|
two moons !!! is that rights ?
อืม ฟอร์วาร์ดเมลอันนี้ คงได้รับกันแทบทุกคน มันก็ทำให้เราสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างมากเลย
Aug. 27th the Whole World is waiting for......... .... > > Planet Mars will be the brightest in the night sky starting August. > > It will look as large as the full moon to the naked eye. This will > culminate on Aug. 27th when Mars comes within 34.65M miles of earth. > Be sure to watch the sky on Aug. 27 12:30 am. It will look like the earth > has 2 Moons. > > The next time Mars may come this close is in 2287. > > Share this with your friends as NO ONE ALIVE TODAY will ever see it again. > > คำแปลคร่าวๆ ในภาษาไทยสำหรับท่านที่รีเคสท์ตามนี้ครับ: > วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2550 คือวันที่คนทั้งโลกตั้งตารอคอย.... > เพราะดาวอังคารจะส่องแสงเจิดจรัสบนฟากฟ้าให้เห็นแบบชัดเจนที่สุดตลอดเดือน > สิงหาคม > ด้วยรูปทรงขนาดใหญ่ประดุจดังพระจันทร์เต็มดวงซึ่งเราสามารถมองเห็นได้ด้วยตา > เปล่า > โดยเฉพาะวันที่ 27 > สิงหาคมซึ่งทุกอย่างจะชัดเจนสมบูรณ์ที่สุดเพราะวันนั้นดาวอังคารจะอยู่ห่างจาก > โลกแค่ > 34.65 ล้านไมล์ > อย่าพลาดนะคะ...คืนวันที่ 27 สิงหาคมนี้ เวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง > เราจะเห็นดวงจันทร์สองดวงบนท้องนภา (โรแมนติคมั่กมั่ก) > ปรากฎการณ์เช่นนี้จะมีให้เห็นอีกครั้งในปี คศ. 2287 (หรือพุทธศักราช 2830) ค่ะ > ร่วมแบ่งปันเมล์นี้ให้เพื่อน (และคนที่คุณรัก / หรือแอบรัก) ด้วยนะคะ > เพราะนี่คือโอกาสเดียวในชีวิต > (ยกเว้นแต่คุณเป็นมนุษย์อมตะซึ่งสามารถมีชีวิตได้อีก 280 ปีค่ะ)
Create Date : 23 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 23 กรกฎาคม 2550 15:40:42 น. |
|
3 comments
|
Counter : 714 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: deknaew_ton วันที่: 3 สิงหาคม 2550 เวลา:13:12:28 น. |
|
|
|
โดย: กุ๊กกิ วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:9:32:18 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

|
กตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติจากพระครรภ์พระมารดาแล้ว ในที่สุดองค์สมเด็จพระประทีปแก้วใกล้จะถึงวาระที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงบำเพ็ญบารมีมาครบ ๔ อสงไขยกับแสนกัป ควรจะได้เป็นพระพุทธเจ้า
ในวันหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ก็ทรงพบเด็กเกิดใหม่ วันต่อมาทรงพบคนแก่ คนป่วย แล้วก็คนตาย วันสุดท้ายทรงพบสมณะ
ความจริงเวลานั้นพระที่แต่งตัวแบบนี้ ไม่มีในโลก แต่ว่าเทวทูตทั้ง ๕ ที่เรียกกว่า เทวทูต คือ เด็กก็ดี คนแก่ก็ดี คนป่วยก็ดี คนตายก็ดี พระก็ดี ที่ปรากฏกับสายพระเนตรขององค์สมเด็จพระชินสีห์ เมื่อยังเป็นสิทธัตถะราชกุมาร ท่านบอกว่า เวลานั้นเทวดาแสดงขึ้นให้ปรากฏ ครั้นเมื่อองค์สมเด็จพระบรมสุคตเห็นคนเกิดยังเด็กเล็ก แล้วต่อมาพบคนแก่ แล้วก็พบคนป่วย แล้วก็พบคนตาย น้ำพระทัยขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาตรัสว่า
"โลกนี้ทุกข์หนอ ไม่มีอะไรเป็นสุข หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้"
ต่อมาวันสุดท้าย องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเห็นสมณะวิสัยก็เข้าใจว่าทางนิพพานมีอยู่ ทางนี้เป็นทางสิ้นทุกข์ เหตุฉะนั้นองค์สมเด็จพระบรมครูจึงได้ตัดสินพระทัยออกบวช นี่ขอเล่าลัดๆ นะ แต่ความจริงเรื่องนี้ยาวมาก
|
|
|
|
|
|
|