ทาน คือการทำกุศลที่ได้บุญ การให้อภัย คือการทำกุศลที่ได้บุญมากกว่า
Group Blog
 
All blogs
 
ภรรยาผู้ประเสริฐ ขำดี

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคู่แต่งงานใหม่ที่เพิ่งผ่านพิธีมาได้สองอาทิตย์


ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน แต่


ฝ่ายสามีก็อดรนทนไม่ได้ที่จะนัดเหล่าสหายหาญทั้งหลาย Smiley

 เพื่อไปสังสรรค์ด้วยกันในตัวเมือง



สามีจึงเอ่ยกับภรรยาใหม่ว่า "ที่รักจ๋า ผมไปข้างนอกสักครู่นะ  เดี๋ยวกลับมาจ๊ะ"


        ภรรยาถามสามีว่า "สุดที่รัก จะออกไปไหนเหรอคะ" สามีส่งเสียงอ้อนวอน "คนสวยของผม ขอผมไปที่บาร์หน่อยนะ


ไปดื่มเบียร์สักแก้วสองแก้ว เสร็จแล้วก็  กลับจ๊ะ" Smiley


ภรรยา "ที่รักอยากได้เบียร์ทำไมไม่บอกล่ะคะ" ว่าแล้วก็เปิดประตูตู้เย็นค้างไว้ ให้สามีเห็นว่า 


เธอได้ไปเตรียมเบียร์ไว้ให้มากกว่า 25 ชนิด จาก 12 ประเทศ: เยอรมัน ฮอลแลนด์ ญี่ปุ่น อินเดีย และอื่นๆ


                สามีได้ยินดังนั้น ก็อึ้งไป ก่อนจะเอ่ยกับภรรยาว่า "เยอะจังเลย ที่รักน่ารักที่สุดในโลกเลย แต่ว่า...ที่


บาร์เค้ามีแก้วแช่แข็งด้วยนะ..." ก่อนที่สามีจะพูดจบประโยค ภรรยาก็ได้ขัดจังหวะสามี "โถ น่าเอ็นดูจริง  


อยากได้แก้วแช่แข็งก็ไม่บอก นี่คะ ชั้นเตรียมไว้แล้ว" ภรรยาพูดพลางหยิบแก้วที่แช่แข็งออกมาจากตู้เย็น


แก้วเย็นมากขนาดที่เธอรู้สึกหนาวขึ้นมาทันที  ฝ่ายสามีเริ่มหน้าซีด ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า


"ที่รักจ๋า ที่บาร์มีออร์เดิร์ฟอร่อยๆ ให้เลือกเยอะเลย ผมคง ไปไม่นานหรอก เสร็จแล้วจะรีบกลับทันทีเลย ดีมั๊ยจ๊ะ"


"แหม อยากได้ออร์เดิร์ฟก็ไม่บอกกันแต่แรก ชั้นเตรียมไว้ให้คุณแล้วค่ะ"  ภรรยาเดินไปเปิดเตาอบ และ นำออร์เดิร์ฟ 5 อย่างออกมาวางตรง


หน้าสามี อันได้แก่ ปีกไก่ หมูห่อผัก  เห็ดยัดไส้ และหมูแดดเดียว  สามีพยายามอ้อนวอนภรรยาต่อไป 


         "แต่ว่า ที่บาร์มีอย่างอื่นนะ อย่างเวลาคุยกันกับเพื่อนๆ ที่นั่น ใช้คำไม่สุภาพหรือคำหยาบบ้าง มันก็ได้


บรรยากาศดีนะคนดี" 


        "อ๋อ อยากได้บรรยากาศก็ไม่บอกแต่แรก ฟังให้ดีนะ ไอ้ควาย เอาเบียร์ในแก้วแช่แข็งห่าเหวไรเนี่ย


กระแทกปากแกซะ แล้วก็แดกๆ ไปซะไอ้ออร์เดิร์ฟเหี้ยเนี่ย แล้วก็จำไว้ว่า คืนนี้...มึงต้อง ไม่ ไป ไหน 


 เป็น อัน ขาด...เข้าใจมั๊ย ไอ้หัวขี้เลื่อย!!!"






Free TextEditor


Create Date : 20 ธันวาคม 2551
Last Update : 20 ธันวาคม 2551 20:33:46 น. 3 comments
Counter : 669 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ

อ่านไปก็ขำไป ตอนจบเด็ดค่ะ



โดย: I_sabai วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:22:24:41 น.  

 


โดย: redclick วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:21:35:34 น.  

 

HAPPY NEW YEAR 2009


 


 



Free TextEditor


โดย: drunkcat วันที่: 30 ธันวาคม 2551 เวลา:17:08:33 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

drunkcat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




กตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติจากพระครรภ์พระมารดาแล้ว ในที่สุดองค์สมเด็จพระประทีปแก้วใกล้จะถึงวาระที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงบำเพ็ญบารมีมาครบ ๔ อสงไขยกับแสนกัป ควรจะได้เป็นพระพุทธเจ้า

ในวันหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ก็ทรงพบเด็กเกิดใหม่ วันต่อมาทรงพบคนแก่ คนป่วย แล้วก็คนตาย วันสุดท้ายทรงพบสมณะ

ความจริงเวลานั้นพระที่แต่งตัวแบบนี้ ไม่มีในโลก แต่ว่าเทวทูตทั้ง ๕ ที่เรียกกว่า เทวทูต คือ เด็กก็ดี คนแก่ก็ดี คนป่วยก็ดี คนตายก็ดี พระก็ดี ที่ปรากฏกับสายพระเนตรขององค์สมเด็จพระชินสีห์ เมื่อยังเป็นสิทธัตถะราชกุมาร ท่านบอกว่า เวลานั้นเทวดาแสดงขึ้นให้ปรากฏ ครั้นเมื่อองค์สมเด็จพระบรมสุคตเห็นคนเกิดยังเด็กเล็ก แล้วต่อมาพบคนแก่ แล้วก็พบคนป่วย แล้วก็พบคนตาย น้ำพระทัยขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาตรัสว่า

"โลกนี้ทุกข์หนอ ไม่มีอะไรเป็นสุข หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้"

ต่อมาวันสุดท้าย องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเห็นสมณะวิสัยก็เข้าใจว่าทางนิพพานมีอยู่ ทางนี้เป็นทางสิ้นทุกข์ เหตุฉะนั้นองค์สมเด็จพระบรมครูจึงได้ตัดสินพระทัยออกบวช นี่ขอเล่าลัดๆ นะ แต่ความจริงเรื่องนี้ยาวมาก
Friends' blogs
[Add drunkcat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.