ทาน คือการทำกุศลที่ได้บุญ การให้อภัย คือการทำกุศลที่ได้บุญมากกว่า
Group Blog
 
All blogs
 
แบบทดสอบ EQ


1. แฟนคุณลืมวันเกิดคุณ แม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่โทรมาคุณจึง...

A.ไม่สนใจเพราะเขามักลืมนั่นลืมนี่อยู่เสมอ
B.เสียใจแต่ไม่แสดงให้เขารู้
C.นินทาเขาให้เพื่อนคุณฟังว่าไร้น้ำใจ


2. เพื่อนบอกคุณว่าชุดใหม่ที่คุณใส่อยู่ดูไม่ได้เลย คุณรู้สึก...

A.ไม่เป็นไรเพราะคุณก็ไม่ชอบรสนิยมเขาเช่นกัน
B.เสียใจ แต่ก็เคารพความเห็นของเขา
C. โกรธ นึกว่าเขาอิจ?าคุณ


3.คุณกำลังจะออกไปพบแฟนตามนัด
แต่เพื่อนกลับพรวดพราดมาขอความช่วยเหลือเรื่องด่วน....

A. ตอบตกลงแล้วขอเลื่อนนัดแฟน
B. แสดงให้เพื่อนเห็นว่าคงช่วยไม่ได้แล้วหาคนอื่นมาช่วยแทน
C. บอกอย่างเหลืออดว่าช่วยไม่ได้จริงๆ


4. คุณเคยปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ฟูมฟายไหม ?

A. ไม่เคย
B. บางครั้ง
C. บ่อยครั้ง


5. ผลงานของเพื่อนร่วมงานดีกว่าคุณ คุณจึง...

A. ยุติธรรมดีแล้ว เพราะเขาทุ่มเทมากกว่า
B. เลียนแบบเขาบ้าง
C. โทษว่าเจ้านายไม่ยุติธรรม


6.เพื่อนนำเรื่องที่คุณนินทาคนอื่นไปเปิดเผยคุณจึง...

A. แกล้งทำเป็นไม่สนใจ
B. รู้สึกลำบากใจ เพราะคุณเถียงใครไม่เป็น
C. อยากฆ่าเจ้าเพื่อนปากเสียคนนั้นจัง


7. ผลงานของคุณไม่ดีตามที่เพื่อนร่วมงานคาดหวังคุณจึง.....

A. โทษคนอื่นว่าไม่ให้ความร่วมมือ
B.รู้สึกเสียใจแต่ก็ยอมรับคำปลอบใจจากเพื่อนร่วมงาน
C. คิดว่าบริษัทนี้ไม่เหมาะกับคุณ


8.เพื่อนยืมชุดคุณไปใส่แล้วทำขาด คุณจึง....

A. ไม่สนใจคำขอโทษของเพื่อนค่อยๆ ถอยห่างจากเขา
B. ต้องการให้เขาซื้อชุดใหม่ชดเชยให้
C. ต่อว่าเสียงดัง ว่าให้ยืมแล้วยังทำขาดอีก


มาดูผลกันดีกว่า

ข้อ A ได้ข้อละ 1 คะแนน
ข้อ B ได้ข้อละ 2 คะแนน
ข้อ C ได้ข้อละ 3 คะแนน


ได้ 19 - 24 คะแนน
ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์และเหตุผล ชีวิตคุณจึงสับสนขาดควมมั่นใจ
ถ้าคุณให้ความสำคัญกับปฏิกิริยาของคนอื่นมากไปย่อมทำให้อารมณ์ไม่มั่นคง
เพราะคุณต้องคอยเอาอกเอาใจ
ทำเพื่อผู้อื่นตลอดฝึกควบคุมอารมณ์ตนเองให้ดีแล้วคนอื่นจะชอบคุณเอง


ได้ 13 - 18 คะแนน
เป็นคนมี EQ สูง รู้จักแสดงอารมณ์ความรู้สึกอย่างเหมาะสม

ไม่ทำให้คนรอบข้างหรือผู้ใกล้ชิดหงุดหงิดกับคุณเมื่อพบเรื่องไม่สบอารมณ์รู้จักจัดการด้วยตัวเองได้


ได้ 8 - 12 คะแนน
เป็นคนเย็นชาเกินไปคุณไม่ชอบแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาโดยตรง
ผลจากอารมณืที่เก็บกดสะท้อนออกทาร่างกาย เช่นปวดศรีษะ โรคกระเพาะ
คุณควรค่อยๆ ผ่อนคลายจิตใจจะแก้ความเย็นชาที่มีต่อคนอื่นได้
ลองหัดแสดงความรู้สึกในเรื่องเล็กๆน้อยๆจากนั้นค่อยหัดออกความเห็นในเรื่องที่ใหญ่ขึ้น
เชื่อแน่ว่าเพื่อนคุณต้องยินดีในความเปลี่ยนแปลงของคุณ


________________________________________________________________




Create Date : 17 สิงหาคม 2550
Last Update : 19 สิงหาคม 2550 21:18:42 น. 0 comments
Counter : 736 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

drunkcat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




กตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติจากพระครรภ์พระมารดาแล้ว ในที่สุดองค์สมเด็จพระประทีปแก้วใกล้จะถึงวาระที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงบำเพ็ญบารมีมาครบ ๔ อสงไขยกับแสนกัป ควรจะได้เป็นพระพุทธเจ้า

ในวันหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ก็ทรงพบเด็กเกิดใหม่ วันต่อมาทรงพบคนแก่ คนป่วย แล้วก็คนตาย วันสุดท้ายทรงพบสมณะ

ความจริงเวลานั้นพระที่แต่งตัวแบบนี้ ไม่มีในโลก แต่ว่าเทวทูตทั้ง ๕ ที่เรียกกว่า เทวทูต คือ เด็กก็ดี คนแก่ก็ดี คนป่วยก็ดี คนตายก็ดี พระก็ดี ที่ปรากฏกับสายพระเนตรขององค์สมเด็จพระชินสีห์ เมื่อยังเป็นสิทธัตถะราชกุมาร ท่านบอกว่า เวลานั้นเทวดาแสดงขึ้นให้ปรากฏ ครั้นเมื่อองค์สมเด็จพระบรมสุคตเห็นคนเกิดยังเด็กเล็ก แล้วต่อมาพบคนแก่ แล้วก็พบคนป่วย แล้วก็พบคนตาย น้ำพระทัยขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาตรัสว่า

"โลกนี้ทุกข์หนอ ไม่มีอะไรเป็นสุข หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้"

ต่อมาวันสุดท้าย องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเห็นสมณะวิสัยก็เข้าใจว่าทางนิพพานมีอยู่ ทางนี้เป็นทางสิ้นทุกข์ เหตุฉะนั้นองค์สมเด็จพระบรมครูจึงได้ตัดสินพระทัยออกบวช นี่ขอเล่าลัดๆ นะ แต่ความจริงเรื่องนี้ยาวมาก
Friends' blogs
[Add drunkcat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.