็นมากๆเลย" อืมมม มันกลัวอ่ะ

จนไปถึงด่านแรก พี่การ์ดยืนถือโพสต์อิทถามชื่อแต่ละคน แล้วเขียนเป็นฮันกึลให้ ให้เอาไปยื่นให้จุงว่างั้น
แต่เราเขียนของเรามาแล้ว พี่การ์ดเลยปล่อยเข้าด่านที่สอง

ด่านสองนั้นคือมุมข้างเวที เป็นมุมที่ดีที่สุด เห็นจุงชัดที่สุด อยู่ในระดับที่เราพอใจที่สุด
ไม่ใกล้ไป ไม่ไกลมาก
แต่มันหยุดแค่ตรงนี้ไม่ได้ ในเมื่อคิวขยับไปเรื่อยๆ พอพี่การ์ดคนที่สองถามว่าจะให้เซ็นหน้าไหน
ก็ยื่นให้ดู พี่เค้าก็รับไป แล้วส่งต่อให้พี่การ์ดที่ยืนด้านหลังจุงเป็นด่านต่อไป

ด่านสุดท้าย......ตายตรงนี้แหละ

กว่าจะขยับเท้าให้ก้าวไปหาจุงได้ รู้สึกมันหนักมากและทุกก้าวมันยากลำบากเหลือเกิน
พอไปถึงโต๊ะตรงหน้าจุง ขามันก็ทรุดฮวบลงกับพื้น คุกเข่าลงทันทีทันใด
เราได้แต่จ้องหน้าจุงเงียบๆ แต่มันเบลอๆคล้ายสมองไม่ทำงาน

อิ่มเอมกลัวฮยอนจุง

ให้ตายเหอะ กลัวจริงๆนะ วิ่งหนีมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้มันต้องไปต่อไป จะมัวกลัวไม่ได้
อุตส่าห์โชคดีมากมายมหาศาลขนาดนี้แท้ๆ ที่ซื้อซีดีแค่ 3 แผ่นก็ได้แฟนไซน์ จะมัวกลัวได้ไง
พี่การ์ดถามว่าจะให้เซ็นว่ายังไง ใจเรานั้นก็เตรียมมาแล้ว คิดมาเสมอว่าถ้าได้อยากให้จุงเขียนว่าอะไร
แต่เพื่อนบอกว่าให้จุงเขียนภาษาไทยซิ เขียนยากหน่อยจะได้ใช้เวลากับจุงเยอะๆ
แต่เราไม่อยากให้จุงเขียนภาษาอะไรไปโดยไม่รู้ความหมาย
เราอยากให้จุงรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเขียนคืออะไรมากกว่า
เพื่อนเลยแนะนำว่า งั้นเขียนเกาหลีกำกับไว้ล่ะกัน

...... พอจิ้มไปที่ภาษาไทยว่าอยากได้อันนี้ จุงก็เงียบ แต่พี่การ์ดตอบทันทีว่า “อันเดว”
เราก็เลยชี้ไปที่อักษรเกาหลีแผนเดิมแล้วบอกว่างั้นอันนี้ก็โอเคแหละ
จุงเลื่อนตาอ่านตาม "อิ่มเอม" อ่อยยยย....เสียงเธอเวลาเรียกชื่อฉันมันทำให้หัวใจเต้นรัวดีจัง
แล้วจุงก็อมยิ้มขำๆ ก่อนก้มหน้าลงเซ็น
เราได้แต่เกาะโต๊ะมองหน้าจุงเงียบๆ แล้วตัดสินใจส่งเสียงเรียกจุงไปเบาๆ

Me : 현중아.... ฮยอนจุงอ่า

จุงยังก้มหน้าก้มตาเซ็น แต่ขานรับในคอได้ละมุนมากๆเลย

HJ : hmmmm หืมมมมม

Me : 나는 너무……너무 너무 너무 너무 너무 너무….. 보고싶어서, 알아?
รู้ไหม ฉันอ่ะ คิดถึงเธอมาก......มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยนะ


ตอนที่เริ่มนานึนไป กลั้นหายใจเรียบร้อยแล้ว พอนอมุ ก็กลืนน้ำลายอึกหนึ่ง แล้วรัวยิบ นอมุๆๆๆๆๆๆ
จุงอมยิ้มขำใหญ่เลย สงสัยคงคิดว่าจะพูดยังไงต่อ ฮึ้ย.......
พอตบท้ายลงว่าโพโกชิพอซอปุ๊บ เท่านั้นแหละ จุงเงยหน้าขึ้นมาสบตาทันทีเลย แล้วก็ยิ้มให้ ก่อนตอบเบาๆด้วยเสียงทุ้มๆอีก

HJ : (웃) 알아요. รู้ซิ

แล้วจุงก็ก้มหน้าลงอีก แต่อิ่มเอมตอนนี้หัวสมองระเบิดปุ้ง หน้าแดงเห่อมากๆ
ผู้ชายยิ้มน่ารักจัง เสียงก็ละมุนหูสุดๆ ทั้งที่เป็นคำพูดสั้นๆแท้ๆเลยนะ
ทำเอาปากสั่น ใจสั่น และกว่าจะเค้นคำพูดออกมาได้....เสียงก็พลอยสั่นไปด้วย
อิตาบ้า อย่ามาบอกเลยว่ารู้ เธอไม่รู้หรอก เธอไม่มีทางรู้แน่ๆเลยว่าความคิดถึงมันเป็นยังไงน่ะ

Me : 언제 태국에 가요? เมื่อไรจะไปเมืองไทยอีกเหรอ

คราวนี้จุงเงยหน้าอย่างเร็ว และทำตาโตใส่ แหง่ะ....ผงะเลย

น่ารัก น่ารัก น่ารักจัง

จุงดูตกใจที่เราเป็นคนไทย มาไกลไปเหรอ? ไม่ไกลนะ
สำหรับเราระยะทางหรือภาษาและเชื้อชาติไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับความรักที่มีให้จุงเลย

HJ : 태국? (O_O) ไทยเหรอ?

Me : Umm เราพยักหน้า สบตาจุง (กล้ามากกกกก)

HJ : Next year. ปีหน้านะ

อ๊ะ ผู้ชายพูดภาษาอังกฤษ 5555 ปีหน้าจะมาหรอ ใครเชื่อก็บ้าล่ะ
แต่ฉันก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่ทั้งบ้าทั้งโง่แหละนะ เพราะอย่างนั้นฉันเลยเลือกที่จะเชื่อเธอ

Me : 정말? 난 기다릴게.... จริงเหรอ งั้นฉันรอนะ ....

จุงส่งเสียงอืมมมในคอ แล้วยื่นซีดีที่เซ็นเสร็จแล้วคืนมาให้

Me : 현중아....너 사랑해. ฮยอนจุงอ่า....แล้วก็......ฉันรักเธอนะ

กระพริบตาปริบๆ เลือดสูบฉีดขึ้นหน้า ปากสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ
และได้แต่ตาค้างมองรอยยิ้มที่จุงส่งมาให้พร้อมคำตอบรับเบาๆอีกครั้ง

HJ : (^___^) ... 알아. รู้แล้วล่ะ.........



ชันเข่าขึ้นยืน และรับซีดีมาถือมือสั่นๆ ก้าวลงเวทีแบบไร้สติโดยสิ้นเชิง
คนโกหก คนโกหก ผู้ชายโกหก เธอไม่เคยรู้หรอก
ไม่ว่าจะความคิดถึงของฉันหรือความรักของฉัน เธอไม่เคยรู้แน่ๆ เธอโกหก ......
แต่ถึงอย่างนั้นก็ ขอบคุณนะจุง ขอบคุณที่เธอยอมรับรู้และรับฟัง
มันทำให้หัวใจของฉันอบอุ่นขึ้นมาทันทีเลย

เดินกลับมาที่นั่งเดิมของตัวเอง แล้วจ้องมองลายเซ็นที่ได้รับมา
현중의 임엠 ลายเซ็นหวัดๆ ลายมือชุ่ยๆ ที่แปลได้ว่า “อิ่มเอมของฮยอนจุง”
ที่คนเซ็นถึงกับอมยิ้มแล้วเซ็นให้ ขอบคุณนะเธอ ขอบคุณมากๆเลย



ป้าปุ่นข้างๆมาชะโงกหน้าดูแล้วถามว่าเป็นยังไงบ้าง
ได้แต่อมยิ้มแก้มแทบแตกบอกป้าไปว่า “อืมม....ดีใจที่สุดเลยค่ะ”
แล้วนั่งลูบไล้สมบัติล้ำค่าอีกชิ้นอยู่อย่างนั้น

20.30 น. หนึ่งชั่วโมงตรงเวลาเป๊ะ งานแฟนไซน์ก็จบลง จุงลุกขึ้นยืนกล่าวทั้งคำขอบคุณและคำอำลา

จบการโปรโมท Round 3 อย่างเป็นทางการ....แล้วพบกันใหม่กับอัลบั้มใหม่หลังออกจากกรมนะเธอ




Create Date : 03 กันยายน 2556
Last Update : 27 พฤษภาคม 2557 12:01:31 น.
Counter : 1245 Pageviews.

1 comment
1  2  

ณ เงา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



New Comments