|
เจ้าไส้เดือน..น้อย คอยแหงนมองดอกไม้มานาน
เจ้าไส้เดือน..น้อย คอยแหงนมองดอกไม้มานาน
ในใจคิดว่า..ดอกไม้ช่างงดงาม
เจ้าดอกไม้..เจ้าก็ชื่นชมที่ผีเสื้อมาดอมดมทุกวัน
ไม่เคย..ไม่เคยมองลงพื้นดิน
ไม่รู้..ไม่รู้เลยว่ามีใครอีกคนที่คอย..รัก
ยังจำได้ดี..
ตอนที่เจ้าดอกไม้เล็กอยู่..ไม่มีแรงอ่อนล้า..เจียนตาย
เจ้าหนอน..กัดกินทั้งใบ..และหัวใจของเธอ
ไส้เดือนตัวหนึ่ง..คอยมาพรวนดินเสมอดูแลอยู่ทุกวัน..ดอกไม้ไม่เคยรู้
เมื่อคราวเจ้าหนอนกลับมา..เป็นผีเสื้อโก้หรูดูเธอพอใจ แต่..ไส้เดือนเจ็บช้ำ
เธอรู้รึเปล่า..เมื่อเธอเฉามันก็ไป
เธอรู้รึเปล่า..เมื่อเธอเฉาไป ใครกันที่ห่วงเธอ
และไม่ว่าเธอจะเป็นอย่างไรจะร่วงโรย..แห้งเหี่ยว
ไส้เดือนไม่เคยรังเกียจเธอ..ไส้เดือนตัวนี้..รักเธอ
จะอยู่กับเธอ
จนเป็นดินไปด้วยกัน ______________________________
Create Date : 30 กันยายน 2550 |
Last Update : 30 กันยายน 2550 12:20:45 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1066 Pageviews. |
 |
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

|
กตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติจากพระครรภ์พระมารดาแล้ว ในที่สุดองค์สมเด็จพระประทีปแก้วใกล้จะถึงวาระที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงบำเพ็ญบารมีมาครบ ๔ อสงไขยกับแสนกัป ควรจะได้เป็นพระพุทธเจ้า
ในวันหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ก็ทรงพบเด็กเกิดใหม่ วันต่อมาทรงพบคนแก่ คนป่วย แล้วก็คนตาย วันสุดท้ายทรงพบสมณะ
ความจริงเวลานั้นพระที่แต่งตัวแบบนี้ ไม่มีในโลก แต่ว่าเทวทูตทั้ง ๕ ที่เรียกกว่า เทวทูต คือ เด็กก็ดี คนแก่ก็ดี คนป่วยก็ดี คนตายก็ดี พระก็ดี ที่ปรากฏกับสายพระเนตรขององค์สมเด็จพระชินสีห์ เมื่อยังเป็นสิทธัตถะราชกุมาร ท่านบอกว่า เวลานั้นเทวดาแสดงขึ้นให้ปรากฏ ครั้นเมื่อองค์สมเด็จพระบรมสุคตเห็นคนเกิดยังเด็กเล็ก แล้วต่อมาพบคนแก่ แล้วก็พบคนป่วย แล้วก็พบคนตาย น้ำพระทัยขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาตรัสว่า
"โลกนี้ทุกข์หนอ ไม่มีอะไรเป็นสุข หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้"
ต่อมาวันสุดท้าย องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเห็นสมณะวิสัยก็เข้าใจว่าทางนิพพานมีอยู่ ทางนี้เป็นทางสิ้นทุกข์ เหตุฉะนั้นองค์สมเด็จพระบรมครูจึงได้ตัดสินพระทัยออกบวช นี่ขอเล่าลัดๆ นะ แต่ความจริงเรื่องนี้ยาวมาก
|
|
|
|
|
|
|