www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws

Group Blog
 
All blogs
 

มนต์รักโคกสาริน..ตอนที่ ๔๐

......5 ปีผ่านไป..........

ณ ตลาดบ้านโคกสาริน.........

บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งเดินเข้าตลาดมา...เขาเข้ามาหยุดที่หน้าร้านกาแฟที่เมื่อ 5 ปีก่อนเคยเป็นร้านกาแฟมีชื่อของอาโกชา

แต่ตอนนี้มันได้เปลี่ยนมือไปเป็นของสาวน้อยหน้าใส (หรือเปล่า) เข้าสืบทอดกิจการแทนแล้ว นั่นคือ เจ้าฟู่นั่นเอง

เดี๋ยวนี้เจ้าฟู่พัฒนาไปมาก ชงโอเลี้ยงไม่ขมแล้ว ฝีมือเกือบเทียบเคียงอาโกชาได้ทีเดียว

นั่น....เจ้าฟู่กำลังชงโอเลี้ยงอยู่อย่างขะมักขะเม้น เมื่อมันเงยหน้าขึ้นไป เห็นว่าใครเดินเข้าร้านมา กระบวยโอเลี้ยงก็หลุดจากมือ ร้องเสียงดัง

“โกๆๆๆๆ..............” แล้วมันก็วิ่งถลาเข้ามาทันที

บุรุษผู้นั้น ยิ้มให้ .....เขาคือ อดีตโกชา...นั่นเอง

ตอนนี้เขาดำรงยศเป็นพันตำรวจตรีเขียวอิสระ กินฟรีแล้ว แต่ยังเป็นหัวหน้าหน่วยซีลพร้อมลูกน้องทั้ง 4 เช่นเดิม

“เจ้าฟู่ เป็นยังไงบ้าง............”

เจ้าฟู่ตื่นเต้น จนแทบจะร้องให้ “โกๆๆๆ มาได้ไงเนี่ย”

อดีตโกชาหัวเราะ “เอ้า เจ้าฟู่ พูดเป็นนักพากย์ฟุตบอลไปได้ เอะอะอะไรก็ โกๆๆๆๆ...........ข้ามาเยี่ยมไงวะ “

“ฟู่สบายดี ร้านของโกมีคนแน่นทุกวัน (ก็ทั้งตลาดมันมีร้านเดียวนี่นา) ตอนนี้ฟู่ชงโอเลี้ยงไม่ขมแล้วนะ ลูกค้าบอกรสชาติเหมือนที่โกเคยชงเลย............”

“ดีๆ แล้ว งั้นข้าก็ดูคนไม่ผิด ...เดี๋ยวเจ้าอั้น เจ้าหลัก เจ้าฉิว และเจ้าขิ่นก็คงจะมา.........”

“โอ้โห มาเยี่ยมกันหมดเลยหรอ โก พวกตลาดต้องดีใจแน่ๆเลย......งั้นเดี๋ยวฟู่ไปชงโอเลี้ยงให้โกลองชิมดูนะ ว่าจะอร่อยสู้โกได้หรือเปล่า...........”

แล้วเจ้าฟู่ก็รีบไปชงโอเลี้ยงทันทีด้วยความตื่นเต้น พลางคิดในใจว่า เอาใจแกหน่อย......เดี๋ยวจะได้ทำเนียนถามโกว่า อย่างฟู่นี่ สมัครเป็นสายลับหญิงได้หรือยัง........

อดีตโกชายิ้ม มองไปรอบตลาดๆ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เหมือนเมื่อ 5 ปีก่อน......แต่ มีบางอย่างเปลี่ยนไป

สาวน้อยผู้น่ารักคนนั้น หายไป.........อดีตโกชามองเหม่อ.....พลันสายตาของเขาก็ต้องสะดุด....กับหญิงสาวคนหนึ่ง..........

“น้องเปรี้ยว........”

เขาเผลอหลุดปากเรียกทันที หญิงสาวผู้นั้นหันมา

เป็นเปรี้ยวจริงๆ ด้วย แต่เปรี้ยววันนี้ไม่เหมือนเปรี้ยวเมื่อ 5 ปีก่อน...........

เปรี้ยวสวยขึ้น.....มาก ๆ....ใส่กระโปรงดูเป็นหญิงสาวแสนสวย ไม่ใช่เด็กกะโปโลเหมือนที่เคยเห็นจนชินตา...

แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย......คือดวงตาสุกใสและดวงหน้าที่สดใสของเปรี้ยว

เปรี้ยวเดินเข้ามาหาอดีตโกชา ยิ้มให้อย่างสดใส

“โกจริงๆ หรือนี่.........เอ เปรี้ยวต้องเรียกโกว่าอะไร โกได้ยศอะไรแล้วนะ ป่านนี้..........”

อดีตโกชายิ้มตอบ “น้องเปรี้ยว เรียกโกอย่างเดิมเถอะ ไม่ต้องเรียกยศอะไรนั่นหรอก โกไม่ชินน่ะจ๊ะ”

“แล้วโกมาเยี่ยมตลาดหรอจ๊ะ..............”

“จ๊ะ โกมาเยี่ยมตลาด มาเยี่ยมคนที่นี่....” อดีตโกชาหยุดแล้วจ้องตาเปรี้ยว

“โดยเฉพาะคนบางคนที่โกตั้งใจมาเยี่ยมเป็นพิเศษ.....”

แต่ยังไม่ทันที่อดีตโกชาจะจ้องตาแล้วสื่อความนัย.....ก็มีเสียงๆ หนึ่งดังขึ้นเสียก่อน......

เสียงใสๆ ลอยลมมาแต่ไกล มาก่อนเจ้าของเสียงเสียอีก

“คุงแม่ค๊ะ.....คุงแม่ไปหนาย.....”

แล้วเจ้าของเสียงก็วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามา.....เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารัก ถักเปียสองข้าง .....ใส่ชุดกระโปรงสีชมพูฟูฟ่อง ยิ้มร่าเมื่อเห็นเปรี้ยว

แล้วก็มีเสียงผู้ชายที่ตามหลังมา เรียกหนูน้อยคนนั้น

“ชิงช้า อย่าวิ่งลูก เดี๋ยวหกล้ม.........”

เขาคือ...อบต. บุญออบ แต่ตอนนี้ ได้เป็น สจ.บุญออบ แล้ว......

บุญออบรีบวิ่งเข้ามาคว้าเด็กหญิงไว้ แล้วอุ้มเข้ามาในร้านกาแฟ แล้วนั่งลงข้างๆ เปรี้ยว

อดีตโกชามองภาพนั้นด้วยความอึ้ง................

เปรี้ยวหันไปยิ้มกับบุญออบที่นั่งอยู่ข้างๆ

“พี่ออบ จำโกชาได้ไหมจ๊ะ........” บุญออบยิ้ม

“โกชาหรอครับ ผมจำได้ เป็นไงบ้างครับตอนนี้....โกคงได้เป็นผู้พันแล้วแน่ๆ”

“ก็.....ครับ ผมสบายดีครับ ยังเป็นหัวหน้าหน่วยซีลเหมือนเดิม ตอนนี้เป็นพันตำรวจตรีครับ เพิ่งกลับจากปฏิบัติงานทางใต้มา ส่วน อบต. ไม่สิ ผมต้องเรียกว่า สจ. ถึงจะถูกใช่ไหมครับ”

“ครับ ผมเพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็น สจ." บุญออบยิ้มเขินๆ

อดีตอาโกชามองทั้งเปรี้ยวและบุญออบ แล้วสายตาก็เลื่อนลงมาที่เด็กผู้หญิงตัวน้อย ที่นั่งอยู่บนตักของบุญออบ เปรี้ยวมองตามแล้วยิ้ม

“ชิงช้า ธุคุณลุงเขาสิลูก........” หนูน้อยทำตามอย่างว่าง่าย พลางมองอดีตโกชาตาแป๋ว

เปรี้ยวจึงบอกว่า “นี่ ชิงช้า ลูกสาวเปรี้ยวเองค่ะ......โก”

อะไรนะ....เปรี้ยวมีลูกสาวแล้ว.....นี่ลูกสาวเปรี้ยว....อดีตอาโกชาทั้งอึ้ง ทั้งมึน

“ไหน หนูบอกคุณลุงเขาไปสิคะ ว่าหนูชื่ออะไร..” บุญออบ ก้มลงไปพูดกับลูกสาว เด็กหญิงยิ้มตาหยี

“หนูชื่อ เด็กหญิงศุภสรา ค่ะ ชื่อเล่นชื่อ ชิงช้า อายุ 4 ขวบ......” แล้วแกก็หยุดมองอดีตโกชาอย่างสงสัย

“หนูเป็นลูกพ่อออบ กับแม่เปรี้ยวค่ะ แล้วคุงลุงละคะ เป็นใคร”

อดีตโกชาอึกอักเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า

“ลุงเป็น เอ่อ ตำรวจจ๊ะ...........”

“คุงลุง เป็นตำหนวดหรอคะ” เด็กน้อยทวนคำ เปรี้ยวยิ้ม รีบแก้

“ไม่ใช่ลูก ตำรวจ ไม่ใช่ตำหนวด เรียกให้ถูกๆสิคะ” เด็กน้อยหันมามองเปรี้ยวแล้วพยักหน้า

“อ๋อ ค่ะ เรียกให้ถูก ต้องเรียก ตำหนวด ใช่แล้ว ตำหนวด......”

แกย้ำแล้วย้ำอีกด้วยความมั่นใจ ทุกคนได้ฟังก็หัวเราะ

“วันนี้เปรี้ยวว่าจะไปหาพี่กำนันพิษน่ะค่ะ จะไปแสดงความยินดี ที่พี่กำนันได้เป็นกำนันแหนบทองคนแรกของจังหวัด.......” เปรี้ยวพูด

“ผมก็พอได้ข่าวมาบ้างครับ เดี๋ยวผมรอเพื่อนอีก 4 คนมาแล้ว อาจจะแวะไปบ้านกำนันนะครับ”

“งั้น เราก็ไปกันก่อนนะ..............ต้องขอตัวก่อนนะครับ โก”

บุญออบลาอดีตโกชาแล้วหันไปจูงมือเปรี้ยวข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งจูงลูกน้อยที่กระโดดดุ๊กดิ๊กอย่างร่าเริง.......พากันเดินออกจากร้านไป

อดีตโกชาเห็นภาพนั้นแล้ว ก็หันไปสั่งเจ้าฟู่เสียงดัง

“ฟู่เว้ย โอเลี้ยงไม่เอาแล้วนะ เปลี่ยนเอาน้ำใบบัวบกแทน....ให้ไวๆ”

แล้วก็รำพึงกับตัวเองในใจ....กินมา 5 ปีแล้วยังต้องกินต่อไปอีกหรือนี่.........


พ่อแม่ลูกเดินเล่นกันมาจนถึงวัด.........

แล้วบุญออบก็หยุด หันไปมองเปรี้ยว แล้วยิ้ม แล้วก้มลงไปยิ้มกับลูกน้อย

“รู้ไหมลูก ที่วัดนี่เป็นต้นกำเนิดของความรักระหว่างแม่กับพ่อ...........”

เด็กน้อยนิ่งฟังตาแป๋ว ไม่ค่อยเข้าใจนัก บุญออบจึงจูงมือเปรี้ยวกับลูกน้อย ไปนั่งที่เก้าอี้ ใต้ต้นก้ามปู

“ที่นี่ ข้างๆ ต้นก้ามปูนี้นะ ลูก ครั้งหนึ่ง เมื่อ 5 ปีก่อน เคยมีงานวัด และมีชิงช้าสวรรค์ด้วย........”

เด็กน้อยตาโต “ชิงช้าสวรรค์ที่หมุนขึ้นไปบนท้องฟ้าใช่ไหมค๊ะ........”

“ใช่จ๊ะลูก.........” บุญออบยิ้ม

“แม่กับพ่อได้มานั่งชิงช้าสวรรค์ด้วยกัน จะเพราะบังเอิญหรือพรหมลิขิตก็ไม่รู้......ตอนที่ชิงช้ามันขึ้นสูงไปเรื่อยๆน่ะ มันเกิดค้างขึ้นมา.......ค้างตรงส่วนที่อยู่บนสุดเลย”

“อูย คุงพ่อกับคุงแม่ก็แย่สิค๊ะ......”เด็กน้อยทำหน้าหวาดเสียว

“ไม่แย่หรอกลูก ตรงกันข้าม พ่อกลับมีความสุขมาก.......”

บุญออบพูดแล้วหันไปหาเปรี้ยวที่นั่งข้างๆ

“เปรี้ยวก็มีความสุขมากใช่ไหม............”

เปรี้ยวพยักหน้าแล้วเสริมว่า “ชิงช้าที่เราขึ้นวันนั้น จึงเป็นชิงช้าแห่งความสุข ที่พ่อกับแม่จะนึกถึงเสมอ.....มันก็เลยเป็นที่มาของชื่อลูกไงจ๊ะ......ชิงช้า”

เด็กหญิงยิ้ม เมื่อพ่อแม่เอ่ยถึงชื่อตัวเอง แต่แล้วก็ขมวดคิ้ว “ที่มาเป็นยังไงหรือค๊ะ เหมือนกับที่ไปอ่ะเปล่า”

บุญออบกับเปรี้ยวหัวเราะ ชิงช้าจึงหัวเราะไปด้วย ตาเริ่มมองไปรอบๆวัด แล้วหันมาบอกบุญออบว่า

“คุงพ่อ ชิงช้าไปวิ่งเล่นแถวนี้นะค๊ะ......”

บุญออบพยักหน้า หนูน้อยก็วิ่งถลาไปดั่งวิหกเหินลม....

เปรี้ยวมองลูกแล้วหันมามองบุญออบ เอ่ยยิ้มๆว่า

“เห็นชิงช้าทีไร เปรี้ยวอดนึกถึงงานวัดวันนั้นไม่ได้สักที..........”

บุญออบยิ้ม คว้ามือเปรี้ยวมากุมไว้

“พี่ก็เหมือนกัน นึกถึงที่เราอยู่ด้วยกันบนชิงช้าสวรรค์ทุกทีเลย..........นั่นเป็นครั้งแรกนะ ที่เราได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ถ้าไม่นับครั้งแรกที่เราเจอกันนะ แต่ครั้งที่เราอยู่บนชิงช้าน่ะ เราได้อยู่ใกล้ๆ กัน พูดจากันดีๆ แล้วเราก็ได้อธิษฐานดาวตกด้วยกันด้วย............”

“พี่ออบเป็นคนชวนให้เปรี้ยวอธิษฐาน....เปรี้ยวถามจริงๆนะ..พี่ออบอธิษฐานอย่างที่บอกเปรี้ยวมาหรือเปล่า”

“จริงสิ พี่ขอให้คนที่อยู่ตรงหน้าเป็นเนื้อคู่จริงๆ ก็เพราะว่า..... พี่ชอบเปรี้ยวไปแล้ว ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอด้วยซ้ำไป.........”

บุญออบหยุดพูดแล้วยิ้ม “แต่ว่าจนป่านนี้ พี่ยังไม่รู้เลยว่า เปรี้ยวอธิษฐานว่าอะไร.......”

เปรี้ยวเขินเล็กน้อย “สิ่งที่เปรี้ยวอธิษฐาน พี่ออบก็ได้ด้วย............”

“จริงหรอ......อะไรล่ะ”

“เปรี้ยวอธิษฐานว่า ขอให้คนที่เปรี้ยวรักมีความสุข......” บุญออบได้ฟังก็ยิ้ม

“มิน่า ตอนนั้นพี่ลืมตาขึ้นมาถึงได้รู้สึกมีความสุขทันทีเลย.........ที่แท้เปรี้ยวขอให้พี่นี่เอง....”

“บ้า ใครขอให้พี่.....ไม่ได้เอ่ยชื่อสักหน่อย......”

“เรื่องบางอย่างน่ะ ไม่ต้องพูดออกมาเป็นคำพูดหรอก ใช้ใจสัมผัสก็รู้สึกได้แล้ว” บุญออบพูดยิ้มๆแล้วดึงมือมาจูบ

เปรี้ยวตาโต จะดึงมือกลับ แต่บุญออบไม่ยอม

“พี่ออบ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า......”

“หอมแค่นี้จะเป็นไรไป..............ก็คนเค้ารักกันนี่......” บุญออบพูดแล้วยิ้ม เปรี้ยวเขินจึงว่า

“เปรี้ยวว่าเราไปกันดีกว่า........”

แล้วก็รีบลุกขึ้นไปเรียกลูกน้อยที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ใกล้ๆ แล้วทั้งสามคนก็เดินไปหากำนันพิษณุ.....




 

Create Date : 18 ธันวาคม 2548    
Last Update : 5 มีนาคม 2549 14:21:06 น.
Counter : 185 Pageviews.  

มนต์รักโคกสาริน..ตอนอวสาน

ที่ต้นมะขาม (ต้นเดิม) หน้าบ้านประพาส

มีเสียงเล็กๆ 2 เสียง กำลังหัวเราะกันคึกคัก เจ้าของเสียงเล็กๆนั้นกำลังห้อยโหนกิ่งมะขามอยู่คนละกิ่ง

“เฮ้ย กุ๊กกู๋ โก๊ะเก๋ ขึ้นไปทำอะไรบนนั้น ลงมาๆ เดี๋ยวร่วงลงมานะ”

มันเป็นเสียงของผู้ใหญ่พิษณุ ที่เดี๋ยวนี้เป็นกำนันพิษณุไปแล้ว เพราะได้รับตำแหน่งต่อจากกำนันต้อย แถมยังได้รางวัลกำนันแหนบทองคนแรกของจังหวัดอีกด้วย

กำนันพิษณุร้องเสียงหลง ก่อนจะไปอุ้มเจ้าตัวเล็กทั้งสองลงมาจากกิ่งมะขาม แต่เจ้าตัวเล็กที่เป็นชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง แต่หน้าเหมือนกันยังกับแกะ กลับมาโหนกล้าม (บึกๆ) ของกำนันคนละข้างแทน

“เฮ้ยๆ เจ้าแฝดนี่ ดูๆ ยังมาห้อยโหนแขนลุงอีก เดี๋ยวเปลี่ยนชื่อเป็นเจ้าห้อยเจ้าโหนซะเลยดีไหมเนี่ย”

“ดีๆ ดีคับ งั้นกุ๊กชื่อห้อย แล้วให้โก๊ะ ชื่อโหนนะครับ ลุงกำนัน.........”

เจ้ากุ๊กกู๋ ผู้แก่กว่าน้องสาวแค่ไม่กี่วินาทีร้องอย่างถูกใจ แต่เจ้าโก๊ะเก๋ผู้น้อง ดูไม่ค่อยพอใจ

“ไม่เอาอ่ะ โก๊ะเป็นผู้หญิง ต้องให้โก๊ะเลือกก่อน โก๊ะจะเป็นห้อย กุ๊กแหละเป็นโหน”

กำนันพิษณุหัวเราะ “เออๆ ดีๆ เจ้าแฝด สำพังชื่อพวกแก ลุงก็เห็นภาพแล้ว ไม่ต้องถึงกับห้อยโหนจริงๆ หรอก”

แล้วกำนันพิษณุก็หันไปยิ้มกับหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ส่วนประพาสก็เดินเข้ามาแกะเจ้าเด็กแฝดออกจากกล้ามของกำนันพิษณุทีละคน

“มานี่เลย เจ้าแฝด ลุงเขาแก่แล้ว ไปห้อยโหนอย่างนั้นได้ไง” กำนันพิษณุหันขวับมาทันที

“เฮ้ย พาส เมื่อกี้ว่าใครแก่.............”

ประพาสหันมาเบ้หน้าใส่ “ อ้าว ก็ใครอายุมากที่สุดในที่นี้ ก็รับไปสิ.............”

กำนันพิษณุเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่ตอบโต้ไม่ได้ เพราะ เอ่อ ก็แก่กว่าคนอื่นเขาจริงๆนี่

“กุ๊กกู๋ โก๊ะเก๋ อย่าไปกวนลุงกำนันกับป้าพาสเขาสิลูก...........”

อลิสที่อยู่ในชุดคลุมท้องแบบเก๋ไก๋ หันไปเรียกลูก มีปลัดกฤตย์ซึ่งตอนนี้เป็นนายอำเภอกฤตย์นั่งยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ข้างๆ

“เฮ้ย ลิส พูดผิดแล้ว...........” กำนันพิษณุท้วงยิ้มๆ

“ผิดตรงไหนคะ พี่กำนัน”

“อ้าว ก็ต้องเรียกว่า ลุงกำนันพิษ กับลุงพาสสิ ฮ่าๆ..” แล้วกำนันก็หัวเราะเอิ้กอ้าก ประพาสมองอย่างหมั่นใส้

“เอาอีกแล้ว พี่กำนันกับพี่พาสทะเลาะกันอีกแล้ว แล้วเมื่อไหร่จะลงเอยกันได้สักทีละคะ นี่มัน 5 ปีมาแล้วนะ”

กำนันพิษณุกับประพาสหันมามองหน้ากัน แล้วสะบัดหน้าไปคนละทาง ร้องออกมาพร้อมกันว่า

“เชอะ........” แล้วก็หันมามองหน้ากันอีกครั้ง ตะโกนเสียงดัง

“ไม่ลงเอย ไม่แต่งเว้ย..............” ทำเอาเจ้าแฝดที่นั่งอยู่ข้างๆ สะดุ้งร้องไห้จ้า

กำนันพิษณุกับประพาสรีบปลอบขวัญหลานกันคนละคน แล้วหัวเราะอ่อยๆ

“สงสัยจะไม่ลงเอยแบบที่ลิสคิดแล้วล่ะ ลงเอยแบบที่เป็นอยู่นี่ดีกว่า สบายใจดีด้วย เนอะ พี่กำนัน”

ประพาสหันไปพยักเพยิดกับกำนันพิษณุ

“อืม พี่ก็ว่าอย่างนั้น ถ้าวันไหนอารมณ์ดี พี่ก็มาหามัน แต่ถ้าวันไหนอารมณ์เสียนะ โอ้ย พี่วิ่งหนีกลับบ้านเลย”

ทุกคนพากันหัวเราะ แล้วประพาสก็มองไปที่อลิสและนายอำเภอกฤตย์แล้วยิ้ม

“นี่ก็เหมือนกัน ตั้งชื่อลูกซะ น่าปวดหัวจริงๆ จะเรียกแต่ละที แล้วลูกออกมาเป็นไงล่ะ ถอดแบบซนมาอย่างยายลิสไม่มีผิด แถมทโมนกว่าเยอะเลยด้วยซ้ำ”

“ก็อย่างนี้ไงพาส ถึงจะเรียกว่าเป็นลูกของผมกับลิสจริงๆ นิสัยถอดแม่มายังไงยังงั้น.....”

นายอำเภอกฤตย์ว่าแล้วหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มกับอลิส

“ก็นายอำเภอน่ะพี่พาส เค้าคิดถึงเจ้ากุ๊ก อดีตเด็กรับใช้ของเค้ามาก ถึงกับตั้งชื่อเจ้ากุ๊กกู๋เป็นตัวแทน แล้วเจ้าโก๊ะเก๋ก็เป็นตัวแทนความโก๊ะๆ ของเจ้ากุ๊กที่รักของนายอำเภอ”

อลิสว่าพลางค้อนนายอำเภอ

“ดูนะพาส กำนัน คนอะไร หึงได้แม้กระทั่งตัวเอง.....”

นายอำเภอว่ายิ้มๆ

“พาสว่านะนายอำเภอ ตั้งชื่อเจ้าเด็กแฝดได้เหมาะแล้วล่ะ ทั้งกุ๊กทั้งโก๊ะ ได้ยินแล้วนึกถึงลิสลอยเด่นมาเลย” ประพาสว่า

“นี่ได้ข่าวว่าคุณตาหลงหลานมากกว่าเลยหรอ” กำนันพิษณุถาม

“ใช่คะ พี่กำนัน คุนพ่อนะเห่อหลานแทบแย่ ที่เคยดุจนหนวดกระดิกน่ะ เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วนะคะ หลานอยากได้อะไร เป็นต้องหามาให้หมด วันๆ หนึ่งไม่ต้องทำอะไรเล่นแต่กับหลาน....คนที่ดุน่ะ....กลายนายอำเภอแทน.....ตั้งแต่เลื่อนยศมาเนี่ย เฮี้ยบขึ้นเยอะเลยค่ะ”

อลิสว่าแล้วหันไปค้อน

“แต่พี่ว่า ดุกับใครก็มีทางเป็นไปได้นะ แต่คงไม่ดุกับลิส หรอกมั้ง เห็นนั่งมองลิสทำตากรุ้มกริ่มทั้งวัน” ประพาสแซว

“อ้าว พาสไม่ให้ผมทำตากรุ้มกริ่มกับลิส แล้วให้ผมไปทำตากรุ้มกริ่มกับใครล่ะ”

“นั่นสิพี่พาส ถ้านายอำเภอไปทำตากรุ้มกริ่มกับใครละก็ โดนดึงหูยานแน่......”

แล้วอลิสก็หันไปทำหน้าขู่ใส่นายอำเภอกฤตย์ ทำเอาหงอย

กำนันพิษณุกับประพาสเห็นแล้วก็หัวเราะ

“เออ พาสรู้แล้ว นายอำเภอดุกับทุกคนได้ แต่กลับมาแพ้ทางยายลิส”

“ผมไม่ได้แพ้ทางอย่างเดียวนะ แต่ผมแพ้ใจด้วย......”

นายอำเภอว่าแล้วหันไปทำตากรุ้มกริ่มกับอลิสต่อ ประพาสเห็นแล้วส่ายหน้า

“อืมๆ กรุ้มกริ่มกันเข้าไป ลูกคนนี้ออกมา ให้ชื่อกรุ้มกริ่มเลยเป็นไง เห็นพ่อมันมองแม่มันจัง.......”

ทุกคนฟังแล้วก็หัวเราะ


สักพักนึงก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเล็กๆ วิ่งเข้ามา ทุกคนหันไปดู ก็เห็นสาวน้อยในผมซอยสั้น นุ่งกระโปรงสีขาววิ่งตรงมา

มีเสียงเรียกไล่หลังมาด้วย

“คุ๊กกี้ อย่าวิ่งเร็ว เดี๋ยวหกล้ม.......” แล้วเจ้าของเสียงก็วิ่งตามสาวน้อยคนนั้นมา.......

นั่นคือ..............พัดชานั่นเอง.........

แล้วพัดชาก็วิ่งมาถึงตัวลูก คว้ามาอุ้มไว้ แล้วเดินยิ้มตรงมาที่ต้นมะขาม

“ไงจ๊ะ คุ๊กกี้ของลุง มาๆ มาให้ลุงหอมหน่อยเร็ว”

แล้วกำนันพิษณุก็ตรงเข้าไปอุ้มสาวน้อยนาม คุกกี้ แล้วหอมแก้มดังฟอด

“พัดมาเร็วจัง ออกเวรแล้วหรอ............” ประพาสถามยิ้มๆ

“ค่ะ เสร็จแล้วก็รีบมาเลย นานๆ จะรวมพลกันได้อย่างนี้ หายากเหลือเกิน”

“แล้วคุณเวศล่ะพัด...........”

กำนันพิษณุถาม พลางปล่อยคุ๊กกี้ให้ไปเล่นกับกุ๊กกู๋ และโก๊ะเก๋

“นั่นไงค่ะ ตามมาแล้ว พอดีเมื่อกี้พัดวิ่งตามลูกมา ส่วนคุณเวศน่ะ เดินคุยมากับคุณพ่อค่ะ”

พัดชาพยักเพยิดให้ทุกคนดูประเวศที่กำลังเดินคุยมากับเสี่ยมาย

จนทั้งสองเดินมาถึง ทุกคนก็ยิ้มทัก

“คุณเวศ มายเกิร์ลของคุณเวศนี่ ซนเหมือนกันนะครับ”

กำนันพิษณุพูดพลางมองคุ๊กกี้ที่เริ่มจะตั้งท่าโหนกิ่งไม้เลียนแบบเจ้าเด็กแฝด

“กำนันหมายถึงมายเกิร์ลของผม รุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ละครับ” แล้วประเวศก็หันไปหาพัดชา ยิ้มให้กัน

“ก็ต้องรุ่นเล็กสิครับ รุ่นใหญ่อย่างพัดน่ะ ซนไม่ไหวแล้ว” กำนันพิษณุว่ายิ้มๆ พัดชาค้อนให้

“แหม พี่กำนัน ว่าพัดแก่หรอคะ” ทุกคนได้ฟังก็หัวเราะ ประเวศหันไปหาพัดชา หน้ายิ้มๆ

“แก่อะไรกันพัด ทำไมผมยังรู้สึกเหมือนพัดเพิ่งให้ผมกินคุ๊กกี้ที่งานวัดอยู่เมื่อวานเลยนะ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะผ่านมา 5 ปีแล้ว”

“คุณเวศก็......ไม่รู้จะหวานไปถึงไหน” ประพาสค่อน

“มีคุ๊กกี้สื่อรักจนกลายมาเป็นชื่อเจ้าคุ๊กกี้นี่ ยังหวานไม่พออีกหรอ.........”

“แหม พาสก็ ผมเห็นคุ๊กกี้ทีไร ก็อดนึกถึงงานวัดนั่นไม่ได้ ถุงคุ๊กกี้ที่ผมเก็บเอาไว้ ก็ยังเอามาให้ลูกดู แล้วบอกว่าเป็นที่มาของความรักของพ่อและแม่.........”

“แล้วเจ้าคุ๊กกี้ เข้าใจไหมล่ะ พี่เวศ” อลิสถาม

ประเวศและพัดชาส่ายหน้าพร้อมกัน

“เจ้าคุ๊กกี้กลับบอกว่า ปาป๊า ไม่รักษาความสะอาด กินคุ๊กกี้แล้วไม่เอาถุงไปทิ้งถังขยะ คุ๊กกี้จะไปฟ้องแม่”

ทุกคนได้ฟังแล้วก็หัวเราะ.............

พอมองไปที่เด็กทั้งสามคน ก็เห็นเสี่ยมาย ซึ่งบัดนี้เริ่มมีผมขาวและและหนวดขาวแล้ว กำลังเล่นกับเด็กทั้งสามอย่างมีความสุข

“คุ๊กกี้น่ะ เป็นมายเกิร์ลของป๊าเค้าอย่างแท้จริง ป๊าน่ะ เขามีความสุขมาก..........” ประเวศว่ายิ้มๆ

ได้ยินเสียงคุ๊กกี้ดังขึ้นมาว่า

“ปู่มายขา อุ้มคุ๊กกี้ไปโหนต้นไม้กิ่งนั้นหน่อย นะคะ นะคะ” เสียงเสี่ยมายหัวเราะ

“ได้สิลูก มายเกิร์ลของปู่...............”

ทุกคนได้ฟังแล้วก็ยิ้ม

แล้วนั่น ใครมากันล่ะ ..............คน 3 คนกำลังมุ่งหน้ามาที่ต้นมะขาม

นั่นมัน...........ปฎลเดินจูงมือมากับโอริโอ๋..............และลูกตาลที่อยู่ในชุดสูทมาดเข้ม

ปฎลเดินเข้ามาทักทายทุกคน แล้วเข้าไปกอดเสี่ยมาย ส่วนโอริโอ๋ เข้าไปหากำนันพิษณุกับประพาส

ลูกตาลเข้าไปตบบ่าประเวศแล้วยิ้มให้พัดชา

“เป็นไง แม่นักกฎหมายชั้นสูง..........” ประเวศทัก ลูกตาลหัวเราะ

“ก็สบายดี ส่วนแก ชั้นคงไม่ต้องถาม สบายดีอยู่แล้ว ใช่ไหม.......” พูดแล้วหันไปมองพัดชา

“คุณพัดสบายดีใช่ไหมคะ” พัดชายิ้มแล้วพยักหน้า

"ลูกตาลก็ว่างั้นแหละ คงมีแต่คุณพัดเท่านั้นแหละ ที่ทนเวศได้ ถ้าเป็นลูกตาลนะ ไม่ทนหรอก”

“โธ่ แก จะขึ้นคานก็บอกมาเหอะ อย่ามาทำเป็นทนอันโน้น อันนี้ไม่ได้หน่อยเลย ชั้นรู้หรอกน่า”

ประเวศดักคอ ลูกตาลค้อนให้

“เชอะ อยู่ที่โน่นน่ะ ชั้นมีคนมาจีบเพียบ แต่ชั้นไม่เอาเองต่างหาก เพราะชั้นเลือกมาก”

“เลือกมาก หรือเรื่องมากกันแน่”

“เหอะ แกไม่เข้าใจหัวอกคนโสดหรอก ว่ามันมีอิสระ แล้วก็สบายมากแค่ไหน ชั้นอยู่อย่างนี้ สบายจะตาย” แล้วก็หันไปอุ้มคุ๊กกี้

“เชื่อป้าตาลนะลูก โตไปแล้ว อย่าไปแต่งงาน เป็นแบบป้าดีกว่า สบายกว่ากันเยอะเลย”

“เฮ้ย แกไปสอนลูกชั้นยังงั้นได้ไง แกอย่ามาองุ่นเปรี้ยวดีกว่า เดี๋ยวลูกชั้นจะเข้าใจอะไรผิดๆ “ ประเวศแกล้งว่าแล้วก็หันไปหาคุ๊กกี้

“อย่าไปเชื่อป้าตาลนะลูก ลูกก็เห็นว่าป๊ากับแม่ มีความรักต่อกัน แล้วมีความสุขมากแค่ไหน อย่าไปเชื่อป้าตาลนะ”

คุ๊กกี้พยักหน้าหงึกหงัก ทวนคำ “ไม่เชื่อป้าตาล ไม่เชื่อป้าตาล........”

ทำเอาลูกตาลค้อน ทุกคนจึงหัวเราะ

ปฎลกอดเสี่ยมายไว้แล้วว่า

“ป๊าครับ ดลกลับมาเที่ยวนี้ ป๊าดูสดชื่นขึ้นกว่าแต่ก่อนอีกนะ”

เสี่ยมายยิ้ม แล้วลูบหนวดขาวๆ ของตัวเอง “ก็ป๊ามีมายเกิร์ลของป๊าคอยชะโลมจิตใจอยู่นี่.......”

“จริงด้วยสิครับ.........นี่ดลก็เรียนจบกลับมาแล้ว คราวนี้เราก็จะได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง”

“ถ้างั้น ป๊าคงต้องมีความสุขมากขึ้นไปอีกแน่ๆ” แล้วเสี่ยมายยิ้ม ตาเป็นประกาย

ฝ่ายโอริโอ๋ ตรงเข้ากอดประพาสแล้วว่า

“พี่พาสกับพี่กำนัน ไม่เคยเปลี่ยนเลย 5 ปีมาแล้วนะคะ .......”


กำนันพิษณุยิ้ม “พี่นะคงไม่เปลี่ยนไปหรอกโอ๋ เคยหล่อเท่ห์ยังไง ก็เป็นอยู่อย่างงั้นแหละ”

ประพาสฟังแล้วก็เบ้หน้า “โอ้ย พี่กำนัน พูดออกมาได้นะ แก่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก........”

“เหอะ แก่ก็แก่ด้วยกันแหละวะ...............” กำนันพิษณุค่อน โอริโอ๋หัวเราะ

“นี่โอ๋เรียนจบกลับมาแล้ว คงได้มาอยู่ที่นี่อีกครั้ง ดีใจจังเลยค่ะ”

“พี่ก็ดีใจจ๊ะ ที่โอ๋ กลับมา” กำนันพิษณุตอบ

“แล้วนี่ เปรี้ยวอยู่ไหนละคะ........” โอริโอ๋ว่าพลางมองหา

แล้วเปรี้ยว บุญออบ และลูกน้อยก็เดินมาพอดี

ชิงช้าเห็นเพื่อนก็ดีใจ รีบวิ่งเข้าไปหา รวมตัวเป็นแก้งค์ ทโมนทันที

“เปรี้ยวต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ ที่มาช้าไปหน่อย......”

พูดแล้วก็หันไปค้อนบุญออบที่ยืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ

“ไม่เป็นไรจ๊ะ เปรี้ยว เรานัดมาเจอกันเฉยๆ ไม่มีกำหนดเวลาอะไร แค่เรามาหากัน ในวันที่คิดถึง ก็เท่านั้นเอง” กำนันพิษณุว่าแล้วยิ้ม

แล้วเปรี้ยวก็เข้าไปกอดโอริโอ๋ แล้วพูดคุยทักทายกัน ส่วนบุญออบเข้าไปทักปฎล

หลังจากที่ทักทายพูดคุยกันแล้ว.......กำนันพิษณุก็บอกกับทุกคน

“ผมกำนันพิษ ขอเปิดงานเลี้ยงสังสรรค์ในครั้งนี้ ไม่ได้ใหญ่โตอะไรหรอกครับ เป็นแค่งานจากความคิดถึงเท่านั้น เรามาเจอกัน มารับรู้เรื่องราวของกันและกัน มีทั้งสุข ทั้งทุกข์ เราก็ร่วมแบ่งปันความรู้สึกของกันและกัน เพราะเรามีความทรงจำที่ดีอยู่ที่นี่........และมันจะยังคงอยู่ตลอดไป............”

ทุกคนต่างมองหน้ากัน แล้วยิ้มให้กันด้วยความสุข....

ความทรงจำดีๆ เป็นสิ่งมีค่า.......ป็นสิ่งเฉพาะตัวของแต่ละคน.......ไม่มีใครขโมยความทรงจำของใครได้........การเก็บความทรงจำที่ดีๆไว้ ก็เหมือนเราเก็บความสุขจากวันวาน ที่จะกรุ่นกลิ่นหอมให้เราดอมดมได้ทุกครั้งที่นึกถึงมัน............


....วันเวลาดีๆเหล่านั้น............เธอยังคงจำได้ใช่ไหม.....ช่วงเวลาทุกข์ และสุขจนล้นหัวใจ.........วันที่เราผ่านมาด้วยกัน .......

และทุกๆครั้งที่ได้ฟังเพลงนี้........ก็ขอให้รู้ที่แห่งนี้ไม่ว่าจะนานเท่าไร........เราจะมีกันและกันเป็นหนึ่งในดวงใจตลอดไป........เพราะหัวใจเราผูกกัน...........

.......ขอได้รับความขอบคุณ.......สวัสดี........




 

Create Date : 18 ธันวาคม 2548    
Last Update : 5 มีนาคม 2549 14:22:05 น.
Counter : 291 Pageviews.  

1  2  

ชมเช้า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ชมเช้า..มาจาก ชมเช้า ชมสาย ชมบ่าย ชมเย็น ชมค่ำ ทุกกาลเวลาช่างน่าชื่นชม จะเวลาไหนก็เลือกชมเอาตามสะดวก..

...เวลาเช้า เป็นเวลาที่รู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา ดูสดใส จอมแก่นแสนซน ที่ไหนได้ ใครๆ เห็นชื่อแล้วบอกว่า 40 ขึ้นแน่ๆ บ้างก็ว่าป้า..เอ่อ เป็นงั้นไป...ขอบอกว่ายังห่างค่ะ ห่างมาก อิอิ...

ตอนนี้มีภารกิจเพื่อชาติให้ปฏิบัติค่ะ รู้สึกภูมิใจจังเลย (โบกมือแบบนางงาม) ดิฉันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ เอาใจช่วยด้วยนะคะ อิอิ...

คุณที่เข้ามาอย่าเพิ่งงงค่ะ ภารกิจอะไรขอเก็บไว้เป็นความลับ(ว่าแต่ ไม่ได้มีใครเขาอยากรู้สักหน่อย ^^") แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ อ้อ อีกอย่าง เป็นแฟนหงส์ค่ะ (เกี่ยวไหมเนี่ย อิอิ)

Friends' blogs
[Add ชมเช้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.