|
ร่มรื่นสบายๆ ในอุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม บางแพ ราชบุรี
หลังจากไหว้หลวงปู่ทวดที่วัดห้วยมงคลเสร็จ ก็มุ่งหน้าไปราชบุรี จุดหมายคือ ทานข้าวกลางวันและเยี่ยมชม Siam Cultural Park หรืออุทยานหุ่นขี้ผึ้งไทย ออกจากวัดห้วยมงคลมุ่งหน้าไปราชบุรี ผ่านเพชรบุรี

ถึงทางแยกที่จะกลับกรุงเทพฯ ก็ตรงไปราชบุรี ผ่านปากท่อ ผ่านแยกที่จะไปอ.สวนผึ้ง เมืองราชบุรี โพธาราม จากนั้นจะเห็นป้ายไปดำเนินสะดวก(เลี้ยวขวา) จะเลี้ยวขวาใต้สะพานข้ามทางแยกที่จะมุ่งหน้าไปบ้านโป่ง และนครปฐม จากแยกมา(คาดว่า)ไม่ถึงกิโลเมตร อุทยานหุ่นขี้ผึ้งจะอยู่ขวามือ ชิดขวากลับรถ เข้าไปด้านในมีที่จอดรถมากมาย
มีที่เก็บค่าเข้าชมอยู่บริเวณด้านหน้า และติดสติกเกอร์ทุกคน ราคาเข้าชมจะแยกเป็นคนไทย และต่างชาติ ไม่แน่ใจว่าค่าเข้าชมเท่าไร เพราะวันนั้นไม่ได้จ่ายค่าเข้าชม :)
เห็นป้ายนี้นึกถึงคำขวัญวันเด็ก

พอถึงก็รีบเดินจ้ำอ้าว ไปที่เรือนรับรองเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวัน ที่เรือนรับรองด้านหลัง ที่ทางพิพิธภัณฑ์จัดไว้ให้ (ไปกันเป็นหมู่คณะ) บริเวณภายในกว้างมากมีพื้นที่ ถึง 45 ไร่ และก็ร่มรื่นมากๆ ด้วย

ต้นไม้ร่มรื่น มีธารน้ำ

จัดไว้อย่างสวยงาม

จำชื่อไม่ได้ -_-" ใครรู้ช่วยบอกด้วย

ร่มรื่นมากๆ เหมาะกับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ

น้ำตกเย็นๆ รู้สึกถึงธรรมชาติ แม้จะเป็นน้ำตกที่สร้างขึ้นก็ตาม

ตอนนี้หิวมาก เลยรีบๆ เดิน ถ่ายไม่ค่อยเยอะเท่าไร

ภายในบริเวณก็จะมีเรือนไทยเป็นหลังๆ ให้เห็นอยู่ตามจุดต่างๆ

ในที่สุดก็เดินมาถึงเรือนรับรองจนได้ เราจะรับประทานอาหารกลางวันที่นี่

มุมที่มองออกมาทางหน้าต่าง

โคมไฟในนั้น

เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เนื่องจากแถวบุฟเฟ่ยาวมาก ขี้เกียจยืนรอ ก่อนทานข้าวไปเข้าห้องน้ำล้างมือก่อน ทางเดินเก๋ไก๋ดี

อ่างล้างมือ ชอบจริงๆ ขอแอบเปิดน้ำและถ่ายรูปหน่อยนะ ห้าวิ

ในห้องน้ำสวยดี ชอบ

ด้านข้างของเรือนรับรอง(จริงๆ แล้วเขาเรียกแบบนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้)

ในที่สุดเราก็ได้ทานอาหารกลางวัน ตักมาเยอะเพราะหิวมาก(แถมมีเติมรอบสอง) อร่อยทุกอย่างโดยเฉพาะขาหมู มีขนมต้มอร่อยด้วยแต่ไม่ได้ทานเลย เห็นบอกว่ามาจากเจ้าที่อร่อยที่สุดในราชบุรี

หลังจากอิ่มแล้วก็เดินชมอุทยานกันดีกว่า มีเวลาไม่มาก

เริ่มจากบ้านไทยสีภาค ที่ปลูกอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กัน สามารถขึ้นไปเยี่ยมชมได้ข้างบน จะมีหุ่นขี้ผึ้งแสดงไว้

บ้านจะปลูกตามสไตล์ของในแต่ละภาค หุ่นขี้ผึ้งบนบ้าน ก็จะสะท้อน ลักษณะความเป็นอยู่และการดำเนินชีวิตของคนภาคนั้น

บ้านหลังใหญ่ ที่สามารถอยู่อาศัยได้จริงๆ

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ขึ้นมาบนบ้านภาคอะไร

หุ่นขี้ผึ้งคนปั้น ปั้นได้เก่งมากๆ พอขึ้นไปบนบ้านแต่ละครั้ง รู้สึกตกใจทุกครั้งที่เข้าไปด้านใน เพราะมันเหมือนซะจน เหมือนมีคนอยู่ด้วยจริงๆ

เหมือนจริงๆ ถ้ามาเดินกลางคืนก็คงตกใจกว่านี้

ภายในบริเวณก็ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้

มาถึงบ้านท่านเจ้าคุณของอีเย็นกันบ้าง คงคุ้นๆ กันดีในละครย้อนยุค

บ้านภาคใต้ ไม่ได้ขึ้นไปเพราะฝนเริ่มตก ไม่อยากถอดรองเท้า

ป้ายบอกทาง

จากนั้นก็ไปดูกุฏิพระภาคต่างๆ ก็จะเป็นการปลูกกุฏิ แบบสถาปัตยกรรมของภาคต่างๆ เราสามารถขึ้นไปนมัสการพระที่มีชื่อเสียง ของภาคนั้นๆ ได้

ภายในกุฏิจะค่อนข้างมืด ไม่เหมือนที่บ้านไทย เลยดูขลัง และไม่เปิดโล่ง ภายในมีแอร์เย็นๆ คาดว่าน่าจะเป็นการรักษาหุ่นขี้ผึ้ง

ประตูที่เปิดเข้าไปด้านในจะเป็นลูกปัดร้อยเพื่อกันความเย็นออก

ปั้นได้เหมือนมากจริงๆ เหมือนได้พบกับท่านจริงๆ

ไหว้ขอพร แล้วก็ลงมาเดินต่อ ไม่ได้ขึ้นทุกหลังเพราะเวลามีไม่มาก

กุฏิพระภาคกลาง ใหญ่มาก

ภายในบริเวณก็จะมีร้านขายน้ำ ขายกาแฟสดอยู่ สร้างได้ลงตัวและกลมกลืนมาก ที่เห็นนี่คือบ้านน้ำสมุนไพร

มีที่นั่งพักผ่อนอยู่ข้างๆ เย็นสบายดีจริๆ

จากนั้นก็จะผ่านถ้ำ เดินเข้ามาอีกด้าน ภายในถ้ำจะแสดงหุ่นขี้ผึ้ง เล่าเรื่องราวพระเวชสันดรชาดก

ภายในจะมืดๆ มีแสงเฉพาะที่หุ่นขี้ผึ้ง ถ่ายไม่ถูกเลย

บางภาพก็เผลอเปิดเฟลช แสงเลยไม่เป็นธรรมชาติ

ส่วนใหญ่จะมีแต่ชูชก

ไม่แน่ใจว่าเป็นกัณฑ์อะไร ภาพต่อไปจะสยองมาก ไม่กล้าดูก็ข้ามไปนะ

เผลอเปิดเฟลชอีกแล้ว เลยเห็นเลือดสาด ของจริงๆ ไม่สยองเท่านี้เพราะว่ามันจะมืดๆ กว่านี้

ออกมาจากถ้ำก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ

จนถึงลานพระสามสมัย

จำไม่ได้ว่าสมัยไหนบ้าง ไม่ได้อ่านอะไรเลย ตอนนั้นรีบมาก

มีเวลาเดินน้อยไปนิด แถมมีประกาศเรียกทางเสียงตามสายด้วย

บริเวณก่อนจะถึงทางออก แวะเข้าห้องน้ำก่อนกลับ

จริงๆ ถ้าเดินเข้าทางนี้ก็น่าจะได้

ก่อนออก เขาก็จะให้คืนสติ๊กเกอร์ด้วย

เสียดายที่มีเวลาเดินชมน้อยไปนิด บางส่วนก็ยังไม่ได้ดู แถมส่วนที่ไม่ได้ดูมีคนบอกว่าเป็นไฮไลท์เลยคือ อาคารเชิดชูเกียรติ ที่มีการปั้นหุ่นขี้ผึ้งของบุคคลสำคัญต่างๆ ที่ผ่านมา T_T น่าเสียดาย ก็ถือว่าเป็นที่ที่น่าแวะเข้าไปชม และพักผ่อนหย่อนใจอีกที่นึงทีเดียว ได้พักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ ธรรมชาติสวยๆ และได้ความรู้ไปในตัว ถ้าไปแถวๆ นั้นก็น่าแวะเข้าไปชม
ปล วันนั้นขากลับกลับทางดำเนินสะดวก ผ่านสมุทรสงคราม แป๊บเดียวก็ทะลุเส้นทางที่มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ถ้าไปจริงๆ ไปสายนี้น่าจะใกล้กว่า
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม อย่าลืมแวะมาอีกนะคะ
Create Date : 08 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 19 พฤษภาคม 2552 21:42:41 น. |
|
9 comments
|
Counter : 2922 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Picike วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:21:03:52 น. |
|
|
|
โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:22:32:22 น. |
|
|
|
โดย: traveler (chalawanman ) วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:16:53:32 น. |
|
|
|
โดย: คนสนใจ IP: 161.246.1.36 วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:14:03:47 น. |
|
|
|
โดย: ratana_sri วันที่: 5 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:32:20 น. |
|
|
|
โดย: เป้ บางแพ IP: 202.149.25.234 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:07:56 น. |
|
|
|
โดย: แพนคับ ^_^" IP: 112.142.147.77 วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:10:16:37 น. |
|
|
|
โดย: สีนิล IP: 110.49.233.11 วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:13:27:00 น. |
|
|
|
| |
|
|